Wednesday, March 17, 2010

นายกฯส่งสุเทพถกแกนนำพรรคร่วม

นายกฯส่งสุเทพถกแกนนำพรรคร่วม



คมชัดลึก : นายกฯบอกไม่ไปร่วมถกกับแกนนำพรรคร่วม 18 ก.พ.นี้ ส่งสุเทพไปแทน แต่ครั้งหน้า ปชป.เป็นเจ้าภาพ






 เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 ก.พ.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคกิจสังคม นัดแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลรับประทานอาหารกลางวันและหารือร่วมกันในวันที่ 18 ก.พ.ว่า การพบกันครั้งนี้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นคนไป เพราะตนคงต้องอยู่ตอบกระทู้อยู่ที่สภา
 ผู้สื่อข่าวถามว่าจะไม่ทำให้พรรคร่วมเกิดความเข้าใจผิดหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาเข้าใจกันดีอยู่แล้ว
 เมื่อถามว่าแต่ที่ผ่านมานายกฯ ยืนยันว่าจะเดินทางไปร่วมหารือด้วยตัวเอง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ ก็บังเอิญว่าท่านสุวิทย์มาบอกว่าตกลงจะขอให้ท่านสุเทพไปก่อน แล้วจะนัดกันอีกรอบ ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นเจ้าภาพ ”
 ต่อข้อถามที่ว่าพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่น้อยใจหรือนายอภิสิทธิ์ กล่าวปฏิเสธว่า  ไม่ เพราะเขาเป็นคนเสนอเอง ซึ่งนายสุวิทย์บอกกับตนอย่างนั้น 
 ผู้สื่อข่าวถามว่าแสดงว่าการพบกันในวันที่ 18 ก.พ.จะไม่ใช่ระดับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่ทราบ นายสุวิทย์บอกกับตนว่าจะขอเป็นพรุ่งนี้ ( 18 ก.พ.) แต่ก็รู้ว่าตนคงจะติดงานอยู่ที่สภาก็ให้ตนมอบหมายนายสุเทพให้ ตนก็มอบหมายไปแล้ว ส่วนการนัดพบกันในครั้งต่อไปที่ตนจะเดินทางไปร่วมด้วยนั้นคงใช้เวลาอีกไม่นาน
 ต่อข้อถามที่ว่าที่ไม่ไปครั้งนี้ไม่ใช่เป็นเพราะพรรคร่วมราฐบาลไม่อยากเจอหน้านายกฯ หรอกหรือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ คงไม่หรอกครับ ไม่มีปัญหาหรอกครับ ” ผู้สื่อข่าวถามว่าแม้จะไม่ไปร่วมด้วยได้ฝากหรือกำชับผ่านนายสุเทพอย่างไรไปบ้าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี นายสุเทพทราบประเด็นทั้งหมดอยู่แล้ว








ข่าวที่เกี่ยวข้องศึกในเพื่อไทยบานปลายเฉลิมยันไม่ร่วมซักฟอกเงินทุนป่วนเมือง กรรมการปรามข้อเท็จจริง"เทพไท"ถาม"ชัยสิทธิ์"เป็นใครจะให้รัฐยุบสภา "สุดารัตน์"ยันไม่เคยสกัด"เฉลิม"นั่งเก้าอี้นายกฯ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

นายกฯลั่นจัดการนักการเมืองเอี่ยวสอบเข้าร.ร.นอภ.

นายกฯลั่นจัดการนักการเมืองเอี่ยวสอบเข้าร.ร.นอภ.



คมชัดลึก :นายกฯรอดูผลสอบจากป.ป.ช.เรื่องทุจริตสอบเข้า รร.นอภ. ยันถ้าพบนักการเมืองมีเอี่ยวต้องถูกจัดการ






 เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 ก.พ.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ตรวจสอบพบพยานหลักฐานการทุจริตในการสอบเพื่อคัดเลือกบุคคลเข้าโรงเรียนนายอำเภอ ว่า ตนรับทราบข่าวนี้เบื้องต้น แต่ยังไม่มีการรายงานเข้ามา ส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนอีกชุดหรือไม่นั้น ต้องดูว่าเขาสรุปมาอย่างไร มีปัญหาหรืออุปสรรคใดหรือไม่ ถ้าเขาทำได้เต็มที่แล้ว ก็ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของเขาได้ ซึ่งถ้ามีการสอบสวนพบว่าเรื่องนี้โยงไปถึงนักการเมือง ก็ต้องบอกและมีส่งเรื่องมาให้ตนแล้วตนก็ต้องดำเนินการ
 เมื่อถามว่าช่วงนี้มีข่าวการซื้อขายตำแหน่งค่อนข้างมาก นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้จะตรวจสอบจริงจัง แล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและเป็นรูปธรรม ซึ่งขณะนี้เราทำเช่นนี้ในทุกเรื่อง เช่น กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 2 กรณีของกระทรวงสาธารณสุขที่เราทำไปได้ในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งทุกเรื่อง เราไม่มีปล่อย








ข่าวที่เกี่ยวข้องพศ. เปิดโครงการวัดเป็นศูนย์กลางชุมชน แม่ทัพ4รดน้ำศพ2ทหารเหยื่อโจรใต้ซุ่มยิงกมธ.เชิญทหาร-บ.นำเข้าจีที200เข้าชี้แจง "ในหลวง"ทอดพระเนตรแสดงเชิดสิงโตจับคู่แข่งการเมือง'โคราช'ผูกเกลอสมานฉันท์

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

อภิสิทธิ์พร้อมสอบจัดซื้อจีที200ของทุกหน่วย

อภิสิทธิ์พร้อมสอบจัดซื้อจีที200ของทุกหน่วย



คมชัดลึก :"นายกฯพร้อมสอบสวนการจัดซื้อGT200 ของทุกหน่วย วอนจนท.รัฐยุติการใช้เครื่องมือเพราะพิสูจน์เเล้วว่าไม่ได้ผล พร้อมสอบถามอังกฤษว่าจะรับผิดชอบอย่างไร ส่วนการละเมิดสิทธิปชช.ในสามจังหวัดภาคใต้ที่อ้างว่าโดนละเมิดสิทธินั้น ร้องเรียนได้ตามช่องทางที่รัฐเปิดทางไว้ให้"






 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 17 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ออกเดินทางจากบ้านพักซอยสุขุมวิท 31 มุ่งหน้าเข้าทำเนียบรัฐบาล จากนั้นเวลา 09.00 น.นายกฯเดินทางเข้าร่วมประชุมสภา โดยนายกฯกล่าวสั้นๆกับสื่อมวลชนว่า “ ไว้ช่วงบ่ายค่อยให้สัมภาษณ์ ” และนายกฯเข้าประชุมสภาเเละนั่งทำงานอยู่ในห้องรับรองนายกฯ ชั้น 2 อาคารรัฐสภา 1 ตลอดทั้งวัน
 โดยวันนี้นายกฯเปลี่ยนกลับมาใช้รถยนต์ประจำตำแหน่งคันเดิมคือ เมอร์เซเดส เบนซ์เอส 600 สีดำ กันกระสุน ทะเบียน ษห 3834 กทม.ที่มีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยระดับ 7 ที่เป็นระดับสูงสุด หลังจากที่นายกฯเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ Range Rover สีดำกันกระสุน ทะเบียน ฌอ 5999 กทม. ที่มีระดับความปลอดภัยระดับที่ 4 เป็นเวลา 1 วันเพราะมีการนำรถยนต์เมอร์เซเดสเบนซ์คันดังกล่าวไปใช้รับรองนายกฯเคนยาที่เดินทางมาเยี่ยมคารวะนายกฯในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
 จากนั้นเมื่อเวลา 17.00 น.นายอภิสิทธิ์ให้สัมภาษณ์กรณีที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทดสอบเครื่อง GT-200 แล้วปรากฏว่าใช้ไม่ได้ผลและนายกฯสั่งให้ยกเลิกการใช้เครื่องมือนี้ว่า อยากย้ำอีกครั้งว่าที่ผ่านมาการใช้เครื่องมือนี้ไม่ได้ใช้การโดยลำพังเช่นการตรวจค้นต่างๆเพราะเป็นตัวที่ใช้เบื้องต้นเท่านั้น ฉะนั้นหากคนที่สมมติว่าถูกไปค้นไม่มีตัวสารหรือวัตถุระเบิดหรือของต้องห้ามใดๆก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ และใครที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถร้องเรียนมาได้เพราะในตอนนี้ได้วางระบบการร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้อำนาจต่างๆในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่แล้วและขอให้ร้องเรียนมาเพราะมีคณะกรรมการอยู่
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ภาคใต้ไม่ได้ใช้เครื่องมือนี้แล้วและเลือกใช้ตะเกียบในการตรวจค้นวัตถุต่าง ๆ แทน และมีความเสี่ยงสูง นายกฯกล่าวว่า อย่างที่เรียนไปแล้วว่าทุกกรณีหากมีปัญหาในการเข้าไปใช้อำนาจหรือกระทำการใด ๆ ที่ไม่ถูกต้องเหมาะสมก็มีศูนย์ร้องเรียนอยู่และรัฐบาลนี้ได้เริ่มต้นขึ้นมาใหม่โดยมีระบบซึ่งมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯดูแลและมีการกำกับลงมาโดยจะช่วยดูแลให้เกิด ความเป็นธรรม หากเห็นว่ามีความจำเป็นและเสียหายก็จะช่วยเหลือเยียวยาได้ ส่วนแนวปฏิบัติของเจ้าหน้าที่นั้นก็มีการซักซ้อมตลอดเวลา
 ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้ไม่ใช่การละเมิดสิทธิประชาชนแต่เป็นกรณีที่เจ้าหน้าที่นำเครื่องมือ GT200 มาใช้ นายกฯกล่าวว่าเมื่อสักครู่ถามตนในอีกเรื่องหนึ่ง แต่มันก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่ร้องเรียนในอีกกรณีหนึ่งว่ามีการนำเครื่องมือ GT200 ไปละเมิดสิทธิ ตนก็ขอพูดในเรื่องเดียวกัน ส่วนการแก้ปัญหาเพื่อนำเครื่องมือใหม่มาใช้แทนเครื่องมือ GT200 เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เสี่ยงภัยนั้น ขอเรียนว่าตนเข้าใจ เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ตนได้เชิญพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.มาพบในช่วงการประชุมครม.และบอกไปว่าให้เร่งจัดทำแผนรองรับและจัดทำแนวปฏิบัติหลังจากที่ไม่ใช้เครื่องมือ GT200 แล้ว ฉะนั้นตอนนี้อยู่ระหว่างการลงไปดูและจัดทำแผน รวมทั้งดำเนินการทำความเข้าใจ
 เมื่อถามว่านางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ เสนอว่ารัฐบาลหรือนายกฯควรขอโทษหรือแสดงความเสียใจกับประชาชนในการใช้เครื่องมือนี้ละเมิดสิทธิประชาชนในการตรวจสอบ นายกฯกล่าวว่าขอย้ำตามที่ตนชี้แจงไปแล้ว 1. ตนได้รับการยืนยันจากหน่วยปฏิบัติว่าการปฏิบัติกับประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ไปบอกว่าการใช้เครื่องมือนี้และไปดำเนินคดีต่าง ๆ นั้น ไม่มีกรณีแบบนั้นเพราะไม่ได้ใช้เครื่องมือ GT200 แล้วเป็นข้อยุติ เพราะมันเป็นอุปกรณ์เบื้องต้น
 2. เราจะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติแสดงความเชื่อมั่นและไม่ทราบจริงว่าเครื่องมือนี้มีปัญหาและเหตุที่มีปัญหานั้นเพิ่งมาแพร่หลายในช่วงปลายเดือนธ.ค. 2552- ต้นเดือนม.ค. 2553 ที่ต่างประเทศเผยแพร่เรื่องนี้ขึ้นมา แต่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะสิ่งที่รัฐบาลกระทำทันทีคือขอให้ทดสอบและทดลองเพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ และตนถือว่าเราได้แสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจนแล้วกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนปัญหาอื่น ๆ ที่ต้องติดตามต่อไปนั้นต้องดูจากผลการรายงานการใช้เครื่องมือนี้ทั้งหมดและเราคิดว่าใครที่โดนละเมิดสิทธินั้น ตามที่ตนบอกไว้ในข้างต้นเพราะมีช่องทางอยู่และจะให้ความเป็นธรรมรวมทั้งให้การเยียวยา
 เมื่อถามว่า ต้องเร่งรัดหรือไม่เพราะกองทัพบกเคยศึกษาการใช้เครื่องมือ GT200 แล้วและพบว่ามีเครื่องมือตัวอื่นที่มีมาตรฐานแต่ราคาสูงกว่า นายกฯกล่าวว่าเป็นเครื่องมือที่ใช้คนละวัตถุประสงค์กัน เครื่องมือตัวนั้นใช้ในช่วงที่เราค่อนข้างรู้ที่หมายแน่นอนแล้วและเข้าไปตรวจสอบว่ามีสารต่าง ๆ หรือวัตถุใด ๆ หรือไม่ แต่เครื่องมือ GT200 ที่ใช้กันมานั้นนำไปใช้ในลักษณะการตรวจพื้นที่ให้เห็นภาพกว้างก่อนเพื่อจำกัดวงหรือขีดวงพื้นที่เพื่อที่จะใช้อุปกรณ์อื่นเข้าไปได้ ขณะนี้ต้องถามว่ามีอะไรเข้าไปใช้แทนในเชิงอุปกรณ์หรือไม่สำหรับการตรวจค้น ลาดตระเวน ตรวจสอบพื้นที่กว้าง คำตอบคือยังไม่มี แต่เครื่องมือที่เราใช้ในการตรวจสอบเมื่อพื้นที่ขีดจำกัดแล้วนั้น เครื่องมือนั้นมีอยู่
 ถามว่า เจ้าหน้าที่ต้องเสี่ยงชีวิตแบบนี้อีกนานเท่าใดจนกว่ารัฐบาลจะมีแผนใหม่รองรับ นายกฯกล่าวว่าจะเร่งให้เร็วที่สุดเพราะขอเรียนตรง ๆ ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาคือทุกคนต้องการเครื่องมือตัวนี้และส่วนตัวเข้าใจว่าทำไมหลายประเทศจึงซื้อเพราะต้องการมีเครื่องมือตัวนี้ทั้งสิ้น แต่เมื่อพิสูจน์ว่ามันใช้การไม่ได้ก็ต้องบอกตามตรงว่าจริง ๆ แล้วที่ผ่านมาทุกคนปฏิบัติหน้าที่บนความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น
 ถามว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ต้องวัดดวงไปวัน ๆ หรือไม่หลังมีคำสั่งห้ามใช้เครื่องมือนี้ นายกฯกล่าวว่าไม่ คำถามคือเราต้องกลับมาปรับแนวทางการทำงานและมีคนจำนวนหนึ่งเชื่อว่าเครื่องมือนี้ช่วยงานได้และได้บอกไปแล้วว่าจริง ๆ แล้วมันช่วยไม่ได้อย่างที่คิดและต้องกลับมาปรับแผนการทำงานแต่จะไปบอกว่าจะไม่ให้เจ้าหน้าที่ทำงานนั้นคงไม่ได้เพราะต้องมาแก้ปัญหากัน
 เมื่อถามว่า ผบ.ทบ.ระบุหรือไม่ว่าจะใช้เวลาเท่าใดในการเสนอแผนใหม่ นายกฯกล่าวว่า เร็วที่สุดอยู่แล้วเพราะเราต้องการให้ฝ่ายวิชาการลงไปคุยกับฝ่ายปฏิบัติเพื่อจะได้มีการเร่งรัด
 ต่อข้อถามที่ว่าสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความรุนแรงถึงขนาดตัดศีรษะเจ้าหน้าที่ นายกฯกล่าวว่าสถานการณ์ที่มีการดำเนินการในส่วนของฝ่ายตรงข้ามเป็นเรื่องที่เราติดตามและประเมินตลอดเวลาโดยลักษณะการเพิ่มภาพลักษณ์ความรุนแรงนั้นเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ของฝ่ายนั้น และจะเห็นว่ากรณีเหตุระเบิดครั้งที่ผ่านมามันมีส่วนทำให้การประเมินจากภายนอกเห็นว่ามีความรุนแรงเพิ่มขึ้น
 เมื่อถามว่ามีการประเมินว่าผู้ก่อเหตุความไม่สงบในภาคใต้จะใช้ช่องว่างในตอนนี้ก่อเหตุ นายกฯกล่าวว่าถูกต้อง เมื่อวันที่ 16 ก.พ.ตนได้เรียนกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯและผบ.ทบ.ว่าต้องระวังเรื่องนี้ ตนจึงบอกว่ากระบวนการที่ต้องไปพูดคุยให้กำลังพลมีขวัญและกำลังใจนั้นมันจำเป็น ตนจึงหลีกเลี่ยงการตอบคำถามว่าจะออกคำสั่งแบบนั้นแบบนี้หรือไม่เพราะมันจะกระทบกระเทือนมาก พูดกันตรงไปตรงมาและโดยหลักแล้วหากพิสูจน์แล้วว่ามันใช้ไม่ได้เราก็อยากให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันโดยที่กระทบกับประเด็นเหล่านี้ตนจึงบอกว่าควรให้หน่วยงานต่าง ๆ ทำความเข้าใจกัน
 เมื่อถามว่าเหตุต่าง ๆในภาคใต้นั้นบางฝ่ายมองว่าเป็นฝีมือของอาชญากรรมข้ามชาติ นายกฯกล่าวว่า ไม่ เรามีการติดตามอยู่ตลอดเวลาเพราะเรามีความระมัดระวังและไม่ต้องการให้สถานการณ์นี้พลิกเปลี่ยนไปเป็นอีกระดับหนึ่ง
 ต่อข้อถามที่ว่า บริษัทเมเปิลครอฟต์จำกัดของอังกฤษที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยง จัดอันดับความเสี่ยงต่อการก่อการร้ายในประเทศต่าง ๆ โดยระบุว่าไทยนั้นเลื่อนอันดับจากอันดับที่ 11 มาเป็นอันดับที่ 9 ของโลก นายกฯกล่าวว่า ได้มีการอ้างอิงเหตุระเบิดที่อ.สุไหงโก - ลก จ.นราธิวาสโดยขยับขึ้นมาสองอันดับนั้น แต่เราเชื่อว่าในตอนนี้สถานการณ์จริงๆก่อนที่จะเกิดเรื่องเครื่องมือ GT200 นั้นสถานการณ์ที่ดำเนินการอยู่และได้ประเมินออกมาในระยะหลังนั้นพบว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นไม่ใช่แย่ลงและไม่ได้ประเมินจากความถี่ของเหตุการณ์แต่ว่าการเข้าถึงประชาชนและมวลชนในพื้นที่ต่างๆและมีการตอบสนองในเชิงบวกต่อนโยบายการพัฒนาหลังจากในช่วงแรกหลายพื้นที่นั้นพูดกันตรงๆว่าไม่มีความไว้ใจเจ้าหน้าที่และภาครัฐว่าจะเข้าไปทำโครงการที่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่ แต่ในช่วง 2-3 เดือนหลังมานี้มันเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และตอนนี้เครื่องมือ GT200 มีปัญหาขึ้นมา แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบกับขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติ พร้อมๆกับการปรับเปลี่ยนแนวทางของฝ่ายตรงข้าม
 เมื่อถามว่า เรื่องนี้จะส่งผลสะเทือนกับการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า สิ่งนี้ทำให้ตนต้องไปดูเรื่องระบบเพราะตนสอบถามเบื้องต้นกับผบ.ทบ.แล้วและให้ส่งรายงานมาเพราะการจัดซื้ออุปกรณ์ลักษณะนี้เป็นการตัดสินใจของแต่ละหน่วยปฏิบัติและสามารถทำได้
 เมื่อถามว่าจะเรียนรู้จากเรื่องนี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการจัดซื้ออุปกรณ์ที่ไร้ประสิทธิภาพต่อไปอย่างไร นายกฯกล่าวว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์ฯจะมีข้อเสนอแนะในเรื่องนี้มาด้วยและส่วนตัวตั้งใจจะคุยเรื่องนี้กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมในวันที่ 18 ก.พ.(นายกฯตรวจการบ้านครม.)เพราะตนยังต้องเดินหน้าคุยกับแต่ละกระทรวงอยู่ และในวันนี้ตนได้คุยไปกับสามกระทรวงแล้ว
 ต่อข้อถามที่ว่าจากนี้ไปหากกองทัพจะจัดซื้ออุปกรณ์นั้นต้องสอบถามหน่วยงานอื่นเพื่อตรวจสอบก่อนหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า หากเป็นอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นเราอยากให้มีความมั่นใจของเทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้ว
 เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตการซื้อเครื่องมือ GT200 ของกระทรวงต่าง ๆ ที่ราคาแตกต่างกันและตอนนี้กระทรวงมหาดไทยสั่งซื้อมากที่สุด จะไปตรวจสอบหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าทุกหน่วยที่ใช้เครื่องมือนี้ต้องรายงานมาและหากถามส่วนตัวนั้นจากประสบการณ์พบว่าฝ่ายปฏิบัติมักอยากได้อุปกรณ์นี้ที่มาจากความเชื่อหรือเหตุผลใด ๆ นั้นก็ไม่ทราบแต่หลายคนยืนยันว่าการใช้งานนั้นได้ผลเเละอยากได้อุปกรณ์เพิ่ม และเห็นว่าบางคนยังยืนยันว่าจะใช้งานต่อทั้ง ๆ ที่มีการพิสูจน์แล้วเช่นนี้ ส่วนราคาที่แตกต่างกันและอาจเอื้อประโยชน์กันนั้น หากเป็นเรื่องของส่วนต่างนั้น ไม่ว่าเครื่องมือนี้จะใช้ได้หรือไม่ มันต้องมีการลงโทษอย่างแน่นอนและเรื่องนี้ต้องไปดูด้วย แต่ตนคิดว่าผู้ที่ผลิตเครื่องมือนี้ขึ้นมาก็ฉลาดที่จะรู้ว่า จะมีความต้องการ เพราะความเชื่อของคนที่เชื่อว่าใช้ได้นั้นมันเหมือนเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ จึงทำให้ 40 กว่าหน่วยงานทั่วโลกซื้อเครื่องมือนี้มา และแม้จะพิสูจน์เครื่องมือนี้ไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติระดับล่างติยืนยันว่ามีความเชื่อว่าเครื่องมือนี้ยังใช้ได้และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง
 เมื่อถามว่าพญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สำนักนิติวิทยาศาตร์ กระทรวงยุติธรรมเสนอว่าควรใช้เครื่องมือนี้ต่อไปแต่ต้องระงับการจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มเติม นายกฯกล่าวว่าหากเป็นกรณีที่นำเครื่องมือไปใช้ตรวจระเบิดและมีความเสี่ยงนั้นคงไม่ได้เพราะต้องให้ผู้ที่นำไปใช้รู้ว่าความเสี่ยงคืออะไรและตนเพิ่งสอบถามนายพีรพันธุ์ สารีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรมว่าพญ.คุณหญิงพรทิพย์ใช้เครื่องมือนี้ทำอะไรและได้รับคำตอบว่าใช้ตรวจสารและสถานที่เกิดเหตุ และไม่มีความเสี่ยงกับพญ.คุณหญิงพรทิพย์ จริง ๆ แล้วเมื่อพิสูจน์ได้ว่าไม่มีผลก็น่าจะยอมรับจุดนี้  
 ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯจะแยกแยะได้อย่างไรเพราะบางหน่วยงานยืนยันว่าเครื่องมือนี้ใช้ได้เพราะอาจกลัวความผิดในการจัดซื้อจัดจ้าง นายกฯกล่าวว่า ไม่หรอก ตอนนี้ได้มีการพิสูจน์และทดสอบแล้ว ฉะนั้นจึงไม่ควรมีความเชื่อว่าจะขอใช้และขอเสี่ยง เพียงแต่ตนเรียนไปแล้วว่าเรื่องนี้จะกระทบความรู้สึกของผู้ใช้เครื่องมือนี้พอสมควรจึงขอเวลาทำความเข้าใจก่อนเพื่อไม่ให้เกิดการเสียขวัญและกำลังใจ ตามที่สื่อมวลชนตั้งคำถามในวันนี้ว่าเจ้าหน้าที่มีความรู้สึกทันทีที่ห้ามใช้เครื่องมือนี้เพราะต้องทำงานมือเปล่า เรื่องนี้มันต้องมีเวลาทำความเข้าใจกัน ส่วนเรื่องความไม่โปร่งใสนั้นยืนยันว่าจะตรวจสอบแน่นอนแม้ว่าเครื่องมือนี้ใช้งานได้ก็ต้องตรวจสอบ
 เมื่อถามว่าจะแเต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องมือนี้ในแต่ละช่วงเวลาของแต่ละหน่วยงานด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ส่วนตัวนั้นจะดูจากรายงานและระบบว่าต้องแก้ไขจุดใด รายงานชิ้นนี้ต้องให้เวลาแต่ละหน่วยงานรวบรวมมา ส่วนตัวระบบนั้นตนต้องหารือกับรมว.กลาโหมก่อน
 ผู้สื่อข่าวถามว่า จะตรวจสอบเครื่องมือ ALFA-6 ที่กระทรวงมหาดไทยจัดซื้อและนำมาใช้ด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าตอนนี้กระทรวงมหาดไทยระงับการใช้อยู่และขอให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตามหากถามตนนั้นมันมีอุปกรณ์ในลักษณะเดียวกันหลายยี่ห้อและคาดว่าน่าจะเป็นเรื่องเดียวกันเพราะว่ามันอ้างอิงทำนองเดียวกันในเรื่องวิธีการทำงาน
 ถามว่าควรจะทดลองเครื่องมือยี่ห้อต่าง ๆ รวมกันเลยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าตนจะสอบถามไปยังกระทรวงต่าง ๆว่ามีความจำเป็นแค่ไหนอย่างไรและจะนำมาเปรียบเทียบอุปกรณ์ดูก็ได้ว่าแตกต่างกันอย่างไร และสิ่งที่เคยทราบมาอย่างเดียวคือ เป็นเรื่องการไม่ต้องใช้ไฟฟ้าสถิตในตัวคน
 เมื่อถามว่าจะตรวจสอบและสาวไปถึงการจัดซื้อจัดจ้างไปยังบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องมือ GT200 หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ทั้งหมด เพราะมีรายงานมาว่ามันใช้ไม่ได้ เราต้องไปเรียกร้องกับบริษัทด้วย
 เมื่อถามว่าจะร้องเรียนไปยังประเทศอังกฤษที่เป็นประเทศต้นทางของบริษัทเหล่านี้ให้รับผิดชอบด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าตนก็ติดใจอยู่เพราะมีการพยายามอ้างว่าอังกฤษไม่มีอำนาจใด ๆ ไปดำเนินการ แต่ตนจะไปสอบถาม โดยตั้งใจจะทำหนังสือสอบถามไปยังสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทยเพื่อสอบถามเพิ่มเติมเพราะในครั้งที่เคยมาให้ข้อมูลตนก็สอบถามไปแล้ว และได้รับข้ออ้างว่าเครื่องมือนี้ รัฐบาลอังกฤษไม่ได้จัดว่าเป็นยุทโธปกรณ์และเป็นผลิตภัณฑ์ที่เปิดให้สามารถที่จะขายและส่งออกได้ ตนก็แปลกใจว่ากรณีที่เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งไม่ได้มีคุณสมบัติตามสรรพคุณที่โฆษณาไว้มันก็ไม่น่าจะดำเนินการได้
 ต่อข้อถามที่ว่าประเด็นใดที่จะสอบถามนายกฯกล่าวว่าในประเด็นที่ว่า ความรับผิดชอบต่อปัญหาในการโฆษณาเกินจริงและส่งออกจะรับผิดชอบอย่างไรบ้าง
 ต่อข้อถามที่ว่า จะให้อังกฤษชดใช้ความเสียหายหรือไม่ นายกฯกล่าวว่ากำลังรวบรวมทั้งหมดเพราะต้องดูด้วยว่าการจัดซื้อทั้งหมดนั้นกระบวนการผ่านใครและอย่างไรบ้าง








ข่าวที่เกี่ยวข้องแม่ทัพภาค4ยันจีที200จำเป็น-ปัดใช้สุนัขแทนศึกในเพื่อไทยบานปลายเฉลิมยันไม่ร่วมซักฟอกกก.สิทธิมนุษยชนฯจับตาใช้จีที200ชี้เป้าบุคคลดีเอสไอพร้อมตรวจจีที200บ.ต่างชาติหลอกขายติงสุนัขแทนจีที200ขัดความรู้สึกมุสลิม

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

อนุพงษ์เปิดแถลงข่าวใช้ไม่ใช้จีที200พรุ่งนี้

อนุพงษ์เปิดแถลงข่าวใช้ไม่ใช้จีที200พรุ่งนี้



คมชัดลึก :อนุพงษ์ เปิดแถลงข่าว ใช้-ไม่ใช้ เครื่องตรวจวัตถุระเบิด จีที 200 ในวันพรุ่งนี้







 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 ก.พ.ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดซื้อเครื่อง “จีที 200” เจ้าปัญหาขึ้นที่กองทัพบก คือ กรมสรรพาวุธทหารบก กรมส่งกำลังบำรุง และ กรมยุทธการทหารบก เพื่อหาทางออกกับเครื่อง “จีที 200” ว่าจะยังให้ใช้งานต่อไปอีกหรือไม่ โดยเฉพาะการใช้งานภารกิจในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงที่มาที่ไปของงบประมาณในการจัดซื้อที่มีราคาสูงถึง 1,000 ล้านบาทกว่า
 ทั้งนี้ในที่ประชุม พล.ท.เอกชัย วัชรประทีป เจ้ากรมสรรพาวุธ (สพ.ทบ.) และ พ.อ.ทวีศักดิ์ จันทราสินธุ์ ผู้บังคับการหน่วยทำลายล้างวัตถุระเบิดหน่วยเฉพาะกิจอโณทัย และทีมหัวหน้าในการค้นหา ในฐานะที่ใช้เครื่อง จีที 200 โดยตรง ได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้งาน ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ ก็ไม่ได้ว่าอะไร โดย พล.อ.อนุพงษ์ เตรียมที่จะเปิดแถลงข่าวเกี่ยวข้องข้อสงสัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในวันที่ 18 ก.พ. 2553 เวลา 15.00 น. ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ให้กับสื่อมวลให้ได้รับทราบในรายละเอียด








ข่าวที่เกี่ยวข้องอภิสิทธิ์พร้อมสอบจัดซื้อจีที200ของทุกหน่วยแม่ทัพภาค4ยันจีที200จำเป็น-ปัดใช้สุนัขแทนศึกในเพื่อไทยบานปลายเฉลิมยันไม่ร่วมซักฟอกกก.สิทธิมนุษยชนฯจับตาใช้จีที200ชี้เป้าบุคคลดีเอสไอพร้อมตรวจจีที200บ.ต่างชาติหลอกขาย

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

สุเทพเรียกถกคตม.นัดแรกเชื่อเสื้อแดงไม่แรง

สุเทพเรียกถกคตม.นัดแรกเชื่อเสื้อแดงไม่แรง



คมชัดลึก :สุเทพ เรียกถก คตม. นัดแรก เชื่อแดงไม่แรง รับห่วงมือที่ 3 แฝงป่วนสร้างรุนแรง เผย 8 มาตรการเข้ม รปภ.วีไอพี-ปราบวิทยุปลุกแดง รับปูดเอกสารลับจริงบางส่วน แต่ถูกบิดเบือน แจงแค่แผนรปภ. ไม่ใช่ แผนกำจัดแดง เชื่อแดงชุมนุมหลังศาลฟันยึดทรัพย์แม้ว






 เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 17 ก.พ. ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) ครั้งที่ 1 เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริญ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล นายถวิล เปลี่ยนสี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ นายชินวรณ์ บุญเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ผู้แทนจากสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย อัยการสูงสุด และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาในการประชุม 2 ชั่วโมง
 จากนั้นเวลา 18.30 น. พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงผลการประชุมคตม.ว่า ในการประชุม หน่วยงานต่างๆที่รับผิดชอบได้รายงานความคืบหน้าของการปฏิบัติงานใน 8 แผนมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้รับมอบหมาย และมีการแบ่งมอบไปเมื่อการประชุมครั้งที่แล้ว ซึ่งประกอบด้วย 1.มาตรการปฏิบัติต่อเป้าหมายพิเศษ 2.มาตรการรักษาบุคคลสำคัญ 3.การปฏิบัติงานด้านการข่าว 4.การปฏิบัติงานด้านกฎหมาย 5.การดำเนินงานต่อสถานีวิทยุชุมชน สื่อที่ปลุกระดมมวลชน 6.การป้องกันการปลุกระดมในสถานศึกษา 7.การปฏิบัติงานด้านข่าวสาร 8.การรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งทั้ง 8 มาตรการ ที่ระบุจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบไปดำเนินการ
 “ในที่ประชุมยังมีการรายงานเรื่องการข่าวตามเหตุการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเรื่องความคืบหน้าจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้มีมติจากการประชุมเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามที่ประชุมยังไม่ได้ประเมินว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงจะมีความรุนแรงหรือไม่ แต่เชื่อว่า การชุมนุมจะไม่เกิดความรุนแรง เพราะเจตนาของแกนนำนั้นประกาศว่า จะชุมนุมอย่างสงบ และมีการกำหนดว่า จะไปประชุมในสถานที่ต่างๆ ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยที่กระจายกันออกไป จึงไม่น่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น แต่เจ้าหน้าที่มีการเตรียมพร้อมรับมือทุกเรื่องแล้ว อย่างไรก็ตามเราเป็นห่วงว่า จะมีกลุ่มที่ไม่หวังดีแฝงเข้ามาสร้างสถานการณ์ ทั้งนี้นายสุเทพ มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆเสนอข้อมูลให้คณะกรรมการอย่างต่อเนื่อง หากส่วนการข่าวได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมก็จะมีการแจ้งเตือนให้คณะกรรมการได้ทราบอยู่ตลอด” โฆษกกอ.รมน. กล่าว
 เมื่อถามว่า ในที่ประชุมมีการมอบหมายให้สถานศึกษาไปทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับระบอบอำมาตย์หรือไม่ พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวา ประเด็นนี้นายสุเทพ ได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการไปชี้แจงทำความเข้าใจในสถานศึกษา เพื่อให้นักเรียน นักศึกษาได้รู้ เข้าใจในความสำคัญของระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขว่า มีความสำคัญอย่างไร และสถาบันต่างๆมีความสำคัญแค่ไหน ทั้งนี้นายสาทิตย์ ได้แจ้งในที่ประชุมว่า จะให้กทม.เปิดสายรับแจ้งเหตุ 1555 สายด่วนกทม. ส่วนการประชุมในครั้งต่อไปยังไม่กำหนดจะเป็นวันใด แต่คงไม่ใช่ช่วงระยะเวลาอันใกล้
 เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงประกาศจะไม่ชุมนุมในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ซึ่งเป็นวันพิจารณาคดียึดทรัพย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นว่า กลุ่มผู้ชุมนุมอาจรอฟังการตัดสินของศาลก่อน หลังจากนั้นอาจกำหนดแนวทางในการเคลื่อนไหวต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่คงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปจนกว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
 เมื่อถามถึงกรณีที่กลุ่มเสื้อแดงนำเอกสารลับของรัฐบาล มาเปิดเผยว่า มีแผนจะกำจัดคนเสื้อแดง พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ไม่ใช่เอกสารลับ ซึ่งคนที่รู้อาจนำไปเล่าต่อ แต่เราเป็นห่วงว่า จะนำเนื้อหาในเอกสารไปบิดเบือนจนทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ซึ่งเจตนาการทำงานของรัฐบาลมุ่งหวัง เพื่อให้เกิดความสงบสุขในบ้านเมือง เราไม่มีเจตนาที่จะทำให้เกิดเงื่อนไขที่จะกระทบต่อความเป็นอยู่ และสถานะของประเทศต่อสายตาประชาคมโลก แต่เอกสารที่กลุ่มเสื้อแดงนำไปอ้างมีส่วนหนึ่งที่เป็นจริง แต่อาจมีบางส่วนที่เขานำไปเพิ่มเติมเองตามเจตนาที่เขาจะสร้างกระแส เช่น เรื่องของมวลชน ซึ่งเอกสารดังกล่าวเป็นเรื่องที่เราจะดูแลประเทศชาติให้เกิดความสงบสุข
 เมื่อถามว่า ที่ประชุมได้พูดถึงระเบิดเอ็ม 79 หรือไม่ พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า นายสุเทพ ได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการหาผู้กระทำความผิดมาลงโทษ รวมถึงเจตนาว่า มีความเป็นมาอย่างไร เพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานเต็มที่ แต่จากข้อมูลหลักฐานที่มีอยู่ไม่มีพยานรู้เห็น ประกอบกับหลักฐานที่ปรากฏในที่เกิดเหตุมีจำกัด ทำให้การสืบสวนค่อนข้างล่าช้า








ข่าวที่เกี่ยวข้องกทม.ตั้งจุดตรวจ5จุดรับมือเสื้อแดงเข้ม47พื้นที่ศึกในเพื่อไทยบานปลายเฉลิมยันไม่ร่วมซักฟอกประเวศชี้ทักษิณพูดอหิงสาไม่ควรมองหน้าไหว้ฯอริสมันต์แจ้งจับการบินไทยหมิ่นประมาท เสื้อแดงจ่อร้องสรรพากรตรวจภาษีย้อนหลัง"ป๋า"

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

35กรรมาธิการ จี้สอบชัย ใช้งบประธาน

35กรรมาธิการ จี้สอบชัย ใช้งบประธาน

ศักดา คงเพชรกมธ.ทั้ง 35 คณะ นัดหาในวันพฤหัสบดีที่ 18 กพ. เวลา 09.00 น.- 12.00 น. จี้สอบใช้งบฯ ประธานชัย ชี้มอบหมายให้เลขาฯ  มาชี้แจงต่อสื่อ มีตัวเลขอาจไม่ตรงกับที่ชี้แจง  โดยเฉพาะงบประมาณเดินทางไปต่างประเทศ...เมื่อวันที่ 17 ก.พ. นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทยในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนและนายวิลาส จันทรพิทักษ์ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ ประธานกรรมาธิการ ป.ป.ช. ได้รับมอบหมายจาก กรรมาธิการ  35 คณะ ให้นัดหารือกันในวันเดียวกันนี้ เพื่อหารือถึงแนวทางในการตรวจสอบการทำงาน และการใช้งบประมาณของนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร แต่ต้องเลื่อนการประชุม ออกไปในวันพฤหัสบดีที่ 18 กพ. เวลา 09.00 น.- 12.00 น. แทน เนื่องจากในวันพุธมีโหวตในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ค่อนข้างมากนายศักดา กล่าวต่อว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 18 ก.พ.ที่ประชุมคณะกรรมาธิการจะนำเอกสารรายงานการใช้งบประมาณทั้งหมด ทั้งในส่วนงบประมาณของประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานสภาผู้แทนราษฎร และงบของส่วนการเมือง ทั้งที่เป็นงบประมาณที่ใช้แล้วและงบประมาณใหม่ปีหน้า เพื่อตรวจสอบรายละเอียด หลังจากที่คณะกรรมาธิการ  35 คณะตั้งประเด็นสงสัย ว่า รายละเอียดตัวเลขของการใช้งบประมาณที่นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร มาชี้แจงต่อสื่อมวลชนนั้นมีตัวเลขตรงกับที่ชี้แจงหรือไม่ โดยเฉพาะงบประมาณเดินทางไปต่างประเทศ


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

มาร์คลั่น ฟันแน่หากพบนักการเมืองเอี่ยวทุจริตนายอำเภอ

มาร์คลั่น ฟันแน่หากพบนักการเมืองเอี่ยวทุจริตนายอำเภอ

มาร์ค ลั่น หากพบนักการเมือง มีเอี่ยวทุจริตข้อสอบนายอำเภอ พร้อมฟันไม่เลี้ยง ยืนยัน รัฐบาลจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและเป็นรูปธรรม  เช่น กรณีกระทรวงสาธารณสุข...เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 17 ก.พ.2553 ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช .)ตรวจสอบพบพยานหลักฐานการทุจริตในการสอบเพื่อคัดเลือกบุคคลเข้าโรงเรียนนายอำเภอว่า ตนรับทราบข่าวนี้เบื้องต้น แต่ยังไม่มีการรายงานเข้ามาส่วนจะมีการตั้งคณะกรรมการมาสอบสวนอีกชุดหรือไม่นั้น ต้องดูว่ามีการสรุปออกมาอย่างไร มีปัญหาหรืออุปสรรคใดหรือไม่ ถ้าหากทำได้เต็มที่แล้วก็ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของไปได้ ซึ่งถ้ามีการสอบสวนพบว่าเรื่องนี้โยงไปถึงนักการเมือง ก็ต้องบอกและมีส่งเรื่องมาให้ตนแล้วตนก็ต้องดำเนินการนายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ตนขอยืนยันว่ารัฐบาลชุดนี้จะตรวจสอบเรื่องการทุจริตอย่างจริงจัง แล้วผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาและเป็นรูปธรรม ซึ่งขณะนี้ก็ทำเช่นนี้ในทุกเรื่อง เช่น กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจในพื้นที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 กรณีของกระทรวงสาธารณสุขที่รัฐบาลทำไปได้ในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งทุกเรื่อง ตนเองก็ไม่เคยปล่อยไว้


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ทักษิณยันจะใช้ความจริงล้างโคลนที่ปชป.สาด

ทักษิณยันจะใช้ความจริงล้างโคลนที่ปชป.สาด



คมชัดลึก :






 (17ก.พ.) พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวในรายการ "ทอล์ก อะราวด์ เดอะ เวิลด์" ว่า วันนี้มีข่าวว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ กล่าวหาว่านายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำเสื้อแดง โกหกรายวันเพื่อฟอกขาวให้ตน ก็อยากชี้แจงว่า เดิมตนขาวอยู่แล้ว แต่เป็นเพราะโดนพรรคประชาธิปัตย์สาดโคลนใส่
 "ถ้าผมจะล้างโคลนที่ถูกสาด ก็ล้างด้วยความจริง ผมเชื่อว่าจตุพรเอาความจริงมาสู้ ด้วยความบริสุทธิ์ใจ มันพิสูจน์ที่มาที่ไปได้ และขอยืนยันคนเสื้อแดงสู้ด้วยความจริง ที่มีข่าวว่าทหารจะใช้กำลังจากปราจีนบุรี เขารู้กันหมดแล้ว รัฐบาลนี้กลัวจะสูญอำนาจ ทำตัวเหมือนจงอางหวงไข่ แต่คนที่สาดโคลนใส่ผมนั้น มือมันจะเปื้อนโคลน เปื้อนเลือด" อดีตนายกฯ กล่าว
 อดีตนายกฯ กล่าวอีกว่า วันนี้คดีเงินบริจาค 258 ล้านของพรรคประชาธิปัตย์ องค์กรอิสระก็ไม่ทำอะไร บ้านเมืองเราวุ่นวายเพราะองค์กรอิสระไม่เป็นกลางจริง และเหตุที่เกิดต่อต้านพรรคไทยรักไทยไม่ให้ได้รับชัยชนะอย่างเต็มที่ เพราะโดนเตะสกัดเป็นช่วงๆ โดยฤทธิ์เดชของอำมาตย์ที่ทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ เพราะถ้าพรรคประชาธิปัตย์ลงเลือกตั้งอย่างตรงไปตรงมา รับรองว่าแพ้หมด วันนี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกฯ ได้ เพราะมีการบริหารจัดการโดยอำมาตย์








ข่าวที่เกี่ยวข้องนักลงทุนเชื่อมือรัฐคุมเกมการเมืองเสื้อแดงอยู่หุ้น-แบงก์เตรียมพร้อมแผนฉุกเฉินรับมือช่วงการเมืองป่วน-ป้องกันธุรกรรมมีปัญหาสุเทพเรียกถกคตม.นัดแรกเชื่อเสื้อแดงไม่แรงบัวแก้วเล็งสรุปคำตัดสินคดียึดทรัพย์แจงต่างชาติ ศึกในเพื่อไทยบานปลายเฉลิมยันไม่ร่วมซักฟอก

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เฉลิม ถล่ม มิ่งขวัญ-หญิงหน่อย จุ้นทำพรรคแตกแยก

เฉลิม ถล่ม มิ่งขวัญ-หญิงหน่อย จุ้นทำพรรคแตกแยก

เฉลิม เหน็บ “มิ่งขวัญ-สุดารัตน์” จุ้นจ้านทำพรรคแตกแยก ปูด ปมทุจริตจะทำนักการเมืองบางคนถูกฌาปนกิจ เดือนหน้า ลั่นไม่ร่วมถกอภิปรายไม่ไว้วางใจถ้าไม่ได้เป็นแม่ทัพใหญ่...ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่ลงตัวกรณียื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะการใส่ชื่อคนเป็นนายกฯแนบญัตติ ว่า ความจริงคนที่จะได้เป็นนายกฯ ตามรูปแบบนี้ ต้องรออีก 10 ชาติ เพราะถึงอย่างไรก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่หากไปเอาคนนอกพรรคมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ตนจะไม่ร่วมอภิปรายแน่ เพราะมันเสียศักดิ์ศรี เกียรติยศ หากยังหาใครไม่ได้ก็ให้ใช้วิธีโหวต เรื่องที่ว่าตนงอนนั้นไม่มี ที่ขาดหายไปนั้นตนลาตามระเบียบพรรค กรณีที่มีข่าวจะใส่ชื่อนายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ส.ส.สัดส่วน เป็นแคนดิเดต นายกฯนั้น ก็ต้องให้ นายมิ่งขวัญเป็นแม่ทัพอภิปรายด้วย ไม่ใช่มานั่งกินน้ำชาอยู่ขอบเวทีแล้วรอส้มหล่น อะไรก็ไม่ทำ แล้วจะให้ใส่ชื่อให้ได้ ใครก็ตามอยากเป็นใหญ่ต้องออกแรงกันบ้าง อยากแสดงบทบาท ก็อย่าเป็นนางบังเงา บัวบังใบ ตนพูดตรงไปตรงมา ไม่เกรงใจใคร เพราะไม่มีใครให้ตนเกรงใจ เมื่อถามถึงกรณี คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ แกนนำกลุ่ม กทม.บอกว่า ร.ต.อ.เฉลิม พยายามสกัดดาวรุ่งในพรรค ร.ต.อ.เฉลิมตอบว่า ตนไม่ใช่ดาวรุ่งแต่เป็นดาวสภา และก็ไม่อยากเอ่ยชื่อคนๆนี้อีกในชีวิตการเมือง ใครมีคุณธรรม ตรงไปตรงมา คนนั้นจะเจริญ แต่ใครทำเรื่องไม่เป็นเรื่องให้เป็นเรื่อง บางคนเข้าพรรคสัปดาห์ละ 3 ครั้ง มาเรียกกรรมาธิการไปประชุม แล้วมาบอกว่าไม่เคยเข้าพรรค ถ้าตนเข้าใจผิดและใส่ร้ายก็ขอให้ตนวิบัติ แต่ใครก็ตามที่กล่าวเท็จกับสื่อ ให้ความวิบัติเกิดขึ้นกับคนๆ นั้น “บางคนลอยหน้าลอยตาในสังคม กลับไปบ้านก็ต้องขมขื่นต้องเอามือก่ายหน้าผาก เพราะความตายกำลังมาถึง ผมรู้ว่าเดือนหน้าจะมีการฌาปนกิจศพนักการเมืองบางศพ เพราะเรื่องทุจริต วันนี้พรรคตั้งตนเป็นประธานกรรมการกลั่นกรองข้อมูลการอภิปรายแล้ว แต่ยังมีคณะทำงานของพรรคมากมายอีก 3-4 ชุดวุ่นไปหมด บางคนเสนอหน้าจุ้นจ้าน อยากถามว่าเขียนญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจและญัตติถอดถอนกันเป็นหรือไม่ ไม่รู้เรื่องหรอก ชอบแสดงออก โอเวอร์ ตนไม่ได้ดูถูก มันทำให้ขบวนใหญ่เสีย ถ้าไม่ได้ยื่นอภิปรายเดือนนี้ตำรวจจะจับหรือ ที่ผ่านมาตนอยู่แบบถนอมตัวเองในพรรค ไม่ได้เป็นอะไรในพรรค ตนไม่ชอบให้ใครมาสร้างเรื่องใส่ร้าย เพราะตนไม่มีเล่นการเมืองลับหลังอยู่แล้ว และขอยืนยันอีกครั้งว่า ลูกตนทั้งสามจะไม่ลงเลือกตั้งแน่ มีแต่แหล่งข่าวบางคนที่คอยพูด คนที่ให้ข่าวนี้กำลังจะตายอยู่แล้วยังไม่รู้ตัวเองอีก นักการเมืองบางคน ชีวิตไม่เคยอภิปรายในสภา แล้วจะเก่งได้อย่างไร ตนอยู่พรรคนี้รู้ดีว่ามาทีหลัง แต่ไม่ใช่พวกเตะสกัดดาวรุ่งแต่เป็นดาวสภา ส.ส.อีสานอยากมาตบเท้าให้กำลังใจ ก็บอกไปว่าไม่ต้อง ตนหัวใจเข้มแข็งดังภูผา ต่างจาก กลุ่ม ส.ส.กทม.มีเพียงแต่ไม่กี่คน บางคนทำใจไม่ได้ พยายามริษยา อย่ามาล่อตน เพราะไม่เคยคิดเป็นใหญ่ในพรรค ส่วนตำแหน่งนายกฯทำไม ตนเองจะเป็นไม่ได้ เพราะเป็นด็อกเตอร์ แต่ไม่เคยทะเยอทะยาน และไม่ได้คิดทุจริต เมื่อออกจากกระทรวงก็มีแต่คนเรียกท่าน วันนี้มีคนกล่าวหาว่าพรรคไม่เป็นเอกภาพทางแก้คือคนอื่นไม่ควรมายุ่งในพรรค และตนไม่ใส่ร้ายใครอยู่แล้ว เดือนหน้าเขาก็จะถูกฌาปนกิจศพแน่” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวด้วยว่า การประชุมคณะกลั่นกรองข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคตนจะไม่เข้าร่วมประชุม จนกว่าจะมีความชัดเจน หรือมีการมอบบทบาทให้ใครอย่างจริงจัง จะปล่อยให้พวกชอบยุ่มย่ามจัดการกันไปเอง ส่วนตนจะไปหาข้อมูลเพียงลำพัง เพื่อใช้สำหรับอภิปราย จะแสดงให้เห็นว่าเป็นฝีมือของตน ไม่ใช่ฝีมือของใคร วันนี้ถ้าให้มีการโหวตในพรรคว่าใครเป็นเบอร์ 1 อยากถามว่าส.ส.ของพรรคจะเลือกใคร ส.ส.อีสานเขาเลือกตนทั้งนั้น มันมีไม่ถึง 20 คน หรอก ที่ไม่เอาตน เช่นพวกกลุ่มกทม. กลุ่มอีสานพัฒนาบางคน และบางคนที่อยากเป็นหัวหน้าพรรค นายอัสนี เชิดชัย ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในภาคอีสาน มี ส.ส.ของพรรคร่วม 100 คน ที่สนับสนุนให้ ร.ต.อ.เฉลิมได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯ เนื่องจากเป็นผู้หาเสียงในพื้นที่อีสาน ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นคนโคราช แต่ไม่มีบารมี เมื่อเทียบกับ ร.ต.อ.เฉลิม นายศักดา คงเพชร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวว่า กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาโจมตี นายมิ่งขวัญ โดยมีการวิเคราะห์สาเหตุมาจากการที่กลุ่มอีสานพัฒนาจับมือกับภาค กทม. ดัน นายมิ่งขวัญเป็นนายกฯแนบญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้คุยกัน แต่แนวคิดของ ส.ส.ในพรรคไม่แตกต่างกันเท่าไรว่าใครเป็นคนเหมาะสม คือจะต้องเป็นมือประสานสิบทิศ แก้เศรษฐกิจได้ และสร้างความปรองดอง ซึ่งอาจจะไม่ใช่คนในพรรคก็ได้ วันนี้ทุกอย่างเป็นไปได้หมด การเมืองต้องดูวันต่อวัน ยุบสภา ปฏิวัติ พลิกขั้วการเมือง ออกได้ทุกหน้า ส่วนกรณีที่พูดถึงชื่อ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกฯ และที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ว่าอาจจะมาเป็นนายกฯนั้น เรื่องนั้นไม่แน่ใจ ตอบยาก เมื่อถามว่า การที่ร.ต.อ.เฉลิมออกมาพูดเพราะไม่มีชื่อแนบในญัตติ นายศักดาตอบว่า ยังไม่ถึงเวลาพิจารณาเรื่องนี้ ยังไม่ได้ร่างญัตติเลย จะมีรายชื่อได้อย่างไร


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

คตม.ห่วงมือที่3 แฝงตัวป่วน เชื่อแดงไม่แรง

คตม.ห่วงมือที่3 แฝงตัวป่วน เชื่อแดงไม่แรง

“สุเทพ” เรียกถก “คตม.” นัดแรก ยอมรับเสื้อแดงปูดเอกสารลับจริง แต่บางส่วนถูกบิดเบือน เชื่อแดงชุมนุมหลังศาลฟันยึดทรัพย์แม้ว ด้าน ผบ.ทบ. เตรียมแถลง จีที 200 พรุ่งนี้ ...เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ 17 ก.พ.2553 ที่กองบัญชาการกองทัพบก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการติดตามสถานการณ์ความมั่นคง (คตม.) ครั้งที่ 1 เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผบ.ทอ. พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริญ รักษาการผบ.ตร. พล.ต.ท. สัณฐาน ชยนนท์ ผ.บชน. พล.ต.ท.ไถงปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท. ตรีทศ รณฤทธิวิชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล นายถวิล เปลี่ยนสี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นาย สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ นายชินวรณ์ บุญเกียรติ รมว.ศึกษาธิการ ผู้แทนจากสำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย อัยการสูงสุด และนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุม โดยใช้เวลาในการประชุม 2 ชั่วโมง จากนั้นเมื่อเวลา 18.30 น. พล.ต.ดิฏฐพร ศศะสมิต โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงผลการประชุมว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบได้รายงานความคืบหน้าของการปฏิบัติงานใน 8 แผนมาตรการักษาความปลอดภัยที่ได้รับ ซึ่งประกอบด้วย 1.มาตรการปฏิบัติต่อเป้าหมายพิเศษ 2.มาตรการรักษาบุคคลสำคัญ 3.การปฏิบัติงานด้านการข่าว 4.การปฏิบัติงานด้านกฎหมาย 5.การดำเนินงานต่อสถานีวิทยุชุมชน สื่อที่ปลุกระดมมวลชน 6.การป้องกันการปลุกระดมในสถานศึกษา 7.การปฏิบัติงานด้านข่าวสาร 8.การรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งทั้ง 8 มาตรการ ที่ระบุจะมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบไปดำเนินการ “ที่ประชุมได้รายงานเรื่องการข่าวตามเหตุการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นเรื่องความคืบหน้าจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงมีมติจากการประชุมเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้ประเมินว่า การชุมนุมของกลุ่มเสื้อจะไม่เกิดความรุนแรง เพราะเจตนาจะชุมนุมอย่างสงบ และกระจายออกไปเป็นกลุ่มย่อย จึงไม่น่าจะมีเหตุร้าย แต่เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมรับมือทุกเรื่อง อย่างไรก็ตามเป็นห่วงว่า จะมีกลุ่มที่ไม่หวังดีจะแฝงเข้ามาสร้างสถานการณ์ ทั้งนี้ นายสุเทพ มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆเสนอข้อมูลให้คณะกรรมการ หากการข่าวได้ข้อมูลเพิ่มเติมก็จะมีการแจ้งเตือนให้คณะกรรมการได้ทราบ”โฆษกกอ.รมน.กล่าว ส่วนการที่ กลุ่มเสื้อแดง อ้างมีเอกสารลับของรัฐบาล ที่ระบุถึงแผนปราบปรามกลุ่มคนเสื้อแดงนั้น พล.ต.ดิฏฐพร กล่าวว่า ไม่ใช่เอกสารลับ คนที่รู้อาจนำไปเล่าต่อ เราเป็นห่วงว่า จะนำเนื้อหาในเอกสารไปบิดเบือนจนทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ซึ่งเจตนาการทำงานมุ่งหวัง เพื่อให้เกิดความสงบสุข ไม่มีเจตนาที่จะทำให้เกิดเงื่อนไข แต่เอกสารที่กลุ่มเสื้อแดงนำไปอ้างมีส่วนหนึ่งที่เป็นจริง แต่บางส่วนนำไปเพิ่มเติมเองตามเจตนาที่จะสร้างกระแส เช่นเรื่องของมวลชนด้านความคืบหน้า เรื่องเครื่อง จีที.200 นั้น ล่าสุด มีรายงานว่า ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้ เวลา 15.00 น. ที่หอประชุมกองทัพบกเทเวศร์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก จะนำคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ พร้อมทั้งนายทหารระดับผู้เชี่ยวชาญการใช้เครื่องจีที 200 และผู้ที่มีความรู้เรื่องการตรวจวัตถุระเบิด มาร่วมแถลงข่าวประสิทธิภาพเครื่องจีที 200 หลังถูกตั้งคำถามว่า เครื่องจีที 200 ไม่สามารถใช้งานได้จริง และราคาแพงเกิน เพื่อให้สื่อมวลชนทุกสำนักสักถามทุกข้อเท็จจริง โดยการแถลงข่าวครั้งนี้จะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ด้วย

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

มาร์คหวั่นขอเช็กช่องกม.ทำหวยออนไลน์6ตัว

มาร์คหวั่นขอเช็กช่องกม.ทำหวยออนไลน์6ตัว

มาร์ค ให้กฤษฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมาย ข้อเสนอทางออกหวยออนไลน์ 6 ตัว แต่ย้ำต้องไม่มีการออกหวยรูปแบบใหม่ และทดแทนเรื่องสลากปริมาณจะต้องไม่เพิ่มขึ้น...เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 17 ก.พ.2553 ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีผลสรุปแนวทาวการแก้ปัญหาการขายหวย 2 ตัว 3 ตัวด้วยเครื่องจำหน่ายอัตโนมัติ หรือ หวยออนไลน์ ที่คณะกรรมการฯจะสรุปเสนอมาว่าขณะนี้คณะกรรมการฯกำลังแก้อยู่ยังพิมพ์ไม่เรียบร้อยแต่ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ ได้มีการขอให้ตนส่งประเด็นข้อกฎหมายไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกากับอัยการ ซึ่งตนได้ส่งไปแล้ว เมื่อได้ผลมาก็คงทำให้ชัดเจนขึ้นว่าแนวที่จะดำเนินการน่าจะเป็นอย่างไร หลักที่คณะกรรมการฯจะสรุปมาซึ่งจะมีรายละเอียดเป็นทางเลือกก็จะให้ความเป็นธรรมกับทางบริษัทแต่การให้ความเป็นธรรมกับบริษัทก็จะต้องไม่มีการเพิ่มการพนัน เพราะฉะนั้นก็จะไม่มีการออกหวยในรูปแบบใหม่ และถ้าเป็นการเข้ามาทดแทนเรื่องของสลากปริมาณจะต้องไม่เพิ่มขึ้น ส่วนที่มีข่าวว่าจะมีการนำตู้ไปขายจำนวน 6 ตู้นั้นก็เป็นเรื่องของทางบริษัทเพราะตู้ไม่ใช่ของรัฐบาลส่วนจะหมายความว่า จะเป็นการให้ใช้ตู้เป็นการออกสลาก 6 ตัวแทนการออกหวย 2 ตัว 3 ตัวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าตนต้องดูข้อกฎหมายก่อน ซึ่งประเด็นนี้ได้ส่งให้ทางกฤษฎีกาวินิจฉัยอยู่ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่ว่าจะทำสัญญาหรือแก้สัญญาหรือบังคับสัญญากับบริษัทในการใช้ตู้อย่างไร ตรงนี้ก็กำลังรอข้อกฎหมายอยู่ซึ่งข้อติดขัดทางกฎหมายนั้นเกี่ยวกับความสมบูรณ์ของสัญญา ขณะที่ถ้าหากพบว่าไม่มีความสมบูรณ์ในเรื่องของสัญญาก็สามารถยกเลิกสัญญาได้เลยโดยไม่ต้องชดเชยใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าถ้าสัญญาใช้ไม่ได้ก็ไม่มีสัญญาซึ่งในส่วนของเอกชนก็คงเป็นเรื่องโต้แย้งกัน  ส่วนที่นายเกียรติ สิทธีอมร ประธานคณะกรรมการฯระบุว่าอาจจะไม่มีการชดเชยให้ทางบริษัทล็อกซ์เลย์นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับข้อกฎหมายเมื่อถามว่าถ้าพบว่าไม่มีความสมบูรณ์ในเรื่องของสัญญาก็สามารถยกเลิกสัญญาได้เลยโดยไม่ต้องชดเชยใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าถ้าสัญญาใช้ไม่ได้ก็ไม่มีสัญญา ซึ่งในส่วนของเอกชนก็คงเป็นเรื่องโต้แย้งกัน


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

มาร์คอ้างติดตอบกระทู้ให้สุเทพรับหน้าเคลียร์พรรคร่วม

มาร์คอ้างติดตอบกระทู้ให้สุเทพรับหน้าเคลียร์พรรคร่วม

มาร์ค อ้างติดตอบกระทู้ในสภา ส่ง สุเทพ รับหน้าเคลียร์พรรคร่วมรัฐบาล มั่นใจไม่เกิดปัญหาแม้ไม่ได้ไปด้วยตนเอง...นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยกรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคกิจสังคม(กส.) ในฐานะเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 18 ก.พ.นี้ ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ จะไปร่วมงาน เนื่องจากตนต้องตอบกระทู้ที่รัฐสภาส่วนจะเป็นการห่างไกลกันระหว่าง นายกฯ กับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาเข้าใจกันดีอยู่แล้ว” เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาได้ยืนยันมาตลอดว่าจะเข้าร่วมหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ “นายสุวิทย์มาบอกว่าตกลงจะขอให้นายสุเทพไปก่อน และจะนัดกันอีกรอบหนึ่ง ซึ่งคราวนี้พรรคปชป.จะเป็นเจ้าภาพ ส่วนจะทำให้พรรคร่วมเกิดความน้อยใจหรือไม่ ที่ไม่ได้เดินทางไปด้วย นั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ครับเขาเป็นคนเสนอมาเอง นี่คุณสุวิทย์บอกผมมาอย่างนั้น ด้านการนัดหารือในวันที่ 18 ก.พ.จะไม่ใช่ระดับแกนนำที่เป็นหัวหน้าใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะนายสุวิทย์บอกว่าจะขอนัดในวันที่ 18 ก.พ.ซึ่งรู้ว่าตนจะติดงานที่รัฐสภาจึงขอช่วยให้ตนมอบหมายนายสุเทพไป ซึ่งตนได้มอบหมายไปแล้ว เมื่อถามว่า การหารือในครั้งหน้าที่พรรคปชป.จะเป็นเจ้าภาพจะเป็นวันไหน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงไม่ช้า เมื่อถามว่า ไม่ใช่เรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่อยากเจอนายกฯใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่หรอก ไม่มีปัญหาหรอก เมื่อถามอีกว่า ได้ฝากอะไรกับนายสุเทพไปคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี นายสุเทพทราบประเด็นทั้งหมดอยู่แล้ว


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

มาร์คแจงปมจีที200 อู้อี้ยังไม่ตั้งกก.สอบทุจริต

มาร์คแจงปมจีที200 อู้อี้ยังไม่ตั้งกก.สอบทุจริต

มาร์คแจงปมจีที200 อู้อี้ยังไม่ตั้ง กก.สอบทุจริต อ้างขอดูรายงานคนใช้งานก่อน เฉไฉป้องคนจัดซื้อทำหนังสือถามทูตอังกฤษ โบ้ยบริษัทส่งออกโฆษณาเกินจริง...เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 17 ก.พ.2553 ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที200 ใช้ไม่ได้ผลสั่งระงับการการจัดซื้อว่า อยากย้ำอีกครั้งว่าที่ผ่านมาการใช้เครื่องมือนี้ไม่ได้ใช้การโดยลำพังเช่น การตรวจค้นต่างๆเพราะเป็นตัวที่ใช้เบื้องต้นเท่านั้น ดังนั้นหากคนที่สมมติว่าถูกไปค้นไม่มีตัวสารหรือวัตถุระเบิดหรือของต้องห้ามใดๆก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ และใครที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถร้องเรียนมาได้เพราะในตอนนี้ ได้วางระบบการร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้อำนาจต่างๆในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่แล้วและขอให้ร้องเรียนมาเพราะมีคณะกรรมการอยู่ ซึ่งศูนย์ร้องเรียนนี้ รัฐบาลนี้ได้เริ่มต้นขึ้นมาใหม่โดยมีระบบซึ่งมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯดูแลและมีการกำกับลงมาโดยจะช่วยดูแลให้เกิดความเป็นธรรม หากเห็นว่ามีความจำเป็นและเสียหายก็จะช่วยเหลือเยียวยาได้ ส่วนแนวปฏิบัติของเจ้าหน้าที่นั้นมีการซักซ้อมตลอดเวลา ส่วนการแก้ปัญหาเพื่อนำเครื่องมือใหม่มาใช้แทนเครื่องมือจีที200 เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เสี่ยงภัยนั้น ขอเรียนว่าตนเข้าใจ เมื่อวันที่16ก.พ.ตน ได้เชิญพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.มาพบในช่วงการประชุมครม.และบอกไปว่าให้เร่งจัดทำแผนรองรับและจัดทำแนว ปฏิบัติหลังจากที่ไม่ใช้เครื่องมือจีที200 แล้ว ดังนั้นตอนนี้อยู่ระหว่างการลงไปดูและจัดทำแผน รวมทั้งดำเนินการทำความเข้าใจส่วนข้อเสนอของ นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ที่ให้รัฐบาลหรือนายกฯควรขอโทษหรือแสดงความเสียใจกับประชาชนในการใช้ เครื่องมือนี้ละเมิดสิทธิประชาชนในการตรวจสอบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอย้ำตามที่ตนชี้แจงไปแล้ว 1.ตน ได้รับการยืนยันจากหน่วยปฏิบัติว่าการปฏิบัติกับประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ไปบอกว่าการใช้เครื่องมือนี้และไปดำเนินคดีต่างๆนั้น ไม่มีกรณีแบบนั้นเพราะไม่ได้ใช้เครื่องจีที200 แล้วเป็นข้อยุติ เพราะมันเป็นอุปกรณ์เบื้องต้น 2.เราจะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติแสดงความเชื่อมั่นและไม่ทราบจริงว่าเครื่องมือนี้มีปัญหา และเหตุที่มีปัญหานั้นเพิ่งมาแพร่หลายในช่วงปลายเดือนธ.ค.2552 ถึงต้นเดือนม.ค.2553ที่ต่างประเทศเผยแพร่เรื่องนี้ขึ้นมา แต่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะสิ่งที่รัฐบาลกระทำทันทีคือขอให้ทดสอบและ ทดลองเพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ และตนถือว่าเราได้แสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจนแล้วกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนปัญหาอื่นๆที่ต้องติดตามต่อไปนั้นต้องดูจากผลการรายงานการใช้เครื่องมือ นี้ทั้งหมดและเราคิดว่าใครที่โดนละเมิดสิทธินั้น ตามที่ตนบอกไว้ในข้างต้นเพราะมีช่องทางอยู่และจะให้ความเป็นธรรมรวมทั้งให้ การเยียวยาเมื่อถามว่า ต้องเร่งรัดหรือไม่เพราะกองทัพบกเคยศึกษาการใช้เครื่องจีที200 แล้ว และพบว่ามีเครื่องมือตัวอื่นที่มีมาตรฐานแต่ราคาสูงกว่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเครื่องมือที่ใช้คนละวัตถุประสงค์กัน เครื่องมือตัวนั้นใช้ในช่วงที่เราค่อนข้างรู้ที่หมายแน่นอนแล้วและเข้าไป ตรวจสอบว่ามีสารต่างๆหรือวัตถุใดๆหรือไม่ แต่เครื่องจีที200 ที่ใช้กันมานั้นนำไปใช้ในลักษณะการตรวจพื้นที่ให้เห็นภาพกว้างก่อนเพื่อจำกัดวงหรือขีดวงพื้นที่เพื่อที่จะใช้อุปกรณ์อื่นเข้าไปได้ ขณะนี้ต้องถามว่ามีอะไรเข้าไปใช้แทนในเชิงอุปกรณ์หรือไม่สำหรับการตรวจค้น ลาดตระเวน ตรวจสอบพื้นที่กว้าง คำตอบคือยังไม่มี แต่เครื่องมือที่เราใช้ในการตรวจสอบเมื่อพื้นที่ขีดจำกัดแล้วนั้น เครื่องมือนั้นมีอยู่ ด้านความเสี่ยงภัยของเจ้าหน้าที่นั้น จะมีแผนใหม่รองรับหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะเร่งให้เร็วที่สุดเพราะขอเรียนตรงๆว่าปัญหาที่เกิดขึ้นใน ช่วงที่ผ่านมาคือทุกคนต้องการเครื่องมือตัวนี้และส่วนตัวเข้าใจว่าทำไมหลาย ประเทศจึงซื้อเพราะต้องการมีเครื่องมือตัวนี้ทั้งสิ้น แต่เมื่อพิสูจน์ว่ามันใช้การไม่ได้ก็ต้องบอกตามตรงว่าจริงๆแล้วที่ผ่านมาทุก คนปฏิบัติหน้าที่บนความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ยอมรับมีความวิตกว่าผู้ก่อเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ จะใช้ช่องว่างจากเรื่องปัญหาเครื่องจีที200 ลอบมาก่อเหตุซึ่งเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ตน ก็ได้เรียนกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯและผบ.ทบ.ว่าต้องระวังเรื่องนี้ ตนจึงบอกว่ากระบวนการที่ต้องไปพูดคุยให้กำลังพลมีขวัญและกำลังใจนั้นมันจำ เป็น ตนจึงหลีกเลี่ยงการตอบคำถามว่าจะออกคำสั่งแบบนั้นแบบนี้หรือไม่เพราะมันจะ กระทบกระเทือนมาก พูดกันตรงไปตรงมาและโดยหลักแล้วหากพิสูจน์แล้วว่ามันใช้ไม่ได้เราก็อยากให้ เป็นไปในทิศทางเดียวกันโดยที่กระทบกับประเด็นเหล่านี้ตนจึงบอกว่าควรให้ หน่วยงานต่างๆทำความเข้าใจกัน ส่วนกรณีบริษัทเมเปิลครอฟต์จำกัดของอังกฤษที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยง จัดอันดับความเสี่ยงต่อการก่อการร้ายในประเทศต่างๆ โดยระบุว่าไทยนั้นเลื่อนอันดับจากอันดับที่11มาเป็นอันดับที่9ของโลก นายกฯกล่าวว่า ได้มีการอ้างอิงเหตุระเบิดที่อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาสโดยขยับขึ้นมาสองอันดับนั้น แต่เราเชื่อว่าในตอนนี้สถานการณ์จริงๆก่อนที่จะเกิดเรื่องเครื่องจีที200นั้น สถานการณ์ที่ดำเนินการอยู่และได้ประเมินออกมาในระยะหลังนั้นพบว่ามีแนวโน้ม ที่ดีขึ้นไม่ใช่แย่ลงและไม่ได้ประเมินจากความถี่ของเหตุการณ์แต่ว่าการเข้า ถึงประชาชนและมวลชนในพื้นที่ต่างๆและมีการตอบสนองในเชิงบวกต่อนโยบายการ พัฒนาหลังจากในช่วงแรกหลายพื้นที่นั้นพูดกันตรงๆว่าไม่มีความไว้ใจเจ้า หน้าที่และภาครัฐว่าจะเข้าไปทำโครงการที ่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่ แต่ในช่วง2-3เดือนหลังมานี้มันเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และตอนนี้เครื่องจีที200 มีปัญหาขึ้นมา แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบกับขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติ พร้อมๆกับการปรับเปลี่ยนแนวทางของฝ่ายตรงข้ามเมื่อถามว่า เรื่องนี้จะส่งผลสะเทือนกับการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งนี้ทำให้ตนต้องไปดูเรื่องระบบเพราะตนสอบถามเบื้องต้นกับผบ.ทบ.แล้วและให้ส่ง รายงานมาเพราะการจัดซื้ออุปกรณ์ลักษณะนี้เป็นการตัดสินใจของแต่ละหน่วย ปฏิบัติและสามารถทำได้ เมื่อถามว่า จะเรียนรู้จาก เรื่องนี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการจัดซื้ออุปกรณ์ที่ไร้ประสิทธิภาพต่อไป อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯจะมีข้อเสนอแนะในเรื่องนี้มาด้วยและส่วน ตัวตั้งใจจะคุยเรื่องนี้กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมในวันที่18ก.พ.เพราะตนยังต้องเดินหน้าคุยกับแต่ละกระทรวงอยู่ และในวันนี้ตนได้คุยไปกับสามกระทรวงแล้ว เมื่อถามว่า จากนี้ไปหากกองทัพจะจัดซื้ออุปกรณ์นั้นต้องสอบถามหน่วยงานอื่น เพื่อตรวจสอบก่อนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากเป็นอุปกรณ์ต่างๆนั้นเราอยากให้มีความมั่นใจของเทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้ว ด้านการตั้งข้อสังเกตการซื้อเครื่องจีที200 ของกระทรวงต่างๆที่ราคาแตกต่างกัน และตอนนี้กระทรวงมหาดไทยสั่งซื้อมากที่สุดจะไปตรวจสอบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกหน่วยที่ใช้เครื่องมือนี้ต้องรายงานมาและหากถามส่วนตัวนั้น จากประสบการณ์พบว่าฝ่ายปฏิบัติมักอยากได้อุปกรณ์นี้ที่มาจากความเชื่อหรือ เหตุผลใดๆนั้นก็ไม่ทราบแต่หลายคนยืนยันว่าการใช้งานนั้นได้ผลเเละอยากได้ อุปกรณ์เพิ่ม และเห็นว่าบางคนยังยืนยันว่าจะใช้งานต่อทั้งๆที่มีการพิสูจน์แล้วเช่นนี้ ส่วนราคาที่แตกต่างกันและอาจเอื้อประโยชน์กันนั้น หากเป็นเรื่องของส่วนต่างนั้น ไม่ว่าเครื่องมือนี้จะใช้ได้หรือไม่ มันต้องมีการลงโทษอย่างแน่นอนและเรื่องนี้ต้องไปดูด้วย แต่ตนคิดว่าผู้ที่ผลิตเครื่องมือนี้ขึ้นมาก็ฉลาดที่จะรู้ว่า จะมีความต้องการ เพราะความเชื่อของคนที่เชื่อว่าใช้ได้นั้นมันเหมือนเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ จึงทำให้40กว่าหน่วยงานทั่วโลกซื้อเครื่องมือนี้มา และแม้จะพิสูจน์เครื่องมือนี้ไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัระดับล่างติยืนยันว่ามีความเชื่อว่าเครื่องมือนี้ยังใช้ได้และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง ขณะที่ข้อเสนอของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สำนักนิติวิทยาศาตร์ กระทรวงยุติธรรมที่เสนอว่าควรใช้เครื่องมือนี้ต่อไปแต่ต้องระงับการจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มเติม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากเป็นกรณีที่นำเครื่องมือไปใช้ตรวจระเบิดและมีความเสี่ยงนั้นคง ไม่ได้เพราะต้องให้ผู้ที่นำไปใช้รู้ว่าความเสี่ยงคืออะไรและตนเพิ่งสอบถาม นายพีรพันธุ์ สารีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรมว่าพญ.คุณหญิงพรทิพย์ใช้เครื่องมือนี้ทำอะไรและได้รับคำตอบว่า ใช้ตรวจสารและสถานที่เกิดเหตุ และไม่มีความเสี่ยงกับพญ.คุณหญิงพรทิพย์ จริงๆแล้วเมื่อพิสูจน์ได้ว่าไม่มีผลก็น่าจะยอมรับจุดนี้ ขณะที่จะมีการแเต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องมือนี้ในแต่ละช่วงเวลาของแต่ละหน่วยงานด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวนั้นจะดูจากรายงานและระบบว่าต้องแก้ไขจุดใด รายงานชิ้นนี้ต้องให้เวลาแต่ละหน่วยงานรวบรวมมา ส่วนตัวระบบนั้นตนต้องหารือกับรมว.กลาโหมก่อน เมื่อถามว่า จะตรวจสอบเครื่องอัลฟา-6ที่ กระทรวงมหาดไทยจัดซื้อและนำมาใช้ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้กระทรวงมหาดไทยระงับการใช้อยู่และขอให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ไปตรวจสอบ หากถามตนนั้นมันมีอุปกรณ์ในลักษณะเดียวกันหลายยี่ห้อและคาดว่า น่าจะเป็นเรื่องเดียวกันเพราะว่ามันอ้างอิงทำนองเดียวกันในเรื่องวิธีการทำงาน ซึ่งตนจะสอบถามไปยังกระทรวงต่างๆว่ามีความจำเป็นแค่ไหนอย่างไรและจะนำมาเปรียบเทียบอุปกรณ์ดูก็ได้ว่าแตกต่างกันอย่างไร และสิ่งที่เคยทราบมาอย่างเดียวคือ เป็นเรื่องการไม่ต้องใช้ไฟฟ้าสถิตในตัวคนส่วนจะร้องเรียนไปยังประเทศอังกฤษที่เป็นประเทศต้นทางของบริษัทเหล่า นี้ให้รับผิดชอบด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็ติดใจอยู่เพราะมีการพยายามอ้างว่าอังกฤษไม่มีอำนาจใดๆไปดำเนินการ แต่ตนจะไปสอบถาม โดยตั้งใจจะทำหนังสือสอบถามไปยังสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยเพื่อสอบถามเพิ่มเติมเพราะในครั้งที่เคยมาให้ข้อมูลตนก็สอบถามไปแล้ว และได้รับข้ออ้างว่าเครื่องมือนี้ รัฐบาลอังกฤษไม่ได้จัดว่าเป็นยุทโธปกรณ์และเป็นผลิตภัณฑ์ที่เปิดให้สามารถที่จะขายและส่งออกได้ ตนก็แปลกใจว่ากรณีที่เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งไม่ได้มีคุณสมบัติตามสรรพคุณที่โฆษณาไว้มันก็ไม่น่าจะดำเนินการได้ เมื่อถามว่า ประเด็นใดที่จะสอบถาม นายกฯกล่าวว่าในประเด็นที่ว่า ความรับผิดชอบต่อปัญหาในการโฆษณาเกินจริงและส่งออกจะรับผิดชอบอย่างไรบ้าง เมื่อถามว่า จะให้อังกฤษชดใช้ความเสียหายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังรวบรวมทั้งหมดเพราะต้องดูด้วยว่าการจัดซื้อทั้งหมดนั้น กระบวนการผ่านใครและอย่างไรบ้าง


