Monday, May 10, 2010

คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต

คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต



คมชัดลึก : ในที่สุด นปช.แดงที่สี่แยกราชประสงค์ ก็ได้ข้อยุติ แถลงเงื่อนไขที่จะนำไปสู่การสลายการชุมนุมเสียที หลังจากเลื่อนแล้วเลื่อนอีก






 เงื่อนไขสำคัญที่เสื้อแดงยื่นต่อรัฐบาลนั้น ไม่ใช่เรื่องการรุกเร้าให้ยุบสภาภายในวันสองวันนี้ หรือ ภายใน 15 วัน และ 30 วัน ตามที่ได้ตั้งเป็นเงื่อนไขหลักมานับแต่เริ่มการชุมนุมครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 12 มีนาคม
 หลังการชุมนุมผ่านไปเกือบ 2 เดือน คนเสื้อแดงได้ผ่านเหตุการณ์นานัปการ แม้กระทั่งการปะทะกับเจ้าหน้าที่ทหาร มีกองกำลังติดอาวุธ เดินอยู่ด้านหลังคนเสื้อแดง มีคนเสื้อแดงถูกยิงเสียชีวิต มีทหารระดับผู้บังคับบัญชาเสียชีวิต มีผู้บาดเจ็บนับพันคน
 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่สี่แยกคอกวัวเมื่อวันที่ 10 เมษายน กระทบความรู้สึกของคนไทยทั้งประเทศอย่างรุนแรง แต่สำหรับคนเสื้อแดงในที่ชุมนุมนั้น ดูเหมือนจะรับผลกระทบนี้มากกว่าคนอื่น
 ความเจ็บปวด เคียดแค้น ระคนไปกับความหวาดกลัว ความรู้สึกนี้ค่อยๆ พุ่งขึ้นเมื่อได้รับแรงกดดันจากทั้งเจ้าหน้าที่ที่รุกล้อมกักผู้ชุมนุมเอาไว้ เมื่อผนวกกับกระแสข่าวความรุนแรง การปะทะกันกับชาวสีลม
 ประกอบกับการหายไปดื้อๆ ของ ทักษิณ ชินวัตร ทำให้ผู้ชุมนุมเริ่มทดท้อ
 เมื่อรัฐบาลยื่นแนวทางสู่การปรองดอง 5 ประการ พร้อมกำหนดวันเลือกตั้ง 14 พฤศจิกายน ทำให้แกนนำ นปช.ที่แม้จะแบ่งออกเป็นหลายกลุ่มหลายขบวนเริ่มระส่ำระสาย
 ถึงแม้จะมีกุนซือระดับมันสมองของคนเดือนตุลาฯ รวมทั้ง "สุภาพบุรุษหูกระต่าย" เป็นกุนซือด้านบุ๋น ส่วนด้านบู๊นั้น ประกอบด้วย อดีตนายพล รวมถึงอดีตนายพันเป็น ผู้บัญชาการ แต่ก็ไม่อาจทานความรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยของแกนนำเสื้อแดง
 เพราะยิ่งนานวัน ภัยที่จะมาถึงนั้นไม่ใช่ภัยที่มาจากทหาร หรือตำรวจ หากแต่เป็นภัยใกล้ตัวที่ไม่รู้ว่า วันใดจะได้รับคำสั่งให้ "ลงมือ" และไม่รู้ว่า "เหยื่อ" ที่จะถูกสังเวยในการปลุกเร้าอารมณ์ผู้ชุมนุมให้ฮือโหมนั้นจะเป็นใคร
 การข่าวของหน่วยงานด้านความมั่นคง ระบุว่า ความเห็นแย้งของแกนนำที่ในก๊วนบุ๋น นั้นแตกออกเป็นสองเสี่ยง
 ฝ่ายหนึ่งต้องการเดินหน้าต่อไป เพราะจนถึงวันนี้ แม้จะมีแนวทางสู่การปรองดองของ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แต่เงื่อนไขของคนเสื้อแดงที่ยื่นไปนั้น ยังไม่ได้รับการตอบสนองเลยแม้แต่ข้อเดียว
 ที่สำคัญชีวิตประชาชนที่ถูกปลิดปลงเมื่อวันที่ 10 เมษายน ยังน่าจะเป็นเงื่อนไขให้การชุมนุมยืดเยื้อต่อไปได้อีก
 ในขณะที่อีกฝ่ายนั้นเห็นแล้วว่า แนวทางที่จะนำไปสู่การปรองดองนั้น คือบันไดทองที่ไม่ต้องไปหาอะไรมาอีกที่จะนำพาพวกเขาหลุดพ้นจากขุมนรก
 ซ้ำยังมีเหตุผลนำไปพูดได้ว่า นปช.ไม่ต้องการเห็นเลือดสักหยดหยาดลงบนผืนแผ่นดินไทยอีกต่อไป
