
การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งที่ผ่านมา เมื่อปี 2552 มีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 4.1 ล้านคน แต่ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งทั้งสิ้นเพียง 2.1 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 51.1 อีกกว่า 2 ล้านคน ไม่ออกมาใช้สิทธิ์ มีความพยายามกระตุ้นคนที่ไม่สนใจโลกภายนอก ไม่รู้สึกว่าสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองนั้นเป็นอย่างไรอย่างต่อเนื่อง นักวิชาการถึงกับใช้คำเรียกที่หรูหรา น่าชื่นชมแทนคนกลุ่มนี้ว่า "พลังเงียบ" เสียด้วยซ้ำไป การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งล่าสุด ในจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์นั้น แบ่งเป็นผู้ที่เลือกผู้สมัครจาก พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 9.3 แสนคน เลือกผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย จำนวน 6.1 แสนคน เลือกผู้สมัครอิสระและงดออกเสียง จำนวน 5.6 แสนคน จากคะแนนเสียงของทั้ง 2 พรรครวมกันแล้วได้ 1,540,000 คน ประมาณว่าเป็นฐานเสียงที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ 5 แสนคน เป็นฐานเสียงที่เลือกพรรคเพื่อไทย 5 แสนคน ส่วนอีก 5.4 แสนคน เลือกตามกระแสนิยม ! ตรงนี้นี่เองที่ทำให้เกิดช่องว่าง เกิดโอกาสให้แก่ผู้สมัครอิสระ ยิ่งมีกระแสความขัดแย้งของสองพรรคการเมืองใหญ่ ที่สร้างความเบื่อหน่ายให้แก่คนเมืองหลวง ก็มีแนวโน้มว่า ผู้คนที่เลือกตามกระแสนิยมนั้นอาจจะสวิงไปหาผู้สมัครอิสระ หากย้อนกลับไปดูจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี วันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ก็จะพบว่า มีผู้มาใช้สิทธิ์เพิ่มขึ้นกว่า 9 แสนคน พลังเงียบขยับแล้ว ! ตรงนี้จึงทำให้มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มขึ้นสำหรับผู้สมัครที่สังกัดพรรคการเมือง ดังนั้น หากแยกแยะปัจจัยที่จะเพิ่มโอกาสให้แก่ผู้สมัครอิสระแล้วก็จะเป็นดังนี้ -ผู้ใช้สิทธิ์ที่เคยเลือกผู้สมัครอิสระ และงดออกเสียง -ผู้ใช้สิทธิ์ที่เคยเลือกตามกระแสนิยม (Swing Vote) เบื่อปัญหาความขัดแย้ง -พลังเงียบที่ออกมาใช้สิทธิ์เพิ่มมากขึ้น (จำนวน 9 แสนคน) จากทั้ง 3 ปัจจัยที่ว่านั้น ประมาณเสียงคร่าวๆ ได้ราว 1.9 ล้านคน อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนั้นยังต้องดูว่า มีปัจจัยอื่นใดที่จะมากระตุ้นให้แต่ละส่วนเกิดการเปลี่ยนแปลงได้อีก นั่นย่อมหมายความว่า โอกาสของผู้สมัครอิสระในการเลือกตั้งครั้งนี้คงบอกได้ว่า "มีลุ้น" ย้อน5สมัยดูคะแนนผู้สมัครอิสระ ย้อนกลับไปดูสถิติการเลือกผู้ว่าฯ กทม. 5 ครั้งหลังสุด จะพบว่า ถึงแม้จะมี พิจิตต รัตตกุล เพียงคนเดียว ที่ลงในนามอิสระได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้สมัครอิสระจะไม่มีโอกาส การเลือกตั้งเมื่อ 2 มิถุนายน 2539 มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ร้อยละ 43.53 1.นายพิจิตต รัตตกุล ผู้สมัครอิสระ 768,994 คะแนน 49.47% 2.พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พรรคพลังธรรม 514,401 คะแนน 33.09% 3.ร.อ.กฤษฎา อรุณวงษ์ ณ อยุธยา ผู้สมัครอิสระ 244,002 คะแนน 15.70% 4.นายอากร ฮุนตระกูล ผู้สมัครอิสระ 20,985 คะแนน 1.35% 5.นายวรัญชัย โชคชนะ ผู้สมัครอิสระ 1,011 คะแนน 0.07% การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2543 มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ร้อยละ 58.87 1.นายสมัคร สุนทรเวช พรรคประชากรไทย 1,016,096 คะแนน 45.85% 2.สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ พรรคไทยรักไทย 521,184 คะแนน 23.52% 3.นายธวัชชัย สัจจกุล พรรคประชาธิปัตย์ 247,650 คะแนน 11.17% 4.พันเอกวินัย สมพงษ์ ผู้สมัครอิสระ 145,641 คะแนน 6.57% 5.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ผู้สมัครอิสระ 132,608 คะแนน 5.98% การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2547 มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ร้อยละ 62.5 1.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน พรรคประชาธิปัตย์ 911,441 คะแนน 38.20% 2.นางปวีณา หงสกุล ผู้สมัครอิสระ (ลาออกจากพรรคชาติพัฒนา) 619,039 คะแนน 25.95% 3.นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครอิสระ 334,168 คะแนน 14.01% 4.ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผู้สมัครอิสระ 165,761 คะแนน 6.95% 5.ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์ ผู้สมัครอิสระ 135,369 คะแนน 5.67% การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2551 มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ร้อยละ 54.18 1.นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน พรรคประชาธิปัตย์ 991,018 คะแนน 45.93% 2.นายประภัสร์ จงสงวน พรรคพลังประชาชน 543,488 คะแนน 25.19% 3.นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ผู้สมัครอิสระ 340,616 คะแนน 15.79% 4.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ผู้สมัครอิสระ 260,051 คะแนน 12.05% 5.นางลีนา จังจรรจา ผู้สมัครอิสระ 6,267 คะแนน 0.29% การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2552 มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ร้อยละ 51.10 1.หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร พรรคประชาธิปัตย์ 934,602 คะแนน 45.41% 2.นายยุรนันท์ ภมรมนตรี พรรคเพื่อไทย 611,669 คะแนน 29.72% 3.หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล อิสระ 334,846 คะแนน 16.27% 4.นายแก้วสรร อติโพธิ กลุ่มกรุงเทพฯ ใหม่ 144,779 คะแนน 7.03% 5.นางลีนา จังจรรจา อิสระ 9,043 คะแนน 0.44% ............ (หมายเหตุ : โอกาสของผู้สมัครอิสระ : เกาะติดเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.)