Wednesday, April 24, 2013

โภคินยัน แก้ม.68 แค่ปรับให้ชัด ปูทางสอบองค์กรอิสระ

โภคินยัน แก้ม.68 แค่ปรับให้ชัด ปูทางสอบองค์กรอิสระ
“โภคิน พลกุล ”ยัน แก้ รธน.ม.68 แค่ปรับให้ชัด เหตุไม่มีช่องทางตรวจสอบองค์กรอิสระ  ด้าน “บวร” แนะ กำหนดกรอบเวลาให้ อสส. ดูคำร้อง เพราะที่ผ่านมาล่าช้า จนต้องไปร้องตรง ศาล รธน.  วันที่ 24 เม.ย. ที่ห้อง 219 อาคารรัฐสภา 2 มีการประชุมคณะกรรมาธิการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 68 และ มาตรา 237 ที่มี นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี เป็นประธาน โดยในวันนี้ มีการเชิญผู้ร้อง อาทิ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม ส.ว.สรรหา นายบวร ยสินธร ราษฎรอาสา และฝ่ายผู้ถูกร้อง อาทิ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี นายโภคิน พลกุล ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เข้าชี้แจง กรณีมีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 โดยนายโภคิน ชี้แจงว่า มาตรา 68 เรื่องการให้ประชาชน ใช้สิทธิ์ยื่นเรื่องร้องเรียน โดยที่ไม่ผ่านอัยการสูงสุด เพียงช่องทางเดียวนั้น จะทำให้เกิดปัญหา เพราะหากอัยการสูงสุด พิจารณาว่า ไม่มีมูล แต่ศาลรัฐธรรมนูญ กลับวินิจฉัยว่ามีมูลนั้น หรือ มีการวินิจฉัยที่กลับกัน ตนขอถามว่า จะมีผลผูกพันต่อความเห็นของ อัยการสูงสุด หรือไม่ และมองว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา68 เป็นการแก้ไขให้เกิดความชัดเจน เพราะหากให้ศาลรัฐธรรมนูญ เป็นผู้รับเรื่องโดยตรง แล้วมีผู้เห็นว่า ศาลดำเนินการเข้าข่ายล้มล้างการปกครองเช่นกัน ก็จะทำให้ประชาชน ไม่มีช่องทางการยื่นเรื่องร้องเรียน  ซึ่งตนมองว่า ขณะนี้ไม่มีช่องทางใด จะใช้ตรวจสอบองค์กรอิสระ ด้าน พล.อ.สมเจตน์ ชี้แจงว่า การที่ตนยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น ไม่ใช่ประเด็นจะอยู่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่เป็นประเด็น ที่ตนมีความระแวงว่า จะมีการล้มล้างการปกครอง ซึ่งข้อเท็จจริง จะเป็นแบบนี้หรือไม่ ก็ไม่ทราบ แต่ระยะเวลาขณะนี้ ยังไม่สมควรแก้รัฐธรรมนูญ เพราะควรสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ต่อสังคมให้เกิดความเชื่อใจกันก่อน ด้าน นายบวร กล่าวว่า การที่ตนต้องยื่นเรื่องศาลรัฐธรรมนูญนั้น เนื่องจากตนได้ยื่นเรื่องต่ออัยการสูงสุดแล้ว แต่กลับดำเนินการล่าช้า ไม่มีคำตอบ ให้กับตน จึงทำให้ต้องยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งอัยการสูงสุด คือ ปัญหา จึงควรแก้ไขที่จุดนี้ โดยเสนอให้มีการกำหนดกรอบเวลาการพิจารณา คำร้องของอัยการสูงสุด และเรื่องที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ก็อย่าตัดสิทธิ์ประชาชน ที่จะยื่นเรื่อง โดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ.

ไม่มีคนรับ รัฐสภาตีกลับหนังสือแจงปมแก้รธน.

ไม่มีคนรับ รัฐสภาตีกลับหนังสือแจงปมแก้รธน.
โฆษกศาลเผยรัฐสภาตีกลับหนังสือแจงปมแก้รธน. เหตุไม่มีสส.-สว.มารับ ระบุขึ้นอยู่กับ ตุลาการตัดสินใจ ด้าน วสันต์ลั่นไม่สนแดงชุมนุมกดดันหน้าศาล พบมี จนท.บันทึกภาพ-เสียงม็อบนายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่า ในวันที่ 24 เม.ย.56 ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้รับหนังสือแจ้งจากสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักเลขาธิการวุฒิสภา กรณีที่ทางสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้มีหนังสือลงวันที่ 11 เม.ย. แจ้งให้ ส.ส. และ ส.ว. 312 คน เป็นผู้ถูกร้องคดีนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสั่งระงับการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และมาตรา 237 ได้ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากลับมายังศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับหนังสือ โดยสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักเลขาธิการวุฒิสภา ได้แจ้งให้ส.ส.-ส.ว. ทั้ง 312 คน มารับหนังสือของศาลรัฐธรรมนูญที่หน้าห้องประชุมรัฐสภาในการประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ไม่มีส.ส.และส.ว. มารับหนังสือดังกล่าวประกอบกับขณะนี้เป็นช่วงปิดสมัยประชุมทางสำนักงาน เลขาธิการฯ จึงไม่อาจนำส่งเอกสารของศาลรัฐธรรมนูญให้กับสมาชิกรัฐสภาได้ โดยได้ส่งหนังสือดังกล่าวกลับมาให้สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการจัดส่งให้ กับผู้ถูกร้องเอง ซึ่งกำลังทำบันทึกแจ้งต่อประธานศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร หรือจะนำเข้าหารือในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่าผู้ถูกร้องพยายามจะไม่รับหนังสือแจ้งจากศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อจะได้ไม่ต้องจัดทำคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา นายพิมล กล่าวว่า ข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาและการทำคำวินิจฉัย พ.ศ.2550 ข้อ 31 ระบุว่า การส่งคำร้อง ประกาศ หรือเอกสารอื่นใด ให้ส่งแก่คู่กรณีหรือผู้เกี่ยวข้อง ณ ภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ปกติ หรือสถานที่ติดต่อแห่งใดแห่งหนึ่งตามที่คู่กรณีหรือผู้เกี่ยวข้องได้แจ้งไว้ ในกรณีไม่อาจดำเนินการได้ให้ ศาลมีอำนาจสั่งให้นำเอกสารดังกล่าว ปิดไว้ ณ ที่ทำการศาล หรือสถานที่ที่คู่กรณีแจ้งไว้ หรือให้ประกาศโดยวิธีอื่นใดตามที่ศาลเห็นสมควร และการปิดหรือการประกาศดังกล่าว ให้ถือว่าได้มีการส่งเอกสารโดยชอบแล้วนับแต่วันปิดหรือประกาศแล้ว ขณะที่ข้อ 29 ก็ระบุว่า กรณีผู้ถูกร้องไม่ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 นับแต่วันรับสำเนาคำร้อง หรือภายในระยะเวลาที่ศาลกำหนด หรือไม่มารับสำเนาคำร้องภายในกำหนดเวลา ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ดังนั้นก็ขึ้นอยู่กับประธานศาลรัฐธรรมนูญและคณะตุลาการว่าจะพิจารณาดำเนิน การตามข้อกำหนดข้อใดด้านนายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีกลุ่มแดงที่ชุมนุมหน้าศาลรัฐธรรมนูญว่า ส่วนตัวก็ไม่ได้รู้สึกกังวลอะไร เพราะคิดว่าน่าจะเป็นคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวมากกว่า เป็นแบบเดียวกับนางกรองทอง ทนทาน หรือ ดีเจป้อม อุดรธานี ที่ครั้งก่อนชุมนุมหน้ารัฐสภา ก็ด่าตนเสียหาย ตนก็ฟ้องศาลอาญาใน 4 ข้อหา ในฐานดูหมิ่นศาล ดูหมิ่นเจ้าพนักงานด้วยการโฆษณา โดยใช้ทนายจากสำนักงานทนายของพรรคเพื่อไทย คือสำนักงานทนายนิติทัศน์ศรีนนท์ ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีมีมูลประทับรับฟ้องนางกรองทองก็ยื่นขอประนีประนอม จะขอขมา ศาลสั่งเลื่อนไปพิจารณาในวันที่ 27 พ.ค.นี้ ซึ่งตนก็ยังไมได้ตัดสินใจว่าจะรับคำขอขมาหรือเปล่า ดังนั้นที่ชุมนุมกันหน้าสำนักงานอยู่ขณะนี้ก็กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นับตั้งแต่กลุ่มคนเสื้อแดงมาชุมนุมที่หน้าสำนักงานเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ทางสำนักงานก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการบันทึกภาพ บันทึกเสียงการปราศรัยโจมตีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไว้ทั้งหมด และกำลังอยู่ในการระหว่างการพิจารณารวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปสู่การฟ้องร้อง ดำเนินคดี อย่างไรก็ตามในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาล 2 ก็ได้มีการประสานไปยังผู้บริหารสำนักงานว่าจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไป ดูแลความปลอดภัยให้กับตุลาการแต่ละคน ทางสำนักงานก็ให้เป็นการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ในขณะนี้การดูแลความปลอดภัยของตุลาการฯยังคงเป็นไปตามปกติ

บิ๊กตู่ยันเขมรขอโทษแล้วเหตุยิงปืนชายแดน

บิ๊กตู่ยันเขมรขอโทษแล้วเหตุยิงปืนชายแดน
พล.อ.ประยุทธ์ เผยทหารกัมพูชาขอโทษแล้ว เหตุกำลังพลเมาขาดวินัย ยิงปืนชายแดนดึกที่ผ่านมา ขณะย้ำมีคำสั่งห้ามใช้ GT200 ในพื้นที่ภาคใต้นานแล้ว ใครฝ่าฝืนต้องถูกลงโทษ พร้อมระบุไม่มีทุจริตแน่นอน...ที่กองการบินขนส่งทหารบก เมื่อเวลา 07.20 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เตรียมเดินทางลงพื้นที่ จ.ปัตตานี พร้อม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อรับฟังความคืบหน้าการแก้ปัญหาในพื้นที่ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทาง โดยได้แสดงความเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์ในพื้นที่ช่วงครบรอบ 9 ปี เหตุการณ์ กรือเซะ ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามถึงการเจรจากับตัวแทนจากกลุ่ม BRN ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 เม.ย.นี้ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า การพูดคุยกับกลุ่มดังกล่าวยังเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ส่วนกรณีเครื่องตรวจหาวัตถุระเบิด GT200 ยืนยันว่าไม่มีการทุจริตใดๆ แต่ในพื้นที่ภาคใต้ไม่มีการนำมาใช้นานแล้ว นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่เกิดเสียงปืนดังขึ้นกว่า 30 นัดที่ชายแดน ทางทิศตะวันตกของ ช่องโดนเอาว์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ คืนที่ผ่านมา (24 เม.ย.) ว่า รับทราบเบื้องต้นว่ามีการติดต่อขออภัยในเรื่องดังกล่าวจากทางกัมพูชาแล้ว โดยเข้าใจว่ามีการเมาสุราเกิดขึ้น ส่วนทางการไทยไม่มีการตอบโต้ใดๆอย่างไรก็ตาม รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนที่ผ่านมา เวลา 20.25 น. เกิดเสียงปืนดังขึ้นยาวนานต่อเนื่องกว่า 30 นัดที่บริเวณช่องโดนเอาว์ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่ปัญหาเขาพระวิหาร โดยหลังจากมีเสียงปืนดังขึ้น ทหารฝ่ายไทย สังกัดกองพลทหารราบที่ 13 ที่ประจำในพื้นที่ตรงข้ามกับฐานทหารเขมร ได้รับคำสั่งให้อยู่ในที่ตั้งโดยไม่ต้องยิงตอบโต้ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีคำสั่งให้เฝ้าระวังการสร้างสถานการณ์อยู่แล้ว อีกทั้งเหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดจากทหารนอกแถวฝ่ายกัมพูชา หรือพวกที่ขาดวินัย ทหารไทยจึงนิ่ง และเฝ้าสังเกตการณ์เพียงเท่านั้นขณะที่มีรายงานว่า พ.อ.ธเนศ วงศ์ชะอุ่ม ผบ.หน่วยเฉพาะกิจ 1 (ผบ.ฉก.๑) กองกำลังสุรนารี ได้สั่งทหารไทยนิ่ง รอดู ไม่ต้องยิงโต้ตอบ แต่มีการประสานวิทยุถาม ผบ.หน่วยทหารเขมร ไปว่าเกิดอะไรขึ้น โดย ร้อยเอก ดิ วอน ผบ.ฐานทหารกัมพูชา ผบ.ฐานทหารกัมพูชา ได้ให้คำตอบว่า ทหารเขมรเมาเหล้า เลยเสียวินัย ยิงปืน จนต้องช่วยกันจับกุมตัวเอาลงไปจากแนว พร้อมขอโทษฝ่ายไทย และรับปากจะดูแลไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก.

Blog Archive