Saturday, February 23, 2013

ปูปัดพบทักษิณที่ฮ่องกง หวั่นคะแนนคุณชายพลิก

ปูปัดพบทักษิณที่ฮ่องกง หวั่นคะแนนคุณชายพลิก
นายกฯ ยิ่งลักษณ์ บินเยือนผู้นำเกาหลีใต้-ฮ่องกง ปัดพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฮ่องกง ยอมรับหวั่นคะแนนพลิกโค้งสุดท้ายเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หลังคะแนน คุณชายหมู หายใจรดต้นคอ    เมื่อเวลา 06.30 น. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือนประเทศเกาหลีใต้และฮ่องกงอย่างเป็นทางการ ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ตั้งข้อสังเกตว่าการเดินทางฮ่องกงครั้งนี้ อาจไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ฮ่องกง เพื่อขอคำปรึกษาในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในช่วงโค้งสุดท้าย ว่า ไม่มี เพราะมีการวางโปรแกรมไว้แล้วหน้าอยู่แล้ว ไม่มีภารกิจไปพบใครทั้งนั้น นอกจากผู้นำฮ่องกง   เมื่อถามว่า การสำรวจคะแนนนิยมล่าสุด ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 16 พรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนนิยมใกล้เคียง พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัคร กทม.หมายเลข 9 พรรคเพื่อไทย กลัวคะแนนพลิกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นห่วงทุกนาที จนกว่าผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการจะออกมา  ตนมีภารกิจที่ต้องทำหน้าที่ ช่วยหาเสียงเท่าที่ทำได้ ซึ่งการเลือกตั้งระบอบประชาธิปไตยต้องฟังเสียงประชาชน ก็ขอร้องให้ช่วยหาเสียงอย่างสร้างสรรค์ แล้วให้ประชาชนตัดสินใจ เพื่อนำเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน   ทั้งนี้ เมื่อเวลา 06.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิไปเยือนสาธารณรัฐเกาหลีและเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เพื่อเข้าร่วมในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีตามคำเชิญของ มาดามปัก กึน-ฮเย ก่อนเดินทางต่อไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ตามคำเชิญของผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง พร้อมใช้โอกาสนี้เปิดแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ประเทศ เพื่อดึงดูดนักลงทุนและย้ำความพร้อมของไทยที่จะเป็นจุดเชื่อมในภูมิภาค (connectivity hub) โดยมี ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชายเดินไปด้วย.

จูดี้ หาเสียงเขตประเวศ ปล่อยปลา9ตัวเอาฤกษ์

จูดี้ หาเสียงเขตประเวศ ปล่อยปลา9ตัวเอาฤกษ์
พงศพัศ พงษ์เจริญ หาเสียงชุมชนวัดตะกล่ำขอคะแนนคนเดินตลาดเช้า ก่อนไหว้พระสักการะเพื่อความมงคล พร้อมปล่อยปลา 9 ตัว...เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่วัดตะกล่ำ ย่านสวนหลวง ร.9 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคเพื่ิอไทยได้ลงพื้นที่หาเสียงที่วัดตะกล่ำ โดยได้เดินหาเสียงในบริเวณชุมชนและตลาดสดวัดตะกล่ำ โดยผู้สมัครฯ ได้รับการต้อนรับจากประชาชนในพื้นที่จำนวนมาก โดยมาขอถ่ายภาพมอบดอกไม้และชักชวนให้ชิมขนมปลากริมอีกด้วย จากนั้นก็ได้เข้าไปนมัสการเจ้าอาวาสวัดตะกล่ำเพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนที่จะปล่อยปลาดุก ปลาไหล ปลาหมอ ชนิดละ 9 ตัว และหอยขมอีกจำนวน 1 ถุง ภายหลังการลงพื้นที่ พล.ต.อ.พงศพัศ ก็ได้ขึ้นรถกระบะแห่หาเสียงไปยังพื้นที่โดยรอบและตลาดหน้าบริเวณสวนหลวง ร.9 เขตประเวศ ต่อไปเพื่อขอคะแนน.  

โซนนิ่งเมือง-ทักษะภาษา-บริการอิเล็กทรอนิกส์3คำขอมาร์ค บล็อกนันถึงผู้ว่าฯ กทม.

