Monday, April 1, 2013

สภาป่วน! กุลเดชปชป. ท้าจ่าประสิทธิ์ ไปเจอกันนอกห้อง

สภาป่วน! กุลเดชปชป. ท้าจ่าประสิทธิ์ ไปเจอกันนอกห้อง
ปชป.ตีรวนกุลเดชส.ส.อุทัยธานี ปชป.ท้าจ่าประสิทธิ์ พท. ออกไปเจอกันนอกห้อง กรณีไม่พอใจนิคมไม่ยอมถอนชื่อ แก้ รธน.แต่ยังขอ ทำหน้าที่ ปธ.ประชุมสภาฯ ต่อ...วันที่ 1 เม.ย.ที่รัฐสภา นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย  ได้อภิปรายถึงสาเหตุที่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เนื่องจากที่มาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน มาจากเผด็จการโดยมีการพาดพิงถึงผู้พิพากษาชั้นผู้ใหญ่ ที่มีส่วนร่วมวางแผนปฏิวัติ รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และยังเข้ามามีส่วนร่วมร่างรัฐธรรมนูญ ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อาทิ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงให้ถอนคำพูด จนเกิดการโต้คารมกันไปมา กับ นายสุนัย ซึ่งขณะนั้นนายนิคม ไวยรัชพานิช ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม จนบรรยากาศยิ่งตึงเครียดขึ้น เมื่อ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลุกฮือขึ้นประท้วงและตะโกนด่าทอ โห่ฮา ไล่นายนิคม ไม่ให้ทำหน้าที่เป็นประธานฯ ต่อไปขณะที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน พยายามไกล่เกลี่ย โดยเสนอให้นายนิคม ไปถอนชื่อออกจากญัตติ เพื่อให้การประชุมเดินหน้าต่อไปได้ แต่ ส.ว.เลือกตั้ง หลายคนลุกขึ้นทักท้วงว่า ไม่จำเป็นเพราะเป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งระหว่างนั้นได้เกิดการปะทะคารมระหว่าง นายกุลเดช พัวพัฒนกุล ส.ส.อุทัยธานี พรรคประชาธิปัตย์ กับ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ทำให้นายกุลเดช ตะโกน ท้า จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ให้ออกไปเจอกันนอกห้องประชุมแล้วเดินออกไปทันที แต่ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไม่ได้ลุกตามไปขณะที่ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ตะโกนเตือนประธานฯ ขอให้สั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภามาคุ้มกัน และให้ระวังเก้าอี้จะโดนลากลงจากบัลลังก์ แต่ที่สุด นายนิคม ได้ให้ พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์ ส.ว.มุกดาหาร อภิปรายต่อบรรยากาศจึงเริ่มดีขึ้น  แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยังคงเล่นเกมตีรวนลุกขึ้นประท้วงเป็นระยะๆ โดยยังคงยืนยัน ให้นายนิคมเลือกว่า จะถอนชื่อจากญัตติ หรือ ไม่ขึ้นปฏิบัติหน้าที่ แต่นายนิคมยังคงยืนยัน ที่จะปฏิบัติหน้าที่ต่อไป ทำให้นายจุรินทร์ กล่าวว่า หากนายนิคมยังยืนยันจะทำหน้าที่ต่อ พรรคฝ่ายค้านก็ขอสงวนสิทธิ์การทำหน้าที่ จนกว่า นายสมศักดิ์ จะขึ้นมาทำหน้าที่ ตามเหตุผลเดิมซึ่ง นายนิคมได้ขานชื่อ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ให้อภิปรายแต่นายเอกนัฏ ยืนยัน จะทำตามมาตรการที่ นายจุรินทร์แจ้งไว้ ทำให้ นายนิคม ขานชื่อให้นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทยพัฒนา อภิปรายต่อ ทำให้ ส.ส.ประชาธิปัตย์ พากันวอล์กเอาต์ออกจากห้องประชุม ทางฝ่ายรัฐบาลจึงส่ง ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช ส.ส.ขอนแก่น และ นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี วิปรัฐบาล ไปหารือกับ นายจุรินทร์ แต่นายจุรินทร์ ยังคงยืนยัน ตามเงื่อนไขเดิม และเดินออกจากห้องกันจนหมด. 

