Friday, November 30, 2012

ฮือร้องนายกฯ ประกาศภัยพิบัติ สัตว์น้ำสมุทรสาครตาย

ฮือร้องนายกฯ ประกาศภัยพิบัติ สัตว์น้ำสมุทรสาครตาย
ม็อบผู้เลี้ยงสัตว์น้ำสมุทรสงคราม 300 คน บุกทำเนียบ ร้อง นายกฯ ปู ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติจากผลกระทบแพลงก์ตอนบลูม ทำให้น้ำเสียส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำล้มตายเป็นจำนวนมาก ในรอบ 40 ปี...เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2555 กลุ่มเกษตกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำจาก อ.เมือง และ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม จำนวน 300 คน เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติแพลงก์ตอนบลูม ทำให้น้ำเน่าเสีย กระทบต่อสัตว์น้ำที่เลี้ยงในกระชัง โดยเรียกร้องให้รัฐบาลประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ และให้ความช่วยเหลือกับผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ นายชัยวัฒน์ ไทยเจียมอารีย์ เลขานุการ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับเรื่องและรับฟังปัญหาด้านนายมงคล สุขเจริญคณา ตัวแทนผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ กล่าวว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าว ส่งผลกระทบทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลง และทำให้น้ำเสียไหลเข้าพื้นที่ชายฝั่งยาวมาถึงแม่น้ำแม่กลอง ทำให้สัตว์น้ำในธรรมชาติ และสัตว์น้ำที่เลี้ยงในกระชัง ทั้งหอยแครง ปลากะพง ปลาทับทิม ซึ่งกำลังจะส่งขายในช่วงปีใหม่ตายเป็นจำนวนมาก สร้างความเสียหายต่อผู้ประกอบการเป็นวงกว้างในรอบ 40 ปี จึงขอให้รัฐบาลประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติ เพื่อเยียวยาแก่ชาวบ้านทุกกลุ่ม รวมทั้งรายย่อยที่ไม่ได้จดทะเบียน จนกว่าสภาพทะเลจะฟื้นตัว พร้อมได้นำสัตว์น้ำและเปลือกหอยที่ตายแล้วจำนวน 2 คันรถกระบะ มาแสดงเป็นหลักฐานขณะที่ นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับฟังปัญหา ทั้งกรมประมง กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และจากที่ลงพื้นที่พบว่าประสบภัยพิบัติจริง ซึ่งจะเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว นอกจากนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามได้เร่งเสนอเรื่องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องพิจารณาประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว.

ก่อแก้วโดนเดี่ยว ศาลถอนประกัน-คุมส่งเรือนจำ

ก่อแก้วโดนเดี่ยว ศาลถอนประกัน-คุมส่งเรือนจำ
ศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนประกัน ก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำแดง หลังพูดจาปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวาย ด้านคนอื่นรอด แต่กำหนดเงื่อนไขใหม่ห้ามบินออกนอกประเทศ ส่วนประธาน นปช.เผย ขอหารือก่อนทำเรื่องประกันตัว...เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ศาลอาญารัชดา โดยศาลนัดสอบถามการเพิกถอนคำสั่งอนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย แกนนำ นปช. จำเลยคดีก่อการร้าย รวม 6 คน ประกอบด้วย นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ จำเลยที่ 3 นพ.เหวง โตจิราการ จำเลยที่ 4  นายก่อแก้ว พิกุลทอง จำเลยที่ 5 นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไทย จำเลยที่ 10 ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย จำเลยที่ 9 และนายภูมิกิติ หรือพิเชษฐ์ สุขจินดาทอง จำเลยที่ 11 โดยนายก่อแก้วถูก นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ และสำนักงานเลขาธิการศาลรัฐธรรมนูญ ยื่นคำร้องและส่งพยานวัตถุแผ่นซีดีการให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ ต่อศาลว่า นายก่อแก้วมีพฤติการณ์ข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 68 และตัดงบประมาณศาลรัฐธรรมนูญ ถือว่ากระทำผิดเงื่อนไขการประกันภายหลังการเบิกความจำเลยทั้งหมด ในกรณีของนายก่อแก้วนั้น ศาลเห็นว่าให้เพิกถอนคำสั่งการประกันตัว เพราะไม่แน่ใจในกรณีที่ว่าหากปล่อยตัวไปนั้นจะมีการพูดยุยงปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งอาจนำมาสู่ความวุ่นวายทางการเมือง โดยนายก่อแก้วอยู่ในสถานะ ส.ส. และเป็นแกนนำเสื้อแดง เมื่อกล่าวเช่นนั้นในตอนที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังมีคำวินิจฉัย ก็อาจจะทำให้ประชาชนเข้าใจได้นายก่อแก้วกำลังข่มขู่ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลจึงเห็นว่าควรเพิกถอนชั่วคราวนายก่อแก้วจนกว่าจะมีค่ำสั่งเป็นอย่างอื่นส่วนแกนนำคนอื่นๆ นั้น ที่ศาลอนุญาตให้มีการปล่อยตัวชั่วคราวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งต่างกันทั้งเงื่อนเวลาและเงื่อนไข จึงเห็นสมควรให้มีการกำหนดเงื่อนไขใหม่ คือการปล่อยตัวชั่วคราวในครั้งนี้ ห้ามกระทำการใดๆ ที่เป็นไปในลักษณะดูหมิ่น ปลุกปั่น ยุยง กระทบกับความสงบเรียบร้อยและศีลธรรมอันดี และเดินทางออกนอกราชอาณาจักรจนกว่าจะได้รับอนุญาตทั้งนี้ ภายหลังได้มีคำสั่งนั้น นายก่อแก้วได้ถูกนำตัวจากห้องพิจารณาคดี เพื่อทำเรื่องบริเวณใต้ถุนศาลอาญา เพื่อเตรียมส่งตัวไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยนั่งรถตู้ทะเบียน ฮข 4001 กทม. ท่ามกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาคอยรักษาความปลอดภัยเพื่อเป็นการทำเรื่องขอฝากขังและตรวจร่างกาย  ก่อนที่จะส่งตัวผู้ต้องหาไปที่เรือนจำพิเศษหลักสี่ในคืนนี้ด้านนางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธาน นปช. กล่าวภายหลังฟังคำสั่งศาลว่า หลังจากนี้ไปการปราศรัยของกลุ่มคนเสื้อแดงนั้นควรจะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น จะมีการกำชับต่อตัวผู้ปราศรัยแกนนำ เพื่อไม่ให้เป็นการเดี่ยวกันเหมือนที่นายก่อแก้วโดน สิ่งที่ดำเนินการต่อไปก็คือ จะต้องมีการหารือในการประกันตัว แต่ยังไม่ได้กำหนดวันใด.

บิ๊กโอ๋มีเสียว ศาลปกครองรับคำฟ้องมาร์ค

บิ๊กโอ๋มีเสียว ศาลปกครองรับคำฟ้องมาร์ค
“บิ๊กโอ๋” มีเสียว ศาลปค.สั่งรับคำฟ้อง “มาร์ค” ที่ขอให้เพิกถอนคำสั่งปลดออกจากราชการไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว พร้อมสั่ง “สุกำพล” ยื่นบันทึกแจงภายใน 30 วันวันนี้ 30 พ.ย. ศาลปกครองกลางมีคำสั่งรับคำฟ้องกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยื่นฟ้อง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีขอให้เพิกถอนคำสั่งรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงกลาโหม ฉบับลงวันที่ 8 พ.ย. 55 ที่สั่งปลด ร.ต.อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกจากราชการ ฐานใช้เอกสารปลอมเข้ารับราชการทหารที่โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้วโดยเป็นคดีหมายเลขดำที่ 2900/2555 และมีคำสั่งถึง พล.อ.อ.สุกำพล ผู้ถูกฟ้องคดีให้จัดทำคำให้การยื่นต่อศาลปกครองภายใน 30 วันนับแต่วันนี้ทั้งนี้ คดีดังกล่าว นายบัณฑิต ศิริพันธุ์ ทนายความของ นายอภิสิทธิ์ ได้เข้ายื่นคำฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 12 พ.ย.และศาลได้เรียก นายอภิสิทธิ์ และ พล.อ.อ.สุกำพล เข้าให้ถ้อยคำเพื่อพิจารณาว่า จะรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยหรือไม่ เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา และศาลได้ให้คู่กรณี จัดส่งเอกสารเพื่อประกอบการพิจารณาภายในวันที่ 26 พ.ย. จนในวันนี้ศาลได้มีคำสั่งรับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว

Thursday, November 29, 2012

สุกำพล จวก ปชป.ไม่แฟร์ซักฟอก เชื่อพุ่งเป้าเล่นงาน

สุกำพล จวก ปชป.ไม่แฟร์ซักฟอก เชื่อพุ่งเป้าเล่นงาน
“สุกำพล” จวก ปชป.ไม่แฟร์ซักฟอก เชื่อพุ่งเป้าเล่นงาน หวังเอาคืนถอดยศ มาร์ค” สั่งตั้ง 14 คกก.สอบเทปเสียงหลุด ซัดตัดต่อคลิปเสียง แต่งตั้งปลัด กห. อัด เสถียร” ไร้มารยาทอัดเทปการประชุม... วันที่ 29 พ.ย. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงข่าวกรณีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระหว่างวันที่ 25-27 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่า เป็นไปตามคำสั่งการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่อยากให้รัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจชี้แจงข้อมูล ให้ประชาชนได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงอีกครั้ง สำหรับข้อมูลที่ฝ่ายค้านหยิบมาโจมตีตนนั้นมี 3 ประเด็นคือ การทำผิดเกี่ยวกับการปฏิบัติผิดกฎหมายและข้อบังคับกระทรวงกลาโหม ในการแต่งตั้งนายทหารชั้นนายพล รวมถึงการกลั่นแกล้งขัดขวางไม่ให้ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการการแต่งตั้งของกระทรวงกลาโหม ซึ่งเรื่องนี้ทางฝ่ายค้าน ได้มีการนำคลิปเสียงในระหว่างการประชุมการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหาร เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ไปเปิดในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นการตัดต่อเทป เพราะนำมาเปิดในเฉพาะช่วงที่ตนพูดเท่านั้น ทั้งนี้ ตนเห็นว่าที่มีการอัดเทประหว่างการประชุม เป็นการกระทำที่ไม่น่าเชื่อว่านายทหารระดับสูงขนาดนั้นจะทำได้ ถือเป็นการกระทำที่ไม่มีมารยาทและผิดวินัยทางทหารอย่างร้ายแรง หากมียศแค่ร้อยตรี หรือร้อยโท ยังพอที่จะให้อภัยได้ การทำแบบนี้จะเสียไปที่ตัวเขาเอง เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง “ส่วนตัวดูว่าฝ่ายค้านอภิปรายดี ตรงประเด็น แต่ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งเป็นเรื่องการเมือง วันแรกที่เขากล่าวหาผม 3 เรื่อง แต่วันสุดท้ายก็สรุปอย่างนั้น เหมือนกับว่าที่ผมชี้แจงไปไม่มีประโยชน์เลย เหมือนเป็นสร้างความเข้าใจผิดให้แก่คนที่ไม่ทราบเรื่องมาก่อน จึงคิดว่าอยู่นิ่งไม่ได้กับข้อกล่าวหาดังกล่าว ทั้งนี้ การที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้ามาอภิปรายผม คงเป็นเรื่องเกี่ยวเนื่องกับการที่ผมออกคำสั่งปลด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ออกจากราชการ ในเรื่องของใช้เอกสารเท็จในการเข้าเป็นทหาร นี่คือเรื่องสำคัญ ในประวัติของกระทรวงกลาโหมโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจน้อยมาก แต่ผมก็ไม่ว่ากัน เพราะผมพร้อม และเข้าใจว่าเป็นวิถีทางทางการเมือง เมื่อถามมาก็ตอบ” รมว.กลาโหม กล่าวพล.อ.อ.สุกำพล กล่าวต่อว่า ส่วนการถอดยศนายอภิสิทธิ์ ตนจะดำเนินการต่อให้แล้วเสร็จ แต่ขณะนี้เรื่องอยู่ในขั้นตอนของศาลปกครอง ดังนั้น ต้องรอการพิจารณาของศาลปกครองเสร็จสิ้นก่อน หากศาลปกครองชี้ว่าเป็นเรื่องของวินัยทหาร ตนจะดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ซึ่งขณะนี้ คำสั่งที่ 2 ได้ออกมาแล้วคือ การปลดนายอภิสิทธิ์ออกจากการเป็นนายทหารสัญญาบัตร อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากพูดว่า การดำเนินการของฝ่ายค้านเป็นการผูกใจเจ็บหรือไม่ เพราะตนเป็นลูกผู้ชายพอ จึงอยากให้ดูกันเอาเอง พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวต่อไปว่า ส่วนประเด็นของกองทัพเรือคัดเลือกบริษัท มาร์ซัน จำกัด ทำการต่อเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือจำนวน 3 ลำ วงเงิน 553 ล้านบาท โดยใช้วิธีพิเศษนั้น ไม่ถูกต้อง จนถูกร้องเรียน และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินกำลังตรวจ และ ประเด็นที่ 3 คือโครงการปรับปรุงเรือฟริเกต ชุดเรือหลวงนเรศวร และเรือหลวงตากสิน ของกองทัพเรือ มีการเปลี่ยนแปลงระบบเป้าลวง จากระเบิด SAGEM เป็นระบบ TERMA โดยที่ราคาทั้งสองระบบแตกต่างกันมาก ทำให้มีการทุจริต 1,000 ล้านบาท ซึ่งตนมองว่า เป็นการกล่าวหาที่เกินจริง เพราะราคาจริงแค่ 2,700 ล้านบาท ซึ่งการที่ฝ่ายค้านมาบอกว่า ตนได้เงินทอนถึง 1,000 ล้านบาท ดูจะมากเกินไป ทั้งๆ ที่เป็นเพียงแค่ 1,000 บาทเท่านั้น ซึ่งการพูดแบบนั้นเป็นการเอามันเท่านั้น แต่ทำให้ตนเสียหาย แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอชมฝ่ายค้านที่หาข้อมูลเก่ง เนื่องจากเก่งในเรื่องที่เป็นฝ่ายค้านแล้ว บวกกับนายทหารที่นิสัยไม่ดีบางคนเอาข้อมูลไปให้ ยอมรับว่าเรื่องประเด็นเป้าลวงตนไม่ได้คิดว่าฝ่ายค้านจะนำมาอภิปรายจึงไมได้เตรียมข้อมูล “ทั้ง 3 เรื่อง ขอให้สื่อมวลชนช่วยแก้ข่าวให้ผมด้วยว่า ที่ผมพูดเป็นจริง ไม่ใช่ว่าผมชี้แจงไปอย่างไรก็ไม่สน อย่างนี้มันไม่แฟร์ และเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องบอกว่าอภิปรายเรื่องอะไร เหมือนมวยชกกันว่าชกที่ไหน อย่างไร แต่นี่บอกว่า ชกกัน แต่ไม่บอกว่า ชกที่ไหน อย่างไร มันไม่ถูก ถ้าแน่จริงจะเอาอย่างไรก็บอกกัน พอถึงวันจริงจะให้ชี้แจงยิบ ถ้า รมว.กลาโหม รู้ขนาดนั้นก็เก่งแล้ว ผมเก็งข้อสอบถูก เรื่องเรือสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรือ 3 ลำ แต่พอเรื่องเป้าลวงไม่รู้เรื่อง จึงต้องขอบคุณกองทัพเรือที่ช่วยส่งข้อมูลมาให้ แต่ผมมั่นใจว่าการเซ็นอนุมัติให้กองทัพเรือจัดซื้อมีความถูกต้องและเคลียร์ ถือเป็นสิ่งผมกล้าตัดสินใจ ทั้งนี้ ผมขอปฏิเสธทั้ง 3 ข้อกล่าวหา ล้วนไม่มีมูลความจริงและไม่มีความถูกต้อง เป็นเพียงการนำข้อมูลบางส่วนมากล่าวหาเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดทั้งสิ้น ทั้งๆ ที่ผมชี้แจงไปในสภาหมดแล้ว แต่ทางฝ่ายค้านยังสรุปเหมาว่า ผมผิด และจะนำเรื่องไปร้องที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งผมก็พร้อมที่จะไปชี้แจง” พล.อ.อ.สุกำพล ระบุ พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ตนดูแลงานด้านความมั่นคง สำหรับปัญหาในการดูแลความปลอดภัยของครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตนมองว่ามีโอกาสน้อยมากที่จะเกิดปัญหา ถ้าหากครูทำตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ไม่ออกนอกเส้นทาง เพราะการออกนอกเส้นทาง ถือเป็นความสุ่มเสี่ยงจนเป็นภัยต่อชีวิต ทั้งนี้ ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ความจริงมีเพียง 15% ของพื้นที่ทั้งหมด ทางด้าน พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ทาง พล.อ.อ.สุกำพล ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเอาผิดทางวินัย จากกรณีที่ฝ่ายค้าน นำคลิปเสียงการประชุมแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารมาเปิดในการอภิรายไม่ไว้วางใจ ทั้งหมด 18 คน โดยมีรองปลัดกระทรวงกลาโหม 4 คนเป็นกรรมการ และ พล.ท.พินิจ ฉัตรเสถียรพงศ์ รองเจ้ากรมเสมียนตรา เป็นเลขาฯ โดยกรอบการทำงานเป็นเรื่องของวินัยทั้งหมด อะไรที่อยู่ในคำว่า วินัย ตรงนั้นตรวจสอบได้หมด ส่วนกรณีที่ พล.อ.เสถียร ได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็จะมีทีมงานเจ้าหน้าที่ของกรมพระธรรมนูญอยู่ เพื่อให้คำปรึกษาในรูปแบบวิธีว่าจะทำอย่างไรสำหรับท่านที่เกษียณไปแล้ว ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามกฎระเบียบ ทั้งนี้ื เบื้องต้นสิ่งที่เกิดขึ้น ตามที่เราได้รับข้อมูลมาว่า มีใครทำอะไรที่ไหนอย่างไร มีเป็นกลุ่มแยกเป็นบุคคล ในหลักการต้องเชิญมาสอบปากคำทั้งหมด ซึ่งระยะเวลาในการดำเนินการจะต้องดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะสิ่งต่างๆ เหล่านี้มีความเกี่ยวพันต่อเนื่องกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาใน 2-3 วันนี้ “คณะกรรมการมีหน้าที่ตรวจสอบค้นหาความจริง แล้วที่ประชุมทั้งหมดจะมีการเสนอต่อ ท่าน รมว.กลาโหม ที่แต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ต่อไป หากพบความผิดคณะกรรมการจะต้องมาดูอีกว่า ด้วยความผิดในลักษณะนี้ มีบทลงโทษอย่างไร แค่ไหน แม้การสอบสวนครั้งนี้จะเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.14 ทั้ง พล.อ.ชาตรี ทัตติ จเรทหารทั่วไป และ พล.อ.พิณภาษณ์ สริวัฒน์ ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม แต่ผมก็ไม่หนักใจ เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง เมื่อมีคำสั่งออกมาก็ต้องทำ ทั้งนี้ ยังไม่สามารถพูดได้ว่า จะสอบสวนแล้วพบว่ามีความผิดจริงจะต้องมีการปลดออกจากราชการ หรือถอดยศหรือไม่ เพราะต้องมีการตรวจสอบดูว่าอะไรจริง หรือไม่จริงอีกครั้งหนึ่งก่อน” พล.อ.นิพัทธ์ กล่าว.