 กลางดึกวันที่ 9 พฤษภาคม จึงเป็นคืนที่เกือบจะทำให้ไม่มีเช้าวันที่ 10 พฤษภาคม สำหรับคนบางคน
 "มีการขอ ว.7 (ขอความช่วยเหลือ) จากข้างใน เขากลัวว่าจะยิงกัน แต่ยังดีเขามีผู้ใหญ่ของเขาอยู่ที่ด้านหลังเวที เข้าไปไกล่เกลี่ยกันได้เสียก่อน"
 นี่คือรายงานของหน่วยงานด้านความมั่นคงในคืนวันที่ 9 พฤษภาคม ว่าด้านหลังเวทีคนเสื้อแดงที่สี่แยกราชประสงค์นั้น เกิดอะไรขึ้น
 แต่นั่นเป็นเพียงแค่ส่วนเสี้ยวของชีวิตจริงของแกนนำคนเสื้อแดง
 ก๊วนเดียวกันยังขนาดนี้ นี่ยังไม่นับรวมสายบู๊ ที่เรียกว่า ฮาร์ดคอร์ และ เสธ.แดง เข้าไปบริหารจัดการแทบจะเบ็ดเสร็จ
 ก๊วนนี้ก็ยืนกรานว่า จะไม่สลายการชุมนุมในเวลานี้ และปฏิเสธโรดแม็พของ อภิสิทธิ์
 ยิ่งตอกย้ำถึงความแตกแยกภายในกลุ่มแกนนำคนเสื้อแดง
 ในขณะที่สัญญาณที่ส่งจาก สมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขย ทักษิณ นั้นกลับเห็นด้วยกับแผนที่นำไปสู่ความปรองดอง พร้อมกับยืนยันว่า ทักษิณ ก็เห็นด้วยกับอะไรก็ตามที่จะนำไปสู่ความปรองดอง
 "เมื่อเราตอบรับมาตรการปรองดอง ตอบรับการยุบสภา และตอบรับการเลือกตั้ง ดังนั้นนายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ ก็ควรตอบรับ นปช. ในคดีสั่งฆ่าประชาชน"
 น้ำเสียงจริงจังของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่รับบทเป็นแกนนำตัวจริงของ คนเสื้อแดง อ่านแถลงการณ์หลังแกนนำเสื้อแดงประชุมกันจนได้มติเป็นเอกฉันท์
 “สื่อมวลชนถามวันที่ นปช.จะหยุดชุมนุมวันไหน คำตอบที่จะยุติการชุมนุมของ นปช.ของแดงทั้งแผ่นดินคือ จะเป็นวันเดียวกับที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีสั่งฆ่าประชาชน เป็นวันไหน เราก็จะประกาศกลับบ้านวันนั้น หากนายสุเทพปฏิเสธวันไหน เราก็ปฏิเสธที่จะยุติวันนั้นเช่นกัน”
 เมื่อลั่นวาจาออกมาแล้ว คำพูดย่อมเป็นนาย
 ทันทีที่ นปช.แถลงมติจบลง อภิสิทธิ์ ได้สั่งการให้ ศอฉ.และ ดร.ปณิธาน วัฒนายากร โฆษกรัฐบาล ไปแถลงในทันทีเช่นกันว่าทั้งนายกรัฐมนตรี และรองนายกฯ สุเทพ จะไปมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ ในคดีดังกล่าว หลังจากที่พรรคเพื่อไทยได้นำญาติผู้เสียชีวิต ไปร้องทุกข์ต่อดีเอสไอ
 นั่นย่อมหมายความว่า หลังจากฝ่ายรัฐบาลมอบตัวแล้ว เงื่อนไขการชุมนุมของคนเสื้อแดงย่อมไม่มีอีกต่อไปแล้ว
 แต่ปัญหาไม่ได้มีเพียงแค่ตรงนั้น อาวุธสงครามที่ร่ำลือกันว่า ซุกซ่อนอยู่ภายในที่ชุมนุม ตรงนี้จะจัดการกันอย่างไร
 กำลังเจ้าหน้าที่ทหารตั้งด่านสกัดอยู่ 6 จุดนั้นแทนที่จะลดลง แต่คำสั่งล่าสุดกลับสั่งให้เพิ่มกำลังมากขึ้นไปอีก
 ความสำคัญของอาวุธสงครามนั้น อย่างที่รู้กัน มันคือ หลักฐานชิ้นสำคัญที่จะนำไปสู่การดำเนินคดีร่วมกันก่อการร้าย หลังจากเหตุวันที่ 10 เมษายน มีกองกำลังติดอาวุธที่ยืนอยู่แนวหลังคนเสื้อแดงยิงปืนเข้าใส่ทหารและประชาชน
 มันอาจจะทำให้แกนนำคนเสื้อแดงช็อก เพราะไม่คิดว่า รัฐบาลจะเด้งรับได้รวดเร็วขนาดนี้
 แต่ก็นั่นแหละคนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิต จริงๆ !








ข่าวที่เกี่ยวข้องอินไซต์ตำรวจประจำวันที่11พ.ค.แผนเสธ.แดงยึดอำนาจสามเกลอนปช.รับไม่ได้สุเทพจะมอบตัวดีเอสไอ ปิด3ห้างข้างม็อบเสื้อแดงเดือนกว่าสูญ2พันล้านนปช.แถลง"สุเทพ"เข้ามอบตัวแดงสลายทันที

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

นปช.รับไม่ได้เทือกมอบตัวดีเอสไอ

นปช.รับไม่ได้เทือกมอบตัวดีเอสไอ



คมชัดลึก :"เทพเทือก"นัด"ธาริต"รับทราบข้อหาเช้าวันนี้(11พ.ค.) เสื้อแดง รับไม่ได้ อ้างเป็นเกมการเมืองเพราะยังไม่มีหมายเรียก ต้องให้กองปราบทำหมายเรียกก่อนแล้วเข้ามอบตัว ศอฉ.เตรียมฟัน 500ฮาร์ดคอร์แดงก่อการร้าย






 (10พ.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวถึงกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเข้ามอบตัวกับดีเอสไอว่า ได้รับการประสานว่า นายสุเทพจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในช่วงเช้า เวลา 08.30 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่จะบันทึกถ้อยคำของนายสุเทพ เบื้องต้น ก่อนปล่อยตัวไป สาเหตุที่ไม่ต้องการมีการประกันตัว เนื่องจากนายสุเทพไม่ได้ถูกควบคุมตนคิดว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดี เพราะทุกอย่างจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
 ส่วนกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่วางใจดีเอสไอ เพราะนายธาริต เป็นกรรมการ ศอฉ.นายธาริต กล่าวว่า ถ้าไม่มอบตัวกับดีเอสไอแล้วจะไปมอบกับใคร เพราะเรื่องถูกโอนมายังดีเอสไอหมดแล้ว
 นายธาริต กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีของนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้รับการประสาน แต่ตามกฎหมายต้องมีหนังสือจากสภาผู้แทนราษฎร เพราะอยู่ระหว่างสมัยประชุมสภา ทั้งนี้หากนายรัฐมนตรีเดินทางมา ดีเอสไอก็พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา
นปช.ปัดรับไม่ได้อ้างเป็นเกมการเมือง
 ภายหลังจากแถลงข่าว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายสุเทพรีจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในการสลายการชุมนุมวันที่ 10 เม.ย. ที่ ศอฉ.วันที่ 11 พ.ค. ว่า การอ้างว่าจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของนายสุเทพ ต่อดีเอสไอนั้น ไม่มีความสง่างาม เพราะนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เป็น 1 ในกรรมการ ศอฉ.ย่อมแสดงให้เห็นถึงการมีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะหากคดีนี้ดำเนินต่อไป นายธาริตในฐานะ 1 ในกรรมการ ศอฉ.ก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วย จึงขอเรียกร้องว่าขอให้ดำเนินการอย่างสง่างามมีมาตรฐานเท่ากัน เพราะคดีสั่งฆ่าประชาชนนี้ มีการไปร้องเรียนที่ดีเอสไอและตำรวจหลายคดี แต่ก็ดองเรื่องเอาไว้ จนเมื่อ นปช.แถลงมติในเรื่องนี้ นายสุเทพ กลับเอามาใช้เป็นเกมการเมืองเพื่อผลประโยชน์ อย่าคิดว่าพวกตนอย่างนั้นอย่างนี้เลย แต่ขอให้มีความสง่างามมากกว่านี้ แล้ว นปช.ก็พร้อมที่จะยุติการชุมนุม
 นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จึงขอเรียกร้องให้กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีคนไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ให้ลงมาทำคดีนี้ ด้วยการออกหมายเรียกให้นายสุเทพมารายงานตัวและรับทราบข้อกล่าวหา ขอเพียงนายสุเทพประกาศจะไป นปช.ก็พร้อมจะยุติการชุมนุมทันทีเช่นกัน เรื่องแค่นี้อย่ามาตีกิน หรือค้ากำไรเกินควรเลย เพราะเรายังมีเรื่องใหญ่ที่ต้องทำมากกว่านี้อีก
 นายจตุพร กล่าวว่า ตามข้อกฎหมาย คดีที่มีโทษจำคุกเกินกว่า 3 ปี เจ้าหน้าที่ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียก แต่สามารถขอให้ศาลอนุมัติหมายจับได้ทันที โดยคดีสั่งฆ่าประชาชนเช่นนี้ ดีเอสไอยังไม่มีหมายเรียกนายสุเทพเลย แต่นายสุเทพพยายามเข้าไปแสดงตัว เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องการประกันตัว จึงมองออกด้วยกันว่าเป็นเพียงเกมการเมืองเท่านั้น จึงเรียกร้องให้ กองปราบออกหมายเรียกเสียก่อน แล้วหลังจากนั้น นายสุเทพจึงเข้าไปมอบตัว แล้ว นปช.จะยุติการชุมนุมทันที นายสุเทพอย่ามาเขี้ยว
 ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นข้อเสนอให้นายสุเทพมอบตัว เป็นเพราะไม่สามารถเจรจากับรัฐบาลในเรื่องอนุญาตให้แกนนำบางส่วนประกันตัวหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะหากแกนนำกลัวการไม่ให้ประกันตัว คงยอมรับเงื่อนไขนิรโทษกรรมไปแล้ว
 เมื่อถามว่าการออกข่าวว่านายสุเทพจะไปรับทราบข้อกล่าวหากับดีเอสไอในช่วงเวลาที่ นปช.แถลงมติ เป็นเพราะมีการเจรจากันก่อนหน้านี้เพื่อหาทางลงร่วมกันแล้วหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่มี ตนก็เพิ่งทราบหลังจากแถลงข่าวเสร็จ และยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าที่นายสุเทพจะไปรับทราบนั้นเป็นข้อกล่าวหาในเรื่องใด
 เมื่อถามถึงกำหนดการเดิมที่แกนนำจะเดินทางไปมอบตัวในวันที่ 15 พ.ค. นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถ้าเรื่องทั้งหมดจบก่อนวันที่ 15 พ.ค. หมายถึงนายสุเทพมอบตัวก่อนนั้น ก็พร้อมจะยุติการชุมนุม แล้วไปมอบตัวทันที ถ้าเรียบร้อยในวันที่ 12 พ.ค. หรือ 13 พ.ค. ก็ไปวันนั้นเลย แต่หากยังไม่เรียบร้อยก็จะไม่ไปมอบตัว และไม่ยุติการชุมนุม แม้จะถึงวันนัดในวันที่ 15พ.ค.ก็ตาม
 เมื่อถามว่าเหตุใดในการแถลงจุดยืนของ นปช.จึงไม่มีนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช. เข้าร่วม และยังมีกระแสข่าวว่า นายวีระ เดินทางออกจากที่ชุมนุม เพื่อไปเจรจากับคนบางกลุ่ม นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่มีการไปเจรจาอะไร เพียงแต่นายวีระอาจจะอ่อนเพลีย เนื่องจากชุมนุมกันมาเกือบ 2 เดือนแล้ว และอาจมีธุระอะไรบ้าง แต่ช่วงค่ำๆก็จะมาที่เวที