นายกฯร่วมยินดีนายทหารประทวนขึ้นเป็นสัญญาบัตร

นายกฯร่วมยินดีนายทหารประทวนขึ้นเป็นสัญญาบัตร
นายกฯ ร่วมงานประดับยศนายทหารชั้นประทวน เลื่อนฐานะเป็นนายทหารสัญญาบัตร 3 เหล่าทัพ อวย “บิ๊กโอ๋” สร้างขวัญกำลังใจทหาร...เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 1 เม.ย. ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีแสดงความยินดีแก่นายทหารประทวนที่ได้รับการเลื่อนฐานะเป็นนายทหารสัญญาบัตร 3 เหล่าทัพ จำนวน 2,595 นาย โดยมี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. และ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. เข้าร่วมในพิธีทั้งนี้ นายทหารประทวนที่ได้รับการเลื่อนฐานะนั้น แบ่งเป็นสำนักรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม 1 นาย สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 26 นาย กองบัญชาการกองทัพไทย 341 นาย กองทัพบก 1,249 นาย กองทัพเรือ 319 นาย และกองทัพอากาศ 659 นาย โดยงานดังกล่าวจัดขึ้นที่บริเวณลานอเนกประสงค์ ศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่ รมว.กลาโหม ได้ประกาศเจตนารมณ์ให้ข้าราชการประทวน ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละตลอดชีวิตราชการ เลื่อนฐานะจากนายทหารชั้นประทวนเป็นนายทหารสัญญาบัตรก่อนเกษียณอายุราชการ เพื่อเป็นเกียรติแก่ตนเองและวงศ์ตระกูล ซึ่งนายทหารประทวนดังกล่าวจะต้องมีคุณสมบัติ โดยเป็นนายทหารประทวน ซึ่งดำรงตำแหน่งยศจ่าสิบเอก พันจ่าเอก พันจ่าอากาศเอก ที่มีอัตราเงินเดือน จ่าสิบเอกพิเศษ พันจ่าเอกพิเศษ และจ่าอากาศเอกพิเศษ ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไปพร้อมกันนี้ นายกฯ ได้กล่าวแสดงความยินดีและให้โอวาทตอนหนึ่งว่า ขอชื่นชม รมว.กลาโหม ที่ให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าของนายทหารชั้นผู้น้อย และกระทรวงกลาโหมมีความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเมื่อเกิดภัยพิบัติต่างๆ ทหารก็เป็นกำลังหลักในการช่วยเหลือ โดยจะเห็นได้จากการเกิดอุทกภัยครั้งที่ผ่านมา ทหารได้ช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูบ้านเมืองหลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น ซึ่งภาพดังกล่าวยังคงติดตาประชาชนอยู่ อย่างไรก็ตาม อาชีพทหาร ถือว่ามีความแตกต่างจากอาชีพอื่นๆ นอกจากมีความรู้ ความสามารถ ยังต้องมีความมุ่งมั่น ทุ่มเท และเมื่อ รมว.กลาโหม มีนโยบายปรับเลื่อนขั้นดังกล่าว ถือเป็นการตอบแทนคุณงามความดีและสร้างขวัญกำลังใจ ส่งเสริมงานโดยรวม ซึ่งเป็นไปตามแนวทางที่ต้องการให้คุณภาพชีวิตของข้าราชการดีขึ้น และขอให้ทุกคน นำขวัญกำลังใจดังกล่าวไปปฏิบัติงานเพื่อชาติต่อไป รวมถึงรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนในการแก้ไขปัญหาและพัฒนากำลังใจของกำลังพล อีกทั้งดูแลสวัสดิการอย่างต่อเนื่อง.

ถกแก้รธน.วันแรกเดือดปชป.วอล์กเอาต์-ปิดประชุม5ทุ่ม

ถกแก้รธน.วันแรกเดือดปชป.วอล์กเอาต์-ปิดประชุม5ทุ่ม
ส.ส.ปชป.กลับเข้าประชุมสภาฯต่อ หลัง สมศักดิ์ นั่งทำหน้าที่ประธานประชุม แทน นิคม ที่ถูกประท้วงไม่ให้ทำหน้าที่ประธานประชุม จนต้องวอล์กเอาต์ ชวน ลุกขึ้นใช้สิทธิพาดพิงอัดเพื่อไทยข่มขู่ตุลาฯ รธน.ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายตอบโต้ไปมา กระทั่งปิดประชุมเมื่อเวลา 5 ทุ่ม...เมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 1 เม.ย. 2556 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เดินออกจากที่ประชุมสภาฯ เพื่อประท้วงนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภาและรองประธานรัฐสภา ไม่ให้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เนื่องจากลงชื่อในญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนบรรยากาศตึงเครียด มีการลุกขึ้นประท้วงและตะโกนด่าทอ โห่ไล่นายนิคม ไม่ให้ทำหน้าที่เป็นประธานฯ ต่อไป กระทั่งเวลา 19.20 น. นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กลับมาทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุมอีกครั้ง ทำให้ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กลับเข้ามาในห้องประชุม โดยนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ได้ใช้สิทธิพาดพิงนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทยที่อภิปรายว่า มีพรรคเก่าแก่ไม่ถูกยุบพรรคเพราะได้รับการอุ้ม โดยนายชวน ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับการอุ้ม เพราะมีทั้งข้อเท็จจริงว่า ไม่มีความผิด และมีข้อกฎหมายที่คดีขาดอายุความ มีการวิ่งเต้นจากอดีตทนายความของอดีตนายกรัฐมนตรีว่า พยายามล็อบบี้และข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ออกมาจากตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จนมีการไปยื่นฟ้องจำเลย ซึ่งจำเลยก็อยู่ในสภาฯแห่งนี้ทำให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ต่างลุกขึ้นประท้วง อาทิ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ไชยศรีษะ ส.ส.สุรินทร์ โดยนายพร้อมพงศ์ ประท้วงว่า เป็นการอภิปรายเท็จ นายชวนอย่ามาตีกิน เพราะคดีนี้มีการถอนฟ้องกันไปแล้ว ทำให้นายชวน ตอบโต้กลับว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญถอนฟ้อง เพราะนายพร้อมพงศ์ไปกราบขอขมาขอให้ตุลาการฯถอนฟ้องจากนั้น นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงจ.ส.ต.ประสิทธิ์ ว่า ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง ซึ่งมีการตอบโต้กันไปมา ทำให้นายสมศักดิ์ พยายามไกล่เกลี่ย โดยให้จ.ส.ต.ประสิทธิ์ ถอนคำพูด ซึ่งก็ได้ยินยอม ทำให้บรรยากาศการประชุมได้เข้าสู่ปกติ กระทั่งเวลา 23.00 น. ประธานในที่ประชุมได้สั่งปิดการประชุม และจะอภิปรายวันที่ 2 ในวันที่ 2 เม.ย.เวลา 09.30 น. และจบในเวลา 22.00 น. ส่วนการอภิปรายในวันสุดท้ายวันที่ 3 เม.ย. เวลา 09.30 น. และจะจบลงเมื่อมีการอภิปรายเสร็จและทำการลงมติ

Blog Archive