มาร์คจี้นายกฯ เร่งหาเจ้าภาพแก้ไฟใต้

มาร์คจี้นายกฯ เร่งหาเจ้าภาพแก้ไฟใต้
“มาร์ค” จี้นายกฯ เร่งหาเจ้าภาพดูไฟใต้คุโชน จวกรัฐแก้เหมือนลอยแพคน 3 จังหวัดชายแดนใต้ แนะเลื่อนวิทยฐานะ-เพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัย สร้างขวัญกำลังใจ...นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวรายการ ฟ้าวันใหม่ ทางบลูสกายแชลแนล ถึงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชุมเพื่อปิดการเรียนการสอนโรงเรียน 300 กว่าแห่ง ว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาใหม่ แต่เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ต้องพยายามหาวิธีการ และปรับแผนตลอดเวลา เพราะครูและข้าราชการในพื้นที่เป็นเป้าของผู้ก่อความไม่สงบ ตนมองว่าการเข้าไปของภาครัฐ เพื่อที่จะหามาตรการป้องกันร่วมกับครูในพื้นที่ทำค่อนข้างช้า ทั้งที่มีข่าวมาระยะหนึ่งแล้ว แต่กลับไม่มีการออกมาตรการ หรือการพูดคุยเพื่อหาทางออก จึงเป็นปัญหาอยู่ รวมถึงการแก้ปัญหาที่ขาดความเป็นเอกภาพและประสิทธิภาพ ซึ่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่ผ่านมา ก็มีการพูดถึงจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีสาระสำคัญชัดเจน แต่ รมว.กลาโหม กลับชี้แจงว่า จะปรับเป็นยุทธศาสตร์เชิงรุกมากขึ้น ทั้งที่งานในเชิงรับคือ การคุ้มครองครู ยังเป็นปัญหาจึงทำให้มีความสับสนอยู่ ซ้ำยังมีความไม่ชัดเจนว่า มอบหมายใครรับผิดชอบส่วนไหน มาตรการคืออะไร จึงทำให้คนในพื้นที่มีความรู้สึกว่าถูกลอยแพ นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งหลักที่จะต้องทำคือ ต้องมีการหารือพบปะโดยเร็วที่สุด เพื่อหามาตรการรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งอาจจะมีประเด็นในเชิงนโยบาย ที่อาจจะต้องสนับสนุนกำลังพล งบประมาณ หรือกฎระเบียบต่างๆ ต้องย้อนกลับมาที่ฝ่ายนโยบาย เวลามีประเด็นในเชิงนโยบายก็ต้องพูดคุยกับฝ่ายนโยบายโดยเร็วที่สุด ซึ่งตนเคยเสนอว่าอยากให้มีรัฐมนตรี 1 คน ที่ลงไปในพื้นที่เป็นเจ้าภาพรับผิดชอบ แต่รัฐบาลก็ยังไม่ยอมรับข้อเสนอนี้ เมื่อถามว่าการที่รัฐบาลไม่รับข้อเสนอของฝ่ายค้านจะเกี่ยวกับเรื่องของหน้าตารัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่อยากจะเชื่ออย่างนั้น และไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าตา แต่เหมือนลอยแพ หรือไม่ใส่ใจมากกว่า ซึ่งเป็นปัญหาที่เราเรียกร้องมาโดยตลอด ซึ่งปัญหาขณะนี้ของนายกฯ คือ การไม่มีการติดตามประเมินผลอะไรทั้งสิ้นในทุกเรื่อง ส่วนกรณีที่จะให้มีการเลื่อนวิทยฐานะในพื้นที่เป็นพิเศษ รวมถึงการเพิ่มเบี้ยเสี่ยงภัยให้ครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยในเรื่องขวัญกำลังใจ แต่ประเด็นเรื่องความปลอดภัย การคุ้มครอง การดูแลเป็นเรื่องที่ต้องทำ เพราะไม่สามารถหยิบเฉพาะเรื่องขวัญกำลังใจมาทดแทนในแง่ความปลอดภัยได้ ซึ่งต้องมีการทำควบคู่กันไป.

ปู่พิชัยชมปชป.ซักฟอกดี อัดส.ส.รัฐพูดดูถูกเพศหญิงจี้ประธานสอบจริยธรรม

ปู่พิชัยชมปชป.ซักฟอกดี อัดส.ส.รัฐพูดดูถูกเพศหญิงจี้ประธานสอบจริยธรรม
“พิชัย รัตตกุล” ชมพลพรรคประชาธิปัตย์ ซักฟอกดี ยันจำนำข้าวทำประเทศล่มจมแน่ อัด ส.ส.รัฐพูดน่าเกลียดดูถูกเพศหญิง แนะประธานสภาฯ ต้องนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในคณะกรรมาธิการจริยธรรมอย่างเร่งด่วน...เมื่อวันที่ 29 พ.ย.2555 นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานสภาที่ปรึกษาพรรค กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ของฝ่ายค้านว่า ตนคิดว่าการอภิปรายในครั้งนี้เป็นเรื่องที่ดีเพราะผู้ใหญ่ในพรรคได้เปิดโอ กาสให้ ส.ส.รุ่นใหม่ได้ทำหน้าที่อภิปราย โดยเฉพาะ ส.ส.หญิงหน้าใหม่ เช่น น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กทม. ที่มีความอดทน ใจเย็น รักษาความเป็นสุภาพสตรีได้ดีมากขณะเดียวกันพอใจผลการอภิปราย เพราะทำให้เห็นประเด็นต่างๆ ที่มีการคอรัปชั่นชัดเจนมากขึ้น และข้อมูลที่ใช้อภิปรายก็ผ่านการศึกษามาพอสมควร มีน้ำหนักมาก โดยเฉพาะเรื่องจำนำข้าวที่ตนได้คุยกับเจ้าของโรงสีและคนต่างประเทศ ก็ยังบอกว่าโครงการรับจำนำข้าวจะนำไปสู่การล่มจมของประเทศและเป็นเรื่องอันตราย ทั้งนี้หวังว่านายกฯ จะมีความละเอียดรอบคอบมากขึ้น และผู้ให้คำแนะนำก็ต้องยอมรับในความจริง ซึ่งนายกฯ ไม่ได้ทุจริต แต่เป็นการเปิดช่องให้มีการทุจริตนายพิชัย กล่าวต่อว่ามีเรื่องน่าเสียดายที่มี ส.ส.บางคนในฝ่ายรัฐบาลใช้คำพูดไม่เหมาะสม หากตนเป็นนายกรัฐมนตรี หรือหัวหน้าพรรค ก็จะลุกขึ้นประท้วงในทันที เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการดูถูกเพศหญิงมาก อีกทั้งเป็นเรื่องน่าเกลียดที่เหน็บแนม เสียดสีสุภาพสตรี ตนเป็นนักการเมืองมากว่า 50 ปีไม่เคยเจอและไม่คิดว่า ส.ส.สมัยนี้จะเป็นเช่นนี้ ซึ่งประธานสภาฯ ต้องนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในคณะกรรมาธิการจริยธรรมอย่างเร่งด่วน พร้อมกับตั้งคณะอนุกรรมการฯ เพื่อกำหนดวันพิจารณาให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นเรื่องจะหายไปอีก.

Wednesday, November 28, 2012

สุเมธแนะ แนวทางพิเศษดับไฟใต้ ชี้ ใช้อาวุธไม่มีทางสำเร็จ

สุเมธแนะ แนวทางพิเศษดับไฟใต้ ชี้ ใช้อาวุธไม่มีทางสำเร็จ
“สุเมธ” แนะต้องใช้แนวทางพิเศษดับไฟใต้ ชี้ใช้อาวุธไม่มีทางสำเร็จ ด้าน “เสธ.ทบ.” เผย ต้องวัดผลงาน รปภ.ครูใต้ ทุกเดือน ลั่น เร่งแก้จุดอ่อน วันที่ 28 พ.ย.พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เสนาธิการทหารบก ในฐานะเลขาธิการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) กล่าวถึงปัญหาที่ครูในพื้นที่ภาคใต้รวมตัวกันปิดโรงเรียนไม่ยอมสอนว่า เรื่องนี้ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ได้กำชับลงไปแล้วในการคุ้มครองครู และต้องวัดผลทุกเดือนในการวางแผนการทำงานว่ายังมีจุดอ่อนตรงไหน แต่ก็มีความลำบาก เพราะครูเดินทางไปมาไม่ได้ อยู่แต่ในโรงเรียน โอกาสที่ผู้ไม่หวังดีก็ทำได้ การดูแลก็ลำบาก ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายไม่ใช่ของฝ่ายทหารอย่างเดียว ความร่วมมือของประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ ทหารก็พยายามเต็มที่ ซึ่งการแก้ไขปัญหาเราคงหมดกำลังใจในการทำงานไม่ได้ ตอนนี้รัฐบาลลงมาก็จัดโครงสร้าง และทุกส่วนราชการก็ต้องมาร่วมมือกัน ในสมัยก่อนส่วนราชการอาจจะไม่สามารถมาร่วมมือกันได้ เพราะการสื่อสารยังไม่เข้าใจกันเต็มที่ แต่ตอนนี้รัฐบาลสร้างโครงสร้างที่บูรณาการมากขึ้นนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า สมัยก่อนประเทศรอบๆ บ้านเราเกิดสงคราม และประเทศเรามีสงครามกองโจร แนวทางการแก้ไขปัญหาในประเทศ หากใช้อาวุธไม่มีทางสำเร็จ เพราะไม่มีสงครามไหนที่รบกับประชาชนแล้วชนะ อย่างในภาคใต้ ส่งทหารลงไปกี่กองพลก็ไม่ชนะ การที่บอกว่ารบกับประชาชนหมายความว่า เราแยกไม่ออกว่าใครเป็นคนก่อการร้าย หรือใครเป็นคนปกติ เพราะอยู่ปนๆ กัน จึงเป็นความยากลำบากในการทำสงคราม ดังนั้น ต้องมีแนวทางพิเศษแก้ไขปัญหา เพราะปัญหาสลับซับซ้อนและละเอียดอ่อน จำเป็นต้องตามเกมให้ทัน เพราะแต่ละครั้ง หากยิงคนหนึ่งจะทำให้ญาติของเขาเป็นศัตรูกับเราหมด

กกต.ตั้งคณะอนุฯ สอบมาร์คข้อหาโดนสั่งถอดยศแล้ว

กกต.ตั้งคณะอนุฯ สอบมาร์คข้อหาโดนสั่งถอดยศแล้ว
เลขาธิการ กกต.เผย ที่ประชุม เห็นชอบตั้งคณะอนุกรรมการสอบ มาร์ค ข้อหา กลาโหม สั่งถอดยศแล้ว เบื้องต้น ขอ 30 วัน สรุปข้อมูล พิจารณาส่งประธานสภาฯ เพื่อส่งต่อศาล รธน.หรือไม่?วันที่ 28 พ.ย. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. เปิดเผยว่า ในการประชุม กกต. มีมติเห็นชอบ ตามที่คณะอนุกรรมการตรวจสอบวินิจฉัยเรื่องร้องคัดค้านและปัญหา หรือข้อโต้แย้ง เสนอให้ ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ขึ้นมาตรวจสอบ กรณีที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ยื่นเรื่องให้ กกต.ตรวจสอบ กรณีที่กระทรวงกลาโหม มีคำสั่งปลด นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารร้ายแรง อาจมีผลให้สมาชิกภาพการเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ ต้องสิ้นสุดลงตามมาตรา 102(6) ประกอบมาตรา106 (5) ของ รัฐธรรมนูญหรือไม่ หากเห็นว่า มีมูลก็ให้ส่งเรื่องไปยังประธานสภาฯ เพื่อให้ประธานสภาฯ ส่งเรื่อง ให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่ง ให้สิ้นสภาพความเป็น ส.ส.ตามมาตรา 91โดยเบื้องต้น กกต.ให้เวลาในการดำเนินการ 30 วัน นับแต่ที่ กกต.แต่งตั้ง คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ จะต้องไปเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายอภิสิทธิ์  รมว.กลาโหม มาสอบถามข้อเท็จจริง ทั้งนี้ หากเสร็จไม่ทัน สามารถขยายเวลาได้ แต่ก็อยู่ที่ กกต.จะอนุญาตให้ขยายเวลาตามที่ขอหรือไม่?.

ดีเอสไอฟัน แทนกับพวก รุกที่เขาแพง

ดีเอสไอฟัน แทนกับพวก รุกที่เขาแพง
ดีเอสไอสรุปสำนวนสั่งฟ้อง “แทน เทือกสุบรรณ” ลูกชาย สุเทพ เทือกสุบรรณ คดีบุกรุกที่เขาแพง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ฯ 14 ไร่ นัดนำตัวส่งฟ้องอัยการจันทร์ 3 ธ.ค.นี้ ...ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 28 พ.ย. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอแถลงสรุปสำนวนสั่งฟ้องนายแทน เทือกสุบรรณ ลูกชายนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ นายพงษ์ชัย ฟ้าทวีพร ผจก.ห้างหุ้นส่วนเรืองปัญญาคอนสตรัคชั่น นายสามารถ เรืองศรี นายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล รวม 4 คน ในคดีบุกรุกที่ดินสาธารณะในพื้นที่เทือกเขาแพงหมู่ 6 ตำบลแม่น้ำ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมจำนวน 45 ไร่ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า จากกรณีมีการร้องเรียนต่อดีเอสไอกรณีการบุกรุกที่ดินของรัฐและป่า ในพื้นที่เทือกเขาแพง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ฯ ของนายแทนเทือกสุบรรณ กับพวก ที่ผ่านมาได้มีการตรวจสอบโดยมีการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เมื่อวันที่ 26 มี.ค.2555 ให้กรณีการบุกรุกที่ดินของรับและป่าในพื้นที่อำเภอเกาะสมุยจังหวัดสุราษฎร์ฯ เป็นคดีพิเศษโดยมีอัยการจากสำนักงานอัยการสูงสุดร่วมสอบสวน จากการลงพื้นที่ของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษสรุปได้ว่า การออกเอกสารสิทธิในพื้นที่เขาแพงของนายแทน เทือกสุบรรณ กับพวกเป็นการออกโดยมิชอบดังนี้ 1. กรณี นส.3 ก.เลขที่ 3301, 3302 และ 3285 เป็นการออกเกินจากหลักฐาน ส.ค.1 จำนวน 2 แปลง และ นำเอา ส.ค.1 ของที่ดินแปลงอื่นมาอ้างออกในที่เกิดเหตุ โดยมิชอบอีก 1 แปลง รวมเนื้อที่ออกมิชอบจำนวน 31 ไร่ 2 งาน 97 ตารางวาผู้เกี่ยวข้องคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัดเรืองปัญญาฯ นายพงษ์ชัย ฟ้าทวีพร หุ้นส่วนผู้จัดการฯ หจก.เรืองปัญญาฯ และนายสามารถ เรืองศรี หุ้นส่วนอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า 2. กรณีนำเอา นส.3 ก.ตามข้อ 1. มาออกเป็นโฉนดเลขที่ 28109 โดยออกเกินจากหลักฐานเดิม 14 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิได้ผู้ที่เกี่ยวข้องคือ นายแทน เทือกสุบรรณ และนายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล โดยนายแทน เป็นผู้ซื้อที่ดิน นส.3 ก.ทั้งสามแปลง และนำไปออกโฉนด ซึ่งหลังออกโฉนดได้มีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มาปิดกั้นลำรางสาธารณประโยชน์ที่ไหลจากภูเขาเพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นโรงแรมและบ้านพักตากอากาศหรูบนเขาแพงของนายแทน และพวก เป็นการส่วนตัว ทำให้ประชาชนที่มีที่ดินอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำไม่มีน้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติใช้ รวมถึงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็กบนพื้นที่เกิดเหตุจากเชิงเขาไปถึงยอดเขา นายธาริต กล่าวอีกว่า ต่อมากรมที่ดินได้มีคำสั่งเพิกถอนพื้นที่ส่วนเกินดังกล่าวออกจากโฉนดที่ดิน โดยให้เหตุผลว่าเป็นการนำเอาที่ดินนอกหลักฐานมาออกและที่ดินบริเวณดังกล่าว จากผลการอ่านแปลวิเคราะห์ภาพถ่ายทางอากาศของสำนักงาน ป.ป.ช. พบว่าไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์แต่อย่างใด คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้พิจารณาและมีความเห็นว่า การกระทำของนายพงษ์ชัย ฟ้าทวีพร นายสามารถ เรืองศรี นายแทน เทือกสุบรรณ นายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล เป็นความผิดฐาน ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น (ที่ดินที่มีความลาดชันเกิน 35 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นพื้นที่ป่า ตามมติ ครม.เมื่อปี 2528) และเข้าไปยึดถือครอบครอง ก่อสร้าง หรือเผาป่าในที่ดินของรัฐ โดยมิได้มีสิทธิ์ครอบครอง อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และ ประมวลกฎหมายที่ดิน อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า คดีดังกล่าวเหตุเกิดระหว่างวันที่ 17 พ.ค.2544 ถึงปัจจุบัน ดีเอสไอจึงมีความเห็นสั่งฟ้องและจะส่งสำนวนการสอบสวนพร้อมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนต่ออธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษในวันจันทร์ที่ 3 ธ.ค.นี้ สำหรับความผิดในเรื่องการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบซึ่งเป็นความผิดต่อเจ้าพนักงานนั้น อยู่ในอำนาจของ สำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้สรุปเรื่องส่งให้สำนักงาน ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนต่อไป.

Sunday, November 25, 2012

เผยม็อบถูกจับ117คน แจ้งข้อหาอนุ2 เข้าเขตห้าม

ถล่มซ้ำ ชัจจ์ เล่นไม่ซื่อ เปิดช่องพวกพ้องเข้าบริหารจตุจักรปชป.ถล่มซ้ำ “ชัจจ์” ส่อทุจริตในหน้าที่ เอื้อประโยชน์ให้อดีตเจ้าของธุรกิจโรงสีข้าวบริหารตลาดนัดจตุจักร รวมถึงขึ้นค่าเช่าขูดรีดผู้ค้า ขณะที่อดีต รมช.คมนาคม ยอมรับจ้างบริษัทเอกชนเข้าบริหารโดยวิธีพิเศษจริง เหตุไม่มีใครเข้าประกวดราคา …ปชป.ซักฟอกชัจจ์ตั้งประภัสร์เป็นผู้ว่ารฟท.จ่อผิดกม.เหตุขาดคุณสมบัติ“นคร มาฉิม” สส.พรรคประชาธิปัตย์ เปิดฉากซักฟอก “พล.ต.ท.ชัชจ์” ตั้ง"ประภัสร์ จงสงวน" เป็นผู้ว่า รฟท. จ่อผิดกฎหมายเหตุขาดคุณสมบัติ พร้อมโยงนายกรัฐมนตรีต้องร่วมรับผิดชอบ ด้านประธานที่ประชุมจี้ฝ่ายค้านยื่นญัติติถอดนายกฯ หากไม่ยื่นอาจสั่งลบคำอภิปรายที่พาดพิง...สุกำพล โต้ ปชป.เปลี่ยนสเปกแท่นยิงเรือรบเหมาะแล้วพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม โต้แก้ สเปกแท่นยิงเรือรบเหมาะสม ยันไม่มีสินบน เผย ทร.เตรียมแจงสัปดาห์หน้า..อธิปรายวันแรกฉลุย! แย้มพรุ่งนี้จัดหนัก จำนำข้าวฝ่ายรัฐบาล-ค้านประสานเสียง พอใจภาพรวมการอธิบายวันแรก ปชป.ฟุ้งข้อมูลแน่นชำแหละทุจริต ระบุพรุ่งนี้จัดหนัก "จำนำข้าว" ด้านวิปรัฐบาลเย้ยไม่มีประเด็นใหม่...นพดล ชี้ม็อบเสธ.อ้ายพังเปรียบเหมือนจุดไฟกลางฝนนายนพดล ปัทมะ เปรียบม็อบพังเพราะจุดไฟกลางฝน ชม เสธ.อ้าย ยุติเพราะส่อจะเกิดเหตุความรุนแรง อาจทำให้ไม่ปลอดภัย...ปชป.ซักฟอก ชัจจ์ งาบงบน้ำท่วมถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ จองกฐิน “ชัจจ์” งาบงบฟื้นฟู 1.2 แสนล้าน ปูดจ่ายงานให้ บ.เครือข่ายเจ๊ ด. คนดัง เทียบปี 54 เซฟงบได้เกือบครึ่ง แฉสัญญาฮั้วเพียบ ลั่นรู้แล้วไม่แก้ไข คุกตลอดชีวิต...ผบ.ตร.พบนายกฯเสนอยกเลิก พรบ.ความมั่นคงพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. เข้าพบนายกฯ เสนอยกเลิกพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เหตุสถานการณ์คลี่คลายแล้ว...ชง กกต.ตั้งอนุกรรมการสอบปม มาร์ค ถูกปลดคาดสัปดาห์นี้ กกต. ตั้งอนุกรรมการ สอบปม 'มาร์ค' ถูกปลดออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารร้ายแรง ...ชูวิทย์ ไล่ขยายผลจวก เฉลิม ปัดตอบบ่อนการพนันนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.พรรครักประเทศไทย ขยายผลจวก "เหลิม" ไม่ตอบที่ถามปมบ่อนการพนัน ลากไส้ต่อ แต่งตั้งนายตำรวจระดับ ผบ.ไม่ชอบ..โฆษกเพื่อไทยโว ซักฟอกวันแรกรัฐบาลสอบผ่านฉลุยพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เย้ยซักฟอกจืดชืด อัด "มาร์ค" ใจเสาะไม่กล้าอภิปราย เพราะกลัวไม่มีคุณสมบัติ ชมบรรยากาศเรียบร้อยดี...ผอ.ศอ.รส.จ่อชงนายกฯ เลิก พ.ร.บ.มั่นคงพรุ่งนี้โฆษก ศอ.รส.เผยที่ประชุมมีมติยกเลิกประกาศ 4 ฉบับ โดยเตรียมเปิดการจราจรตามปกติ ขณะที่ พล.ต.อ.อดุลย์เตรียมเสนอนายกฯ ยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในวันพรุ่งนี้...สาทิตย์ ซักฟอก เฉลิม ละเว้นไม่ถอดยศ ทักษิณ'สาทิตย์' ซัดเฉลิมละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ถอดยศทักษิณ อัดลุแก่อำนาจช่วยพวกพ้อง ด้านเฉลิม โต้ไม่ได้โง่เรียนจบด็อกเตอร์กฎหมายไม่เข้าใจ ยันไม่เคยข่มขู่นักข่าว...อ้างเปลี่ยนสเปกซื้ออาวุธกองทัพเรือ งาบพันล้านนายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อ้างมีไอ้โม่งสั่งเปลี่ยนสเปก จัดซื้อระบบอาวุธเรือรบ ของกองทัพเรือ งาบหัวคิว 35% พร้อมกล่าวหา เชื่อมโยง รมว.กลาโหม สั่งเปลี่ยนสเปกทั้งที่ต่างจากสัญญาทีโออาร์...เปิดคลิปลับ อ้างบิ๊กโอ๋ ล้วงลูกตั้งปลัด กห.ศึกซักฟอกเดือดตั้งแต่เริ่ม นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดคลิปเสียงลับ อ้าง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ล้วงลูกแต่งตั้งปลัดกลาโหม...เลือกปฏิบัติม็อบ มาร์คซัดตร. ควรปรับทัศนคตินายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตอก เจ้าหน้าที่เลือกข้างเป็นปฏิปักษ์ต่อม็อบฝ่ายตรงข้าม จี้ รัฐปรับทัศนคติ ห่วงอนาคตรุนแรง พร้อมตั้ง นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ดูคณะทำงานดูแลประชาชน ที่ถูกละเมิดสิทธิจากชุมนุมม็อบ อพส.นายกรัฐมนตรี สั่งตำรวจ ให้ความเป็นธรรมม็อบ อพส.นายกรัฐมนตรี ขอให้ฝ่ายมั่นคงประเมินสถานการณ์ ก่อนตัดสินใจจะยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงหรือไม่ สั่ง ตร.ให้ความเป็นธรรมม็อบ อพส.ศึกซักฟอกรัฐบาล เริ่มวันนี้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรี รวม 3 รัฐมนตรี เริ่มวันนี้ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยรัฐสภาอย่างเข้มงวด แม้กลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม จะยกเลิกการชุมนุมไปแล้วก็ตาม...นับแต่นี้ไป พล.อ.บุญเลิศ ได้ตายไปแล้ว...."พล.อ.บุญเลิศ ได้ตายไปแล้ว...." คำประกาศของ เสธ.อ้าย ระหว่างการให้สัมภาษณ์บนเวทีลานพระบรมรูปทรงม้า เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 24 พ.ย. ท่ามกลางสื่อมวลชนที่ยืนออ รอรุมยิงคำถามต่างๆ นานาเข้าใส่อย่างไม่หยุดหย่อนเสธ.อ้ายรับพ่ายแพ้ขอยุติบทบาท โทษรบ.ชั่วร้ายสกัดกั้นม็อบ"เสธ.อ้าย" แอ่นอกรับความพ่ายแพ้ ยุติชุมนุม อ้างรักษาชีวิตคน โทษเพราะความชั่วร้ายของรัฐบาล จวกตร.รังแกประชาชนใช้แก๊สน้ำตา สกัดกั้นทุกเส้นทางจนมวลชนไม่ถึงล้านตามเป้า ประกาศไม่เคลื่อนไหวอีกต่อไปบอก เสธ.อ้ายได้ตายไปแล้ว ใครจะสานต่อก็ช่าง และจะไม่ฟ้องเจ้าหน้าที่...เผยม็อบถูกจับ117คน แจ้งข้อหาอนุ2 เข้าเขตห้ามผบช.ภ.1 พร้อม ผวจ.ปทุมฯ นำคณะเข้าเยี่ยมผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวมาที่หอประชุมใหญ่ ตชด.ภ.1 เผยมีทั้งหมด 117 คน เป็นชาย 94 คน หญิง 23 คน ทั้งหมดจะถูกแจ้งข้อหาตามอนุ 2 คือ เข้าไปในสถานที่ประกาศเป็นเขตห้ามเข้า เผยจะผ่อนผันให้ญาติเข้าเยี่ยมได้ตามสิทธิ์...

เปิดคลิปลับ อ้างบิ๊กโอ๋ ล้วงลูกตั้งปลัด กห.

เปิดคลิปลับ อ้างบิ๊กโอ๋ ล้วงลูกตั้งปลัด กห.
ศึกซักฟอกเดือดตั้งแต่เริ่ม นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดคลิปเสียงลับ อ้าง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ล้วงลูกแต่งตั้งปลัดกลาโหม...นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นคนแรก ได้ลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม โดยได้มีการกล่าวหาว่า พล.อ.อ.สุกำพล ใช้อำนาจรัฐมนตรี เข้าแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล ในตำแหน่งปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งต่อมาได้ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่าง พล.อ.อ.สุกำพล และ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม จนนำไปสู่การเซ็นคำสั่งโยกย้าย พล.อ.เสถียร ไปช่วยราชการที่สำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมทั้งได้นำเอาคลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นเสียงการสนทนาระหว่าง พล.อ.อ.สุกำพล กับ พล.อ.เสถียรในระหว่างการประชุมนายทหาร เพื่อพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายดังกล่าวมาเปิดในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วยจากนั้น พล.อ.อ.สุกำพล ได้ลุกขึ้นชี้แจงโดยระบุว่า เสียงจากคลิปดังกล่าวเป็นการประชุมในวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2555 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งได้ตำหนิผู้ที่แอบอัดคลิปเสียงดังกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ซึ่งตนเองก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนแล้ว ขณะที่คลิปเสียงดังกล่าว คาดว่าน่าจะมีการตัดต่อ เนื่องจากผู้อภิปรายไม่ได้เปิดเสียงการสนทนาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในห้องประชุม ส่วนข้อกล่าวหาว่า มีการใช้อำนาจรัฐมนตรีเข้าแทรกแซงการแต่งตั้งดังกล่าวนั้น ขอยืนยันว่า ตนได้มีการดำเนินการแต่งตั้งตามหลักการของ พ.ร.บ.กลาโหม อย่างเคร่งครัด

อ้างเปลี่ยนสเปกซื้ออาวุธกองทัพเรือ งาบพันล้าน

อ้างเปลี่ยนสเปกซื้ออาวุธกองทัพเรือ งาบพันล้าน
นายศิริโชค โสภา ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ อ้างมีไอ้โม่งสั่งเปลี่ยนสเปก จัดซื้อระบบอาวุธเรือรบ ของกองทัพเรือ งาบหัวคิว 35% พร้อมกล่าวหา เชื่อมโยง รมว.กลาโหม สั่งเปลี่ยนสเปกทั้งที่ต่างจากสัญญาทีโออาร์...เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่รัฐสภา ได้มีประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยนายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปราย พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม โดยกล่าวหาว่า ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่จนเกิดการทุจริตคอรัปชันขึ้นในกระทรวงกลาโหม ในเรื่องการจัดซื้อระบบพัฒนาป้องกันภัยคุกคามของเรือหลวงนเรศวร และเรือหลวงตากสิน ภายใต้งบประมาณ 2,699 ล้านบาทโดยกล่าวอ้างว่า ได้มีการอนุมัติซื้ออุปกรณ์ผิดจากหลักเกณฑ์ TOR เดิม ซึ่งได้กำหนดให้ต้องเป็นแบบแท่นหมุน เพราะเป็นเทคโนโลยีทันสมัยที่สุด ที่เรือรบฟริเกตใช้กันทั่วโลก ซึ่งบริษัท Saab AB (publ) ที่เป็นผู้ชนะการประมูล ได้ใช้ระบบ SAGEM DECOY เป็นระบบแท่นยิงหมุนได้ตามที่กำหนดแต่เมื่อ พล.อ.อ.สุกำพล เข้ามารับตำแหน่ง รมว.กลาโหม ได้เพียง 12 วัน ได้มีไอ้โม่งสั่งการไปยังบริษัท Saab AB (publ) ให้เปลี่ยนสเปกที่ต่างจากทีโออาร์ มาใช้ระบบ TERMA DECOY เป็นแท่นยิงแบบตั้งอยู่กับที่ ซึ่งล้าสมัยกว่าหลักเกณฑ์จัดซื้อเป็นอย่างมาก จากนั้น พล.อ.อ.สุกำพล ก็เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อให้อนุมัติงบประมาณปรับปรุงวงเงิน 2,699 ล้านบาท ให้ปรับปรุงเรือหลวงนเรศวร และกองทัพเรือ ได้ลงนามจัดซื้อจัดจ้าง ในวันที่ 25 ก.ย.55 รวมทั้ง รมว.กลาโหมได้ยอมรับส่วนลดจำนวน 1,000 บาท แต่เท่ากับว่าจะมีเงินทอนให้กับฝ่ายการเมือง 1,000 ล้านบาท คิดเป็น 35% จึงอยากถามว่าเงินส่วนดังกล่าวอยู่ที่ไหนทั้งนี้ถือว่ากรณีดังกล่าวเป็นการทุจริตคอรัปชัน ส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของกองทัพเรือ เพราะมีการเปลี่ยนระบบป้องกันภัยคุกคามย้อนยุค ดังนั้นหากจะดำเนินการอะไรควรคิดถึงลูกเรือที่ประจำการบนเรือหลวงนเรศวร 

สาทิตย์ ซักฟอก เฉลิม ละเว้นไม่ถอดยศ ทักษิณ

สาทิตย์ ซักฟอก เฉลิม ละเว้นไม่ถอดยศ ทักษิณ
สาทิตย์ ซัดเฉลิมละเว้นปฏิบัติหน้าที่ไม่ถอดยศทักษิณ อัดลุแก่อำนาจช่วยพวกพ้อง ด้านเฉลิม โต้ไม่ได้โง่เรียนจบด็อกเตอร์กฎหมายไม่เข้าใจ ยันไม่เคยข่มขู่นักข่าว...เมื่อวันที่ 25 พ.ย. ที่รัฐสภา มีรายงานถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวอ้าง เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาให้จำคุก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ 2 ปี มีความผิดตามคำพิพากษาศาลฎีกา และคำสั่งดังกล่าวได้ส่งไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลขณะนั้นใช้ตำรวจเป็นเครื่องมือ เล่นงาน พ.ต.ท.ทักษิณ และเห็นว่าควรส่งเรื่องดังกล่าวให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัย เมื่อคณะกรรมการกฤษฎีกามีคำวินิจฉัยออกมาเรียบร้อยแล้ว รัฐบาลยิ่งลักษณ์ กลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งที่ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นรองนายกฯ กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามระเบียบ สตช.ทันที แต่ ร.ต.อ.เฉลิม กลับไม่ดำเนินการใดๆ ถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า เดือนกันยายน ปี 2552 สตช. ส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาวินิจฉัย 2 ประเด็น ได้แก่ 1. คำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถือว่าเป็นไปตามระเบียบตำรวจหรือไม่ และ 2. หมายรวมถึงตำรวจนอกราชการหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการกฤษฎีกาได้มีคำวินิจฉัยตอบกลับมาว่า หมายรวมถึงคำพิพากษาที่ถึงที่สุดไม่ว่าศาลใด และหมายรวมถึงตำรวจนอกราชการด้วย ซึ่งตั้งแต่ระเบียบดังกล่าวบังคับใช้ ก็มีการถอดยศนายตำรวจชั้นสัญญาบัตรกว่า 60 ราย ขณะที่ปรากฏว่ามีการถอดยศตำรวจตลอดเวลา แต่ไม่ปรากฏชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในรายชื่อเหล่านั้น และยังปรากฏข้อเท็จจริงว่า มี ส.ส.สังกัดพรรคเพื่อไทย 2 คนและข้าราชการบำนาญตำรวจไปยื่นหนังสือ ให้ยกเลิกระเบียบการถอดยศ โดยอ้างว่าผิดรัฐธรรมนูญ ซึ่ง 1 ในรายชื่อนั้นชื่อ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.กระทรวงมหาดไทยนายสาทิตย์ กล่าวต่อว่า เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมยังไม่ดำเนินการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม ตอบว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความเห็นว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ ซึ่งถือเป็นการโกหก เลือกปฏิบัติ ลุแก่อำนาจ ช่วยพวกพ้องด้าน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวชี้แจงว่า จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงไม่โง่ มีสติพอสมควร นายสาทิตย์บอกตนลุแก่อำนาจ ขนาดผู้ชุมนุมขับรถชนตำรวจ โยนแก๊สใส่ตำรวจ ถึงไม่ประสงค์ให้ตายแต่ก็หวังผลได้ การใช้แก๊สน้ำตาตนไม่ได้สั่ง แต่ปฏิบัติการตามหลักสากล ที่บอกตนว่าขาดคุณธรรมเรื่องนี้ก็เถียงกันไม่จบ แล้วที่หาว่าตนไปข่มขู่นักข่าว เมืองไทยไม่มีนักการเมืองคนไหนข่มขู่นักข่าวได้ แล้วที่นักข่าวถามตนว่าเป็นขี้ข้าทักษิณ ตนก็บอกว่าเป็นมานานแล้ว การด่าตนว่าเป็นขี้ข้าเป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า ตนเป็นคนใจกว้างไม่หยุมหยิมคิดเล็กคิดน้อย จึงไม่ได้แจ้งความ

Saturday, November 24, 2012

เลขาฯสมช.ยันใช้แก๊สน้ำตา ไม่สร้างความรุนแรง

เลขาฯสมช.ยันใช้แก๊สน้ำตา ไม่สร้างความรุนแรง
เลขาฯ สมช.ยันใช้แก๊สน้ำตาไม่สร้างความรุนแรง อ้างผู้ชุมนุมพยายามจะฝ่าด่านตำรวจที่ป้องกันสถานที่ราชการ ซึ่งยอมให้ผ่านไม่ได้ เตรียมประเมินจำนวนผู้ชุมนุม 15.00-16.00 น. ...เมื่อวันที่ 24 พ.ย. พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงการใช้แก๊สน้ำตากับผู้ชุมนุมว่าเบื้องต้นผู้ชุมนุมพยายามจะฝ่าด่านตำรวจที่ป้องกันสถานที่ราชการ ซึ่งยอมให้ผ่านไม่ได้ จึงได้มีการแจ้งมาตรการก่อน ไม่ได้เป็นการข้ามขั้นตอน แต่ผู้ชุมนุมไม่เชื่อก็มีการดำเนินการ ไม่ถือว่าเป็นการใช้ความรุนแรง และได้ทำความเข้าใจกันแล้ว ผู้ชุมนุมไปในจุดที่เปิดให้เข้า เราไม่ผิดกั้นการชุมนุมอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ยืนยันเจ้าหน้าที่ไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตาหมดอายุ ส่วนจำนวนผู้ชุมนุมจะสามารถประเมินได้ในช่วง 15.00-16.00 น.

ด่วน ! ยิงแก๊สน้ำตารอบ 2 สกัดม็อบแยกมิสกวัน

ด่วน ! ยิงแก๊สน้ำตารอบ 2 สกัดม็อบแยกมิสกวัน
ด่วน ! ปะทะอีกรอบ 2 ตร.ใช้แก๊สน้ำตา สกัดม็อบ อพส. บริเวณแยกมิสกวัน ทำผู้ชุมนุมล่าถอยไปรวมที่เวทีใหญ่ลานพระบรมรูปทรงม้า...  วันนี้ (24 พ.ย.55) เวลา 14.00 น. มีรายงานว่า ได้เกิดการปะทะกันรอบ 2 ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ และกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม บริเวณแนวแยกมิสกวัน โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการใช้แก๊สน้ำตากับกลุ่มผู้ชุมนุมอีกครั้ง เบื้องต้นทำให้มีกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งล่าถอย รวมทั้งควันจากแก๊สน้ำตา ได้ลอยไปจนเกือบถึงเวทีการชุมนุมของกลุ่ม อพส. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ด้วย

ประมวลภาพตำรวจปะทะม็อบรอบ2

ประมวลภาพตำรวจปะทะม็อบรอบ2
หลังจากมีเหตุการณ์ปะทะกันไปแล้วเมื่อช่วงเช้าระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ชุมนุมองค์การพิทักษ์สยาม ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้แก๊สน้ำตากับกลุ่มผู้ชุมนุม บริเวณแยกมิสกวันอีกครั้ง ซึ่งควันจากแก๊สน้ำตาได้ลอยไปจนเกือบถึงเวทีปราศรัยของกลุ่มผู้ชุมนุมบริเวณลานพระบรมรูปด้วย เบื้องต้นผู้ชุมนุมบางส่วนได้ล่าถอยออกไปแล้ว 

Thursday, November 22, 2012

เสธ.หนั่น ช็อก หายใจไม่ออก หามส่ง รพ.ศิริราช

เสธ.หนั่น ช็อก หายใจไม่ออก หามส่ง รพ.ศิริราช
เสธ.สนั่น ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เกิดอาการช็อกหมดสติ หายใจไม่ออกตั้งแต่เช้ามืด เหตุหลอดลมตีบ ไอ หามส่ง รพ.ศิริราช แพทย์สั่งงดเยี่ยม - ฟื้นฟูร่างกายวันที่ 23 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เกิดอาการช็อกหมดสติตั้งแต่ช่วงเช้ามืดวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา คนใกล้ชิดจึงนำส่ง รพ.นนทเวช แพทย์ได้ปั๊มหัวใจ แต่อาการไม่ดีขึ้น จึงส่งต่อไปยัง รพ.ศิริราช โดยล่าสุดอาการยังวิกฤติ อยู่ห้องไอซียู โดยมีแพทย์เฝ้าดูแลอาการใกล้ชิดทั้งนี้ ล่าสุดมีรายงานว่า พล.ต.สนั่น แพ้อากาศ จนเกิดอาการไออย่างหนักจนหลอดลมตีบ กระทั่งไม่สามารถหายใจด้วยตัวเองได้  จึงถูกส่งตัวเข้าทำการรักษาที่ ตึก อัษฎางค์ รพ.ศิริราช ด้วยอาการ ไอ และ สำลักเสลด จากโรคถุงลมโป่งพอง แพทย์งดเยี่ยม-ฟื้นฟูร่างกาย คาด 2-3 วันกลับบ้านได้ด้านนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ว่า เพิ่งรับทราบข่าวดังกล่าวจากกลุ่มสื่อมวลชนและกำลังติดต่อนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ลูกชาย เสธ.หนั่น เพื่อสอบถามอาการอยู่ ทั้งนี้ นายศิริวัฒน์ยังไม่รับโทรศัพท์ หากมีการยืนยันอาการของ พล.ต.สนั่น ออกมาอย่างไรก็จะแจ้งให้ทราบ ตนก็มีความเป็นห่วง พล.ต.สนั่น อยู่มากเช่นกัน.

อพส.ย้ำ ยึดสันติอหิงสา ไม่บุกสภา-ล้อมทำเนียบ

อพส.ย้ำ ยึดสันติอหิงสา ไม่บุกสภา-ล้อมทำเนียบ
พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม ซัดรัฐบาลตาขาวออก พ.ร.บ.ล้อมคอก ยันชุมนุมอหิงสาไร้ความรุนแรง ไม่มีซ่องสุมอาวุธ ใช้สันตินำการชุมนุม เชื่อไม่มีการยืดเยื้อ เตรียมทำบวงสรวงใหญ่เอาฤกษ์...เมื่อวันที่ 23 พ.ย. พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวถึงการเตรียมพร้อมที่จะมีการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามในวันที่ 24 พ.ย. นี้ว่า ตนเห็นว่าที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร ตนตั้งข้อสังเกตว่าไม่มีประเทศไหนในโลกที่ออกพ.ร.บ.ดังกล่าวล่วงหน้าก่อนการชุมนุม ซึ่งแสดงถึงความขี้ขลาดตาขาวผลักภาระให้ตำรวจ ซึ่งการประกาสใช้ พ.ร.บ.นี้สวนทางกับข้อเท็จจริงทางนิตินัย โดยเฉพาะที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยกคำร้องเรื่องการชุมนุมว่าไม่ขัดกับมาตรา 68 ซึ่งยืนยันว่าจะมีการชุมนุมดำเนินต่อไป ต้องพึงระวังการใช้กฎหมายที่มีศักดิ์สิทธิ์ต่ำกว่ารัฐธรรมนูญมาอยู่เหนือกฎหมายของประชาชน โดยเฉพาะการที่นายกรัฐมนตรีออกแถลงการณ์แต่ในการแถลงกลับไม่มีการชี้แจงถึงสิ่งบอกเหตุที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง ไม่มีการซ่องสุมอาวุธ โดยไม่มีถังน้ำมันและยางรถยนต์ที่จะก่อเหตุแต่อย่างใด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตำรวจสามารถรับรู้ได้พล.อ.ท.วัชระ  กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม การชุมนุมจะเป็นไปอย่างอหิงสานิยม ใช้สันตินำและไม่มีการเคลื่อนไหวไปไหนอย่างที่รัฐบาลมีความพยายามชี้นำ ขณะนี้ยืนยันว่าการชุมนุมอยู่ที่ประมาณ 5 แสนคน ที่จะถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของประชาชน คนที่ไม่เคยออกมาชุมนุมก็จะออกมาในการชุมนุม แต่หากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ถึง 5 หมื่นคนก็จะประกาศยุติชุมนุมทันที ยืนยันว่าสามารถควบคุมไม่ให้การชุมนุมเกิดความวุ่นวาย จะใช้กลุ่มสันติอโศกที่มีวินัยใช้ธรรมะนำ รวมถึงกลุ่มที่มีประสบการณ์ในการชุมนุม อีกทั้ง รปภ.ที่มาจากต่างจังหวัด ซึ่งจะได้มีการชี้แจงวิธีการต่างๆ อีกครั้งด้านนายกรหริศ บัวสรวง กรรมการองค์การพิทักษ์สยาม ในฐานะโหรประจำกลุ่ม กล่าวว่า ในวันที่เริ่มชุมนุมจะมีการทำพิธีใหญ่ในเวลา 09.01 น. และจากการตรวจชะตาดูแล้วแล้วราหูจะเข้าลักษณะเดียวกันกับรัฐบาลนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง รัฐบาลจะอยู่ไม่ได้ แต่ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยามจะไม่รอจนถึงวันที่ 10 ธ.ค. จะเผด็จศึกให้ได้ภายในวันที่ 24-25 พ.ย.นี้.

ตร.ปิดถนนรอบรัฐสภารับมือม็อบ ทำรถติดหนัก

ตร.ปิดถนนรอบรัฐสภารับมือม็อบ ทำรถติดหนัก
ตำรวจปิดถนนรอบรัฐสภา พร้อมนำแท่งแบริเออร์ปิดเส้นทางถนนโดยรอบ รับม็อบ เสธ.อ้าย อนุญาตเฉพาะรถที่เกี่ยวข้องผ่านได้ ส่งผลถนนโดยรอบเกิดรถติดอย่างหนักวันที่ 23 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณรัฐสภา เพื่อรับมือการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ยังเป็นไปอย่างเข้มงวด โดยภายในรัฐสภานอกจากจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาแล้วยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และหน่วยรักษาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) รวม 3 กองร้อย คอยตรึงกำลังโดยรอบเช่นกัน ขณะที่บริเวณด้านนอกรัฐสภามีการนำแผ่นแบริเออร์ปิดเส้นทางโดยรอบถนนราชวิถี ตั้งแต่แยกการเรือนมาจนถึงเส้นตัดถนนพระราม 5 และถนนพิชัย ตั้งแต่แยกขัตติยานีจนถึงหน้าสวนสัตว์ดุสิต โดยอนุญาตให้เฉพาะรถราชการ ผู้ที่เกี่ยวข้องและรถเล็กสามารถผ่านได้เท่านั้น โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 1 กองร้อย เฝ้าประจำตามแยกต่างๆ ส่งผลให้การจราจรโดยรอบติดขัดอย่างหนัก แต่ ส.ว.ยังสามารถเดินทางเข้าร่วมประชุมวุฒิสภานัดพิเศษได้ตามปกติ เช่นเดียวกับสวนสัตว์ดุสิตที่ยังเปิดทำการตามปกติด้วย

เรืองไกร ชี้ช่อง ส.ส.ใช้เอกสิทธิ์ ชิ่งสภาฯไม่ร่วมซักฟอก

ผบ.ทบ.เร่งทำแผนดูแลม็อบ ย้ำเน้นเจรจาไม่คิดปราบผบ.ทบ.เผยเตรียมจัดทำแผนดูแลม็อบเสนอ กอ.รมน. พร้อม สห.สนับสนุนอีก 150 นาย ย้ำไม่คิดปราบ วอนขอความร่วมมือทุกภาคส่วน เน้นเจรจาเป็นหลักเพราะคนไทยด้วยกันแม้ว โฟนอินแดงเชียงใหม่ สับ เสธ.อ้าย โกหกทำบ้านเมืองวุ่นแดงเชียงใหม่ พร้อมเครือข่าย 17 จังหวัดชุมนุมปราศรัยต่อต้านม็อบเสธ.อ้าย "แม้ว" โฟนอินจวก "เสธ.อ้าย" โกหกต่อเนื่อง หาว่าเป็นมะเร็ง ย้ำปรองดองเกิดได้ ต้องมีความเป็นธรรม ทั้งกติกาและผู้รักษากติกา วอนเสื้อแดงอย่าออกมาปะทะ ให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจัดการพวกหวังบุญหล่นทับ สร้างสถานการณ์ แขวะ ปชป.อย่าคิดฝักใฝ่ลัทธิข้างถนน...ส่งรายงานผลงานรัฐครบรอบ 1 ปี เข้าสภาฯสัปดาห์หน้ารัฐบาลได้ฤกษ์ส่งรายงานผลงาน ครบรอบ 1 ปี เข้าสภาผู้แทนราษฎร สัปดาห์หน้า โอ่ละเอียดและอ่านง่าย ส่วนจะแถลงข่าวต่อสื่อฯหรือไม่ นายกฯจะเป็นผู้พิจารณาฉะรัฐใช้ พ.ร.บ.มั่นคงเกินจำเป็น ชี้ยังมองไม่เห็น ชุมนุมไม่สงบปชป.ฉะรัฐ ใช้ พ.ร.บ.มั่นคงฯ เกินจำเป็น แนะรอดูพฤติกรรมใช้อำนาจ จี้ระวังแดงป่วนตามใบสั่ง หากม็อบ "เสธ.อ้าย" เกิดจุดติดผบ.ตร.คาดม็อบ เสธ.อ้าย ปักหลักยืดเยื้อ 2-3 วันพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.คาด ม็อบของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม จะชุมนุมยืดเยื้อ 2-3 วัน รับประเมินจากการข่าว เผยเตรียมกำลังไว้ 112 กองร้อย มั่นใจจะไม่กระทบกับการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ส.ส.ปชป.ชายแดนใต้ ประณามรัฐไม่จริงใจแก้ไฟใต้ส.ส.ปชป.จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประณามรัฐบาล ไม่จริงใจแก้ปัญหาไฟใต้ ทำสภาล่ม เหตุ ส.ส.รัฐบาลไม่ยอมมาประชุม จนต้องสั่งปิด ขณะถามกระทู้สดในสภาจี้ถอดคลิปล้อ ปู-โอบามา ชี้ทำลายภาพลักษณ์ปชป.จี้ “กต.-ไอซีที” ถอดคลิปล้อ “ปู-โอบามา” ทั้งสื่อถึงสถานบริการทางเพศ และวัฒนธรรมเรื่องเพศที่ผิด ชี้ทำลายภาพลักษณ์ประเทศ...มาร์ค กำชับลูกพรรคซักฟอกเข้มเน้นนายกฯนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ติวลูกพรรคซักฟอกรัฐเข้ม เน้นนวดนายกฯ 2 วัน ดักทาง พท.เล่นเกมยื้อเวลากรณีคุณสมบัติส.ส.จี้รัฐขยายสมัยประชุมหากศึกซักฟอกสะดุดกลางคัน...ธีระชนยันไม่ลงชิงตำแหน่ง ผู้ว่า กทม. แน่นอน"ธีระชน มโนมัยพิบูลย์" รองผู้ว่าฯกทม. ย้ำ ไม่ลงชิงตำแหน่ง ผู้ว่าฯกทม.แน่ เตรียมเผยความจริง ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ปกป้องกทม.ป้องกันการถูกสาดโคลนจากฝ่ายตรงข้ามนายกฯ ติวเข้มผู้ว่าฯ-ผู้การตร.ทั่วประเทศ รับมือม็อบ"ยิ่งลักษณ์" นายกรัฐมนตรี ติวเข้ม ผู้ว่าฯ-ผู้การ ทั่วประเทศ รับมือ ม็อบ "เสธ.อ้าย" ยัน แถลงเหตุผล งัด พ.ร.บ.มั่นคงพื้นที่ กทม.3 เขต ผ่านทีวีพูลค่ำนี้บัวแก้วเชิญทูตฟังชี้แจงออกพรบ.มั่นคง หวั่นส่งสารผิดรมว.ต่างประเทศ เรียกทูตแจงออกพ.ร.บ.มั่นคง หวั่นฟังนายกฯแถลงผ่านหน้าจอแล้วส่งสารผิดทำนักท่องเที่ยวตระหนก โวเป็นครั้งแรกที่เชิญทูตรับฟังการชี้แจงก่อนประกาศออกทีวียิ่งลักษณ์ ออกทีวี แจงใช้ พรบ.มั่นคง คุมม็อบนายกฯยิ่งลักษณ์ออกทีวีพูลแจงใช้ "พ.ร.บ.มั่นคง" คุมม็อบ อพส. ระบุการข่าวชี้ม็อบจ้องก่อเหตุรุนแรงเป็นภัยความมั่นคง กร้าวไม่ย่อท้อ มุ่งมั่นทำงานต่อไป...ม็อบนศ.บุกทบ.ดักคอประยุทธ์อย่าปฏิวัตินายซิม ไฮแอท ประธานที่ปรึกษาชมรมนิสิต-นักศึกษารักประชาธิปไตย (นนปช.) พาม็อบ นศ.บุก ทบ.ดักคอ "ประยุทธ์" อย่าปฏิวัติ จี้ อพส.หยุดแช่แข็งประเทศ...อดุลย์ผอ.คุมม็อบ ใช้ 100 กองร้อย รับมีข่าวจับนายกฯ“อดุลย์” ยืดอกรับเป็น ผอ.เฉพาะกิจคุมม็อบ ใช้ชั้น 20 สตช.บัญชาการ รับมีการข่าวน่าห่วงจับนายกฯ-ยึดสถานที่รัฐ เบื้องต้นใช้กำลัง 100 กองร้อยฉาว! ส.ส.โดดร่มทำสภาล่มทิ้งทวนก่อนปิดสมัยประชุมสภาล่มทิ้งทวนก่อนปิดสมัยประชุม ส.ส.โดดร่มญัตติแก้ปัญหาไฟใต้ เจอทีเด็ด ปชป.ขอนับองค์ประชุม “เจริญ” เห็นท่าส่อเค้าองค์ประชุมล่ม สั่งปิดประชุมทันที...มติเอกฉันท์ ศาลรธน.ไม่รับคำร้องสั่งเสธ.อ้าย หยุดชุมนุมศาล รธน.มีมติเอกฉันท์ไม่รับคำร้อง สั่ง "เสธ.อ้าย" หยุดชุมนุมวันที่ 24 พ.ย.นี้ ชี้ ไม่ปรากฏมูลเหตุว่าจะเป็นการล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข...สุกำพล สั่งเหล่าทัพเคลื่อนพลซ้อมถวายสัตย์ฯ 5 ธันวาโฆษกกลาโหมเผย "พล.อ.อ.สุกำพล" รมว.กลาโหม สั่งเหล่าทัพจัดเฉลิมพระเกียรติในหลวง 5 ธันวาคม ขอประชาชนอย่าตระหนกทหารเคลื่อนพล แจงแค่ซ้อมถวายสัตย์ปฏิญาณตน...แม่น้องเกด ยื่นหนังสือ ทบ.วอนอย่าส่งทหารร่วมม็อบนางพะเยาว์ อัคฮาด แม่น้องเกด บุก ทบ. ยื่นหนังสือให้ ผบ.ทบ. อย่านำทหารออกไปร่วมกับม็อบ เพราะอาจเกิดความสูญเสียเหมือนปี 53 ได้...ตำรวจพรึบเขาดิน ปักหลักพักผ่อนรอดูแลม็อบเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก บก.น.9 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจากจังหวัดต่างๆ รวมถึงหน่วยอารักขาควบคุมฝูงชนอีก 2 กองร้อย และชุดปฏิบัติการพิเศษในสังกัด ภ.5 ทยอยเข้า กทม. เตรียมพร้อมควบคุมการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม โดยใช้พื้นที่สวนสัตว์ดุสิตเป็นที่พัก...เรืองไกร ชี้ช่อง ส.ส.ใช้เอกสิทธิ์ ชิ่งสภาฯไม่ร่วมซักฟอก''เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ" อดีต ส.ว.สรรหา ชี้ ช่อง ส.ส.ใช้เอกสิทธิ์ ชิ่งสภาฯ ไม่เข้าร่วมซักฟอกได้ หากสถานการณ์วันที่ 25 พ.ย. ไม่น่าไว้วางใจ เจอม็อบป่วน

นายกฯจ้อทีวี ประกาศใช้พรบ.ความมั่นคงสยบม็อบเสธ.อ้าย

นายกฯจ้อทีวี ประกาศใช้พรบ.ความมั่นคงสยบม็อบเสธ.อ้าย วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน 2555 เวลา 20:46 น. อ้างเพื่อความสงบของประชาชน ให้ระงับภัยได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ยันรัฐบาลมาอย่างถูกต้องชอบธรรมแล้ว วันนี้ ( 22 พ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวในการถ่ายทอดสดผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ว่า "กราบเรียนพี่น้องประชาชนที่เคารพวันนี้ตนขอใช้เวลาของพี่น้องประชาชน เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจในประเด็นที่รัฐบาลได้ตัดสินใจประกาศใช้มาตรการตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 ในพื้นที่เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่ายและเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และจัดตั้งศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเป็นผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย ในช่วงเวลาระหว่างวันที่ 22 พฤศจิกายน ถึงวันที่30 พฤศจิกายน 2555" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า ตนขอเริ่มด้วยการเน้นย้ำว่า รัฐบาลยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เชื่อมั่นในเสรีภาพการแสดงความคิดเห็นและเชื่อมั่นว่าการใช้เวทีรัฐสภาที่ประกอบด้วยตัวแทนที่มาจากประชาชนมีส่วนสำคัญในการแก้ไขปัญหา ความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันและความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งเป็นวิถีทางที่ถูกต้องตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย ทั้งนี้ รัฐสภายังมีหน้าที่ในการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ดังที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจในอีกไม่กี่วันนี้ ซึ่งตนก็พร้อมที่จะรับฟังและชี้แจงตามวิถีทางประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา และด้วยการเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาโดยการเลือกตั้งจากประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตนยืนยันว่าทุกเรื่องที่ตนและรัฐบาลได้ตัดสินใจ จะยึดถือผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง ทั้งจะพิทักษ์รักษาไว้ซึ่ง สถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทุกคน "อย่างไรก็ตาม ความเป็นประชาธิปไตยไม่ใช่การมีสิทธิเสรีภาพเพียงเท่านั้น แต่ต้องมีระบบระเบียบความเป็นนิติรัฐ นิติธรรม และการที่สังคมจะอยู่ร่วมกันได้ ย่อมมีกฎกติกาขอบเขตของสิทธิเสรีภาพโดยไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ทั้งยังมีหน้าที่จะต้องช่วยกันรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยไม่ให้ถูกคุกคามสำหรับการชุมนุม ประท้วง เรียกร้องใด ๆ ก็ตาม โดยเฉพาะที่มีพื้นฐานมาจากความเดือดร้อนของประชาชนไม่ว่าจะเป็นเรื่องใดนั้น สามารถทำได้เป็นสิทธิเสรีภาพที่รับประกันไว้ในบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ โดยที่การชุมนุมต้องเป็นไปอย่างสงบสันติปราศจากอาวุธ และอยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ซึ่งดิฉันก็พร้อมที่จะรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเรียกร้อง และพร้อมที่จะร่วมแก้ปัญหาความเดือดร้อนนั้นๆ ให้หมดสิ้นไป " น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวต่อว่า แต่หากการรวมตัวชุมนุมกัน ซึ่งจากรายงานของฝ่ายความมั่นคง เป็นการระดมผู้คนจำนวนมากภายใต้แกนนำที่มีท่าทีที่ต้องการจะล้มล้างรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ล้มล้างระบอบประชาธิปไตยอันขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ทั้งพร้อมที่จะใช้ความรุนแรง มีแนวคิดที่จะบุกรุกสถานที่สำคัญ และสร้างความวุ่นวายกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่เป็นปกติของสาธารณชนเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ดังกล่าว ซึ่งเมื่อเป็นภัยต่อความมั่นคงและสันติสุขของประชาชน ซึ่งดิฉันไม่ต้องการให้เหตุการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้น แต่รัฐบาลย่อมต้องมีหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง รักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นของบุคคลใด ทั้งผู้ที่มาชุมนุมและประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้อง และที่สำคัญรัฐบาลจะต้องรักษาไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว กลไกการรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตามปกติไม่สามารถรองรับได้ จึงเป็นที่มาของมติคณะรัฐมนตรีในวันนี้มาตรการตามกฎหมายที่กำหนดนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า ที่ทำแบบนี้เพื่อให้สามารถป้องกันและระงับภัยที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการมีหน่วยปฏิบัติงานหลักก็เพื่อรับผิดชอบบูรณาการและประสานการปฏิบัติร่วมกับทุกส่วนราชการในยามที่เกิดสถานการณ์อันเป็นภัยต่อประชาชนในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง การปฏิบัติการต่างๆ จะเป็นไปอย่างรอบคอบ ปราศจากอาวุธและเป็นไปตามมาตรฐานสากล ทั้งนี้ดิฉันต้องขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางและบริเวณการชุมนุม เพื่อความสงบเรียบร้อย ความสะดวกและความปลอดภัยของท่านเองมาตรการและกลไกต่างๆ จะเน้นการป้องกันและรักษาความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก และเมื่อเหตุการณ์พัฒนาการไปในทางที่ดีขึ้น ก็จะมีการยกเลิกการใช้มาตรการเหล่านั้นทันที น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า ตนขอยืนยันว่า เมื่อได้รับการเลือกตั้งและเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเมื่อปีที่แล้ว ตนมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และพัฒนาประเทศ อีกทั้งนำความสงบสันติคืนให้กับประเทศไทย ตนเชื่อว่าการลดความขัดแย้งทางการเมืองและการปรองดอง เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีของพี่น้องประชาชนทุกคนโดยไม่คำนึงถึง เชื้อชาติ ศาสนา ชนชั้น หรือสีเสื้อใด ๆขอขอบคุณสำหรับการให้โอกาสตนทำงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมา และขอขอบคุณผู้ที่สนับสนุนและให้กำลังใจมา ณ ที่นี้ ตนขอให้คำมั่นว่าจะไม่ย่อท้อและจะทำงานอย่างสุดความสามารถดังที่ตั้งใจและสัญญากับพี่น้องประชาชน