สุริยะใสจวกละครน้ำเน่าเล่นเกมตบตาประชาชน
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวว่า ทันทีที่แกนนำคนเสื้อแดงยื่นเงื่อนไขให้นายสุเทพไปมอบตัวข้อหาสั่งสลายการชุมนุมวันที่ 10 เมษายน หลัง นปช.แถลงเสร็จไม่ถึง 10 นาที โฆษกรัฐบาลก็ออกมาแถลงว่าพรุ่งนี้นายสุเทพจะไปดีเอสไอเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาทันที เป็นเรื่องตลกมากเพราะประชาชนยังไม่รู้เลยว่าดีเอสไอตั้งข้อหานายกฯ กับรองฯ สุเทพเรื่องสั่งสลายม็อบ 10 เมษา ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เคยมีข่าว แต่แกนนำ นปช.รู้อยู่ฝ่ายเดียว
"ผมว่านี่เป็นการจัดฉากร่วมกันระหว่างแกนนำ นปช.กับรัฐบาล เป็นฉากสุดท้ายของละครน้ำเน่าเรื่องโรดแม็พ ซึ่งก็เป็นการยืนยันชัดเจนว่ามีการตกลงกันมาก่อนล่วงหน้าระหว่างแกนนำม็อบกับรัฐบาล และเหตุที่ม็อบต้องยื้อมาหลายวันเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ประกันตัว งานนี้รัฐบาลอาจจะยอมใช้นายสุเทพ เป็นเหยื่อเพื่อแลกกับการยุติการชุมนุมไปก่อนหลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที ซึ่งวิธีคิดแบบนี้เป็นเรื่องอันตรายเพราะปัญหาไม่จบและกลุ่มก่อการร้ายก็จะลอยนวลและให้ประชาชนไปตายเอาดาบหน้า" นายสุริยะใส  กล่าว
ศอฉ.เตรียมฟัน 500“ฮาร์ดคอร์แดง”ก่อการร้าย
 พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงผลการประชุม ศอฉ. ว่า ศอฉ. มีการเสนอนายกรัฐมนตรีว่ายังไม่ควรยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเรื่องกำลังทหารยังไม่เหมาะสมถอน แม้จะมีการสลายการชุมนุมไปแล้ว คงต้องรอให้ยุติการชุมนุม เพราะมีความจำเป็นต้องดูแลความปลอดภัย เป็นที่ทราบว่ามีการก่อการร้ายแฝงอยู่ในการชุมนุม ส่วนการดูแลความปลอดภัยต้องร่วมกันหลายฝ่าย รวมถึงการส่งประชาชนกลับบ้าน ส่วนในพื้นที่ภูมิภาคก็ฟังแกนนำส่วนกลาง หากแกนนำยุติคงไม่มีปัญหา จากนั้นจะดำเนินการตามแผนโรดแม็ปของนายกรัฐมนตรี
 เมื่อถามว่า การขอคืนพื้นที่จะมีการดำเนินการอย่างไร พ . อ . สรรเสริญ กล่าวว่า ถ้ายุติการชุมนุมจริงอย่างที่แกนนำแถลงคงจะดำเนินการร่วมกันหลายฝ่าย ในเรื่องการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนกลับบ้าน แต่ทหารมีความจำเป็นต้องตั้งด่านตรวจ เพราะต้องปกป้องกันไม่ให้ลักลอบอาวุธสงครามออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะอาวุธสงครามของทหารที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยึดไป
 เมื่อถามว่า กลัว พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก จะสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ได้เตรียมการอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ วันนี้กระชับวงล้อมด้วยการตั้งด่านเพิ่มจากเดิม 6 ด่าน เป็น 14 ด่าน และบีบวงล้อมเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม ทั้งนี้ แกนนำผู้ชุมนุมได้ประกาศต่อสาธารณชน คิดว่าทุกคนต้องรักษาสัจจะตัวเอง และต้องเชื่อใจกันและกัน ซึ่งเป็นทิศทางที่ดีที่ทำให้บ้านเมืองสงบ
 เมื่อถามถึงกรณีการปลด พล.ต.ขัตติยะ จากตำแหน่งราชการ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามขั้นตอนไม่ว่าระดับนายพล นายพัน หรือนายร้อย ไม่ว่าใครทำผิดระเบียบถูกตั้งข้อกล่าวหามีการตรวจสอบในชั้นศาลเรียบร้อยว่า มีความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง สมควรปลด หรือถอดยศ ต้องดำเนินการตามนั้น การใช้เวลาสอบสวนคงไม่ถึงเดือน ส่วนกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ ยังออกมาท้าทายอยู่นั้น วันนี้คนตั้งคำถามว่าทำไมเจ้าหน้าที่ไม่เข้าไปจับ เพราะการเข้าไปจับคนมีหมายจับขณะยังไม่ยุติ เท่ากับเป็นการสลายการชุมนุม วันนี้เมื่อประกาศจะยุติการชุมนุม ประชาชนก็จะออกจากพื้นที่ ส่วนคนที่จะป่วนค่อยว่ากัน หากป่วนมากก็จะมีคดีความมากขึ้น
 รายงานข่าวแจ้งว่า ศอฉ. มีการเตรียมตั้งข้อกล่าวหา กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีลักษณะสร้างความรุนแรง เป็นฮาร์ดคอร์เข้าข่ายในข้อหาเป็นผู้ก่อการร้าย จำนวนกว่า 500 คน ซึ่งเตรียมที่จะเสนอดำเนินคดีต่อกรมสอยสวนคดีพิเศษต่อไป เมื่อการชุมนุมยุติลง โดย ศอฉ. เห็นว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมที่สร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง ดังนั้น จึงถือเป็นข้อหารุนแรง ที่ต้องแจ้งความดำเนินคดี
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับระเบียบการถอดยศทหารที่มีชื่อว่า “ ระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยผู้ซึ่งไม่สมควรจะดำรงอยู่ในยศทหารและ บรรดาศักดิ์ พ.ศ. 2507? ลงนามโดย จอมพล ถนอม กิตติขจร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2507 ระเบียบดังกล่าว กำหนดเหตุผู้ซึ่งไม่สมควรจะดำรงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ ได้แก่ ผู้ที่มีความผิดหรือต้องรับโทษอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น กระทำความผิดจนต้องได้รับโทษจำคุก หรือขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย และการขัดคำสั่งนั้นเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ส่วนขั้นตอนในการถอดยศทางทหารระดับสัญญาบัตร จะให้ส่วนราชการต้นสังกัดดำเนินการ โดยให้รายงานตามลำดับชั้นจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อพิจารณา หากเห็นเป็นการสมควรจะได้ดำเนินการ เพื่อถอดออกจากยศทหาร และบรรดาศักดิ์ต่อไป
 
 
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องคิดสวนทาง - บางกอกแจ๊ซที่ราชประสงค์ จ๋อย หงอย เหงา

มองผ่านเลนส์คม - SME ตี (ตลาด) แตก" !!

คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิตปรองดองไม่ใช่เกี้ยเซียะเราเป็นรัฐล้มเหลวหรือยัง

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

สุเทพถึงดีเอสไอ รับทราบ กล่าวโทษ10เมษา

สุเทพถึงดีเอสไอ รับทราบ กล่าวโทษ10เมษา

รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง สุเทพ เทือกสุบรร​ณ​ เดินทางมาถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว โดยปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน อธิบดี ดีเอสไอ  ยัน ไม่จำเป็นต้องไปพบกับตำรวจ เริ่มนับหนึ่งคดีนี้...เมื่อเวลาประมาณ 08.30น.วันที่ 11 เม.ย. 2553  นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวโทษ คดีสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 เม.ย. 2553 ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน ก่อนจะเข้าพบกับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอทันที ทั้งนี้ นายธาริต กล่าวก่อนการเดินทางมาถึงของนายสุเทพ ว่า คดีดังกล่าวถึงว่าเป็นคดีพิเศษแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปพบกับตำรวจ และคดีนี้สามารถเริ่มนับหนึ่งได้เลย

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เสธ.แดงไม่เกี่ยว แดงอาจยุติ ต้องรับผลเลือกตั้ง

เสธ.แดงไม่เกี่ยว แดงอาจยุติ ต้องรับผลเลือกตั้ง

พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี เพื่อนสนิท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ยอมรับ เป็นไปได้เสื้อแดงอาจสลายการชุมนุม แต่ส่วนหนึ่งอยากให้รัฐให้การรับรองจะรับผลการเลือกตั้ง ไม่เชื่อ เสธ.แดง สายตรง อดีตนายกรัฐมนตรี...พล.อ.อ.สุเมธ โพธิ์มณี  สมาชิกพรรคเพื่อไทย และเพื่อนสนิทเตรียมทหารรุ่น 10 ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ไทยรัฐออนไลน์ ยอมรับมีความเป็นไปได้ที่กลุ่มเสื้อแดงจะสลายการชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ ภายหลัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เดินทางไปรับทราบข้อร้องทุกข์กล่าวโทษ ในคดีสั่งสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 เมษายน กับ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ตามข้อเสนอของแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ส่วนอาจจะมีการยอมสลายการชุมนุมในวันนี้ หรือไม่นั้น พล.อ.อ.สุเมธ กล่าวว่า คงยังไม่สามารถตอบได้ เพราะส่วนหนึ่งยังติดเงื่อนไขเล็กน้อย ในส่วนที่ อยากให้ทางฝ่ายรัฐบาล ให้คำรับรองว่าจะต้องรับผลการเลือกตั้งไม่ว่าจะออกมาเป็นเช่นใด  ด้านในส่วนของแกนนำกลุ่มเสื้อแดง จะเดินทางไปมอบตัวในคดีความต่าง ๆ เมื่อใด นั้น คงต้องมีการหารือในขั้นตอนต่าง ๆ อีกครั้ง แต่ที่สำคัญคือทาง รัฐบาล หรือ ศอฉ. จะต้องยุติการพูดจายั่วยุก็มีความเป็นไปได้ที่ทางกลุ่มเสื้อแดงจะยุติการชุมนุม แต่ก็ต้องมีข้อตกลงบางอย่างกันอีก อย่างเช่นในกรณีที่จะจัดให้มีการเลือกตั้ง ก็แน่นอนว่าทุกคนทุกฝ่ายโดยเฉพาะรัฐบาลจะต้องให้การยอมรับ ส่วนจะสลายตัวในวันนี้ (11 พ.ค.2553 ) หรือไม่คงยังจะไม่น่าจะสลาย พล.อ.อ.สุเมธกล่าวด้านการที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ออกมาแสดงท่าทีคัดค้านการสลายการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เพื่อรับข้อเสนอแผนโรดแม็ป สร้างความปรองดองในชาติ ของ นายกรัฐมนตรี นั้น พล.อ.อ.สุเมธ กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน เพราะ เสธ.แดง ก็มักจะพูดอะไรไปเรื่อย อีกทั้งที่คนที่มีบทบาทสำคัญ ก็คือ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง เมื่อแกนนำตัดสินใจให้ยุติก็ต้องเป็นไปตามนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ เสธ.แดง ส่วนหาก เสธ.แดง เกิดมีการตีรวน ก็ต้องไปดูกันว่า ทางพรรคพวกของ เสธ.แดง มีกันอยู่เท่าไหร่ ส่วนที่ เสธ.แดง มักจะพูดว่าตนเองรับคำสั่งสายตรงจาก พ.ต.ท.ทักษิณ​ นั้น พล.อ.อ.สุเมธ​ กล่าวว่า โดยส่วนตัวตนเองไม่เชื่อว่าจะเป็นอย่างที่ เสธ.แดง พูด เพราะทุกคนก็ล้วนอยากให้เกิดความปรองดองในชาติเพื่อให้เกิดผลดีต่อบ้านเมือง

