Wednesday, April 28, 2010

ชวนนท์ปัดนานาชาติ ส่งคนสังเกตการณ์ม็อบแดง

ชวนนท์ปัดนานาชาติ ส่งคนสังเกตการณ์ม็อบแดง

รับยูเอ็นร่อนสารแสดงความห่วงใยสถานการณ์การเมืองไทย แต่ยืนยันไม่ขอก้าวก่ายกิจการในประเทศ ยอมรับ “ทักษิณ” ประกาศตัวเป็นพลเมืองมอนเตเนโกร ทำให้การล่าตัวกลับมาดำเนินคดีทำได้ยากขึ้น.... เมื่อวันที่ 28 เม.ย.นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต เลขานุการนายกษิต ภิรมย์ รมว. ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนายกษิต ภิรมย์ รมว. ต่างประเทศ ระบุมีต่างประเทศขอเข้ามาสังเกตการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงใน ประเทศไทย ว่า นายกษิต เพียงพูดในหลักการว่า ขณะนี้มีการชุมนุมยืดเยื้อ มีการใช้ความรุนแรง จึงเชื่อว่า อาจมีความพยายามจากบางกลุ่มโยงเรื่องนี้ให้เป็นปัญหาระดับชาติ เพื่อให้ต่างประเทศเข้ามาไกล่เกลี่ย จึงฝากให้ ส.ส.ประชาธิปัตย์ ไปทำความเข้าใจกับประชาชนว่า สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลไปรังแกประชาชน หรือละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่เป็นเรื่องกลุ่มมือที่ 3 กลุ่มติดอาวุธมาตั้งกองกำลังก่อการร้ายในประเทศ จึงขอให้ช่วยกันทำความเข้าใจ เพราะไม่อยากให้ปัญหาถูกเชื่อมโยงแล้วพัฒนาไปสู่จุดที่ทำให้ใครเข้ามาแทรกแซง แต่ไม่ได้หมายความว่า ขณะนี้จะมีใครเข้ามาแทรกแซง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ขณะนี้ไม่มีประเทศใด ติดต่อขอเข้ามาสังเกตการณ์ในไทย มีแต่แสดงความเห็นใจ และเข้าใจรัฐบาลที่ต้องใช้ความอดทนในการแก้ไขปัญหา ส่วนการจะตัดสินใจจะให้ใครเข้ามาช่วยเหลือหรือไม่ ถือเป็นเรื่องของรัฐบาลไทย แต่ยอมรับว่าเมื่อเร็วๆ นี้ นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ส่งสารแสดงความห่วงใยมายังรัฐบาลไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลังจากเราได้ทำความเข้าใจกับสำนักงานยูเอ็นในไทย เขาก็ระบุว่าเข้าใจสถานการณ์ และเห็นว่าเป็นเรื่องภายในของประเทศไทย ไม่ใช่เรื่องที่ต่างชาติจะเข้ามายุ่งเกี่ยว นายชวนนท์ กล่าวว่า ส่วนการติดตามตัว พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมาดำเนินคดีในไทย ภายหลังพ.ต.ท.ทักษิณ ประกาศตัวเป็นพลเมืองประเทศมอนเตเนโกรนั้น ยอมรับว่า ทำให้การติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มีความลำบากมากขึ้น เพราะเอกสารที่ทางการไทยทำถึงประเทศต่างๆ ไม่ตรงกัน อย่างไรก็ตามไม่คิดว่าจะเป็นปัญหาเพราะประเทศส่วนใหญ่รู้จัก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างดีแล้ว.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

บิ๊กจิ๋วเตรียมบุกศอฉ.30เมย.หวังเคลียร์แบล็คลิตส์

บิ๊กจิ๋วเตรียมบุกศอฉ.30เมย.หวังเคลียร์แบล็คลิตส์



คมชัดลึก : "เด็กบิ๊กจิ๋ว"เผยผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยเตรียมเปิดแถลงป้องบิ๊กจิ๋วบ่ายนี้ ชวรัตน์โยนวงศ์ศักดิ์อ้างเป็นหน้าที่ปลัดในดำเนินการ ขู่ผู้ว่าฯจัดการม็อบเสื้อแดงไม่ได้มีเจอระลอกสอง บวรศักดิ์หวังปลูกจิตสำนึกเยาวชนลดปัญหาแบ่งสีในอนาคต






 (28เม.ย.) ที่รัฐสภา นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย คนใกล้ชิดของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)เตรียมออกหมายเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้อง รวมถึงพล.อ.ชวลิต โยงเกี่ยวกับขบวนการล้มเจ้านั้นว่า ในส่วนของพล.อ.ชวลิต ขอยืนยันไม่เป็นความจริง และไม่มีแนวคิดดังกล่าวทั้งสิ้น
 ในเรื่องนี้ทำให้ตัวแทนกลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่ได้เชิญ พล.อ.ชวลิต ไปเป็นประธานในการเปิดการรวมตัวประชุมในวันที่ 29 เมษายนนี้ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ไม่รู้สึกสบายใจ ทำให้ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยต้องเดินทางเข้ามายังรัฐสภา เพื่อเปิดแถลงชี้แจงข้อเท็จจริงและวัตถุประสงค์ของการจัดงานดังกล่าว ในช่วงบ่ายวันนี้(28เม.ย.)ที่ห้องประชุมวิปฝ่ายค้านชั้น 3 ที่รัฐสภาพร้อมจะนำวีซีดีของพล.อ.ชวลิต ฉบับเต็มๆมาชี้แจงหลังพรรคภูมิใจไทย ได้นำมาตัดต่อเสียงในส่วนของพล.อ.ชวลิต พูดมาเพียง 1.19นาที อย่างไรก็ตามจะนำหนังสือเรื่อง”ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์”ที่ พล.อ.ชวลิต นำไปแจกด้วยในการไปร่วมงานครั้งนั้นเพื่อยืนยันถึงเจตนาที่แท้จริง ไม่เคยคิดล้มล้างสถาบัน
 "บิ๊กจิ๋ว"เตรียมบุกศอฉ.30เมย.หวังเคลียร์แบล็คลิตส์
  พล.ท.เชวงศักดิ์ ทองสลวย นายทหารคนสนิทพล.อ.ชวลิต เปิดเผยว่าในวันที่ 30 เมษายน เวลา 10.00 น. พล.อ.ชวลิต จะเดินทางไปยังศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เพื่อพบกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ ผอ.ศอฉ. เนื่องจากพล.อ.ชวลิต ทราบมาว่าจะมีการออกหมายเรียกให้ไปรายงานตัวต่อศอฉ. จากการที่ตัวเองมีชื่ออยู่ในแผนผังที่ศอฉ.อ้างว่ามีความเกี่ยวข้องกับขบวนการล้มสถาบัน โดยพล.ชวลิต จะเดินทางไปโดยไม่มีหลักฐานใดๆ ไปชี้แจงกับ ศอฉ. จะมีก็แต่เพียงความดีที่ติดตัวไปเท่านั้น  โดยการไป ศอฉ. ครั้งนี้ พล.อ.ชวลิต จะไปโดยไม่รอให้ทาง ศอฉ. มีหมายเรียก
“ชวรัตน์”โยน“วงศ์ศักดิ์”อ้างเป็นหน้าที่ปลัดในดำเนินการ
 ที่กรมโยธาธิการ นาย ชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทยจำนวน 6 ตำแหน่ง ว่า เป็นเรื่องของความเหมาะสม ส่วนในรายละเอียดต้องไปถามนายมานิต วัฒนเสน ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพราะตนย้ายได้เพียงคนเดียวคือปลัดกระทรวงมหาดไทย ต่ำกว่าปลัดกระทรวงเป็นเรื่องของปลัดจะเสนอขึ้นมาให้นำสู่คณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณา
 เมื่อถามว่า เหตุผลที่ปลัดกระทรวงมหาดไทยนำเสนอ และนายชวรัตน์เห็นด้วย ในส่วนของนายวงศ์ศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ อธิบดีกรมการปกครอง คือการไม่สนองตอบต่อฝ่ายการเมือง และไม่เห็นไปในแนวทางเดียวในเรื่องการแก้ปัญหาคนเสื้อแดงนั้นจริงหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ไม่ใช่ มันเป็นเหตุผลหลายอย่าง มันมีความลับทางราชการด้วย ซึ่งพูดไม่ได้ และตนไม่เคยพูดว่า นายวงศ์ศักดิ์ เป็นพวกแตงโมในกระทรวง
 เมื่อถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า พรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะคนตระกูลชิดชอบ เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการโยกย้าย อย่างเช่นอธิบดีกรมการปกครองคนใหม่ ก็เป็นผู้ว่าฯ จ.บุรีรัมย์มาก่อน นายชวรัตน์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้ ตนดูแต่ความเหมาะสม คนที่ย้ายมานี้ก็ทำงานได้ดีทุกคน สื่อไปต่างจังหวัดก็เห็นว่า ทุกคนทำงานกันเต็มที่
 เมื่อถามว่า ผู้ว่าฯ จังหวัดที่จัดการกลุ่มคนเสื้อแดงได้ไม่ดี จะมีการโยกย้ายระลอกสองอีกหรือไม่ นายชวรัตน์ กล่าวว่า ถ้าทำงานไม่ดีก็ต้องพิจารณา ตนไม่อยากใช้คำว่า ต้องสนองตอบได้ แต่ต้องทำงานในหน้าที่ของกระทรวงมหาดไทยได้
 เมื่อถามกรณีที่มีกระแสข่าวมีกลุ่มล้มสถาบัน นโยบายกระทรวงจะดำเนินการอย่างไร นายชวรัตน์ กล่าวว่า เราพยายามรณรงค์ให้ประชาชนของเรารู้สึกว่า ต้องรักษาสถาบันให้อยู่ สถาบันนี้มิใช่หรือที่ทำให้ชาติพ้นภัยมาหลายครั้ง เราประณามคนล้มล้างได้ แต่ทำอะไรเขามากไม่ได้ เพราะมันเป็นเสรีภาพในความคิดของเขา
“บวรศักดิ์”หวังปลูกจิตสำนึกเยาวชนลดปัญหาแบ่งสีในอนาคต
 เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ห้องประชุม 1 กระทรวงมหาดไทย สภาพัฒนาการเมือง ( สพม.) ได้จัดประชุมการนำแผนพัฒนาการเมืองสู่การปฏิบัติ ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เร็นซ์ไปยังผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ และให้ผู้ว่าฯ ได้เสนอแนะความคิดเห็นเกี่ยวกับแผนพัฒนาประชาธิปไตยชุมชนในท้องถิ่นของตัวเอง โดย นายสุจิต บุญบงการ ประธานสภาพัฒนาการเมือง กล่าวว่า การจัดตั้งสภาพัฒนาการเมืองมีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมและมีความเข้มแข็งทางการเมืองในทุกระดับ ซึ่งจะมีการส่งแผนพัฒนาการเมืองให้หน่วยงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กระทรวงศึกษาธิการ และโรงเรียนในแต่ละภูมิภาคทำความเข้าใจ เพื่อนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม เชื่อว่าหากมีการนำไปปฏิบัติจริง จะช่วยทำให้ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองคลี่คลายลงไปได้
 นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า ขณะนี้ การเมืองภาคพลเมืองและภาคเยาวชนถือว่ามีความสำคัญมาก ต้องให้ความสำคัญในการสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับเยาวชน เพื่อในอนาคตจะได้ไม่ต้องมีการแบ่งแยกสีในสังคมจนเกิดปัญหาความขัดแย้งอย่างในปัจจุบัน จากนี้ จะมีการเชิญคณะอาจารย์ ตัวแทนปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าอบรมเพื่อมาเรียนรู้และปฏิบัติการร่วมกับบุคลากรในสถาบันพระปกเกล้า และกลับไปให้ความรู้กับเยาวชนในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งต้องขอความร่วมมือจากในแต่ละเขตพื้นที่การศึกษาและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย ส่วนการสร้างสำนึกพลเมืองนั้น คือต้องการให้เยาวชนรู้ว่าการเลือกนักการเมืองไม่ใช่เลือกมาเพื่อตัดสินใจแทนตนเอง แนวคิดนี้ไม่ได้ต้องการชักจูงให้เยาวชนไปเป็นนักศึกษาที่ออกมาเล่นการเมือง แต่ต้องการให้ตระหนักว่าการเมืองเป็นเรื่องของตนเองที่ต้องให้ความสำคัญในฐานะพลเมืองคนหนึ่ง
 นายสน รูปสูง รองประธานสภาพัฒนาการเมือง กล่าวว่า เพื่อให้ประชาชนมีความเข้มแข็งทางการเมือง จะต้องให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง ทั้งการให้ประชาชนมีส่วนในการตัดสินใจทางการเมือง สามารถตรวจสอบอำนาจรัฐได้ ทั้งนี้เชื่อว่าวิกฤตทางการเมืองขณะนี้จำเป็นต้องแก้ไขด้วยประชาธิปไตยสูงสุด โดยขอให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ( อปท.) เปิดเผยข้อมูลมากขึ้น และให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมในการบริหารกิจการของรัฐ
แนวร่วมนักเรียนนักศึกษาไทยต่างแดนค้านนายกฯยุบสภา
 เมื่อเวลา 12.30 น. กลุ่มแนวร่วมนักเรียนนักศึกษาไทยในประเทศและต่างแดน นำโดยนายณัฐพล จงธนพิพัฒน์ นักศึกษาปริญญาโท National Taiwan Univeristy, Taiwan เข้ายื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เพื่อคัดค้านการยุบสภา โดยมีนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นตัวแทนรับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้รับเรื่องแทนเนื่องจากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจ
 นายณัฐพลกล่าวว่า กลุ่มแนวร่วมนักศึกษาฯ ประกอบด้วยนักเรียน นักศึกษาทั้งในและต่างประเทศ กว่า 30 ประเทศทั่วโลกรวมทั้งสิ้น 1,262 คน โดยเป็นนักศึกษาระดับปริญญาเอก 91 คน ปริญญาตรี-โท รวม 1,006 คนและที่เหลือเป็นการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี เช่น ชั้ประกาศนียบัตรอีก 165 คน โดยทางกลุ่มไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)เพื่อกดดันให้รัฐบาลยุบสภา และให้มีการเลือกตั้งใหม่
 ทั้งนี้ที่ผ่านมาการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงได้สร้างความเดือดร้อนและความเสียหายแก่ชาติบ้านเมืองในหลายด้านโดยเฉพาะเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ ชีวิตประจำวัน และในฐานะที่เป็นพลเมืองไทยกลุ่มหนึ่ง มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ เช่นเดียวกับคนเสื้อแดง เราขอใช้สิทธิที่จะแสดงจุดยืนทางการเมืองของเราดังต่อไปนี้ 1. ขอสนับสนุนการชุมนุมที่แสดงความคิดตามกรอบของระบอบประชาธิปไตย ภายใต้กฎหมาย เราเคารพสิทธิในการเคลื่อนไหวตามแนวทางของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยสันติ และปราศจากความรุนแรง แต่ทั้งนี้กลุ่มผู้ชุมนุม นปช. กลับไม่ได้ชุมนุมภายใต้กฎหมาย และได้กระทำการอันเป็นการละเมิดสิทธิของพี่น้องชาวไทย เช่น การปิดถนนสร้างความเดือดร้อน ตลอดจนข่มขู่คุกคามทำร้ายประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มผู้ชุมนุม รวมทั้งประกาศตามล่าข่มขู่คุกคามหมายเอาชีวิต นายกรัฐมนตรี ตลอดจนหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เราจึงขอประณามการชุมนุมและการกระทำใด ๆ ที่ผิดกฎหมาย รวมไปถึงการลิดรอนสิทธิของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยของกลุ่มคนเสื้อแดง
 นายณัฐพล กล่าวต่อว่า 2. จากการรายงานข่าวของสำนักข่าวทั้งในและต่างประเทศ เช่น รอยเตอร์ บลูมเบิร์ก และ เดอะอีโพชไทม์ ( The Epoch Times) ของประเทศจีน และอีกหลายสำนักข่าวทั่วโลก ชี้ชัดว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงมีผู้ก่อการร้ายแอบแฝงอยู่ และมีจุดมุ่งหมายแอบแฝงที่จะล้มล้างระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
 ดังนั้นเราขอประกาศจุดยืนต่อต้านและประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ และการดำเนินกิจกรรมใด ๆ ที่นำไปสู่การ ล้มล้างระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 3. เราขอประณามการใช้ความเหลื่อมล้ำทางฐานะของประชาชนในประเทศ มาสร้างเงื่อนไขให้เกิดสงครามชนชั้นในการเรียกร้องประชาธิปไตยของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยมักจะกล่าวหารัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ว่าได้รับการสนับสนุนจากสถาบันองคมนตรีและสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นเพียงข้ออ้างหรือวาทกรรม ที่จะใช้ในการปลุกระดมเคลื่อนไหวทางการเมืองโดยปราศจากหลักฐานใด ๆ ซึ่งเป็นการแสดงจุดมุ่งหมายคือต้องการกลบเกลื่อนพฤติกรรมของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างการหลบหนีคดีอาญาอยู่ในต่างประเทศ
 อนึ่งศาลได้ตัดสินจำคุกและยึดทรัพย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ยอมรับในคำตัดสินของศาล และกลับใช้ความพยายามทุกวิถีทางที่จะเอาชนะทางการเมือง จนเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์เมษาเลือดในวันที่ 10 เมษายน 2553 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนและเหล่าทหารหาญเป็นจำนวนมาก
 นายณัฐพล กล่าวอีกว่า 4. เราขอประณามการเคลื่อนไหวที่นำไปสู่ความรุนแรง ยั่วยุ และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ บิดเบือน สร้างความแตกแยกให้กับผู้คนในสังคม รวมทั้งการใส่ร้าย และจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ 5. เราไม่เห็นด้วยกับการยุบสภา เพราะทำให้การดำเนินนโยบายบริหารประเทศของรัฐบาลขาดความต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนทุกคน อีกทั้งวาระการทำงานของรัฐบาล ก็เหลืออีกเพียงปีกว่าเท่านั้น จึงเห็นสมควรให้รัฐบาลอยู่จนครบวาระแล้วเลือกตั้งใหม่ตามวิถีทางของระบอบ ประชาธิปไตย ดังนั้นเราจึงขอสนับสนุนให้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ให้กับประเทศชาติต่อไป
 6. เราขอเรียกร้องให้กลุ่มคนเสื้อแดง ยุติการชุมนุมที่เป็นการสร้างความเสียหายให้ประเทศ และขอเรียกร้องให้รัฐบาลบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ประกอบกับการเร่งทำความเข้าใจให้กับพี่น้องประชาชนโดยผ่านสื่อหลักของประเทศ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่ประสบความสำเร็จในการใช้สื่อ ประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ทำให้เกิดการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารโดยแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่ตลอดเวลา และ 7. เราขอประกาศจุดยืนในการปกป้องสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ซึ่งเป็น 3 สถาบันหลักอันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย ด้วยจิตสำนึกรักในผืนแผ่นดินที่ให้กำเนิด กลุ่มแนวร่วมนักเรียนนักศึกษาไทยในประเทศและต่างแดน
 นายนริศ กล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวแจ้งให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ เพราะมีทั้งข้อแนะนำและเสนอแนะจากเสียงของเยาวชนที่มีจิตบริสุทธิ์ที่รักชาติบ้านเมือง แม้จะเป็นกลุ่มเล็กๆแต่มีพลังในโลกสังคมโวเซี่ยน เน็ตเวิร์คที่ใช้กรสื่อสารผ่านเฟสบุ๊ค ไฮไฟร์ซึ่งจะเป็นพลังสำคัญที่จะช่วยชาติได้มาก
 
 
 
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องแดงปะทะจนท.ที่ดอนเมืองจับขวัญชัยแล้ว อภิวันท์ย้ำควรเปิดประชุมร่วมรัฐสภาโดยเร็ว ศอฉ.เตรียมเรียก"บิ๊กจิ๋ว"เข้ารายงานตัว เนวินออกโรงพร้อมนำประชาชนปกป้องสถาบัน แดงยันบิ๊กจิ๋ว-เสธ.แดงเคลื่อนไหวทางใครทางมัน

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ศาลรธน.รับคดีเงิน29ล้านของปชป.ไว้พิจารณาแล้ว

ศาลรธน.รับคดีเงิน29ล้านของปชป.ไว้พิจารณาแล้ว




คมชัดลึก :






นายเชาวนะ ไตรมาศ เลขาธิการสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เปิดเผยว่าศาลรัฐธรรมนูญรับคดีเงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมือง 29 ล้านบาทของพรรคประชาธิปัตย์ไว้พิจารณา หลัง กกต.เสนอโดยตรง ขณะนี้รอหารือรายละเอียด








ข่าวที่เกี่ยวข้องเผยผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยแถลงป้องบิ๊กจิ๋วบ่ายนี้ศอฉ.แถลงพร้อมสลายเสื้อแดงราชประสงค์ทักษิณโดนคนมอนเตฯตะโกนไล่"ชินวัตรโกโฮม" เพื่อไทยไร้มติยื่นซักฟอกขอเวลา2วันชี้ขาด ศาลรธน.เตรียมพิจารณารับคำร้องยุบปชป.28เม.ย.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

กอ.รมน.ภาค2เผยวิทยุชุมชน15แห่งสุ่มเสี่ยงผิดกม.

กอ.รมน.ภาค2เผยวิทยุชุมชน15แห่งสุ่มเสี่ยงผิดกม.



คมชัดลึก :กอ.รมน.ภาค 2 เผยมีวิทยุชุมชน 15 แห่ง ที่ไม่เกรงกลัวกฏหมาย และ 41 แห่งอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง หากไม่แก้ไขถูกดำเนินการขั้นเด็ดขาดแน่ ด้านสมัชชาประชาชนโคราช จี้ทหารงัดกฎอัยการศึกกำราบเสื้อแดง






 เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 เม.ย.53 ที่โรงแรมปัญจดารา จ.นครราชสีมา พล.ท.สุรศักดิ์กาญจนรัตน์ ผอ.ศูนย์ประสานงานมวลชน กองอำนวยการความมั่นคงภายในภาค 2 (สมท.กอ.รมน.ภาค 2) ได้เป็นประธานเปิด การอบรมสัมนาโครงการพัฒนาสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ กอ.รมน. ภาค 2 กับเครือข่ายวิทยุชุมชนเพื่อความมั่นคงและวิทยุชุมชนในเขต 19 จังหวัดภาคอีสาน โดยมีสมาชิกสมัชชามวลชนเพื่อความมั่นคง ซึ่งเป็นเครือข่ายวิทยุชุมชนเพื่อความมั่นคง พร้อมตัวแทนสถานีวิทยุชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวนกว่า 150 คน เข้าร่วมกิจกรรมรับฟังการบรรยายพิเศษเรื่อง "งานมวลชน" และการประสานงานวิทยุชุมชนกับ กอ.รมน.
 จากนั้นได้มีการแยกกลุ่มสัมมนาเรื่อง "การประสานงานวิทยุชุมชน กับ กอ.รมน." เพื่อจัดสร้างเครือข่ายมวลชนในกลุ่มสถานีวิทยุชุมชนเพื่อความมั่นคง ด้วยการขยายพื้นที่การรับฟังเครือข่ายสถานีวิทยุชุมชนเพื่อความมั่นคง ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ และใช้เป็นสื่อกลางในการรณรงค์สร้างมวลชนให้มีอุดมการณ์ ความรักชาติ มีความรัก ความสามัคคี พร้อมที่จะผนึกกำลังในการปกป้อง เทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ในทุกโอกาส รวมทั้งเป็นเครือข่ายในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือน และสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติในทุกมิติ เพื่อบรรลุผลความสำเร็จตามนโยบายของรัฐบาล
 ต่อมา พล.ท.สุรศักดิ์ เปิดเผยหลังเสร็จสิ้นภารกิจการบรรยาย ว่า สื่อวิทยุชุมชนเป็นสื่อที่สามารถเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้ถึงประชาชนได้ง่ายที่สุด หากนักจัดรายการไม่มีจริยธรรมในการเป็นสื่อมวลชน ปลุกระดมยุยงให้ประชาชนเกิดความขัดแย้งกัน และนำไปสู่การเผชิญหน้า สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมาย แต่ตนเชื่อมั่นว่าสถานีวิทยุชุมชนส่วนใหญ่ ไม่ต้องการละเมิดกฎหมายอยู่แล้ว นักจัดรายการทุกคนต้องการประกอบอาชีพที่มีความชอบธรรมในฐานะสื่อมวลชน แต่ต้องยอมรับความจริงว่ายังมีผู้ที่ละเมิดกฎหมายอยู่บ้าง หากมีการกระทำผิดกฎหมาย จะมีการส่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปพูดคุยหาแนวทางแก้ไขกันก่อน เนื่องจากอาจมีบางสถานีรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หากยังขัดขืนดำเนินการต่อไปเราจะดำเนินการตามกฎหมาย โดยจับกุมนักจัดรายการ แล้วยึดเครื่องมือในการกระทำผิด ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด หรือนายอำเภอมีหน้าที่ดำเนินการโดยตรง หากจังหวัดใดมีความเกรงใจ ไม่สามารถดำเนินการบังคับใช้กฎหมายได้ เราจะใช้กำลังเจ้าหน้าที่ส่วนกลาง หรือกองปราบมาดำเนินการแทน
 สำหรับในภาคอีสานซึ่งยังไม่ทราบจำนวนสถานีวิทยุชุมชนที่แน่ชัด แต่เรามีข้อมูลของจำนวนสถานีที่อยู่ในข่ายขัดขืนปลุกระดมประชาชนให้เกิดความขัดแย้ง ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย จำนวน 15 สถานี สถานีที่อยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยง ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ จำนวน 41 สถานี ซึ่งอาจจะมีมาตราจัดการขั้นเด็ดขาดในเร็วๆ นี้ หากยังเพิกเฉย 
 "ขอวิงวอนให้นักจัดรายการทุกคน ยึดหลักการสร้างสึกนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์แก่ผู้ฟังให้มีความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันในทุกโอกาส ทำหน้าที่ประชาชนไทยตามรัฐธรรมนูญอย่างครบถ้วน ควรเห็นประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ยึดมั่นในการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองไม่ควรใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาด สร้างจิตสำนึกในเรื่องความมั่นคง หากพบการกระทำที่เป็นภัยต่อชาติ บ้านเมือง อย่านิ่งเฉย ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองดำเนินการ " ผอ.สมท.กล่าววิงวอน
 รายงานข่าวแจ้งว่า กิจกรรมครั้งนี้ ผู้จัดซึ่งเป็นหน่วยงานที่ดูแลความมั่นคง ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของผู้กอบการเผยแพร่วิทยุกระจายเสียง ทั้งสถ่านีวิทยุหลัก และวิทยุชุมชน รวมทั้งเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น หรือโทรทัศน์บอกรับเป็นสมาชิก ในเขตภาคอีสาน ซึ่งมีจำนวนรวมกันหลายร้อยแห่ง แต่ปรากฏว่า ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควร โดยมีหน่วยงานที่ตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมวันนี้ไม่ถึง 60 แห่ง ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขต จ.นครราชสีมา 
 วันเดียวกัน เมื่อเวลา 11.10 น.ที่อาคารอำนวยการสนามกีฬาค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา นายชัยยงค์ การทหาร รองประธานสมัชชาประชาชน จ.นครราชสีมา นางสารภี บุญประตูชัย เลขาธิการสมัชชาประชาชน จ.นครราชสีมา และนายสมชาย ลิขิตวรสิริ หรือ ชัย กองเมือง อายุ 53 ปี รองหัวหน้ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยโคราช พร้อมแนวร่วมเครือข่ายคนโคราช รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ จำนวน 10 คน ได้นัดหมายรวมตัวกัน เพื่อยื่นหนังสือขอให้ทหารประกาศกฎอัยการศึก พร้อมแนบรายชื่อประชาชน จำนวน 500 รายชื่อ
 ซึ่งมีเนื้อหาว่าจากสถานการณ์ในปัจจุบันของประเทศชาติ ได้ก่อให้เกิดความวุ่นวายไปทุกหย่อมหญ้า ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ ได้รับความเดือดร้อน เราในฐานะประชาชนคนไทยได้รับผลกระทบในเหตุการณ์ครั้งนี้ จึงรวมตัวกัน เรียกร้องให้ทหารใช้อำนาจในการจัดการยุติปัญหา จากนั้น พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ ผอ.กองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2 ได้เป็นตัวแทนรับมอบหนังสือ








ข่าวที่เกี่ยวข้องเสื้อแดงระดมรถเคลื่อนไหวใหญ่พรุ่งนี้ผกก.หนองวัวซอแจ้งความเอาผิดแดงปิดถ. ศอฉ.ฮึ่มห้ามแดงปิดถนนอีกประกาศสลายทุกที่เสื้อแดงขอนแก่น-อุดรฯตั้งด่านปิดถนนวันนี้สลายม็อบปิดถ.พหลโยธินจับแดง11คน

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

แดงปะทะจนท.ที่ดอนเมืองจับขวัญชัยแล้ว

แดงปะทะจนท.ที่ดอนเมืองจับขวัญชัยแล้ว



คมชัดลึก :แกนนำนปช.นำเสื้อแดงเคลื่อนพลไปตลาดไท ให้กำลังใจมวลชนเสื้อแดง เกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่ย่านดอนเมืองโดนจับ 10 ราย ขณะนี้ฝนตกหนัก จตุพรเรียกแดงกลับราชประสงค์ด่วน






(28เม.ย.) เวลา 10.10น.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช.แถลงว่า วันนี้นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำนปช.และประธานชมรมคนรักอุดร จะนำอาสาสมัครรถปิกอัพและจักรยานยนต์ออกปฎิบัติการไปทำความเข้าใจกับคนกรุงเทพเกี่ยวการชุมนุมของนปช.หลังจากที่ผ่านมารัฐบาลมีความพยายามจะใส่ร้ายการชุมนุมของคนเสื้อแดง โดยเส้นทางที่จะใช้คือเส้นทางถนนพระราม 4 ตัดเข้าไปถนนวิภาวดีรังสิตซึ่งมีจุดหมายสุดท้ายที่ตลาดไท เมื่อถึงที่นั่นจะใช้เวลาทำความเข้าใจสักระยะเพราะก่อนหน้านี้มีการสลายการชุมนุมในบริเวณดังกล่าวซึ่งจะถือโอกาสให้กำลังใจคนเสื้อแดงในพื้นที่นั้นด้วยโดยวันนี้จะไปเพียงพื้นที่ตลาดไทเท่านั้นเมื่อเสร็จภารกิจเราก็เดินทางกลับมาร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์ต่อ จากนั้นก็จะมีการประเมิณอีกครั้งว่าก่อนที่จะมีปฎิบัติในลักษณะเดียวกันอีกในวันต่อไปตามแต่สถานการณ์ หากทหารเห็นว่า จะใช้กำลังขัดขวางก็ไม่เป็นปัญหา แต่ต้องเตรียมคำตอบให้สังคมให้ได้ว่า ทำไมคนหลากสีชุมนุมได้โดยไม่มีมาตราการหรือการดำเนินการใด ๆ
 “ที่เราไม่ได้ออกไปไหนหลายวันเพราะเราเห็นว่าการอยู่ที่ราชประสงค์เป็นการตั้งรับเพื่อรุก ซึ่งรัฐบาลไม่มีความสามารถที่จะสลายการชุมนุม วันนี้จะเป็นการเปิดเกมรุก ที่ผ่านมาเราโดยปิดกั้นด้วยสื่อ จึงจำเป็นต้องเคลื่อนไหว ยืนยันว่า จะปักหลักต่อสู้ภายใต้ยุทธวิธีแบบเป็นไงเป็นกัน “
 ส่วนที่พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณฉุกเฉิน(ศอฉ.) พร้อมจะสลายการชุมนุมของนปช.นั้นเรื่องนี้ไม่มีปัญหาคนเสื้อแดงไม่กลัว ไม่หวั่นไหวเราพร้อมอยู่แล้วที่จะต่อสู้จนตายมาตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.ขอให้ประกาศนัดวันเลยว่าจะสลายการชุมนุมวันไหน เพื่อให้ประชาชนที่ไม่รับรู้จะได้หลีกเลี่ยง เราจะปักหลักด้วยหลักสันติวิธีด้วยมือเปล่า นายอภิสิทธิ์พร้อมที่จะอยู่บนซากของประชาชนที่นอนตายที่แยกราชประสงค์หรือไม่ แต่อยากถามว่าได้หันไปถามแม่ทัพนายกองพร้อมที่จะทำภารกิจได้หรือไม่ ขอให้นัดวันที่จะสลายการชุมนุมและให้ผู้บัญชาการเหล่าทัพออกมานั่งแถลงข่าวด้วย การที่ให้พ.อ.สรรเสริญมาแถลงข่าวพร้อมที่จะสลายการชุมนุมเป็นการใช้วิธีการลักไก่รายวัน ที่ผ่านมาหากรัฐบาลได้ยอมรับเงื่อนไขการยุบสภาภายใน 30 วันแล้วลงสัตยาบันหลังเลือกตั้งจะไม่มีการชุมนุมเราก็กลับบ้านแล้ว วันนี้นายอภิสิทธิ์พร้อมที่จะใช้กำลังสลายการชุมนุมเพื่อเป็นการฆ่าปิดปากเสื้อแดงใช่หรือไม่
 “เรายืนยันว่าที่นี่ไม่มีใครเป็นผู้ก่อการร้ายแต่ก่อนที่รัฐบาลจะแยกผู้ก่อการร้ายที่นี่ ขอให้ไปแยกแยะระหว่างผู้ก่อการร้ายที่นี่กับผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีการฆ่าตัดคอและก่อเหตุรายวัน รัฐบาลต้องแยกเรื่องนี้ก่อนไม่งั้นไม่มีความชอบธรรม หวังว่าพรุ่งนี้รัฐบาลจะมีคำตอบเพื่อไม่ให้สังคมสับสน” นายณัฐวุฒิ กล่าว
นอกจากนี้นปช.ไม่ได้อยู่และไม่มีความคิดที่เข้าร่วมขบวนการล้มเจ้าตามที่รัฐบาลกล่าวหาเพราะจุดยืนของเรา คือ การเรียกร้องประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งการใส่ร้ายพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี โดยเอาสิ่งที่พล.อ.ชวลิตเคยพูดเมื่อปี 2552 มาป็นข้ออ้างนั้นเป็นสิ่งที่น่าอับอายของรัฐบาลเพราะสิ่งที่พล.อ.ชวลิตพูดในเวลานั้นมาจากคำแลถงการณ์ของคณะราษฎรเมื่อปี 2475 ที่สำคัญถ้าเวลานั้นเป็นความไม่เหมาะสมและเป็นขบวนการล้มเจ้าจริงสื่อสารมวลชนคงไม่เอาเผยแพร่
 “ตอนนี้ทีมกฎหมายของเราอยู่ในระหว่างข้อมูลหลักฐานทั้งหมดว่ามีใครกล่าวให้ร้ายเราเรื่องนี้บ้าง เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมและมีหลักฐานครบถ้วนเมื่อไหรก็พร้อมที่จะดำเนินการฟ้องร้องรัฐบาลทันที” นายณัฐวุฒิ กล่าว
 ด้านนพ.เหวง โตจิราการ แกนนำนปช.กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้มีอยู่ 2 ทางเลือก คือ 1.สันติภาพ และ 2.สงคราม แต่เวลานี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เลือกทำสงครามกับประชาชนโดยการเคลื่อนกำลังทหาร3-4หมื่นนนายพร้อมกับที่จะทำการตัดการสื่อสาร นอกจากนี้ยังมีการกล่าวหาคนเสื้อแดงเป็นพวกล้มเจ้าและก่อการร้ายรวมทั้งมีการนำคนเสื้อหลากสีซึ่งมาจากการเปลี่ยนสีของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเพื่อมาปะทะกับคนเสื้อแดง
 ขอเตือนว่าการที่นายอภิสิทธิ์เลือการทำสงครามเท่ากับเป็นการประกาศสงครามกับประชาชน ซึ่งรัฐบาลทรราชย์จะหายนะหากทำสงครามกับประชาชน ซึ่งในอดีตประวัติศ่าสตร์ของโลกก็มีบทเรียนมาทุกประเทศ” นพ.เหวง กล่าว
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการแถลงข่าวได้นัฐวุฒิได้นำภาพการสลายชุมนุมที่หน้าวัดพระธรรมกายจากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งซึ่งเป็นภาพของทหารที่ใช้กำลังสลายการชุมนุมมาโชว์ให้สื่อมวลชนดู ซึ่งนายนัฐวุฒิย้ำว่า การทำเช่นนี้ประชาชนรับไม่ได้ หากเกิดขึ้นแบบนี้บ่อยๆรัฐบาลจะรับผิดชอบใช่หรือไม่ และหากทำบ่อย ๆ คนไทยจะลุกฮือขึ้นมาต่อต้านรัฐบาล
เมื่อเวลา 09.30 น. นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำนปช.เปิดเผยหลังประชุม ว่า วันนี้เวลา 10.30 น. เสื้อแดงจะเคลื่อนขบวนไปตลาดไท เพื่อให้กำลังใจมวลชนคนเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่ที่นั่น จากนั้นนายขวัญชัยได้ขึ้นประกาศบนเวทีปราศรัยให้มวลชนออกจากเต้นท์มารวมกันที่หน้าที่เวทีราชประสงค์ ว่าใครที่ต้องการจะร่วมขบวนไปให้ไปรวมตัวที่ศาลาแดงแล้วร่วมเดินทางไปรถปิคอัพ 150 คัน เพราะก่อนหน้านี้ได้ข่าวว่าศอฉ.จะขนอาวุธเข้ามาในกรุงเทพฯเพื่อปราบปรามประชาชนจึงเป็นภารกิจที่เสื้อแดงจะต้องสกัดกั้นเอาไว้
นายขวัญชัย กล่าวหลังการประศรัยว่า ภารกิจหลักที่ตลาดไทวันนี้คือให้กำลังใจคนเสื้อแดง แต่ถ้าเจอด่านตำรวจสกัดกั้น ก็ต้องคิดตรงนั้นว่าเราจะต้องสลายด่านตำรวจหรือไม่ เพื่อเปิดทางให้เสื้อแดงเข้ามาชุมนุมและสกัดกั้นทหารไม่ให้คนอาวุธเข้ามาทำร้ายประชาชน ขณะนี้มีคนเสื้อแดงที่พร้อมจะร่วมขบวนประมาณ 2,000 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมในช่วงเช้ายังคงมีการปราศรัยตามปกติผู้ชุมนุมบางตาส่วนใหญ่ยังคงพักผ่อนอยู่ตามเต๊น แต่มีปัญหาเรื่องการเก็บขยะในที่ชุมนุม ที่รถขยะของกทม.ไม่กล้าเข้ามาเก็บช่วงเช้ามืดเหมือนทุกวัน ทำให้มีขยะสะสมจำนวนมาก ส่งกลิ่นคละคลุ้งตามจุดที่ทิ้งขยะ แต่ในช่วงเช้าสายรถขยะของกทม.ได้มาเก็บขยะปกติจำนวนหลายคัน ขณะที่แกนนำ 3 เกลอยังไม่ปรากฎตัวหลังเวทีมีเพียงนพ.เหวง โตจิราการ ปราศรัย โดยเน้นย้ำกับมวลชนว่าใกล้ถึงเวลาที่เสื้อแดงจะได้รับชัยชนะ ขณะนี้ฝ่ายศัตรูเกิดแตกแยกกันเอง ยุทธวิธีหลังจากนี้คือการตอกลิ่มความขัดแย้งให้ร้าวลึกลงไปให้มากที่สุดจะเป็นหนทางชนะของคนเสื้อแดง
 นายขวัญชัย ไพรพนา แกนนำกลุ่มคนรักอุดรฯ เปิดเผยว่า แกนนำนปช.ยังไม่มีมติว่าจะเคลื่อนทัพไปจุดใดแต่ส่วนตัวอยากไปสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที แต่ต้องรอขอมติจากแกนนำก่อน อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวนั้นจะเป็นแบบดาวฤกษ์คือเป็นขบวนเดียว ส่วนแกนนำที่จะนำขบวนไปนั้นจะเป็นคนที่ไม่มีหมายจับเช่นดีเจอ้อม แต่ส่วนของตนถึงจะมีหมายจับก็จะไปเอง ขณะนี้มีปิคอัพที่ลงทะเบียนร่วมเคลื่อนแล้ว 115 คันแล้ว
แดงปะทะเจ้าหน้าที่หน้าฐานทัพอากาศดอนเมือง
 เมื่อเวลา 13.00 น. กลุ่มคนเสื้อแดงนำโดยนายขวัญชัยเคลื่อนพลไปยังเป้าหมายตลาดไท ได้เคลื่อนพลถึงฐานทัพอากาศดอนเมือง นายขวัญชัย ได้สั่งให้ขบวนหยุด เนื่องจากพบว่ามีตำรวจและทหารตั้งด้านสกัดอยู่และให้กลุ่มมอเตอร์ไซค์ไปดูพร้อมให้ถอยกลับมาก่อน โดยทหารมีการเตรียมพร้อมตั้งแถวพร้อมอุปกรณ์ปราบจลาจลและทั้งสองฝ่ายปักหลักกันอยู่มีช่องว่างห่างกันประมาณ 2กิโลเมตร ทั้งนี้ทหารได้ขอความร่วมกับสื่อมวลชนให้ออกนอกพื้นที่ปฏิบัติงาน
กลุ่มเสื้อแดงจำนวนมากไม่พอใจ และได้เข้ามารื้อลวดหนาม แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ไม่ยอมให้รื้อ ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่ที่ถนนสีขาว ก็ได้เดินทางเข้ามาเสริม ทำให้มีจำนวนคนเสื้อแดงเพิ่มมาขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
 ล่าสุดประมาณ 13.30 น. ได้เกิดการปะทะกันขึ้นแล้ว โดยทหารได้ยิงปืนขึ้นฟ้า สกัดกลุ่มผู้ชุมนุม
เมื่อเวลา 14.20 น.ตำรวจและทหารได้จับกุมกลุ่มคนเสื้อแดง 10 คน ขณะเดียวกันมีรายงานว่านายขวัญชัยโดนจับด้วย
"เสื้อแดง"ปิดถนนวิภาวดีแตกพร้อมระดมเข้ายึดปั๊มแก๊ส 
 เมื่อเวลา 14.34 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากที่กลุ่มคนเสื้อแดงที่ชุมนุมที่บริเวณอนุสรณ์สถานดอนเมือง สถานการณ์ต่างๆ ยังคงเป็นไปด้วยความตรึงเครียด ถึงแม้ว่าทางแกนนำนปช.ที่เวทีใหญ่ราชประสงค์ให้กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้องแดงที่เดินทางทั้งหมดเดินทางกลับแยกราชประสงค์ แต่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ปักหลักกันอยู่ในจุดดังกล่าวไม่กล้าที่จะเดินทางกลับ เนื่องจากกลัวว่าเจ้าหน้าที่มีการสกัดกั้นระหว่างทาง จึงทำให้คนเสื้อแดงที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวได้มีการเรียกระดมคนเสื้อแดงที่ปักหลักในจุดดังกล่าวให้ไปรวมตัวกันที่สถานีจำหน่ายก๊าซให้มากที่สุด เพื่อเป็นการสกัดกั้นให้เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้ามาสลายการชุมนุม อย่างไรก็ตามในระหว่างนั้นได้มีกลุ่มคนเสื้อแดงจากจังหวัดปทุมธานีจำนวนประมาณ 300 คน ได้เดินทางมาสมทบกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่ปักหลักอยู่ เสียงปืนดังรัวหลายนัดหน้าอนุสรณ์สถานฝนตก
 เมื่อ14.40 น. ได้มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดอย่างต่อเนื่อง ที่บริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติดอนเมือง ขณะที่ผู้คนบริเวณดังกล่าว ทั้งทหาร และผู้ชุมนุม ต่างพากันหลบตามเสาไฟฟ้า และเสาตอม่อทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์  ส่วนผู้ชุมนุมก็มีการขว้างก้อนหินและไม้ เข้าใส่ทหาร แต่ปั๊มน้ำมันใกล้เคียงยังไม่มีประกายไฟใดๆเกิดข้น ขณะที่ระหว่างนี้ฝนเริ่มตกลงมาบ้างแล้ว
 นอกจากนั้นบนทางด่วนดอนเมืองโทลเวย์ บริเวณหน้าอาคารชินวัตร 3 พบมีชุดเคลื่อนที่เร็วของเจ้าหน้าที่ พร้อมอาวุธ คุมสถานการณ์อยู่บนทางด่วน ดอนเมือง โทลเวย์ ขณะที่สนามบินดอนเมืองได้แจ้งผู้โดยสารให้เพิ่มเวลาเดินทางมาถึงสนามบินด้วย
จตุพรเรียกแดงหน้าดอนเมืองกลับราชประสงค์ด่วน
  ทั้งนี้เมื่อเวลา 14.09 น. นายจุตพร  พรหมพันธ์ แกนนำ นปช.ได้ ขึ้นเวทีปราศรัย กล่าวว่า ขบวนใหญ่ไม่สามารถไปช่วยได้ เพราะทหารปิดถนนทำให้การจราจรติดขัด ดังนั้น ขอให้คนเสื้อแดงที่ไปกับขบวนใหญ่กลับมาที่ราชประสงค์ เพื่อจะวางแผนสู้กันใหม่ในวันพรุ่งนี้
 ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำนปช.ประกาศว่า ขณะนี้ นายขวัญชัย ได้มุ่งหน้ากลับราชสงค์แล้ว
แกนนำนปช.เครียดเรียกขวัญชัยกลับ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.45 น. หลังมีรายงานข่าวว่า กำลังทหารของ ศอฉ. ปะทะกับมวลชนคนเสื้อแดง ที่จะเคลื่อนขบวนไปตลาดไท ที่บริเวณอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ดอนเมือง ถ.วิภาวดีรังสิต  นายวิสา คัญทัพ  หนึ่งในแกนนำ นปช. ซึ่งทำหน้าที่เป็นโฆษกเวทีปราศรัยที่แยกราชประสงค์ ได้ประกาศเรียกร้องให้คนเสื้อแดงที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงอนุสรณ์สถานแห่งชาตินำกำลังเดินทางไปช่วยเหลือโดยด่วน ส่วนพี่น้องคนเสื้อแดงที่อยู่ที่บริเวณแยกราชประสงค์ขอให้อยู่ในพื้นที่ชุมนุมไม่ต้องไปไหน   ขณะที่เดียวกันที่บริเวณด้านหลังเวทีปราศรัย แกนนำ นปช. หลายคน อาทิ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายสมหวัง อัสราษี  นายณัฐวุฒิใสยเกื้อ นายพายัพ ปั้นเกตุ ฯ ต่างอยู่ในสภาพตึงเครียด ติดตามข่าวเป็นระยะ พร้อมทั้งได้มีการโทรศัพท์สั่งการไปยังที่ขบวนรถของนายขวัญชัยตลอดเวลา   โดยเฉพาะนายสุภรณ์ ได้โทรศัพท์บอกให้นายขวัญชัย รีบเดินทางมาที่เวทีสี่แยกราชประสงค์ในทันที ส่วนบรรดาแกนนำเสื้อแดงกลุ่มต่างๆ ในกทม.ต่างก็รีบโทรศัพท์ประสานให้มวลชนของแต่ละกลุ่มรีบเดินทางไปช่วยเหลือขบวนรถคนเสื้อแดงที่กำลังถูกล้อมจับ  นอกจากนี้ศูนย์วิทยุของหน่วยรักษาความปลอดภัย นปช. ได้สั่งการให้การ์ดนปช.ทุกด่านเตรียมความพร้อมรับการสถานการณ์การสลายการชุมนุมทันที หลังจากที่มีการผ่อนคลายลงในช่วงเช้า
ส่งเสื้อแดงปทุมไปยึดตลาดไทแทน
  ต่อมา 14.00 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธาน นปช.  ขึ้นเวทีปราศรัยแยกราชประสงค์ชี้แจงเหตุปะทะที่อนุสรณ์สถานแห่งชาติ ให้กลุ่มผู้ชุมนุมทราบว่า  เป็นแค่ชุดจักรยานยนต์ล่วงหน้ายังไม่ใช่ทัพใหญ่ เนื่องจาก ศอฉ.ใช้วิชามารทำให้รถติด เพื่อจะสลัดขบวนรถของ นปช. อย่างไรก็ตามตอนนี้  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. กำลังประสานงานให้ขบวนรถของขวัญชัยเลี้ยวกลับมาที่แยกราชประสงค์ ส่วนคนเสื้อแดงที่อยู่บริเวณใกล้เคียงตลาดไท ให้มุ่งหน้าไปที่ตลาดไทเลย  เพราะตอนนี้นายสมบุญ ขุนทองไทย หรือกำนันต้อย แกนนำกลุ่มเสื้อแดงจังหวัดปทุมธานี ได้นำคนไปล่วงหน้าแล้ว และหาก ศอฉ.จะมาตั้งด่านปิดล้อมพื้นที่ราชประสงค์ในคืนนี้  ตนจะพาคนไปสลายด่านทหารทันที








ข่าวที่เกี่ยวข้องกอ.รมน.ภาค2เผยวิทยุชุมชน15แห่งสุ่มเสี่ยงผิดกม.พิษม็อบแดงกระทบนักลงทุนหนีไปซบเวียดนามชินวรณ์ย้ำเปิดเรียน30เม.ย.ตามปกติเผยผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยแถลงป้องบิ๊กจิ๋วบ่ายนี้"อภิสิทธิ์"ให้สัมภาษณ์"บีบีซี"พร้อมลาออก

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Blog Archive