Friday, June 18, 2010

วัยรุ่นวางเพลิงปล้นสะดมเซ็นเตอร์วันอนุสาวรีย์ชัย

วัยรุ่นวางเพลิงปล้นสะดมเซ็นเตอร์วันอนุสาวรีย์ชัย



คมชัดลึก :






 (19พ.ค.)  นายเดชา เลิศเดชเดชา เจ้าของห้างทองที่เซ็นเตอร์วันย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ  กล่าวว่า ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้เซ็นเตอร์วัน โดยมีวัยรุ่นอายุไม่ถึง 20 ปี โพกหน้า เป็นคนปาสิ่งของ ทุบกระจกแม็คโดนัล จากนั้นมีกลุ่มวัยรุ่น 200 คน กรูเข้าไปฉกชิงสิ่งของภายในเซ็นเตอร์วัน  สำหรับเพลิงที่ไหม้นั้น ขณะนี้เป็นสีขาว สลับแดง ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนี้ทุกข์มาก








ข่าวที่เกี่ยวข้องเซ็นทรัลเวิล์ดฝั่งเซนทรุดตัวลงแล้ว ม็อบแดงขอนแก่นอยู่หน้าบ้านส.ส.เผายางรถนักข่าวอิตาลีถูกยิงช่องท้องเสียชีวิต1ราย ไฟไหม้ธ.นครหลวงไทย3เหลี่ยมดินแดงรบ.รับส.ว.เป็นตัวกลางเจรจายันแดงสลายก่อน

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ใครตบทรัพย์ใครซ้อมผู้ต้องขังต้องจัดการ

ใครตบทรัพย์ใครซ้อมผู้ต้องขังต้องจัดการ



คมชัดลึก : ข้อกล่าวหาจาก "ตู่" จตุพร พรหมพันธุ์ ที่บอกว่ามีการพยายามจะตบทรัพย์ธุรกิจเพื่อจะแลกกับการไม่ขึ้นบัญชีดำ รวมไปถึงข้อกล่าวหาที่ว่ามีการซ้อมคนเสื้อแดงในคุกก็มาจาก "ตู่" เช่นเดียวกัน จะต้องได้รับคำชี้แจงอธิบายจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องโดยด่วนและชัดเจน






 เพราะว่าการกล่าวหาเช่นนี้ย่อมจะสร้างภาพทางลบ ว่านี่เป็นการไล่ล่าปราบปรามคนที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเท่านั้น มิใช่เป็นการจัดการต่อคนที่เผาบ้านเผาเมืองแต่เพียงประการเดียว
 ขณะที่รัฐบาลต้องการสร้างความปรองดองจะต้องแยกแยะให้ถูกว่าคนกลุ่มที่เผาบ้านเผาเมือง คนที่ถูกกล่าวหาเป็นผู้ก่อการร้ายจะต้องดำเนินคดีอย่างเคร่งครัดตามครรลองของกฎหมายบ้านเมือง
 ขณะที่คนอื่นๆ ที่มาเรียกร้อง มาประท้วงอย่างสันติตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญนั้น จะต้องได้รับการปกป้อง การตรวจสอบบัญชีของผู้ที่ต้องสงสัยว่าเป็นน้ำเลี้ยงให้แก่ผู้ก่อเหตุนั้น จะต้องชัดเจน โปร่งใส และรอบคอบ
 เพราะว่าเดิมมีรายชื่อผู้เข้าข่ายที่อยู่ในเครือข่ายของการส่งท่อน้ำเลี้ยงร้อยกว่าคน ตัวเลขปรับและเปลี่ยนตลอดเวลาจาก 83 กลับไปเป็น 86 แล้วกลับมาเป็น 83 โดยที่ทางการอ้างว่าชื่อซ้ำซ้อน แต่ย่อมทำให้เกิดข้อสงสัยได้ ว่านี่เป็นการต่อรองกับคนบางคน คนบางกลุ่มหรือว่าเป็นไปอย่างที่คุณจตุพรกล่าวหาว่าเป็นการตบทรัพย์หรือไม่
 เรื่องนี้แน่นอนว่าจะต้องมีเสียงซุบซิบนินทา จะต้องมีการกล่าวหา เพราะว่ากรณีนี้มีผู้เสียผลประโยชน์จำนวนไม่น้อย ความโปร่งใส ความชัดเจน ความตรงไปตรงมา จึงเป็นหัวใจของการที่จะจัดการให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างยุติธรรมที่สุด
 คนที่ทำผิดต้องได้รับผิด คนที่ไม่ผิดจะต้องได้รับการอภัย และขณะเดียวกันคนที่อยู่ในฐานะที่จะตบทรัพย์ใครจะต้องถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด เพราะว่าในทุกกรณีถ้าหากมีการใช้อำนาจเพื่อที่จะข่มขู่ตบทรัพย์รังแกหรือรีดไถต้องถือว่าเป็นความผิดอย่างร้ายแรง
 ข้อกล่าวหาที่ว่ามีการซ้อมในคุกก็เช่นเดียวกัน ในยุคนี้สมัยนี้เป็นไปไม่ได้ที่ใครจะก่อกรรมทำเข็ญแล้วจะเล็ดลอดสายตาหรือการจับกุมได้
 ฉะนั้นทุกฝ่ายจะต้องรู้ว่าหน้าที่ตัวเองเป็นอย่างไร ไม่มีใครสามารถทำผิดกฎหมายหรือข้ามเส้นของความถูกต้องได้
สุทธิชัย หยุ่น








ข่าวที่เกี่ยวข้องบิ๊กบังเมินบิ๊กยูเอ็นตอกย้ำไทยไร้เสถียรภาพการเมือง เทือกปัดไล่บี้พวกส่งท่อน้ำเลี้ยงนปช. เงินทองมหาศาลนี้ท่านได้แต่ใดมา "เงินร้อนแสนล้าน" ปณิธานเผยรอDSI-ปปง.รวมหลักฐานท่อน้ำเลี้ยงแดง

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

คลี่3ปมแบล็กลิสต์83รายชื่อปรามแดงยุบ พท.ปิดท่อน้ำเลี้ยง

คลี่3ปมแบล็กลิสต์83รายชื่อปรามแดงยุบ พท.ปิดท่อน้ำเลี้ยง



คมชัดลึก :หลังจากเขย่าโผรายชื่อ "แบล็กลิสต์" ท่อน้ำเลี้ยงแดงจนเหลือ 83 รายชื่อ ก็เป็นอันว่า มีผู้โชคดีได้รับอภินันทนาการถูกถอดชื่อออกไป 3 ราย คือ 1.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 2.นายเอกราช ช่างเหลา และ 3.นายธรรมนัส หรือ ร.อ.มนัส พรหมเผ่า






ส่วนรายชื่อที่เหลือก็ล้วนเป็นระดับ "บิ๊กเนม" ที่เป็นเครือญาติ และเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีทั้งสิ้น โดยมีวงเงินหมุนเวียนตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายน 2552-พฤษภาคม 2553 ซึ่งมียอดตัวเลขชนิดที่น่าตกตะลึงสุดๆ
 เพราะเบ็ดเสร็จแล้ว ตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา อันเป็นช่วงที่ ปปง.สงสัยว่ามีการเคลื่อนไหวของเงินที่มากผิดปกติ พบว่ามีเงินไหลเข้า-ไหลออก 14 นิติบุคคล และ 69 บุคคลในเครือข่ายทักษิณมากเกิน 1.5 แสนล้านบาท !!!!
 สำหรับรายชื่อของบุคคลต้องสงสัยจะเป็นแหล่งท่อน้ำเลี้ยงของคนเสื้อแดงที่อาจโยงใยไปถึงการก่อการร้าย และการเผาบ้านเผาเมือง "คม ชัด ลึก" ได้แจกแจงไปโดยละเอียดพิสดารแล้ว
 แต่ประเด็นที่น่าสนใจนอกเหนือไปจากรายชื่อของกลุ่มบุคคลต่างๆ แล้ว "เบื้องลึก-เบื้องหลัง" ในการใส่รายชื่อของแต่ละบุคคลลงไปในแบล็กลิสต์กลับน่าสนใจยิ่งกว่า
 ทั้งนี้จากเดิมในการประกาศรายชื่อแบล็กลิสต์มาแล้ว 2 รอบก่อนหน้านี้ โดยรอบแรกมี 106 รายชื่อ และรอบที่สองอีก 22 รายชื่อ รวมแล้ว 128 รายชื่อ
 น่าสนใจว่าหลังจากเขย่ารายชื่อใหม่เป็นรอบที่ 3 ก็พบว่ารายชื่อใน 2 ลอตแรกหายไปถึง 45 รายชื่อ !!
 สำหรับเหตุผลในทางเปิดในการถอดบางรายชื่อออกไปนั้นก็อย่างที่ พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. ออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า
 "การตรวจสอบวิเคราะห์ธุรกรรมการเงินย้อนหลัง 9 เดือนของกลุ่มบุคคลและนิติบุคคลที่มีรายชื่อตามประกาศของ ศอฉ. พบความผิดปกติของพฤติกรรมการเบิกถอนเงินที่ไม่ตรงกับความเป็นอยู่จริง การมีรายได้ไม่สอดคล้องกับอาชีพ หรือไม่สมกับฐานะ
 ส่วนในรายของนิติบุคคลก็เป็นบริษัทที่มีรายได้ไม่สอดคล้องกับรายจ่าย จึงต้องเรียกเจ้าของบัญชีเงินฝากเข้าชี้แจง และให้ข้อมูลว่ารับโอนเงินมาจากใคร รับแล้วเอาไปให้ใคร ผู้รับได้รับเงินจริงหรือไม่ หากชี้แจงได้ก็จะถือเป็นธุรกรรมการเงินปกติ"
 นั่นคือเหตุผลหลักๆ ที่มีการคงบางรายชื่อไว้ ขณะที่บางรายชื่อก็ถูกดีดออกไป ทั้งที่ตามความรู้สึกของคนทั่วไปแล้วน่าจะเกี่ยวข้อง เช่น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายสมชาย+นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ นายนพดล ปัทมะ นายยงยุทธ ติยะไพรัช เป็นต้น
 ทว่าจากการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินไม่พบความผิดปกติ ศอฉ.จึงต้องตัดรายชื่อเหล่านี้ทิ้งไป เหลือเพียงรายชื่อที่ยังติดใจ ซึ่งจะให้โอกาสเจ้าตัวมาชี้แจง และนำเอกสารหลักฐานต่างๆ มาแสดงความบริสุทธิ์ใจตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป
 ขณะที่สาเหตุเบื้องลึกในการคง 83 รายชื่อไว้ในแบล็กลิสต์ นับว่ามีเหตุผลที่แฝงด้วย "การเมือง" อยู่ไม่น้อย โดยมีปัจจัย 3 ประการที่ทำให้ ศอฉ.ต้องแช่แข็งเงินในเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไว้ก่อน
 ทั้งที่ในบางรายเป็นการไหลเข้า-ไหลออกเพื่อทำธุรกิจธรรมดา ขณะที่บางคนก็ถอนมา "ซื้อหุ้น" เท่านั้น
 ปัจจัยแรก คือ การป้องปรามเครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อให้รู้ว่ารัฐบาลกำลังเอาจริงและจับตาดูอยู่ใกล้ชิดว่าจะมีท่อน้ำเลี้ยงไหลมาตามท่อใหญ่ของ พ.ต.ท.ทักษิณหรือไม่ ซึ่งหากมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากล เงินในท่อนี้ก็จะถูกแช่แข็งทันที
 ปัจจัยที่สอง เป็นการ "ปิดท่อน้ำเลี้ยง" ที่เคยไหลเข้า-ไหลออกอย่างสะดวกโยธินมาตลอด เพื่อตัดปัจจัยในการปลุกระดมมวลชน และกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งพร้อมที่จะลุกฮือขึ้นมาได้ทุกเมื่อ หากจังหวะเวลาและปัจจัยต่างๆ เอื้ออำนวย
 ปัจจัยที่สาม เกี่ยวข้องกับการเมืองล้วนๆ โดยเกี่ยวพันกับคดี "ยุบพรรค" ของ 2 พรรคใหญ่ คือ พรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีข่าวหนาหูว่าการหยิบจับรายชื่อ ส.ส.เพื่อไทยไว้ในแบล็กลิสต์ด้วยก็เพื่อใช้เจรจาต่อรองแบบยื่นหมู-ยื่นแมวในคดียุบพรรคนั่นเอง
 ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การขึ้นแบล็กลิสต์ในรอบที่ 3 นอกจากจะเป็นเพราะพบความผิดปกติของเส้นทางการเงินอย่างชัดเจนแล้ว
 ปัจจัยทางการเมืองก็เป็นตัวเร่งสำคัญที่ขั้วอำนาจปัจจุบันจะใช้ตัดกำลัง และต่อรองกับขั้วอำนาจเก่าได้อย่างชะงัดที่สุด!?
ทีมข่าวความมั่นคง








ข่าวที่เกี่ยวข้องเปิดธุรกรรม83ท่อน้ำเลี้ยงแสนล้านใครตบทรัพย์ใครซ้อมผู้ต้องขังต้องจัดการบิ๊กบังเมินบิ๊กยูเอ็นตอกย้ำไทยไร้เสถียรภาพการเมือง เทือกปัดไล่บี้พวกส่งท่อน้ำเลี้ยงนปช. เงินทองมหาศาลนี้ท่านได้แต่ใดมา

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เปิดธุรกรรม83ท่อน้ำเลี้ยงแสนล้าน

