Wednesday, March 31, 2010

นักวิชาการฟันธง รัฐบาลไม่แตก ชี้พรรคร่วมไม่กล้าตีจาก

นักวิชาการฟันธง รัฐบาลไม่แตก ชี้พรรคร่วมไม่กล้าตีจาก

นักวิชาการ ฟันธง รัฐบาลยังไม่แตก ชี้พรรคร่วมแค่ขู่ไม่กล้าตีจาก เหตุยังได้ผลประโยชน์อยู่มาก ระบุแก้ ม.94 แก้ปัญหาซื้อเสียงไม่ได้ เชื่อปชป.จะได้ใจ ปชช.หากพรรคร่วมโหวตสวน-ฟรีโหวต ...เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์  อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) ให้สัมภาษณ์ ไทยรัฐออนไลน์ ถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ขณะนี้มาตราเดียวที่ทุกพรรคการเมืองเห็นร่วมกันที่จะแก้ไขคือมาตรา 190 มาตราเดียวส่วนมาตราอื่นนั้นยังขัดแย้งและมีจุดยืนที่แตกต่างกันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรา 94 ที่จะให้มีการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว ซึ่งเรื่องนี้พรรคประชาธิปัตย์รับไม่ได้เพราะถือว่าตัวเองได้เปรียบได้รับความนิยมในวงกว้าง ส่วนพรรคอื่นมองว่าต้องการแก้เพื่อให้การบริหารการจัดการเลือกตั้งได้ง่าย ในนามตัวบุคคล แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทั้งสองรูปแบบจะไม่สามารถแก้ไขปัญหารการซื้อสิทธิ์ขายเสียงในการเลือกตั้งได้ทั้งหมด ทั้งนี้คิดว่า ณ เวลานี้ยังไม่ใช่เวลาที่เร่งด่วนที่จะมาว่ากันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีเพียงแต่พรรคร่วมบางพรรคเท่านั้นที่เห็นว่าจะได้ประโยชน์ทั้งในเรื่องของตัวบุคคลและอาจจะพร้อมสำหรับการเลือกตั้งศ.ดร.สมบัติ กล่าวอีกว่า ส่วนความขัดแย้งหรือกระแสกดดันของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ไม่ทำให้เสถียรภาพของรัฐบาลอ่อนแอลงไป เนื่องจากการที่จะยังมีผลประโยชน์ร่วมกันมากและแน่นอนไม่อยากให้มีการยุบสภาในขณะนี้ยังต้องพึ่งพาอาศัยกันอยู่ ส่วนจะเป็นการโหวตสวน หรือ ฟรีโหวตนั้นแน่นอนไม่สามารถทำได้ ถึงแม้จะเชื่อมั่นว่าเลือกตั้งไปแล้วจะยังคงรักษาที่นั่ง ส.ส.เดิมไว้ได้ แต่การที่จะร่วมกับพรรคใหญ่และต่อรองจนได้ตำแหน่งที่สำคัญๆ เช่น กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น มันเป็นไปไม่ได้ ส่วนปัจจัยอื่นๆนั้นเป็นปัจจัยรอง ผศ.ดร.อดิศร เนาวนนท์ อาจารย์ประจำครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวถึงกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า การที่พรรคร่วมรัฐบาลออกมาแสดงจุดยืนต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 และ มาตรา 94 นั้นต้องดูโครงสร้างของรัฐธรรมนูญของปี 50 ก่อน เพราะการออกแบบนั้นส่วนหนึ่งมีอิทธิพลมาจากพรรคไทยรักไทยเดิม เพื่อที่ต้องการกำจัดสิทธิหรือควบคุมนักการเมือง โดยการนำรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 มาเป็นตัวตั้ง สำหรับพรรคร่วมรัฐบาลที่ออกมารวมตัวกดดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในมาตรา 94 ให้กลับไปเป็นเขตเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียว จะแก้ปัญหาการซื้อสิทธิ์ขายเสียงลดลง คิดว่าเป็นไปไม่ได้ คิดว่าส่วนนี้เป็นการขบเหลี่ยมกันทางการเมืองมากกว่า เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์มองว่าเป็นพรรคใหญ่มีโอกาสในการเข้าสภาในระบบแบบเดิมคือเลือกแบบเขตใหญ่ จึงไม่ยอมแก้ ส่วนมาตรา 190 นั้นคิดว่าเป็นความฉลาดของนักการเมืองที่ต้องการพ่วงเข้าไปให้ประชาชนเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็นไปเพื่อฝ่ายการเมืองเท่านั้น ส่วนมาตราอื่นๆนัั้นก็ล้วนแล้วแต่แก้ไขเพื่อนักการเมืองทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นมาตรา 68 หรือ มาตรา 237 และอื่นๆ ผศ.ดร.อดิศร  กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นไม่ใช่เวลานี้ ควรจะหาเวลาที่เหมาะสมเนื่องจากช่วงนี้ ประเทศไทยเกิดวิกฤติทางการเมืองและวิกฤติทางเศรษฐกิจ หากมาแก้ช่วงนี้จะเป็นการซ้ำเติมประเทศ ดังนั้นตนอยากจะให้ทุกพรรคยอมรับกติกาช่วงนี้ไปก่อนแล้วเอาไว้เป็นนโยบายใน การเลือกตั้งครั้งหน้าว่าพรรคนี้มีนโยบายอย่างพรรคเพื่อไทยจะนำรัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ หรือประชาธิปัตย์จะใช้รัฐธรรมนูญมาตรา 94 หรือ 190 เดิม หรือพรรคร่วมทั้งหมดหลังเลือกตั้งยืนยันที่จะแก้ไข 94 หรือ 190 และมาตราอื่นๆ ประรื้อกันในสมัยใหม่จึงจะเป็นเวลาที่เหมาะสม ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นประเด็นที่ทำลายล้างบรรยากาศทางการเมืองซึ่ง จะมีทั้งคดียึดทรัพย์และอะไรอีกมากมายที่เตรียมจะเข้ามา ดังนั้นตนจึงอยากให้นักการเมืองทุกท่านให้เห็นแก่บ้านเมืองเป็นหลักให้ฟัง ตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนตัวแล้วตนเห็นด้วยกับการที่จะแก้รัฐธรรมนูญแต่ต้องไม่ใช้เวลานี้แน่นอน ส่วนกรณีพรรคร่วมขู่ว่าจะเปลี่ยนขั้วหรือถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์อ่านเกมได้ทะลุในทุกด้าน แต่ถ้าหากพรรคร่วมคิดที่จะเปลี่ยนขั้วจริงๆนั้น พรรคประชาธิปัตย์จะได้ใจประชาชนมองเป็นบวกและมองพรรคร่วมว่าเป็นพรรคที่ไม่มีอุดมการณ์.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive