'เสธ.อ้าย'อัด'โอ๊ค'เพ้อเจ้อ ปูดข่าวลอบฆ่า'ทักษิณ'
พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม กล่าวถึงกรณีที่ นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่ามีขบวนการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ในช่วงวันที่ 8-10 พ.ย.นี้ โดยผู้สั่งการอยู่เบื้องหลังเป็นขาเก่าเจ้าประจำ คนดี คนเดิม โดยเชื่อมโยงจากกรณีที่มีการจับกุมชนกลุ่มน้อย และพบอาวุธสงครามจำนวนมาก ว่าเป็นการกุข่าวและเป็นข่าวโคมลอยมากกว่า เพราะคนไทยจะเอาอาวุธข้ามไป จ.ท่าขี้เหล็กได้อย่างไร เนื่องจากทางการพม่าเข้มงวดเป็นอย่างมาก และเป็นการเพ้อเจ้อที่ระบุว่ายังมีขบวนการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะด่านชายแดนพม่ามีความเข้มงวดเป็นอย่างมาก จะเอาอาวุธเข้าไปได้อย่างไร อีกทั้งเขาต่อสู้กับชนกลุ่มน้อยอยู่ และเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นแค่การกุข่าวเพื่อให้เกิดการสงสารหรือเห็นใจ มากกว่า และยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มตน เนื่องจากกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามได้ชุมนุมอย่างเปิดเผย
“ผมไม่ เชื่อข่าวนี้ ผมว่าเป็นข่าวเลอะเทอะ ทางพม่าเขาคงไม่ยอมให้เอาอาวุธเข้าไปสังหารใครก็แล้วแต่ในประเทศเขาได้ และผมไม่ทราบรายละเอียดว่า คนดีคนเดิมจะลอบสังหารคุณทักษิณ ตามที่นายพานทองแท้กล่าว แต่ผมยืนยันว่าไม่เชื่อข่าวนี้ คนจะขนอาวุธเข้าไปพม่าเพื่อสังหารคุณทักษิณ ผมไม่เชื่อ พม่าเข้มงวดจะตาย ใครขนอาวุธเข้าไปก็มีแต่ตาย แต่ถ้าเป็นอาวุธของพม่าที่อยู่ที่นั้นผมไม่รู้ พม่ามีตาเป็นสับปะรด ถ้าเอาจริงเขาจับได้เขาฆ่าทิ้งเลย” พล.อ.บุญเลิศ กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ระบุว่ากลุ่มองค์การพิทักษ์สยามจะนัดชุมนุมครั้งที่ 2 ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า ขณะนี้องค์การพิทักษ์สยามยังไม่ได้กำหนดวันชุมนุมครั้งที่ 2 ที่แน่นอน แต่จะเป็นวันใดก็ได้ เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมจำนวนผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมที่แน่นอนอยู่ ว่าจะมีจำนวนเท่าใดจากทุกจังหวัด เนื่องจากมองว่าหากมีการชุมนุมครั้งที่ 2 แล้วมีผู้เข้าร่วมชุมนุมจำนวนไม่ถึงล้าน หรือใกล้เคียงหลักล้าน การชุมนุมก็จะไม่มีประโยชน์ เพราะจะสู้รัฐบาลไม่ได้ ส่วนกรณีที่นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานสภาที่ปรึกษาพรรค แสดงความไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามนั้น ตนพร้อมรับฟังทุกความเห็น รวมถึงความเห็นของนายพิชัยที่เลิกเล่นการเมืองไปแล้วนั้น ตนก็รับฟังไว้แต่คงจะไม่นำมาเป็นเหตุผลการพิจารณาถึงการชุมนุมครั้งที่ 2