Tuesday, April 9, 2013

ครั้งแรกสภาไทย จับสลากชิงรองปธ.วุฒิฯ สุดท้ายอนันต์เข้าวิน

ครั้งแรกสภาไทย จับสลากชิงรองปธ.วุฒิฯ สุดท้ายอนันต์เข้าวิน
ครั้งแรกประวัติศาสตร์รัฐสภาไทย จับสลากชิงตำแหน่ง รอง ปธ.วุฒิ เหตุลงคะแนนรอบ 2 เท่ากัน 2 คน สุดท้าย อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ ส.ว.สุรินทร์ ดวงดีกว่า จับสลากเข้าวิน ได้เป็นสมใจ...  วันที่ 9 เม.ย. ที่รัฐสภา โดยวันนี้มีการนัดประชุมวุฒิสภา ซึ่งมีวาระการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 แทนนางพรทิพย์ โล่ห์วีระ จันทร์รัตนปรีดา ส.ว.ชัยภูมิ ที่ลาออก โดยเปิดให้ผู้สมัครทั้ง 4 คน ได้แก่ นายวิทยา อินาลา ส.ว.นครพนม นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว. อุตรดิตถ์ นพ.อนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ ส.ว.สุรินทร์ และ น.ส.สุมล สุตะวิริยวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี แสดงวิสัยทัศน์ไว้ จากนั้นจึงลงคะแนนด้วยวิธีลับ ปรากฏว่า นางนฤมลได้ 54 คะแนน นพ.อนันต์ ได้ 39 คะแนน น.ส.สุมล ได้ 37 คะแนน และนายวิทยาได้ 11 คะแนน จึงไม่มีใครได้เสียงเกินกึ่งหนึ่ง ต้องมีการลงคะแนนกันใหม่ในรอบที่ 2 ปรากฏว่า นางนฤมล และ นพ.อนันต์ ได้ 68 คะแนนเท่ากัน ตามข้อบังคับการประชุมวุฒิสภา ข้อ 6 (3) วรรค 2 ถ้าการลงคะแนนในรอบ 2 ผู้ที่ชิงตำแหน่งมีคะแนนเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมจับสลากเลือกรองประธาน ผลปรากฏว่า นพ.อนันต์ เป็นผู้จับสลากได้ และได้เป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 คนใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์รัฐสภาไทย ที่ผู้สมัครชิงตำแหน่งมีคะแนนเท่ากัน ในรอบสอง จนต้องใช้วิธีจับสลากแบบนี้ ทั้งนี้ น.พ.อนันต์ ได้แสดงวิสัยทัศน์ตอนหนึ่งว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมานั่งเถียงกันเรื่องที่มาของ ส.ว. เพราะเรามีหน้าที่ ต้องทำอย่างมุ่งมั่น ให้เหมาะกับคำว่า ผู้ทรงวุฒิ ส.ว.เรามีผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในหลายๆ ด้าน แต่เรายังทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์ ฉะนั้น ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งนี้ ต้องเป็นบุคคลที่เป็นกลาง สามารถควบคุมการประชุมให้มีคุณภาพได้ ที่สำคัญต้องรักษาเกียรติของวุฒิสภาได้ อย่างไรก็ตาม ในเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนการประชุมวุฒิสภา กลุ่มชมรมสมาชิกรัฐสภาสตรีได้แจกเอกสารเปิดผนึกเรียกร้องให้ ส.ว.สนับสนุน ส.ว.สตรี ขึ้นมาดำรงตำแหน่งดังกล่าว.

