Monday, March 4, 2013

ชง กกต.กลาง พิจารณาผลเลือกตั้ง สุขุมพันธุ์

ชง กกต.กลาง พิจารณาผลเลือกตั้ง สุขุมพันธุ์
กกต.กทม. ชง กกต.กลาง พิจารณาผลเลือกตั้ง พร้อมแนบคำร้อง 2 เรื่องเอี่ยว สุขุมพันธุ์ ร่วมพิจารณา รับรองนั่งผู้ว่าฯกทม.อย่างช้าศุกร์นี้ เตือนผู้สมัคร 25 ราย แจงบัญชีค่าใช้จ่ายภายใน 90 วัน ขู่ไม่แสดงสั่งเลือกตั้งใหม่ได้ ...เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 4 มี.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธาน กกต.กทม. กล่าวภายหลังการประชุม กกต.กทม.ว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลคะแนนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เป็นผู้ได้รับเลือกตั้งจากผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร และได้ประชุมหารือกันก่อนที่จะมีมติเสนอเรื่องพร้อมความเห็นไปยัง กกต.กลาง ในวันเดียวกันนี้ เพื่อให้พิจารณาเรื่องการประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง เป็นไปตามมาตรา 92 และ 95 ของพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 ประกอบระเบียบ กกต.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2554 ข้อ 189 ที่ระบุว่า เมื่อกกต.จังหวัด ได้รับประกาศผลการนับคะแนนเลือกตั้งจาก กกต. ประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแล้ว ถ้าไม่มีผู้ใดร้องคัดค้าน และกกต.จังหวัดเห็นว่าการเลือกตั้งและการนับคะแนนเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม ให้ กกต.จังหวัดรายงาน กกต.กลาง โดยเร็วเพื่อประกาศผลการเลือกตั้ง พร้อมทั้งแนบรายงานกรณี ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ุ มีเรื่องถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการปราศรัยใส่ร้าย ตามมาตรา 57(5) ของพ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น ที่กกต.รับไว้เป็นคำร้องคัดค้านรวม 2 เรื่อง โดย กกต.กลาง มีอำนาจที่จะพิจารณาเรื่องการประกาศรับรองผลภายใน 7 วันจากวันเลือกตั้ง คือ อย่างช้าภายในวันที่ 8 มี.ค.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังจากการเลือกตั้งเสร็จสิ้นแล้ว ขอให้ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ทั้ง 25 ราย จะต้องมีหน้าที่ยื่นแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายการเลือกตั้งกับทาง กกต.กทม.ภายใน 90 วัน นับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง หากพบว่ามีการใช้จ่ายเกินกว่า 49 ล้านที่ กกต.กทม.กำหนด หรือไม่แจ้งบัญชีรายรับรายจ่าย จะถือเป็นความผิดที่อาจทำให้ กกต.สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ได้ด้าน นายสุพจน์ ไพบูลย์ กกต.กทม. กล่าวถึงกรณีมีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ถูกทางสำนักงานปกครองและทะเบียน สำนักปลัดกรุงเทพมหานคร สั่งจำหน่ายไปแล้วกว่า 7 พันรายชื่อ แต่ในวันเลือกตั้งพบว่า รายชื่อดังกล่าวกลับมาเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่า คงต้องรอแต่ละเขตส่งรายชื่อผู้มีสิทธิทั้งหมดกลับมายังสำนักทะเบียนก่อน กกต.กทม. จึงจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับปลัดกรุงเทพมหานครได้.

ชวนนท์ ไล่ พท.ย้อนดูตัวเองหลังแพ้ศึกผู้ว่าฯ กทม.

ชวนนท์ ไล่ พท.ย้อนดูตัวเองหลังแพ้ศึกผู้ว่าฯ กทม.
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์วอนขอคนกรุงมั่นใจคุณชาย ชี้หลัง กกต.รับรองผลแล้วตัวรองผู้ว่าฯ จะชัดเจน ตอก พท.มองตัวเองหลังพ่ายแพ้เลือกตั้ง จี้พงศพัศพูดให้ชัดกรณีจ่อกลับ สตช...เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคฯ ขอบคุณคน กทม. ที่ให้โอกาส ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ว่าที่ผู้ว่าฯ กทม. ให้กลับมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. อีกครั้ง ขอให้คำมั่นว่าจะเดินหน้าทำตามนโยบายทุกประการที่ประกาศไว้พร้อมเร่งรัดทุกเรื่องที่เร่งด่วนในการแก้ปัญหาให้กับประชาชน ทั้งนี้ คะแนนที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับมานั้นพวกเรารู้สึกยินดี แต่ไม่ประมาท เพราะยอมรับว่ามีประชาชนอีกกลุ่มที่อาจจะยังไม่ไว้วางใจหรือ นิยมพรรคประชาธิปัตย์ในครั้งนี้ พวกเราตระหนักดีและยืนยันว่า จะทุ่มเททำงานให้เป็นที่ยอมรับของคนทุกกลุ่มทุกสี ไม่ใช่เฉพาะคนที่เลือกพรรคประชาธิปัตย์ แต่เราจะรับฟังผู้ที่เห็นต่าง เพื่อประโยชน์ของกทม.ส่วนการคัดเลือกรองผู้ว่าฯ กทม. นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ มั่นใจว่า ผู้ที่จะมาเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. เป็นทีมงานที่พร้อมมีความรู้ความสามารถ ซึ่งพรรคฯ จะพิจารณาให้เหมาะสมที่สุด และคาดว่าหลังจากที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศรับรองม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แล้วทีมงานรองผู้ว่าฯ กทม. จะชัดเจนขึ้นนายชวนนท์ กล่าวต่อว่า การที่พรรคเพื่อไทยวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลคะแนนที่ออกมาว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะ เพราะมาจากวาทกรรมเผาบ้านเผาเมืองที่ทำให้ประชาชนเกิดความกลัวนั้น พรรคเพื่อไทยควรขอบคุณประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยดีกว่าตีโพยตีพาย โดยเฉพาะการหยิบยกเรื่องวาทกรรมต่างๆ ไม่ใช่วาทกรรมที่จะหลอกใครได้ แต่คน กทม.เห็นและฝังใจเอง ส่วนคำว่ายึดเมืองหลวงออกมาจากปากของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำนปช. จนทำให้คน กทม.ฉุกคิดหรือแม้แต่เรื่องนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดง จะมาเป็นรองผู้ว่าฯ กทม. รวมถึงนายจตุพร ยังออกมาระบุว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคเพื่อไทยจะได้กลับมาเป็นรองผบ.ตร. คำพูดเหล่านี้สะท้อนตัวตนของพรรคเพื่อไทย จึงอยากให้พรรคเพื่อไทยหันกลับไปมองพฤติกรรมของตัวเองเมื่อ 4-5 ปีทีผ่านมาให้ปรับปรุงตัว แก้ไขสิ่งที่คนกทม.ไม่เห็นด้วย และกลับมาแข่งขันกลับพรรคประชาธิปัตย์อีก 4 ปีข้างหน้าทั้งนี้ กรณีที่มีข่าวว่า พล.ต.อ.พงศพัศ จะกลับไปนั่งรองผบ.ตร. และจะได้ตำแหน่งผบ.ตร ในอีก 1 ปีข้างหน้านั้น แม้จะเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ตนอยากให้พรรคเพื่อไทย และพล.ต.อ.พงศพัศ รักษาน้ำใจคน กทม.ที่เลือกมาเป็นล้านเสียง เพราะการเลือกตั้งผ่านมาไม่กี่วัน เผยให้เห็นว่า พล.ต.อ.พงศพัศ ไม่ได้มีเจตนาจริงใจ ที่จะทำงานให้คนกทม. ดังนั้น อยากให้พล.ต.อ.พงศพัศ ออกมาพูดให้ชัดเจนว่า ที่ได้ทุ่มเทหาเสียงไป 40 กว่าวันนั้น เป็นตัวตนที่แท้จริงของท่านหรือไม่

รอถกมาเลย์จบ ค่อยเคาะเลิก พรก.ฉุกเฉิน

รอถกมาเลย์จบ ค่อยเคาะเลิก พรก.ฉุกเฉิน
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เผย ขอรอ สมช.ถกมาเลเซียให้จบก่อน ค่อยเคาะเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 3 จังหวัดชายแดนใต้ คาด นำร่อง 5-6 อำเภอ... เฉลิม ปิดปากงดจ้อประเด็นการเมือง วันนี้ (5 มี.ค.56) ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การประชุม ครม.วันที่ 5 มี.ค. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ติดภารกิจเดินทางไปเยือนประเทศสวีเดน เบลเยียม และสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ โดย ร.ต.อ.เฉลิม ยังคงปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ในประเด็นการเมืองเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยระบุว่าจะงดให้สัมภาษณ์ 7 วัน หาก พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทย แพ้การเลือกตั้ง “เฉลิม” เล็งเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 5-6 อำเภอทั้งนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ในฐานะ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) กล่าวถึงการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพื่อเปลี่ยนมาเป็น พ.ร.บ.ความมั่นคงใน 5 อำเภอ จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ยังมีความเห็นไม่สอดคล้องต้องกัน แต่แนวโน้มจะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประมาณ 5-6 อำเภอที่สถานการณ์ดีขึ้น แต่ฝ่ายปฏิบัติการขอไปเจรจากับฝั่งมาเลเซียเบื้องต้นก่อน แล้วมาหาบทสรุป เมื่อถามว่าได้ฝากอะไรถึง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่เดินทางไปประเทศมาเลเซีย เพื่อหารือเรื่องการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ไม่ เพราะเลขาฯ สมช.จะต้องมารายงาน ศปก.กปต.อยู่แล้ว ตนไม่ก้าวก่าย เมื่อถามว่าเหตุใดเรื่องการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงต้องไปคุยกับมาเลเซีย ร.ต.อ.เฉลิมตอบเพียงสั้นๆ ว่า มันต้องทีละขั้น ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ตนได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และยะลา รวมถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เพี่อสอบถามถึงกรณีที่มีกลุ่มคนร้ายเดินสายเผาล้อยางรถยนต์บนถนนหลายจุดในพื้นที่ จ.ยะลา และนราธิวาส ซึ่งพบว่าข้อเท็จจริงเกิดเหตุใน 2 จังหวัด คือ จ.นราธิวาส ที่ อ.รือเสาะ มีการเผาบ้านร้างนอกเมือง ส่วนที่ จ.ยะลา เกิดเหตุทั้งหมด 54 จุด เหตุเกิดระหว่างเวลา 20.00 - 21.00 น. เป็นการเผายางรถยนต์ในเขตนอกเมือง จากอำเภอหนึ่งไปอำเภอหนึ่ง และล้มเสาไฟฟ้า แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ได้สรุปสถานการณ์มาว่า ได้ข่าวมาว่าพวกนี้จะก่อกวนนอกเมือง เพื่อให้กำลังเจ้าหน้าที่ในเมืองออกไป แต่เขารู้ทันจึงไม่ออกไป ความเสียหายมีเพียงเท่านี้ ถือเป็นการสร้างสถานการณ์ทั้งสองจังหวัด ผู้สื่อข่าวถามว่าการข่าวรายงานหรือไม่ว่าจะมีการป่วนสร้างสถานการณ์แบบนี้ต่อไป ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า หากตนไปยิ่งกว่านี้อีก จะมีการเผาแบบนี้ เมื่อถามว่าเจ้าหน้าที่ระบุหรือไม่ว่าเป็นการกระทำของกลุ่มใด ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า เป็นวัยรุ่น ทำเพื่อความสะใจ อาจจะได้รับการยุยงให้สร้างความปั่นป่วน หากตนไปแล้วกลับจะมีเป็นร้อย

Blog Archive