Monday, November 19, 2012

วิปค้าน ดักคอรัฐ ชิงเกมประท้วงลดเวลาศึกซักฟอก

วิปค้าน ดักคอรัฐ ชิงเกมประท้วงลดเวลาศึกซักฟอก
วิปค้านห่วงประท้วงทำซักฟอกไม่ครบ 30 ชม. ขณะหนุนวุฒิสมาชิก ขอเปิดอภิปราย 23-24 พ.ย. แนะรัฐตอบรับ หากไม่อยากถูกมองไม่ให้ความร่วมมือ...เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 พ.ย. ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงผลการประชุมวิปฝ่ายค้าน ว่า ฝ่ายค้านมีความเป็นห่วงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ที่มีการตกลงกับวิปรัฐบาลไว้ 30 ชั่วโมง ระยะเวลา 3 วัน โดยนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจจะชี้แจงรวมกันไม่เกิน 12 ชั่วโมง แต่ฝ่ายค้านเป็นห่วงเรื่องประท้วง เพราะเกรงว่าจะเบียดเวลาจนทำให้ฝ่ายค้านอภิปรายได้ไม่ครบ 30 ชั่วโมง ซึ่งมีแนวโน้มว่าขณะนี้มีความพยายามเตรียมการประท้วงไว้ล่วงหน้าตามที่ฝ่ายรัฐบาลให้ข่าวว่า หากมีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอกก็จะประท้วง ทั้งที่การอภิปรายสามารถพาดพิงบุคคลภายนอกได้ถ้าจำเป็น และอยู่ในประเด็นที่เกี่ยวข้อง จึงคิดว่ารัฐบาลคงกังวลและเป็นห่วงอาจจะกระทบกับบุคคลที่รัฐบาลต้องปกป้องพิเศษ แต่ฝ่ายค้านยืนยันว่าไม่ได้อภิปรายไม่ไว้วางใจบุคคลภายนอกขณะเดียวกัน มีความเป็นห่วงการปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นกลางของประธานในที่ประชุม ซึ่งถ้าเป็นกลางและทำตามข้อบังคับก็คงไม่มีปัญหา ฝ่ายค้านพร้อมให้ความร่วมมือ ส่วนการที่ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาฯ ระบุว่า หากมีการอภิปรายพาดพิงเรื่องจำนำข้าว ก็ให้ รมว.พาณิชย์ ชี้แจงได้นั้น เห็นว่าแค่ความเห็นที่เริ่มนับหนึ่งก็ไม่เป็นกลางแล้ว ถ้าพูดเช่นนี้จริง สะท้อนชัดเจนว่าเตรียมปกป้องนายกรัฐมนตรี และเตรียมรัฐมนตรีมาช่วยตอบคำถามแทนนายกรัฐมนตรี ซึ่งถือเป็นเรื่องทีไม่สมควรนายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ฝ่ายค้านสนับสนุนวุฒิสภาที่จะเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ ม.161 ในวันที่ 23-24 พ.ย.นี้ ซึ่งวุฒิสภาสามารถใช้สิทธิขอให้มีการเปิดอภิปรายได้ และรัฐบาลควรให้ความร่วมมือเปิดโอกาสให้วุฒิสมาชิกได้ทำหน้าที่ แต่จนถึงขณะนี้รัฐบาลยังไม่มีท่าทีตอบรับใดๆ ก็เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า รัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจกับการปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญของวุฒิสภา ทั้งที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดก่อนหน้านี้ว่า ถ้ามีปัญหาอยากให้มาแก้ปัญหาในรัฐสภา แต่เมื่อวุฒิสมาชิกมีความต้องการเปิดอภิปราย เพื่อใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลกลับไม่ให้ความร่วมมือนายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในสัปดาห์นี้ ฝ่ายค้านจะยื่นกระทู้ถามสดเรื่องปัญหาความมั่นคงในภูมิภาค ที่เลื่อนมาจากสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งเรื่องมาตราการดูแลความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามใน วันที่ 24 พ.ย.นี้ และเรื่องปัญหาการสร้างสนามฟุตซอลที่เกิดจากการบริหารงานของรัฐบาล.

เฉลิมมั่นใจ 24 พ.ย. กองทัพไม่ยุ่งการเมือง

เฉลิมมั่นใจ 24 พ.ย. กองทัพไม่ยุ่งการเมือง
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี มั่นใจ 101% “กองทัพ” ไม่เข้าเคลียร์สถานการณ์ ช่วงวันที่ 24 พ.ย. ย้ำไม่ใช้ พ.ร.บ.มั่นคง คุมม็อบ เสธ.อ้าย… วันนี้ (30 พ.ย. 55) เวลา 09.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการพิจารณาการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ว่า ยังไม่มีการพิจารณา มีแต่เตรียมการไว้ ถ้าสถานการณ์พัฒนาการเชิงลบ ค่อยมาประชุมอีกครั้ง กฎหมายที่มีเพียงพอในการดูแลผู้ชุมนุม ย้ำอีกครั้งรัฐบาล ตำรวจไม่ใช้ความรุนแรงแน่นอน เสื้อแดงไม่มาแน่นอน แต่ให้ระวังมือที่สาม ที่จะสร้างสถานการณ์ให้รัฐบาลเสียหาย สำหรับมือที่สาม มี 4-5 คน ก็เป็นเหตุแล้ว รัฐบาลไม่ใช้ความรุนแรง และจะเชิญหน่วยงานทั้งประเทศ องค์การทั่วโลกมาร่วมดูด้วย ก่อนวันชุมนุมจะมีแถลงการณ์ โดย ผบ.ตร. บอกขั้นตอนต่างๆ ในการดูแลผู้ชุมนุม หากชาวโลกยอมรับกติกานี้ ก็ถือว่าสากล โดยในวันนี้ เวลา 12.00 น. ตนจะไปหารือที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ระบุว่ามีการเตรียมทำเสื้อแดงเทียมไว้ 4-5 พันตัว นั่นเป็นข่าวของท่าน ยังไม่ได้บอกตน ส่วนที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำ นปช.ระบุว่า มีมือที่มองไม่เห็นชักใยอยู่เบื้องหลังนั้น ตนไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมตนจะเล่าสถานการณ์การชุมนุมให้ ครม.ฟัง เพราะนายกฯ มอบหมายตน สั่งครั้งเดียวก็ต้องปฏิบัติตาม ถ้าไม่ปฏิบัติตามก็ปลดสิ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ในระบอบประชาธิปไตยชุมนุมได้ แต่ตนขอร้องประชาชนให้รอฟังการอภิปราย หรือการปราศรัยแกนนำผู้ชุมนุม ถ้าเห็นว่ารัฐบาลไม่ดีรอบหน้าก็อย่าเลือก ให้เลือกพรรคประชาธิปัตย์ วิงวอนพรรคการเมืองบางพรรค เมื่อแพ้เลือกตั้งแล้วไปขนคนมาทำไม มาเติมฟืนเติมไฟให้บ้านเมือง ไม่ดีหรอก ตนพูดในทฤษฎี ม็อบถ้าจะประสบความสำเร็จต้องสร้างความรุนแรง แต่จะรุนแรงอย่างไรก็ตามรัฐบาลจะใช้หลักสากลในการดูแล เมื่อถามถึงท่าทีของกองทัพต่อการชุมนุมครั้งนี้ รัฐบาลสบายใจหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า สบายใจ 101 เปอร์เซ็นต์ ตนให้เกียรติกองทัพ ตนสบายใจ เชื่อมั่น เชื่อถือ ไว้วางใจกองทัพ พวกที่คิดว่าจะก่อเหตุรุนแรงแล้ว ให้ทหารทำโน่นทำนี่ ผิดหวัง ทหารไม่ทำ เขารู้อยู่แล้วบ้านเมืองกำลังไปได้ดี เมื่อถามถึงการพูดคุยระหว่าง พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. กับ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า พล.อ.บุญเลิศ ยืนยันว่าชุมนุมสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่ยึดสถานที่ราชการ ส่วนที่ฝ่ายปกครองระบุว่า จะมีกลุ่มไปนำคนเข้ามาร่วมชุมนุม โดยให้ค่าหัว 1,500-2,000 บาท ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ฝ่ายปกครองรายงานตนว่ามีนักการเมืองไปขน ตนก็บอกประชาชนว่า มาเดี๋ยวเกิดปัญหาไม่ดีหรอก ทั้งนี้ ยอมรับว่า ม็อบดังกล่าวประเมินยาก เพราะพรรคการเมืองขนให้ ส่วนจะเท่าครั้งแรกหรือไม่นั้นไม่บอก เดี๋ยวพลาด เพราะม็อบนี้ไม่ใช่ม็อบธรรมชาติ เป็นม็อบจัดตั้ง พลาดครั้งเดียวได้ แต่อย่าพลาดครั้งที่ 2 เมื่อถามว่ากังวลกับคำประกาศของ พล.อ.บุญเลิศ ที่บอกว่าจะจบภายในวันเดียวหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า จะจบกี่วันก็กังวลทั้งนั้น ตนเป็นคนขี้กลัวจริงๆ ขณะที่ในวันชุมนุมคนสำคัญของรัฐบาลอย่างนายกฯ จะออกนอกพื้นที่ กทม.ก่อนหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า “ไม่ต้องมาจับตัวผมหรอก ถ้าอยากได้ตัวเดี๋ยวผมไปหาพี่อ้ายเอง”.

40ส.ว.เย้ยรัฐบาลปอดแหกใช้ครึ่งแสนคุมม็อบเสธ.อ้าย

40ส.ว.เย้ยรัฐบาลปอดแหกใช้ครึ่งแสนคุมม็อบเสธ.อ้าย
40 ส.ว.เย้ยรัฐบาลปอดแหกใช้ตร.-ทหารครึ่งแสนคุม “ม็อบอ้าย” บี้รัฐตอบรับอภิปรายทั่วไป 24 พ.ย. อ้างนายกรัฐมนตรีรับปากนานาประเทศแล้ว ขอแก้ปัญหาในสภาอย่าหลบเลี่ยง....ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา โดยนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระ นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ได้หารือว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วันนี้ คงมีการหารือถึงการเตรียมความพร้อมของรัฐบาลที่จะมาชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภาตามญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 161  แม้ประธานวุฒิสภาจะนัดประชุมและบรรจุวาระแล้ว ก็มีแต่เพียงเสียงตอบผ่านสื่อจากประธานวิปรัฐบาลมาว่า ยังคงยืนยันให้เป็นวันที่ 28 พ.ย.เหมือนเดิมจึงขอฝากผ่านไปยังรัฐบาลว่าในเมื่อนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันต่อนานาชาติว่า ต้องการแก้ปัญหาทุกอย่างในสภาฯ ดังนั้นการเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติครั้งนี้ ก็เป็นเวทีให้รัฐบาลมีโอกาสชี้แจงข้อสงสัย และไม่ใช่จะมีแต่ ส.ว.เห็นต่างเสมอไป ยังมีส.ว.หลายคนที่ใจจดใจจ่อจะอภิปรายสนับสนุนนโยบายรัฐบาล และรัฐบาลทำงานครบ 1 ปีมานานแล้ว แต่ยังไม่มีการเปิดสภาฯ เพื่อแถลงผลงานครบ 1 ปีแต่อย่างใด ก็อยากไห้ทำให้ครบถ้วนด้วยด้านนายประสาร มฤคพิทักษ์ ส.ว.สรรหา กลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวว่าดูเหมือนการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) วันที่ 24 พ.ย. เป็นเรื่องที่วาดไว้น่ากลัวเหลือเกินต้องใช้กำลังตำรวจควบคุมถึง 50,000 นาย มีกำลังทหารเข้าไปแทรกไม่น้อยกว่า 5,000 นาย มีการเตรียมเป่านกหวีด เตรียมใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 แต่จากที่ตนเฝ้าติดตามสถานการณ์มาตลอดประเมินว่าการชุมนุมเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ และคงไม่มีการกระทำใดที่ส่อไปในการคุกคามหรือใช้ความรุนแรง ไม่น่าจะมีการเผาบ้านเผาเมือง ไม่น่ามีชายชุดดำในการชุมนุม ไม่มีการพากันบุกรุกโรงพยาบาล  ดังนั้นสิทธิในการชุมนุมควรได้รับการเคารพ และนี่เป็นเครื่องสะท้อนเจตนารมณ์ที่ประกาศออกมา ถ้ามีคนเข้าร่วมหลักหมื่นหลักแสนก็แสดงว่าคนที่มาชุมนุมเห็นด้วยทั้งเรื่อง ทุจริต รัฐบาลนอมินี การละเลยต่อการละเมิดสถาบัน ถ้ารัฐบาลประเมินถูกต้องตามความเป็นจริงก็คงไม่ต้องออกอาการเรียกแขก อย่างที่เห็นอยู่เคยประเมินผิดพลาดว่าจะมาน้อยแต่กลับมามาก.

เหวงส่งซิกบิ๊กโอ๋จัดการ อ้างได้ข่าวมีทหารร่วมม็อบเสธ.อ้าย

เหวงส่งซิกบิ๊กโอ๋จัดการ อ้างได้ข่าวมีทหารร่วมม็อบเสธ.อ้าย
นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.เพื่อไทย แฉ 8 ค่าย ส่อขนทหารหนุนม็อบองค์การพิทักษ์สยาม จี้ สุกำพลสอบ ระบุขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาถือว่าเป็นกบฏ...เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่รัฐสภา นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำ นปช. แถลงว่าตนขอเรียกร้องให้ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายกับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เนื่องจากได้รับข่าวจากทหารในกองทัพบกหลายหน่วยที่เข้าร่วมชุมนุมกับ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ (เสธ.อ้าย) ประธานองค์การพิทักษ์สยามในวันที่ 24 พ.ย.นี้ โดยทราบว่าจะมีทหารนอกเครื่องแบบหลายหน่วยอย่างน้อย 5 พันนายเข้าร่วมชุมนุม ซึ่งหากเรื่องนี้เป็นความจริง ผู้บังคับบัญชามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือเป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนงานในการทำการยึดอำนาจรัฐประหารหรือไม่ และเรื่องนี้มีความผิดตามระเบียบวินัยทหาร และความผิดตามกฎหมายจะต้องมีการดำเนินการหยุดยั้งไม่ให้เกิดขึ้น สำหรับรายละเอียดหน่วยทหารที่น่าสงสัยจะส่งกำลัง สนับสนุนการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยาม ประกอบด้วย กองพลทหารราบที่ 3 ค่ายเปรม ติณสูลานนท์ ค่ายนวมินทราชินี กรมทหารราบที่ 21 (ทหารเสือราชินี) ค่ายสุรสิงหนาท ค่ายไพรีระย่อเดช สระแก้ว ค่ายนิมมาณกลยุทธ ค่ายจักรพงษ์ ค่ายพรหมโยธี และค่ายศูนย์กลางทหารม้า ม.พัน 11 ซึ่งการชุมนุมครั้งมีเป้าหมายก่อให้เกิดการยึดอำนาจและรัฐประหารโค่นล้มระบอบประชาธิปไตยดังนั้น พล.อ.อ.สุกำพล จะต้องสอดส่องกำลังพลอย่างใกล้ชิด หากมีการเคลื่อนกำลังพลต้องสั่งให้หยุดและจับกุมผู้บังคับบัญชาที่สั่งการ ถือว่าเป็นกบฏตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 113 อย่างไรก็ตาม นพ.เหวง ได้ประณามการจาบจ้วงสถาบันของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ที่เรียกร้องให้มีนายกรัฐมนตรี พระราชทาน มาตรา 7 ซึ่งพระองค์เคยมีพระบรมราชาชวินิจฉัยว่าไม่เป็นประชาธิปไตย เป็นเรื่องมั่ว เป็นการกระทำที่อุกอาจ สวนกระแสพระราชดำรัส ดังนั้นองค์การพิทักษ์สยามต้องยกเลิกการกระทำดังกล่าว และการชุมนุมครั้งนี้ถือว่าเป็นจุดหมายแฝงเร้นเพื่อก่อให้เกิดการโค่นล้มรัฐบาลโดยวิถีทางนอกรัฐธรรมนูญ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ยอมรับการรัฐประหารเด็ดขาด เพราะจะนำประเทศวิกฤติอย่างใหญ่หลวง และอาจนำไปสู่สงครามกลางเมือง ดังนั้นกลุ่มคนที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดต้องรับผิดชอบต่อหายนะที่เกิดขึ้น.

Sunday, November 18, 2012

ปู หารือ โอบามา ยันเดินหน้า TPP ชู ไทย พันธมิตรสำคัญสุดในภูมิภาค

ปู หารือ โอบามา ยันเดินหน้า TPP ชู ไทย พันธมิตรสำคัญสุดในภูมิภาค
ยิ่งลักษณ์ หารือ โอบามา ที่ทำเนียบรัฐบาล ยันเริ่มเดินหน้าความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ TPP ด้านประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยาหอมไทย ยกพันธมิตรสำคัญที่สุดในภูมิภาค พร้อมหนุนประชาธิปไตยไทยให้ยั่งยืน...เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางเข้าหารือกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ในการนี้นายกรัฐมนตรีได้นำประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เดินตรวจแถวกองเกียรติยศ จำนวน 3 กองร้อย ทั้งจากกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ที่บริเวณหนามหญ้า หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ท่ามกลางสายตาของสื่อมวลชน ทั้งจากประเทศไทยและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ก่อนที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะลงนามในสมุดเยี่ยม ณ ห้องสีงาช้างด้านนอก และผู้นำทั้ง 2 ได้เข้าไปร่วมหารือทวิภาคีระหว่าง 2 ประเทศ ณ ห้องสีงาช้างด้านในหลังจากหารือเสร็จสิ้น นายบารัค ได้ร่วมกับนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวกับสื่อมวลชน ที่ตึกสันติไมตรี โดยนางสาวยิ่งลักษณ์ ได้กล่าวว่า ขอบคุณประธานาธิบดีบารัค ที่ได้เลือกประเทศไทย เป็นประเทศแรกในการเยือนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายหลังจากที่ได้มีการเลือกตั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในโอกาสที่ทั้ง 2 ประเทศ ฉลองครบรอบ 180 ปี ไทย-สหรัฐอเมริกา ในนามรัฐบาลไทย ขอขอบคุณประธานาธิบดีโอบามา รวมทั้งเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา มีความภาคภูมิใจที่ได้มีโอกาสนำประธานาธิบดีโอบามา เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขณะเดียวกัน ไทยถือเป็นพันธมิตรที่มีความเก่าแก่ และสำคัญมากที่สุดในทวีปเอเชีย นี่ถือเป็นความมั่นคง และขอขอบคุณที่สหรัฐอเมริกาได้ช่วยกันส่งเสริมประชาธิปไตยของประเทศไทย ซึ่งไทยจะได้มีความร่วมมือกับอเมริกัน ทั้งในด้านการส่งเสริมการลงทุน ความมั่นคงด้านอาหาร ด้านพลังงาน ซึ่งไทยถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ในประชาคมอาเซียน ที่จะทำให้เกิดความมั่นคงในภูมิภาค และเกิดเสรีภาพอย่างไรก็ตาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยอมรับว่า ประเทศไทยจะได้เริ่มตั้นกระบวนการเจรจา ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (TPP) กับสหรัฐอเมริกา โดยให้ทุกฝ่ายได้ร่วมพูดคุยหารืออย่างกว้างขวาง และไทยมีความยินดี ที่สหรัฐฯ ให้ความสนใจกับภูมิภาคนี้มากขึ้น รวมทั้งยินดีที่ได้เข้าร่วมโครงการ PSI การกำจัดอาวุธที่มีอานุภาพทำลายร้ายแรง ทั้งนี้ ไทยหวังว่า การเข้าร่วมครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยทำให้อาวุธไม่ตกไปอยู่กับผู้ที่ไม่หวังดี นอกจากนี้ ยังได้มีการหารือเกี่ยวกับปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการค้ามนุษย์ หรือการค้าทาสสมัยใหม่ ทั้งนี้จะได้เน้นความสำคัญในระดับต่างๆ ต่อไป และมีความยินดีที่จะได้ติดต่อกับท่านประธานาธิบดีอย่างใกล้ชิดขณะที่นายบารัค ได้กล่าวขอบคุณไทย ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น และกล่าวสวัสดีเป็นภาษาไทย พร้อมระบุว่า อย่างที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวไว้ ที่เลือกมาเยือนประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก หลังมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่สหรัฐอเมริกา มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เพราะเราเล็งเห็นว่า สหรัฐฯ และไทยต้องทำงานร่วมกัน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ความมั่นคงและในด้านต่างๆ และในวาระที่สหรัฐฯ และไทยมีความสัมพันธ์ทางการทูตยาวนานถึง 180 ปี และนี่คือเหตุผลที่ต้องมีการฟื้นฟูความสัมพันธ์ในภูมิภาคนี้ ประเทศไทยได้ฟื้นฟูกระชับระบบประชาธิปไตย และตนก็มีความภาคภูมิใจที่ตอนบ่ายที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่เป็นผู้นำแสดงถึงเอกลักษณ์และเอกภาพของประเทศนี้ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้มีข้อตกลงร่วมกับไทย กับปัญหาที่ท้าทายในภูมิภาคนี้ ดังต่อไปนี้ ปัญหาแรกคือ ปัญหาด้านความมั่นคง ที่จะมีการซ้อมรบร่วมกัน ปรับปรุงกองทัพร่วมกัน และจะได้มีส่วนร่วมช่วยกองทัพไทย ในเรื่องการดูแลน่านน้ำ รวมไปถึงปัญหาโจรสลัด โดยสหรัฐฯ หวังว่า เราจะร่วมกันทำงานด้านเศรษฐกิจ ส่งเสริมการค้า และวิสัยทัศน์ร่วมกัน ซึ่งถือเป็นการค้าในยุคสมัยใหม่ และเน้นการพัฒนาสาธารณสุขให้ยั่งยืนและมั่นคง โดยเฉพาะปัญหาโรคมาลาเรีย ระหว่างพรมแดนไทย-พม่า โดยสหรัฐฯ ยินดีที่ช่วยไทยแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อย่างเท่าเทียม พร้อมทั้งสนับสนุนให้สตรีมีโอกาสและมีบทบาทมากขึ้น นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโอบามา กล่าวยอมรับอีกว่า ส่วนตัวชอบทานอาหารไทย และขอขอบคุณครับส่วนช่วงท้ายการแถลงข่าว ได้เปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศ ได้ซักถามผู้นำทั้ง 2 ในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องปัญหาประชาธิปไตยในประเทศไทย ที่ยังหาคนทำผิดไม่ได้ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า มีความตั้งใจสร้างเสถียรภาพ เชื่อว่าประชาธิปไตยจะเติบโตได้ ต้องมีการพัฒนาเศรษฐกิจ ควบคู่กันเพื่อลดช่องว่างประชาชน จึงจะเกิดความปรองดองของคนในชาติ แต่ทั้งหมดต้องยึดมั่นในหลักกฎหมาย และเราต้องทำให้เกิดสันติวิธีขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เห็นว่า ประชาธิปไตยไม่ได้อยู่นิ่ง แต่เราต้องทำงานจึงจะได้ประชาธิปไตยมา เราจะทำงานร่วมกับไทยอย่างไม่หยุดยั้ง และยินดีที่ไทยมีนายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาธิปไตย และมีเสรีภาพในการแสดงออก และเชื่อมั่นว่านายกรัฐมนตรีของไทย จะช่วยกระชับประชาธิปไตยในประเทศไทยได้ดีนอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้ถามคำถามเกี่ยวกับประเทศพม่า ที่ประธานาธิบดีโอบามาจะได้เดินทางไปเยือนเป็นประเทศต่อไปในวันพรุ่งนี้ ตัดสินใจไปเยือนเร็วไปหรือไม่ ทั้งที่พม่ายังมีปัญหามนุษยชน และไทยที่ถือเป็นเพื่อนบ้านมีความเห็นอย่างไร นายโอบามา กล่าวว่า เราเดินทางไปเพื่อสนับสนุนการทำกิจกรรมในประเทศพม่า แต่ไม่ได้ไปรับรองรัฐบาลพม่า ทั้งนี้ เพราะเห็นว่าประธานาธิบดี เต็งเส็ง พม่า และนางออง ซาน ซูจี ได้มีสัญญาณการขับเคลื่อนประเทศไปในทิศทางที่ถูกต้อง ช่วยลดช่องว่างด้านเศรษฐกิจของประชาชนในพม่า ขณะที่นายกรัฐมนตรีไทย กล่าวว่า ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน มันเป็นการสำคัญที่ไทยจะช่วยส่งเสริมให้พม่ากลับสู่ความเป็นประชาธิปไตยอย่างไรก็ตาม นายบารัค กล่าวยอมรับว่า นโยบายสำคัญที่สุดของสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคนี้ นั่นคือการขยายการค้าและการลงทุน ในเอเชีย และการรักษาเสถียรภาพ ทำให้เกิดความมั่นคงไพบูลย์ ในภูมิภาคต่อไปต่อมาเวลา 20.15 น. หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะผู้นำรัฐบาล เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และคณะ ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาลหลังจากนั้นเวลา 21.45 น. ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้าร่วมงานเลี้ยงเป็นการภายในของสถานทูตสหรัฐฯ ที่สปอร์ตคอมเพล็กซ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนอนพักค้างคืนที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ ก่อนออกเดินทางไปประเทศเมียนมาร์ในเช้าวันที่ 19 พ.ย. เพื่อพบหารือกับประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ของเมียนมาร์ และเดินทางต่อไปยังประเทศกัมพูชา เพื่อเข้าร่วมการประชุมอาเซียน-สหรัฐฯ ในเวทีอาเซียนซัมมิต ครั้งที่ 21 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา.  

แอร์ฟอร์ซวันพาโอบามาลาไทยไปพม่าแล้ว

แอร์ฟอร์ซวันพาโอบามาลาไทยไปพม่าแล้ว
เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน พาประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา ลาประเทศไทยเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศพม่า แล้ว...   เมื่อเช้าวันนี้ (19 พ.ย.) นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ออกเดินทางจากโรงแรมที่พักไปยังท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันเดินทางไปเยือนประเทศพม่า โดยมี พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และเอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เดินทางไปส่ง ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย. ตามคำเชิญของรัฐบาล เนื่องในโอกาสครบรอบ 180 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สหรัฐฯ ทั้งนี้ ก่อนออกเดินทางไปเยือนประเทศพม่า ผู้นำสหรัฐฯ ได้ให้สัมภาษณ์ที่ประเทศไทยว่า การเดินทางเยือนพม่าเป็นครั้งแรกในวันนี้ ไม่ใช่ความเห็นชอบรัฐบาลพม่าในการละทิ้งการปกครองแบบทหาร หรือเร็วเกินไปตามที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนตำหนิ แต่ต้องการไปเพื่อแสดงการยอมรับว่า พม่า ได้เปิดประตูรับการเปลี่ยนไปสู่ประชาธิปไตยแล้ว แต่ยังมีสิ่งที่ต้องทำอีกมาก เช่นการเดินหน้าเพื่อปฏิรูปต่อไป ขณะเดียวกัน หากรอให้ประเทศพม่ามีประชาธิปไตยจนสมบูรณ์ แล้วค่อยเข้าไปติดต่อข้องเกี่ยว ก็เกรงว่าจะต้องรอไปอีกนานขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ เผยว่า ประธานาธิบดีโอบามาจะประกาศให้ความช่วยเหลือพม่า มูลค่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 5,270 ล้านบาท ในการเยือนครั้งประวัติศาสตร์ในวันนี้ด้วย โดยความช่วยเหลือจะครอบคลุมงบประมาณปี 2555-2556 เน้นโครงการภาคประชาสังคม เพื่อสร้างสถาบันประชาธิปไตย และยกระดับคุณภาพการศึกษา เป็นการเริ่มต้นภารกิจระยะยาวในพม่า อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่า ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ของผู้นำสหรัฐฯ ในประเด็นเรื่องพม่า นายโอบามาจะเรียกชื่อประเทศพม่าว่า เบอร์ม่า ตามชื่อเดิม และเป็นชื่อที่ นางออง ซาน ซูจี เรียกประเทศพม่า ซึ่งจะไม่ตรงกับชื่อที่รัฐบาลพม่าได้เปลี่ยนใหม่ไปใช้ว่า เมียนมาร์ แล้ว.

ประมวลภาพส่งท้าย ปธน.บารัค โอบามา เยือนประเทศไทย

ประมวลภาพส่งท้าย ปธน.บารัค โอบามา เยือนประเทศไทย
ไทยรัฐออนไลน์ขอนำเสนอภาพภารกิจของ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ เยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ค. 2555 ผ่านการถ่ายทอดโดยสื่อสังคมออนไลน์ (Social Network) ทั้งทวิตเตอร์และอินสตาแกรมของทำเนีียบขาว ฯพณฯ คริสตี้ เคนนีย์ เอกอัคราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย  และสถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย...ปธน.บารัค โอบามา และนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เข้าเยี่ยมชมวิหารพระนอนที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ ที่มา ทวิตเตอร์ทำเนียบขาว https://twitter.com/whitehouse/status/270333619002826752/photo/1 เบื้องหลังของ ปธน.บารัค โอบามา ขณะเดินชมรอบวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามฯ โดย ฯพณฯ คริสตี เคนนีย์ ที่มา http://instagram.com/p/SLbCLMCmdI/ฯพณฯ คริสตี เคนนีย์ อัพเดทภาพอินสตาแกรมเบื้อหลังของเมนูแรกในงานเลี้ยงอาหารค่ำ ปธน.โอบามา โดยรัฐบาลไทย เมื่อคืนวันที่ 18 พ.ย.2555 ที่มา http://instagram.com/p/SLdT7_imfP/เครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน จอดที่สนามบินดอนเมือง เตรียมออกเดินทาง ที่มา @USEmbassyBKKเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวัน ที่จอดรอ ปธน.บารัค โอบามาที่สนามบินดอนเมือง โดยฯพณฯ คริสตี เคนนีย์ เป็นผู้ทวิตภาพ ที่มา https://twitter.com/KristieKenney/status/270076339250401280/photo/1ปธน.บารัค โอบามา และนางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เดินขึ้นเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันไปเยือนพม่า ที่มา http://instagram.com/p/SMY4iqnxtG/ 

Saturday, November 17, 2012

เอเบคโพลล์ เผยคน 94%ค้าน หากม็อบจะนำพาประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย

เอเบคโพลล์ เผยคน 94%ค้าน หากม็อบจะนำพาประเทศไม่เป็นประชาธิปไตย
เอเบคโพลล์ ชี้ 68.9% ม็อบเสธ.อ้ายชุมนุมกระทบความเชื่อมั่นต่างชาติต่อรัฐบาลไทย ขณะที่ 84.0% อยากขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ชุมนุมโดยสงบ เรียบร้อยวันที่ 18 พ.ย. ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง คำอธิษฐานของคนไทยต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เพชรบุรี ฉะเชิงเทรา นครปฐม สมุทรปราการ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงราย มุกดาหาร หนองคาย สกลนคร ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ เลย ยะลา นราธิวาส และสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 2,267 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 11 – 17 พฤศจิกายน 2555 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกจังหวัด อำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชนที่ตอบแบบสอบถามระดับครัวเรือน ความคลาดเคลื่อนร้อยละ 7 พบว่าส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.5 ทราบข่าวการนัดชุมนุมขับไล่รัฐบาลของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามซึ่งนำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ โดยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 87.4 คิดว่าการนัดชุมนุมขับไล่รัฐบาลของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยามเป็นสิทธิ์ของประชาชนที่สามารถแสดงออกได้ทางการเมืองภายใต้ระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 94.5 ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่จะนำพาประเทศไปสู่การปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตย มีเพียงร้อยละ 5.5 เท่านั้นที่เห็นด้วยที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.9 คิดว่าการนัดชุมนุมขับไล่รัฐบาลของกลุ่มองค์กรพิทักษ์สยาม จะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของชาวต่างชาติต่อรัฐบาลไทย ถ้าเกิดความรุนแรงขึ้นในการชุมนุม ในขณะที่ร้อยละ 31.1 คิดว่าไม่กระทบ โดยส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.4 คิดว่าการนัดชุมนุมขับไล่รัฐบาลครั้งนี้เป็นเรื่องการเมือง ในขณะที่ร้อยละ 32.6 คิดว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองยิ่งไปกว่านั้น ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.7 คิดว่าถ้ามีการชุมนุมของคนจำนวนมากตามที่ประกาศไว้จะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ในขณะที่ร้อยละ 25.3 คิดว่าไม่ส่งผลกระทบที่น่าสนใจคือ คำอธิษฐานของประชาชนที่ถูกศึกษาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองในสถานการณ์การเมืองขณะนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.0 อยากให้การชุมนุมวันที่ 24 พ.ย. เป็นไปด้วยความสงบ เป็นระเบียบเรียบร้อย รองลงมาคือ ร้อยละ 81.2 ขอให้ประชาชนคนไทยทุกคนมีจิตสำนึกรู้คุณแผ่นดิน ร้อยละ 73.8 อยากเห็นคนไทยรักกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีอะไรก็พูดจากัน ร้อยละ 67.8 อยากเห็นการปรองดองเกิดขึ้นอย่างแท้จริง และร้อยละ 67.2 อยากให้ผู้ชุมนุมทุกคนมีสติ ไม่ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้นิยมความรุนแรง นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 73.8 ไม่คิดว่าการชุมนุมวันที่ 24 พ.ย.นี้จะยืดเยื้อผอ.เอแบคโพลล์ กล่าวว่า จากการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์เจาะลึกพบว่า ส่วนใหญ่มีความกังวลต่อการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงจากมือที่สามเพื่อทำให้เกิดความวุ่นวายและการสูญเสีย และยังกังวลต่อปัญหาอาชญากรรม ปัญหาความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินเพราะความไม่เพียงพอของจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องตรวจตราท้องที่ในช่วงที่มีการชุมนุมใหญ่ จึงต้องการให้ผู้ใหญ่ในสังคมไทยที่มีหน้าที่บริหารจัดการปัญหาบ้านเมืองและฝ่ายการเมืองช่วยกันคิดหาทางออกที่เหมาะสมกับสถานการณ์การเมืองของประเทศ ในเวลานี้โดยไม่ทำให้ประเทศและประชาชนทั้งประเทศต้องเสียหายเดือดร้อน โดยขอให้ช่วยกันประคับประคองบ้านเมืองให้ก้าวไปข้างหน้าและเชื่อมั่นว่ากลุ่มนักการเมืองน้ำดีและกระบวนการยุติธรรมจะสามารถช่วยคลี่คลายปัญหาการเมืองที่กำลังเป็นบทพิสูจน์ความรักชาติบ้านเมืองที่แท้จริงของประชาชนคนไทยทุกคนในเวลานี้อย่างไรก็ตาม ฝ่ายที่เห็นด้วยกับการชุมนุมก็คิดว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการเมืองที่ฝ่ายไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลเพราะเล็งเห็นว่าไม่มีความสมดุลของจำนวนสมาชิกฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลในสภาฯ จึงต้องการให้มีการเมืองนอกสภาจากภาคประชาชนมาถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายการเมือง จึงน่าจะเป็นข้อมูลสำคัญให้ฝ่ายที่มีอำนาจไม่ประมาท ไม่ทำให้สาธารณชนรู้สึกว่ารัฐบาลกำลังใช้พวกมากในสภาฯ กอบโกยผลประโยชน์เพื่อตนเองและพวกพ้องต่อไป

พท.อ้างจ้างหัวละ1.5พัน ร่วมม็อบพิทักษ์สยาม

พท.อ้างจ้างหัวละ1.5พัน ร่วมม็อบพิทักษ์สยาม
เพื่อไทย ปูดจ้างหัวละ 1,500 ร่วมม็อบกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม อ้างมีกลุ่มการเมืองหนุนหลัง เล็งติดกล้องซีซีทีวีเพิ่มส่องมือที่สาม จี้ “อภิสิทธิ์” ฟ้องศาลแทน ป.ป.ช.ปัดนายกฯ-เจ๊แดงไม่เกี่ยวเลือกผู้สมัครเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 พ.ย. ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะประชุมในวันที่ 20 พ.ย.นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมและซักซ้อมสมาชิกก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ และรัฐมนตรีช่วงวันที่ 25 – 27 พ.ย. ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลและการชี้แจงจากฝ่ายบริหารและรัฐมนตรี คาดว่าจะไม่มีปัญหาและไม่กังวลการอภิปรายของฝ่ายค้าน คาดว่าผู้เกี่ยวข้องจะชี้แจงได้ โดยจะมีการถ่ายทอดสดให้ประชาชนทราบ อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยกังวลกลุ่มการเมืองและพรรคการเมืองบางกลุ่ม ใช้เครือข่ายหัวคะแนนชักชวนประชาชนมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ที่นัดชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ทราบมาว่าใช้เงินต่อหัวสูงถึง 1,500 บาทต่อวัน ถือเป็นเล่นการเมืองแบบสองขา ทั้งนี้ มองว่าการชุมนุมดังกล่าวอาจขัด ม.68 ซึ่งพรรคจะรวบรวมข้อมูล หากพบว่านักการเมืองหรือพรรคการเมืองใดเข้าไปเกี่ยวของ พรรคจะยื่นเรื่องเพื่อยุบพรรคต่อไป นายพร้อมพงศ์ กล่าว โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวอีกว่า พรรคมีความเป็นห่วงเรื่องมือที่สามว่าอาจจะสร้างสถานการณ์ ดังนั้น ขอฝากไปยังผู้ชุมนุมว่าขอให้สอดส่องบุคคลแปลกปลอม ขณะที่พรรคจะเสนอให้มีการติดตั้งกล้องซีซีทีวีเพิ่มเติมในที่ชุมนุมให้ ครอบคลุม เพื่อดูแลความปลอดภัยและป้องกันมือที่สาม เพราะอาจกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้ โดยจะเสนอต่อ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.จะเสนอใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ในการดูแลการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม โดยส่วนตัวมองว่าควรมีกฎหมายพิเศษในการควบคุมผู้ชุมนุม เชื่อว่ารัฐบาลนี้จะใช้กฎหมายตามกรอบที่มี ไม่ใช้เพื่อสลายการชุมนุมจนมีคนเสียชีวิตเหมือนเหตุสลายการชุมนุมของรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกพรรคของพรรคประชาธิปัตย์ ออกมากล่าวหานายกฯ ว่าไม่ให้ความสำคัญกับการร่วมประชุมสภาฯ ว่า เป็นการกล่าวหาโดยไม่มีเหตุผล เพราะนายกฯ มีภารกิจเดินทางไปประชุมและประสานกับนานาประเทศ ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่น ป.ป.ช. ตรวจสอบและเอาผิด พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ที่ถอดยศและปลดออกนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้นเป็นแค่การยื่นฟ้องเพื่อเบี่ยงเบนข้อเท็จจริง แสดงธาตุแท้ออกมาปกป้องพวกเดียวกันเอง และเหตุใดนายอภิสิทธิ์ไม่ไปฟ้องศาลยุติธรรม เหมือนที่ยื่นฟ้องหมิ่นประมาทนายจตุพร พรหมพันธุ์ แต่ศาลยกฟ้อง นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส. ส.ก. แล ส.ข.พรรคเพื่อไทย จะเข้าชื่อเพื่อเสนอให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคเพื่อไทย แต่นายกฯ และนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ไม่เห็นด้วยว่า ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ทั้งนายกฯ และนางเยาวภาไม่เกี่ยวข้อง เป็นการพิจารณาของกลุ่มโซน กทม.ทั้งสามโซน ที่ต้องไปหาข้อสรุป และเสนอชื่อให้กรรมการบริหารพรรคพิจารณา เชื่อว่าจะไม่มีความขัดแย้ง และเป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยของพรรคที่ให้เกียรติ ส.ส.กรุงเทพฯ ทั้งสามโซนไปพิจารณา ทั้งนี้ ยืนยันว่าการเสนอตัวผู้ว่าฯ กทม.ทันอย่างแน่นอนก่อนที่จะไปสู่การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งต่อไป.

ผบ.ตร. สั่งกำลัง 3,000 นาย รปภ.ผู้นำสหรัฐ

ผบ.ตร. สั่งกำลัง 3,000 นาย รปภ.ผู้นำสหรัฐ

Friday, November 16, 2012

ผู้ว่าฯกทม.กำชับทุกหน่วย เตรียมรับม็อบเสธ.อ้าย

ผู้ว่าฯกทม.กำชับทุกหน่วย เตรียมรับม็อบเสธ.อ้าย
ผู้ว่าฯ กทม.ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.กทม.กำชับทุกหน่วยงาน สังกัด กทม.เตรียมพร้อมรับม็อบ เสธ.อ้าย 24-25 พ.ย.นี้ ยัน จะอำนวยความสะดวกให้ดีที่สุดวันที่ 16 พ.ย. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน กรุงเทพมหานคร (กอ.รมน.กทม.) ครั้งที่ 3 โดย ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวภายในการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อประเมินสถานการณ์ และเตรียมความพร้อม ร่วมกับกองบังคับการตำรวจนครบาล (บช.น.) และกองทัพบก (ทบ.) ในการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ที่จะมีขึ้นในวันที่ 24-25 พ.ย.นี้ ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งนี้ได้กำชับให้ทุกหน่วยงานพร้อมปฏิบัติหน้าที่และเตรียมดำเนินการ 3 เรื่อง1. ประสานกับโรงพยาบาลที่ไม่ได้อยู่ในสังกัด กทม. อย่างวชิรพยาบาล เพื่อเตรียมพร้อมหากมีผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บ พร้อมทั้งได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของ กทม.ไว้ให้บริการ 2. ให้เจ้าหน้าที่ดูแลเขตพระราชฐานเป็นกรณีพิเศษ และจัดรถดับเพลิงเข้าพื้นที่ก่อนมีการชุมนุม 3. ตรวจสอบความพร้อมของกล้องวงจรปิดในพื้นที่ดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียงม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า ไม่ว่าผู้ชุมนุมจะมีจำนวนเท่าไหร่ กทม.พร้อมดูแลสถานการณ์ให้ดีที่สุด โดยจากการประเมินคาดว่า จะมีผู้ชุมนุมเข้าร่วมมากกว่าครั้งแรก แต่คงไม่ถึงหนึ่งล้านคน ขณะเดียวกัน กทม.ได้ตั้งศูนย์บัญชาการที่สำนักงานปกครองและทะเบียน ศาลาว่าการ กทม. (เสาชิงช้า) ในการติดตามสถานการณ์ พร้อมจัดเตรียมเจ้าหน้าที่เทศกิจเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร อย่างไรก็ตาม คาดว่าสถานการณ์ไม่น่าเป็นกังวล หากเป็นการใช้สิทธิแสดงความคิดเห็น รวมถึงสลายตัวตามเวลาที่กำหนด ก็คงไม่มีปัญหา ผู้สื่อข่าวถามว่า กทม.ได้จัดเตรียมรถสุขาเคลื่อนที่ให้บริการผู้ชุมนุมหรือไม่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ข้าราชการประจำอำนวยความสะดวกอย่างดีที่สุด 

มาร์คเย้ย พท.เก็งข้อสอบซักฟอก แสดงว่ายอมรับข้อหา

มาร์คเย้ย พท.เก็งข้อสอบซักฟอก แสดงว่ายอมรับข้อหา
มาร์ค เย้ย พท.เก็งข้อสอบซักฟอก 4 เรื่อง แสดงว่า ยอมรับ ปู ทำประเทศเสียหายจริง อัด ยังมีเรื่องอื่นด้วย คงไม่ใช่มีแค่นี้...เมื่อวันที่ 16 พ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวในรายการฟ้าวันใหม่ ทางบลู สกายทีวี ถึงข่าวที่ว่า พรรคเพื่อไทย ได้วิเคราะห์ว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะอภิปราย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในเรื่องการแก้ปัญหาน้ำท่วม โครงการรับจำนำข้าว การแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ การปล่อยให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญว่า เรื่องไหน ที่นายกฯ ทำเสียหาย เรื่องนั้นนายกฯ ก็ถูกอภิปรายฯ ซึ่งการที่ฝ่ายรัฐบาล วิเคราะห์อย่างนี้ก็แปลว่า ฝ่ายรัฐบาลมองว่า 4 เรื่องนี้คือ เรื่องที่นายกฯ ทำเสียหาย ซึ่งต้องไปถามรัฐบาลว่า ยอมรับหรือไม่ว่า 4 เรื่องที่พูดมานี้ เป็นเรื่องที่นายกฯ ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ถ้าใช่พวกตนก็จะอภิปรายฯ แต่ถ้าไม่ใช่ก็คงไม่อภิปรายฯอย่างไรก็ตาม หากถามว่า นายกฯ ทำเสียหายกับประเทศมีเฉพาะ 4 เรื่องนี้หรือไม่ ตนก็บอกได้ว่า คงไม่ใช่เฉพาะ 4 เรื่องนี้เท่านั้น

ประชา ชี้ปลด ผอ.องค์การตลาด ไม่โปร่งใส

ประชา ชี้ปลด ผอ.องค์การตลาด ไม่โปร่งใส
ประชา ฉุนบอร์ดองค์การตลาดสั่งปลด ผอ. โดยพลการ ชี้คณะกรรมการฯ ควรจะรอให้รัฐมนตรีใหม่มอบนโยบาย และหารือในกรอบการทำงานก่อน เล็งพิจารณาใหม่ในวันที่ 20 พ.ย.นี้...หลังจากนายสำคัญ ธรรมรัต ประธานคณะกรรมการองค์การตลาด แถลงเมื่อวันที่ 15 พ.ย.ว่า บอร์ดองค์การตลาดมีมติด้วยคะแนนเสียงเอกฉันท์ให้เลิกจ้างนายธีธัช สุขสะอาด จากตำแหน่ง ผอ.องค์การตลาด ด้วยข้อหาฮั้วการประมูล กรณีการปรับปรุงอาคารทรงไทยที่สำนักงานองค์การตลาดสาขา อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. เป็นต้นไป และที่ประชุมยังมีมติให้นายปิยะชาติ อำนวยเวช กรรมการองค์การตลาด ทำหน้าที่รักษาการแทนผู้อำนวยการก่อนจะสรรหาผู้อำนวยการใหม่ภายใน 3 เดือนนั้นเมื่อวันที่ 16 พ.ย. นายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย ในฐานะที่กำกับดูแลองค์การตลาดโดยตรง เผยว่า ยังไม่ได้รับทราบเรื่องที่คณะกรรมการองค์การตลาด มีมติเห็นชอบให้ปลดนายธีธัช สุขสะอาด ผู้อำนวยการองค์การตลาด เนื่องจากคณะกรรมการฯ ไม่ได้แจ้งให้ทราบว่าจะมีการประชุมแต่อย่างใด ทั้งๆ ที่เป็นรัฐมนตรีที่กำกับดูแลโดยตรง จึงถือว่าเสียมารยาทมาก โดยคณะกรรมการฯ ควรจะรอให้รัฐมนตรีใหม่มอบนโยบาย และหารือในกรอบการทำงานก่อนที่จะมีการปลดผู้อำนวยการทราบมาว่ามีการแจ้งคณะกรรมการ ตอน 09.00 น. เพื่อที่จะเรียกประชุมในเวลา 10.00 น. และคณะกรรมการที่เข้าประชุมก็มีเพียง 8 คน จาก 15 คน ซึ่งมีพิรุธอย่างแน่นอน ขณะเดียวกันเมื่อตรวจสอบไป ก็พบอีกว่า ข้อหาที่คณะกรรมการนำมาใช้ปลดนายธีธัชนั้น ก็ไม่ได้มีเอกสาร หรือหลักฐานที่มัดตัวว่านายธีธัชได้กระทำความผิด เป็นเพียงบัตรสนเท่ห์จากผู้เสียผลประโยชน์เท่านั้น ทั้งนี้ ได้ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่มีมูลอย่างที่คณะกรรมการฯ กล่าวหา ขณะเดียวกัน การปลดผู้อำนวยการก็ต้องเป็นเพราะถูกตัดสินในคดีอาญาเท่านั้น แต่เรื่องของนายธีธัชไม่มีมูล การปลดโดยคณะกรรมการฯ เมื่อวานนี้ (15 พ.ย.) จึงถือว่าคณะกรรมการดำเนินการโดยมิชอบ นายประชากล่าวรมช.มหาดไทย กล่าวอีกว่า รักษาการผู้อำนวยการคนใหม่ ที่คณะกรรมการแต่งตั้งอย่างนายปิยะชาติ อำนวยเวชก็มีคดีติดตัวอยู่ 3 คดีเช่นเดียวกัน จึงแปลกใจมากว่า ทำไมถึงแต่งตั้งบุคคลนี้ขึ้นมาแทน ทั้งนี้ นายธีธัชได้มายื่นเรื่องเพื่อขอให้พิจารณาทบทวนมติปลดออกจากตำแหน่งอีกครั้ง ซึ่งได้รับเรื่องไว้แล้ว และจะมีการพิจารณาใหม่อีกครั้งหนึ่ง โดยในวันที่ 20 พ.ย.นี้ จะเดินทางไปมอบนโยบายที่องค์การตลาด และจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าหารือกับคณะกรรมการฯ ด้วย รวมถึงอาจมีการเปลี่ยนตัวคณะกรรมการบางส่วน ซึ่งถือเป็นกลไกตามปกติ เมื่อเปลี่ยนรัฐมนตรีขณะที่แหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายประชาได้ให้นายธีธัชไปทำงานปกติ เพราะคำสั่งที่ออกมาจากคณะกรรมการถือว่าไม่ชอบและไม่มีผลทางกฎหมาย เนื่องจากขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา ไม่ปฏิบัติตามระเบียบแบบแผน และไม่ได้ตั้งกรรมการสอบตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดแจ้ง กระทำการข้ามผู้บังคับบัญชา เพราะยังไม่ได้ความเห็นชอบจากรัฐมนตรี แต่กลับลงนามในคำสั่งปลดผู้อำนวยการด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังกระทำการโดยลุแก่อำนาจ และทำให้องค์กรเสียชื่อเสียงอันเป็นการเสียหายแก่ราชการอีกด้วยรายงานข่าวแจ้งว่า นายธีธัชได้เดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับคณะกรรมการองค์การตลาดไว้เรียบร้อยแล้ว และในวันที่ 19 พ.ย. นายธีธัชจะเดินทางมายังกระทรวงมหาดไทยเพื่อยื่นหนังสือต่อนายประชาเพื่อขอความเป็นธรรม.

Wednesday, November 14, 2012

กมธ.เตรียมเรียก“เสธ.อ้าย”แจงปมแช่แข็งประเทศ

กมธ.เตรียมเรียก“เสธ.อ้าย”แจงปมแช่แข็งประเทศ
Pic_306091 กมธ.พัฒนาการเมืองฯ เตรียมเรียก พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม แจง 21 พ.ย. หลังบอกจะแช่แข็งประเทศ อาจจะขัดรธน. มาตรา 68 ..

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่รัฐสภา นายธนิก มาสีพิทักษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เปิดเผยว่าการประชุม กมธ.วันนี้ ที่มีนายศุภชัย ศรีหล้า ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประธาธิปัตย์ ในฐานะประธานกมธ. ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยในการพิจารณาระเบียบวาระอื่นๆ ตนได้เสนอที่ประชุมว่า ให้เชิญพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม มาชี้แจงต่อ กมธ. กรณีที่มีการประกาศผ่านสื่อเรียกร้องให้ทหารออกมาปฏิวัติและแช่แข็งประเทศ เพราะเห็นว่าขัดต่อการพัฒนาการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์ทรงเป็นประมุข และอาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งที่ประชุมเห็นด้วยและจะมีการเชิญเสธ.อ้าย มาชี้แจงต่อ กมธ.ในวันพุธที่ 21 พ.ย.นี้.

Monday, November 12, 2012

'มาร์ค'ตอกรัฐ ยันถอดยศ หวังล้มซักฟอก

'มาร์ค'ตอกรัฐ ยันถอดยศ หวังล้มซักฟอก
Pic_305583 “มาร์ค” แนะดับร้อนการเมือง เหตุจะมีการชุมนุมใหญ่ ตอกรัฐยันถอดยศหวังล้มซักฟอก ไม่สน ส.ส.พท.ยื่นศาล รธน.ตีความคุณสมบัติ ยันพร้อมแจง...

วันที่ 12 พ.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทางสถานีโทรทัศน์บลูสกาย ชาแนล ถึงบรรยากาศทางการเมืองว่า ขณะนี้ต้องช่วยกันดับความร้อนทางการเมือง เพราะบรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นมาและมีการตอบโต้กันรุนแรง เนื่องจากจะมีการชุมนุมใหญ่ ซึ่งแทนที่รัฐบาลจะปล่อยให้กลไกทางการเมืองทำงานตามปกติ มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่กลับพยายามสร้างเงื่อนไขเกี่ยวกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจให้เกิดปัญหาอยู่ ตลอดเวลา ส่วนคำสั่งกระทรวงกลาโหมถอดยศร้อยตรีของตนนั้น มีเจตนาชัดเจนในการทำให้เกิดปัญหากับญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และการออกคำสั่งก็บ่งบอกได้ว่ามีความตั้งใจสกัดกั้น หรือกลั่นแกล้งทางการเมือง เพราะก่อนหน้านี้ตั้งเรื่องไว้ว่าตนหนีทหาร แต่สุดท้ายคำสั่งออกมา แสดงว่า รมว.กลาโหมก็ต้องเห็นว่าตนเข้าไปเป็นทหารแล้ว ไม่เช่นนั้นจะปลดออกได้อย่างไร แล้วสุดท้ายที่เขาต้องการให้อยู่ในคำสั่งก็คือ ประพฤติทุจริตมิชอบในวงราชการเพื่อปลดออก เพื่อให้เข้าลักษณะต้องห้ามการเป็น ส.ส. ก็คงจะพยายามไปยื่น ที่จะให้ชี้ว่าผมขาดคุณสมบัติ จะพยายามตีให้ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตกไป

นาย อภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ระบุว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องวินัยทหารนั้น เนื่องจากพยายามที่จะไปอาศัยกฎหมายศาลปกครอง ที่จะไม่รับพิจารณาเรื่องวินัยทหาร เพื่อจะสกัดกั้นช่องทางนี้ แต่ตนเห็นว่าศาลคงต้องพิจารณาก่อนว่าเป็นเรื่องวินัยทหารหรือไม่ ไม่ใช่ พล.อ.อ.สุกำพล เซ็นบอกว่าเป็นวินัยทหารก็เลยกลายเป็นวินัยทหาร ซึ่งต้องยึดตามข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นเพียงความพยายามกลั่นแกล้ง ตนก็จะต้องต่อสู้เรื่องนี้ และเริ่มต้นที่ศาลปกครองก่อน เป็นขั้นตอนแรก ส่วนใครจะไปยื่นเรื่องคุณสมบัติของตนที่ศาลรัฐธรรมนูญนั้น ก็ต้องไปชี้แจงที่ศาลรัฐธรรมนูญว่า คำสั่งที่ปลดตนออกจากราชการเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนเรื่องดังกล่าวจะเป็นบันได 3 ขั้น สังหารผู้นำฝ่ายค้านหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าเป็นความตั้งใจของเขา เพราะเป็นสิ่งที่พูดล่วงหน้ากันมาและมีการตั้งธงเอาไว้ แต่ตนก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจอะไรกับเรื่องนี้ ต้องเดินหน้าและยืนยันว่าฝ่ายค้านจะเดินหน้าเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ.

Sunday, November 11, 2012

ปชป.โวยรัฐ ปมสนามฟุตซอล กทม.กลายเป็น'แพะ'

ปชป.โวยรัฐ ปมสนามฟุตซอล กทม.กลายเป็น'แพะ'
Pic_305340 ปชป.โวยรัฐ ปมสร้างสนามฟุตซอล "เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น" อ้าง กทม.กลายเป็น "แพะรับบาป" ถามกลับนายกฯ เหตุใดจึงอนุมัติงบฯ สร้างสนามล่าช้า เพียง 1 ล้านบาท ชี้ต้องการดิสเครดิตใช่หรือไม่

วันที่ 11 พ.ย. พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาการก่อสร้างสนามบางกอก ฟุตซอล อารีนา ที่เขตหนองจอกว่า กรุงเทพมหานคร (กทม.) ให้ความร่วมมือกับรัฐบาล และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการก่อสร้างสนามดังกล่าวเรียนภาษาอังกฤษ ทั้งที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณให้ กทม.เมื่อปลายปี 2554 เพียง 1 ล้านบาท และมีปัญหาเรื่องระยะเวลา จากการเกิดมหาอุทกภัยด้วย ทำให้เวลาการก่อสร้างลดเหลือ 200 กว่าวัน เสร็จล่าช้าไป 16วัน

ซึ่ง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แสดงความรับผิดชอบแล้ว แต่สิ่งที่น่าละอายคือ การกล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ และ กทม.โดยไม่คำนึงถึงว่า ที่จริงเรื่องนี้เป็นงานของรัฐบาล  กทม.เป็นผู้ให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกการสร้างสนาม และสนามนี้ไม่ได้เป็นเงื่อนไขของฟีฟ่า ในการจัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 มาตั้งแต่ต้น เรื่องนี้จึงไม่ใช่ความผิด หรือความล้มเหลวของ กทม.ที่ส่งผลให้การแข่งขันดำเนินต่อไปไม่ได้

ขณะเดียวกัน มีการขึ้นป้ายรูปของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ นายชุมพล ศิลปอาชา รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ ในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขัน มีการขึ้นตัววิ่งบนหน้าจอโทรทัศน์ แสดงรายชื่อผู้ให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขัน ซึ่งมีชื่อของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นายชุมพล เท่านั้น แต่ไม่มี กทม.เกี่ยวข้อง จึงถือเป็นการเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น เพราะเมื่อการก่อสร้างสนามดังกล่าวไม่เสร็จ กลับกล่าวโทษคนอื่น ทั้งที่เป็นงานของรัฐบาล แต่เมื่อมีการแข่งขันและโฆษณากลับออกมาเอาหน้า สร้างราคาให้กับตัวเอง ใช้ปากกล่าวหาผู้อื่น ถ้าถามหาความรับผิดชอบ

นายกฯ ต้องตอบว่า เหตุใดจึงอนุมัติล่าช้า และให้งบประมาณเพียง 1 ล้านบาท มีเจตนากลั่นแกล้งกันใช่หรือไม่ มีการเตรียมการที่หวังผลให้การสร้างสนามดังกล่าว ไม่เสร็จทันตามกำหนดใช่หรือไม่ ซึ่งอาจถูกตั้งข้อสงสัยว่า เป็นดิสเครดิตทางการเมืองก็ได้ เพราะ นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ เป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยด้วย และเรื่องนี้ ยังเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เพื่อกลบกระแสของการอภิปรายฯ.