เปิดธุรกรรม83ท่อน้ำเลี้ยงแสนล้าน



คมชัดลึก : ผลสรุปการปฏิบัติงานของคณะทำงานเพื่อปฏิบัติตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ที่จำแนก 83 บัญชีรายชื่อบุคคล/นิติบุคล ที่มีวงเงินหมุนเวียนในช่วงเดือนก.ย.2552-พ.ค.2553 ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการกระทำหรือสนับสนุนการกระทำให้เกิดเหตุสถานการณ์ฉุกเฉินในช่วงการชุมนุมของ นปช. มีวงเงินรวมกันประมาณ 151,941,410,000 บาท






โดยบัญชีรายชื่อบุคคล/นิติบุคล เป็นไปตามคำสั่งของ ศอฉ.ที่ 49/2553 ลงวันที่ 16 พ.ค.2543   ที่ 58/2553 ลงวันที่ 18 พ.ค.2553 ที่ 61/2553 ลงวันที่ 20 พ.ค.2553 และที่ 72/2553 ลงวันที่ 26 พ.ค.2553
 1.บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 4,690 ล้านบาท (ฝากประมาณ 2,574 ล้านบาท ถอนประมาณ 2,116 ล้านบาท)
 2.บริษัท เวิร์ธซัพพลายส์ จำกัด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 11,911 ล้านบาท (ฝากประมาณ 5,898 ล้านบาท ถอนประมาณ 5,594 ล้านบาท)
 3.บริษัท บี.บี.ดี. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 15,633 ล้านบาท (ฝากประมาณ 8145 ล้านบาท ถอนประมาณ 7,488 ล้านบาท)
 4.บริษัท บี.บี.ดี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 11,221 ล้านบาท (ฝากประมาณ 5,455 ล้านบาท ถอนประมาณ 5,766 ล้านบาท)
 5.บริษัท บี.พี. พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 46 ล้านบาท (ฝากประมาณ 31 ล้านบาท ถอนประมาณ 16 ล้านบาท) 
 6.บริษัท ประไหมสุหรี พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 3,600 ล้านบาท (ฝากประมาณ 1,551 ล้านบาท ถอนประมาณ 2,077 ล้านบาท)
 7.บริษัท พี.ที. คอร์ปอเรชัน จำกัด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 22,403 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการ โอน ฝาก และถอนเงิน ในวันเดียวกัน (ฝากประมาณ 9,428 ล้านบาท ถอนประมาณ 12,975 ล้านบาท)
 8.บริษัท เอสซีเค เอสเทต จำกัด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 15,467 ล้านบาท (ฝากประมาณ 7,757 ล้านบาท ถอนประมาณ 7,710 ล้านบาท)  9.บริษัท เอสซี ออฟฟิซ ปาร์ค จำกัด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 17,403 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการโอนเงินเข้าบัญชีครั้งละประมาณ 14-16 ล้านบาท (ฝากประมาณ 7,792 ล้านบาท ถอนประมาณ 9,611 ล้านบาท)
 10.บริษัท เอสซี ออฟฟิซ พลาซ่า จำกัด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 634 ล้านบาท (ฝากประมาณ 393 ล้านบาท ถอนประมาณ 241 ล้านบาท)
 11.บริษัท โอเอไอ คอนซัลแต้นท์ แอนด์ แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 419 ล้านบาท (ฝากประมาณ 222 ล้านบาท ถอนประมาณ 197 ล้านบาท)
 12.บริษัท โอเอไอ แมนเนจเม้นท์ จำกัด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 14,714 ล้านบาท
 13.บริษัท โอเอไอ ลิสซิ่ง จำกัด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 220 ล้านบาท
 14.บริษัท โอเอไอ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 540 ล้านบาท
 15.พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 100 ล้านบาท
 16.คุณหญิงพจมาน ชินวัตร หรือ ดามาพงศ์ หรือ ณ ป้อมเพชร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 57 ล้านบาท (ฝากประมาณ 3 ล้านบาท ถอนประมาณ 54 ล้านบาท)
 17.นายพานทองแท้ ชินวัตร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 4,248 ล้านบาท (ฝากประมาณ 16 ล้านบาท ถอนประมาณ 4,233 ล้านบาท) 
 18.น.ส.พินทองทา ชินวัตร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 7,630 ล้านบาท (ฝากประมาณ 1,000 ล้านบาท แต่มีข้อสังเกตว่าเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2553 มีการถอนเงินออกจาก 3 บัญชี จำนวน 4 ยอด รวมเป็นเงิน 6,630 ล้านบาท)
 19.น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 317 ล้านบาท (ฝากประมาณ 151 ล้านบาท ถอนประมาณ 166 ล้านบาท ซึ่งเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2553 มีการถอนเงินประมาณ 140 ล้านบาท)
 20.นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 5,454 ล้านบาท (ฝากประมาณ 290 ล้านบาท ถอนประมาณ 5,164 ล้านบาท ซึ่งเมื่อวันที่ 28 เม.ย.2553 มีการถอนเงินประมาณ 4,565 ล้านบาท)
 21.นางกาญจนาภา หงษ์เหิน ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 409 ล้านบาท โดยมีการเบิกถอนเงินสด และโอนเป็นจำนวนมาก
 22.นายสาโรจน์ หงษ์ชูเวช ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 32 ล้านบาท (ฝากประมาณ 20 ล้านบาท ถอนประมาณ 12 ล้านบาท)
 23.นายการุณ โหสกุล ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 46 ล้านบาท (ฝากประมาณ 24 ล้านบาท ถอนประมาณ 22 ล้านบาท) 
 24.นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 165 ล้านบาท (ฝากประมาณ 73 ล้านบาท ถอนประมาณ 92 ล้านบาท)
 25.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 334 ล้านบาท (ฝากประมาณ 167 ล้านบาท ถอนประมาณ 167 ล้านบาท)
 26.นายสันติ พร้อมพัฒน์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมีเงินโอนเข้าไปในบัญชีจำนวนประมาณ 21.5 ล้านบาท และถอนเงินออกจากบัญชีภายใน 9 วัน
 27.นายประชา ประสพดี ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 30 ล้านบาท (ฝากประมาณ 16 ล้านบาท ถอนประมาณ 14 ล้านบาท ซึ่งมีการฝาก-ถอนเงินเกือบทุกวัน)
 28.นายไชยา สะสมทรัพย์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 40 ล้านบาท (ฝากประมาณ 18 ล้านบาท ถอนประมาณ 19 ล้านบาท) ซึ่งมีการฝาก-ถอนเงินเกือบทุกวัน
 29.นายวุฒิชัย กิตติธเนศวร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน เกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน 10 ล้านบาท และ 12 ล้านบาท และเงินที่นำมาใช้คืน
 30.นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมีการถอนและโอนจำนวนประมาณ 3 ล้านบาทเศษ (ฝากด้วยเงินสด ถอนด้วยการโอน)
 31.นายเจริญ จรรย์โกมล ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมีการฝาก-ถอนด้วยการโอนจำนวนประมาณ 22 ล้านบาทเศษ (ฝากประมาณ 14 ล้านบาท ถอนประมาณ 8 ล้านบาท)
 32.นายเรืองยุทธ ประสาทสวัสดิ์ศิริ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่าเมื่อเดือน ธ.ค.2552 มีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน (ธนาคารกรุงไทย สาขาอุดรธานี) โดยมีเงินเข้าบัญชี 9 ครั้ง รวมจำนวนประมาณ 9 แสนบาทเศษ มีการถอนประมาณ 59 ครั้ง รวมจำนวนประมาณ 7 แสนบาทเศษ
 33.นางมยุรี เศวตาศัย ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน มีเงินเข้าบัญชีประมาณ 2 ล้านบาท และเมื่อเดือน ก.ย.2552 มีการถอนผ่านทางระบบเอทีเอ็ม จำนวน 53 ครั้ง รวมประมาณ 5.5 แสนบาท เมื่อเดือน ต.ค.2552 มีเงินเข้าบัญชี 4 ครั้ง ถอน 54 ครั้ง โดยถอนครั้งละประมาณ 1 หมื่นบาท จำนวน 17 ครั้ง เมื่อเดือน พ.ย.2552 มีการถอนครั้งละ 1 หมื่นบาท จำนวน 18 ครั้ง เมื่อเดือน ธ.ค.2552 มีการถอนรวม 38 ครั้ง โดยถอนครั้งละ 1 หมื่นบาท จำนวน 18 ครั้ง ครั้งละ 2 หมื่นบาท จำนวน 5 ครั้ง เดือน ม.ค.2553 มีการถอนรวม 44 ครั้ง ครั้งละ 1-2 หมื่นบาท จำนวน 9 ครั้ง  เดือน ก.พ.2553 มีการถอนรวม 31 ครั้ง โดยมีการถอนครั้งละ 1-3 หมื่นบาท จำนวน 5 ครั้ง เดือน มี.ค.2553 มีการถอนรวม 36 ครั้ง ครั้งละ 1-3 หมื่นบาท จำนวน 14 ครั้ง และ เดือน เม.ย.2554 มีการถอนรวม 34 ครั้ง ครั้งละ 1-2 หมื่นบาท จำนวน 6 ครั้ง
 34.นายอุดมเดช รัตนเสถียร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง ธ.ค.2552 ปรากฏว่ามีการเบิกถอนเงินสดหลายครั้ง รวมประมาณ 1 ล้านบาทเศษ
 35.นางวิยดี สุตะวงศ์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 281 ล้านบาท (ฝากประมาณ 142 ล้านบาท ถอนประมาณ 139 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังพบว่ามีการใช้บัตรเครดิตที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ดูไบ) และประเทศกัมพูชาหลายครั้ง
 36.นายฑัศ เชาวนเสถียร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 720 ล้านบาท (ฝากประมาณ 394 ล้านบาท ถอนประมาณ 426 ล้านบาท)
 37.พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 60 ล้านบาท (ฝากประมาณ 30 ล้านบาท ถอนประมาณ 30 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังพบว่ามีการใช้บัตรเครดิตที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ดูไบ) และประเทศกัมพูชา
 38.นายอนุสรณ์ ปั้นทอง ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 32 ล้านบาท (ฝากประมาณ 18.1 ล้านบาท ถอนประมาณ 14 ล้านบาท) และมีข้อสังเกตว่าเป็นการฝากเช็คจำนวน 16 ล้านบาทเศษ และมีการถอนโดยการโอนเงิน
 39.นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 795 ล้านบาท (ฝากประมาณ 348 ล้านบาท ถอนประมาณ 347 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการฝาก-ถอนโดยเงินสดและเช็ค
 40.นายพันธ์เลิศ ใบหยก ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 585 ล้านบาท (ฝากประมาณ 458 ล้านบาท ถอนประมาณ 128 ล้านบาท)
 41.นายสมหวัง อัสราษี ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 85 ล้านบาท (มีการฝาก-ถอนด้วยวิธีการโอน และไม่ใช้สมุดคู่ฝาก)
 42.นางจุฑารัตน์ เมนะเสวต ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 98 ล้านบาท มีการฝากเงินถอนเงินสดด้วยวิธีการโอน
 43.นายสมชาย ไพบูลย์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 1.5 ล้านบาท (ฝากประมาณ 1.2 ล้านบาท ถอนประมาณ 3 แสนบาท) และมีข้อสังเกตว่ามีการฝากและถอนเงินโดยไม่มีสมุดคู่ฝาก และผ่านทางระบบเอทีเอ็ม
 44.นายสงวน พงษ์มณี ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 2 ล้านบาท (ฝาก-ถอนเงินสด)
 45.พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมีเงินฝาก-ถอนเงินสด มียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 37 ล้านบาท
 46.นายไพโรจน์ ตันบรรจง ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 2.8 ล้านบาท (ฝากประมาณ 1.5 ล้านบาท ถอนประมาณ 1.3 ล้านบาท) และมีข้อสังเกตว่าส่วนใหญ่เป็นการฝาก-ถอน เป็นเงินสด
 47.นายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 3.6 ล้านบาท (ฝากประมาณ 2.8 ล้านบาท ถอนประมาณ 2.8 ล้านบาท) และมีข้อสังเกตว่าส่วนใหญ่เป็นการฝากด้วยการโอน และถอนเงินสด วันละหลายครั้ง
 48.พ.ต.ท.สมชาย เพศประเสริฐ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 20 ล้านบาท (มีเงินฝาก-ถอนเงินด้วยวิธีการโอน และไม่ใช้สมุดคู่ฝาก)
 49.นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 1.8 ล้านบาท (มีเงินฝาก-ถอนเงินสดผ่านทางระบบเอทีเอ็ม)
 50.นายนิยม วรปัญญา ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 9 ล้านบาท (มีการฝาก-ถอนเงินสด)
  51.นายเหวง โตจิราการ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 1.4 ล้านบาท (ฝากด้วยเช็คประมาณ 1.4 ล้านบาท)
 52.นายวีระ มุสิกพงศ์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 10.5 ล้านบาท (ส่วนใหญ่เป็นการฝากเงินสดและถอนเงินสด)
 53.นายขวัญชัย สาราคำ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 14 ล้านบาท โดยมีการฝากเงินสด และถอนเงินสดทางเอทีเอ็ม
 54.นายนิสิต สินธุไพร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 8 ล้านบาท (ฝากประมาณ 5 ล้านบาท ถอนประมาณ 3 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการฝาก-ถอนเงินผ่านทางระบบเอทีเอ็ม
 55.นายก่อแก้ว พิกุลทอง ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 2.1 ล้านบาท (ส่วนใหญ่เป็นการฝาก-ถอนเป็นเงินสด และถอนเป็นเงินสด และถอนปิดบัญชี)
 56.นายชินวัฒน์ หาบุญพาด ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 3.6 แสนบาท ซึ่งเดิมไม่มีการเคลื่อนไหวทางบัญชี แต่มีข้อสังเกตว่าเมื่อวันที่ 17 มี.ค.2553 มีเงินเข้าในบัญชีจำนวนประมาณ 1.8 แสนบาท
 57.นายอดิศร เพียงเกษ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 4.5 แสนบาท ฝากเงินสดโดยไม่มีสมุดคู่ฝาก ครั้งละประมาณ 5 หมื่นบาทหลายครั้ง
 58.นายสำเริง ประจำเรือ เดิมไม่มีการเคลื่อนไหวทางบัญชี แต่ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.- ธ.ค.2552 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยเฉพาะในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.2552 มียอดการฝาก และถอน ประมาณ 3-8 แสนบาท
 59.นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 14 ล้านบาท (ฝากประมาณ 9 ล้านบาท ถอนประมาณ 5 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการถอนเงินผ่านทางระบบเอทีเอ็ม
 60.พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 10 ล้านบาท มีการถอนเงินสดผ่านทางระบบเอทีเอ็ม ครั้งละ 1-2 หมื่นบาทหลายครั้ง
 61.นายธนกฤต ชะเอมน้อย หรือ ชัยชนะ เกิดดี ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 1.7 ล้านบาท มีการฝากเงินสดโดยไม่มีสมุดคู่ฝาก และมีการถอนผ่านทางระบบเอทีเอ็ม นอกจากนี้ ยังพบว่ามีการทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์
 62.นายอารี ไกรนรา ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 2 แสนบาท ซึ่งเป็นการฝากเงินสดผ่านทางเครื่องรับฝากเงินอัตโนมัติ และถอนเงินสดผ่านทางระบบเอทีเอ็ม จำนวน 7 ครั้ง ภายในวันเดียว นอกจากนี้ยังพบว่ามีการทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ โดยวางเงินดาวน์ 6 แสนบาท ผ่อน 48 งวด งวดละประมาณ 1.6 หมื่นบาท เริ่มผ่อนชำระค่างวดเมื่อเดือน ต.ค.2552 และการชำระค่างวดครั้งเดียวรวม 31 งวด เป็นเงินจำนวนประมาณ 5 แสนบาท เมื่อเดือน มี.ค.2553
 63.นายเมธาพันธ์ โพธิธีรโรจน์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 1.2 ล้านบาท (ฝากประมาณ 1.2 หมื่นบาท ถอนประมาณ 9 หมื่นบาท)
 64.พล.ท.มนัส เปาริก ในช่วงระหว่างเดือน มี.ค.-พ.ค.2553 มีการเบิกถอนเงินสดผ่านทางระบบเอทีเอ็ม ประมาณ 4 แสนบาท
 65.พล.ท.พฤณฑ์ สุวรรณทัต ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 14 ล้านบาท (ฝากประมาณ 7 ล้านบาท ถอนประมาณ 7 ล้านบาท) ภายหลังจากที่มีการฝากเงินเพียง 8 วัน
 66.พล.ต.อ.บุญสร้าง บุนนาค ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 2.7 ล้านบาท (ฝากประมาณ 1.5 ล้านบาท ถอนประมาณ 1.2 ล้านบาท)
 67.นางเยาวเรศ ชินวัตร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 34 ล้านบาท (ฝากประมาณ 20 ล้านบาท ถอนประมาณ 14 ล้านบาท)
 68.นายสุธรรม แสงประทุม ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 4 ล้านบาทเศษ (ฝากโดยการโอน ถอน โดยเช็ค/เงินสด)
 69.นายพศิน หอกลาง ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 4,720 ล้านบาท (ฝากประมาณ 2,360 ล้านบาท ถอนประมาณ 2,360 ล้านบาท ด้วยวิธีการโอนเงินเข้าบัญชี และใช้เช็ค)
 70.นางสุกัญญา ประจวบเหมาะ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 24 ล้านบาท (ฝากประมาณ 12 ล้านบาท ถอนประมาณ 12 ล้านบาท)
 71.นายอัสนี เชิดชัย ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 1.7 ล้านบาท และใช้บัตรเครดิตที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ดูไบ) อังกฤษ และกัมพูชา หลายครั้ง
 72.นางดวงแข อรรณนพพร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 5 ล้านบาทเศษ (มีการฝาก-ถอนจำนวนหลายครั้ง)
 73.นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 27 ล้านบาท (ฝากประมาณ 14 ล้านบาท ถอนประมาณ 13 ล้านบาท)
 74.นายจักริน พัฒน์ดำรงจิตร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 125 ล้านบาท
 75.นายจตุพร เจริญเชื้อ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 1.7 ล้านบาท
 76.นายวิเชียรชนินทร์ สินธุไพร ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 3 แสนบาท (มีการฝาก และถอนด้วยเงินสด)
 77.นางสุพิชฌาย์ พัฒนะพันธุ์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 2.8 ล้านบาท (ฝาก-ถอนเงินสด)
 78.นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 3 แสนบาท (มีการฝาก-ถอนด้วยเงินสด)
 79.นายไพวงษ์ เตชะณรงค์ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 56 ล้านบาท (ฝากประมาณ 36 ล้านบาท ถอนประมาณ 22 ล้านบาท)
 80.นายปลอดประสพ สุรัสวดี ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 27 ล้านบาท (ฝากประมาณ 14 ล้านบาท ถอนประมาณ 13 ล้านบาท)
 81.นายประยุทธ มหากิจศิริ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 1,771 ล้านบาท (ฝากประมาณ 977 ล้านบาท ถอนประมาณ 794 ล้านบาท)
 82.นายเมธี อมรวุฒิกุล ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 1 ล้านบาทเศษ (ฝากประมาณ 4 แสนบาท ถอนประมาณ 2 ล้านบาท)
 83.นายภักดี ธนะปุระ ในช่วงระหว่างเดือน ก.ย.2552 ถึง พ.ค.2553 ปรากฏว่ามีการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงิน โดยมียอดเงินหมุนเวียนจำนวนประมาณ 6 ล้านบาท (ฝากประมาณ 4.5 ล้านบาท ถอนประมาณ 2 ล้านบาท)








ข่าวที่เกี่ยวข้องคลี่3ปม"แบล็กลิสต์"83รายชื่อปรามแดง-ยุบ พท.-ปิดท่อน้ำเลี้ยงใครตบทรัพย์ใครซ้อมผู้ต้องขังต้องจัดการบิ๊กบังเมินบิ๊กยูเอ็นตอกย้ำไทยไร้เสถียรภาพการเมือง เทือกปัดไล่บี้พวกส่งท่อน้ำเลี้ยงนปช. เงินทองมหาศาลนี้ท่านได้แต่ใดมา

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ปปง.ปัดลดชื่อผู้ทำธุรกรรมผิดปกติจาก86เหลือ83

ปปง.ปัดลดชื่อผู้ทำธุรกรรมผิดปกติจาก86เหลือ83



คมชัดลึก :ปปง.ปัดลดรายชื่อผู้ทำธุรกรรมต้องสงสัยจาก 86 เหลือ 83 ยันไม่เคยเสนอให้ลดหรือเพิ่มรายชื่อ






พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ รักษาการเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวระบุว่าปปง.เสนอให้ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.) ถอน 3 รายชื่อ ประกอบด้วย นายเอกราช ช่างเหลา นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และพล.ท.มนัส เปาริก ออกจากบัญชีรายชื่อต้องสงสัยทำธุรกรรมทางการเงินผิดปกติว่า ไม่เคยเซ็นหนังสือเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนผู้ที่ทำธุรกรรมต้องสงสัย โดยยืนยันว่าหนังสือรายงานการทำธุรกรรมของปปง.ระบุรายชื่อบุคคลและนิติบุคคลที่ทำธุรกรรมต้องสงสัยทั้งหมด 86 ราย โดยหนังสือทั้ง 2 ฉบับ แบ่งให้กับศอฉ. 1 ฉบับ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) อีก 1 ฉบับ
 ซึ่งทั้ง 2 ฉบับมีเนื้อหาเหมือนกัน ทั้งนี้ศอฉ.เป็นผู้มีอำนาจสั่งลดหรือเพิ่มรายชื่อผู้ที่เข้าข่ายทำธุรกรรมต้องสงสัยได้ แต่ในส่วนปปง.เสนอไปทั้งหมด 86 รายชื่อ และไม่เคยเสนอให้เพิ่มหรือปรับลดรายชื่อแต่อย่างใด








ข่าวที่เกี่ยวข้องเปิดธุรกรรม83ท่อน้ำเลี้ยงแสนล้านคลี่3ปม"แบล็กลิสต์"83รายชื่อปรามแดง-ยุบ พท.-ปิดท่อน้ำเลี้ยง"ประวิตร"จี้สตช.รายงานติดตามตัวแกนนำนปช.23มิย.ศาลนัดชี้ค้านประกันตู่28มิย.ทักษิณกกต.ชี้ณัฐวุฒิลงส.ส.ได้เหตุยังไม่ถูกตัดสินให้จำคุก

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Blog Archive