Monday, May 10, 2010

นปช.รับไม่ได้เทือกมอบตัวดีเอสไอ

นปช.รับไม่ได้เทือกมอบตัวดีเอสไอ



คมชัดลึก :"เทพเทือก"นัด"ธาริต"รับทราบข้อหาเช้าวันนี้(11พ.ค.) เสื้อแดง รับไม่ได้ อ้างเป็นเกมการเมืองเพราะยังไม่มีหมายเรียก ต้องให้กองปราบทำหมายเรียกก่อนแล้วเข้ามอบตัว ศอฉ.เตรียมฟัน 500ฮาร์ดคอร์แดงก่อการร้าย






 (10พ.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดี ดีเอสไอ กล่าวถึงกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะเข้ามอบตัวกับดีเอสไอว่า ได้รับการประสานว่า นายสุเทพจะเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาในช่วงเช้า เวลา 08.30 น. ซึ่งเจ้าหน้าที่จะแจ้งข้อกล่าวหา จากนั้นเจ้าหน้าที่จะบันทึกถ้อยคำของนายสุเทพ เบื้องต้น ก่อนปล่อยตัวไป สาเหตุที่ไม่ต้องการมีการประกันตัว เนื่องจากนายสุเทพไม่ได้ถูกควบคุมตนคิดว่าเป็นสิ่งที่น่ายินดี เพราะทุกอย่างจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
 ส่วนกรณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย ไม่วางใจดีเอสไอ เพราะนายธาริต เป็นกรรมการ ศอฉ.นายธาริต กล่าวว่า ถ้าไม่มอบตัวกับดีเอสไอแล้วจะไปมอบกับใคร เพราะเรื่องถูกโอนมายังดีเอสไอหมดแล้ว
 นายธาริต กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีของนายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้รับการประสาน แต่ตามกฎหมายต้องมีหนังสือจากสภาผู้แทนราษฎร เพราะอยู่ระหว่างสมัยประชุมสภา ทั้งนี้หากนายรัฐมนตรีเดินทางมา ดีเอสไอก็พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา
นปช.ปัดรับไม่ได้อ้างเป็นเกมการเมือง
 ภายหลังจากแถลงข่าว นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายสุเทพรีจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในการสลายการชุมนุมวันที่ 10 เม.ย. ที่ ศอฉ.วันที่ 11 พ.ค. ว่า การอ้างว่าจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของนายสุเทพ ต่อดีเอสไอนั้น ไม่มีความสง่างาม เพราะนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เป็น 1 ในกรรมการ ศอฉ.ย่อมแสดงให้เห็นถึงการมีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะหากคดีนี้ดำเนินต่อไป นายธาริตในฐานะ 1 ในกรรมการ ศอฉ.ก็ต้องถูกดำเนินคดีด้วย จึงขอเรียกร้องว่าขอให้ดำเนินการอย่างสง่างามมีมาตรฐานเท่ากัน เพราะคดีสั่งฆ่าประชาชนนี้ มีการไปร้องเรียนที่ดีเอสไอและตำรวจหลายคดี แต่ก็ดองเรื่องเอาไว้ จนเมื่อ นปช.แถลงมติในเรื่องนี้ นายสุเทพ กลับเอามาใช้เป็นเกมการเมืองเพื่อผลประโยชน์ อย่าคิดว่าพวกตนอย่างนั้นอย่างนี้เลย แต่ขอให้มีความสง่างามมากกว่านี้ แล้ว นปช.ก็พร้อมที่จะยุติการชุมนุม
 นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จึงขอเรียกร้องให้กระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีคนไปแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ให้ลงมาทำคดีนี้ ด้วยการออกหมายเรียกให้นายสุเทพมารายงานตัวและรับทราบข้อกล่าวหา ขอเพียงนายสุเทพประกาศจะไป นปช.ก็พร้อมจะยุติการชุมนุมทันทีเช่นกัน เรื่องแค่นี้อย่ามาตีกิน หรือค้ากำไรเกินควรเลย เพราะเรายังมีเรื่องใหญ่ที่ต้องทำมากกว่านี้อีก
 นายจตุพร กล่าวว่า ตามข้อกฎหมาย คดีที่มีโทษจำคุกเกินกว่า 3 ปี เจ้าหน้าที่ไม่จำเป็นต้องออกหมายเรียก แต่สามารถขอให้ศาลอนุมัติหมายจับได้ทันที โดยคดีสั่งฆ่าประชาชนเช่นนี้ ดีเอสไอยังไม่มีหมายเรียกนายสุเทพเลย แต่นายสุเทพพยายามเข้าไปแสดงตัว เพื่อไม่ให้มีปัญหาเรื่องการประกันตัว จึงมองออกด้วยกันว่าเป็นเพียงเกมการเมืองเท่านั้น จึงเรียกร้องให้ กองปราบออกหมายเรียกเสียก่อน แล้วหลังจากนั้น นายสุเทพจึงเข้าไปมอบตัว แล้ว นปช.จะยุติการชุมนุมทันที นายสุเทพอย่ามาเขี้ยว
 ผู้สื่อข่าวถามว่า การยื่นข้อเสนอให้นายสุเทพมอบตัว เป็นเพราะไม่สามารถเจรจากับรัฐบาลในเรื่องอนุญาตให้แกนนำบางส่วนประกันตัวหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน เพราะหากแกนนำกลัวการไม่ให้ประกันตัว คงยอมรับเงื่อนไขนิรโทษกรรมไปแล้ว
 เมื่อถามว่าการออกข่าวว่านายสุเทพจะไปรับทราบข้อกล่าวหากับดีเอสไอในช่วงเวลาที่ นปช.แถลงมติ เป็นเพราะมีการเจรจากันก่อนหน้านี้เพื่อหาทางลงร่วมกันแล้วหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ไม่มี ตนก็เพิ่งทราบหลังจากแถลงข่าวเสร็จ และยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าที่นายสุเทพจะไปรับทราบนั้นเป็นข้อกล่าวหาในเรื่องใด
 เมื่อถามถึงกำหนดการเดิมที่แกนนำจะเดินทางไปมอบตัวในวันที่ 15 พ.ค. นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ถ้าเรื่องทั้งหมดจบก่อนวันที่ 15 พ.ค. หมายถึงนายสุเทพมอบตัวก่อนนั้น ก็พร้อมจะยุติการชุมนุม แล้วไปมอบตัวทันที ถ้าเรียบร้อยในวันที่ 12 พ.ค. หรือ 13 พ.ค. ก็ไปวันนั้นเลย แต่หากยังไม่เรียบร้อยก็จะไม่ไปมอบตัว และไม่ยุติการชุมนุม แม้จะถึงวันนัดในวันที่ 15พ.ค.ก็ตาม
 เมื่อถามว่าเหตุใดในการแถลงจุดยืนของ นปช.จึงไม่มีนายวีระ มุสิกพงศ์ ประธาน นปช. เข้าร่วม และยังมีกระแสข่าวว่า นายวีระ เดินทางออกจากที่ชุมนุม เพื่อไปเจรจากับคนบางกลุ่ม นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่มีการไปเจรจาอะไร เพียงแต่นายวีระอาจจะอ่อนเพลีย เนื่องจากชุมนุมกันมาเกือบ 2 เดือนแล้ว และอาจมีธุระอะไรบ้าง แต่ช่วงค่ำๆก็จะมาที่เวที
สุริยะใสจวกละครน้ำเน่าเล่นเกมตบตาประชาชน
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (กมม.) กล่าวว่า ทันทีที่แกนนำคนเสื้อแดงยื่นเงื่อนไขให้นายสุเทพไปมอบตัวข้อหาสั่งสลายการชุมนุมวันที่ 10 เมษายน หลัง นปช.แถลงเสร็จไม่ถึง 10 นาที โฆษกรัฐบาลก็ออกมาแถลงว่าพรุ่งนี้นายสุเทพจะไปดีเอสไอเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาทันที เป็นเรื่องตลกมากเพราะประชาชนยังไม่รู้เลยว่าดีเอสไอตั้งข้อหานายกฯ กับรองฯ สุเทพเรื่องสั่งสลายม็อบ 10 เมษา ตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่เคยมีข่าว แต่แกนนำ นปช.รู้อยู่ฝ่ายเดียว
"ผมว่านี่เป็นการจัดฉากร่วมกันระหว่างแกนนำ นปช.กับรัฐบาล เป็นฉากสุดท้ายของละครน้ำเน่าเรื่องโรดแม็พ ซึ่งก็เป็นการยืนยันชัดเจนว่ามีการตกลงกันมาก่อนล่วงหน้าระหว่างแกนนำม็อบกับรัฐบาล และเหตุที่ม็อบต้องยื้อมาหลายวันเพราะกลัวว่าจะไม่ได้ประกันตัว งานนี้รัฐบาลอาจจะยอมใช้นายสุเทพ เป็นเหยื่อเพื่อแลกกับการยุติการชุมนุมไปก่อนหลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที ซึ่งวิธีคิดแบบนี้เป็นเรื่องอันตรายเพราะปัญหาไม่จบและกลุ่มก่อการร้ายก็จะลอยนวลและให้ประชาชนไปตายเอาดาบหน้า" นายสุริยะใส  กล่าว
ศอฉ.เตรียมฟัน 500“ฮาร์ดคอร์แดง”ก่อการร้าย
 พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงผลการประชุม ศอฉ. ว่า ศอฉ. มีการเสนอนายกรัฐมนตรีว่ายังไม่ควรยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเรื่องกำลังทหารยังไม่เหมาะสมถอน แม้จะมีการสลายการชุมนุมไปแล้ว คงต้องรอให้ยุติการชุมนุม เพราะมีความจำเป็นต้องดูแลความปลอดภัย เป็นที่ทราบว่ามีการก่อการร้ายแฝงอยู่ในการชุมนุม ส่วนการดูแลความปลอดภัยต้องร่วมกันหลายฝ่าย รวมถึงการส่งประชาชนกลับบ้าน ส่วนในพื้นที่ภูมิภาคก็ฟังแกนนำส่วนกลาง หากแกนนำยุติคงไม่มีปัญหา จากนั้นจะดำเนินการตามแผนโรดแม็ปของนายกรัฐมนตรี