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ตร.บุกตรวจระเบิดเวทีแดงแต่ไม่เจอ

ตร.บุกตรวจระเบิดเวทีแดงแต่ไม่เจอ

พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพผบก.น.1 รุดตรวจระเบิดเวทีเสื้อแดง หลังได้รับข่าวจะมีการลอบวางระเบิด แต่ไร้วัตถุต้องสงสัย คุยแกนนำเคลื่อนทัพเทเลือดบ้านนายกฯ สั่ง ปะฉะดะ จนท.นอกเครื่องแบบตรวจเข้ม ขณะมีคนเมาโดดขึ้นเวที การ์ดลากคอลง...เมื่อเวลา 22.00 วันที่ 16 มี.ค.  พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจนครบาล 1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจวัตถุระเบิด (EOD) เข้าตรวจสอบบริเวณพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณใต้เวทีชุมนุมสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ซึ่งมี นายสุพร อัตถาวงศ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้การต้อนรับ หลังจากนั้น พล.ต.ต.วิชัย ได้ประชุมหารือเรื่องเส้นทางการเคลื่อนขบวนของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จะเดินทางไปเทเลือดบริเวณบ้าน นายอภิสิทธิ์ เวชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ถนนสุขุมวิท ร่วมกับ นายอารี ไกรนรา หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของกลุ่มคนเสื้อแดง (การ์ด นปช.) นายจตุพร พรหมพันธ์ นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. ทั้งนี้ พล.ต.ต.วิชัย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสำนักข่าวกรองแห่งชาติว่า จะมีเหตุลักลอบวางระเบิด และ ก่อวินาศกรรมบริเวณพื้นที่เวทีของกลุ่มคนเสื้อแดง ดังนั้น จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ เครื่องมือในการตรวจสอบ และ เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบครั้งนี้ แต่การตรวจนั้นขณะนี้ยังไม่ได้พบเจอสิ่งผิดปกติ แต่เราคงจะต้องเฝ้าระวังและเข้าตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง วางใจไม่ได้  พล.ต.ต.วิชัย กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ทราบว่ากลุ่ม นปช. จะเคลื่อพลจากถนนหลานหลวง มุ่งสู่พญาไท สยามและมุ่งสู่ถนนสุขุมวิท ซึ่งเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งประชาสัมพันธ์และแจ้งให้กับประชาชนทราบอย่างใกล้ชิด ส่วนเรื่องที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะเทเลือดหน้าบ้านนายอภิสิทธิ์ ได้หรือไม่นั้น คงต้องหารือกับแกนนำอีกครั้งหนึ่ง แต่เท่าที่หารือกันวันนี้ยืนยันเบื้องต้นว่าจะไม่เกิดเหตุรุนแรงขึ้น อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามหาจุดลงตัวกับกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งจะต้องไม่ทำผิดกฎหมาย ทั้งนี้ จะสั่งการให้หน่วยเคลื่อนที่เร็วปะฉะดะ จำนวน 26 คัน หรือจำนวน 54 นาย รวมทั้งเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบอีกจำนวน กว่า 20 คน เข้าดูแลกลุ่มผู่ชุมนุมอย่างใกล้ชิด และ หากมีข่าวลักษณะนี้ก็พร้อมที่จะเข้าตรวจสอบ และหากกลุ่ม นปช.ต้องการให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ก็พร้อมที่จะเข้ามาทันทีผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ พล.ต.ต.วิชัย หารืออยู่กับแกนนำ นปช. ถึงการรักษาความปลอดภัย และเส้นทางเดินไปเทเลือดที่บ้านนายกรัฐมนตรี ได้มีชายฉกรรจ์วัยกลางคน อยู่ในอาการเมาสุรา ได้เดินทางเข้าบริเวณหลังเวทีบริเวณสะพานผ่านผ้าลีลาศ พยายามเดินไปบนเวทีปราศรัย แต่ไม่ได้เดินทางขี้นไป เพราะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกลุ่มคนเสื้อแดง ล็อกตัวพร้อมให้กักตัวไปบริเวณข้างเวที ท่ามกลางความสงสัยของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า การ์ด นปช. ปล่อยให้เดินทางเข้ามาบริเวณหลังเวทีได้อย่างไร  ขณะที่ บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงวันที่ 4 ประชาชนเสื้อแดงยังคงปักหลักชุมนุม ซึ่งสังเกตได้ว่ามีจำนวนมากกว่าคืนที่ 3 หรือ คืนวันที่ 15 มี.ค.เนื่องจากบางคนได้เดินทางกลับมาจากบ้านญาติที่อยู่บริเวณใกล้เคยมาชุมนุมอีกครั้ง ทั้งนี้ มีกลุ่ม ส.ส.พรรคเพื่อไทย และ อดีต ส.ส.ของพรรคพลังประชาชน ปรากฏตัวบริเวณหลังเวทีจำนวนไม่มากนักจากนั้น เมื่อเวลา 23.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า มีคนฝั่งรัฐบาลบอกว่าที่สาดและเทเลือดที่หน้าทำเนียบรัฐบาลนั้น เป็นไม่ใช่เลือดคน น่าจะเป็นเลือดวัวเลือดควาย พูดอย่างนี้เป็นการดูถูกประชาชนคนเสื้อแดง ส่วนกรณีมีกลุ่มคนที่ตั้งเวทีที่สนามหลวงนั้นไม่ใช่กลุ่มพวกเดียวกัน ดังนั้นที่มีข่าวว่ากลุ่มเสื้อแดงแตกกันนั้น บอกได้เลยว่าไม่ได้แตกคออะไรกันเพราะไม่ได้ร่วมกันตั้งแต่ต้นแล้ว มาวันนี้หลายคนอึดอัดว่า จะชนะเมื่อไหร่ เราต้องกดดันพวกเขาให้เป็นจำเลยของสังคม ทุกคนที่มาวันนี้ข้ามพ้นความกลัวและความตายแล้ว แต่เราต้องกำความชอบธรรมเอาไว้ ไม่ต้องไปต่อสู้แบบหยาบๆ “สถานการณ์เวลานี้ต่างฝ่ายต่างกดดัน 10 โมงตรง เราจะไปบ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี  โดยผ่านถนนหลานหลวง ผ่านถนนพญาไท เข้าสู่สยามสแควร์ ผ่านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผ่าน รพ.ตำรวจ เข้าสู่ถนนสุขุมวิท แวะ สถานทูตอังกฤษ ขากลับจะแวะสถานทูตสหรัฐอเมริกา เพื่อทวงขอความเป็นธรรมให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จึงขอความกรุณาคนแถวสยามแสคว แถวถนนสุขุมวิทเพราะอาจจะไม่สะดวกบ้าง”นายจตุพร กล่าว


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

กดดันอย่างอื่นก็ได้ทัศนะ...เจาะเลือดละเลงทำเนียบ

กดดันอย่างอื่นก็ได้ทัศนะ...เจาะเลือดละเลงทำเนียบ



คมชัดลึก :การยกระดับกดดันรัฐบาลของแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ด้วยการเจาะเลือดให้ได้ 1 ล้านซีซี เพื่อนำไปเทราดหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยไม่ได้ตกลงหรือบอกกล่าวผู้ชุมนุมล่วงหน้า สร้างความปั่นป่วนรวนเรในกลุ่มผู้ชุมนุมพอสมควร ?!!






 หลายคนไม่ได้เตรียมใจไว้ล่วงหน้าว่าจะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้ หลายคนเกิดความไม่แน่ใจว่าการเจาะเลือดจะส่งผลกระทบต่อร่างกายหรือไม่ และอีกจำนวนไม่น้อยหวั่นหวาดกับมาตรการเจาะเลือด ที่อาจเกิดโรคติดต่อร้ายแรง เช่น ไวรัสตับอักเสบบีและเอชไอวี/เอดส์ และหรือถ้ามีเข็มมากพอใครจะเป็นคนเจาะ สารพันคำถามเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่บ่ายวันที่ 15 มีนาคมเป็นต้นมา บรรดาผู้ชุมนุมต่างจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องนี้ในวงกว้าง
 "จำปา" หญิงสาวกลางคนจากขอนแก่น วัย 50 เศษ เก็บความสงสัยในใจไว้ไม่อยู่ ถึงกับโทรศัพท์กลับไปถามลูกสาวที่เป็นพยาบาลว่า การเจาะเลือด 10 ซีซีนั้นมันมีจำนวนมากขนาดไหนกันแน่ และเมื่อเจาะไปแล้วจะมีอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบจากลูกสาวว่าเลือดที่เจาะไป 10 ซีซี จะไม่มีผลต่อร่างกายมากนัก แต่สิ่งที่น่ากังวลคือใครเป็นคนเจาะ และมีความชำนาญมากน้อยแค่ไหน สิ่งสำคัญอีกอย่างคืออุปกรณ์เจาะเลือดสะอาดปลอดภัยหรือไม่ ?
 แม้ว่าตลอดช่วงบ่ายของวันวานบรรดาแกนนำจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบตลอดว่า ได้ติดต่อโรงพยาบาลกว่า 20 แห่ง และระดมเข็มมามากเพียงพอต่อกลุ่มผู้ชุมนุม กระนั้นจำปาก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีจนถึงขั้นกลัวว่า เจ้าหน้าที่เจาะเลือดจะมีความชำนาญมากพอหรือไม่ เธอลังเลและขอผลัดการตัดสินใจเป็นเช้าวันที่ 16 มีนาคม ถึงตอนนั้นจึงจะให้คำตอบได้ว่าจะบริจาคเลือดกดดันรัฐบาลด้วยหรือไม่
 "ถ้าเจ้าหน้าที่มีความน่าเชื่อถือก็ยินดีนะ แต่ถ้าไม่ก็ไม่เอาด้วยหรอก" จำปาให้ความเห็น
 ด้วยวัยที่อ่อนกว่าและอาจจะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากกว่า "วรุณี" วัย 34 ปีจากอุดรธานี ถึงกับส่ายหัวปฏิเสธ เมื่อถูกถามว่าพร้อมจะบริจาคเลือดนำไปเทราดที่หน้าทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ ?
 "พอแกนนำกลุ่มบอกให้พวกเขาไปบริจาคเลือด เอาไปเทที่นั่นที่นี่ เจาะมันไปเรื่อยๆ ทุกวัน ฉันและเพื่อนๆ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เราควรจะทำอย่างอื่นที่ดีกว่านี้นะ กดดันอย่างอื่นก็ได้ เจาะเลือดอย่างนี้มันไม่ได้ประโยชน์อะไร ราดไปแล้วรัฐบาลเดือดร้อนอะไร เขาก็แค่ให้คนมาล้างออก"
 วรุณีกับเพื่อนจากอุดรธานี ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมชุมนุมอีกหลายคนจากจังหวัดต่างๆ หลายคนไม่เห็นด้วยเหมือนกับเธอ เนื่องจากไม่มั่นใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้นระหว่างการเจาะเลือดคนจำนวนมากๆ ในคราวเดียวกัน 
 ก่อนเดินทางมาครั้งนี้ วรุณีกับเพื่อนคิดว่าจะมาอยู่ร่วมประท้วงเพียง 3 วันแค่นั้น แต่หลังจากดูสถานการณ์แล้วเชื่อว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อ เธออดเป็นห่วงบ้านไม่ได้ แต่ก็จนปัญญาไม่สามารถกลับได้อย่างที่คิด เนื่องจากรถที่โดยสารมาเกิดความขัดแย้งกันเอง เจ้าของรถหนีกลับไปก่อนหน้านี้แล้ว ปล่อยให้เธอกับเพื่อนอีก 5 คนเคว้งคว้างอยู่ที่นี่อย่างไม่รู้ชะตากรรม
 ความเห็นเรื่องบริจาคเลือดถูกแบ่งออกเป็น 3 ฝ่ายอย่างชัดเจน คือ ไม่เห็นด้วย ลังเลรอตัดสินใจ กับมุ่งมั่นจะบริจาคเลือดเหมือนอย่าง "ดนัย" วัย 47 ปี จากอุบลราชธานี ที่แสดงออกอย่างเปิดเผยว่าพร้อมจะบริจาคเลือดเอาไปเทหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันให้รัฐบาลยุบสภาและนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับเข้ามาเมืองไทยและขึ้นบริหารประเทศอีกครั้ง ?!!
 "ถ้าม็อบนี้จะเจาะเลือด 10 ครั้ง ผมและอีก 4 ชีวิตในครอบครัวก็จะบริจาคทุกครั้ง อยากให้รู้ว่าคนต่างจังหวัดก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าคนกรุงเทพฯ ที่สำคัญเราเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ เรามีสิทธิมีเสียงที่จะเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตยเหมือนกัน"
 ดนัยเป็นชายร่างสูงใหญ่ แต่ก็ยอมรับอย่างไม่อายว่ากลัวเข็ม ยามเจ็บไข้ได้ป่วยจะหลีกเลี่ยงไม่ไปโรงพยาบาล แต่เพื่อการเรียกร้องครั้งนี้ยินดีที่จะให้เจ้าหน้าที่ใช้เข็มเจาะร่างกายเอาเลือดออกมาล้างคอนกรีตหน้าทำเนียบ อย่างไรก็ดีอีก 3 ชีวิตที่เหลือของครอบครัวดนัยไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธเหมือนอย่างที่เขาบอกต่อ "คม ชัด ลึก"
 ส่วนบรรยากาศตอนเช้าในการรับบริจาคเลือด เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ไม่ขอรับบริจาคเลือดจากผู้ที่เป็นโรคติดต่อและอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ โดยมีแกนนำทยอยเจาะเลือดทีละคน สำหรับเข็มที่ใช้แล้วจะทิ้งเลยทันที ป้องกันโรคติดต่อทางเลือด จากการประเมินด้วยสายตาคร่าวๆ มีผู้ชุมนุมอยู่ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศราว 6 หมื่นคน แต่ไม่ไช่ทั้งหมดที่จะร่วมบริจาค ดังนั้น เลือดที่ได้วันนี้อาจจะไม่ถึง 1 ล้านซีซีอย่างที่แกนนำตั้งเป้าไว้
 "บุญมา" วัย 35 ปี มายืนรอเข้าแถวตั้งแต่ 9 โมงเช้า กว่าจะได้เจาะเลือดก็กินเวลานานพอดู เนื่องจากแพทย์มีไม่พอกับจำนวนคน ชายหนุ่มจากเมืองชลบุรี บอกว่า เต็มใจถึงแม้จะร้อนและใช้เวลานานก็ยินดี และพร้อมจะบริจาคเลือดทุกครั้งที่มีการร้องขอ เช่นเดียวกับ "เยาวมาลย์" จากปทุมธานีที่ชี้ว่าต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย และเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่มีมาตรฐานพอไม่ทำให้ผู้บริจาคเลือดติดโรคติดต่อหรือเกิดอันตราย
 ทั้งนี้แพทย์ที่เจาะเลือดเป็นอาสาสมัครที่มาจาก รพ.ศิริราช พระราม 9 จุฬาฯ อุบลฯ ขอนแก่น และหนองคาย เป็นต้น หลังจากเจาะเลือดผู้ชุมนุมคนละ 10 ซีซีแล้วได้นำไปเทลงขวดขนาด 5,000 ซีซี ใส่สารป้องกันเลือดแข็งตัว ก่อนจะนำไปเทหน้าประตูทำเนียบรัฐบาลในช่วงเย็นวันเดียวกัน  








ข่าวที่เกี่ยวข้องช่างภาพข่าวสดแจ้งความถูกชิงกระเป๋าหน้า"ปชป."ปณิธานรับกังวลเสื้อแดงเตรียมบุกบ้านอภิสิทธิ์พรุ่งนี้ ส.นักข่าวจี้ตร.ตามล่ามือดีกระชากกระเป๋าช่างภาพนิวยอร์กไทมส์ชี้เสื้อแดงเริ่มลดลงทยอยกลับบ้านจตุพรแจงเคลื่อนพลเทเลือดบ้านอภิสิทธิ์17มี.ค.เช้า

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

อารมณ์ขันคืออาวุธมีพลังที่สุด

อารมณ์ขันคืออาวุธมีพลังที่สุด



คมชัดลึก :เมื่อวันจันทร์ ด้านหน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ที่ตอนแรกทำท่าจะมีความตึงเครียดระหว่างผู้ชุมนุมเสื้อแดงกับทหารประจำการนั้น มีหน่วยปฏิบัติการจิตวิทยาเรียกว่า มวลชนสัมพันธ์ ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยมในการคลี่คลายบรรยากาศ






 แสดงถึงความเป็นพี่เป็นน้องกันระหว่างทหารกับผู้ชุมนุม ทำให้สิ่งที่กลัวกันว่าจะเป็นการเผชิญหน้าไม่เกิดขึ้น ที่เรียกว่า ปจว. หรือปฏิบัติการจิตวิทยา ได้ผลอย่างยิ่ง
 เป็นผลงานของ กองพันปฏิบัติการจิตวิทยา กรมรบพิเศษที่ 2 หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ จังหวัดลพบุรี
 นี่เป็นวิธีการของทหารที่พยายามที่จะให้มวลชนหรือว่าม็อบมีความรู้สึกว่าทหารนั้นมิใช่ศัตรู มิใช่เป็นคู่กรณี
 ขณะเดียวกันผู้ชุมนุมก็เข้าใจว่าทหารนั้นไม่ได้มาเพื่อจะปราบปรามประชาชนโดยเฉพาะ ถ้ารัฐบาลสั่งว่าต้องไม่ใช้อาวุธ และการปราบปรามการจลาจลนั้นจะต้องทำเป็นขั้นเป็นตอน
 ประโยคต่างๆ ที่ผ่านมาจากลำโพงของฝ่าย ปจว.ทหารนั้น มีแต่เสียงของความอ่อนนุ่มขอร้อง เช่น ตอนหนึ่งบอกว่าขอเสียงคนเสื้อแดงหน่อย ขอเสียงตีนตบหน่อย ก็ได้เสียงตอบรับทั้งเสียงโห่ร้องอย่างชอบใจ ทั้งเสียงตีนตบเกรียวกราวสนุกสนานจากฝ่ายคนเสื้อแดง
 คุณวีระ มุสิกพงศ์ เมื่อได้รับเสียงจากนายทหารเรียก ท่านวีระ พี่วีระ ปรากฏว่าอารมณ์คุณวีระก็เป็นไปอย่างอบอุ่นเช่นเดียวกัน
 มีอยู่ประโยคหนึ่งที่เรียกว่าสร้างเสียงฮาให้แก่คนเสื้อแดง จนกระทั่งกลายเป็นว่า นี่ไม่ใช่เป็นการประท้วง นี่ไม่ใช่การเผชิญหน้า หากแต่เป็นการมาสนทนาระหว่าง ทหารราบ 11 กับคนเสื้อแดงเท่านั้น เมื่อต่างคนต่างระแวงกันเองคุณน้องทหารคนหนึ่งก็คลายเครียดด้วยการบอกผ่านลำโพงว่า พี่น้องไม่ต้องกลัวว่าทหารจะทำอันตรายด้วยอาวุธ เพราะทหารไม่มีใครติดอาวุธ หรือถ้าจะจับแก้ผ้าตรวจอาวุธก็จะเจอแต่อาวุธประจำตัวไม่มีอาวุธประจำกายเล็กใหญ่ก็แล้วแต่พ่อให้มา ...ฮากันตั้งแต่แกนนำยันม็อบทีเดียว
 นี่คือปฏิบัติการที่ได้ผลกว่าการใช้อาวุธ ได้ผลกว่าการเผชิญหน้า ได้ผลกว่าการปราศรัยด้วยภาษาดุเดือดรุนแรง
 และท้ายที่สุด คนไทยกันเองเมื่อพูดจาภาษา พี่ๆ น้องๆ เป็นทหารในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นประชาชนในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์เดียวกัน ย่อมไม่เป็นศัตรูกัน ย่อมไม่ฆ่ากัน
 นี่คือผลงานที่จะต้องชื่นชมฝ่ายมวลชนสัมพันธ์ของทหารเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
สุทธิชัย หยุ่น








ข่าวที่เกี่ยวข้องพระว.วชิรเมธีแนะความ"รุนแรง"นั้นใครใช้คนนั้นก็แพ้!!ทักษิณยังเหลือไพ่ใบไหนอีกลีลา"ประธานลูกอุ้ม""สภาล่มตามคาด"คงไปถึงโดยพลัน อำนาจรัฐ :การแย่งชิงและการรักษาไว้

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

โคโยตี้..อับเฉาม็อบแดงบุกกรุง

โคโยตี้..อับเฉาม็อบแดงบุกกรุง



คมชัดลึก : นับตั้งแต่กลุ่มเสื้อแดงประกาศชุมนุมใหญ่ล่วงหน้า 12-14 มีนาคมนี้ ตั้งแต่วันพิพาษายึดทรัพย์ ประกอบกับบ้านเมืองมีเหตุวุ่นวายรายวัน ข่าวไหนที่คนไทยได้รับรู้คนต่างชาติต่างภาษาก็ได้รับทราบเช่นเดียวกัน และเมื่อใกล้วันชุมนุมเข้าไปทุกที รัฐบาลของแต่ละประเทศก็ประกาศเตือนให้ประชาชนของตัวเองหลีกเลี่ยงเดินทางมาประเทศไทยในช่วงนี้ ด้วยเกรงจะเกิดอันตรายจากความวุ่นวายทางการเมือง







 ความตื่นตัวของนักท่องเที่ยวต่อข่าวและสถานการณ์การเมืองของไทย หลายคนเลือกปฏิบัติตาม ส่งผลให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า ทั้งธุรกิจท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและภาคกลางคืน จากการออกสำรวจสถานบันเทิงตามแหล่งบันเทิงชื่อดังในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติพบว่ายอดนักท่องเที่ยวต่างชาติหดหายไปมากกว่ามาก
 ค่ำคืนยามนี้ที่อาร์ซีเอ รัชดาซอย 4 ถนนข้าวสาร และประชาชื่น พบว่านักท่องราตรีคนไทยวัยรุ่นยังคงมาเที่ยวดื่มกินเหมือนอย่างเคย เหมือนเหตุบ้านการเมืองเป็นเหมือนยามปกติ แต่ก็มีเสียงบ่นหนาหูว่าดื่มเหล้าไม่สนุกเท่าที่ควร เพราะตำรวจตั้งด่านตรวจเข้มงวด ต้องคอยพะวงตอนขับรถกลับบ้านหลังร้านปิด ซึ่งตรงกันข้ามกับสถานบริการ "อาบ อบ นวด" ค็อกเทลเลานจ์ และบาร์เบียร์ ที่อาศัยนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับได้รับผลกระทบโดยตรง
 "นพดล" กัปตัน "อาบ อบ นวด" ย่านพญาไท รับรู้ได้ทันทีถึงสถานการณ์ของร้าน เมื่อรถบัสทัวร์ท่องเที่ยวต่างชาติที่เคยหนาตาในลานจอดรถหายเงียบไม่คึกคักตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกทัวร์ต่างชาติของนพดลส่วนใหญ่เป็นชาวฮ่องกงและมาเลเซีย เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปเขาจึงพูดคุยกับบริษัททัวร์หลายแห่งก็ได้รับคำตอบคล้ายๆ กันว่า ตอนนี้ลูกค้ายกเลิกทัวร์ ไม่เดินทางมาเมืองไทย แต่จะเลือกไปเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน หรือถ้ารายไหนกล้าหน่อยจะแวะกรุงเทพฯ แค่แป๊บเดียวแล้วต่อเครื่องไปยังจังหวัดที่หมายทันที เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา เป็นต้น
 "ลูกค้าต่างชาติเขาก็รู้ข่าวความเคลื่อนไหวในบ้านเราเหมือนกัน ตั้งแต่ต้นสัปดาห์แล้วไม่มีลูกค้าเลย เด็กนั่งตบยุงกันเป็นแถว ทั้งที่เดิมทีบางคนมีลูกค้าเรียกใช้บริการถึง 4 รอบ เหลือแค่รอบสองรอบ หรือไม่มีเลยก็มี" นพดล กล่าวพลางส่ายหน้า
 จากพญาไทย้ายมาแถวศรีนครินทร์ "เจ๊มาลี" มาม่าซังค็อกเทลเลานจ์ บ่นอย่างหัวเสียว่าได้รับผลกระทบหนัก ตั้งแต่ต้นสัปดาห์มาแล้วที่ลูกค้าหน้าเดิมหายไปกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ทั้งจากเหตุปาระเบิดธนาคารกรุงเทพ สาขาศรีนครินทร์ และตำรวจตั้งด่านตรวจค้นเข้มงวด ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เลือกจะอยู่กับบ้านมากกว่า ยังไม่รวมเรื่องความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงการชุมนุมอีก แค่วางมาตรการตรวจเข้มลูกค้าก็กลัวจนหนีหมดแล้ว
 "ตอนนี้เด็กๆ ในร้านพอเลยเที่ยงคืนไปแล้วไม่มีลูกค้าเลย เมื่อไรจะจบสิ้นก็ไม่รู้ ผู้ประกอบการเขาได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า สัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีลูกค้าเลย แต่ร้านก็ยังต้องเปิดไฟ จ่ายส่วย จ่ายค่าจ้างเด็ก ถ้าการชุมนุมยืดเยื้อผู้ประกอบการจะอยู่ได้อีกนานหรือเปล่าไม่รู้" เจ๊มาลี บ่น
 ขณะที่หัวอกคนทำงานอย่าง "เปี้ยว" โคโยตี้สาววัย 23 ปี ประจำค็อกเทลเลานจ์แห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 24 เคยได้เงินช่วงสุดสัปดาห์ศุกร์-เสาร์ตก 1 หมื่นบาท เดือนหนึ่งก็ได้ราว 4 หมื่นบาท มาวันนี้ลดเหลือแค่ 6,000-7,000 บาท ก็นับว่าดีสุดๆ แล้ว
 ลูกค้าส่วนใหญ่ของสถานบันเทิงที่เปี้ยวทำอยู่เป็นชาวเกาหลี มาเก๊า ฮ่องกง และสิงคโปร์ เป็นทั้งนักธุรกิจมาติดต่องานและเลยมาพักผ่อนหย่อนใจ เดินทางไปมาประเทศไทยเป็นว่าเล่น จนกลายเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ ทุกครั้งเวลามาติดต่องานที่เมืองไทยก็จะแวะมาหาเธอกับเพื่อนๆ เสมอ ผิดกับช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาลูกค้าเหล่านี้หายหน้าหายตาไปหมดสิ้น
 "ตอนนี้ก็โทรคุยกับลูกค้าเสมอ เขาบอกว่าช่วงนี้จะไม่มาติดต่อธุระที่เมืองไทย เพราะกลัวว่าการประท้วงจะรุนแรงและบานปลาย แต่จะใช้ติดต่อธุรกิจทางโทรศัพท์หรืออีเมลแทน ลูกค้าที่มาเที่ยวส่วนใหญ่เขาพอจะฟังหรือพูดไทยได้บ้าง เขาก็ดูทีวีเห็นว่าการชุมนุมครั้งนี้เป็นเรื่องที่ควรจะระวังตัว" เปี้ยว กล่าว
 อย่างไรก็ดี จากการพูดคุยกับเจ้าของกิจการ รวมถึงเด็กสาวบาร์เบียร์ย่านสุขุมวิทและสีลมต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้เหตุการณ์การเมืองครั้งนี้อยู่ในความสงบ ไม่ใช้ความรุนแรง เพราะที่ผ่านมาเหตุการณ์ก็ย่ำแย่พออยู่แล้ว หากินลำบาก ลูกค้าไม่กล้ามาเที่ยว หรือมาจริงก็ไม่กล้าออกมาเที่ยวกลางคืน ยิ่งถ้าเกิดความรุนแรงขึ้นอีกเชื่อว่าผู้ประกอบการอาจจะเลือกปิดกิจการมากกว่าแบกรับภาวะขาดทุนต่อไป  








ข่าวที่เกี่ยวข้อง "ค้ายา" ธุรกิจคู่ขนาน "บ่อน" เขมรแซ่ดทะลุทุ่ง (พุธที่ 3 มี.ค.53)

ต้อย ซิ่งชนปีเตอร์ดวลเพลงลูกทุ่งสกาอินไซด์ตำรวจประจำวันที่21ม.ค.เพลงลูกทุ่ง

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ลีลาประธานลูกอุ้มสภาล่มตามคาด

ลีลาประธานลูกอุ้มสภาล่มตามคาด



คมชัดลึก : เนื่องจากมี ส.ส.-ส.ว.ผู้มาลงชื่อร่วมประชุมรัฐสภา เพียง 80 คนเท่านั้น ทั้งที่ต้องมีสมาชิกรัฐสภาร่วมลงชื่ออย่างน้อย 313 คน จากสมาชิกสองสภาที่มีอยู่ 625 คน






 ผู้ที่ "ลอยตัว" จากปัญหานี้คงไม่พ้น "ชัย ชิดชอบ" ประธานรัฐสภา เพราะเมื่อถึงเวลา 09.30 น.ตามกำหนดก็ได้ขึ้นนั่งบัลลังก์ทำหน้าที่เมื่อได้รับแจ้งว่าสมาชิกรัฐสภาเดินทางมาประชุมไม่ครบองค์ประชุมตามข้อกฎหมายที่กำหนด 313 คน ก็สั่งปิดประชุมเวลา 09.31 น. ในทันที
 เรียกว่าใช้เวลาอันรวดเร็วในการทำหน้าที่บนบัลลังก์สั้นที่สุดเพียง 1 นาทีเท่านั้น
 โดยไม่ยอมเปิดโอกาสให้สมาชิกได้ซักถามหรือหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองที่กำลังมีการชุมนุมประท้วงอยู่กลางกรุง !
 เหตุการณ์ "สภาล่ม" ครั้งนี้หลายฝ่ายหรือสมาชิกเองต่างก็คาดการณ์กันล่วงหน้าอยู่แล้ว เนื่องจากหวั่นเกรงจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย 7 ตุลาคม 2551 การสลายกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มาชุมนุมหน้ารัฐสภา รวมทั้งภาพสมาชิกรัฐสภา คณะรัฐมนตรี พากันหนีออกจากรัฐสภาโกลาหล
 ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มี "ประธานรัฐสภา" ชัย ชิดชอบ รวมอยู่ด้วย ภาพชายชราปีนกำแพงรัฐสภาก่อนขึ้นรถจักรยานยนต์หลบออกจากบริเวณชุมนุม
 เหตุการณ์ครั้งนั้น "ปู่ชัย" ย่อมจดจำได้เป็นอย่างดี
 แต่มีคำถามตามมามากมายหลังจากทราบว่า "ปู่ชัย" เรียกประชุมรัฐสภาในวันที่ 16 มีนาคม ขณะที่มีผู้ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่บริเวณสะพานผ่านฟ้า ถนนราชดำเนิน ถือว่าที่ชุมนุมใกล้กับรัฐสภามาก
 การที่ "ปู่ชัย" ยังยืนยันเรียกประชุมท่ามกลางเสียงคัดค้านจากสมาชิก และ "วิปรัฐบาล" เห็นตรงกันว่าไม่ควรมีการประชุมรัฐสภา เพราะอาจเป็นเงื่อนไขทำให้มีการล้อมสภา และระเบียบวาระก็ไม่มีวาระเร่งด่วนที่ต้องรีบประชุมเมื่อนำมาชั่งน้ำหนักกับปัญหาที่อาจจะตามมา
 ดังนั้น การกระทำของ "ปู่ชัย" เหมือนท้าทายกลุ่มผู้ชุมนุม อาจกลับกลายเป็นการ "เรียกแขก" ที่สมาชิกไม่อยากเจอให้มาชุมนุมที่รัฐสภาก็ได้
 ขณะที่ "ปู่ชัย" ยืนยันทำตามหน้าที่ เมื่อตารางการประชุมกำหนดไว้ก็ต้องทำตามระเบียบ
 "เมื่อเขาเลือกมาทำหน้าที่ ผมก็ทำหน้าที่ในฐานะประธานรัฐสภา" คำกล่าวของ "ปู่ชัย"
 การทำตามหน้าที่ของ "ปู่ชัย" โดยไม่คำนึงถึงผลร้ายที่อาจจะตามมาจึงเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ที่จะถูกมองว่า กำลัง "เอาตัวรอด" และถูกโยงเป็น "การเมือง"
 "เอาตัวรอด" จากเสียงวิจารณ์ที่อาจถูกกล่าวหาว่า "สองมาตรฐาน" ในการทำหน้าที่
 ส่วนการถูกจับโยงเป็นเรื่อง "การเมือง" อย่าลืมว่า "ปู่ชัย" ได้เป็น "ประธานรัฐสภา" ในวัย 80 ปี น่าจะหลุดวงโคจรไปเลี้ยงหลาน แต่กลับได้ดิบได้ดี เพราะมี "ลูกชาย" อย่าง "เนวิน ชิดชอบ" เมื่อได้นั่งเก้าอี้คุมเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ
 แต่ในวันนี้ "ประธานลูกอุ้ม" กำลังเรียกแขกให้มาร่วมขย่มพรรคประชาธิปัตย์ พรรคแกนนำรัฐบาล
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องเพื่อไทยร่วมเสื้อแดงเจาะเลือดไล่'มาร์ค'"มาร์ค"ไม่ไปประชุมสภา-เก็บตัวแก้เกมม็อบ ส.ว.จวกรัฐบาลอัปยศหนีประชุมร่วมรัฐสภา ประชุมร่วมรัฐสภา15มี.ค.อภิสิทธิ์อยู่ราบ11เช่นเดิมสนธิเร่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่มาที่ไปของเอ็ม79

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ทักษิณยังเหลือไพ่ใบไหนอีก

ทักษิณยังเหลือไพ่ใบไหนอีก



คมชัดลึก : ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้ว ทักษิณ ชินวัตร จะแสดงให้เห็นว่า เป็นผู้กำกับการขับเคลื่อนม็อบเสื้อแดงอย่างแท้จริง ด้วยการพิมพ์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ว่าไม่เห็นด้วยกับการปิ้งปลาประชดแมว ให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยลาออก แต่ในยามที่มวลชนค่อยๆ หดหายจากหน้าเวทีเสื้อแดง ถามว่าหลังการชุมนุมวันที่ 5 ผ่านไป ทักษิณยังเหลืออะไรในมือให้เล่น ?






 หลังจากการล้มเหลวจากการล้อม กรมทหารราบที่ 11 โดยที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หรือกระทั่งพลทหารที่รักษาการณ์ ก็ไม่ได้ออกแรงสมกับที่มุ่งหวังเลยแม้แต่น้อย...ทุกข์ใหม่ของแกนนำเสื้อแดงก็งัดเอาการรวมพลเจาะเลือดไปเทหน้าทำเนียบรัฐบาล พรรคประชาธิปัตย์
 ตามมาอย่างกระชั้นชิดด้วยการเสนอให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลาออก !
 3 ประเด็น 3 เรื่องที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกลายเป็นความขัดแย้งเล็กๆ กันภายในกลุ่มแกนนำ
 การบุกปิดล้อม กรมทหารราบที่ 11 นั้น แกนนำกลุ่มหนึ่ง ไม่ต้องการให้ไปเพียงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ แต่มุ่งหวังที่จะเข้าไปจัดการไล่จับกุมอภิสิทธิ์กันจริงๆ
 แต่ทั้ง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และ วีระ มุสิกพงศ์ ยืนยันที่จะชุมนุมอย่างสันติ ไม่บุก ไม่รุกไล่ ในขณะที่อีกกลุ่มกลับเห็นว่า หากมาเพียงแค่นี้ แล้วเป้าหมายที่จะไปให้ถึงเมื่อไหร่จะเกิดขึ้น
 นั่นทำให้บรรดาผู้ที่อยู่เบื้องหลังต้องขบคิดกันว่า หากวิธีนี้ไม่ได้ผลแล้ว จะต้องใช้วิธีการใด
 เจาะเลือดผู้ชุมนุม 1 ล้านซีซี แล้วไปเทหน้าทำเนียบรัฐบาล ก็เลยกลายเป็นมุกถัดมา ที่เชื่อกันในขณะนั้นว่า น่าจะทำให้การล่าถอยออกจากสมรภูมิที่ตนเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำดูดีมีชาติตระกูล
 แถมยังมีมุกใหม่ไปปลุกเร้า และตรึงผู้ชุมนุมให้อยู่หน้าเวทีหลักที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศได้อีกด้วย
 ทว่ามุกใหม่เจาะเลือดกลับถูกคัดค้านอย่างรุนแรงจากกลุ่ม "แดงสยาม" เป็นกลุ่มแดงที่ว่าเชื่อมกับระบบคิดของทักษิณโดยตรง
 เมื่อแดงสยามคัดค้าน เพราะเกรงว่าจะเสียมวลชนตั้งแต่ยังไม่ทันเจาะเลือด จึงทำให้แกนนำเสื้อแดงต้องหารือกันอีกครั้ง
 ข้อเสนอให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลาออกจากตำแหน่งจึงเกิดขึ้น ซึ่งประเด็นนี้ วีระ มุสิกพงศ์ เป็นเจ้าไอเดียตัวตั้งตัวตี
 อาจเพราะ วีระ ไม่ได้เป็น ส.ส.การพูดจาในลักษณะนี้จึงไม่ต้องคิดอะไรให้มากความ เล็งเอาแต่ผลสุดท้ายว่า นี่คือมาตรการขั้นสูงสุดในการบอยคอตรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์
 หะแรก จตุพร พรหมพันธุ์ ก็แบะท่าเห็นด้วยเอาเรื่องไปคุยกับ ส.ส.เพื่อไทย อ้างถึงความเสียสละเพื่อส่วนรวม แต่ก็ถูกปฏิเสธจาก ส.ส.
 การปฏิเสธ ไม่ได้หยุดแค่ที่ประชุม ส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่ยังไปไกลถึงหูทักษิณ ชินวัตร
 นั่นจึงเป็นที่มาของทวิตเตอร์จากแดนไกล กระตุกแขนเสื้อไม่ให้ "ปิ้งปลาประชดแมว"
 หนักไปกว่านั้นก็คือ ส.ส.เพื่อไทยบางส่วนก็ไม่เห็นด้วยกับการเจาะเลือดไปเทไล่รัฐบาล เพราะเชื่อว่ามีเลือดเท่าไหร่ก็ไม่สามารถขับไล่รัฐบาลได้
 ที่สำคัญ ส.ส.เพื่อไทยในสภา นั้นยังกำไพ่ใบสุดท้าย "ญัตติซักฟอก" เอาไว้ ถล่มรัฐบาลในเกมในครรลอง แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่จู่ๆ ทักษิณจะทิ้งไพ่ใบนี้
 ถ้าหากนับเอา นปช.เป็นหนึ่งในกองทัพของทักษิณ มาถึงวันนี้แล้ว ไม่ว่าจะให้เสนาธิการไหนมาวิเคราะห์ ก็ต้องฟันธงลงไปในทิศทางที่ถดถอยมากกว่าก้าวหน้าสู่หลักชัย
 แต่อย่างที่หวาดกลัวกัน เกมไม่ได้มีเพียงแค่ "หน้าฉาก" ที่มุ่งหาสันติวิธี
 กัมปนาทแห่งเอ็ม 79 ที่ดังสนั่นที่นั่นที่นี่ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใคร แถมยังมีข่าวสะพัดมาด้วยว่า เป้าหมาย 2,000 จุด นอกจากสร้างความกลัว สร้างความเสียหายแล้ว ยังสร้างความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินให้แก่รัฐบาลเพิ่มขึ้นทุกขณะ
 ใครจะรู้ว่านอกจากเอ็ม 79 แล้ว ยังมีมือที่สาม หรือกลุ่มฮาร์ดคอร์ที่เหนื่อยหน่ายเต็มทีกับเกมเดิมๆ ชุมนุม-ด่าอำมาตย์ ไล่อำมาตย์ กะซวกทหาร จวกรัฐบาลลูกแหง่ คมช.
 ด่าเหนื่อยแล้วหอบเสื่อกลับบ้าน ไปนั่งยิ้มนึกว่าชัยชนะจะถูกส่งตามมาให้ที่บ้าน
 หากมีคนคิดได้อย่างนี้แล้ว ก็ลองคิดแทน ทักษิณ ผู้เป็นนักธุรกิจที่คิดถึงขั้นตอนและผลกำไรตั้งแต่ก่อนลงทุนแล้ว หาก นปช.คือ "ฉากเบื้องหน้า" หรือ "ไพ่ใบหนึ่ง" แล้วยังเหลือไพ่ใบไหนอีก
 หรือจะใช้ไพ่ใบสุดท้ายที่ตนแทบจะไม่มีส่วนร่วม ด้วยการให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลงแรงยื่นซักฟอกที่กำหนดเวลาเปิดสภายังอีกจนสิ้นเดือนพฤษภาคม
 ทักษิณ จะใช้ไพ่ใบไหน หลังจากแดงแรงล้ากลับภูมิลำเนา ?








ข่าวที่เกี่ยวข้อง"เทือกจี้ตร.หามือยิงเอ็ม79ใส่'ร.1พัน1รอ.' เงื่อนไขความรุนแรงเริ่มชัดโพลล์ชี้คนกรุงหน่ายม็อบการเมืองร้อนทักษิณต้นเหตุ กงจักรทักษิณ !หลายประเทศหวั่นม็อบแดงฮ่องกงระงับทัวร์มากทม.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เสื้อแดงหลั่งเลือด ทักษิณซึ้ง สัญลักษณ์สันติวิธี

เสื้อแดงหลั่งเลือด ทักษิณซึ้ง สัญลักษณ์สันติวิธี

ทักษิณ วิดีโอลิงก์ เวทีเสื้อแดง ขอบคุณที่สละเลือด เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการแสดงออกโดยสันติวิธี ลั่น เตรียมกระเป๋ากลับไทยแล้ว เชื่อเสื้อแดงไม่ยอมแพ้ แม้จะเหนื่อย...เมื่อเวลาประมาณ 20.40 น. วันที่ 16 มี.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี วิดีโอลิงก์ มาที่เวทีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศ โดยกล่าวว่า  พี่น้องยังทนไหวอยู่มั้ยครับ ได้ข่าวว่ามีคนมาชวนกลับบ้าน ทั้งโฆษณา และมีวิชามารมาจ้างกลับบ้าน แล้วทำไมยังไม่กลับล่ะครับ รอผมกลับก่อนใช่มั้ยครับ พร้อมทั้งบอกว่า ผมเตรียมกระเป๋าแล้วนะ โดยผู้ชุนนุมต่างตะโกนตอบรับ และปรบมือเสียงดัง ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเปรียบรัฐบาลเหมือนต้นไม้ผุที่มีไม้คำ้พิเศษพ.ต.ท.ทักษิณ ยังกล่าวว่า วันนี้มีการเจาะเลือด ตนได้รับโทรศัพท์ ว่ามีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย บริจาคส่วนบริจาค บริจาคเลือดต้อง 300 ซีซี เอา 10  ซีซี เพื่อเป็นสัญลักษณ์ เมื่อวานพอตนได้รับโทรศัพท์ ก็ส่งทวิตเตอร์ออกไป ว่ามีข้อห่วงใยอย่างนี้ ตนจะไปสั่งการ ไม่ใช่ ตนเป็นคนร่วมให้ความคิด แต่ไม่ได้สั่งการ แต่ขอขอบคุณพี่น้องที่รักชาติบ้านเมือง ยอมสละเลือดเป็นสัญลักษณ์วันนี้ อย่างชัดเจน ท่านที่วิตกกังวล ถ้าไม่เห็นด้วยก็ขออภัยด้วย เพราะทุกคนมีอุดมการณ์ วันนี้เป็นการแสดงออกของคนที่พร้อมเสียเลือดเนื้อโดยสันติวิธีพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า วันนี้ตนมาในมาดนักวิเคราะห์ เชื่อว่าผู้ที่เข้ามาวุ่นวายในบ้านเมืองขณะนี้เป็นผู้มีปัญหาทางจิต สมัยอดีตที่การแพทย์ยังไม่ก้าวหน้า ฮิตเลอร์เป็นผู้ที่ชอบอยู่คนเดียว เก็บตัวไม่ไปไหนและไม่พบใคร นายอภิสิทธิ์ เกิดที่เมืองนอก พ่อเป็นหมอ เรียนหนังสือดี ตนวิเคราะห์ได้เลยจากการเรียนจิตวิทยาว่า นายอภิสิทธิ์ป่วยแน่นอน ขอวิเคราะห์อีกหนึ่งเรื่อง ทำไมถึงมีเสื้อแดงเสื้อเหลือง นอกจากปัญหาทางจิต ยังต้องวิเคราะห์เรื่องประชาธิปไตยด้วยว่า วันนี้ประชาธิปไตยเดินมาถึงทางแยก จะเดินหน้าหรือถอยหลัง คนทั่วไป คนรุ่นใหม่ คนสู้ชีวิต คนแสวงหาโอกาส คนรักห่วงลูก คนเหล่านี้อยากให้เป็นประชาธิปไตยที่เดินหน้าอย่างแท้จริง แต่คนอีกประเภทหนึ่งที่มีความคิดเก่า มีความสุขและอิ่มหมีพีมัน กับสถานภาพของตนเองในปัจจุบัน ได้แก่ พวกอำมาตย์ เศรษฐีเก่าที่ไม่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทำให้ประเทศถอยหลังไปสู่ยุคศตวรรษที่ 19 ต้องนึกถึงคำพูดของไอสไตน์ที่บอกว่า โลกไม่น่าอยู่ไม่ใช่เพราะมีสิ่งแย่เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่เป็นเพราะคนดีไม่สนใจกับสิ่งแย่ๆ เหล่านี้ ขอย้ำอีกครั้งว่าชวนให้ผู้รักประชาธิปไตยและพี่น้องเสื้อแดงมาร่วมกระบวนการเพื่อขับเคลื่อนสู่ประชาธิปไตยที่แท้จริงทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังเปรียบเทียบระหว่างเสื้อเหลืองและเสื้อแดง ว่า สีเหลืองดูดี บริจาคกันทีละหลายสิบล้าน แต่ฝั่งสีแดงที่เป็นพี่น้องเกษตรกรบริจาคครั้งละ 200 50 รือ 20 บาท จึงถูกมองเป็นชนชั้นต่ำ แต่จิตสำนึกของผู้ที่ต้องการประชาธิปไตยเป็นจิตสำนึกชั้นสูงแม้จะไม่มีเงิน และเมื่อประชาธิปไตยเบ่งบานขึ้นเมื่อไหร่ก็จะมีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นทั่วประเทศ ตอนนี้ประชาชนคนไทยมีสำนึกทางการเมืองสูงขึ้น สื่อสารเทคโนโลยีทำให้พี่น้องคนไทยแม้กระทั่งถูกปิดข่าวมอมเมาอยู่ด้านเดียว พี่น้องก็ยังอุตส่าห์เข้าใจการเมืองอย่างลึกซึ้ง ความพยายามที่ต้องการสื่อว่าตนจ้างพี่น้องมา ในที่สุดก็ได้รู้ว่าทุกคนเสียสละ จึงถึงกับพูดไม่ออก การเสียสละในครั้งนี้ถือเป็นการบอกว่าเรามีวิธีคิดที่แตกต่างกัน พวกเราสีแดงเป็นผู้ที่ยอมเสียสละ แต่เราอยากได้โอกาสและความทัดเทียมในสังคมพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยว่า อยากบอกว่า พวกเราไม่เป็นอันตรายหรอก เราไม่ได้คิดเป็นศัตรูกับท่าน แต่เราไม่อยากให้ขวางความเจริญของประเทศ ลูกหลานเรายังหิวเราต้องการให้ลูกหลานเรามีโอกาส มีการศึกษาที่ดี ไม่ติดยาเสพติด เมื่อจบมาก็ได้อยู่ในตลาดเสรีที่ให้ลูกเราได้มี เป็นเศรษฐี เปิดโอกาสให้คนไทยได้เท่าเทียมกันแล้วประเทศไทยจะมั่งคั่ง ไม่ต้องมีรัฐบาลที่ผลัดกันมากู้เงินเหมือนอย่างทุกวันนี้ ทัศนคติสองแนวทางนี้เป็นวิธีมอง และเป็นความสะดวกสบายของชีวิตที่ต่างกัน ถ้าหันหน้าเข้าหากันและบอกว่าต่อไปนี้จะเป็นประชาธิปไตย  เราไม่ต้องการล้มล้างใคร พวกเราต้องการต่อสู้กับโลกทั้งโลก เพราะประเทศไทยไม่ได้อยู่ลำพังเพียวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อน บ้านเมืองมีความเชื่อมโยงกันแล้ว ขอประชาธิปไตยเราคืนพี่น้องก็สู้กันมา แกนนำของพรรค 3 เกลอก็สู้กันมา ถามว่าเหนื่อยมั้ยเหนื่อย แต่ถามว่ายอมแพ้มั้ยผมเชื่อว่าพี่น้องไม่ยอมแพ้ หายเหนื่อยเราก็สู้ใหม่ เราจะพยายามทำให้ความจริงเป็นที่ประจักษ์ทีละขั้นทีละตอน บ้านเมืองจะไปได้ดี ผมเชื่อว่าจะทำให้บ้านเมืองมั่งคั่งแค่ไหนก็เป็นเรื่องง่ายนิดเดียว ถ้าระบบไม่ถ่วงแข้งถ่วงขากันเหมือนทุกวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวพ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า การกระจายความเจริญสู่ประเทศเป็นเรื่องที่พูดกันมานานแต่ยังทำไม่ได้ ยิ่งเมื่อได้มาเห็นแนวทางการทำมาหากินสมัยใหม่ของเมืองนอก บอกได้แล้วว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงมาก แต่ติดปัญหาชักคะเย่อระหว่างสองฝ่าย ถ้าวันนี้มีการปลดปล่อยประชาชนสู่โลกเศรษฐกิจ โลกประชาธิปไตย โลกที่มีสิทธิเสรีภาพ และมีความยุติธรรมอย่างแท้จริง ตนสามารถนำความร่ำรวยสู่พี่น้องทั้งประเทศได้ง่ายมาก

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เสื้อแดงเชื่อคนกรุงเข้าใจ ลุยเทเลือดบ้านมาร์คเช้านี้

เสื้อแดงเชื่อคนกรุงเข้าใจ ลุยเทเลือดบ้านมาร์คเช้านี้

“ณัฐวุฒิ”เชื่อไปบ้านนายกฯไม่มี เหตุปะทะ ชี้ คนกรุงเข้าใจ ถอดเสื้อเหลือง สวมแดงแล้วเพียบ เปรียบ รัฐบาลเป็นมวยปล้ำ เผลอเก้าอี้ฟาด-ล็อคคอ-กัดหู ห้ามเสื้อแดงทำลายข้าวของบ้าน “มาร์ค”...เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 17 มี.ค.นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำ นปช. กล่าวว่า ในวันนี้ กลุ่มคนเสื้อแดงจะเดินทางไปเทและสาดเลือดยังบ้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ซอยสุขุมวิท 33 ตามเส้นทางสยามสแควร์ ผ่านไปยังหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้าเส้นทางถนนสุขุมวิท ตนเข้าใจว่าคนกรุงเทพฯ นั้นเข้าใจ และให้กำลังใจกลุ่มคนเสื้อแดง จะไม่มีเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างชาว กรุงเทพฯ กับกลุ่มคนเสื้อแดงแน่นอน กลับได้รับเสียงตบมือต้อนรับล้นหลาม เห็นได้จากกรณีที่กลุ่ม นปช. ได้ไปปราศรัยที่หน้าธนาคารกรุงเทพ สำนักงานใหญ่ ถ.สีลม ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดี คนที่เคยเป็นเสื้อเหลือง กลายมาเป็นคนเสื้อแดงจำนวนมากแล้ว “ขณะนี้รัฐบาล ทำอย่างเดียวคือลากเวลายืดเยื้อให้ครบยกครบ เปรียบเป็นมวยเราเป็นมวยสากล แต่ฝ่ายรัฐบาลนั้นเป็นมวยปล้ำ พอเผลอเอาเก้าอี้ฟาด ล๊อกคอ กัดหูตลอดเวลา เล่นนอกเกมส์ เราไม่ต้องไปตามเขา ถ้าเราเป็นมวยปล้ำด้วย แน่นอนกัดหูกันปล้ำกัน ก็ตายทั้งคู่ ดังนั้นเราต้องเข้าใจ เราอย่าลุยสุ่มสี่สุ่มห้า เป้าหมายรัฐบาลอภิสิทธิ์นั้นเป็นเพียงบันไดแรก เท่านั้น หากแลกกับรัฐบาลอภิสิทธิ์ เราจะขาดทุนยับเยิน จากองค์กรเสื้อแดงเติบโตมาก ไม่ควรแลก สู้จะอดทนเพื่อชัยชนะที่ยิ่งใหญ่กว่า” นายณัฐวุฒิ กล่าว นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เราจะขึ้นรถไป และ ขอย้ำว่าอย่าไปทำร้ายบ้านนายกรัฐมนตรี อย่าไปทำลายข้าวของที่เป็นของคนอื่น เราไปทำพิธีกรรมของเรา เพื่อเพิ่มความบอบช้ำให้กับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หากไปทำลายข้าวของ จะได้รัฐบาลทหารทันที ไม่มีทางคุ้มแน่นอน ถ้าจะชนะต้องชนะด้วยสันติและปัญหาเท่านั้น.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

คุมเข้มบ้านนายกฯ รับทัพแดงบุก เทเลือดเช้าวันนี้

คุมเข้มบ้านนายกฯ รับทัพแดงบุก เทเลือดเช้าวันนี้

เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร คุมเข้มบ้านพักนายกรัฐมนตรี รับมือการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง ขณะที่ ศอ.รส.หวั่นสถานการณ์รุนแรง จัดกำลังดูแลสถานที่ราชการ และบ้านพักบุคคลสำคัญ พร้อมตั้งจุดตรวจตามเส้นทางต่างๆเพิ่ม.... สำหรับบรรยากาศที่บ้านพัก เลขที่ 32/1 4 ซ.สุขุมวิทย 31 ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร นำลวดหนามมาขึงโดยรอบบ้านพักเพิ่มเติม รับมือกลุ่มเสื้อแดงที่จะเดินทางมาชุมนุมที่หน้าบ้านพักนายกรัฐมนตรี เพื่อกดดันให้ยุบสภาในวันนี้(17 มี.ค.) โดยกำลังเจ้าหน้าที่อยู่ในสภาพเตรียมความพร้อมเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย มีการเฝ้าระวังถนนในซอยโดยรอบตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม สถานการณ์โดยทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใด ๆ เกิดขึ้น ส่วนการประชุมของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษก ศอ.รส. กล่าวว่า ได้ประเมินสถานการณ์ซึ่งยอมรับว่าน่าเป็นห่วง เพราะจากรายงานของหน่วยข่าวยืนยันตรงกันว่าจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็น พิเศษในกลางดึกวันนี้ เพราะจะมีการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความรุนแรง ทั้งนี้ จะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปประจำการตามสถานที่ราชการและบ้านพักบุคคล สำคัญ เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้น นอกจากนี้จะมีการเพิ่มจุดตรวจและสายตรวจตามเส้นทางต่าง ๆ โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงต่อการสร้างสถานการณ์.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

กต.ล่าทักษิณ เข้าดูไบ จับล็อกกลับไทย

กต.ล่าทักษิณ เข้าดูไบ จับล็อกกลับไทย

ผู้ช่วย รมว.ต่างประเทศ เผย ทักษิณ เตรียมเข้าดูไบ วันที่ 19 มี.ค.  เตรียมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรออยู่หมดแล้ว ด้าน ยูเออี จ่อจับกุมตัวให้ไทย พร้อม ประสานไปยัง มอนเตเนโกร หลังโฟนอินมาปลุกระดม...วันที่ 16 มี.ค. 2553 นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า ได้ประสานไปยังสถานทูต และกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) แล้วทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้แจ้งมาเมื่อตอนเช้าว่า จะเดินทางเข้าไปที่ดูไบในวันที่ 19 มี.ค. ซึ่งทางประเทศไทยได้ส่งข้อความที่ พ.ต.ท.ทักษิณเคลื่อนไหวปลุกระดมไปให้ทางยูเออีในช่วง 2-3 วัน ที่ผ่านมา ไปให้เป็นหลักฐานแล้ว และ เราได้รับคำตอบจากทางยูเออีว่า จะไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ยูเออีเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมืองและจะให้กลับเข้ามาที่ยูเออีไม่ได้ รวมทั้งได้มีการประสานไปยังมอนเตเนโกรว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ โฟนอินจากต้นทางเข้ามาเป็นการปลุกระดมเช่นกัน “ทางยูเออีได้รับปากเราแล้ว และได้ขอร้องเราว่าที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขับเคลื่อนทางการเมือง เพื่อที่จะสร้างสถานการณ์วุ่นวายให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ทางยูเออีก็ได้ติดตามอยู่ว่าพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ เสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง ซึ่งถ้าหาก พ.ต.ท.ทักษิณเข้าไปในยูเออีได้ เขาก็เสียหน้า อาจจะมีการจับกุมตามที่เราร้องขอไปแล้ว ดังนั้น จึงไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับเข้าไปที่ดูไบได้ ขณะนี้เราได้เตรียมเจ้าหน้าที่ของเราทั้งกงสุลใหญ่ ทูตและเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องรออยู่ที่นั่นหมดแล้ว และผมจะเป็นผู้ประสานกับรัฐมนตรีของยูเออีโดยตรงเพื่อดำเนินการ กับพ.ต.ท.ทักษิณ”นายพนิช กล่าว


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

สงครามไสยศาสตร์ เสื้อแดงสาดเลือดใส่ศัตรู ...!

สงครามไสยศาสตร์ เสื้อแดงสาดเลือดใส่ศัตรู ...!

ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์มนต์ดำกันขรมไปทั่วเมือง กับการที่แกนนำเสื้อแดง  ประกาศเจาะเลือดผู้ที่มาร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาล 3 ล้านซีซี. โดยเลือดสดๆ ล้านแรกจะนำไปราดรอบทำเนียบรัฐบาล ถ้ายังไม่ยุบสภา เลือดสีแดงฉานล้านที่ 2 จะไปราดที่หน้าพรรคประชาธิปัตย์ และเลือดล้านที่ 3 จะไปราดที่บ้านนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และยิ่งมีน้ำหนักไปกันใหญ่ เมื่อเลือดล้านซีซีแรกถูกราดลงบนพื้นดิน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 มี.ค. ตรงกับวันอังคารที่ 16 มี.ค. 53 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 ปีขาล (เป็น 1 ในนักษัตรที่ชอบดื่มเลือด) ซึ่งถือเป็นวันส่งท้ายปีฉลู และเริ่มเข้าสู่ “ปีขาล” เป็นวันขึ้นปีใหม่ หรือวัน “ตรุษไทย” เรื่องนี้ นายธนากร ตันอาวัชนการ ประธานชมรมฮวงจุ้ยกับชีวิต ฟันธงผ่าน ไทยรัฐออนไลน์ ว่า เป็นการทำไสยศาสตร์ของกลุ่มเสื้อแดง พิธีการสาดเลือดใส่สถานที่ที่เป็นยุทธศาสตร์ดังกล่าวนั้น มีลักษณะในการกระทำคล้ายการตั้งศาลของคนจีน หรือการตั้ง “ตี่จูเอี๊ย” โดยจะใช้เลือดมาทาทับเพื่อเป็นการจองทับที่ ซึ่งมีอาถรรพ์แรงๆ จึงจำเป็นจะต้องมีการสังเวยด้วยเลือดเกิดขึ้น เพื่อเป็นจับจองพื้นที่เป็นของตนเองให้อยู่เย็นเป็นสุข“การใช้วิชานี้ หมายความว่า ต้องใช้เลือดทาตรงนี้ เพื่อบอกเจ้าที่เจ้าทางว่า นี่คือที่ของฉัน สมมติว่าเวลาเราไปตั้งศาลเจ้าที่ ที่นั่นอาจจะมีอาถรรพ์แรงมากๆ ซึ่งอยู่ไป คนในนั้นอาจจะมีปัญหามากๆ เช่น ทะเลาะกัน ดังนั้นเพื่อเป็นการล้างอาถรรพ์ เขาก็เลยต้องเชือดไก่ ละเลงเลือดลงไปที่พื้น แล้วจึงตั้งศาลเจ้าที่ทับ เพื่อเป็นการบอกกับเจ้าที่ ณ ตรงนี้ว่า เราจองที่ตรงนี้เป็นของเรา เป็นวิธีที่ไม่แตกต่างไปจากที่สำนักหมอผีโบราณ ใช้ปราบผีที่สิงอยู่ในต้นไม้ ซึ่งเขาจะใช้วิธีการฆ่าหมาดำ แล้วนำเอาเลือดมาสาด แล้วผีตนนั้นก็จะสงบไป”อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเรื่องฮวงจุ้ย ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า แม้จะเป็นวิธีไสยศาสตร์ แต่ที่กลุ่มเสื้อแดงนำมาปฏิบัตินั้น ไม่ถูกต้องตามหลักโหราศาสตร์จีน เพราะเลือดที่นำมาสาดจองที่ ควรจะเป็นเลือดสัตว์เดรัจฉานมากกว่า เพราะพิธีโบราณนี้ไม่เคยมีใครใช้เลือดคน“วิธีนี้คล้ายๆ กับพิธีโบราณของสำนัก “เหมาซาน” ซึ่งเป็นวิชาการปราบผีแบบจีนวิชาหนึ่งเท่านั้น ตรงนี้ไม่เคยมีปรากฏว่า จะต้องใช้เลือดอะไรเยอะขนาดเท่าที่ผู้ชุมนุมทำ อีกทั้งเวลาเซ่นเจ้าที่ที่แรงๆ แบบนี้ เขาจะเชือดไก่แค่ตัวเดียวเท่านั้น ซึ่งส่วนมากจะเป็นเลือดของสัตว์เดรัจฉาน แต่การจะมาทำสิ่งแบบนี้กับสถานที่สำคัญ ถือว่าเป็นการไม่สมควร เพราะทำเนียบฯ เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ และมีความสำคัญมาช้านาน ผมว่าการทำแบบนี้จะเอามาเชิญเจ้าที่มันอันตรายครับ คือจริงๆ แล้ว ถ้าพิธีที่ถูกต้องจะต้องอัญเชิญเจ้าที่ 5 ทิศ แล้วก้มหยิบดินตรงกลางของทุกประตู ขอมาอุดประตูทั้งหมด ซึ่งจะส่งผลให้ประตูทำเนียบฯ นั้นหมดความเจริญ แต่เนื่องจากทางเข้าทำเนียบรัฐบาลมันมีประตูปืนตั้งอยู่ ซึ่งหากเขาจะใช้พิธีนี้จริงๆ เขาจะต้องเอาเลือดไปอุดรูปืนก่อนด้วยจึงจะสำเร็จ”ประธานชมรมฮวงจุ้ยกับชีวิต ยังกล่าวถึงวิธีแก้การทำไสยศาสตร์การสาดเลือดด้วยว่า ให้ใช้บทสวด “มหากรุณาธารณีสูตร” ของเจ้าแม่กวนอิม และใช้ “ฮู้” จีน เขียนคำ “ฮ่อ” ไปติดไว้ที่หน้าประตูทำเนียบฯ ฮ่อนั้นแปลว่าดี เป็นสัญลักษณ์ของพ่อและแม่มาพบกัน ทำให้เกิดความสงบสุข ลูกหลานมีความสุข อาจารย์ธนากรกล่าว ด้าน นายอรรถวิโรจน์ ศรีตุลา นักโหราศาสตร์ชื่อดัง กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า เป็นวิชาไสยศาสตร์ที่เน้นการแก้เคล็ด ซึ่งอาจจะเป็นวิชาที่นำมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพราะยังไม่เคยมีปรากฏว่าประเทศไทยเคยทำเรื่องแบบนี้ “นอกจากวิธีไสยศาสตร์มนต์ดำแล้ว ผมเห็นว่าเป็นจิตวิทยาในการชุมนุมเพื่อสร้างความฮึกเหิมกำลังใจให้กลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งถ้าจะเป็นเล่นกันด้วยเลือด ก็ต้องแก้ด้วยผีดูดเลือด อันนี้หมายถึงพวกปีศาจ เช่น การหารูปปั้นยักษ์ มาตั้งไว้ที่หน้าประตูเมือง แล้วก็นำสิ่งศักสิทธิ์ในระดับบ้านเมือง หรือเชิญรูปปั้นพระสยามเทวาธิราช มาเพื่อปัดรังควาน เพราะเลือดมันก็ถือว่าเป็นวิญญาณอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะช่วงนี้เหตุการณ์มันเกิดจากดาวอังคารมาใกล้โลกมาก อยู่ในวงจร แล้วดาวราหูก็มากระทบดวงเมือง แล้วดาวอาทิตย์ก็กำลังวินาศดวงเมือง วันที่ 14-15 มี.ค.นี้ ที่สำคัญเป็นวันอาทิตย์ดับแล้ว ขอให้ประชาชนทุกๆ คนระวังให้ดีๆ” ทัศนะฟันธงของทั้ง 2 ผู้รู้ข้างต้น ไม่ต่างจาก นายพิศาล เตชะวิภาค หรือ ต้อย เมืองนนท์ อุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ซึ่งเขาเปรียบเทียบเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่าน่าจะคล้ายๆ การใช้ไสยศาสตร์ ด้วยการทุบรูปปั้นที่เขาพนมรุ้ง หรือทุบพระพรหมที่สี่แยกราชประสงค์“เขาเรียกวิชาแบบนี้ว่าคุณไสยชั้นต่ำ เป็นมนต์ดำขั้นเดรัจฉานวิชาจาก 2 ประเทศคือ ลาว และเขมร โดยมนต์ดำพวกนี้ เขาจะเอาตัวเลือดมาเป็นตัวสื่อกับสิ่งเร้นลับ ไม่ว่าจะเป็นภูติ ผี ปีศาจ วิญญาณร้าย ซึ่งวิธีแก้ไสยศาสตร์นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ อย่างไรก็ดี แนะนำว่าให้ใช้พุทธคุณพระคุ้มครอง” ต้อย เมืองนนท์ กล่าวด้าน นายเก่งกาจ จงใจพระ กล่าวเสริมด้วยว่า ช่วงนี้เป็นช่วงดวงดาวมีการเปลี่ยนแปลง ดาวอังคารอยู่ในราศีกรกฎ ดาวเสาร์เดินถอยอยู่ในราศีกันย์ มันทำมุมชนกับดาวพฤหัส หมายถึงว่าดาวประจำประเทศไทย  ดาวอาทิตย์มันย้ายตอนแรก มันอยู่ราศีกุมภ์ถูกเล็ง แต่ครั้งนี้ดวงประชาธิปไตยเคลื่อนมาอยู่ราศีธนูมันเล็ง เลยเล็งไปที่ราศีเมถุน“หมายถึงว่าบ้านเมืองจะวุ่นวาย ดาวอังคารไม่มีฤทธิ์นี่ ดาวอังคารคือตัวอุบัติเหตุ เลือดตกยางออกมันยังอยู่ไกล ไม่มีแรงต้องรอให้มันลงที่ราศีกันย์ เมื่อนั้นมันจะแรง ตั้งแต่มิถุนายน ตอนนี้ต้องระวังเรื่องการระเบิด เพราะดาวอังคารหมายถึงว่า เครื่องแบบนอกราชการ หรือพวกที่ทำงานใต้ดิน มันยังซุ่มทำอะไรอยู่ เพราะมันทำมุมกับดาวมฤตยู จะเกิดอุบัติเหตุ มีการก่อวินาศกรรมภายในกลางตุลาคม และจะเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ วันนี้เป็นแค่การโหมโรง ที่สำคัญจะมีปฏิวัติปลายปีแน่นอน” โหรการเมืองชื่อดังกล่าว.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ดูไบตัดหางแม้ว!ย้ำเข้ามาอีกจับแน่

ดูไบตัดหางแม้ว!ย้ำเข้ามาอีกจับแน่



คมชัดลึก : ดูไบตัดหางแม้ว! บัวแก้วประสานยูเออีตะเพิดพ้นดูไบ ย้ำเข้ามาอีกเตรียมล็อก พร้อมประสานมอนเตเนโกส่งหลักฐานแม้วปลุกระดมไปให้อีก






 หลังจากสื่อท้องถิ่นประเทศมอนเตเนโกรนำเสนอข่าวยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พำนักอยู่ในมอนเตเนโกร ขณะนั่งจิบกาแฟ กินขนมเค้กร่วมกับผู้ติดตามที่โรงแรมหรูริมทะเล ซึ่งเป็นการยืนยันครั้งแรกว่า พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่ที่ใดในระหว่างเหตุวุ่นวายทางการเมืองในไทยตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม ล่าสุดมีรายงานอีกว่า ทางการสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือยูเออี ที่ พ.ต.ท.ทักษิณพำนักอยู่เป็นประจำเตรียมที่จะให้ความร่วมมือกับไทยในการจับกุม พ.ต.ท.ทักษิณ และจะไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ พำนักอยู่ที่นั่นอีกต่อไป
 นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวยืนยันว่า ประสานไปยังสถานทูตและกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) แล้วทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจรัฐบาลกัมพูชา ได้แจ้งมาเมื่อเช้า (16 มี.ค.) ว่าจะเดินทางเข้าไปที่ดูไบในวันศุกร์ที่ 19 มีนาคม ซึ่งไทยได้ส่งข้อความที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวปลุกระดมไปให้ยูเออีในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ไปให้เป็นหลักฐานแล้ว และได้รับคำตอบจากยูเออีว่าจะไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ใช้ยูเออีเป็นฐานเคลื่อนไหวทางการเมือง และจะให้กลับเข้ามาที่ยูเออีไม่ได้ รวมทั้งได้ประสานไปยังมอนเตรเนโกรว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณโฟนอินจากต้นทางเข้ามาเป็นการปลุกระดมเช่นกัน
 “ทางยูเออีได้รับปากเราแล้ว และได้ขอร้องเราว่าที่ พ.ต.ท.ทักษิณขับเคลื่อนทางการเมืองเพื่อที่จะสร้างสถานการณ์วุ่นวายให้เกิดขึ้นในประเทศไทย ทางยูเออีก็ได้ติดตามอยู่ว่าพฤติกรรมของ พ.ต.ท.ทักษิณ เสี่ยงที่จะก่อให้เกิดความรุนแรง ซึ่งถ้าหาก พ.ต.ท.ทักษิณเข้าไปในยูเออีได้ เขาก็เสียหน้า อาจจะมีการจับกุมตามที่เราร้องขอไปแล้ว ดังนั้น จึงไม่เชื่อว่า พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับเข้าไปที่ดูไบได้ ขณะนี้เราได้เตรียมเจ้าหน้าที่ของเราทั้งกงสุลใหญ่ ทูต และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรออยู่ที่นั่นหมดแล้ว และผมจะเป็นผู้ประสานกับรัฐมนตรีของยูเออีโดยตรงเพื่อดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ” นายพนิชกล่าว
สถานทูตสหรัฐไม่รับ-ไม่ปฏิเสธ
 แหล่งข่าวสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวว่า สถานทูตจะไม่ยอมรับและปฏิเสธข่าวที่รัฐบาลสหรัฐส่งคำเตือนมายังรัฐบาลไทยเรื่องการก่อวินาศกรรมใน กทม. แต่ก็สงสัยว่าข่าวดังกล่าวมาจากไหนจึงไม่สามารถให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้
 นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง  








ข่าวที่เกี่ยวข้องทักษิณยังเหลือไพ่ใบไหนอีกเปิดกรุทรัพย์ยึดเข้าคลัง4.6หมื่นล.เล็งกวาดเงินสด4หมื่นล้านหลั่งเลือด(ร้าย)สาระ "กดดันอย่างอื่นก็ได้"ทัศนะ...เจาะเลือดละเลงทำเนียบนิวยอร์กไทมส์ชี้เสื้อแดงเริ่มลดลงทยอยกลับบ้าน

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Blog Archive