Wednesday, March 17, 2010

มาร์คแจงปมจีที200 อู้อี้ยังไม่ตั้งกก.สอบทุจริต

มาร์คแจงปมจีที200 อู้อี้ยังไม่ตั้งกก.สอบทุจริต

มาร์คแจงปมจีที200 อู้อี้ยังไม่ตั้ง กก.สอบทุจริต อ้างขอดูรายงานคนใช้งานก่อน เฉไฉป้องคนจัดซื้อทำหนังสือถามทูตอังกฤษ โบ้ยบริษัทส่งออกโฆษณาเกินจริง...เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 17 ก.พ.2553 ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีเครื่องตรวจวัตถุระเบิดจีที200 ใช้ไม่ได้ผลสั่งระงับการการจัดซื้อว่า อยากย้ำอีกครั้งว่าที่ผ่านมาการใช้เครื่องมือนี้ไม่ได้ใช้การโดยลำพังเช่น การตรวจค้นต่างๆเพราะเป็นตัวที่ใช้เบื้องต้นเท่านั้น ดังนั้นหากคนที่สมมติว่าถูกไปค้นไม่มีตัวสารหรือวัตถุระเบิดหรือของต้องห้ามใดๆก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ และใครที่เห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถร้องเรียนมาได้เพราะในตอนนี้ ได้วางระบบการร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้อำนาจต่างๆในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ อยู่แล้วและขอให้ร้องเรียนมาเพราะมีคณะกรรมการอยู่ ซึ่งศูนย์ร้องเรียนนี้ รัฐบาลนี้ได้เริ่มต้นขึ้นมาใหม่โดยมีระบบซึ่งมีนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกฯดูแลและมีการกำกับลงมาโดยจะช่วยดูแลให้เกิดความเป็นธรรม หากเห็นว่ามีความจำเป็นและเสียหายก็จะช่วยเหลือเยียวยาได้ ส่วนแนวปฏิบัติของเจ้าหน้าที่นั้นมีการซักซ้อมตลอดเวลา ส่วนการแก้ปัญหาเพื่อนำเครื่องมือใหม่มาใช้แทนเครื่องมือจีที200 เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เสี่ยงภัยนั้น ขอเรียนว่าตนเข้าใจ เมื่อวันที่16ก.พ.ตน ได้เชิญพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.มาพบในช่วงการประชุมครม.และบอกไปว่าให้เร่งจัดทำแผนรองรับและจัดทำแนว ปฏิบัติหลังจากที่ไม่ใช้เครื่องมือจีที200 แล้ว ดังนั้นตอนนี้อยู่ระหว่างการลงไปดูและจัดทำแผน รวมทั้งดำเนินการทำความเข้าใจส่วนข้อเสนอของ นางอังคณา นีละไพจิตร ประธานคณะทำงานยุติธรรมเพื่อสันติภาพ ที่ให้รัฐบาลหรือนายกฯควรขอโทษหรือแสดงความเสียใจกับประชาชนในการใช้ เครื่องมือนี้ละเมิดสิทธิประชาชนในการตรวจสอบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอย้ำตามที่ตนชี้แจงไปแล้ว 1.ตน ได้รับการยืนยันจากหน่วยปฏิบัติว่าการปฏิบัติกับประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่ไปบอกว่าการใช้เครื่องมือนี้และไปดำเนินคดีต่างๆนั้น ไม่มีกรณีแบบนั้นเพราะไม่ได้ใช้เครื่องจีที200 แล้วเป็นข้อยุติ เพราะมันเป็นอุปกรณ์เบื้องต้น 2.เราจะเห็นว่าเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติแสดงความเชื่อมั่นและไม่ทราบจริงว่าเครื่องมือนี้มีปัญหา และเหตุที่มีปัญหานั้นเพิ่งมาแพร่หลายในช่วงปลายเดือนธ.ค.2552 ถึงต้นเดือนม.ค.2553ที่ต่างประเทศเผยแพร่เรื่องนี้ขึ้นมา แต่รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะสิ่งที่รัฐบาลกระทำทันทีคือขอให้ทดสอบและ ทดลองเพื่อให้ทุกฝ่ายยอมรับได้ และตนถือว่าเราได้แสดงความรับผิดชอบอย่างชัดเจนแล้วกับสิ่งที่เกิดขึ้น ส่วนปัญหาอื่นๆที่ต้องติดตามต่อไปนั้นต้องดูจากผลการรายงานการใช้เครื่องมือ นี้ทั้งหมดและเราคิดว่าใครที่โดนละเมิดสิทธินั้น ตามที่ตนบอกไว้ในข้างต้นเพราะมีช่องทางอยู่และจะให้ความเป็นธรรมรวมทั้งให้ การเยียวยาเมื่อถามว่า ต้องเร่งรัดหรือไม่เพราะกองทัพบกเคยศึกษาการใช้เครื่องจีที200 แล้ว และพบว่ามีเครื่องมือตัวอื่นที่มีมาตรฐานแต่ราคาสูงกว่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นเครื่องมือที่ใช้คนละวัตถุประสงค์กัน เครื่องมือตัวนั้นใช้ในช่วงที่เราค่อนข้างรู้ที่หมายแน่นอนแล้วและเข้าไป ตรวจสอบว่ามีสารต่างๆหรือวัตถุใดๆหรือไม่ แต่เครื่องจีที200 ที่ใช้กันมานั้นนำไปใช้ในลักษณะการตรวจพื้นที่ให้เห็นภาพกว้างก่อนเพื่อจำกัดวงหรือขีดวงพื้นที่เพื่อที่จะใช้อุปกรณ์อื่นเข้าไปได้ ขณะนี้ต้องถามว่ามีอะไรเข้าไปใช้แทนในเชิงอุปกรณ์หรือไม่สำหรับการตรวจค้น ลาดตระเวน ตรวจสอบพื้นที่กว้าง คำตอบคือยังไม่มี แต่เครื่องมือที่เราใช้ในการตรวจสอบเมื่อพื้นที่ขีดจำกัดแล้วนั้น เครื่องมือนั้นมีอยู่ ด้านความเสี่ยงภัยของเจ้าหน้าที่นั้น จะมีแผนใหม่รองรับหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จะเร่งให้เร็วที่สุดเพราะขอเรียนตรงๆว่าปัญหาที่เกิดขึ้นใน ช่วงที่ผ่านมาคือทุกคนต้องการเครื่องมือตัวนี้และส่วนตัวเข้าใจว่าทำไมหลาย ประเทศจึงซื้อเพราะต้องการมีเครื่องมือตัวนี้ทั้งสิ้น แต่เมื่อพิสูจน์ว่ามันใช้การไม่ได้ก็ต้องบอกตามตรงว่าจริงๆแล้วที่ผ่านมาทุก คนปฏิบัติหน้าที่บนความเสี่ยงด้วยกันทั้งนั้น ทั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ ยอมรับมีความวิตกว่าผู้ก่อเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ จะใช้ช่องว่างจากเรื่องปัญหาเครื่องจีที200 ลอบมาก่อเหตุซึ่งเมื่อวันที่ 16 ก.พ.ตน ก็ได้เรียนกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯและผบ.ทบ.ว่าต้องระวังเรื่องนี้ ตนจึงบอกว่ากระบวนการที่ต้องไปพูดคุยให้กำลังพลมีขวัญและกำลังใจนั้นมันจำ เป็น ตนจึงหลีกเลี่ยงการตอบคำถามว่าจะออกคำสั่งแบบนั้นแบบนี้หรือไม่เพราะมันจะ กระทบกระเทือนมาก พูดกันตรงไปตรงมาและโดยหลักแล้วหากพิสูจน์แล้วว่ามันใช้ไม่ได้เราก็อยากให้ เป็นไปในทิศทางเดียวกันโดยที่กระทบกับประเด็นเหล่านี้ตนจึงบอกว่าควรให้ หน่วยงานต่างๆทำความเข้าใจกัน ส่วนกรณีบริษัทเมเปิลครอฟต์จำกัดของอังกฤษที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านความเสี่ยง จัดอันดับความเสี่ยงต่อการก่อการร้ายในประเทศต่างๆ โดยระบุว่าไทยนั้นเลื่อนอันดับจากอันดับที่11มาเป็นอันดับที่9ของโลก นายกฯกล่าวว่า ได้มีการอ้างอิงเหตุระเบิดที่อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาสโดยขยับขึ้นมาสองอันดับนั้น แต่เราเชื่อว่าในตอนนี้สถานการณ์จริงๆก่อนที่จะเกิดเรื่องเครื่องจีที200นั้น สถานการณ์ที่ดำเนินการอยู่และได้ประเมินออกมาในระยะหลังนั้นพบว่ามีแนวโน้ม ที่ดีขึ้นไม่ใช่แย่ลงและไม่ได้ประเมินจากความถี่ของเหตุการณ์แต่ว่าการเข้า ถึงประชาชนและมวลชนในพื้นที่ต่างๆและมีการตอบสนองในเชิงบวกต่อนโยบายการ พัฒนาหลังจากในช่วงแรกหลายพื้นที่นั้นพูดกันตรงๆว่าไม่มีความไว้ใจเจ้า หน้าที่และภาครัฐว่าจะเข้าไปทำโครงการที ่เกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่ แต่ในช่วง2-3เดือนหลังมานี้มันเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และตอนนี้เครื่องจีที200 มีปัญหาขึ้นมา แน่นอนว่าจะส่งผลกระทบกับขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติ พร้อมๆกับการปรับเปลี่ยนแนวทางของฝ่ายตรงข้ามเมื่อถามว่า เรื่องนี้จะส่งผลสะเทือนกับการจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งนี้ทำให้ตนต้องไปดูเรื่องระบบเพราะตนสอบถามเบื้องต้นกับผบ.ทบ.แล้วและให้ส่ง รายงานมาเพราะการจัดซื้ออุปกรณ์ลักษณะนี้เป็นการตัดสินใจของแต่ละหน่วย ปฏิบัติและสามารถทำได้ เมื่อถามว่า จะเรียนรู้จาก เรื่องนี้เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการจัดซื้ออุปกรณ์ที่ไร้ประสิทธิภาพต่อไป อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯจะมีข้อเสนอแนะในเรื่องนี้มาด้วยและส่วน ตัวตั้งใจจะคุยเรื่องนี้กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมในวันที่18ก.พ.เพราะตนยังต้องเดินหน้าคุยกับแต่ละกระทรวงอยู่ และในวันนี้ตนได้คุยไปกับสามกระทรวงแล้ว เมื่อถามว่า จากนี้ไปหากกองทัพจะจัดซื้ออุปกรณ์นั้นต้องสอบถามหน่วยงานอื่น เพื่อตรวจสอบก่อนหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากเป็นอุปกรณ์ต่างๆนั้นเราอยากให้มีความมั่นใจของเทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้ว ด้านการตั้งข้อสังเกตการซื้อเครื่องจีที200 ของกระทรวงต่างๆที่ราคาแตกต่างกัน และตอนนี้กระทรวงมหาดไทยสั่งซื้อมากที่สุดจะไปตรวจสอบหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทุกหน่วยที่ใช้เครื่องมือนี้ต้องรายงานมาและหากถามส่วนตัวนั้น จากประสบการณ์พบว่าฝ่ายปฏิบัติมักอยากได้อุปกรณ์นี้ที่มาจากความเชื่อหรือ เหตุผลใดๆนั้นก็ไม่ทราบแต่หลายคนยืนยันว่าการใช้งานนั้นได้ผลเเละอยากได้ อุปกรณ์เพิ่ม และเห็นว่าบางคนยังยืนยันว่าจะใช้งานต่อทั้งๆที่มีการพิสูจน์แล้วเช่นนี้ ส่วนราคาที่แตกต่างกันและอาจเอื้อประโยชน์กันนั้น หากเป็นเรื่องของส่วนต่างนั้น ไม่ว่าเครื่องมือนี้จะใช้ได้หรือไม่ มันต้องมีการลงโทษอย่างแน่นอนและเรื่องนี้ต้องไปดูด้วย แต่ตนคิดว่าผู้ที่ผลิตเครื่องมือนี้ขึ้นมาก็ฉลาดที่จะรู้ว่า จะมีความต้องการ เพราะความเชื่อของคนที่เชื่อว่าใช้ได้นั้นมันเหมือนเป็นสิ่งที่คาดเดาได้ จึงทำให้40กว่าหน่วยงานทั่วโลกซื้อเครื่องมือนี้มา และแม้จะพิสูจน์เครื่องมือนี้ไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัระดับล่างติยืนยันว่ามีความเชื่อว่าเครื่องมือนี้ยังใช้ได้และไม่ได้เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง ขณะที่ข้อเสนอของ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สำนักนิติวิทยาศาตร์ กระทรวงยุติธรรมที่เสนอว่าควรใช้เครื่องมือนี้ต่อไปแต่ต้องระงับการจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มเติม นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หากเป็นกรณีที่นำเครื่องมือไปใช้ตรวจระเบิดและมีความเสี่ยงนั้นคง ไม่ได้เพราะต้องให้ผู้ที่นำไปใช้รู้ว่าความเสี่ยงคืออะไรและตนเพิ่งสอบถาม นายพีรพันธุ์ สารีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรมว่าพญ.คุณหญิงพรทิพย์ใช้เครื่องมือนี้ทำอะไรและได้รับคำตอบว่า ใช้ตรวจสารและสถานที่เกิดเหตุ และไม่มีความเสี่ยงกับพญ.คุณหญิงพรทิพย์ จริงๆแล้วเมื่อพิสูจน์ได้ว่าไม่มีผลก็น่าจะยอมรับจุดนี้ ขณะที่จะมีการแเต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องมือนี้ในแต่ละช่วงเวลาของแต่ละหน่วยงานด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวนั้นจะดูจากรายงานและระบบว่าต้องแก้ไขจุดใด รายงานชิ้นนี้ต้องให้เวลาแต่ละหน่วยงานรวบรวมมา ส่วนตัวระบบนั้นตนต้องหารือกับรมว.กลาโหมก่อน เมื่อถามว่า จะตรวจสอบเครื่องอัลฟา-6ที่ กระทรวงมหาดไทยจัดซื้อและนำมาใช้ด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอนนี้กระทรวงมหาดไทยระงับการใช้อยู่และขอให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ไปตรวจสอบ หากถามตนนั้นมันมีอุปกรณ์ในลักษณะเดียวกันหลายยี่ห้อและคาดว่า น่าจะเป็นเรื่องเดียวกันเพราะว่ามันอ้างอิงทำนองเดียวกันในเรื่องวิธีการทำงาน ซึ่งตนจะสอบถามไปยังกระทรวงต่างๆว่ามีความจำเป็นแค่ไหนอย่างไรและจะนำมาเปรียบเทียบอุปกรณ์ดูก็ได้ว่าแตกต่างกันอย่างไร และสิ่งที่เคยทราบมาอย่างเดียวคือ เป็นเรื่องการไม่ต้องใช้ไฟฟ้าสถิตในตัวคนส่วนจะร้องเรียนไปยังประเทศอังกฤษที่เป็นประเทศต้นทางของบริษัทเหล่า นี้ให้รับผิดชอบด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนก็ติดใจอยู่เพราะมีการพยายามอ้างว่าอังกฤษไม่มีอำนาจใดๆไปดำเนินการ แต่ตนจะไปสอบถาม โดยตั้งใจจะทำหนังสือสอบถามไปยังสถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำประเทศไทยเพื่อสอบถามเพิ่มเติมเพราะในครั้งที่เคยมาให้ข้อมูลตนก็สอบถามไปแล้ว และได้รับข้ออ้างว่าเครื่องมือนี้ รัฐบาลอังกฤษไม่ได้จัดว่าเป็นยุทโธปกรณ์และเป็นผลิตภัณฑ์ที่เปิดให้สามารถที่จะขายและส่งออกได้ ตนก็แปลกใจว่ากรณีที่เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งไม่ได้มีคุณสมบัติตามสรรพคุณที่โฆษณาไว้มันก็ไม่น่าจะดำเนินการได้ เมื่อถามว่า ประเด็นใดที่จะสอบถาม นายกฯกล่าวว่าในประเด็นที่ว่า ความรับผิดชอบต่อปัญหาในการโฆษณาเกินจริงและส่งออกจะรับผิดชอบอย่างไรบ้าง เมื่อถามว่า จะให้อังกฤษชดใช้ความเสียหายหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังรวบรวมทั้งหมดเพราะต้องดูด้วยว่าการจัดซื้อทั้งหมดนั้น กระบวนการผ่านใครและอย่างไรบ้าง


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive