Friday, December 21, 2012

มท.เปิดศูนย์ฯอำนวยการ 7วันอันตราย ลดยอดตาย-เจ็บ

มท.เปิดศูนย์ฯอำนวยการ 7วันอันตราย ลดยอดตาย-เจ็บ
ชัจจ์ เตรียมเปิดศูนย์ฯ ช่วง 7 วันอันตราย 27 ธ.ค.นี้ ตั้งเป้ายอดตาย-เจ็บลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ เน้นดูแลถนนสายรอง พร้อมเข้มงวดผู้ขับขี่ที่เมาสุราเป็นพิเศษ...เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. ที่โรงแรมแม็กซ์ ถ.พระรามเก้า พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย พร้อมด้วย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เป็นประธานเปิดกิจกรรมรณรงค์ ก้าวสู่ปีใหม่อย่างปลอดภัย ร่วมใจลดอุบัติเหตุ Drink Dont Drive หรือ ดีดีดี โดยจะเป็นการรณรงค์แจกสติกเกอร์และเข็มขัด Drink Dont Drive แก่สมาชิกผู้นำ อป.พร. เพื่อประชาสัมพันธ์ เตือนสติประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ให้เกิดจิตสำนึกรับผิดชอบทางสังคม คือ เมื่อดื่มสุราไม่ควรขับขี่ยานพาหนะ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการเกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตของประชาชน และที่สำคัญเพื่อลดอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่ยานพาหนะพล.ต.ท.ชัจจ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังได้กำชับศูนย์อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อป.พร.) ทุกระดับ ร่วมลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556 โดยให้จัดกำลัง อป.พร.เฝ้าระวังตามจุดเสี่ยง และให้พร้อมปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุในทุกพื้นที่ รวมทั้งให้เป็นแกนนำรณรงค์และสนธิกำลังประจำจุดตรวจ ตั้งด่าน สนับสนุนการตรวจจับผู้กระทำผิดกฎหมายจราจร และอำนวยความสะดวกในการเดินทางตามจุดบริการต่างๆ ทั้งถนนสายหลักและถนนสายรอง สำหรับ 7 วันอันตราย ในช่วงระหว่างวันที่ 27 ธ.ค. 55-2 ม.ค. 56  นอกจากนี้ พล.ต.ท.ชัชจ์ ยังให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการป้องกันอุบัติเหตุในช่วงปีใหม่ว่า การดูแลจะเน้นดูแลในถนนสายรอง โดยให้กรมทางหลวงชนบทดูแล นอกจากนั้น จะเพิ่มจำนวนการตั้งด่านตรวจเพิ่มขึ้นทั่วประเทศ 1,000 จุด โดยจะเข้มงวดผู้ขับขี่ที่เมาสุราเป็นพิเศษ ทั้งนี้ มท.จะดำเนินการเปิดศูนย์อำนวยการป้องกันและบรรเทาอุบัติเหตุทางถนน 2556 ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.นี้ ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จนถึงวันที่ 3 ม.ค. 56 จะปิดศูนย์ฯ เพื่อรวบรวมผลการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม สำหรับป้องกันอุบัติเหตุในปีนี้ ตั้งเป้าลดลอุบัติเหตุลงร้อยละ 5 ส่วนการติดตามสถานการณ์เบื้องต้น ยังไม่มีรายงานว่าจะมีอุบัติภัยหรือเหตุการณ์พิเศษ ที่จะเกิดขึ้นช่วงเทศกาลปีใหม่นี้.

สดศรี เชื่อประชามติวุ่น หัวหมอตีความข้อกฎหมาย

สดศรี เชื่อประชามติวุ่น หัวหมอตีความข้อกฎหมาย
“สดศรี” ชี้ประชามติส่อเค้าวุ่นวายหลังคนหัวหมอออกมาตีความข้อกฎหมาย หวั่น ปชช.เกิดความสับสน แนะหากรัฐเดินหน้าทำประชามติ ต้องชัดเจนในเรื่องดังกล่าว...วันที่ 21 ธ.ค. นางสดศรี สัตยธรรม กกต. ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ กล่าวบรรยายพิเศษหัวข้อเกี่ยวกับการออกเสียงประชามติให้กับนักศึกษาหลักสูตร การพัฒนาการเมือง และการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) รุ่น 4 ตอนหนึ่งว่า การเดินหน้าทำประชามติของไทยขณะนี้ ส่อเค้ามีปัญหาความวุ่นวาย เนื่องจากมีคนหัวหมอออกมาตีความรัฐธรรมนูญ มาตรา 165 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการออกเสียงประชามติ มาตรา 9 ถึงประเด็นจำนวนของการออกเสียง ซึ่งสร้างความสับสนให้กับประชาชนเป็นอย่างมากทั้งนี้ หากรัฐบาลจะเดินหน้าจัดทำประชามติ ต้องมีความชัดเจนในเรื่องประเด็นที่จะขอความเห็นจากประชาชน แม้ที่ผ่านมาจะเคยมีการทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ สมัย พล.อ.สุรยุทธ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี และกฎหมายประชามติที่มีปัจจุบันก็ยังไม่ได้มีผลบังคับใช้ อีกทั้งสภาวะบ้านเมืองขณะนี้มีความแตกแยกทางความคิดสูง การทำงานของรัฐบาลมีฝ่ายค้านคอยตรวจสอบ หรือเป็นการต่อสู้กันเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ สู้กันเพื่อประโยชน์ของแต่ละพรรคการเมือง ทำให้แต่ละค่ายออกมารณรงค์เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญไปในทิศทางที่ต่างกัน ดังนั้น การจะเอาผลคะแนนในการออกเสียงประชามติปี 50 มาเป็นตัวเทียบเคียงว่าการทำประชามติที่จะเกิดขึ้นว่าจะได้คะแนนเสียงที่เห็นชอบในการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงไม่ได้.

มาร์คแขวะพท.สับสน ยุรัฐคว่ำแก้รธน.-กม.ปรองดอง

มาร์คแขวะพท.สับสน ยุรัฐคว่ำแก้รธน.-กม.ปรองดอง
มาร์ค แนะ คว่ำ รธน.ก.ม.ปรองดอง ไปกับวันสิ้นโลก บ้านเมืองถึงเดินหน้าไปได้ ไม่เช่นนั้น ก็ติดหล่มขัดแย้ง แขวะเพื่อไทยยังสับสนแก้ รธน.  วันที่ 21 ธ.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เสนอแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ 9 ประเด็น แต่ยังไม่มีการแยกมาตรา และยืนยันว่า มาตรา 309 ไม่ใช่ ตัวปลดพันธะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้นั้น ตนไม่รู้ว่า 9 ประเด็น ที่ ร.ต.อ.เฉลิม ระบุ คืออะไรบ้าง แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะคิด แต่เท่าที่ฟังดู เหมือนกับว่า รัฐบาลยังไม่ตกผลึกเรื่องนี้ เพราะบางคนยังเดินหน้า ให้ทำประชามติ บางคนก็ให้แก้เป็นรายมาตรา แต่อะไรก็ตาม ที่ไม่ไปสร้างปมความขัดแย้งขึ้นมา ก็เป็นทางออกได้ทั้งนั้น ส่วนการแก้ไขมาตรา 309 ที่มองว่า จะทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณ หลุดพ้นจากคดีทุจริต เป็นเพราะรัฐบาลมีความคิดว่าเรื่องนี้ จะทำให้การทำงาน ของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) มีปัญหา ซึ่ง พ.ร.บ.ปรองดอง ที่รัฐบาลเสนอ ก็ขัดกับรัฐธรรมนูญใช้ไม่ได้ ทั้งมาตรา 309 และประเด็น คตส.ซึ่งจะทำให้เกิดประเด็นโต้แย้งขึ้นมาอีก ล้วนเกี่ยวข้องกับปัญหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งสิ้น จนทำให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมืองจนถึงขณะนี้ ผมจึงเน้นกับรัฐบาลว่า หากปล่อยเรื่องนี้ ไปกับวันสิ้นโลก ทุกอย่างจะได้เดินหน้าไปได้ เดี๋ยวสิ้นโลกแล้ว แต่ยังสิ้นคิดกันอยู่ ก็จะเป็นปัญหาไม่สิ้นสุด ถ้าไม่ปล่อยเรื่องนี้บ้านเมืองก็ติดหล่ม คนขัดแย้งกัน เราก็เสียโอกาสและนับวันจะเสียโอกาสมากขึ้นเรื่อยๆ จากการที่คนไม่มีความมั่นใจว่า บ้านเมืองจะเดินไปอย่างไรจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว.

Blog Archive