Sunday, December 9, 2012

ภท.แตะเบรกติงรัฐบาลอย่าเร่งแก้ รธน.

ภท.แตะเบรกติงรัฐบาลอย่าเร่งแก้ รธน.
ภท.แตะเบรก เร่งแก้ รธน.ทั้งฉบับ ติงรัฐบาลอย่าเร่งรีบเดินหน้า หวั่นจุดชนวนให้บ้านเมืองเกิดความร้อนแรงอีกรอบ นัด ส.ส. กำหนดท่าทีลงมติโหวตวาระ 3 วันที่ 23-24 ธ.ค. วอนทุกฝ่ายลดทิฐิหาทางออกร่วมกัน ห่วงให้อำนาจ ส.ส.ร.เต็มที่อาจส่งผลกระทบกับองค์กรอิสระ วันที่ 10 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายศุภชัย ใจสมุทร โฆษกพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีพรรคร่วมรัฐบาลประกาศเจตนารมณ์สนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคภูมิใจไทยจะเรียกประชุม ส.ส. เพื่อกำหนดท่าทีการลงมติแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 291 วาระ 3 ในวันที่ 23 หรือ 24 ธ.ค. จากการหารือของกรรมการบริหารพรรคอย่างไม่เป็นทางการ พรรคเห็นด้วยว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะการลงมติวาระ 1 และ 2 พรรคแสดงจุดยืนชัดเจนว่า สมควรแก้ไข แต่เมื่อศาลรัฐธรรมนูญกำหนดเงื่อนไขบางประเด็นในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะต้องพิจารณาอย่างมีเหตุผล อยู่ภายใต้กฎหมาย บางเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าทำไม่ได้ ก็ไม่ควรเดินหน้า หากเรื่องนี้ทำให้บรรยากาศบ้านเมืองร้อนแรงขึ้น หรือหากรอได้ โดยไม่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย ก็ไม่จำเป็นต้องรีบเร่ง หากรัฐบาลคิดว่าจะอยู่ครบ 4 ปีแล้ว ปีที่ 3 ค่อยทำก็ยังทัน หรือถ้าจะอยู่แค่ 3 ปีแล้วยุบสภา ก็ยังมีเวลาพอ สิ่งที่เป็นห่วงคือ การให้อำนาจสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) อย่างเต็มที่ อาจมีผลกระทบต่อสถาบันหรือการบั่นทอนอำนาจองค์กรอิสระจนผิดหลักนิติธรรม จะทำให้บรรยากาศบ้านเมืองร้อนแรงขึ้น ขอให้ทุกฝ่ายลดทิฐิว่าจะต้องแก้ทั้งฉบับ หรือบางมาตรา ถอยกันคนละนิด เชื่อว่าทุกพรรคมีจุดร่วมกันที่เห็นว่า บางมาตราจำเป็นต้องแก้ไข เช่น มาตรา 237 เรื่องยุบพรรคการเมือง จึงต้องหาจุดร่วมที่ตรงกันให้เดินได้เพื่อลดความขัดแย้ง โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว

4 พรรคร่วมรัฐบาล ยังแทงกั๊ก โหวตแก้รธน.วาระ3

4 พรรคร่วมรัฐบาล ยังแทงกั๊ก โหวตแก้รธน.วาระ3
พรรคร่วมรัฐบาลแถลงเจตนารมณ์ 3 ข้อ วันรัฐธรรมนูญ ต้องส่งเสริม คุ้มครองสิทธิเสรีภาพ และมีส่วนร่วมการปกครอง ยันโหวตคว่ำวาระ 3 ไม่จริง เตรียมพิจารณารายงานของคณะพรรคร่วมเรื่องการไข รธน.พรุ่งนี้...เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีการประชุมพรรคร่วมรัฐบาลในการประกาศเจตนารมณ์วันรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา นายสันตศักย์ งามพิเชษฐ์ ตัวแทนพรรคพรรคพลังชล นายประเสริฐ บุญชัยสุข ส.ส.นครราชสีมา ตัวแทนพรรคชาติพัฒนา และนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 โดยภายหลังการหารือในที่ประชุมนั้น ได้ออกแถลงการณ์ว่า นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ.2475 และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2475 นั้น จนถึงขณะนี้ ประเทศไทยได้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขโดยมีรัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายสูงสุดมาครบ 80 ปีรัฐธรรมนูญ 18 ฉบับที่ได้มีการประกาศใช้มา มีเพียงไม่กี่ฉบับเท่านั้นที่พอจะถือได้ว่ามาจากประชาชนและแม้จะเป็นฉบับประชาชน ในที่สุดก็ถูกฉีกทิ้งโดยคณะรัฐประหาร ดังเช่นกรณีของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2540 รัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันนี้คือ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ก็เป็นผลพวงโดยตรงของการรัฐประหารเมื่อวันที่ 19 ก.ย.2549 ซึ่งแม้จะมีการอ้างว่ามาจากการออกเสียงประชามติก็ตาม แต่การออกเสียงประชามติดังกล่าวก็เป็นไปในลักษณะบีบบังคับว่า ถ้าหากประชาชนไม่รับ คณะรัฐประหารสามารถนำเอารัฐธรรมนูญในอดีตที่เคยมี มาปรับปรุงแก้ไขแล้วใช้บังคับต่อไปได้ ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นแบบกึ่งเผด็จการหรือเผด็จการ จึงเป็นที่ปรากฏชัดเจนต่อสังคมว่า รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มีบทบัญญัติที่ไม่สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย หลักการแบ่งแยกอำนาจ หลักนิติรัฐ นิติธรรม ไม่ส่งเสริมระบบพรรคการเมือง ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในการบริหารราชการแผ่นดิน ทั้งการได้มาซึ่งบุคคลในองค์กรอิสระต่างๆ ก็ขาดการเชื่อมโยงกับประชาชนอย่างที่ควรจะเป็นนอกจากนี้ ยังมีการนิรโทษกรรมให้แก่คณะรัฐประหารและรับรองการประกาศคำสั่งของคณะรัฐประหารตลอดจนการปฏิบัติที่เกี่ยวเนื่องกับประกาศและคำสั่งดังกล่าวว่าชอบด้วยกฎหมายและชอบด้วยรับธรรมนูญ อันเป็นการขัดต่อความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญเองเเละขัดต่อหลักนิติธรรมโดยชัดแจ้งนายจารุพงศ์ กล่าวว่า เพื่อให้สังคมได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญที่ชอบธรรมเป็นประชาธิปไตย ค้ำประกันหลักนิติรัฐ นิติธรรม มีสันติสุขและความมั่นคง พรรคร่วมรัฐบาลจึงขอประกาศเจตนารมณ์ 1. จะร่วมกันพิทักษ์รักษา ส่งเสริม สนับสนุน และธำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข 2.รัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศ จะต้องมีที่มาจากประชาชน โดยประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดการทำตั้งแต่ยกร่างจนถึงการให้ความเห็นชอบ 3.รัฐธรรมนูญต้องมีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐของทุกองค์กรอย่างเต็มที่ มีการปรับปรุงโครงสร้างทางการเมืองให้มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพยิ่งขึ้นผู้สื่อข่าวถามว่าจากที่มีกระแสข่าวเรื่องการเสนอโหวตคว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ 3 นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทางพรรคเองยังไม่ได้มีข้อสรุปแบบนั้น โดยจะขอให้มีการศึกษารายงานที่คณะทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลได้ส่งมาก่อน ซึ่งจะมีการประชุมที่พรรคเพื่อไทยในวันพรุ่งนี้ คาดว่าจะมีความชัดเจนกว่านี้ในหลายเรื่อง เพราะตอนนี้รายงานดังกล่าวยังไม่ได้ส่งมา.

บี้ปูขอโทษประชาชน ปล่อยช่อง 11 ถ่ายสดทักษิณ

บี้ปูขอโทษประชาชน ปล่อยช่อง 11 ถ่ายสดทักษิณ
พรรคประชาธิปัตย์ ไล่บี้ นายกรัฐมนตรีขอโทษประชาชนและเอาผิดกับบรรดาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กรณีปล่อยช่อง 11 ถ่ายทอดสด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร... วันนี้ (10 ธ.ค.55) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ หรือช่อง 11 ได้ถ่ายทอดสดการแข่งขันชกมวยที่มาเก๊า โดยมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นประธานเปิดงานและกล่าวในระหว่างการถ่ายทอดสด ทั้งที่เป็นนักโทษหนีคดีว่า รัฐบาลต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะนายกฯ และนางสาวศันสนีย์ นาคพงศ์ รมต.ประจำสำนักนายกฯ รู้อยู่แล้วว่า จะมีการชกมวยและถ่ายทอดสด จะต้องถามว่า ใครเป็นประธาน แต่กลับปล่อยเสียงนักโทษผ่านการถ่ายทอดสด การที่อ้างว่าไม่รู้เรื่องมาก่อน เป็นการแก้ตัวและบิดเบือนประเด็น เพราะคนเป็นประธานเป็นนักโทษหนีคดี เรื่องนี้ผิดทั้งกฎหมายและจริยธรรม หากนายกฯ ไม่ดำเนินการให้ ผบ.ตร.จับกุมนักโทษมาดำเนินคดี ครม.โดยเฉพาะนายกฯ ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดได้ ซึ่งจะปรึกษาหารือกันหลายฝ่ายว่าจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไปอย่างไร ปชป.ประณาม “นายกฯ-รมต.สื่อ” แฉตัดงบแดง ด้าน น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงภาวะผู้นำด้วยการขอโทษต่อประชาชน และนำผู้ที่ทำผิดต่อพันธกิจของช่อง 11 มาดำเนินคดีให้ได้ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ปรากกฏตัวในช่อง 11 ซึ่งเป็นสื่อของรัฐ และขอเรียกร้อง 5 ข้อ ดังต่อไปนี้ 1.ส่งเรื่องผู้ตรวจการแผ่นดินสืบสวนที่มา ใครอนุญาตออกคำสั่งให้มีการถ่ายทอดสดนักโทษออกสื่อรัฐ 2.รมต.ประจำสำนักนายกฯ นอกจากต้องถูกประณามแล้วยังผิดต่อหน้าที่ที่ต้องเสนอผลงานของรัฐไม่ใช่เวทีตระกูลชินวัตร 3.ใช้เงินภาษีประชาชน แต่กรณีนักโทษไม่จ่ายภาษีให้ประเทศ มีสิทธิอะไรใช้ภาษีหลวงถ่ายทอดสดตัวเอง 4.ให้นายกฯ ลงโทษผู้กระทำความผิด ถ้าไม่ทำถือเป็นโต้โผกระทำผิดมาตรา 157 และ 5.ขอให้นายกฯ ขอโทษคนไทยและรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ การเดินทางไปเป็นประธานชกมวยนั้น มีนายพานทองแท้ ชินวัตร รับทราบเพียงคนเดียว ส.ส.เพื่อไทย ก็ห่วงว่า รมต.มือใหม่รับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ มากจนงานเข้า มีการตัดงบสถานีช่องแดงหลายช่อง มาใช้ สถานีรัฐที่ไม่ต้องจ่ายเงินแทน โดยลอยแพช่องแดงหลายช่อง จึงขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ รับผิดชอบด้วย

Blog Archive