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เหวงจี้สุเทพต้องมอบตัวกองปราบถึงยุติการชุมนุม

เหวงจี้สุเทพต้องมอบตัวกองปราบถึงยุติการชุมนุม

นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ระบุกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหากับดีเอสไอ ไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขนปช. จี้หากต้องการให้ยุติการชุมนุมต้องไปกองปราบปรามเท่านั้น...วันที่ 11 พ.ค. ที่แยกราชประสงค์  นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. กล่าวว่า สำหรับกรณีที่สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความความมั่นคง และในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ.  ได้เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหากับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ กรณีสั่งสลายการชุมนุม 10 เม.ย. ที่บริเวณแยกคอกวัว นั้น แสดงให้เห็นว่านายสุเทพ ยังไม่แสดงความจริงใจพอ และการที่นายสุเทพ เดินทางไปยังดีเอสไปเรื่องดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นไปตามเงื่อนไขของนปช. ที่ตั้งไว้ เนื่องจากดีเอสไอเป็นหน่วยงานที่ทำงานภายใต้การกำกับดูแลของศอฉ. จึงมองว่าการเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหานี้ไม่มีความชอบธรรม ซึ่งทางแกนนำนปช.เห็นว่าหากรัฐบาลต้องการให้กลุ่มนปช.ยุติการชุมนุม นายสุเทพต้องเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหา กับกองบังคับการปราบปรามเท่านั้นขณะที่บรรยากาศการชุมนุมโดยทั่วไปที่แยกราชประสงค์นั้นยังคงเป็นไปอย่างเรียบร้อยโดยกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงปักหลักฟังการปราศรัยของกลุ่มแนวร่วมที่สลับกันขึ้นปราศรัยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงใช้เวลาในช่วงเช้าปฏิบัติภารกิจส่วนตัว ส่วนการรักษาความปลอดภัยโดยรอบพื้นที่การชุมนุมยังเป็นไปอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะด่านสำคัญทั้ง 6 จุด ที่มีเจ้าหน้าที่การ์ดนปช.ดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษราบข้อกล่าวหา กับกองบังคับการปราบปรามเท่านั้น


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Blog Archive