โซนนิ่งเมือง-ทักษะภาษา-บริการอิเล็กทรอนิกส์3คำขอมาร์ค บล็อกนันถึงผู้ว่าฯ กทม.
บล็อกเกอร์คนดัง มาร์ค Blognone มองอนาคตใหม่กรุงเทพฯ ฝาก 3 คำขอ เรื่องโซนนิ่งเมือง ภาษา และบริการอิเล็กทรอนิกส์ ถึงผู้ว่าฯ คนที่ 16...เข้าสู่ช่วงนับถอยหลังเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.คนที่ 16 เข้ามาทุกที บรรยากาศการหาเสียงและแสดงนโยบายเริ่มคึกคักมากขึ้นทุกขณะ คราวนี้ถึงเวลาฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนที่มีต่อผู้ว่าฯ คนใหม่ กับแนวคิดจากบล็อกเกอร์คนดัง อิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ หรือ มาร์ค บล็อกนัน (Blognone) หนึ่งในเจ้าของคอลัมน์ดนดังนั่งเขียนประจำหน้าวิทยาการ ไทยรัฐออนไลน์ ถึงว่าที่ผู้ว่าฯ คนที่ 16 ของกรุงเทพฯบล็อกเกอร์คนดัง ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์บล็อกนัน กล่าวถึงด้านดีของกรุงเทพฯ ว่า แม้จะดูเหมือนเป็นเมืองที่ไม่ให้โอกาสคน แต่ก็สามารถอยู่ได้ทั้งคนรวยคนจน มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่ทุกชนชั้นสามารถอยู่ได้ลงตัว แม้จะแตกต่างกันเพียงวิถีชีวิต เรียกว่าเป็นเมืองที่รับได้กับคนทุกระดับ ส่วนด้านไม่ดีคือคนส่วนใหญ่ขาดจิตสำนึกสาธารณะ หมายถึงไม่มีความรู้สึกตระหนักถึงการเป็นเจ้าของสมบัติสาธารณะ เช่น ฟุตปาทหน้าบ้านใครคนนั้นก็จะมองว่าเป็นสมบัติของตัวเอง รวมไปถึงสมบัติสาธารณะอื่นๆ ในกรุงเทพฯ ทั้งถนน สวนสาธารณะ คนมักมองหาช่องทางเพื่อนำสิ่งนั้นๆ มาใช้ประโยชน์ส่วนตัวจนลืมนึกไปว่าสิ่งเหล่านั้นคือของส่วนรวมถ้าพูดถึงในมุมไอที สิ่งที่ไม่ชอบเลย คือ โครงสร้างพื้นฐานตามสาย พูดง่ายๆ คือ อินเทอร์เน็ตแบบเอดีเอสแอล เหมือนจะเข้าถึงเยอะ แต่เอาเข้าจริงคือเข้าไม่ถึงเพราะมีปัญหาเรื่องชุมสาย ต่อให้เป็นหมู่บ้านหรูแต่ถ้าชุมสายมีปัญหาก็ทำให้อินฟราสตรัคเจอร์ไม่ดี แน่นอนว่าด้านดีคือการเป็นศูนย์กลางของเมืองไทย ความเจริญทุกอย่างรวมถึงด้านไอทีก็อยู่ที่กรุงเทพฯมาร์ค บล็อกนัน กล่าวอีกว่า สิ่งที่อยากเห็นกรุงเทพฯ ในอนาคต คือ 1.การทำโซนนิ่งเมือง ที่ปัจจุบันยังไม่เข้มข้นเท่าไหร่ ควรแยกโซนที่พักอาศัยและทำงานออกจากกันอย่างชัดเจน ตอนนี้ยังเรียกว่ามั่วไปหมด บางคนมีห้างอยู่หน้าบ้าน ผมว่ามันทำให้คุณภาพชีวิตเราไม่ดี 2.อยากให้กรุงเทพฯ เปิดรับชาวต่างชาติมากขึ้น เน้นด้านภาษาให้มากขึ้น จากประสบการณ์ที่พบด้วยตัวเอง ผมเชื่อว่าชาวต่างชาติที่ขึ้นรถเมล์บ้านเราไม่มีทางไปไหนได้ถูก เพราะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เลยอยากให้มีอินฟราสตรัคเจอร์ที่เปิดรับชาวต่างชาติมากขึ้น 3.ผมว่าเรื่องฟรี ไว-ไฟ บ้านเราค่อนข้างโอเค เพราะต้องยอมรับว่ายังไม่ค่อยเห็นเมืองที่ทำแล้วประสบความสำเร็จ จริงๆ แล้วไว-ไฟอาจไม่จำเป็นต้องฟรี เก็บเงินก็ได้แต่ต้องสามารถให้บริการได้ครอบคลุมเรื่องที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของกรุงเทพฯ จริงๆ และควรปรับปรุงคือบริการประชาชนด้านอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบันเว็บไซต์ของกรุงเทพฯ เองก็ยังห่วยมาก การติดต่อกับราชการหรือทำธุรกรรมทำเอกสารต่างๆ ก็ยังคงยากเย็นอยู่เช่นเดิม ผมว่าควรผลักดันให้สามารถทำได้ผ่านบริการอิเล็กทรอนิกส์ ถ้าเราอยากได้สำเนาอะไรสักอย่าง ทำไมเราป้อนข้อมูลและส่งสำเนามาให้ถึงบ้านผ่านไปรษณีย์ไม่ได้ ตัวอย่างนี้ช่วยอำนวยความสะดวกสบายและลดปัญหาการจราจรไปได้ในตัวในปีนี้เราเห็นผู้สมัครหลายท่านใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์ โพสต์ภาพ ลงนโยบาย แต่ไม่มีใครใช้เพื่อรับฟีดแบ็กจากประชาชนสักเท่าไหร่ อยากให้ผู้ว่าฯ คนใหม่ลองใช้วิธีด้านไอทีเพื่อรับเรื่องร้องเรียนหรือรับความคิดเห็น เพื่อใช้แก้ปัญหาอย่างทันท่วงทีและถูกจุด ถ้าหน้าออฟฟิศผมมีเสาไฟฟ้าขาด ผมก็ควรจะถ่ายรูปและส่งรายละเอียดไปให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อให้มาดำเนินการได้ทันที ช่องทางไอทีที่ประชาชนจะสามารถส่งเรื่องร้องเรียนไปให้หน่วยงานหรือทีมงานที่คอยรับเรื่องก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นเว็บไซต์อย่างเดียว ยังมีอีกหลายช่องทาง ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะทำ.

Blog Archive