Sunday, June 13, 2010

เสธ.หนั่นส่งเมียให้กำลังใจไพฑูรย์ แก้วทอง

เสธ.หนั่นส่งเมียให้กำลังใจไพฑูรย์ แก้วทอง



คมชัดลึก : เสธ.หนั่น ส่งเมีย ตัวแทน ให้กำลังใจไพฑูรย์ แก้วทอง พ้นเก้าอี้รมว.แรงงาน ขณะที่คนพิจิตร กลุ่มแรงงาน แห่มอบดอกไม้งานเลี้ยงสังสรรค์ แน่นรร.ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ ฯ ฉวีวรรณ ขจรประศาสน์หยอดคำหวาน เสธ.หนั่น พร้อมหนุนไพฑูรย์ ส่วนเจ้าตัว ย้ำไม่น้อยใจ ชี้เข้าใจการเมืองแค่ตำแหน่งหมุนเวียน ปัดเสธ.ทาบร่วมพรรค กั๊ก อนาคตค่อยว่ากันหนุน ปชป. เสธ.หนั่น






(13 มิ.ย.) ที่ห้องจัดเลี้ยงธนบุรี โรงแรมริเวอร์ไซด์ บางพลัด กทม. วันที่ 13 มิ.ย.53 เวลา 12.00 น. สมาคมชาวพิจิตร และกลุ่มสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์กลุ่มต่างๆ กว่า 200 คน ร่วมงานเลี้ยง “ มุทิตาจิต รัฐมนตรีในดวงใจ ” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อการสังสรรค์ ขอบคุณและให้กำลังใจนายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีต รมว.แรงงาน และ ส.ส.พิจิตร 11 สมัย หลังพ้นจากตำแหน่ง รมว.แรงงาน โดยเป็นการจัดเลี้ยงอาหารบุฟเฟต์ มีวงดนตรีร้องเพลงขับกล่อมบนเวที ซึ่งชาวพิจิตร และตัวแทนกลุ่มแรงงานต่างๆ ได้นำดอกกุหลาบสีแดง สีชมพู รวมทั้งกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงกำลัง มามอบให้เป็นกำลังนายไพฑูรย์จำนวนไม่น้อย
 ขณะที่งานเลี้ยงครั้งนี้มีนางฉวีวรรณ ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาสมาคมชาวพิจิตร ภริยา พล.ต.สนั่น รองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นำกระเช้าดอกไม้มาร่วมให้กำลังใจนายไพฑูรย์ด้วย รวมทั้งกลุ่มเอกชนบริษัทจ้างงาน และข้าราชการรัฐวิสาหกิจ อาทิ นายอดิศร เกียรติโชควิวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ.)
 โดยนางฉวีวรรณ กล่าวบนเวทีว่า วันนี้เดินทางมาเป็นตัวแทนของ เสธ.หนั่น ซึ่งติดภารกิจต่างจังหวัด โดย เสธ.หนั่น มีความรักต่อนายไพฑูรย์ เหมือนพี่ น้อง วันนี้ เสธ.หนั่น จะคอยให้กำลังนายไพฑูรย์เป็นคนแรก ซึ่งคนพิจิตรมีความรักต่อกัน อย่างการเลือกตั้ง เสธ.หนั่น นายไพฑูรย์ และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ต่างก็ดูแลพื้นที่ของตนเอง ส่วนเรื่องที่นายไพฑูรย์ ถูกปรับออกจากตำแหน่ง รมว.แรงงาน คนพิจิตรก็เข้าใจเรื่องของสถานการณ์การเมือง ก็ไม่เป็นไรโดยวันนี้ตนเป็นตัวแทน เสธ.หนั่นมาให้กำลังใจนายไพฑูรย์แล้ว เพราะนายไพฑูรย์ เป็นนักการเมืองที่คนพิจิตรรักมากเหมือน เสธ.หนั่น
 ด้านนายไพฑูรย์ กล่าวขอบคุณทุกกลุ่มที่เดินทางมาให้กำลัง พร้อมระบุว่า แม้การเมืองจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตนไม่ได้รู้สึกน้อยใจอะไรที่ต้องถูกปรับออกจากตำแหน่ง รมว.แรงงาน เพราะตนไม่ได้ยึดติดอำนาจ วาสนา ตำแหน่งก็มักจะมีการหมุนเวียนกันไป ซึ่งตนอายุร่วม 70 ปีแล้วทำงานกับใครก็ไม่มีปัญหา อย่างนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.แรงงานคนใหม่ ก็ได้พูดคุยกันยังเรียกตนว่าพ่อเลย ขณะที่นโยบายการทำงาน นายเฉลิมชัยประกาศไว้แล้วว่า จะสานต่อนโยบายที่ตนเคยทำไว้ จึงคิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไรมาก อย่างไรก็ดีในการทำงานก็ต้องช่วยกันใน ครม. และต้องใช้เวลา โดยการทำงานของรัฐบาลจะเป็นที่พอใจหรือไม่ สุดท้ายเมื่อมีการเลือกตั้งจะเป็นเครื่องชี้วัด สำหรับคนพิจิตรเองราก็รักกันเหมือนพี่น้อง ซึ่งแม้ว่าตนจะไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังคงสถานะ ส.ส.พิจิตร ก็ต้องทำหน้าที่นี้ต่อไปในสภา ส่วนอนาคตการเมืองจะเป็นอย่างไร ต่อไปก็ต้องรอดูความเคลื่อนไหว
 ทั้งนี้นายไพฑูรย์ ยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่า ตนไม่รู้สึกน้อยใจ วันนี้ก็ถือเป็นการเลี้ยงสังสรรค์กลุ่มบุคคลที่ตนเคยร่วมทำงานด้วยและให้กำลังใจกัน ส่วนอนาคตการเมืองนั้น จากนี้ตนก็ลงพื้นที่ตามปกติ ซึ่งอนาคตจะไปร่วมงานกับพล.ต.สนั่น หากมีการทาบทาม หรือยังจะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์นั้น อนาคตค่อยมาพูดกันเวลานี้ไม่มีอะไร การที่นางฉวีวรรณ ภริยา พล.ต.สนั่น เดินทางมาวันนี้ ก็มาให้กำลังกันในฐานะคนพิจิตร ไม่มีการทาบทามอะไร
 เมื่อถามว่า ในการลงเลือกตั้งอนาคตนั้นจะมีความลำบากหรือไม่ หากยังไม่ได้ตัดสินใจอยู่ร่วมกับ พล.ต.สนั่น ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ด้วย นายไพฑูรย์ กล่าวว่า ก็ยอมรับว่าประชาชนอาจสับสนบ้างที่พื้นที่มี ส.ส.หลายกลุ่ม แต่ที่ผ่านมาคนพิจิตร เห็นแล้วว่าสามารถมี ส.ส.4 คน ที่อยู่ 3 พรรคได้








ข่าวที่เกี่ยวข้องพท.ปูดปชป.'เหนือ-ตะวันออก'จับมือฝ่ายค้าน คณิตยันนายกฯไว้ใจพร้อมทำหน้าที่ไม่หวั่นเสียงต้านพุธที่ 9 มิถุนายน 2553

ครม.คนรักมาร์ค เทพเทือกมั่นใจ7เสียงพผ.ยกมือผ่านงบฯ54แน่

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

บัวแก้วเตรียมเชิญองค์กรสิทธิฯฟังแผนปรองดอง

บัวแก้วเตรียมเชิญองค์กรสิทธิฯฟังแผนปรองดอง



คมชัดลึก : บัวแก้วแจงองค์การนิรโทษกรรมสากล ชูคณิตการันตีเป็นกลาง โปร่งใส






 (13มิ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ แถลงว่า เมื่อวันที่ 11มิ.ย.องค์การนิรโทษกรรมสากลทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ เรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์การชุมนุม โดยให้เป็นไปอย่างโปร่งใส เป็นกลาง ไม่มีการแทรกแซง และผู้เป็นกรรมการควรเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ เชี่ยวชาญด้านการสอบสวน และสาระการสอบสวนต้องครบถ้วน แต่ไม่ได้ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการสอบสวน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงว่า สาระต่าง ๆ ที่องค์การนิรโทษกรรมสากลเสนอมา เป็นเรื่องที่ตรงกับความตั้งใจของรัฐบาล ทั้งคนที่เป็นกลาง มีความรู้ความสามารถในการสืบสวนสอบสวน เช่นนายคณิต ณ นคร และมีอิสระในการตั้งกรรมการมาสอบ
 นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า ส่วนขั้นตอนการดำเนินงานในแผนปรองดองนั้น กระทรวงการต่างประเทศจะเชิญสื่อต่างชาติ คณะทูตานุทูต เข้ารับฟังการชี้แจง โดยเริ่มจากในสัปดาห์หน้า จะเชิญองค์กรสิทธิมนุษยชน เอ็นจีโอ เข้ามารับทราบรายละเอียด ส่วนในปลายเดือน มิ.ย. จะเชิญองค์การนิรโทษกรรมสากล คณะองค์กรระหว่างประเทศ องค์การสิทธิมนุษยชน มาชี้แจงต่อไป
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องสุเทพเตรียมดำเนินคดี"ตู่"กล่าวหาตั้งมวลชนต้านมาร์คชี้อานันท์ไม่ปฏิเสธร่วมปฏิรูปไทยมาร์คย้ำไม่ปรองดองกับผู้ก่อการร้าย"จตุพร"ขู่แดงลุกฮือรอบ3ถ้ารัฐไม่หยุดไล่ล่าแดงสุมไฟแค้นกองใหม่

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

มาร์คไม่อยากเห็นปชต.แค่เลือกตั้งม็อบวอนอปท.ช่วยปรองดอง

มาร์คไม่อยากเห็นปชต.แค่เลือกตั้งม็อบวอนอปท.ช่วยปรองดอง



คมชัดลึก : "อภิสิทธิ์ ชี้วิกฤตประเทศ นักการเมืองผิด ศรัทธาลด ไม่อยากเห็นประชาธิปไตยมีแค่การเลือกตั้ง และการเดินขบวน วอน อปท.นำแผนปรองดองไปสู่ท้องถิ่น






 เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 13 มิ.ย.2553 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี , นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมสามัญครั้งที่ 53 ประจำปี 2553 ของสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย(สทท.) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(มอ.)อ.หาดใหญ่ โดยมีนายกเทศมนตรีและปลัดเทศบาลทั่วประเทศประมาณ 4,500 คนร่วมประชุม
 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เทศบาลเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบหนึ่ง ที่มีพันธกิจและบทบาทครอบคลุมเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชน เป็นกลไกลในระดับท้องถิ่น ใกล้ชิดกับประชาชน และมีการทำงานสนองตอบประชาชนด้านการบริการสาธารณะ โดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นรากฐานของประชาธิปตย จึงเป็นองค์กรที่สำคัญต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน
 นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจมาตลอด ถึงแม้รัฐบาลบริหารประเทศได้ประมาณ 1 ปีเศษๆ ได้มีการผลักดันกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกครองส่วนท้องถิ่น ยังล่าช้าไปมาก เพราะสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง กฏหมายที่เกี่ยวกับท้องถิ่นที่ค้างอยู่ 4 ฉบับ ตนพยายามเร่งรัดให้เข้าสภาให้หมด ก่อนที่รัฐบาลจะหมดวาระ เช่น กฏหมายการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยการวางรากฐานของประชาธิปไตยให้แข็งแกร่ง ให้ประชาชนเข้าใจว่า ประชาธิปไตยที่มีมากกว่าการลงคะแนนเสียง และการเดินขบวน เมื่อไม่พอใจเท่านั้น
 นายอภิสิทธิ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การออกฏกหมายปกครองรูปแบบพิเศษเพิ่มมากขึ้น โดยในในเร็วๆนี้จะยกฐานะเทศบาลเมืองแม่สอด ให้เป็นการปกครองในรูปแบบพิเศษ เหมือนกับ กทม.และเมืองพัทยา เพราะเมืองการค้าชายแดนและลักษณะเศรษฐกิจเฉพาะ ให้อำนาจท้องถิ่นเพิ่มขึ้น เพื่อให้ท้องถิ่นเดินหน้าไม่หยุด
 อย่างไรก็ตาม ถือว่าโชคไม่ดีของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงที่วิกฤตเศรษฐกิจ รัฐบาลมีงบประมาณไม่พอ เก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้า 2 แสนล้านบาท ส่งผลให้เกิดอุปสรรคและปัญหาเรื่องงบประมาณที่จัดสรรให้กับท้องถิ่น จนส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของท้องถิ่น
 นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2554 สถานะการเงินการคลังของประเทศดีขึ้น มีการเก็บภาษีได้เกินกว่าเป้า การจัดสรรงบประมาณให้กับท้องถิ่นดีกว่าปี 2553 จะจัดสรรงบประมาณให้ท้องถิ่นเกินกว่าร้อยละ 25  นอกจากนี้เรื่องที่ตนจะฝากให้กับ อปท.คือเรื่องแผนฟื้นฟู ปรองดอง และการปฏิรูปประเทศ รัฐบาลยังมีวาระบริหารประเทศอีก 1 ปีกว่าๆ หากเหตุการณ์ทางการเมืองสงบ อาจจะมีการจัดการเลือกตั้งเร็วขึ้น แต่ตอบคำถามเกิดขึ้นว่า เมื่อเลือกตั้งให้เร็วขึ้นแล้ว ประเทศชาติได้อะไร หากขณะและหลังการเลือกตั้งยังมีความรุนแรง เกิดมีการยุบพรรค หรือกรรมการถูกตัดสิทธิทางการเมือง จะต้องมีการออกมาโววาย กล่าวหาคนโน้มคนนี้และนำไปสู่การชุมนุมประท้วงขึ้นอีก การเลือกตั้งไม่ได้แก้ปัญหาความขัดแย้ง
 “นักการเมืองไม่กระทบ นักการเมืองไม่ได้สูญเสียงชีวิต มีแต่ประชาชนที่มาชุมนุมทางการเมืองโดยบริสุทธิ์ ได้รับความเดือดร้อนทั้งด้านจิตใจ เศรษฐกิจและชีวิต แม้แต่ในเวลานี้หลายพื้นที่ยังไม่สงบ ส่งผลกระทบต่อท้องถิ่นทำให้การท่องเที่ยวซบเซา ท้องถิ่นมีรายได้ลดลง บางแห่งเทศบาลถูกเผา รถเทศบาลถูกทำลาย ต้องเอาเงินภาษีประชาชนมาจัดซื้อและสร้างใหม่ ”
 นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า ความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่มีความต้องการเห็นประเทศเดินหน้า มีความสงบและสันติ ให้มีการฟื้นฟูสังคมและจิตใจก่อ แผนนปรองดอง 5 ข้อ อปท.มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และส่งเสริมสวัสดิการให้กับชุมชน แต่บางคนยังเข้าใจผิด ว่าการปรองดองคือการเอาคนผิดมาทำให้ถูก ปรองดองต้องอิงหารเมือง คำว่าการปรองดองคือการเอาจุดแข็งที่มีอยู่มาหลอมรวม ระดมสรรพกำลังที่มีทางสังคมและจิตใจมาหลอมรวม เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนให้ประเทศชาติเดินหน้า
 นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ตนยอมรับว่าสื่อในปัจจุบันทั้งในท้องถิ่นและส่วนกลางมีบทบาทมาก ให้วงการสื่อช่วยกัน 2 เรื่องคือให้ทุกสื่อเป็นสื่อแท้จริง ไม่ตั้งขึ้นเพื่อการเมือง ยุยงให้ใช้ความรุนแรง บิดเบือนข้อเท็จจริงและให้เกิดเกลียดชังฝ่ายตรงกันข้าม และประการสุดท้ายให้องค์กรสื่อกำหนดบทบาทและหน้าที่สื่อให้ชัดเจน
 “มีคำกล่าวว่าปัญหาของประเทศทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจากการเมือง ดังนั้นนักการเมืองทุกคนผิด นายกและสมาชิกสภาเทศบาลและ สส.มาจากการเลือกตั้ง ก็เป็นนักการเมืองผิด มาทบทวนว่าการเมืองที่ก่อให้เกิดความแตกแยก ให้เกิดความเสียหายและที่สุดนำไปสู่ความเสื่อมความศรัทธา ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟื้นฟูอยากที่สุด คือความศรัทธานักการเมือง มาช่วยกันสร้างการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย การเลือกตั้งต้องโปร่งใส มีความรับผิดชอบและไม่เอาความรุนแรง นักการเมืองมาทุกคนมากอบกู้วิกฤตเพื่อให้ประเทศพ้นวิกฤต ”
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องมาร์คย้ำไม่ปรองดองกับผู้ก่อการร้ายอภิสิทธิ์แจงเป็นเรื่องศอฉ.นิรโทษฯเสื้อแดงทนายทักษิณโจมตีรบ.ไม่น่าเชื่อถือสอบสลายม็อบ ปฏิรูปสื่อปูทางไปสู่เผด็จการหรือ"อภิสิทธิ์"? มาร์คชี้แผนปรองดองคนไทยเกิน95%ต้องร่วมมือ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

นายกฯวอนอปท.ร่วมสร้างรากฐานประชาธิปไตย

นายกฯวอนอปท.ร่วมสร้างรากฐานประชาธิปไตย

นายกรัฐมนตรี เปิดงานประชุมใหญ่สันนิบาตทั่วประเทศ ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อ้อนนายกเล็ก ร่วมแผนปรองดอง สร้างรากฐานประชาธิปไตยที่ถูกให้กับประชาชนในประเทศ...เมื่อเวลาประมาณ 13.10 น. วันที่ 13 มิ.ย.2553ที่หอประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานการประชุมใหญ่สันติบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 53 มีผู้ร่วมติดตาม เช่น นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นายศิริโชค โสภา โดยมีนายวิญญู ทองสกุล ผวจ.สงขลา นายประภัสร์ ภู่เจริญ นายกสมาคมสันนิบาตแห่งประเทศไทย นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และคณะผู้บริหารเทศบาลทั่วประเทศประมาณ 3,000 คน ให้การต้อนรับ  นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวบรรยายพิเศษในเรื่องการกระจายอำนาจรัฐไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ว่า ตนเองเป็นผู้ให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจ มาตลอด และส่งเสริมการปกครองโดยประชาธิปไตยไปสู่ฐานราก นอกจากนั้นยังตั้งใจที่จะผลักดันกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนา อปท.มากขึ้น คือ การให้ประชาชนมีส่วนร่วมในของประชาชนในการบริหาร อปท. เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในส่วนของ อปท.มากที่สุด และการจะทำให้ประชาธิปไตยฝังลึกได้นั้น ประชาชนต้องมีส่วนร่วมมากขึ้น ไม่ใช่ว่าจะมีแต่มาเลือกตั้ง และก็มาชุมนุมเดินขบวนเวลาได้รับความเดือดร้อน และ การเริ่มต้นในการจัด อปท.รูปแบบพิเศษ ที่มีความต้องการเฉพาะในเขตพิเศษในการบริหารเศรษฐกิจตามแนวชายแดน ท้องถิ่นจะสามารถใช้อำนาจพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ โดยให้ทางรัฐบาลกลางโอนอำนาจผ่านมาให้ โดยไม่ต้องออกแก้ไขเป็น พรบ. ส่วนเรื่องการจัดสรรงบประมาณนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าช่วงที่ตนเองเข้ามาบริหารประเทศ ต้องเจอกับปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาอย่างดีที่สุด ข้อจำกัดของงบประมาณ มีมาจากปัญหาเมื่อปลายที่ 2551 ซึ่งตอนนี้งบสำรองของรัฐบาลเหลืออยู่ประมาณ 7,000 พันล้านบาท ซึ่งจะต้องเก็บไว้เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนให้มากที่สุด และขอให้มั่นใจว่าการจัดสรรงบประมาณในปลาย 2554 น่าจะดีขึ้นแน่นอน ซึ่งได้มีการชี้แจงให้กับคณะกรรมาธิการในส่วนของรัฐบาลและของพรรคทราบแล้ว เพื่อให้ช่วยสนับสนุนแล้ว แต่ตอนนี้ก็กังวลในเรื่องของการแปรญัตติในสภาผู้แทนราษฎร แต่ให้มั่นใจว่ารัฐบาลพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจแต่จะไม่ให้กระเทือนกับ อปท. ส่วนเรื่องการขับเคลื่อนแผนการฟื้นฟูประเทศ การปฏิรูป และแผนการปรองดองในชาติ นายกรัฐมตรี กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นเรื่องของการเมือง หากสถานการณ์บ้านเมืองมีความสงบ มีความเหมาะสม และการเลือกตั้งจะเป็นการช่วยเดินหน้า หรือการแก้ไขปัญหาของประเทศได้ เป็นการตนเองไม่ปฏิเสธที่จะเลือกตั้งเร็วขึ้น มันต้องตอบคำถามได้ว่า ทำไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติหรือไม่ หากมีการเลือกตั้งแล้วมีความรุนแรง ก็จะเป็นการทำลายกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศ เลือกตั้งแล้วยังมีความขัดแย้ง ในเรื่องของกฎหมายเลือกตั้ง ยังมีการโต้แย้งกันอยู่ เราก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร ดังนั้นการตัดสินใจในทางการเมืองของรัฐบาล ไม่ได้คิดถึงเรื่องผลทางการเมืองในระหว่างพรรค แต่คิดว่าจะทำยังไงให้บ้านเมืองเราเดินไปข้างหน้า ในลักษณะที่สงบ สันติ มีการยอมรับทุกฝ่าย เพราะที่สุดเมื่อเกิดความวุ่นวายทางการเมือง ความเสียหาย ความสูญเสียก็จะเกิดขึ้นกับประชาชน ไม่ได้เกิดกับนักการเมือง ล่าสุดต้องมีการสูญเสียถึงแก่ชีวิตก็เป็นประชาชน ท้องถิ่นก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ตนเองมั่นใจ100 เปอร์เซ็นต์ ว่าความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ อยากเห็นว่าทำอย่างไรประเทศไทยจะเดินหน้าได้ และให้มีความสงบ สันติ ทำอย่างไรให้ทุกอย่างเป็นปกติ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวอีกว่า รัฐบาลถูกมองว่าเป็นคู่กรณี และหากว่าปัญหาเกิดจากการเมือง นักการเมืองทั้งหมดต้องรับผิดชอบ แผนปรองดอง แผนฟื้นฟู แผนการปฏิรูป ยืนยันว่าไม่ใช่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นความพยายามที่จะรักษาการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นการเมืองที่ต้องมีรัฐสภา มีนิติรัฐ นิติธรรม แผนปรองดองทั้ง 5 ข้อ นั้น จะสำเร็จได้ ต้องไม่ใช่นายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาล แต่จะสำเร็จได้ก็ต้องเป็นประชาชนทุกภาคส่วน และไม่ได้อยู่แค่เพียง 5 ข้อ ประชาชนสามารถนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นได้ ซึ่งก็อยากจะฝากให้ทาง อปท.ช่วยกันสอดส่องดูแล อย่าให้ใครมาทำการยุยง ปลุกปั่น บิดเบือนข้อมูลต่าง ๆ แล้วก็นำไปเผยแพร่ ให้เกิดความเข้าใจผิดและขัดแย้งกัน อย่างเช่นมีอยู่ในบางพื้นที่  สุดท้ายนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า หากปัญหาทั้งหมดมีการบอกว่ามาจากการเมือง ผู้บริหาร อปท.ทั้งหมด ก็มาจากการเมือง ดังนั้นต้องมาช่วยกันทบทวนว่า การเมืองแบบไหนที่ทำให้ประเทศ สังคมเดินหน้าได้ แบบไหนสร้างความรุนแรง เสียหายให้กับประเทศ และตนเองเชื่อว่า อปท.มีแนวความคิดที่ดีอีกเยอะ ที่จะสามารถช่วยรัฐบาลได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้อยู่ที่ศรัทธาของประชาชน คือสิ่งที่ยากที่สุดที่แก้ไขได้ เรานักการเมืองทุกภาคส่วนต้องมาร่วมกัน ที่จะต้องกอบกู้ ฟื้นฟูศรัทธาของประชาชน ที่จะปฏิรูปเพื่อที่จะให้ประเทศเดินหน้าได้ และมีการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยโปร่งใส มีความรับผิดชอบ และเป็นการเมืองที่ไม่ใช้ความรุนแรง อันจะนำมาซึ่งความสงบสันติ เพื่อให้ประเทศพ้นจากวิกฤต ตนเองจึงขอความร่วมมือในฐานะเพื่อนนักเมืองด้วยกัน เพื่อให้ความสมานฉันท์ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง เพื่อสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ ที่เป็นประชาธิปไตยอยู่ในขณะนี้ และเพื่อให้เป็นไปตามแผนปรองดองที่รัฐบาลมีความตั้งใจดำเนินการต่อไป หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ก็ได้เดินทักทายผู้เข้าร่วมประชุม ก่อนจะเดินทางกลับโดยมีการคุ้มกันเข้มงวด


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

มาร์คชี้ปชต.ไม่ใช่แค่เลือกตั้งก่อม็อบ

มาร์คชี้ปชต.ไม่ใช่แค่เลือกตั้งก่อม็อบ



คมชัดลึก : "อภิสิทธิ์ ชี้วิกฤตประเทศนักการเมืองผิด ศรัทธาลด ไม่อยากเห็นประชาธิปไตยมีแค่การเลือกตั้ง และการเดินขบวน วอน อปท.นำแผนปรองดองไปสู่ท้องถิ่น






 เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 13 มิ.ย.2553 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี , นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมสามัญครั้งที่ 53 ประจำปี 2553 ของสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย(สทท.) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(มอ.)อ.หาดใหญ่ โดยมีนายกเทศมนตรีและปลัดเทศบาลทั่วประเทศประมาณ 4,500 คนร่วมประชุม
 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เทศบาลเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบหนึ่ง ที่มีพันธกิจและบทบาทครอบคลุมเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชน เป็นกลไกลในระดับท้องถิ่น ใกล้ชิดกับประชาชน และมีการทำงานสนองตอบประชาชนด้านการบริการสาธารณะ โดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นรากฐานของประชาธิปตย จึงเป็นองค์กรที่สำคัญต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน
 นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจมาตลอด ถึงแม้รัฐบาลบริหารประเทศได้ประมาณ 1 ปีเศษๆ ได้มีการผลักดันกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกครองส่วนท้องถิ่น ยังล่าช้าไปมาก เพราะสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง กฏหมายที่เกี่ยวกับท้องถิ่นที่ค้างอยู่ 4 ฉบับ ตนพยายามเร่งรัดให้เข้าสภาให้หมด ก่อนที่รัฐบาลจะหมดวาระ เช่น กฏหมายการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยการวางรากฐานของประชาธิปไตยให้แข็งแกร่ง ให้ประชาชนเข้าใจว่า ประชาธิปไตยที่มีมากกว่าการลงคะแนนเสียง และการเดินขบวน เมื่อไม่พอใจเท่านั้น
 นายอภิสิทธิ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การออกฏกหมายปกครองรูปแบบพิเศษเพิ่มมากขึ้น โดยในในเร็วๆนี้จะยกฐานะเทศบาลเมืองแม่สอด ให้เป็นการปกครองในรูปแบบพิเศษ เหมือนกับ กทม.และเมืองพัทยา เพราะเมืองการค้าชายแดนและลักษณะเศรษฐกิจเฉพาะ ให้อำนาจท้องถิ่นเพิ่มขึ้น เพื่อให้ท้องถิ่นเดินหน้าไม่หยุด
 อย่างไรก็ตาม ถือว่าโชคไม่ดีของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงที่วิกฤตเศรษฐกิจ รัฐบาลมีงบประมาณไม่พอ เก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้า 2 แสนล้านบาท ส่งผลให้เกิดอุปสรรคและปัญหาเรื่องงบประมาณที่จัดสรรให้กับท้องถิ่น จนส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของท้องถิ่น
 นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2554 สถานะการเงินการคลังของประเทศดีขึ้น มีการเก็บภาษีได้เกินกว่าเป้า การจัดสรรงบประมาณให้กับท้องถิ่นดีกว่าปี 2553 จะจัดสรรงบประมาณให้ท้องถิ่นเกินกว่าร้อยละ 25  นอกจากนี้เรื่องที่ตนจะฝากให้กับ อปท.คือเรื่องแผนฟื้นฟู ปรองดอง และการปฏิรูปประเทศ รัฐบาลยังมีวาระบริหารประเทศอีก 1 ปีกว่าๆ หากเหตุการณ์ทางการเมืองสงบ อาจจะมีการจัดการเลือกตั้งเร็วขึ้น แต่ตอบคำถามเกิดขึ้นว่า เมื่อเลือกตั้งให้เร็วขึ้นแล้ว ประเทศชาติได้อะไร หากขณะและหลังการเลือกตั้งยังมีความรุนแรง เกิดมีการยุบพรรค หรือกรรมการถูกตัดสิทธิทางการเมือง จะต้องมีการออกมาโววาย กล่าวหาคนโน้มคนนี้และนำไปสู่การชุมนุมประท้วงขึ้นอีก การเลือกตั้งไม่ได้แก้ปัญหาความขัดแย้ง
 “นักการเมืองไม่กระทบ นักการเมืองไม่ได้สูญเสียงชีวิต มีแต่ประชาชนที่มาชุมนุมทางการเมืองโดยบริสุทธิ์ ได้รับความเดือดร้อนทั้งด้านจิตใจ เศรษฐกิจและชีวิต แม้แต่ในเวลานี้หลายพื้นที่ยังไม่สงบ ส่งผลกระทบต่อท้องถิ่นทำให้การท่องเที่ยวซบเซา ท้องถิ่นมีรายได้ลดลง บางแห่งเทศบาลถูกเผา รถเทศบาลถูกทำลาย ต้องเอาเงินภาษีประชาชนมาจัดซื้อและสร้างใหม่ ”
 นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า ความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่มีความต้องการเห็นประเทศเดินหน้า มีความสงบและสันติ ให้มีการฟื้นฟูสังคมและจิตใจก่อ แผนนปรองดอง 5 ข้อ อปท.มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และส่งเสริมสวัสดิการให้กับชุมชน แต่บางคนยังเข้าใจผิด ว่าการปรองดองคือการเอาคนผิดมาทำให้ถูก ปรองดองต้องอิงหารเมือง คำว่าการปรองดองคือการเอาจุดแข็งที่มีอยู่มาหลอมรวม ระดมสรรพกำลังที่มีทางสังคมและจิตใจมาหลอมรวม เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนให้ประเทศชาติเดินหน้า
 นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ตนยอมรับว่าสื่อในปัจจุบันทั้งในท้องถิ่นและส่วนกลางมีบทบาทมาก ให้วงการสื่อช่วยกัน 2 เรื่องคือให้ทุกสื่อเป็นสื่อแท้จริง ไม่ตั้งขึ้นเพื่อการเมือง ยุยงให้ใช้ความรุนแรง บิดเบือนข้อเท็จจริงและให้เกิดเกลียดชังฝ่ายตรงกันข้าม และประการสุดท้ายให้องค์กรสื่อกำหนดบทบาทและหน้าที่สื่อให้ชัดเจน
 “มีคำกล่าวว่าปัญหาของประเทศทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจากการเมือง ดังนั้นนักการเมืองทุกคนผิด นายกและสมาชิกสภาเทศบาลและ สส.มาจากการเลือกตั้ง ก็เป็นนักการเมืองผิด มาทบทวนว่าการเมืองที่ก่อให้เกิดความแตกแยก ให้เกิดความเสียหายและที่สุดนำไปสู่ความเสื่อมความศรัทธา ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟื้นฟูอยากที่สุด คือความศรัทธานักการเมือง มาช่วยกันสร้างการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย การเลือกตั้งต้องโปร่งใส มีความรับผิดชอบและไม่เอาความรุนแรง นักการเมืองมาทุกคนมากอบกู้วิกฤตเพื่อให้ประเทศพ้นวิกฤต ”
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องมาร์คย้ำไม่ปรองดองกับผู้ก่อการร้ายอภิสิทธิ์แจงเป็นเรื่องศอฉ.นิรโทษฯเสื้อแดงทนายทักษิณโจมตีรบ.ไม่น่าเชื่อถือสอบสลายม็อบ ปฏิรูปสื่อปูทางไปสู่เผด็จการหรือ"อภิสิทธิ์"? มาร์คชี้แผนปรองดองคนไทยเกิน95%ต้องร่วมมือ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เสธ.หนั่นส่งเมียให้กำลังใจไพฑูรย์ แก้วทอง

เสธ.หนั่นส่งเมียให้กำลังใจไพฑูรย์ แก้วทอง



คมชัดลึก : เสธ.หนั่น ส่งเมีย ตัวแทน ให้กำลังใจไพฑูรย์ แก้วทอง พ้นเก้าอี้รมว.แรงงาน ขณะที่คนพิจิตร กลุ่มแรงงาน แห่มอบดอกไม้งานเลี้ยงสังสรรค์ แน่นรร.ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ ฯ ฉวีวรรณ ขจรประศาสน์หยอดคำหวาน เสธ.หนั่น พร้อมหนุนไพฑูรย์ ส่วนเจ้าตัว ย้ำไม่น้อยใจ ชี้เข้าใจการเมืองแค่ตำแหน่งหมุนเวียน ปัดเสธ.ทาบร่วมพรรค กั๊ก อนาคตค่อยว่ากันหนุน ปชป. เสธ.หนั่น






(13 มิ.ย.) ที่ห้องจัดเลี้ยงธนบุรี โรงแรมริเวอร์ไซด์ บางพลัด กทม. วันที่ 13 มิ.ย.53 เวลา 12.00 น. สมาคมชาวพิจิตร และกลุ่มสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์กลุ่มต่างๆ กว่า 200 คน ร่วมงานเลี้ยง “ มุทิตาจิต รัฐมนตรีในดวงใจ ” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อการสังสรรค์ ขอบคุณและให้กำลังใจนายไพฑูรย์ แก้วทอง อดีต รมว.แรงงาน และ ส.ส.พิจิตร 11 สมัย หลังพ้นจากตำแหน่ง รมว.แรงงาน โดยเป็นการจัดเลี้ยงอาหารบุฟเฟต์ มีวงดนตรีร้องเพลงขับกล่อมบนเวที ซึ่งชาวพิจิตร และตัวแทนกลุ่มแรงงานต่างๆ ได้นำดอกกุหลาบสีแดง สีชมพู รวมทั้งกระเช้าเครื่องดื่มบำรุงกำลัง มามอบให้เป็นกำลังนายไพฑูรย์จำนวนไม่น้อย
 ขณะที่งานเลี้ยงครั้งนี้มีนางฉวีวรรณ ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาสมาคมชาวพิจิตร ภริยา พล.ต.สนั่น รองนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา นำกระเช้าดอกไม้มาร่วมให้กำลังใจนายไพฑูรย์ด้วย รวมทั้งกลุ่มเอกชนบริษัทจ้างงาน และข้าราชการรัฐวิสาหกิจ อาทิ นายอดิศร เกียรติโชควิวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ( กฟภ.)
 โดยนางฉวีวรรณ กล่าวบนเวทีว่า วันนี้เดินทางมาเป็นตัวแทนของ เสธ.หนั่น ซึ่งติดภารกิจต่างจังหวัด โดย เสธ.หนั่น มีความรักต่อนายไพฑูรย์ เหมือนพี่ น้อง วันนี้ เสธ.หนั่น จะคอยให้กำลังนายไพฑูรย์เป็นคนแรก ซึ่งคนพิจิตรมีความรักต่อกัน อย่างการเลือกตั้ง เสธ.หนั่น นายไพฑูรย์ และนายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ต่างก็ดูแลพื้นที่ของตนเอง ส่วนเรื่องที่นายไพฑูรย์ ถูกปรับออกจากตำแหน่ง รมว.แรงงาน คนพิจิตรก็เข้าใจเรื่องของสถานการณ์การเมือง ก็ไม่เป็นไรโดยวันนี้ตนเป็นตัวแทน เสธ.หนั่นมาให้กำลังใจนายไพฑูรย์แล้ว เพราะนายไพฑูรย์ เป็นนักการเมืองที่คนพิจิตรรักมากเหมือน เสธ.หนั่น
 ด้านนายไพฑูรย์ กล่าวขอบคุณทุกกลุ่มที่เดินทางมาให้กำลัง พร้อมระบุว่า แม้การเมืองจะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตนไม่ได้รู้สึกน้อยใจอะไรที่ต้องถูกปรับออกจากตำแหน่ง รมว.แรงงาน เพราะตนไม่ได้ยึดติดอำนาจ วาสนา ตำแหน่งก็มักจะมีการหมุนเวียนกันไป ซึ่งตนอายุร่วม 70 ปีแล้วทำงานกับใครก็ไม่มีปัญหา อย่างนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.แรงงานคนใหม่ ก็ได้พูดคุยกันยังเรียกตนว่าพ่อเลย ขณะที่นโยบายการทำงาน นายเฉลิมชัยประกาศไว้แล้วว่า จะสานต่อนโยบายที่ตนเคยทำไว้ จึงคิดว่าจะไม่มีปัญหาอะไรมาก อย่างไรก็ดีในการทำงานก็ต้องช่วยกันใน ครม. และต้องใช้เวลา โดยการทำงานของรัฐบาลจะเป็นที่พอใจหรือไม่ สุดท้ายเมื่อมีการเลือกตั้งจะเป็นเครื่องชี้วัด สำหรับคนพิจิตรเองราก็รักกันเหมือนพี่น้อง ซึ่งแม้ว่าตนจะไม่ได้เป็นรัฐมนตรีแล้ว แต่ยังคงสถานะ ส.ส.พิจิตร ก็ต้องทำหน้าที่นี้ต่อไปในสภา ส่วนอนาคตการเมืองจะเป็นอย่างไร ต่อไปก็ต้องรอดูความเคลื่อนไหว
 ทั้งนี้นายไพฑูรย์ ยังให้สัมภาษณ์ด้วยว่า ตนไม่รู้สึกน้อยใจ วันนี้ก็ถือเป็นการเลี้ยงสังสรรค์กลุ่มบุคคลที่ตนเคยร่วมทำงานด้วยและให้กำลังใจกัน ส่วนอนาคตการเมืองนั้น จากนี้ตนก็ลงพื้นที่ตามปกติ ซึ่งอนาคตจะไปร่วมงานกับพล.ต.สนั่น หากมีการทาบทาม หรือยังจะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์นั้น อนาคตค่อยมาพูดกันเวลานี้ไม่มีอะไร การที่นางฉวีวรรณ ภริยา พล.ต.สนั่น เดินทางมาวันนี้ ก็มาให้กำลังกันในฐานะคนพิจิตร ไม่มีการทาบทามอะไร
 เมื่อถามว่า ในการลงเลือกตั้งอนาคตนั้นจะมีความลำบากหรือไม่ หากยังไม่ได้ตัดสินใจอยู่ร่วมกับ พล.ต.สนั่น ซึ่งเป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ด้วย นายไพฑูรย์ กล่าวว่า ก็ยอมรับว่าประชาชนอาจสับสนบ้างที่พื้นที่มี ส.ส.หลายกลุ่ม แต่ที่ผ่านมาคนพิจิตร เห็นแล้วว่าสามารถมี ส.ส.4 คน ที่อยู่ 3 พรรคได้








ข่าวที่เกี่ยวข้องพท.ปูดปชป.'เหนือ-ตะวันออก'จับมือฝ่ายค้าน คณิตยันนายกฯไว้ใจพร้อมทำหน้าที่ไม่หวั่นเสียงต้านพุธที่ 9 มิถุนายน 2553

ครม.คนรักมาร์ค เทพเทือกมั่นใจ7เสียงพผ.ยกมือผ่านงบฯ54แน่

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

บัวแก้วเตรียมเชิญองค์กรสิทธิฯฟังแผนปรองดอง

บัวแก้วเตรียมเชิญองค์กรสิทธิฯฟังแผนปรองดอง



คมชัดลึก : บัวแก้วแจงองค์การนิรโทษกรรมสากล ชูคณิตการันตีเป็นกลาง โปร่งใส






 (13มิ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการ รมว.ต่างประเทศ แถลงว่า เมื่อวันที่ 11มิ.ย.องค์การนิรโทษกรรมสากลทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ เรียกร้องให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์การชุมนุม โดยให้เป็นไปอย่างโปร่งใส เป็นกลาง ไม่มีการแทรกแซง และผู้เป็นกรรมการควรเป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ เชี่ยวชาญด้านการสอบสวน และสาระการสอบสวนต้องครบถ้วน แต่ไม่ได้ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในการสอบสวน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศขอชี้แจงว่า สาระต่าง ๆ ที่องค์การนิรโทษกรรมสากลเสนอมา เป็นเรื่องที่ตรงกับความตั้งใจของรัฐบาล ทั้งคนที่เป็นกลาง มีความรู้ความสามารถในการสืบสวนสอบสวน เช่นนายคณิต ณ นคร และมีอิสระในการตั้งกรรมการมาสอบ
 นายชวนนท์ กล่าวอีกว่า ส่วนขั้นตอนการดำเนินงานในแผนปรองดองนั้น กระทรวงการต่างประเทศจะเชิญสื่อต่างชาติ คณะทูตานุทูต เข้ารับฟังการชี้แจง โดยเริ่มจากในสัปดาห์หน้า จะเชิญองค์กรสิทธิมนุษยชน เอ็นจีโอ เข้ามารับทราบรายละเอียด ส่วนในปลายเดือน มิ.ย. จะเชิญองค์การนิรโทษกรรมสากล คณะองค์กรระหว่างประเทศ องค์การสิทธิมนุษยชน มาชี้แจงต่อไป
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องสุเทพเตรียมดำเนินคดี"ตู่"กล่าวหาตั้งมวลชนต้านมาร์คชี้อานันท์ไม่ปฏิเสธร่วมปฏิรูปไทยมาร์คย้ำไม่ปรองดองกับผู้ก่อการร้าย"จตุพร"ขู่แดงลุกฮือรอบ3ถ้ารัฐไม่หยุดไล่ล่าแดงสุมไฟแค้นกองใหม่

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

มาร์คไม่อยากเห็นปชต.แค่เลือกตั้งม็อบวอนอปท.ช่วยปรองดอง

มาร์คไม่อยากเห็นปชต.แค่เลือกตั้งม็อบวอนอปท.ช่วยปรองดอง



คมชัดลึก : "อภิสิทธิ์ ชี้วิกฤตประเทศ นักการเมืองผิด ศรัทธาลด ไม่อยากเห็นประชาธิปไตยมีแค่การเลือกตั้ง และการเดินขบวน วอน อปท.นำแผนปรองดองไปสู่ท้องถิ่น






 เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 13 มิ.ย.2553 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี , นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมสามัญครั้งที่ 53 ประจำปี 2553 ของสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย(สทท.) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(มอ.)อ.หาดใหญ่ โดยมีนายกเทศมนตรีและปลัดเทศบาลทั่วประเทศประมาณ 4,500 คนร่วมประชุม
 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เทศบาลเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบหนึ่ง ที่มีพันธกิจและบทบาทครอบคลุมเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชน เป็นกลไกลในระดับท้องถิ่น ใกล้ชิดกับประชาชน และมีการทำงานสนองตอบประชาชนด้านการบริการสาธารณะ โดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นรากฐานของประชาธิปตย จึงเป็นองค์กรที่สำคัญต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน
 นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจมาตลอด ถึงแม้รัฐบาลบริหารประเทศได้ประมาณ 1 ปีเศษๆ ได้มีการผลักดันกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกครองส่วนท้องถิ่น ยังล่าช้าไปมาก เพราะสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง กฏหมายที่เกี่ยวกับท้องถิ่นที่ค้างอยู่ 4 ฉบับ ตนพยายามเร่งรัดให้เข้าสภาให้หมด ก่อนที่รัฐบาลจะหมดวาระ เช่น กฏหมายการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยการวางรากฐานของประชาธิปไตยให้แข็งแกร่ง ให้ประชาชนเข้าใจว่า ประชาธิปไตยที่มีมากกว่าการลงคะแนนเสียง และการเดินขบวน เมื่อไม่พอใจเท่านั้น
 นายอภิสิทธิ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การออกฏกหมายปกครองรูปแบบพิเศษเพิ่มมากขึ้น โดยในในเร็วๆนี้จะยกฐานะเทศบาลเมืองแม่สอด ให้เป็นการปกครองในรูปแบบพิเศษ เหมือนกับ กทม.และเมืองพัทยา เพราะเมืองการค้าชายแดนและลักษณะเศรษฐกิจเฉพาะ ให้อำนาจท้องถิ่นเพิ่มขึ้น เพื่อให้ท้องถิ่นเดินหน้าไม่หยุด
 อย่างไรก็ตาม ถือว่าโชคไม่ดีของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงที่วิกฤตเศรษฐกิจ รัฐบาลมีงบประมาณไม่พอ เก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้า 2 แสนล้านบาท ส่งผลให้เกิดอุปสรรคและปัญหาเรื่องงบประมาณที่จัดสรรให้กับท้องถิ่น จนส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของท้องถิ่น
 นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2554 สถานะการเงินการคลังของประเทศดีขึ้น มีการเก็บภาษีได้เกินกว่าเป้า การจัดสรรงบประมาณให้กับท้องถิ่นดีกว่าปี 2553 จะจัดสรรงบประมาณให้ท้องถิ่นเกินกว่าร้อยละ 25  นอกจากนี้เรื่องที่ตนจะฝากให้กับ อปท.คือเรื่องแผนฟื้นฟู ปรองดอง และการปฏิรูปประเทศ รัฐบาลยังมีวาระบริหารประเทศอีก 1 ปีกว่าๆ หากเหตุการณ์ทางการเมืองสงบ อาจจะมีการจัดการเลือกตั้งเร็วขึ้น แต่ตอบคำถามเกิดขึ้นว่า เมื่อเลือกตั้งให้เร็วขึ้นแล้ว ประเทศชาติได้อะไร หากขณะและหลังการเลือกตั้งยังมีความรุนแรง เกิดมีการยุบพรรค หรือกรรมการถูกตัดสิทธิทางการเมือง จะต้องมีการออกมาโววาย กล่าวหาคนโน้มคนนี้และนำไปสู่การชุมนุมประท้วงขึ้นอีก การเลือกตั้งไม่ได้แก้ปัญหาความขัดแย้ง
 “นักการเมืองไม่กระทบ นักการเมืองไม่ได้สูญเสียงชีวิต มีแต่ประชาชนที่มาชุมนุมทางการเมืองโดยบริสุทธิ์ ได้รับความเดือดร้อนทั้งด้านจิตใจ เศรษฐกิจและชีวิต แม้แต่ในเวลานี้หลายพื้นที่ยังไม่สงบ ส่งผลกระทบต่อท้องถิ่นทำให้การท่องเที่ยวซบเซา ท้องถิ่นมีรายได้ลดลง บางแห่งเทศบาลถูกเผา รถเทศบาลถูกทำลาย ต้องเอาเงินภาษีประชาชนมาจัดซื้อและสร้างใหม่ ”
 นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า ความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่มีความต้องการเห็นประเทศเดินหน้า มีความสงบและสันติ ให้มีการฟื้นฟูสังคมและจิตใจก่อ แผนนปรองดอง 5 ข้อ อปท.มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และส่งเสริมสวัสดิการให้กับชุมชน แต่บางคนยังเข้าใจผิด ว่าการปรองดองคือการเอาคนผิดมาทำให้ถูก ปรองดองต้องอิงหารเมือง คำว่าการปรองดองคือการเอาจุดแข็งที่มีอยู่มาหลอมรวม ระดมสรรพกำลังที่มีทางสังคมและจิตใจมาหลอมรวม เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนให้ประเทศชาติเดินหน้า
 นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ตนยอมรับว่าสื่อในปัจจุบันทั้งในท้องถิ่นและส่วนกลางมีบทบาทมาก ให้วงการสื่อช่วยกัน 2 เรื่องคือให้ทุกสื่อเป็นสื่อแท้จริง ไม่ตั้งขึ้นเพื่อการเมือง ยุยงให้ใช้ความรุนแรง บิดเบือนข้อเท็จจริงและให้เกิดเกลียดชังฝ่ายตรงกันข้าม และประการสุดท้ายให้องค์กรสื่อกำหนดบทบาทและหน้าที่สื่อให้ชัดเจน
 “มีคำกล่าวว่าปัญหาของประเทศทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจากการเมือง ดังนั้นนักการเมืองทุกคนผิด นายกและสมาชิกสภาเทศบาลและ สส.มาจากการเลือกตั้ง ก็เป็นนักการเมืองผิด มาทบทวนว่าการเมืองที่ก่อให้เกิดความแตกแยก ให้เกิดความเสียหายและที่สุดนำไปสู่ความเสื่อมความศรัทธา ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟื้นฟูอยากที่สุด คือความศรัทธานักการเมือง มาช่วยกันสร้างการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย การเลือกตั้งต้องโปร่งใส มีความรับผิดชอบและไม่เอาความรุนแรง นักการเมืองมาทุกคนมากอบกู้วิกฤตเพื่อให้ประเทศพ้นวิกฤต ”
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องมาร์คย้ำไม่ปรองดองกับผู้ก่อการร้ายอภิสิทธิ์แจงเป็นเรื่องศอฉ.นิรโทษฯเสื้อแดงทนายทักษิณโจมตีรบ.ไม่น่าเชื่อถือสอบสลายม็อบ ปฏิรูปสื่อปูทางไปสู่เผด็จการหรือ"อภิสิทธิ์"? มาร์คชี้แผนปรองดองคนไทยเกิน95%ต้องร่วมมือ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

นายกฯวอนอปท.ร่วมสร้างรากฐานประชาธิปไตย

นายกฯวอนอปท.ร่วมสร้างรากฐานประชาธิปไตย

นายกรัฐมนตรี เปิดงานประชุมใหญ่สันนิบาตทั่วประเทศ ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา อ้อนนายกเล็ก ร่วมแผนปรองดอง สร้างรากฐานประชาธิปไตยที่ถูกให้กับประชาชนในประเทศ...เมื่อเวลาประมาณ 13.10 น. วันที่ 13 มิ.ย.2553ที่หอประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดงานการประชุมใหญ่สันติบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 53 มีผู้ร่วมติดตาม เช่น นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นายศิริโชค โสภา โดยมีนายวิญญู ทองสกุล ผวจ.สงขลา นายประภัสร์ ภู่เจริญ นายกสมาคมสันนิบาตแห่งประเทศไทย นายไพร พัฒโน นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ และคณะผู้บริหารเทศบาลทั่วประเทศประมาณ 3,000 คน ให้การต้อนรับ  นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวบรรยายพิเศษในเรื่องการกระจายอำนาจรัฐไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ว่า ตนเองเป็นผู้ให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจ มาตลอด และส่งเสริมการปกครองโดยประชาธิปไตยไปสู่ฐานราก นอกจากนั้นยังตั้งใจที่จะผลักดันกฎหมายที่มีการเปลี่ยนแปลงพัฒนา อปท.มากขึ้น คือ การให้ประชาชนมีส่วนร่วมในของประชาชนในการบริหาร อปท. เพื่อให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในส่วนของ อปท.มากที่สุด และการจะทำให้ประชาธิปไตยฝังลึกได้นั้น ประชาชนต้องมีส่วนร่วมมากขึ้น ไม่ใช่ว่าจะมีแต่มาเลือกตั้ง และก็มาชุมนุมเดินขบวนเวลาได้รับความเดือดร้อน และ การเริ่มต้นในการจัด อปท.รูปแบบพิเศษ ที่มีความต้องการเฉพาะในเขตพิเศษในการบริหารเศรษฐกิจตามแนวชายแดน ท้องถิ่นจะสามารถใช้อำนาจพิเศษที่ไม่เคยมีมาก่อนได้ โดยให้ทางรัฐบาลกลางโอนอำนาจผ่านมาให้ โดยไม่ต้องออกแก้ไขเป็น พรบ. ส่วนเรื่องการจัดสรรงบประมาณนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าช่วงที่ตนเองเข้ามาบริหารประเทศ ต้องเจอกับปัญหาเศรษฐกิจ รัฐบาลกำลังแก้ไขปัญหาอย่างดีที่สุด ข้อจำกัดของงบประมาณ มีมาจากปัญหาเมื่อปลายที่ 2551 ซึ่งตอนนี้งบสำรองของรัฐบาลเหลืออยู่ประมาณ 7,000 พันล้านบาท ซึ่งจะต้องเก็บไว้เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนให้มากที่สุด และขอให้มั่นใจว่าการจัดสรรงบประมาณในปลาย 2554 น่าจะดีขึ้นแน่นอน ซึ่งได้มีการชี้แจงให้กับคณะกรรมาธิการในส่วนของรัฐบาลและของพรรคทราบแล้ว เพื่อให้ช่วยสนับสนุนแล้ว แต่ตอนนี้ก็กังวลในเรื่องของการแปรญัตติในสภาผู้แทนราษฎร แต่ให้มั่นใจว่ารัฐบาลพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจแต่จะไม่ให้กระเทือนกับ อปท. ส่วนเรื่องการขับเคลื่อนแผนการฟื้นฟูประเทศ การปฏิรูป และแผนการปรองดองในชาติ นายกรัฐมตรี กล่าวว่า ไม่ใช่เป็นเรื่องของการเมือง หากสถานการณ์บ้านเมืองมีความสงบ มีความเหมาะสม และการเลือกตั้งจะเป็นการช่วยเดินหน้า หรือการแก้ไขปัญหาของประเทศได้ เป็นการตนเองไม่ปฏิเสธที่จะเลือกตั้งเร็วขึ้น มันต้องตอบคำถามได้ว่า ทำไปเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติหรือไม่ หากมีการเลือกตั้งแล้วมีความรุนแรง ก็จะเป็นการทำลายกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศ เลือกตั้งแล้วยังมีความขัดแย้ง ในเรื่องของกฎหมายเลือกตั้ง ยังมีการโต้แย้งกันอยู่ เราก็ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร ดังนั้นการตัดสินใจในทางการเมืองของรัฐบาล ไม่ได้คิดถึงเรื่องผลทางการเมืองในระหว่างพรรค แต่คิดว่าจะทำยังไงให้บ้านเมืองเราเดินไปข้างหน้า ในลักษณะที่สงบ สันติ มีการยอมรับทุกฝ่าย เพราะที่สุดเมื่อเกิดความวุ่นวายทางการเมือง ความเสียหาย ความสูญเสียก็จะเกิดขึ้นกับประชาชน ไม่ได้เกิดกับนักการเมือง ล่าสุดต้องมีการสูญเสียถึงแก่ชีวิตก็เป็นประชาชน ท้องถิ่นก็ได้รับผลกระทบไปด้วย ตนเองมั่นใจ100 เปอร์เซ็นต์ ว่าความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่ อยากเห็นว่าทำอย่างไรประเทศไทยจะเดินหน้าได้ และให้มีความสงบ สันติ ทำอย่างไรให้ทุกอย่างเป็นปกติ นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวอีกว่า รัฐบาลถูกมองว่าเป็นคู่กรณี และหากว่าปัญหาเกิดจากการเมือง นักการเมืองทั้งหมดต้องรับผิดชอบ แผนปรองดอง แผนฟื้นฟู แผนการปฏิรูป ยืนยันว่าไม่ใช่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นความพยายามที่จะรักษาการเมืองที่เป็นประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นการเมืองที่ต้องมีรัฐสภา มีนิติรัฐ นิติธรรม แผนปรองดองทั้ง 5 ข้อ นั้น จะสำเร็จได้ ต้องไม่ใช่นายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาล แต่จะสำเร็จได้ก็ต้องเป็นประชาชนทุกภาคส่วน และไม่ได้อยู่แค่เพียง 5 ข้อ ประชาชนสามารถนำไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นได้ ซึ่งก็อยากจะฝากให้ทาง อปท.ช่วยกันสอดส่องดูแล อย่าให้ใครมาทำการยุยง ปลุกปั่น บิดเบือนข้อมูลต่าง ๆ แล้วก็นำไปเผยแพร่ ให้เกิดความเข้าใจผิดและขัดแย้งกัน อย่างเช่นมีอยู่ในบางพื้นที่  สุดท้ายนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า หากปัญหาทั้งหมดมีการบอกว่ามาจากการเมือง ผู้บริหาร อปท.ทั้งหมด ก็มาจากการเมือง ดังนั้นต้องมาช่วยกันทบทวนว่า การเมืองแบบไหนที่ทำให้ประเทศ สังคมเดินหน้าได้ แบบไหนสร้างความรุนแรง เสียหายให้กับประเทศ และตนเองเชื่อว่า อปท.มีแนวความคิดที่ดีอีกเยอะ ที่จะสามารถช่วยรัฐบาลได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดตอนนี้อยู่ที่ศรัทธาของประชาชน คือสิ่งที่ยากที่สุดที่แก้ไขได้ เรานักการเมืองทุกภาคส่วนต้องมาร่วมกัน ที่จะต้องกอบกู้ ฟื้นฟูศรัทธาของประชาชน ที่จะปฏิรูปเพื่อที่จะให้ประเทศเดินหน้าได้ และมีการเมืองที่เป็นประชาธิปไตยโปร่งใส มีความรับผิดชอบ และเป็นการเมืองที่ไม่ใช้ความรุนแรง อันจะนำมาซึ่งความสงบสันติ เพื่อให้ประเทศพ้นจากวิกฤต ตนเองจึงขอความร่วมมือในฐานะเพื่อนนักเมืองด้วยกัน เพื่อให้ความสมานฉันท์ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง เพื่อสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ ที่เป็นประชาธิปไตยอยู่ในขณะนี้ และเพื่อให้เป็นไปตามแผนปรองดองที่รัฐบาลมีความตั้งใจดำเนินการต่อไป หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรี ก็ได้เดินทักทายผู้เข้าร่วมประชุม ก่อนจะเดินทางกลับโดยมีการคุ้มกันเข้มงวด


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

มาร์คชี้ปชต.ไม่ใช่แค่เลือกตั้งก่อม็อบ

มาร์คชี้ปชต.ไม่ใช่แค่เลือกตั้งก่อม็อบ



คมชัดลึก : "อภิสิทธิ์ ชี้วิกฤตประเทศนักการเมืองผิด ศรัทธาลด ไม่อยากเห็นประชาธิปไตยมีแค่การเลือกตั้ง และการเดินขบวน วอน อปท.นำแผนปรองดองไปสู่ท้องถิ่น






 เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 13 มิ.ย.2553 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี , นายถาวร เสนเนียม รมช.มหาดไทย พร้อมคณะได้เดินทางมาเป็นประธานเปิดการประชุมสามัญครั้งที่ 53 ประจำปี 2553 ของสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย(สทท.) ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์(มอ.)อ.หาดใหญ่ โดยมีนายกเทศมนตรีและปลัดเทศบาลทั่วประเทศประมาณ 4,500 คนร่วมประชุม
 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เทศบาลเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบหนึ่ง ที่มีพันธกิจและบทบาทครอบคลุมเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของประชาชน เป็นกลไกลในระดับท้องถิ่น ใกล้ชิดกับประชาชน และมีการทำงานสนองตอบประชาชนด้านการบริการสาธารณะ โดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นรากฐานของประชาธิปตย จึงเป็นองค์กรที่สำคัญต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชน
 นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการกระจายอำนาจมาตลอด ถึงแม้รัฐบาลบริหารประเทศได้ประมาณ 1 ปีเศษๆ ได้มีการผลักดันกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการปกครองส่วนท้องถิ่น ยังล่าช้าไปมาก เพราะสถานการณ์การเมืองที่ไม่นิ่ง กฏหมายที่เกี่ยวกับท้องถิ่นที่ค้างอยู่ 4 ฉบับ ตนพยายามเร่งรัดให้เข้าสภาให้หมด ก่อนที่รัฐบาลจะหมดวาระ เช่น กฏหมายการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยการวางรากฐานของประชาธิปไตยให้แข็งแกร่ง ให้ประชาชนเข้าใจว่า ประชาธิปไตยที่มีมากกว่าการลงคะแนนเสียง และการเดินขบวน เมื่อไม่พอใจเท่านั้น
 นายอภิสิทธิ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การออกฏกหมายปกครองรูปแบบพิเศษเพิ่มมากขึ้น โดยในในเร็วๆนี้จะยกฐานะเทศบาลเมืองแม่สอด ให้เป็นการปกครองในรูปแบบพิเศษ เหมือนกับ กทม.และเมืองพัทยา เพราะเมืองการค้าชายแดนและลักษณะเศรษฐกิจเฉพาะ ให้อำนาจท้องถิ่นเพิ่มขึ้น เพื่อให้ท้องถิ่นเดินหน้าไม่หยุด
 อย่างไรก็ตาม ถือว่าโชคไม่ดีของพรรคประชาธิปัตย์ ที่เข้ามาบริหารประเทศในช่วงที่วิกฤตเศรษฐกิจ รัฐบาลมีงบประมาณไม่พอ เก็บภาษีได้ต่ำกว่าเป้า 2 แสนล้านบาท ส่งผลให้เกิดอุปสรรคและปัญหาเรื่องงบประมาณที่จัดสรรให้กับท้องถิ่น จนส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของท้องถิ่น
 นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2554 สถานะการเงินการคลังของประเทศดีขึ้น มีการเก็บภาษีได้เกินกว่าเป้า การจัดสรรงบประมาณให้กับท้องถิ่นดีกว่าปี 2553 จะจัดสรรงบประมาณให้ท้องถิ่นเกินกว่าร้อยละ 25  นอกจากนี้เรื่องที่ตนจะฝากให้กับ อปท.คือเรื่องแผนฟื้นฟู ปรองดอง และการปฏิรูปประเทศ รัฐบาลยังมีวาระบริหารประเทศอีก 1 ปีกว่าๆ หากเหตุการณ์ทางการเมืองสงบ อาจจะมีการจัดการเลือกตั้งเร็วขึ้น แต่ตอบคำถามเกิดขึ้นว่า เมื่อเลือกตั้งให้เร็วขึ้นแล้ว ประเทศชาติได้อะไร หากขณะและหลังการเลือกตั้งยังมีความรุนแรง เกิดมีการยุบพรรค หรือกรรมการถูกตัดสิทธิทางการเมือง จะต้องมีการออกมาโววาย กล่าวหาคนโน้มคนนี้และนำไปสู่การชุมนุมประท้วงขึ้นอีก การเลือกตั้งไม่ได้แก้ปัญหาความขัดแย้ง
 “นักการเมืองไม่กระทบ นักการเมืองไม่ได้สูญเสียงชีวิต มีแต่ประชาชนที่มาชุมนุมทางการเมืองโดยบริสุทธิ์ ได้รับความเดือดร้อนทั้งด้านจิตใจ เศรษฐกิจและชีวิต แม้แต่ในเวลานี้หลายพื้นที่ยังไม่สงบ ส่งผลกระทบต่อท้องถิ่นทำให้การท่องเที่ยวซบเซา ท้องถิ่นมีรายได้ลดลง บางแห่งเทศบาลถูกเผา รถเทศบาลถูกทำลาย ต้องเอาเงินภาษีประชาชนมาจัดซื้อและสร้างใหม่ ”
 นายอภิสิทธิ์ เปิดเผยว่า ความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่มีความต้องการเห็นประเทศเดินหน้า มีความสงบและสันติ ให้มีการฟื้นฟูสังคมและจิตใจก่อ แผนนปรองดอง 5 ข้อ อปท.มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดขึ้น เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม และส่งเสริมสวัสดิการให้กับชุมชน แต่บางคนยังเข้าใจผิด ว่าการปรองดองคือการเอาคนผิดมาทำให้ถูก ปรองดองต้องอิงหารเมือง คำว่าการปรองดองคือการเอาจุดแข็งที่มีอยู่มาหลอมรวม ระดมสรรพกำลังที่มีทางสังคมและจิตใจมาหลอมรวม เพื่อเป็นพลังขับเคลื่อนให้ประเทศชาติเดินหน้า
 นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ตนยอมรับว่าสื่อในปัจจุบันทั้งในท้องถิ่นและส่วนกลางมีบทบาทมาก ให้วงการสื่อช่วยกัน 2 เรื่องคือให้ทุกสื่อเป็นสื่อแท้จริง ไม่ตั้งขึ้นเพื่อการเมือง ยุยงให้ใช้ความรุนแรง บิดเบือนข้อเท็จจริงและให้เกิดเกลียดชังฝ่ายตรงกันข้าม และประการสุดท้ายให้องค์กรสื่อกำหนดบทบาทและหน้าที่สื่อให้ชัดเจน
 “มีคำกล่าวว่าปัญหาของประเทศทั้งหมดที่เกิดขึ้นมาจากการเมือง ดังนั้นนักการเมืองทุกคนผิด นายกและสมาชิกสภาเทศบาลและ สส.มาจากการเลือกตั้ง ก็เป็นนักการเมืองผิด มาทบทวนว่าการเมืองที่ก่อให้เกิดความแตกแยก ให้เกิดความเสียหายและที่สุดนำไปสู่ความเสื่อมความศรัทธา ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟื้นฟูอยากที่สุด คือความศรัทธานักการเมือง มาช่วยกันสร้างการเมืองให้เป็นประชาธิปไตย การเลือกตั้งต้องโปร่งใส มีความรับผิดชอบและไม่เอาความรุนแรง นักการเมืองมาทุกคนมากอบกู้วิกฤตเพื่อให้ประเทศพ้นวิกฤต ”
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องมาร์คย้ำไม่ปรองดองกับผู้ก่อการร้ายอภิสิทธิ์แจงเป็นเรื่องศอฉ.นิรโทษฯเสื้อแดงทนายทักษิณโจมตีรบ.ไม่น่าเชื่อถือสอบสลายม็อบ ปฏิรูปสื่อปูทางไปสู่เผด็จการหรือ"อภิสิทธิ์"? มาร์คชี้แผนปรองดองคนไทยเกิน95%ต้องร่วมมือ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Blog Archive