 เมื่อถามว่า การขอคืนพื้นที่จะมีการดำเนินการอย่างไร พ . อ . สรรเสริญ กล่าวว่า ถ้ายุติการชุมนุมจริงอย่างที่แกนนำแถลงคงจะดำเนินการร่วมกันหลายฝ่าย ในเรื่องการดูแลความปลอดภัยให้ประชาชนกลับบ้าน แต่ทหารมีความจำเป็นต้องตั้งด่านตรวจ เพราะต้องปกป้องกันไม่ให้ลักลอบอาวุธสงครามออกนอกพื้นที่ โดยเฉพาะอาวุธสงครามของทหารที่ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมยึดไป
 เมื่อถามว่า กลัว พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก จะสร้างสถานการณ์ทำให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ได้เตรียมการอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ วันนี้กระชับวงล้อมด้วยการตั้งด่านเพิ่มจากเดิม 6 ด่าน เป็น 14 ด่าน และบีบวงล้อมเข้าไปในพื้นที่ชุมนุม ทั้งนี้ แกนนำผู้ชุมนุมได้ประกาศต่อสาธารณชน คิดว่าทุกคนต้องรักษาสัจจะตัวเอง และต้องเชื่อใจกันและกัน ซึ่งเป็นทิศทางที่ดีที่ทำให้บ้านเมืองสงบ
 เมื่อถามถึงกรณีการปลด พล.ต.ขัตติยะ จากตำแหน่งราชการ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ต้องเป็นไปตามขั้นตอนไม่ว่าระดับนายพล นายพัน หรือนายร้อย ไม่ว่าใครทำผิดระเบียบถูกตั้งข้อกล่าวหามีการตรวจสอบในชั้นศาลเรียบร้อยว่า มีความประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง สมควรปลด หรือถอดยศ ต้องดำเนินการตามนั้น การใช้เวลาสอบสวนคงไม่ถึงเดือน ส่วนกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ ยังออกมาท้าทายอยู่นั้น วันนี้คนตั้งคำถามว่าทำไมเจ้าหน้าที่ไม่เข้าไปจับ เพราะการเข้าไปจับคนมีหมายจับขณะยังไม่ยุติ เท่ากับเป็นการสลายการชุมนุม วันนี้เมื่อประกาศจะยุติการชุมนุม ประชาชนก็จะออกจากพื้นที่ ส่วนคนที่จะป่วนค่อยว่ากัน หากป่วนมากก็จะมีคดีความมากขึ้น
 รายงานข่าวแจ้งว่า ศอฉ. มีการเตรียมตั้งข้อกล่าวหา กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีลักษณะสร้างความรุนแรง เป็นฮาร์ดคอร์เข้าข่ายในข้อหาเป็นผู้ก่อการร้าย จำนวนกว่า 500 คน ซึ่งเตรียมที่จะเสนอดำเนินคดีต่อกรมสอยสวนคดีพิเศษต่อไป เมื่อการชุมนุมยุติลง โดย ศอฉ. เห็นว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติกรรมที่สร้างความวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง ดังนั้น จึงถือเป็นข้อหารุนแรง ที่ต้องแจ้งความดำเนินคดี
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับระเบียบการถอดยศทหารที่มีชื่อว่า “ ระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยผู้ซึ่งไม่สมควรจะดำรงอยู่ในยศทหารและ บรรดาศักดิ์ พ.ศ. 2507? ลงนามโดย จอมพล ถนอม กิตติขจร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2507 ระเบียบดังกล่าว กำหนดเหตุผู้ซึ่งไม่สมควรจะดำรงอยู่ในยศทหารและบรรดาศักดิ์ ได้แก่ ผู้ที่มีความผิดหรือต้องรับโทษอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น กระทำความผิดจนต้องได้รับโทษจำคุก หรือขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ซึ่งสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย และการขัดคำสั่งนั้นเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ส่วนขั้นตอนในการถอดยศทางทหารระดับสัญญาบัตร จะให้ส่วนราชการต้นสังกัดดำเนินการ โดยให้รายงานตามลำดับชั้นจนถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อพิจารณา หากเห็นเป็นการสมควรจะได้ดำเนินการ เพื่อถอดออกจากยศทหาร และบรรดาศักดิ์ต่อไป
 
 
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องคิดสวนทาง - บางกอกแจ๊ซที่ราชประสงค์ จ๋อย หงอย เหงา

มองผ่านเลนส์คม - SME ตี (ตลาด) แตก" !!

คนคำนวณมิสู้ฟ้าลิขิตปรองดองไม่ใช่เกี้ยเซียะเราเป็นรัฐล้มเหลวหรือยัง

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive