Wednesday, March 17, 2010

กดดันอย่างอื่นก็ได้ทัศนะ...เจาะเลือดละเลงทำเนียบ

กดดันอย่างอื่นก็ได้ทัศนะ...เจาะเลือดละเลงทำเนียบ



คมชัดลึก :การยกระดับกดดันรัฐบาลของแกนนำกลุ่มเสื้อแดง ด้วยการเจาะเลือดให้ได้ 1 ล้านซีซี เพื่อนำไปเทราดหน้าทำเนียบรัฐบาล โดยไม่ได้ตกลงหรือบอกกล่าวผู้ชุมนุมล่วงหน้า สร้างความปั่นป่วนรวนเรในกลุ่มผู้ชุมนุมพอสมควร ?!!






 หลายคนไม่ได้เตรียมใจไว้ล่วงหน้าว่าจะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้ หลายคนเกิดความไม่แน่ใจว่าการเจาะเลือดจะส่งผลกระทบต่อร่างกายหรือไม่ และอีกจำนวนไม่น้อยหวั่นหวาดกับมาตรการเจาะเลือด ที่อาจเกิดโรคติดต่อร้ายแรง เช่น ไวรัสตับอักเสบบีและเอชไอวี/เอดส์ และหรือถ้ามีเข็มมากพอใครจะเป็นคนเจาะ สารพันคำถามเหล่านี้เกิดขึ้นตั้งแต่บ่ายวันที่ 15 มีนาคมเป็นต้นมา บรรดาผู้ชุมนุมต่างจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องนี้ในวงกว้าง
 "จำปา" หญิงสาวกลางคนจากขอนแก่น วัย 50 เศษ เก็บความสงสัยในใจไว้ไม่อยู่ ถึงกับโทรศัพท์กลับไปถามลูกสาวที่เป็นพยาบาลว่า การเจาะเลือด 10 ซีซีนั้นมันมีจำนวนมากขนาดไหนกันแน่ และเมื่อเจาะไปแล้วจะมีอันตรายต่อร่างกายหรือไม่ ก็ได้รับคำตอบจากลูกสาวว่าเลือดที่เจาะไป 10 ซีซี จะไม่มีผลต่อร่างกายมากนัก แต่สิ่งที่น่ากังวลคือใครเป็นคนเจาะ และมีความชำนาญมากน้อยแค่ไหน สิ่งสำคัญอีกอย่างคืออุปกรณ์เจาะเลือดสะอาดปลอดภัยหรือไม่ ?
 แม้ว่าตลอดช่วงบ่ายของวันวานบรรดาแกนนำจะประชาสัมพันธ์ให้ทราบตลอดว่า ได้ติดต่อโรงพยาบาลกว่า 20 แห่ง และระดมเข็มมามากเพียงพอต่อกลุ่มผู้ชุมนุม กระนั้นจำปาก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีจนถึงขั้นกลัวว่า เจ้าหน้าที่เจาะเลือดจะมีความชำนาญมากพอหรือไม่ เธอลังเลและขอผลัดการตัดสินใจเป็นเช้าวันที่ 16 มีนาคม ถึงตอนนั้นจึงจะให้คำตอบได้ว่าจะบริจาคเลือดกดดันรัฐบาลด้วยหรือไม่
 "ถ้าเจ้าหน้าที่มีความน่าเชื่อถือก็ยินดีนะ แต่ถ้าไม่ก็ไม่เอาด้วยหรอก" จำปาให้ความเห็น
 ด้วยวัยที่อ่อนกว่าและอาจจะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากกว่า "วรุณี" วัย 34 ปีจากอุดรธานี ถึงกับส่ายหัวปฏิเสธ เมื่อถูกถามว่าพร้อมจะบริจาคเลือดนำไปเทราดที่หน้าทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ ?
 "พอแกนนำกลุ่มบอกให้พวกเขาไปบริจาคเลือด เอาไปเทที่นั่นที่นี่ เจาะมันไปเรื่อยๆ ทุกวัน ฉันและเพื่อนๆ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง เราควรจะทำอย่างอื่นที่ดีกว่านี้นะ กดดันอย่างอื่นก็ได้ เจาะเลือดอย่างนี้มันไม่ได้ประโยชน์อะไร ราดไปแล้วรัฐบาลเดือดร้อนอะไร เขาก็แค่ให้คนมาล้างออก"
 วรุณีกับเพื่อนจากอุดรธานี ได้พูดคุยเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมชุมนุมอีกหลายคนจากจังหวัดต่างๆ หลายคนไม่เห็นด้วยเหมือนกับเธอ เนื่องจากไม่มั่นใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และเกรงว่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้นระหว่างการเจาะเลือดคนจำนวนมากๆ ในคราวเดียวกัน 
 ก่อนเดินทางมาครั้งนี้ วรุณีกับเพื่อนคิดว่าจะมาอยู่ร่วมประท้วงเพียง 3 วันแค่นั้น แต่หลังจากดูสถานการณ์แล้วเชื่อว่าการชุมนุมจะยืดเยื้อ เธออดเป็นห่วงบ้านไม่ได้ แต่ก็จนปัญญาไม่สามารถกลับได้อย่างที่คิด เนื่องจากรถที่โดยสารมาเกิดความขัดแย้งกันเอง เจ้าของรถหนีกลับไปก่อนหน้านี้แล้ว ปล่อยให้เธอกับเพื่อนอีก 5 คนเคว้งคว้างอยู่ที่นี่อย่างไม่รู้ชะตากรรม
 ความเห็นเรื่องบริจาคเลือดถูกแบ่งออกเป็น 3 ฝ่ายอย่างชัดเจน คือ ไม่เห็นด้วย ลังเลรอตัดสินใจ กับมุ่งมั่นจะบริจาคเลือดเหมือนอย่าง "ดนัย" วัย 47 ปี จากอุบลราชธานี ที่แสดงออกอย่างเปิดเผยว่าพร้อมจะบริจาคเลือดเอาไปเทหน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อกดดันให้รัฐบาลยุบสภาและนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับเข้ามาเมืองไทยและขึ้นบริหารประเทศอีกครั้ง ?!!
 "ถ้าม็อบนี้จะเจาะเลือด 10 ครั้ง ผมและอีก 4 ชีวิตในครอบครัวก็จะบริจาคทุกครั้ง อยากให้รู้ว่าคนต่างจังหวัดก็มีความสำคัญไม่น้อยกว่าคนกรุงเทพฯ ที่สำคัญเราเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ เรามีสิทธิมีเสียงที่จะเรียกร้องตามระบอบประชาธิปไตยเหมือนกัน"
 ดนัยเป็นชายร่างสูงใหญ่ แต่ก็ยอมรับอย่างไม่อายว่ากลัวเข็ม ยามเจ็บไข้ได้ป่วยจะหลีกเลี่ยงไม่ไปโรงพยาบาล แต่เพื่อการเรียกร้องครั้งนี้ยินดีที่จะให้เจ้าหน้าที่ใช้เข็มเจาะร่างกายเอาเลือดออกมาล้างคอนกรีตหน้าทำเนียบ อย่างไรก็ดีอีก 3 ชีวิตที่เหลือของครอบครัวดนัยไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธเหมือนอย่างที่เขาบอกต่อ "คม ชัด ลึก"
 ส่วนบรรยากาศตอนเช้าในการรับบริจาคเลือด เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ไม่ขอรับบริจาคเลือดจากผู้ที่เป็นโรคติดต่อและอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ โดยมีแกนนำทยอยเจาะเลือดทีละคน สำหรับเข็มที่ใช้แล้วจะทิ้งเลยทันที ป้องกันโรคติดต่อทางเลือด จากการประเมินด้วยสายตาคร่าวๆ มีผู้ชุมนุมอยู่ที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศราว 6 หมื่นคน แต่ไม่ไช่ทั้งหมดที่จะร่วมบริจาค ดังนั้น เลือดที่ได้วันนี้อาจจะไม่ถึง 1 ล้านซีซีอย่างที่แกนนำตั้งเป้าไว้
 "บุญมา" วัย 35 ปี มายืนรอเข้าแถวตั้งแต่ 9 โมงเช้า กว่าจะได้เจาะเลือดก็กินเวลานานพอดู เนื่องจากแพทย์มีไม่พอกับจำนวนคน ชายหนุ่มจากเมืองชลบุรี บอกว่า เต็มใจถึงแม้จะร้อนและใช้เวลานานก็ยินดี และพร้อมจะบริจาคเลือดทุกครั้งที่มีการร้องขอ เช่นเดียวกับ "เยาวมาลย์" จากปทุมธานีที่ชี้ว่าต้องการให้ พ.ต.ท.ทักษิณกลับประเทศไทย และเชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่มีมาตรฐานพอไม่ทำให้ผู้บริจาคเลือดติดโรคติดต่อหรือเกิดอันตราย
 ทั้งนี้แพทย์ที่เจาะเลือดเป็นอาสาสมัครที่มาจาก รพ.ศิริราช พระราม 9 จุฬาฯ อุบลฯ ขอนแก่น และหนองคาย เป็นต้น หลังจากเจาะเลือดผู้ชุมนุมคนละ 10 ซีซีแล้วได้นำไปเทลงขวดขนาด 5,000 ซีซี ใส่สารป้องกันเลือดแข็งตัว ก่อนจะนำไปเทหน้าประตูทำเนียบรัฐบาลในช่วงเย็นวันเดียวกัน  








ข่าวที่เกี่ยวข้องช่างภาพข่าวสดแจ้งความถูกชิงกระเป๋าหน้า"ปชป."ปณิธานรับกังวลเสื้อแดงเตรียมบุกบ้านอภิสิทธิ์พรุ่งนี้ ส.นักข่าวจี้ตร.ตามล่ามือดีกระชากกระเป๋าช่างภาพนิวยอร์กไทมส์ชี้เสื้อแดงเริ่มลดลงทยอยกลับบ้านจตุพรแจงเคลื่อนพลเทเลือดบ้านอภิสิทธิ์17มี.ค.เช้า

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive