Saturday, April 24, 2010

คนดีเจรจาได้คนก่อการร้ายไม่เจรจาด้วย

คนดีเจรจาได้คนก่อการร้ายไม่เจรจาด้วย



คมชัดลึก : หลังจากการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนในสังคม






 หลังจากพฤติกรรมกักขฬะ ข่มขู่ ทำร้าย ทุกคนทุกฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย หลังจากใช้กองกำลังและอาวุธสงครามประหัตประหารคนไทยและทหารหาญ หลังจากยิงระเบิด ทำลายสถานที่ ชีวิตคนบริสุทธิ์ที่มีครอบครัวอยู่เบื้องหลัง หลังจากก่อการร้าย วินาศกรรม เสาไฟฟ้าแรงสูง ถังน้ำมันหลายล้านลิตร
 หลังจากทำตัวเป็นรัฐอิสระ สร้างป้อมค่าย ตั้งด่าน ตรวจค้น กักตัวใครต่อใครตามใจชอบ หลังจากทำลายเศรษฐกิจของชาติและภาพลักษณ์ของประเทศอย่างกู่ไม่กลับ หลังจากคนทั้งประเทศสาปแช่ง และเริ่มรู้ตัวว่า กำลังจะพ่ายแพ้ วันนี้ ขอเจรจา
 ฝ่ายสันติวิธีอาจชื่นชอบว่า นี่คือทิศทางแนวโน้มที่ดีของสังคม
 เคยคิดหรือไม่ว่า จะเป็นการส่งเสริมให้คนผิดได้ใจ ทำสิ่งเลวร้ายอะไรก็ได้ จะทำความเสียหายต่อประเทศแค่ไหน จะก่อการร้ายอย่างไม่เกรงกลัว จะฆ่าคนสักเท่าไหร่ก็ได้ สุดท้ายก็จบลงด้วยการเจรจาแล้วเลิกแล้วต่อกันไป
 แถมยังเป็นฝ่ายตั้งเงื่อนไขของการเจรจาด้วย ว่ารัฐบาลต้องยุบสภาใน 30 วัน และทวงถามบุญคุณด้วยว่า นี่เป็นการแสดงออกซึ่งสันติวิธี
 ช่างน่าชื่นชมเหลือเกิน
 วันนี้หากจะเจรจา ฝ่ายประชาชนขอตั้งเงื่อนไขบ้าง จะรับฟังหรือไม่
 1.ขอให้แกนนำมอบตัว และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม (ไม่มีเงื่อนไขว่าจะต้องประกันตัวได้ ให้ถือเป็นดุลพินิจของศาล)
 2.ถอนการชุมนุมจากแยกราชประสงค์ รื้อถอนสิ่งก่อสร้างแปลกปลอมออกไปให้หมด คืนกรุงเทพมหานครให้เป็นปกติสุขเสียก่อนจึงจะเริ่มกระบวนการเจรจา
 3.การเจรจาต้องเปิดเผยต่อสาธารณะเท่านั้น (มิเช่นนั้น อาจมีการเสนอประโยชน์กัน ใครจะวางใจได้) ส่วนจะมีการเจรจาย่อยนอกรอบ นั้นไม่ว่า เพราะถือว่าเป็นการเตรียมทางไปสู่การเจรจา
 4.ประเด็นเจรจา ต้องเจรจาเรื่องความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อธุรกิจร้านค้า โรงแรม ห้างสรรพสินค้าและธุรกิจต่อเนื่อง แกนนำจะรับผิดชอบเพียงไร (หากเงินที่ได้จากทักษิณ ไม่พอก็ต้องยึดทรัพย์ ฟ้องล้มละลาย)
 5.ประเด็นที่เจรจาไม่ได้ คือความผิดทางอาญา ความผิดในฐานะกบฏในราชอาณาจักร ความผิดฐานทำร้ายชีวิตผู้คน ความผิดฐานผู้ก่อการร้าย หรือจะมาขอนิรโทษกรรม เป็นเรื่องที่ไม่สามารถมาเจรจาต่อรองได้
 เอาแค่ 5 ประเด็นแค่นี้ ส่วนเรื่องยุบสภา ไม่ต้องมาพูดถึง เพราะยุบสภาเป็นเรื่องการใช้อำนาจบริหารของนายกรัฐมนตรี จะยุบหรือไม่ยุบเป็นเรื่องสถานการณ์ในสภา เวลาการยุบสภาไม่ใช่การซื้อผักผลไม้ในตลาดที่จะมาต่อรองว่า 15 บาท 30 บาท หรือจะกี่สิบบาทดี และการยุบสภาก็ต้องไม่มาจากการข่มขู่ ไม่เช่นนั้นวันหน้าพวกนักเลงหัวไม้ ก็จะออกมาข่มขู่กันบนถนนให้เห็นได้ไม่เว้นแต่ละวัน
 หากอยากจะเจรจานัก เงื่อนไขแค่นี้รับได้หรือไม่
 สมชัย ศรีสุทธิยากร
แทนสุทธิชัย  หยุ่น








ข่าวที่เกี่ยวข้องปูด"ทักษิณ"ช็อกอีกรอบหิ้วเลือด-ทีมหมอไปดูไบ'มาร์ค'กร้าวไม่รับข้อเสนอยุบสภา30วัน แฉ"มาร์ค"สั่ง"สุขุมพันธ์"ล้มการเจรจา "หมอตุลย์"ครวญถูกการ์ดเสื้อแดงล่าตัว ศอฉ.เร่งกดดันเสื้อแดงราชประสงค์ให้น้อยลง

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

อภิสิทธิ์เจอ 2 เด้ง ยุบพรรคยุบม็อบ

อภิสิทธิ์เจอ 2 เด้ง ยุบพรรคยุบม็อบ



คมชัดลึก : ก็ชัดเจนแล้วสำหรับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะที่ ศอฉ.มอบดาบอาญาสิทธิ์ ให้สั่งการใช้กำลัง เพื่อดำเนินการคลี่คลายการชุมนุมตามความเหมาะสม






 เมื่อมาถึงวันนี้ คงไม่ต้องถามว่า เมื่อใดถึงเรียกว่าเหมาะสมกันอีก
 ดูได้จากสารพัดกลุ่ม สารพัดสี จนมีกลุ่มหนึ่งถึงกับคิดได้ว่า "สี มัคคา" ผวนเป็นคำว่า "สามัคคี" ก็ไม่ได้เวลาเหมาะสมกันเสียทีนั่นแหละ
 แต่ท่าทีของ พล.อ.อนุพงษ์ ก็ยังคงยืนยันว่า การใช้ความรุนแรงไม่สามารถทำให้ปัญหาจบลง
 ย้ำว่า แนวทางแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด คือ การสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นในสังคม เพราะถือว่าทุกคนเป็นคนไทยด้วยกัน การใช้ความรุนแรงไม่ได้ทำให้ปัญหาหมดไป
 ตรงนี้เองที่ทำให้แรงบีบย้อนกลับไปยัง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะผู้นำรัฐบาลในทันที
 เพราะชัดเจนแล้วว่า กองทัพขยับเพียงแค่ให้เห็นว่าไม่ได้อยู่เฉย แต่จะให้ถึงขั้นสลายการชุมนุมนั้น ถึงวันนี้คงต้องทำใจว่า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
 ถึงแม้ในวันนี้ ผู้ชุมนุมแบะท่าว่าพร้อมเจรจา หลังจาก เมธี อมรวุฒิกุล แกนนำสายฮาร์ดคอร์ ถูกรวบพร้อมอาวุธปืนกลของทหารที่หายไป และเปิดปากให้การจนสิ้นไส้ จนทำให้ผู้ชุมนุมเริ่มไม่พอใจ ไม่สนุกกับมุกของนักโต้วาที พร้อมกับมีกระแสข่าวว่า สามเกลอพยายามขอลี้ภัย
 ท่าทีจาก ศอฉ.ก็ยังรีรอจังหวะว่า ต้องให้เหลือเฉพาะผู้ก่อการร้ายเท่านั้น โดยที่ไม่มีข่าวสารใดๆ ที่จะยืนยันว่า ศอฉ.รู้หมดแล้วว่าผู้ก่อการร้ายคือใคร
 นั่นยิ่งชัดว่า การปล่อยให้สถานการณ์ค่อยๆ คลี่คลายด้วยตัวมันเอง คือทางที่ถูกเลือกไว้ตั้งแต่แรก ไม่ว่าจะคลี่คลายด้วยอาการฝ่อของม็อบเสื้อแดงเอง ที่อาจเจอกับปัจจัยหลายๆ อย่าง หรือกระทั่งมีกลุ่มประชาชนคนที่ไม่เห็นด้วยเดินออกมา และกล้าที่จะปะทะกับคนเสื้อแดงตรงๆ สร้างเงื่อนไขให้ทหารออกมายึดอำนาจ...นั่นก็คือ สิ่งที่คาดการณ์ไว้แต่แรก
 ยิ่งไปกว่านั้น กำหนดนัดแน่นอนของ กกต.ที่จะส่งคดี 29 ล้านบาท ให้ศาลรัฐธรรมนูญ หลังมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ยุบพรรคประชาธิปัตย์...เงื่อนไขนี้ก็จะยิ่งสร้างความมั่นใจให้กองทัพ โดยเฉพาะ พล.อ.อนุพงษ์ ว่า จะทำให้ "การเมืองแก้ด้วยการเมือง"
 เพราะในพรรคประชาธิปัตย์เอง แม้จะมั่นใจว่า คดี 258 ล้านบาท หากจะผิดก็ผิดเฉพาะตัวบุคคล แต่กรณีเงินบริจาคจากกองทุนพรรคการเมือง 29 ล้านบาทนี้ ยากที่จะหลีกพ้นชะตากรรมจริงๆ
 นั่นหมายความว่า การเตรียมการภายในพรรคจะต้องมีในระดับหนึ่ง
 การเตรียมพร้อมระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลและการบริหารอำนาจและความสัมพันธ์กับกองทัพจะต้องมีในระดับที่วางใจได้
 เพราะความรุนแรงจากคดี 29 ล้านบาทนั้น น่าจะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาล ที่อาจจะถึงขั้นต้องไปโหวตหานายกรัฐมนตรีใหม่ หาก อภิสิทธิ์ ไม่อาจพ้นบ่วงกรรมนี้
 ประชาธิปัตย์ก้าวหน้า
 ประชาธิปัตย์ 54
 นั่นคือสิ่งที่เตรียมเอาไว้ในยามฉุกเฉิน ในคราวที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด วิบัติเป็น
 ชวน หลีกภัย กรณ์ จาติกวณิช
 นี่ก็คือ "คน" ที่เตรียมไว้ ในยามที่ อภิสิทธิ์ จำต้องยอมรับกติกาของบ้านเมืองหากที่สุดแล้วเป็นไปในท่วงทำนองนั้น
 แนวโน้มและความเป็นไปได้น่าจะเป็น ชวน ถึงแม้ว่าหลักการจะแข็งโป๊ก โดยเฉพาะเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ แต่หากเป็น กรณ์ ที่จำต้องวางมือจากการเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจคงจะไม่ใช่จังหวะที่ดีนัก
 แต่ในช่วงที่ปิดสมัยประชุมสภาพอดิบพอดี แรงกดดันจากเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ หรือกลุ่มผู้ชุมนุมก็คงจะเบาบาง เพราะเข้าสู่ฤดูการผลิต ก็คงจะทำให้รัฐนาวารอดพ้นไปได้สักระยะหนึ่ง ที่ว่ากันว่า อย่างน้อยก็ 6 เดือน
 ถ้าไปได้ถึงขนาดนั้น ก็เท่ากับว่า ใครที่อยากจะเกษียณอายุไปแบบชิลชิล เป็นที่รักใครชอบพอของเพื่อนพ้องน้องพี่ ทั้งคนที่มีสีไม่มีสี ก็คงได้สมใจกันล่ะ
 เพราะหาก กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตามกำหนด หรือหลังเล็กน้อย นับจากนั้นราว 1 เดือน ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาไต่สวนเสร็จพิพากษาเต็มที่ก็อาจเดือนครึ่ง
 ทีนี้ล่ะ คำครหาว่า "สองมาตรฐาน" ก็อาจจะหมดสิ้นไป พร้อมๆ กับความชอบธรรมในการชุมนุม หรือจะนัดชุมนุมกันอีกของคนเสื้อแดง
 นี่อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดของการเมืองในยามนี้
 ในยามที่การเจรจาไม่อาจเกิดขึ้นโดยที่สาธารณะไม่มีโอกาสรับรู้ว่า เนื้อหาที่ตกลงกันนั้นเป็นอย่างไร จะนิรโทษกรรม หรือไม่จะเอาผิดการกระทำที่เรียกว่า "ก่อการร้าย" อย่างไร
 ขณะเดียวกัน เหตุของทหาร หรือ ศอฉ. ที่พยายามแยกปลาออกจากน้ำ ก็เป็นเหตุผลที่น่าฟัง และต้องฟัง
 อาวุธปืนกลเกือบ 200 กระบอก ที่หายไปจากการปะทะกันเมื่อ 10 เมษายน เพิ่งจะได้คืนจาก เมธี เพียงกระบอกเดียว ประกอบกับการเตรียมพร้อมของคนเสื้อแดง หากการตัดสินใจเข้าสลายการชุมนุมเกิดขึ้น โอกาสที่จะเลือดนองแผ่นดินมีสูงยิ่ง ทั้งฝ่ายผู้ชุมนุมและทหาร
 ทางเดียวที่จะหลีกเลี่ยงการสูญเสียก็คือ การปิดล้อม และบีบพื้นที่ให้หดเล็กลง แต่นั่นก็ต้องใช้มาตรการที่เข้มงวด และเข้มแข็ง ไม่ใช่ปล่อยให้เข้า-ออกได้อย่างเสรีหน่อมแน้มอย่างทุกวันนี้
ศรุติ ศรุตา








ข่าวที่เกี่ยวข้องปูด"ทักษิณ"ช็อกอีกรอบหิ้วเลือด-ทีมหมอไปดูไบ'มาร์ค'กร้าวไม่รับข้อเสนอยุบสภา30วัน แฉ"มาร์ค"สั่ง"สุขุมพันธ์"ล้มการเจรจา เสื้อหลากสีเชียงใหม่รณรงค์ต้านยุบสภาตู่เปิดคำสั่งป๊อกจ้องสลายเสื้อแดง

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

แม้วทวิตอัดรัฐบาล ปัดเจรจาแดง ห่วงตั้งพล.อ.ประยุทธ์

แม้วทวิตอัดรัฐบาล ปัดเจรจาแดง ห่วงตั้งพล.อ.ประยุทธ์

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โผล่ทวิตโต้กระแสข่าวกำลังป่วยเป็นมะเร็ง ยันยังแข็งแรงดี ซัด รัฐบาล ไม่รับข้อเสนอยุบสภา 30 วัน ของแกนนำเสื้อแดง เพราะห่วง ไม่ได้ตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็น ผบ.ทบ.คนใหม่... พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาทวิตข้อความอีกครั้ง หลังหายหน้าหายตาไปเป็นระยะเวลานาน โดยระบุข้อความ สวัสดีประเทศไทยครับ ต้องขอโทษท่ีหายไปนานเพราะไม่อยากให้ถูกนำไป ผูกกับการเรียกร้องของพี่น้อง ผู้รักประชาธิปไตยและความเป็นธรรมซึ่งกำลังเรียกร้อง สิ่งท่ียิ่งใหญ่และสำคัญ กว่าเรื่องของผมมากมาย แต่ก็ไม่วายถูกปล่อยข่าวว่าเป็นมะเร็งขั้นท่ี 3 ต้องให้คีโมถึงกับชัก โถผมสงสารจังท่ีมันไม่จริงครับ  ผมสุขภาพแข็งแรงดีครับ ไม่ได้เจ็บป่วยอะไร หมอพระราม 9 ก็ไม่ได้บินมารักษาผมเหมือนท่ีปล่อยข่าว ที่ผ่านมาเดินทางไปหลายประเทศครับ แต่ก็ติดตามข่าว   เมืองไทยตลอดเวลา รู้สึกยกย่องแกนนำท่ียอมถอยจากให้ยุบสภาทันทีเป็น 30 วัน ซึ่งถ้ารวมรักษาการ เลือกตั้งอีกก็เป็น 90 วันเพราะไม่อยากเห็นคนไทยฆ่ากันเอง  แต่น่าเสียดายท่ีรัฐบาล ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงและส่งสัญญาณว่าจะปราบรัฐบาลคงห่วงงบประมาณเพราะกำลังเพลินและการแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธฯ เป็น ผบ.ทบ.แต่ไม่ห่วง  ประชาชนเลย สรุปว่ารัฐบาลและผู้ค้ำรัฐบาลไม่ได้มองคนเสื้อแดงเป็นคนไทยพร้อมใช้ กฎหมาย 2 มาตรฐานและอาวุธหนักกับคนเสื้อแดงเหมือนไม่ใช่ผู้มาเรียกร้อง


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

การ์ดแดงรุมยำพนง.ห้างบนรถไฟฟ้าชิดลม

การ์ดแดงรุมยำพนง.ห้างบนรถไฟฟ้าชิดลม



คมชัดลึก :การ์ดนปช.รุมยำพนักงานขายเครื่องสำอาง เซ็นทรัลชิดลม บนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ลากตัวสอบหลังเวที ฐานขัดขืนค้นอาวุธ อีกรายวินจยย.รับส่งเสื้อแดง ถูกยำเสียเองฐานจอดรถขวาง ขณะที่"แดง"อุดรฯปิดถนนสกัดตร.สับเปลี่ยนกำลังเข้ากทม.






เมื่อเวลา 22.00 น.(24 เม.ย.) นายจักรกฤษณ์ มงคลรัตนสิทธิ์ อายุ 32 ปี พนักงานขายเครื่องสำอาง ภายในห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลชิดลม เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.มนต์ชัย นำสุข พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ลุมพินี หลังถูกการ์ด เสื้อแดงทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ  นายจักรกฤษณ์ ให้การว่า เมื่อเวลา 18.30 น.ขณะเดินออกจากที่ทำงานไปขึ้นสะพานลอยรถไฟฟ้าบริเวณแยกชิดลม พบชายฉกรรจ์ 5 คน บอกว่าเป็นการ์ดกลุ่มเสื้อแดงขอตรวจค้นกระเป๋า แต่เมื่อค้นแล้วไม่เจออะไร ตนจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีชิดลม เพื่อรีบกลับเพราะทราบว่าสถานีนี้จะปิดในเวลา 19.00น. เกรงว่าจะไม่ทันขบวนสุดท้าย 
"ระหว่างนั้นกลุ่มการ์ด นปช.กลับวิ่งตามขึ้นมาบนสถานี แล้วชายคนหนึ่งก็ล็อคจากด้านหลัง และอีก 4 คนที่เหลือก็รุมชกต่อยทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บมีรอยฟกช้ำที่ลำคอและแผ่นหลัง จากนั้นก็ยังถูกลากตัวไปสอบสวนที่เต็นท์ด้านหลังเวทีใหญ่แยกราชประสงค์สักพัก เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรกลุ่มคนเหล่านี้จึงยอมปล่อยตัวออกมา ตนมจึงตัดสินใจเดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ" 
ต่อมา นายเดช ฮาดทักษ์วงศ์ อายุ 36 ปี รปภ.ของ บจก.ไทยเซ็นเตอร์การ์ด ย่านบางกะปิ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.มนต์ชัย เพื่อแจ้งความว่า ถูกกลุ่มการ์ดเสื้อแดงและพระสงฆ์ รุมทำร้ายร่างกายบริเวณใกล้แยกราชประสงค์  โดยนายเดช กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุชวนเพื่อนขับรถ จยย.มาจากที่ทำงานเพื่อจะมาหารายได้พิเศษด้วยการวิ่งรถจักรยานยนต์รับ-ส่งผู้ชุมนุมเสื้อแดง บริเวณแยกราชประสงค์ เมื่อมาถึงก็มีผู้แนะนำให้พวกตนขับรถเข้าไปลงทะเบียนและรับค่าน้ำมันกับเจ้าหน้าที่เสื้อแดงด้านในพื้นที่ชุมนุม แต่ขณะที่กำลังจะขับรถผ่านด่าน การ์ดเสื้อแดงบริเวณแยกราชประสงค์เข้าไปนั้น ก็ถูกบรรดาการ์ดกันไว้
"จากนั้นหัวหน้าการ์ดที่ชื่อ "จ่ายักษ์" ก็ขี่รถ จยย.ซ้อนแฟนสาวออกมาพอดี และแสดงความไม่พอใจที่ รถ จยย.พวกตนจอดขวางทางออก  "จากนั้นจ่ายักษ์ได้เอากระบองออกมาตีผมและเพื่อน ก่อนที่บรรดาการ์ด และพระสงฆ์ ที่อยู่ในบริเวณนั้นกว่า 30 คน ก็เข้ามารุมทำร้ายด้วยกระบองและไม้คมแฝกจนฟกช้ำไปทั้งตัว หลังเกิดเหตุผมได้ไปพบแพทย์ที่ รพ.จุฬาฯ ก่อนเดินทางมาแจ้งความส่วนเพื่อนอีกคนที่ร่วมชะตากรรมขณะนี้ไม่รู้ว่าถูกการ์ดพาตัวไปที่ไหนแล้ว"นายเดช กล่าว 
ด้าน พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงมาปักหลักรวมตัวกันชุมนุมบริเวณแยกราชประสงค์ ได้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ว่า ถูกการ์ดเสื้อแดงทำร้ายร่างกายรวมทั้งสิ้น 3 ราย ส่วนใหญ่อาการจะแค่บอบช้ำไม่มีใครถึงขั้นสาหัส ซึ่งผู้เสียหายทุกรายไม่สามารถจดจำใบหน้าคนร้ายได้ ตำรวจจึงลงบันทึกรับคดีว่าเป็นชายไทยไม่ทราบชื่อเป็นผู้ก่อเหตุ โดยหลังจากนี้ถ้าหากมีผู้เสียหายรายใดจดจำใบหน้าคนร้ายได้อย่างชัดเจน ก็จะพาตัวไปสเก็ตซ์ภาพเพื่อออกหมายจับและติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป   
นอกจากนี้เวลา 22.00 น.(24 เม.ย.)กลุ่มคนเสื้อแดงในเขต อ.โนนสะอาด , กุมภวาปี และ อ.เมือง ได้ทยอยเดินทางมาที่จุดตรวจจุดสกัดของบนถนนมิตรภาพอุดร-ขอนแก่น ฝั่งทางไป จ.ขอนแก่น ในเขต อ.โนนสะอาด ช่วงหน้าโรงพยาบาลโนนสะอาด หลังจากที่กำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานีจาก 6 สถานี จำนวน 178 นาย ได้ออกเดินทางออกจากกองบังคับการตำรวจภูธรจังหัดอุดรธานี โดยรถตู้ 10 คัน และรถ 6 ล้อ ขนสัมภาระอีก 1 คัน
จนกระทั่งเวลา 23.00 น.กลุ่มคนเสื้อแดง ได้รวมตัวกว่า 200 คน ปิดถนนตรงช่วงบริเวณดังกล่าว ในขณะที่รถขนกำลังเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึง โดยกลุ่มคนเสื้อแดงไม่ยอมให้รถตำรวจ และรถที่สัญจรไปมาผ่าน ในขณะที่กลุ่มคนเสื้อแดงจากต่างอำเภอ และจาก จ.หนองคาย , หนองบัวลำภู และสกลนคร เดินทางมาสมทบอีกว่า 150 คน โดยไม่ยอมให้รถของเจ้าหน้าที่ตำรวจผ่านไปโดยเด็ดขาด ท่ามกลางบรรยากาศที่ตึงเครียด
พ.ต.อ.ดุสิต ทองวิเศษ ผกก.สภ.สร้างคอม ในฐานะ ผบ.พันตำรวจ ที่เป็นหัวหน้าคณะเดินทาง ได้ลงมาอธิบายกับกลุ่มคนเสื้อแดงว่า การนำกำลังตำรวจเข้า กทม.เพื่อสับเปลี่ยนกำลัง กับตำรวจของ ภ.จว.อุดรธานี ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ กทม.ได้กลับมาพัก แต่กลุ่มคนเสื้อแดงก็ไม่ยอมให้ผ่านไป พร้อมกับให้นำรถและเจ้าหน้าที่ทั้งหมด กลับไปจอดที่ สภ.โนนสะอาด และทำการปล่อยลมยางรถทุกคัน
จากนั้น พ.ต.อ.สมเกียรติ เกิดจงรักษ์ , พ.ต.อ.ศักดา วงศ์วิริยานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี , พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ จำรัสประเสริฐ ผกก.โนนสะอาด ได้เดินทางมาเจรจากับกลุ่มคนเสื้อแดง โดยได้อธิบายว่า เป็นการสับเปลี่ยนกำลังตามปกติ ไม่ได้นำตำรวจลงไปสมทบ เพื่อทำการสลายกลุ่มผู้ชุมนุมที่ กทม. แต่กลุ่มคนเสื้อแดงไม่รับฟัง โดยบอกว่าจะไม่ให้มีการเคลื่อนกำลังตำรวจ และรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคันเดินทางออกจาก สภ.โนนสะอาด พร้อมนำรถกระบะติดเครื่องขยายเสียง มาจอดที่หน้า สภ.โนนสะอาด และปราศรัยโจมตีการทำงานของตำรวจและทหาร ที่สลายการชุมนุมที่ กทม.เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา
แกนนำของคนเสื้อแดงเขต ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี ที่เป็นอดีตนายตำรวจชั้นประทวน ได้เป็นตัวแทนเจรจากับคณะนายตำรวจ โดยได้รับคำยืนยันว่า จะไม่ให้กำลังตำรวจเดินทางเข้า กทม.ทางกลุ่มผู้ชุมนุมจึงพอใจ และพากันออกไปที่บริเวณถนนมิตรภาพ เพื่อทำการตั้งด่านตรวจรถยนต์ที่ผ่านมา โดยใช้เวลาพูดคุยกับแกนนำกว่า 2 ชั่วโมง
ต่อมาเวลา 02.00 น.วันที่ 25 เมษายน หลังจากสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย พ.ต.อ.สมเกียรติฯ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้ขึ้นรถกระบะ 4 ปะตู ประจำตำแหน่ง ตราโล่ เพื่อจะเดินทางกลับ โดยมีนักการเมืองท้องถิ่น นั่งรถไปด้วย ซึ่งพลฯขับ ได้ขับออกไป ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงได้ตะโกนว่า มีตำรวจขับรถออกไป และแห่กรูไปที่รถของ รอง ผบก.กว่า 100 คน และมีการนำกระบะมาขับปิดกั้นทางออก จนรถไม่สามารถเคลื่อนออกไปได้ และคนเสื้อแดงได้ทำการปล่อยลมยางรถยนต์ทั้ง 4 ล้อ ต้องจอดทิ้งไว้
จากนั้น พ.ต.อ.สมเกียรติฯ ได้เปิดประตูรถ และเดินออกไปยังถนนมิตรภาพ ท่ามกลางกลุ่มคนเสื้อแดง ที่ตะโกนร้องบอกกันว่า มีตำรวจจะขับรถออกไป ซึ่งคนเสื้อแดงที่ได้ยิน ต่างก็แห่เดินตาม ในขณะที่มีบางส่วนก็ตะโกนร้องด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย
โดย พ.ต.อ.สมเกียรติฯ ได้เดินออกมาห่างจาก สภ.โนนสะอาด ประมาณ 1 กิโลเมตร ในขณะที่มีคนเสื้อแดงบางส่วน ที่รับฟังคำอธิบายจากตำรวจที่เดินออกมาด้วยว่า พ.ต.อ.สมเกียรติฯ ต้องเดินทางกลับ เนื่องจากมีงานที่ต้องปฏิบัติตอนเช้า รวมถึงยังมีคนเสื้อแดง กำลังเดินทางมาชุมนุมที่บริเวณหน้าศาลากลาง จ.อุดรธานี จึงบอกให้คนเสื้อแดงที่ตามมากลับไปที่หน้า สภ.โนนสะอาด และได้นำรถส่วนตัวมารับ พ.ต.อ.สมเกียรติฯ ไปส่งในตัวเมืองเอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นเวลา 03.00 น.กลุ่มคนเสื้อแดงจากต่างอำเภอ และจังหวัดต่าง ๆ ของภาคอีสานตอนบน ได้ทยอยเดินทางมา รวมทั้งกลุ่มคนเสื้อที่ที่ไปชุมนุมที่หน้าศาลากลาง พร้อมนำกรวยและแผงปิดกั้น มาปิดช่องทางจราจรบนถนนมิตรภาพ หน้า สภ.โนนสะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร เดินทางเข้า กทม. โดยตัวแทนคนเสื้อแดงบอกว่า ที่จุด อ.โนนสะอาด เป็นจุดยุทธศาสตร์ ที่จะสมารถสกัดกำลังตำรวจหรือทหาร จาก จ.อุดรธานี , หนองบัวลำภู , หนองคาย และสกลนคร ในการเดินทางเข้า กทม. โดยจะมีการทยอยเดินทางมาร่วมสมทบอีกเป็นจำนวนมาก








ข่าวที่เกี่ยวข้องอภิสิทธิ์เจอ 2 เด้ง 'ยุบพรรค-ยุบม็อบ'คมเลนส์ส่องพระประจำวันอาทิตย์ที่24เมษายน ๒๕๕๓เดินหน้า..."วินาศกรรม" เต็มรูปแบบปูด"ทักษิณ"ช็อกอีกรอบหิ้วเลือด-ทีมหมอไปดูไบนักสู้ทิ้งเวทีหนีเอาตัวรอด

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Blog Archive