นายกฯร่วมงานวันทอ.ย้ำรบ.พร้อมหนุนเพิ่มขีดความสามารถ

นายกฯร่วมงานวันทอ.ย้ำรบ.พร้อมหนุนเพิ่มขีดความสามารถ
ป๋าเปรม-นายกฯปู ร่วมงานวันกองทัพอากาศ กล่าวชมการทำงานของ ทอ.ไทยที่ผ่านมาทำงานได้มีประสิทธิภาพแม้จะมีงบประมาณจำกัด ย้ำรัฐบาลพร้อมหนุนเพิ่มขีดความสามารถ เพื่อก้าวสู่การเป็นกองทัพอากาศชั้นนำในอาเซียน...เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 9 เม.ย.2556 ที่หอประชุมกองทัพอากาศ (อาคารทองใหญ่) ถนนพหลโยธิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองค์มนตรีและรัฐบุรุษ เป็นประธานงานเลี้ยงรับรองเนื่องในวันกองทัพอากาศประจำปี 2556 โดยมีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพลอากาศเอกประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้การต้อนรับ ซึ่งภายในงานมี พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตลอดจน ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้ช่วยทูตทหารประเทศต่างๆเข้าร่วมงาน ทั้งนี้เมื่อพลเอกเปรม เดินทางมาถึงนายกฯรมว.กลาโหม และผบ.ทอ. ได้ลงมาต้อนรับ โดยนายกฯซึ่งสวมชุดราตรียาวสีเทาฟ้า ได้ยกมือสวัสดีพลเอกเปรม ซึ่งพลเอกเปรมก็ได้ทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนที่จะหันไปทักทายรมว.กลาโหม และผบ.ทอ. ก่อนพากันขึ้นมาที่ห้องงานเลี้ยงรับรองนายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอขอบคุณและแสดงความชื่นชมกองทัพอากาศที่มีความมุ่งมั่นในการปฎิบัติภารกิจ ด้านการพิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตยของชาติ และความมั่นคงของรัฐ ให้ความร่วมมือที่ดีกับรัฐบาลในการทำงานที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ประชาชน ตลอดเวลาที่ผ่านมา เช่น การจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจ การเฝ้าระวังการเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติตลอด 24 ชั่วโมง การทำฝนหลวง การแก้ปัญหาอุบัติภัยต่างๆ รวมถึงการแก้ปัญหายาเสพติด และการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการช่วยเหลือคนไทยในต่างแดน จากสถานการณ์วิกฤติหลายครั้ง ด้วยความทุ่มเท และรวดเร็วทันต่อสถานการณ์ สร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทย และการทำงานของภาครัฐ ตลอดเวลาที่ผ่านมากองทัพอากาศ และบุคลากรปฏิบัติหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้ข้อจำกัดของทรัพยากรและงบประมาณ แต่สามารถปรับตัวและรองรับสถานกรณ์ได้ รวมถึงความท้าทายต่างๆ ที่กองทัพอากาศทำได้ประทับใจ ซึ่งเป็นเพราะระบบที่ดีภายใต้ผู้บังคับบัญชาที่มีความรู้ความสามารถมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลในการทำงานและสร้างจิตสำนึกให้กับกำลังพล รวมทั้งการหล่อหลอมวัฒนธรรมองค์กรที่เข้มแข็งในการปฎิบัติภารกิจอย่าง จริงจัง ตนเชื่อมั่นว่าด้วยประสบการณ์ องค์ความรู้ และความมุ่งมั่นตั้งใจจะทำให้กองทัพอากาศสามารถเผชิญหน้าความท้าทายในทุกๆ ด้าน ตลอดจนการปฏิบัติภารกิจในการคุ้มครองรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติ พัฒนาประเทศ ดูแลประชาชนได้พ้นจากทุกข์ภัยอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐบาลยินดีสนับสนุนและส่งเสริมในการสร้างขีดความสามารถของกองทัพอากาศ เพื่อให้บรรลุถึงวิสัยทัศน์ในการเป็นกองทัพอากาศชั้นนำในภูมิภาคอาเซียน และขอยืนยันว่ารัฐบาลจะทำงานร่วมกันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยไม่ย่อท้อ เพื่อสร้างความเจริญก้าวหน้าให้กับประเทศ และแก้ปัญหาให้กับประชาชนต่อไป. 

ทำสำเนาคำร้องเรืองไกรร้อง8ตลก.-ปชป. ปมพิจารณา ม.68 แล้ว

ทำสำเนาคำร้องเรืองไกรร้อง8ตลก.-ปชป. ปมพิจารณา ม.68 แล้ว
โฆษกศาล รธน.เผย จนท.ทำสำเนาคำร้อง เรืองไกร ร้องตุลาการ ปมพิจารณา รธน.ม.68 แล้ว ปัดบรรจุเข้าวาระประชุมหรือไม่ ชี้ยังตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมจะมีมติ...วันที่ 9 เม.ย. นายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีคำร้องของ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เนื่องจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคฯ ได้ส่ง นายวิรัตน์ กัลยาศิริ และพวก ส.ส.พรรค ปชป. รวม 11 คน เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 68 และมาตรา 237 ตามสัดส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ เนื่องจากเห็นว่า การกระทำของนายวิรัตน์และพวก เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 หรือไม่ ว่า ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ จะทำสำเนาคำร้องส่งให้คณะตุลาการทั้ง 9 คน ก่อนที่จะมีการประชุมพิจารณาคำร้องดังกล่าว ทั้งนี้ ยังไม่ทราบว่าจะมีวาระการประชุมเมื่อไหร่เมื่อถามถึงเนื้อหาในคำร้องที่ระบุว่า คัดค้านไม่ให้คณะตุลาการทั้ง 8 คน เข้าร่วมการพิจารณา ยกเว้น นายจรัญ ภักดีธนากุล เนื่องจากเห็นว่า ตุลาการทั้ง 8 คน มีส่วนได้ส่วนเสียกับการพิจารณาคำร้อง และคณะตุลาการจะดำเนินการอย่างไร นายพิมล กล่าวว่า เรื่องการพิจารณาคำร้องต้องขึ้นอยู่กับที่ประชุมว่าจะมีมติอย่างไร ซึ่งตนไม่สามารถตอบได้ ต้องรอฟังผลจากที่ประชุมเท่านั้น.

Blog Archive