ปชป.อัดรัฐล้มเหลว ราคาของถูกลง แต่อาหารสำเร็จรูปแพง

ปชป.อัดรัฐล้มเหลว ราคาของถูกลง แต่อาหารสำเร็จรูปแพง
Pic_305334 โฆษก ปชป. แขวะ รัฐบริหารล้มเหลว อ้าง เป็นประเทศแรกในโลกที่ราคาวัตถุดิบ ผลิตอาหารถูกลงแต่ราคาอาหารสำเร็จรูป กลับแพงขึ้น

วัน ที่ 11 พ.ย. พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทย เป็นประเทศแรกของโลก ที่วัตถุดิบในการผลิตอาหาร เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ไก่ เป็นต้น มีราคาถูกกว่าปีที่แล้ว แต่อาหารปรุงสำเร็จ กลับมีราคาแพงกว่าปีที่แล้ว ร้อยละ 20

"นายกรัฐมนตรีทำให้ประชาชนขายของในราคาถูก แต่ซื้อของราคาแพง และปัญหาดังกล่าว มาจากความผิดพลาดของรัฐบาล อาทิ นโยบาย การขึ้นค่าแรงรายวัน เป็นวันละ 300 บาท การขึ้นราคาค่าไฟฟ้า การลอยตัวราคาก๊าซแอลพีจี และการขึ้นราคาน้ำมัน ทำให้ค่าขนส่ง ค่าการผลิต และค่าจัดเก็บปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้สินค้าปลายทางมีราคาแพง แต่ราคาที่ต้นทางถูกกด ถือเป็นการบริหารราชการแผ่นดินที่ล้มเหลว" โฆษก ปชป. กล่าว...

Saturday, November 10, 2012

ปชป.ประณามบิ๊กโอ๋ เร่งถอดยศ'มาร์ค' หวังผลการเมือง

ปชป.ประณามบิ๊กโอ๋ เร่งถอดยศ'มาร์ค' หวังผลการเมือง
Pic_305112 รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ประณาม “สุกำพล” เร่งถอดยศ “มาร์ค” หวังผลการเมือง แนะอ่าน ประมวลกฎหมายอาญา ม.157 ให้ดี อย่าทำลายล้างกันด้วยวิธีสกปรก...

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์และทีมกฎหมายพรรค กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม มีคำสั่งกระทรวงกลาโหมถอดยศร้อยตรี ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า เรื่องนี้มุ่งหวังทำลายล้างทางการเมือง สมควรประณามให้ถึงที่สุด เพราะมีข้อเท็จจริงว่าไม่มีเรื่องใดผิดกฎหมายหรือระเบียบ นายอภิสิทธิ์เข้ารับราชการตามกระบวนการกฎหมาย และการที่จะบอกว่า สด. 9 เป็นเอกสารเท็จ ก็ไม่น่าเชื่อว่าคนได้ดิบได้ดีเป็นถึง รมว.กลาโหม แต่ไม่มีปัญญาแยกแยะว่าอันไหนเป็นเอกสารปลอมหรือเป็นเอกสารจริง ทั้งที่เป็นเอกสารที่ทางราชการออกให้ทั้งหมด ขณะที่กระบวนการสอบสวนของคณะกรรมการ ก็เร่งรีบจนผิดสังเกต ต้องการใช้ประโยชน์ในทางการเมืองทำลายภาพลักษณ์นายอภิสิทธิ์ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

ขณะเดียวกันกฎหมายกำหนดไว้ให้ผู้ถูก สอบสวนมีสิทธิ์ที่จะรับรู้ข้อมูลข้อเท็จจริงมีสิทธิ์โต้แย้ง แต่นายอภิสิทธิ์ ไม่ได้รับสิทธิ์ตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งที่ต้องการชี้แจง แต่ก็เร่งรีบสรุปเพื่อให้ได้ตามธงที่วางไว้ก็เท่านั้น ซึ่งเมื่อทำผิดกฎหมาย คณะกรรมการ และพล.อ.อ.สุกำพล ต้องรับผิดในทางกฎหมายอย่างแน่นอน โดยตนขอแนะนำให้ไปอ่าน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ให้ดี ดังนั้นอยากเตือนสติรัฐบาลว่าอย่าคิดทำลายล้างกันด้วยวิธีการสกปรก ทำอะไรให้ยึดถือความถูกต้อง ยึดถือกฎหมายด้วย.

Friday, November 9, 2012

ทบ.เตรียม 12 กองพันทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ 5 ธันวามหาราช

ทบ.เตรียม 12 กองพันทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ 5 ธันวามหาราช
Pic_304951 กองทัพบก เตรียม 12 กองพันทหารรักษาพระองค์ถวายสัตย์ 5 ธันวามหาราช "ผบ.ทบ."สั่งจัดงานให้สมพระเกียรติ ชวน ปชช.แสดงพลังจงรักภักดี 5 ธันวา...

วันที่ 9 พ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมหน่วยขึ้นตรงของกองทัพบกที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในการประชุมว่า ทางกองทัพมีกำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 85 พรรษา 5 ธันวามหาราช โดยกองทัพบกจะทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดี และพลังของแผ่นดิน โดยจะจัดขึ้นที่กองบัญชาการกองทัพบก รวมถึงพื้นที่หน่วยขึ้นตรงของกองทัพบกในวันจันทร์ที่ 3 ธ.ค.นี้ นอกจากนี้จะมีการจัดกิจกรรมถวายเป็นพระราชกุศล ด้วยการอุปสมบทหมู่เฉลิมพระเกียรติจำนวน 430 รูป โดยกำลังพลของกองทัพภาคที่ 1-4 และกรมยุทธศึกษาทหารบกเข้าร่วม ทั้งนี้ยังมีการบริการทางการแพทย์ การบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล รวมถึงการจัดกิจกรรมเผยแพร่พระเกียรติคุณ สารคดี และสปอตโทรทัศน์เฉลิมพระเกียรติ รวมทั้งการจัดนิทรรศการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ระหว่างวันที่ 1-15 ธ.ค.นี้ ใน 4 โรงเรียน คือ โรงเรียนหอวัง สตรีวิทยา กรุงเทพคริสเตียน สาธิต มศว.ประสานมิตร อย่างไรก็ตาม กองทัพบกยังช่วยสนับสนุนรัฐบาลและองค์กรเอกชน คือ การจัดงานสโมสรสันนิบาตที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 7 ธันวาคมนี้ ทั้งนี้ยังมีการสนับสนุนกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติของกองทัพไทย การสนับสนุนมูล นิธิ 5 ธันวามหาราช ในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติบริเวณมณฑลพิธีสนามหลวง โดยบูรณาการจากทุกภาคส่วนเต็มขีดความสามารถ อย่างสมพระเกียรติสูงสุด ซึ่งผบ.ทบ.เชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมแสดงพลังจงรักภักดีในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ให้มากที่สุด

พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังเตรียมการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของทหารรักษาพระองค์ในพระราชพิธี เสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ในวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งกองทัพบกโดยกองทัพภาคที่ 1 ได้จัดเตรียมกำลังทหารรักษาพระองค์ 12 กองพันเพื่อเข้าร่วมพิธี โดยระหว่างนี้จะมีการซ้อมที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11รอ.) ซึ่งจะมีการซ้อมในวันที่ 8 พ.ย. 15 พ.ย. และ 22 พ.ย. และจะมีการซ้อมใหญ่ในพื้นที่จริงในวันที่ 25 พ.ย.และ 2 ธ.ค. เวลา 09.00น.-12.00 น. เพื่อเตรียมความพร้อมของทหารรักษาพระองค์เพื่อเข้าสู่พิธีสำคัญ โดย ผบ.ทบ.เน้นย้ำให้จัดงานให้ดีที่สุด เพื่อให้สมพระเกียรติ.

โพลระบุข่าวลอบทำร้าย'ทักษิณ'เป็นเกมการเมือง

โพลระบุข่าวลอบทำร้าย'ทักษิณ'เป็นเกมการเมือง
Pic_305061 ดุสิตโพลเผย ประชาชนส่วนใหญ่เชื่อว่าข่าวลอบทำร้าย "ทักษิณ" เป็นเกมการเมือง สร้างกระแสเพื่อหวังผลประโยชน์ หวั่นข่าวที่ออกมาจะทำให้สถานการณ์บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย ทะเลาะเบาะแว้ง แตกแยก...

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็น เรื่อง นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร โพสต์เฟซบุ๊ก อ้างว่ามีบุคคลคิดแผนการลอบทำร้ายพ่อของตนเอง ที่กำลังจะเดินทางมาที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ในวันนี้ (10 พ.ย.) ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนท่ี่ติดตามข่าวสาร จำนวน 1,168 คน ระหว่างวันที่ 7-9 พ.ย. 2555 สรุปผลได้ดังนี้

ประชาชนส่วนใหญ่ร้อย ละ 44.51 เห็นว่าข่าวลอบทำร้ายอาจจะเป็นเกมการเมือง เป็นการสร้างกระแสเพื่อหวังผลประโยชน์จากข่าวนี้ ร้อยละ 39.01 รู้สึกสับสน ไม่แน่ใจ ไม่รู้ว่าจะเชื่อใครดีและยังไม่มีข้อมูลข้อเท็จจริงที่มีน้ำหนักพอ ร้อยละ 16.48 เห็นว่าอาจะเป็นเรื่องจริง หรือมีมูลความจริงก็เป็นได้ เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะมีศัตรูทางการเมืองและเรื่องอื่นๆ

ส่วนความเชื่อ ว่าจะมีการลอบทำร้า ยพ.ต.ท.ทักษิณ จริงหรือไม่นั้น ประชาชนร้อยละ 47.95 รู้สึกไม่แน่ใจ เพราะยังรู้สึกสับสนกับข่าวนี้ ต้องรอติดตามข่าวสักระยะ และไม่รู้ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อดี ร้อยละ 31.16 ไม่เชื่อเรื่องดังก่าว เพราะเห็นว่าเป็นการสร้างกระแสทางการเมือง ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะทำและการจับกุมครั้งนี้ยังมีข้อมี่น่าสังเกตอยู่ หลายจุด ขณะที่อีกร้อยละ 20.89 เชื่อในเรื่องดังกล่าว เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวถูกลอบทำร้าย/อาจสร้างความไม่พอใจให้กับคน บางกลุ่มและมีศัตรูทางการเมือง

สำหรับข่าวลอบทำร้าย พ.ต.ท.ทักษิณ มีผลกระทบต่อการเมืองไทยอย่างไรนั้น ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 69.62 เห็นว่าเป็นประเด็นให้นักการเมืองออกมาโต้ตอบกัน จนเกิดการทะเลาะเบาะแว้ง ร้อยละ 20.80 เห็นว่าทำให้การเมืองไทยมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ขายเสถียรภาพ และร้อยละ 9.58 เห็นว่าคนเสื้อแดงหรือคนที่รักทักษิณอาจออกมาชุมนุม หรือมีการเคลื่อนไหวเพื่อกดดันทางการเมือง

ขณะที่ข่าวลอบทำร้ายจะมี ผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างไรนั้น ประชาชนร้อยละ 43.55 เห็นว่าจะส่งผลให้สถานการณ์บ้านเมืองเกิดความวุ่นวาย มีแต่การทะเลาะเบาะแว้งแตกแยก ร้อยละ 29.84 เห็นว่าทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสื่อม ต่างชาติขาดความเชื่อมั่นและไม่มั่นใจในความปลอดภัย และอีกร้อยละ 26.61 เห็นว่าอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับพม่า.

Thursday, November 8, 2012

'เสธ.อ้าย'ไม่แปลกใจ 'ชัยสิทธิ์'นำตท.5-ตท.10แถลงต้าน

'เสธ.อ้าย'ไม่แปลกใจ 'ชัยสิทธิ์'นำตท.5-ตท.10แถลงต้าน
Pic_304863 "เสธ.อ้าย" ชี้ ไม่แปลกใจ "พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร" อดีตผบ.สส. นำตท.5-ตท.10 แถลงข่าวต้านชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม เผยมีเบื้องหลัง ยังอุบวันนัดชุมนุมใหญ่ครั้งที่ 2 ย้ำทราบพรุ่งนี้...

วัน ที่ 9 พ.ย. พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ "เสธ.อ้าย" ประธานองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ยืนยันว่า การที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ญาติผู้พี่ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้นำกลุ่มเพื่อนเตรียมทหาร ตท.5 และเตรียมทหาร ตท.10 ออกมาแถลงข่าวต่อต้านการเตรียมการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามนั้น ส่วนตัวไม่แปลกใจ และไม่มีความหนักอกหนักใจอะไร เพราะเตรียมทหาร ตท.5 ก็เป็นรุ่นเดียวกันกับ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ขณะที่เตรียมทหาร ตท.10 ก็เป็นรุ่นเดียวกันกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มันก็เป็นธรรมดา

พร้อมกันนี้ พล.อ.บุญเลิศ ยังกล่าวถึงการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้ที่ราชตฤณมัยสมาคม (สนามม้านางเลิ้ง) ในเวลา 09.30 น. ยืนยันว่า ไม่ต้องชนกับใคร และไม่เกรงว่าจะมีการยกพวกชนกันระหว่างสีด้วย เพราะเราชุมนุมกันในสถานที่ปิด ทั้งนี้ มั่นใจว่ามีกลุ่มมวลชนจากหลายองค์กรตอบรับเตรียมมาร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมาก
อย่าง ไรก็ตาม พล.อ.บุญเลิศ ได้กล่าวย้ำถึงกรณีที่มีข่าวว่าจะนัดชุมนุมใหญ่อีกครั้งในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ว่า ไม่ทราบ แต่จะทราบในวันพรุ่งนี่้ รวมไปถึงกระแสข่าวว่าอาจมีการตัดสินใจเคลื่อนกลุ่มผู้ชุมนุมไปทำเนียบรัฐบาล หรือไม่ ก็คงจะทราบในวันพรุ่งนี้.

วุฒิสภาชงตั้งกมธ.ติดตามปรองดอง ยันไร้คนหน้าเดิม

วุฒิสภาชงตั้งกมธ.ติดตามปรองดอง ยันไร้คนหน้าเดิม
Pic_304873 วุฒิสภา ชงตั้งกรรมาธิการวิสามัญติดตามปรองดอง ยันไร้คนหน้าเดิม ย้ำไม่มีการเมืองเบื้องหลัง คาดใช้เวลาศึกษาประมาณ 9 เดือน...

วัน ที่ 9 พ.ย. ที่รัฐสภา นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี พร้อมด้วย นายวิชาญ ศิริชัยเอกวัฒน์ ส.ว.สรรหา แถลงถึงการเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญติดตามศึกษาการปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ต่อประธานวุฒิสภา

นายสิงห์ชัย กล่าวว่า ได้รวบรวมรายชื่อ ส.ว. เพื่อเสนอญัตติดังกล่าว เพราะที่ผ่านมามีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาเรื่องความปรองดองสมานฉันท์ กว่า 10 คณะ ใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาท แต่เมื่อแถลงผลการศึกษาแล้ว ก็ไม่อาจนำไปสู่การปรองดองได้ ตนและเพื่อน ส.ว.อีกจำนวนหนึ่ง จึงมีความเห็นร่วมกันที่จะตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาเรื่องความปรองดอง เพราะ ส.ว.เป็นหนึ่งในสถาบันหลักของประเทศ ซึ่งไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ไม่แบ่งฝักฝ่าย

ทั้งนี้ การขอตั้งกรรมาธิการครั้งนี้จะเป็นการรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มที่ได้ศึกษาไว้ แล้วจะไม่วิจัยเพิ่มอีก และนำมารวบรวมเสนอแนะ เป็นทางออกให้ประเทศในการเดินหน้าสร้างความปรองดอง
"คาดว่า จะใช้เวลาศึกษาประมาณ 9 เดือน และจะเชิญบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่พวกหน้าเดิมมาร่วมศึกษาด้วย อาทิ ข้าราชการและทหารที่ยังรับราชการอยู่ และจากองค์กรด้านสันติวิธี หากเสนอญัตติตั้ง กมธ.ไม่ทันในสมัยประชุมทั่วไปของวุฒิสภา ก็อาจขอตั้งเป็นคณะกรรมการศึกษาเรื่องความปรองดอง ซึ่งประธานวุฒิสภาสามารถตั้งเองได้ เพราะเรื่องการปรองดองของคนในชาติ ถือเป็นความเร่งด่วนที่ต้องรีบดำเนินการ" นายสิงห์ชัย กล่าว.

Wednesday, November 7, 2012

'มาร์ค'เตือน'สมช.'ถูกแทรก กระทบความเชื่อมั่นชาติ

'มาร์ค'เตือน'สมช.'ถูกแทรก กระทบความเชื่อมั่นชาติ
Pic_304436 อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน เตือน สมช.ปล่อยการเมืองแทรก กระทบเชื่อมั่นชาติ ปัดไม่ออกความเห็น รมว.กลาโหม โต้ "โอ๊ค" ชี้ไปตกลงกันเอง
วันที่ 7 พ.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวถึงกรณี การจับอาวุธสงครามที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ที่มีการเชื่อมโยงถึงการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่า ดูเหมือนกองทัพบก สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มีข้อมูลไม่ตรงกัน ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ และระมัดระวังไม่ให้การเมืองเข้าแทรกแซง เพราะงานด้านความมั่นคง ส่งผลกระทบกับความน่าเชื่อถือด้านอื่น ทั้งเศรษฐกิจ สังคม

ส่วนกรณี ที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช.ที่มีการระบุข้อมูลไม่ตรงกับตอนแรก หลังจากเข้าพบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเรื่องที่ พล.ท.ภราดร ต้องชี้แจงว่า เป็นเพราะอะไร และเหตุใดถึงมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งที่หน่วยงาน สมช. ต้องยึดมั่นในข้อมูล

"ส่วนการตอบโต้กันระหว่าง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม และนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณนั้น ตนไม่ขอออกความเห็น เป็นเรื่องที่ทั้ง 2 ต้องไปตกลงกันเอง" นายอภิสิทธิ์ กล่าว.

ส.ว.ยอมรับผลศาลรธน.ไม่รับคำร้องขายข้าวรัฐต่อรัฐ

ส.ว.ยอมรับผลศาลรธน.ไม่รับคำร้องขายข้าวรัฐต่อรัฐ
Pic_304442
"วันชัย สอนศิริ" .. ยอมรับผลศาล รธน.ไม่รับคำร้องกรณีสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐของรัฐบาล ลั่นคงต้องตรวจสอบผ่านการอภิปรายทั่วไป ...
วันที่ 7 .. ที่รัฐสภา นายวันชัย สอนศิริ ..สรรหา ในฐานะ 1 ใน 67 .. ที่ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรค 6 ว่าสัญญาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ของรัฐบาล ..ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นหนังสือสัญญาที่ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 วรรค 2 หรือไม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องให้วินิจฉัยเรื่องดังกล่าวว่า รู้สึกเสียดาย ที่ทำให้วุฒิสภาไม่มีโอกาสพิสูจน์ได้ว่า ประเด็นที่รัฐบาลทำสัญญาขายข้าวกับต่างประเทศและปิดเป็นความลับ และไม่เป็นข้อเท็จจริงหรือการโกหก ซึ่งเจตนาของวุฒิสภาที่ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา เพราะเมื่อศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องไว้แล้ว วุฒิสภาจะใช้คำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญเรียกเอกสารสัญญาขายข้าวมาตรวจสอบ แต่เหตุผลที่ศาลรัฐธรรมนูญให้ไว้ว่าคำร้องไม่ปรากฏหนังสือสัญญาอันเป็นข้อเท็จจริงในการวินิจฉัยชี้ขาดนั้น ถือเป็นเหตุผลที่ยอมรับได้ ซึ่งจากนี้ ..คงตรวจสอบผ่านการอภิปรายทั่วไป แต่ประเด็นเรื่องขอการทุจริตนั้น เชื่อว่า คณะกรรมการ ... จะมีการตรวจสอบเพิ่มเติม เบื้องต้นทราบว่า ...เตรียมตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้หลังจากที่มีหลายกลุ่มที่ยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม กระบวนการตรวจสอบเรื่องนี้ ยังมีช่องทาง ศาลปกครอง ที่ฝ่ายผู้ที่เอกชนผู้ค้าข้าว ที่ได้รับผลกระทบได้ยื่นฟ้องไว้ด้วย.

Blog Archive