Monday, May 31, 2010

เทือกปัดข่าวพผ.ฟรีโหวตรมต.ถูกซักฟอก

เทือกปัดข่าวพผ.ฟรีโหวตรมต.ถูกซักฟอก



คมชัดลึก :สุเทพ ปัดข่าว พผ. เตรียม ฟรีโหวต ให้ รมต. ที่ถูก ซักฟอก เชื่อแค่ข่าวลือ ยัน พรรคร่วมฯ ต้องโหวตทิศทางเดียวกัน ขวาง ปรับครม. อ้าง ภาพรวม ยังใช้ได้ เผย ยังไม่มีพรรคไหนแจ้งความจำนง






(1พ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความมั่นใจในคะแนนเสียงโหวตไว้วางใจจากพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ตนเชื่อมั่นว่าหลังจากที่สมาชิกส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎร ได้ฟังคำอภิปรายแล้วก็คงจะยกมือสนับสนุนรัฐบาลเหมือนอย่างเดิม และเสียงสนับสนุนรัฐบาลก็คงจะเรียบร้อยดีไม่มีปัญหา
 ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวออกมาทำนองว่าเสียงพรรคร่วมรัฐบาล อาจจะแตกในบางประเด็นโดยเฉพาะเสียงของพรรคเพื่อแผ่นดิน รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ตนยังไม่ได้ยินว่าเป็นอย่างนั้น คิดว่าน่าจะเรียบร้อย
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามรายงานข่าวระบุว่าทางพรรคเพื่อแผ่นดิน แจ้งท่าทีมาแล้วว่าจะขอฟังเหตุผลการอภิปรายก่อน จนทำให้ท่านค่อนข้างเครียดเป็นกังวล เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า “ผมก็เป็นคนแก่แล้ว ก็ขี้กังวลไปเรื่อยเป็นธรรมดา ” 
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจแล้วต้องนัดหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คงไม่จำเป็นต้องพูดคุยอะไรกัน เพราะว่าแต่ละคนก็ทำหน้าที่ของตัวเอง และแต่ละคนก็มีความรู้สึกรับผิดชอบของตัวเองอยู่แล้ว ภายหลังการอภิปรายเสร็จแล้วก็ไม่คิดว่าแกนนำพรรคร่วมจะต้องมาคุยกันมันเหนื่อยแล้วเสร็จอภิปรายสองวันก็กลับบ้านนอน
 ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าเสียงคะแนนโหวตลงมติของรัฐมนตรี ที่ถูกอภิปรายแต่ละคนจะเท่ากันหรือไม่ หรือจะมีเสียงแตกในบางประเด็น รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า ไม่คิดว่าจะมีเสียงแตก
 ผู้สื่อข่าวถามว่า อะไรที่ทำให้ท่านมั่นใจว่าเสียงจะไม่แตก เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นว่ามีประเด็นอะไรที่เป็นข้อน่าเคลือบแคลงสงสัยในการอภิปราย และสมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลแต่ละท่านก็ทราบดีว่า ที่เรามารวมตัวกันเป็นรัฐบาลเพราะว่าเราอาสาที่จะมารับหน้าที่ ในการแก้ไขปัญหาวิกฤติการณ์ของบ้านเมือง เพราะฉะนั้นทุกคนต้องช่วยกันทำหน้าที่
 ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า การลงมติเสียงทุกคนต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกันหรือไม่ นายสุเทพ การพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น
 ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่มีข่าวมาว่าพรรคเพื่อแผ่นดินอาจจะไม่ลงมติให้ หรือโหวตสวนในการโวตลงมตินายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย และนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า “อย่าเพิ่งไปฟังข่าวลือ ผมยังคิดว่าเป็นข่าวลืออยู่”
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าพรรคเพื่อแผ่นดินอ้างเป็นเอกสิทธิของส.ส.ปล่อยลูกพรรคฟรีโหวต แกนนำรัฐบาลรับได้หรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทั้งลูกพรรคและผู้บริหารพรรคก็ต้องมีความรับผิดชอบ
 ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ในพรรคเพื่อแผ่นดินมีหลายกลุ่ม จะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะลงมติไปในแนวทางเดียวกัน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็ไปเดาใจใครแต่ละคนไม่ได้ เพียงแต่ว่าตนพูดไปตามหลักการ และด้วยความเชื่อมั่นว่าแต่ละท่าน ก็เป็นผู้ที่มีความรู้มีประสบการณ์ มีความเข้าใจเรื่องการเมืองเป็นอย่างดี
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นการทุจริตที่จะมีการเปิดโปงในการอภิปรายวันที่ 2 กังวลหรือไม่ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เท่าที่ดูไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องกังวลใจ
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ผ่านการอภิปรายฯไปแล้วจำเป็นต้องมีการปรับครม.ยกเครื่องครม.ใหม่หรือไม่ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนหน้านี้นายกฯระบุไว้ว่าจะมีการหารือถึงการปรับครม. หลังการอภิปรายฯ นายสุเทพ กล่าวว่า หลังอภิปรายฯเสร็จแล้วค่อนมาคุยกัน ยังไม่ได้คุยกัน
 ผู้สื่อข่าวถามว่า โดยส่วนตัวท่านเมื่อผ่านมาปีกว่าแล้ว ตรงไหนที่ควรต้องปรับปรุงหรือไม่ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า สำหรับตนก็โอเค ทั้งภาพโดยส่วนรวมใช้ได้ อย่างไรก็ตามทางพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่มีการแจ้งความจำนงที่จะขอปรับครม.ภายในพรรคมาที่ตนแต่อย่างใด








ข่าวที่เกี่ยวข้องเทพเทือกชี้ยูเอ็นแทรกแซงไทยไม่ได้ ซักฟอกเดือดไล่ส.ส.ปชป.ออกห้องประชุมฯวิปรัฐฯโต้ฝ่ายค้านประท้วงน้อยกว่ารบ.ชุดก่อน"อภิสิทธิ์"ยันชี้แจงข้อหาได้ทุกประเด็น บึ้ม!สนั่นห้องเช่าราม53ดับ1สาหัส3ราย

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เพื่อไทย จี้ สำนึกนายกฯ ต้องมาก่อนรับผิดทาง กม.

เพื่อไทย จี้ สำนึกนายกฯ ต้องมาก่อนรับผิดทาง กม.

อภิปรายวันที่สอง ส.ส.พท.ตามขย่ม จี้ สำนึกการเมืองนายกฯ ต้องมาก่อนความรับผิดทางกฎหมาย “ฐิติมา”จวก “มาร์ค”เอาแต่ใช้โวหารแก้ตัวไปวันๆ ทำ ส.ส.ปชป.ฉุนประท้วงจนถูกไล่ออกจากห้องประชุม... เมื่อเวลา 08.30 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรสมัยวิสามัญนัดพิเศษ เพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เป็นวันที่ 2 ทั้งนี้นายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้สั่งพักการประชุมในวันแรกลงเมื่อเวลา 02.11 น. และเลื่อนการประชุมมาต่อวันนี้ โดยมีนายสามารถ แก้วมีชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม ซึ่งได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าการอภิปรายวันแรกใช้เวลาไป 16 ชั่วโมง 17 นาที แบ่งเป็นฝ่ายค้าน 9 ชั่วโมง 17 นาที รัฐมนตรีชี้แจง 3 ชั่วโมง 14 นาที และเวลาในการการหารือ ประท้วงและชี้แจงพาดพิง 3 ชั่วโมง 46 นาที โดยในการอภิปรายต่อในช่วงแรก ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทยอยนำภาพนิ่งกรณีการสลายการชุมนุม มาประกอบการอภิปราย อาทิ นายสถาพร มณีรัตน์ ส.ส.ลำพูน นำภาพนิ่งกรณีเหตุการณ์ 10 เม.ย. 14-19 พ.ค. มาอภิปรายพร้อมตำหนิว่าตอนนี้นายกฯไม่สง่างามแล้ว ไปไหนก็จะมีคำถามติดตัวว่า มีส่วนปราบปรามประชาชน 100 ศพ จึงไม่ขอไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งต่อไป ขอให้ผู้นำรัฐบาลมีสำนึกทางการเมือง แสดงความรับผิดชอบทางการเมืองตามที่ได้เคยพูดไว้ ส่วนความรับผิดชอบทางกฎหมายเป็นเรื่องที่จะต้องมีการตรวจสอบและเอาผิดกับผู้ที่ก่อความรุนแรงทุกฝ่ายต่อไป ทั้งนี้ นายสถาพร ยังนำผ้าคาดปากซึ่งมีสัญลักษณ์ของกลุ่มนปช.มาปิดปากขณะอภิปราย พร้อมนำผ้าพันคอของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เขียนว่า “ยุบสภา” และหนังสติ๊กที่เป็นเครื่องมือป้องกันตัวเองของผู้ชุมนุมมาประกอบด้วย ทำให้นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วง จึงมีการปะทะคารมกัน นายสถาพร กล่าวว่าน่าจะนำผ้านี้ไปปิดปาก นายบุญยอด จะได้หยุดประท้วงต่อมานางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า การบริหารราชการของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ทำให้มีคนตายและเจ็บจำนวนมาก หลายคนไม่เกี่ยวข้องแต่โดนลูกหลง คนเหล่านี้ให้ข้อมูลว่า ทหารยิง ทั้งนี้เมื่อมีคนมาเรียกร้องเรือนแสน นายกฯก็ควรทำตามคำพูดที่เคยให้ไว้สมัยเป็นผู้นำฝ่ายค้าน คือการยุบสภาตามวิถีประชาธิปไตย แต่รัฐบาลกลับตัดสินใจปราบปราม และมาแก้ตัวว่าสถานการณ์วันนี้เป็นคนละสถานการณ์กับในอดีต ขอถามว่ากรณีนี้ ต่างกับกลุ่มพันธมิตรฯออกมาชุมนุมตรงไหน นอกจากนี้รัฐบาลใช้สื่อปลุกปั่นให้เกิดความเกลียดชังเหมือนวิทยุยานเกราะสมัย 6 ต.ค.19 มือหนึ่งบอกว่าปรองดอง แต่อีกมือกลับไล่ล่ายัดเยียดข้อหาก่อการร้ายให้ฝ่ายตรงข้าม ทั้งที่แต่ละศพที่ตายไม่มีอาวุธเลย แต่คดีก่อการร้ายของพันธมิตรฯกลับช้ามาก นี่คือ 2 มาตรฐาน นายอภิสิทธิ์ ยังแก้ตัวว่าเป็นรัฐบาลแรกที่เปิดการเจรจาและอีกฝ่ายเลิกเจรจาเอง ขอเตือนความจำว่าการเจรจาจะล้มเหลวกี่ครั้ง ไม่สูญเสียเท่ากับการลั่นกระสุนใส่ประชาชนแม้เพียงนัดเดียว นางฐิติมากล่าวต่อว่า ผู้นำแบบนี้ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง แก้ตัวไปวันๆ ดีแต่ใช้ใช้โวหาร พอจับได้ไล่ทันก็อ้างว่าคนละสถานการณ์ แต่ความจริงคือไม่ยอมรับความผิดพลาดของตนเอง ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วง ซึ่งนางฐิติมา ยอมถอนคำพูด พร้อมระบุว่าสมัยนี้ชายหญิงเท่าเทียมกัน แต่ต่อไปภาพผู้เสียชีวิตจะตามหลอกหลอนทั้งนี้ นางฐิติมา ได้พาดพิงการดำเนินการสองมาตรฐาน ของรัฐบาล โดยเฉพาะการดำเนินคดีของกลุ่มพันธมิตรฯที่ยึดสนามบิน ทำให้นางพจนารถ แก้วผลึก ส.ส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ลุกขึ้นประท้วงอย่างมีอารมณ์ พร้อมกล่าวพาดพิงอีกฝ่ายว่าไม่จงรักภักดี ทำให้ส.ส.พรรคเพื่อไทยประท้วงให้ถอนคำพูด แต่นางพจนารถ ยืนยันว่าไม่ถอน เพราะไม่ได้ระบุถึงใคร ทำให้นายสามารถ ต้องสั่งให้นางพจนารถ ออกนอกห้องประชุม


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เทพเทือกซัดยูเอ็นห้ามจุ้นตั้ง กก.สอบสลายม็อบ

เทพเทือกซัดยูเอ็นห้ามจุ้นตั้ง กก.สอบสลายม็อบ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณสุเทพ กร้าว ซัดยูเอ็นห้ามจุ้นบี้ รบ.ประกันอิสระ กก.สอบเหตุรุนแรงในไทย สับ ทักษิณดิ้นจ้างเซียน กม.ฟ้องรัฐบาลไร้ผลยิ่งทำประเทศชาติเสียหาย...เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายเหตุการณ์การเข้ากระชับพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง จะสร้างความสับสนให้ประชาชนหรือไม่หลังผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปแล้ว ว่า ฝ่ายค้านอภิปรายวกไปวนมาไปหน้าถอยหลังอยู่เรื่อยและอภิปรายกันหลายคน พี่น้องประชาชนอาจะติดตามฟังยากลำบากนิดหน่อย ส่วนการชี้แจงของพวกตนก็จำเป็นต้องไปที่ประเด็นที่เขาเปิดอภิปราย การชี้แจงก็อาจกระโดดไปมาบ้างเหมือนกัน ก็เป็นเรื่องที่เป็นห่วงอยู่ แต่เชื่อว่าประชาชนที่ติดตามสถานการณ์มาโดยตลอด คงจะได้รับฟังคำอธิบายเพิ่มเติมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ส่วนรัฐบาลจะมีการจัดทำเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมกับประชาชนอีกหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า คิดอยู่ว่าก็น่าจะทำ ด้านการที่ทางพรรคเพื่อไทยเตรียมจะจัดทำซีดี และจัดนิทรรศการเกี่ยวกับภาพต่างๆ ที่เกิดขึ้น นายสุเทพ กล่าวว่า ก็ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ส่วนในกรณีของผู้เสียชีวิต รัฐบาลพร้อมที่จะแยกแยะอย่างชัดเจนหรือไม่ว่า มีกลุ่มก่อการร้ายที่กระทำการกี่คนอย่างไรและมีประวัติอย่างชัดเจน นายสุเทพ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เขากำลังแยกแยะอยู่แล้ว เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ก็เอารายชื่อบางส่วนมาให้ตนดูตนก็ได้ชี้แจงต่อสภาฯไปแล้ว กรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าจ้างทีมงานด้านกฎหมายคดีอาชญากรรมระหว่างประเทศ เพื่อจะฟ้องร้องดำเนินคดีกล่าวหารัฐบาลไทยใช้กำลังปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค.นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนเข้าใจ เขามีเงินเยอะ จ้างล็อบบี้ยิสต์จ้างฝ่ายประชาสัมพันธ์ แต่เราก็เอาความจริงเข้าสู้ และเมื่อ 2-3 วันก่อนที่นายกฯ ชี้แจงต่อทูตและชาวต่างประเทศก็ได้ผลดีมาก ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในประเทศวันนี้ ไม่มีใครได้ประโยชน์ ทุกคนเสียหายด้วยกันทั้งนั้น แม้แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ เองที่คิดว่าตัวเองน่าจะสะใจที่ทำร้ายประเทศไทย ทำร้ายคนไทยได้ก็ไปเข้าใจผิดว่าคนไทยและประเทศไทยไปกลั่นแกล้งเขา ๆ ก็ไม่ได้อะไรมีแต่เสียลงไปทุกวัน ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามเอาเวทีโลกมายุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่เป็นผลอะไร อันนั้นยิ่งเป็นการทำร้ายประเทศไทยหนักขึ้นไปอีก เขาก็จะยิ่งเสียหายมากขึ้นไปอีก เมื่อถามว่า ทางนางเนวี พิลเลย์ หัวหน้าคณะกรรมาธิการข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้รัฐบาลประกันความเป็นอิสระขององค์กรอิสระตรวจสอบเหตุรุนแรง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เพื่อหาผู้รับผิดชอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนรัฐบาลจะประกันได้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า “ยูเอ็นมาแทรกแซงไม่ได้หรอกครับ”.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

หมอตุลย์ลั่นคนหลากสีไม่อยู่ใต้อาณัติใคร

หมอตุลย์ลั่นคนหลากสีไม่อยู่ใต้อาณัติใคร



คมชัดลึก :หมอตุลย์ โต้ ฝ่ายค้าน ถูกอภิปรายพาดพิง ลั่นคนหลากสีไม่เคยอยู่ใต้อาณัติใคร แถมปัดไม่เคยรับเงินเพื่อเคลื่อนไหว และไม่เคยเป็นนอมินีเสื้อเหลืองปัดจ้าง ปชช. ร่วมลงชื่อ ถอด 3ส.ส. พท.






(1พ.ค.) นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มเสื้อหลากสี แถลงข่าวตอบโต้กรณีนายวิชาญ มีนชัยนันท์ ส.ส.กทม. นางสาวอรุณี ชำนาญยา ส.ส.พะเยา และนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ที่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยกล่าวพาดพิงถึงตน ด้วยข้อความเท็จจนทำให้เกิดความเสียหาย ว่า จากการที่นายวิชาญกล่าวหาตนว่ามอบเช็คจำนวน 1 แสนบาท เพื่อชักจูงครอบครัวของอาสาสมัครที่เสียชีวิต ลงชื่อในแบบถอดถอน 3 ส.ส. ซึ่งหลังเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ได้มีทหารเสียชีวิต 5 นาย และมีผู้บาดเจ็บอีกนับร้อยราย ก็ได้มีประชาชนที่เห็นอกเห็นใจกับครอบครัวที่เสียชีวิต และบาดเจ็บทั้งทหารและประชาชน จึงได้เรียกร้องให้ตนทำการเปิดบัญชี ซึ่งตนก็ได้เปิดบัญชีออมทรัพย์ของสภากาชาดไทย เพื่อรวบรวมเงินบริจาค เมื่อได้เงินบริจาคจำนวน 3 ล้านบาทเศษ ก็ได้มอบโดยแบ่งเงินจำนวนดังกล่าวให้กับครอบครัวทหาร และประชาชนที่บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งหมด จึงขอยืนยันว่าไม่มีการนำเงินบริจาคมาชักจูงให้ประชาชนร่วมลงชื่อถอดถอน 3 ส.ส. อย่างแน่นอน
 แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี กล่าวว่า กรณีที่นางสาวอรุณีกล่าวหาว่าตน ไปร่วมตรวจค้นคนเสื้อแดงที่จะกลับบ้าน ทั้งที่ความจริงตนไม่ได้ไปร่วมตรวจค้น แต่นำอาสาสมัครไปมอบน้ำดื่มให้กับกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะกลับบ้าน อย่างไรก็ตาม การที่นายไพจิตกล่าวหาว่ากลุ่มคนเสื้อหลากสี เป็นนอมินีกับแกนนำเสื้อเหลือง หรือได้รับการว่าจ้างจากรัฐบาลโดยรับเงินมาเป็นร้อยล้านบาท ซึ่งตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะการชุมนุมของคนเสื้อหลากสี เป็นการชุมนุมโดยอิสระไม่ได้อยู่ใต้อาณัติใคร








ข่าวที่เกี่ยวข้องบึ้ม!สนั่นห้องเช่าราม53ดับ1สาหัส3ราย เทือกปัดข่าวพผ.ฟรีโหวตรมต.ถูกซักฟอกเทพเทือกชี้ยูเอ็นแทรกแซงไทยไม่ได้ ซักฟอกเดือดไล่ส.ส.ปชป.ออกห้องประชุมฯวิปรัฐฯโต้ฝ่ายค้านประท้วงน้อยกว่ารบ.ชุดก่อน

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

มาร์คเปิดคลิปแฉไอ้โม่งดำแฝงตัวม็อบ

มาร์คเปิดคลิปแฉไอ้โม่งดำแฝงตัวม็อบ



คมชัดลึก :นายก"อภิสิทธิ์"โต้กลับฝ่ายค้าน เปิดคลิปแฉไอ้โม่งชุดดำ แฝงตัวก่อการร้ายใช้อาวุธสงคราม รับมีคนตายในวัดปทุมฯจริง แต่วิถีกระสุนไม่ได้ยิงจากที่สูง แต่ยิงแนวราบ พร้อมตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย







(1มิ.ย.) ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ซึ่งภายหลังจากที่นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคเพื่อไทย อภิปรายจบ
 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงว่า ที่ฝ่ายค้านกล่าวหาตน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯและกองทัพ เป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงมาก หากเป็นจริง ตนก็ไม่ควรยืนอยู่ตรงนี้ แต่ขอยืนยันว่า ตลอดการทำงานการเมือง โดยเฉพาะช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ซึ่งยากลำบากที่สุดในการตัดสินใจ ตนตัดสินใจบนทางที่ดีที่สุดของบ้านเมืองและชีวิตทรัพย์สินของประชาชน ทั้งนี้ ถ้ามองเหตุการณ์เพียงบางส่วนอาจไม่เห็นภาพทั้งหมดจึงไม่เข้าใจ จึงต้องมองภาพรวมด้วย ซึ่งรัฐบาลนี้เข้ามาไม่ได้เริ่มความขัดแย้งการเมือง แต่ความขัดแย้งเริ่มมานานแล้ว บางฝ่ายบอกว่าเริ่มเมื่อรัฐประหาร 19 กันยายน 49 แต่บางฝ่ายบอกว่า เกิดขึ้นก่อนหน้านี้จากการที่มีรัฐบาลละเมิดรัฐธรรมนูญ 40 หลายเรื่อง ละเมิดสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพประชาชน พูดกันถึงว่า ยุคนั้นเป็นยุคที่มีประชาชนเสียชีวิตมากสุด เช่น กรณีตากใบ กรือเซะ นโยบายฆ่าตัดตอนเป็นพันศพ แต่ทุกรัฐบาลก็มีปัญหาแบบนี้ ตอนนั้นพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกฯขณะนั้นบอกว่า คือการรักษากฎหมาย ฉะนั้นไม่ต้องลาออกและต้องพิสูจน์ข้อเท็จจริงก่อน
 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ที่อภิปรายกันว่ารัฐใช้กำลังเอาชนะประชาชน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะสร้างความสงบ ตนเห็นด้วย และตนให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในอดีต แต่กรณีเดือนเมษายน-พฤษภาคมที่ผ่านมา ถ้าไม่มีกองกำลังติดอาวุธ ตนมั่นใจว่า จะไม่มีใครเสียชีวิต ตนทราบดีว่า ปัญหาความขัดแย้งเป็นปัญหาใหญ่ ที่ผ่านมาจึงพยายามหลีกเลี่ยงสร้างความขัดแย้งทุกกรณี เช่น ตอนแถลงนโยบาย แต่ต่อมาก็มีการปลุกระดมให้มาต่อต้าน อย่างไรก็ดี ตนเข้าใจได้ในเรื่องที่หลายคนชอบนโยบายของพ.ต.ท.ทักษิณ และอยากให้กลับมามีอำนาจ เพราะเป็นเรื่องปกติของผู้นำทางการเมืองที่มีคนชอบ แต่เมื่อมีการปลุกเร้า มีกองกำลังติดอาวุธแทรกเข้ามา ตัวพ.ต.ท.ทักษิณ วีดีโอลิงก์ปลุกระดม ก็ทำให้เกิดเหตุเมษายน 52 ที่การประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนพัทยา และในกทม. จากนั้นตนก็ให้เปิดประชุมร่วมรัฐสภา มีกรรมการศึกษาแนวทางแก้ปัญหา ก็มีการเสนอแก้รัฐธรรมนูญแต่ฝ่ายค้านก็ถอนตัวภายหลัง ทั้งนี้ ก่อนการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ ตนก็เสนอเงื่อนไขหลายครั้งว่า พร้อมยุบสภา ถ้าทำให้เศรษฐกิจ บรรยากาศทางการเมืองสันติ กติกาเลือกตั้งยอมรับกัน ซึ่งสมาชิกหลายส่วนก็ร่วมมือ
 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างไรก็ดี มีสมาชิกบางส่วน ไม่สนใจที่จะร่วมสร้างกระบวนการปรองดอง มีขบวนการสร้างข้อมูลบิดเบือนความจริงผลิตซ้ำยาวนาน เช่น เมษายน 52 มีการทุบรถที่กระทรวงมหาดไทย นายสุพร อัตถาวงศ์ พาคนมา ผมก็แปลกใจทำไมเกลียดชังจนถึงจะทำร้ายกันขนาดนี้ มาทราบภายหลังว่า มีคนไปพูดบิดเบือนว่า รถนายกฯชนคนเสื้อแดงบ้าง การ์ดนายกฯยิงบ้าง หรือนายจตุพร พรหมพันธุ์ ยังกล้าพูดความเท็จว่า ที่กระทรวงมหาดไทยเลขาธิการนายกฯบาดเจ็บเองไม่ได้โดนคนเสื้อแดงทำร้าย ทั้งนี้ ขบวนการสร้างความเกลียดชังมีต่อเนื่อง ผมเบื่อแล้วที่จะฟ้องร้อง เฉพาะนายจตุพรมีหลายคดีมาก และยังมีตัดต่อคลิปเสียงจากรายการเชื่อมั่นประเทศไทยอีก จากนั้นการชุมนุมของคนเสื้อแดงมีต่อเนื่องหลายครั้ง แต่รัฐบาลก็ช่วยดูแล ในกลุ่มเสื้อแดงก็มีหลายส่วน บางส่วนก็เกินกว่าข้อเรียกร้องของแดงกลุ่มใหญ่ เช่นกลุ่มแดงสยาม ต่อมาช่วงการชุมนุมครั้งนี้ ก็มีระเบิดต่อเนื่อง นี่คือเงื่อนไขที่ทำให้แตกต่างกับกรณี 14 ตุลา 16 6 ตุลา 19 พฤษภา 35 เพราะในอดีตไม่มีระบบการ์ด ไม่มีกองกำลังติดอาวุธ นี่คือความยาก
 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า หลักที่รัฐบาลใช้คือ ยึดตามหลักศาลนั่นคือ ความชอบด้วยรัฐธรรมนูญในการชุมนุมซึ่งระบุว่า หากไปปิดเส้นทางคมนาคมสำคัญหรือกระเทือนต่อการประกอบธุรกิจการดำรงชีวิตอย่างมีนัยสำคัญถือว่าเกินเลยขอบเขตสิทธิการชุมนุม แต่รัฐบาลก็ไม่ได้อ้างเพื่อเข้าไปสลายชุมนุม แต่ได้ฟังเสียงข้อเรียกร้อง เรื่องรัฐธรรมนูญพยายามแล้วแต่ถูกปฏิเสธ เรื่องความเหลื่อมล้ำก็เสนอแนวทางแล้ว บางเรื่องก็เริ่มทำมาก่อนหน้านี้ เช่น เบี้ยยังชีพต่างๆ เรื่องนโยบายของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ประชาชนชอบ รัฐบาลนี้ก็ต่อยอดเพิ่มเงินกองทุนหมู่บ้าน รัฐบาลคิดถึงการแก้ปัญหาทางการเมืองตลอดในการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ตั้งแต่มีนาคม แต่มีกรณีคู่ขานเช่น ยิงเอ็ม 79 คู่ขนานเป็นระยะ ส่วนการชุมนุมก็ยกระดับเข้ารุกสถานที่ราชการเช่น กกต.หรือไทยคม เมื่อมีการแบ่งชุมนุมเป็น 2 ส่วน คือที่ผ่านฟ้าและราชประสงค์ วันที่ 10 เมษายน ก็ดำเนินการที่ผ่านฟ้า แต่ความสูญเสียก็เกิดขึ้นช่วงถอนกำลัง บางคนบอกรัฐบาลสร้างสถานการณ์เรื่องคนชุดดำ จึงขอเปิดคลิป
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เปิดคลิปแรก ซึ่งเป็นคลิปวันที่ 10 เมษายน ที่แยกคอกวัว และระบุว่า ภาพเคลื่อนไหวนี้ ยืนยันว่า มีคนกลุ่มหนึ่งติดอาวุธปะปนกับผู้ชุมนุม และผู้ชุมนุมทั่วไปหลายคนไม่รู้ แต่บางคนรู้ ในคลิปยังมีชายชุดดำมีปืนเอเค แต่ใส่เสื้อที่มีความเชื่อมโยงกับการ์ดนปช. นี่คือข้อยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้แต่งขึ้นมา และภาพเหล่านี้ปรากฏสู่สาธารณะไปแล้ว ฉะนั้นจึงเกิดความสูญเสียของประชาชนและเจ้าหน้าที่
 จากนั้นนายอภิสิทธิ์ เปิดคลิปที่สอง เป็นเหตุวันที่ 10 เมษายน ที่เป็นรถกระบะขนทหารบาดเจ็บไปโรงพยาบาลแต่มีคนเสื้อแดงอาวุธไล่ตีไล่จับ โดยนายอภิสิทธิ์ ระบุว่า ถ้าไม่มีคนชุดดำ และการปลุกระดมสร้างความเกลียดชัง เรื่องแบบนี้ไม่เกิน ทั้งนี้ ตนไม่โทษผู้ชุมนุม แต่ปัญหาเกิดจาก คนที่แทรกซึมใช้อาวุธและทำให้ผู้ชุมนุมเข้าใจผิดว่า เจ้าหน้าทำ แต่ก็มีผู้ชุมนุมที่รู้ว่า คนที่ทำไม่ใช่เจ้าหน้าที่ จากนั้น นายกฯได้เปิดคลิปที่ 3 ที่เป็นผู้ชุมนุมให้สัมภาษณ์ช่วงเกิดเหตุว่า มีคนชุดดำที่ไม่ใช่ทหารยิงประชาชน
 จากนั้นนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จากคลิปดังกล่าว วันนี้อย่างเพิ่งปรักปรำว่าใครทำเพราะเหตุการณ์ซับซ้อนกว่านั้นเยอะ เมื่อผ่านเหตุ 10 เมษายน ตนก็ยิ่งทราบว่า สถานการณ์ยิ่งยากขึ้น เพราะมีคนติดอาวุธทำร้ายประชาชนและเจ้าหน้าที่ จึงมีการสืบสวนและจับกุม และการหาแนวทางปรองดอง แต่ตอนนั้นก็มีการยกระดับชุมนุมต่อเนื่อง ที่ราชประสงค์ชุมนุมต่อเนื่องหลายสัปดาห์ เริ่มมีการพูดว่า จะเคลื่อนต่อไปสีลมหรือที่ต่างๆ รัฐบาลจึงส่งทหารตำรวจไปคุ้มกัน ประชาชนที่สีลมก็ขอบคุณ แต่เหตุการณ์ก็ไม่หยุด เหตุการณ์ 22 เมษายน ที่มีการยิงเอ็ม 79 ที่รถไฟฟ้าศาลาแดง สีลม จนมีผู้เสียชีวิต อีกด้านหนึ่งมีประชาชนไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของคนเสื้อแดงเริ่มออกมาต่อต้าน ตนก็เกรงว่าจะเกิดม็อบชนม็อบ ช่วงนั้นก็มียิงระเบิดใส่ประชาชนที่ชุมนุมต่อต้านคนเสื้อแดงอีก เหล่านี้เป็นแรงกดดันต่อการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาล นอกจากนี้ยังมีการบุกโรงพยาบาลจุฬาฯ ซึ่งท่ามกลางสงครามยังไม่มีการทำกัน ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ตนยังตัดสินใจเสนอแผนปรองดอง 5 ข้อ ให้เลือกตั้งใหม่ 14 พฤศจิกายน เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม
 นายกฯ กล่าวต่อว่า ตน นายสุเทพ ผบ.ทบ. โดนกดดันมากจากทุกฝ่ายว่า จะทำอย่างไรให้เลิกชุมนุม แต่เมื่อเสนอแผนไปแล้ว สุดท้ายแกนนำผู้ชุมนุมก็ปฏิเสธ รัฐบาลจึงมาคิดว่า จะทำอย่างไร แต่ต้องบนฐานไม่ให้ใช้กำลังปะทะ และไม่ให้เกิดความสูญเสีย จึงใช้มาตรการกดดันปิดล้อม ไม่ให้เอาผู้ชุมนุมเข้าไปเพิ่ม และตัดไฟตัดน้ำ ตั้งด่าน 4 ด้าน โดยไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ชุมนุมหลักเลย และตั้งห่างพอจะไม่ให้โดนเอ็ม 79 จากการที่ทราบทางการข่าว แต่ชุดดำ กองกำลังติดอาวุธ และมีการระดมมวลชนจากข้างนอก มาซ้อนไว้อีกเป็นขนมชั้น ดินแดงราชปรารภ คลองเตยบ่อนไก่ สะพานเหลือง คนชุดดำชุดนี้ ตนยืนยันว่า มาใช้กำลัง เอเชียไทม์ เพิ่งตีพิมพ์บทความสำคัญ ชื่อ เปิดหน้ากากชุดดำ มีสื่อ 2 คน เข้าไปอยู่ด้วยเมื่อคืนวันที่ 15 พฤษภาคม แต่ถ่ายรูปออกมาไม่ได้ ได้เขียนบทความยืนยันว่า ชุดดำมีจริง มีอาวุธออกไปปฏิบัติการณ์ ทั้งเอ็ม 16 เอ็ม 79 ระเบิดแสวงเครื่อง มีเยอะไปหมด เวลานั้น ศอฉ.ก็ได้รับการเตือนว่า ปฏิบัติการของคนกลุ่มนี้จะไม่ทำร้ายเพียงเจ้าหกน้าที่รัฐเท่านั้น ศอฉ.จึงออกเตือนผู้สื่อข่าว อาสาสมัคร
 จากนั้นเปิดคลิปที่ 4 ซึ่งเป็นภาพคนชุดดำซุ่มยิงเอ็ม 16 ที่สวนลุมพินี บ่อนไก่ และมีภาพเด็กอยู่บนบังเกอร์ยางรถยนต์ โดยนายอภิสิทธิ์ บรรยายว่า เป็นการนำคนบริสุทธิ์มาเป็นโล่ นอกจากนี้ยังมีภาพชายคลุมหน้าถือปืน ชายแต่งกายคล้ายทหารแต่มีสัญลักษณ์ของฝ่ายผู้ชุมนุม รูปการสั่งการแบบมีแบบแผน ภาพการยิงเอ็ม 79 แต่รัฐบาลก็พยายาม ส.ว.เข้ามา และประสานว่า ทั้งสองฝ่ายจะหยุดยิงหลัง 18.00 น. แต่ข้อเสนอไม่เป็นจริง คืนวันที่ 18 พฤษภาคม ยังมีการยิงเอม 79 อยู่ ช่วงกระชับวงล้อมมียิงเอม 79 กว่าร้อยลูก แกนนำเสนอมาว่า จะเอาผู้ชุมนุมจากทุกที่มารวมที่ราชประสงค์ที่เดียว แบบนี้ไม่ได้แกปัญหา เช้ามืดวันที่ 19 พฤษภาคม จึงบีบพื้นที่เข้าไปอีก ในที่สุดแกนนำประสานมาว่า จะยอมมอบตัว
 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลห่วงเหมือนกันว่า จะบริหารจัดการการยุติการชุมนุมอย่างไร เมื่อผู้ชุมนุมบอกยุติ รัฐบาลก็ให้ทหารอยู่กับที่เพราะกลัวว่าจะเข้าใจผิดและปะทะกับประชาชนที่กำลังจะกลับบ้าน แต่ก่อนชุมนุมก็มีสัญญาณแล้วว่า เมื่อมอบตัว การปฏิบัติการของกลุ่มก่อการร้ายจะไม่ยุติจริง ซึ่งคำพูดบนเวทีของแกนนำตั้งแต่ปีที่แล้วหลาๆยเวทีพูดมาตอดลว่า จะมีการเผา การวางเพลิง การใช้ระเบิดเพลง นอกจากนี้ การชุมนุมครั้งนี้มีการจับกุมชาวอังกฤษ 1 ราย ซึ่งพบในคลิปยูทูบ 1 วันก่อนยุติชุมนุมระบุว่า ถ้ารถถังเข้ามา จะเข้าไปเผาทำลาย ขโมยของในเซ็นทรัลเวิล์ด ต่อมาหลังเซ็นทรัลเวิล์ดโดนเผา ชายคนนี้ ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศ บอกว่า อยู่ที่ช่อง 3 เห็นการเผาอย่างเป็นระบบ และยังบอกว่า ต่อไปอีก 1 เดือนคงมีชุมนุมอีก ซึ่งสอดคล้องกับอดีตนายกฯ ฉะนั้น ที่รัฐบาลระบุว่า มีการก่อการร้ายน่าจะชัดเจนแล้วว่า มีการใช้ประชาชนผู้บริสุทธิ์มาเป็นโล่ และต้องการทำให้นานาชาติเห็นว่า ประเทศไทยเป็นรัฐล้มเหลว
 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับเหตุที่วัดปทุมวนาราม มีผู้ประสานมาให้เป็นเขตอภัยทาน ก็ตกลงกัน และตนกำชับศอฉ.ตลอดว่า พื้นที่นั้นต้องปลอดจากอาวุธจริงๆ และเมื่อมีการยุติการชุมนุม ตอนแรกก็ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้ามาทางทิศสยามสแควร์ เพราะเกรงว่า จะเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุม สุดท้ายต้องเอาเข้ามาป้องกันเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ทำให้มีการปะทะกัน มีรอยกระสุนหลายแห่งที่สถานีรถไฟฟ้าสยาม ต่อมามีข่าวซึ่งมีทั้งตรงและไม่ตรงกับที่ส.ส.ฝ่ายค้านนำมาอภิปราย เรื่องแก๊สน้ำตาไปหลังวัดให้คนออกมาหน้าวัด ไม่มีแน่ แต่มีผู้เสียชีวิตน่าวัดและเต็นท์พยาบาลจริง ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้น ซึ่งต้องสอบสวน วันนี้ความเชื่อของแต่ละคนแตกต่างกันไป แต่ขอความเป็นธรรมให้กับศอฉ.ว่า มีเหตุผลอะไรที่เจ้าหน้าที่จะไปดำเนินการกับคนในวัด เพราะการชุมนุมยุติลงแล้ว ส่วนเรื่องทหารบนรางรถไฟฟ้า นายสุเทพ ก็ชี้แจงไปแล้ว
 นอกจากนี้นายกฯยังแสดงภาพที่คนในวัดปทุมโดนยิง พร้อมกับภาพผลการชันสูตวิถีกระสุน โดยนายกฯ ระบุว่า จุดที่กระสุนปืนเข้าไปส่วนใหญ่จะเข้าที่บริเวณช่วงตัว ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยที่จะยิงจากมุมสูง แต่เป็นการยิงจากแนวราบ เพียงแต่อริยาบทของผู้ถูกยิงแตกต่างกัน โดยจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกันต่อไป แต่ฝ่ายนปช.และอดีตนายกฯ ไม่เห็นด้วยกับการใช้กลไกกรรมการสิทธิ แต่ฝ่ายค้านได้ยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.สอบแล้วก็จะเป็นอีกทางที่คู่ขนานและรัฐบาลจะตั้งกรรมการที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายมาสอบ และยืนยันจะเดินหน้าแผนปรองดอง 5 ข้อ ไม่รวมเรื่องวันเลือกตั้งใหม่ ทั้งนี้จะไม่นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง และขอเชิญชวนประชาชนทุกกลุ่ม รวมถึงที่มาชุมนุม อยากให้เข้ามาร่วมในกระบวนการปรองดองให้มากที่สุด สมาชิกฝ่ายค้านจะมีบทบาทสำคัญ ซึ่งผู้แทนของต่างประเทศ ยุโรป สหรัฐอเมริกา ก็เห็นตามนี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายช่วยกันเดินหน้าโดยไม่มีการใช้ความรุนแรง และประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้สื่อข่าว และเรียกร้องให้ฝ่ายค้านมาเข้าร่วมกระบวนการปรองดอง รัฐบาลขอยืนยันตั้งใจ สำนึกถึงความรับผิดชอบที่ต้องมี ผลการตรวจสอบของกระรมการอิสระที่จะตั้งขึ้นจะออกมาอย่างไร ตนพร้อมรับผิดชอบ
 นายกฯ กล่าวอีกว่า ตนมี 2 ประเด็นที่อยากชี้แจง คือ 1. กรณีทีมีการพาดพิงถึงกองทัพ และทหาร ตนคงบอกไม่ได้ว่าพ้นที่ทุกส่วนจะมีการปฏิบัติอย่างไร แต่กำลังพบได้แสดงความอดทน มีระเบียบวินัย บางภาพเห็นชัดเจนว่าขนาดมีอาวุธอยู่ในมือ เขาก็ยังไม่ใช้แม้โดนทำร้ายก็ไม่ใช้อาวุธตอบโต้ 2. การพาดพิงถึงผบ.ทบ. แม้จะโดนตำหนิว่า ทำไมไม่ใช้กำลังบุกเข้าไป แต่ผบ.ทบ.ก็มีจุดยืนเดียวกับตนและนายสุเทพ ที่จะหาทางให้ไม่ให้สูญเสีย หรือสูญเสียน้อยที่สุด
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องหมอตุลย์ลั่นคนหลากสีไม่อยู่ใต้อาณัติใคร บึ้ม!สนั่นห้องเช่าราม53ดับ1สาหัส3ราย เทือกปัดข่าวพผ.ฟรีโหวตรมต.ถูกซักฟอกเทพเทือกชี้ยูเอ็นแทรกแซงไทยไม่ได้ ซักฟอกเดือดไล่ส.ส.ปชป.ออกห้องประชุมฯ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Tuesday, May 25, 2010

เฉลิมแนะวิทยาจัดคนลงศึกซักฟอกควรใช้คนน้อย

เฉลิมแนะวิทยาจัดคนลงศึกซักฟอกควรใช้คนน้อย



คมชัดลึก :พท.ใช้เวทีงบอุ่นเครื่องซัดรัฐสลายชุมนุม เฉลิมแนะ"วิทยา"จัดคนลงศึกซักฟอกรบ.ควรใช้คนน้อย ระบุของจอง"คดียุบปชป. และรถไฟฟ้าสายสีม่วง โยนวิปฝ่านค้านจะไฟเขียวให้จตุพรร่วมอภิปรายหรือไม่






 เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 25 พ.ค.ที่พรรคเพื่อไทย นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานการประชุมพรรคเพื่อไทยประจำสัปดาห์ โดยหารือกันถึงการอภิปรายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2554 และการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ภายหลังประชุม นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า การอภิปรายงบประมาณ พรรคเพื่อไทยจะพูดถึงการตั้งงบขาดดุล และการก่อหนี้เพิ่ม 4.2 แสนล้านบาท ทำให้หนี้สาธารณะรัฐบาลสูงขึ้นร้อยละ 4.1 ของจีดีพี โดยจะเน้นไปที่งบซ่อนกล หมกเม็ดในยุทธศาสตร์คลุมเครือ คือ งบที่จัดไปที่ภาคใต้ งบทหาร และงบฉุกเฉินกว่า 5 แสนล้าน รวมทั้งงบยุทธศาสตร์ที่วางเพื่อพัฒนาบ้านเมืองที่เสมือนการสร้างภาพ ที่จะเอื้อผลประโยชน์การเมืองและการเลือกตั้งครั้งต่อไป
 การอภิปรายงบฯครั้งนี้ เหมือนเป็นการอุ่นเครื่องก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งจะต้องมีการพูดถึงสถานการณ์ร้อนทางการเมืองอย่างแน่นอน โดยจะเกี่ยวพันถึงการใช้งบและการดำเนินการทางทหารไม่ถูกต้อง งานนี้ดุเดือดแน่ เพราะตั้งแต่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉินเป็นต้นมา พรรคเพื่อไทยไม่สามารถตรวจสอบรัฐบาลได้เลย ดังนั้นจะขอใช้เวทีนี้ตรวจสอบอย่างเต็มที่ ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั้น ทราบว่ามีความพยายามล็อบบี้จากพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคไม่ให้มีการอภิปราย เพราะกลัวจะตายคาสภาฯ ในข้อหาเรื่องเอื้อทุจริต อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลไม่เปิดให้มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจเข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญ เบื้องต้นคาดว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเกิดขึ้นเร็วสุดประมาณวันที่ 30 พ.ค.-1 มิ.ย. โดยครั้งนี้พรรคจะใช้คนอภิปรายน้อย เน้นข้อหาทุจริต เหตุการณ์สลายการชุมนุม ที่รัฐบาลลุแก่อำนาจ
“เฉลิม”แนะ"วิทยา"จัดคนลงศึกซักฟอกรบ.ควรใช้คนน้อย
 ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการประชุมพรรคเพื่อไทยว่า ในการประชุมพรรคในวันนี้ 25 พค.ได้หารือถึงการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยตนเสนอในที่ประชุมในหลายประเด็น ทั้งในเรื่องการเตรียมพร้อมตัวส.ส.ที่จะขึ้นอภิปรายว่า ควรใช้ส.ส.อภิปรายน้อยคน แต่ส่วนการจัดสรรบุคคลที่จะร่วมอภิปรายจะเป็นหน้าที่ของนายวิทยา บุรณะศิริ ส.ส.พระนครศรีอยุธยา ประธานคณะกรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) เป็นดูแลในเรื่องนี้ แต่ในเรื่องการเตรียมความพร้อมด้านเนื้อหาการลลำดับประเด็นที่จะอภิปรายฯตนจะเป็นผู้ดูแล แต่ในส่วนตัวการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ตนจะทำหน้าที่ในการอภิปรายในประเด็นหลักๆ อาทิ คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ รถไฟฟ้าสายสีม่วง และโครงการปืนสวัสดิการของกระทรวงมหาดไทย โดยประเด็นการยุบพรรคประชาธิปัตย์แม้จะไม่มีข้อมูลใหม่แต่จำเป็นต้องย้ำข้อมูลแบบช้าๆชัดๆให้ประชาชนเข้าใจอีกครั้ง จากนั้นตนจะทำหน้าที่สรุปโดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยในส่วนการเปิดการอภิปรายในภาพรวมนั้นได้แจ้งในที่ประชุมว่าจะให้บุคคลอื่นทำหน้าทีเปิดการอภิปรายฯ
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ในการอภิปรายฯครั้งนี้ นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วนจะเข้าร่วมการอภิปรายฯหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่ทราบซึ่งจะต้องไปถามนายวิทยาที่ทำหน้าที่ในการจัดสรรบุคคลที่จะอภิปรายฯ และไม่ทราบว่านายจตุพรได้เสนอตัวร่วมการอภิปรายหรือไม่ ซึ่งขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมทั้งในเรื่องเนื้อหา และตัวบุคคล แต่กังวลอยู่นิดหน่อยว่า รัฐบาลจะให้มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงเวลาใด อีกทั้งทราบว่าพรรคภูมิใจไทยเองก็ไม่ต้องการให้มีการเปิดอภิปรายฯ
 








ข่าวที่เกี่ยวข้อง"พท."ร้องปปช.สอบ"มาร์ค-ศอฉ."สลายม็อบแชมป์ชั่วร้ายหน้าด้านวิกฤติจากทักษิณยังไม่จบชวรัตน์พร้อมชี้แจงพท.ลงขันอภิปราย-ถอดถอนก่อการร้ายเหนือกฎหมาย

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

มาร์คจรดปากกา ส่งคำแก้ข้อกล่าวหายุบปชป.

มาร์คจรดปากกา ส่งคำแก้ข้อกล่าวหายุบปชป.

อภิสิทธิ์ลงนามส่งคำแก้ข้อกล่าวหายุบ ปชป.คดีเงิน 29 ล้านบาทเตรียมยื่นศาล รธน. ด้านนิพิฏฐ์โวมั่นใจทั้งข้อกฎหมาย-ข้อเท็จจริง....วันที่ 25 พ.ค. ณ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีการประชุมคณะทำงานต่อสู้คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณายุบพรรคเนื่องจากใช้เงินกองทุนพัฒนาพรรคการเมืองจำนวน 29 ล้านบาท ผิดวัตถุประสงค์ โดยมี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเป็นประธานในที่ประชุมตลอดช่วงเช้าต่อมาในช่วงบ่าย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เดินทางเข้าพรรค ฯ และร่วมประชุมที่ชั้น  2 อาคารควง อภัยวงศ์ โดยได้ลงนามรับทราบในเอกสารคำแก้ข้อกล่าวหาก่อนจะมอบให้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะคณะทำงานต่อสู้คดียุบพรรคไปยื่นเอกสารแก้ข้อกล่าวหาให้กับศาลรัฐธรรมนูญด้าน นายนิพิฎฐ์ กล่าวว่า ภาพรวมแล้วพอใจในสิ่งที่ได้ทำมาทั้งหมดตลอด 30 วันที่ผ่านมา มั่นใจและพอใจทั้งในส่วนของข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายที่ไปสืบค้น ดังนั้น เชื่อว่า ศาลรัฐธรรมนูญจะเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด เพราะเรื่องราวทั้งหมดเกิดจากความเข้าใจผิดของ กกต. ที่ไม่เข้าใจกระบวนการหาเสียงของพรรคการเมืองว่า เมื่อมีการกำหนดวันเลือกตั้งขึ้นแล้วพรรคการเมืองจะต้องมีการดำเนินการอะไร และอย่างไรบ้าง เช่น กรณีของการจัดทำป้ายหาเสียงนั้น กกต. อาจจะไม่เข้าใจว่า พรรคการเมืองจำเป็นที่จะต้องเริ่มจัดทำป้ายหาเสียงตั้งแต่เมื่อไหร่และเวลา ใดเป็นต้น


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

แฉกองกำลังติดอาวุธ เบนเป้าเล่นงานปริมณฑล

แฉกองกำลังติดอาวุธ เบนเป้าเล่นงานปริมณฑล

ปณิธาน แฉกองกำลังติดอาวุธเบนเป้าเล่นงานพื้นที่ปริมณฑล ชี้ตุลาการ เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม ตกเป็นเป้าหมายซุ่มโจมตีเพิ่ม รับมีกลุ่มชาวต่างชาติร่วมกระบวนการเคลื่อนไหว อ้างพบเอกสารโยง...เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ขยายเวลาเคอร์ฟิวอีก 4 วันว่า เนื่องจากขณะนี้มีความพยายามของคนบางกลุ่มในการก่อความไม่สงบ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องทำงานอีกระยะให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ โดยมีการจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว 3 เหล่าทัพ ไปตามพื้นที่ต่างๆ ทั้งนี้ แม้พื้นที่ราชประสงค์และพื้นที่รอบในสถานการณ์เริ่มดีขึ้น แต่ต้องขยายไปดูแลพื้นที่รอบนอกปริมณฑล เพราะมีแนวโน้มว่า กองกำลังติดอาวุธจะเคลื่อนไปยังพื้นที่รอบนอก จึงขอให้ผู้ประกอบการเอกชนเร่งจัดระบบรักษาความปลอดภัยของตัวเอง โดยเฉพาะห้างร้านที่อยู่ในปริมณฑลและพื้นที่รอบนอก ทั้งนี้ฝ่ายความมั่นคงมีเบาะแสพอสมควรว่า ใครคิดจะก่อเหตุ มีเป้าหมายปองร้ายใคร โดยเป้าหมาย การก่อวินาศกรรมยังเป็นเป้าหมายเดิมๆ ที่เคยทำสำเร็จมาแล้ว ทั้งนี้เดิมกลุ่มกองกำลังไม่ทราบฝ่ายจะมุ่งโจมตีผู้สื่อข่าว ผู้นำชุมชน เจ้าหน้าที่การแพทย์ แต่ขณะนี้ ศอฉ.กำลังประเมินว่า อาจมีตุลาการ คนทำคดี และเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมที่เข้าพื้นที่ไปช่วยเหลือประชาชนที่อาจตกเป็นเป้าหมายด้วยนายปณิธาน กล่าวด้วยว่า ส่วนที่มีชาวต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสื้อแดง ก็เพื่อลดความน่าเชื่อถือของนายกฯ และรัฐบาล โดยดึงนานาชาติมาเป็นเครือข่ายใหม่ ซึ่งครั้งแรกที่ชาวต่างชาติเข้ามาเคลื่อนไหว ก็เพื่อแสดงออกว่า ไม่สนับสนุนรัฐบาล แต่พอชุมนุมไประยะหนึ่งก็เริ่มมีรายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มติดอาวุธเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เมื่อถามว่า พลซุ่มยิงสไนเปอร์ มีคนต่างประเทศร่วมอยู่ด้วยหรือไม่ นายปณิธานกล่าวว่า มีการข่าวยืนยันเป็นระยะๆ ว่า มีกลุ่มคนไม่พูดภาษาไทยปะปนอยู่ในการชุมนุม และเมื่อการชุมนุมยุติลงแล้ว มีการเข้าไปตรวจพื้นที่ก็พบหลักฐานหลายอย่าง ทั้งแผนและเอกสารที่เป็นทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ซึ่งจะส่งให้ดีเอสไอตรวจสอบว่า เป็นเพียงการจดบันทึกธรรมดา หรือเป็นใบคำสั่ง.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

จัดชุดอารักขาผู้นำลงพื้นที่หวั่นสไนเปอร์จ่อยิง

จัดชุดอารักขาผู้นำลงพื้นที่หวั่นสไนเปอร์จ่อยิง



คมชัดลึก :"สุเทพ สั่ง ปทีป เร่งจับกุม 5 แกนนำ นปช. หวั่นเป็นเชื้อปะทุ พร้อมติดตาม กองกำลังติดอาวุธ เกรงรอจังหวะป่วนรอบสอง หลังยกเลิก เคอร์ฟิว ศอฉ.จัดชุดอารักขาผู้นำลงพื้นที่ หวั่นสไนเปอร์เจาะหัว ดีเอสไอลงทำคดีก่อการร้ายในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคอีสาน หลังพบกลุ่มแดงป่วนเคลื่อนไหว






 (25พ.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพบก  เมื่อเวลา 15.00 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมประชุมศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) โดยมี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอฉ. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้เวลาในการพูดคุยเป็นเวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
 ทั้งนี้ในที่ประชุม นายสุเทพ ได้แจ้งในที่ประชุมให้ได้รับทราบถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกาศพื้นที่เคอร์ฟิวต่อไปจนถึงวันศุกร์ที่ 28 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม การที่ ครม.อนุมัติเพียง 4 วันเท่านั้น ก็เนื่องอยากให้ดูสถานการณ์ และมีการประเมินไปก่อน ไม่อยากให้มีการประกาศเคอร์ฟิวนานติดต่อกันถึง 7 วัน เพราะเกรงว่าจะเกิดผลกระทบในเรื่องการขนส่งทางการเกษตร
 แหล่งข่าวในที่ประชุม ระบุว่า ที่ประชุมมีความเป็นห่วงในพื้นที่ต่างจังหวัดที่ยังมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยเฉพาะ 4 จังหวัดที่มีการเผาศาลากลางจังหวัด คือ จ.ขอนแก่น จ.อุบลราชธานี จ.อุดรธานี จ.มุกดาหาร และอีก 3 จังหวัดที่มีการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง โดยเฉพาะการเผาโรงเรียนที่ จ.ยโสธร จ.หนองคาย และ จ.สกลนคร ซึ่งเบื้องต้นจะให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าไปร่วมทำคดีการก่อการร้าย ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคอีสาน ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหารในพื้นที่ นอกจากที่ประชุมยังได้มีการหารือถึงการลดกำลังการปฏิบัติของทหารในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะ 3 กองพลที่ปฏิบัติงานเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา อาจจะมีการลดกำลังทหารลงเพื่อให้มีความคล่องตัวในการปฏิบัติงานมากยิ่งขึ้น แต่ยังให้มีการคงเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารจากกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ไว้เช่นเดิม โดยจะทำงานร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตระเวนตรวจสอบในพื้นที่ที่เป็นจุดเสี่ยงต่อการก่อเหตุ
 แหล่งข่าว ยังบอกด้วยว่า ผอ.ศอฉ. สั่งกำชับให้ พล.ต.อ.ปทีป เร่งติดตามจับกุมแกนนำ นปช. ประกอบด้วย นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายสุพร อัตถาวงศ์ นางดารุณี กฤตบุญญาลัย นางไพจิตร อักษรณรงค์ นายวิสา คัญทัพ ที่ยังหลบหนีอยู่ เนื่องจากเกรงว่าบุคคลเหล่านี้จะไปสร้างความปั่นป่วน โดยเฉพาะการปลุกระดมให้กลุ่มคนเสื้อแดงมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้ง โดยเฉพาะตัวของ นายอริสมันต์ ที่ก่อนหน้านี้ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการเคลื่อนไหวมาก เพราะเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง เมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา นายอริสมันต์ ก็มีส่วนที่ทำให้ปัญหารุนแรงเช่นนั้น นอกจากนี้ยังสั่งให้ติดตามกองกำลังติดอาวุธที่ยังหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่ กทม. เพราะเกรงว่ากองกำลังติดอาวุธเหล่านี้จะออกมาปฏิบัติการหลังจากที่ รัฐบาล และ ศอฉ.ยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวส์ ดังนั้นจึงให้เจ้าหน้าที่เกาะติดการเคลื่อนไหวของกองกำลังติดอาวุธอย่างใกล้ชิด
 “ศอฉ.มีความเป็นห่วงเกรงว่ากองกำลังติดอาวุธจะใช้สไนเปอร์มาปฏิบัติการกับบุคคลสำคัญทางการเมือง และ เจ้าหน้าที่ ศอฉ. โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี จึงได้สั่งการให้มีความเข้มงวดในการดูแลความปลอดภัย โดยขณะนี้ได้มีการจัดชุดเฝ้าระวังในแต่ละพื้นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีการจัดกำลังออกเป็น 3 ชุด คือชุดเฝ้าระวัง ชุดติดตาม และชุดส่วนล่วงหน้า โดยมีอาวุธปืนครบมือเพื่อป้องกันเหตุร้ายกับบุคคลสำคัญที่ลงพื้นที่แต่ละพื้นที่ด้วย” แหล่งข่าวระบุ








ข่าวที่เกี่ยวข้องมาร์คผวาสไนเปอร์แหงนดูยอดตึกสั่งสอบทหารออสซี่'เทือก'อัดพท.ปล่อยข่าวทหารยิงปชช. ปชป.เปิดศูนย์ให้คำปรึกษาผู้ได้รับความเสียหายจนท.ปอเต็กตึ๊งเป็น1ใน6ศพวัดปทุมฯ อินไซด์ตำรวจประจำวันที่20พ.ค.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ทักษิณโวยข้อหาก่อการร้ายใส่ความ

ทักษิณโวยข้อหาก่อการร้ายใส่ความ



คมชัดลึก :ศาลอนุมัติหมายจับ"ทักษิณ"ข้อหาก่อการร้าย เจ้าตัวทวิต"ถูกใส่ความ" แล้วก็โดนปิด "กองการต่างประเทศ"ยังไม่ได้รับหมายศาลจับทักษิณ "นพดล" แจง"ทักษิณ" ไม่เอี่ยวเงิน 1,200 ล้าน ข้องใจเงินก้อนใหญ่ทำไมให้จับได้ง่ายๆ






 (25พ.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 611 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 13.30 น. ศาลมีคำสั่งอนุมัติหมายจับ ที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยื่นคำร้องที่ จ.781/2553 ขอหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาคดีก่อการร้ายเมื่อวันที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา
 โดยศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานของดีเอสไอ ผู้ร้องซึ่งประกอบด้วยพยานบุคคล 3 ปาก คือ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.ท.ถวัลย์ มั่งคั่ง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และพยานเอกสาร รวมทั้งพยานวัตถุแล้วเห็นว่า กรณีมีหลักฐานตามสมควรว่า ผู้ต้องหา น่าจะได้กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1 , 135/2 และ 135/3 ประกอบมาตรา 83 , 84 , 85 และ 86 จึงให้ออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ต้องหาตามขอ
 ขณะที่พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวภายหลัง ฟังคำสั่งศาลว่า ศาลอนุมัติหมายจับพ.ต.ท. ทักษิณ ในข้อหาก่อการร้าย ตามที่ดีเอสไอ ยื่นคำร้อง เพราะเห็นว่ามีพยานหลักฐานตามสมควรที่จะออกหมายจับได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้ไปจะเป็นหน้าที่ของอัยการฝ่ายต่างประเทศ ที่จะดำเนินการตามขั้นตอน พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน ฯ ติดตามตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีตามหมายจับต่อไป
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนทีมทนายความพ.ต.ท.ทักษิณนั้น เมื่อทราบคำสั่งออกหมายจับแล้ว นายพิชิฏ ชื่นบาน ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้โทรศัพท์แจ้งผลทันที ขณะที่นายธนเดช พ่วงพูล หนึ่งในทีมทนายความ พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวสั้นๆว่า หลังจากนี้จะต้องหารือ ถึงแนวทางการใช้สิทธิ์ ยื่นอุทธรณ์ เพื่อขอเพิกถอนหมายจับต่อไป
 ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ เวลา 10.00 น. อัยการคดีอาญา ได้เลื่อนสั่งคดี นายวีระ มุสิกพงศ์ , นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย , นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ , น.พ.เหวง โตจิราการ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กับพวกรวม 14 คน ผู้ต้องหาคดี ร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ยุยงส่งเสริมให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ , กระทำการให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา อันไม่ใช่ความมุ่งหมายตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้ล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน มาตรา 116 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มั่วสุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ซึ่งร่วมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อแดง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 มี.ค.52 ที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล จนถึงช่วงสงกรานต์ เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา
 โดยนายคารม พลทะกลาง ทนายความกลุ่ม นปช. กล่าวว่า อัยการได้เลื่อนสั่งคดีไปก่อน เนื่องจากการสอบสวนเพิ่มเติมยังไม่เสร็จสิ้น ซึ่งอัยการนัดฟังคำสั่งอีกครั้ง 29 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น.
หลังจากทราบผลการตัดสินพ.ต.ท.ทักษิณ ได้เขียนข้อความภายใต้ชื่อ  @Thaksinlive ผ่านทางเว็บไซต์ทวิตเตอร์ความว่า "ผมถูกใส่ความเป็นผู้ก่อการร้ายโดยใช้หลักฐานเท็จ เหมือน 6 ตุลา19 ทุกประการใช้สื่อโจมตีหาล้มสถาบันเป็นcommunistแต่เรียกใหม่เป็นterroristยัดอาวุธ
เป็นนายกฯมาจากการเลือกตั้งชนะถล่มทะลาย 2 ครั้งซ้อนถูกปฏิวัติยัดข้อหาถูกปล้นทรัพย์ต่อสู้หาความยุติธรรมโดยสันติกลับถูกยัดเยียดเป็นผู้ก่อการร้าย
อย่าเที่ยวไปบอกชาวโลกเขานะว่าเป็นประเทศประชาธิปไตยอายเขาคนกินข้าวกินขนมปังไม่ได้กินแกลบเอารถถังปราบประชาชนผู้เรียกร้องตายเป็นร้อยเจ็บเป็นพัน
ขอขอบคุณกำลังใจทุกกำลังใจ ขอขอบคุณนักสู้เพื่อประชาธิปไตยทุกท่านผมไม่มีท้อไม่มีถอยเราจะต่อสู้ต่อไปเพื่ออนาคตลูกหลานไทยจะได้มีสังคมที่เป็นธรรม
"ลุงมีระลึกชาติ"คงจะเห็นเหมือนผมไม่ยอมเห็นประเทศไทยเป็นเสมือนbanana republicที่คนเดียวกดปุ่มไปทุกระบบจนหมดสิ้นความเป็นธรรมและความน่าเชื่อถือ
ยอมเห็นประเทศแย่คนในชาติลำบากมีทุกข์สังคมขัดแย้งกฎหมายและองค์กรยุติธรรมถูกใช้เยี่ยงประเทศเผด็จการไร้หลักนิติธรรมเมตตาธรรมเพียงเพื่อขจัดระแวง"
ผมไม่เคยคิดร้ายกับใครถึงแม้จะโดนกระหน่ำขนาดนี้ เพียงสงสารคนที่ถูกแย่งโอกาสถูกเอาเปรียบ และอยากเห็นประเทศและคนไทยอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีเท่านั้น"
หลังจากนั้น @Thaksinlive ก็ได้ข้อความ "ถูกระงับเป็นการชั่วคราวตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน" เป็นที่เรียบร้อย
"กองการต่างประเทศ"ยังไม่ได้รับหมายศาลจับทักษิณ
 พล.ต.ต.เทอดศักดิ์ รุจิรวงศ์ ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ (ผบก.ตท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ที่ศาลออกหมายจับพ.ต.ท.ทักษิณ ในคดีทุจริตที่ดินรัชดาฯทางการไทยได้ส่งหมายจับไปหลายประเทศ แต่ไม่ค่อยให้ความร่วมมือเนื่องจากต่างประเทศมองว่าเป็นคดีทางการเมือง ส่วนใหญ่จะไม่ยุ่งคดีทางการเมืองจึงติดตามตัวมาดำเนินคดีได้ยาก อย่างไรก็ตามในคดีก่อการร้าย ที่ศาลออกหมายจับล่าสุดนั้นขณะนี้ทางหมายจับยังไม่ส่งมาที่กองการต่างประเทศ
"นพดล"แจง"ทักษิณ"ไม่เอี่ยวเงิน1,200ล้าน
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายพ.ต.ท.ทักษิณกล่าวเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ถึงกระแสข่าวมีถึงการพบเอกสารการโอนเงินกว่า 1,200 ล้านบาทจากกรุงดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในห้องพักคอนโดมิเนียม ซอยจรัญสนิทวงศ์ 70 ของนางศิวาพร เหตุสิงห์ โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่รัฐ มีความเชื่อมโยงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ว่า ตนและพ.ต.ท.ทักษิณไม่ทราบว่านางศิวาพร เป็นใคร และการโอนเงินดังกล่าวมีการโอนจริงหรือไม่ หากเป็นจริงเงินจำนวนนั้นนำไปใช้ในธุรกิจอะไร ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)ที่จะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะหากศอฉ.มีเอกสารหลักฐานอย่างที่เป็นข่าวถือว่าเป็นเรื่องไม่ยากที่จะพิสูจน์
 “เป็นความพยายามที่จะเชื่อมโยงเหตุการณ์ไปยังพ.ต.ท.ทักษิณ ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับพ.ต.ท.ทักษิณ วันนี้ดาบก็อยู่ในมือของ ศอฉ.และดีเอสไอแล้ว ก็ขอทำให้เต็มที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยินดีสนับสนุนให้ใช้กฎหมายเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าหากเงินก้อนดังกล่าวถูกนำไปสนับสนุนในการก่อการร้ายจริง ทำไมต้องโอนเงินแล้วให้คนอื่นจับได้”นายนพดลกล่าว
 
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องเพื่อไทยถกเครียดทักษิณเจอหมายจับก่อการร้ายเอเอฟพีเผยทักษิณกลับไปมอนเตเนโกรวานนี้เด็กเนวินชี้แม้วรู้อนาคตเซ็นตั้งทนายแก้ต่างล่วงหน้ามาร์คเชื่อข้อหาก่อการร้ายทักษิณเป็นเรื่องสากล "ทักษิณ"ออกแถลงการณ์โต้หมายจับก่อการร้าย

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Sunday, May 23, 2010

ทักษิณ รับไปเมืองคานส์ อ้างทั่วโลกเห็นใจนปช.

ทักษิณ รับไปเมืองคานส์ อ้างทั่วโลกเห็นใจนปช.

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรพ.ต.ท.ทักษิณ ทวิตยอมรับไปเมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส อ้างทั่วโลกเห็นใจเสื้อแดง อย่าหมดกำลังใจ เปรียบการต่อสู้เหมือนหนังอวตาร อาวุธพื้นบ้านสู้กับอาวุธทันสมัย...เมื่อคืนวันที่ 23 พ.ค. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุผ่านทวิตเตอร์ยอมรับว่า เดินทางไปเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส นอกจากนี้ ยังระบุว่า “พี่น้องที่เรียกร้องประชาธิปไตยอย่าเพิ่งหมดกำลังใจครับ ทั่วโลกเขาเห็นใจและเป็นกำลังใจกันมาก เขาบอกว่า they ask for ballots but they got bullets.”ขณะเดียวกัน อดีตนายกฯยังแนะนำให้คนเสื้อแดงดูภาพยนตร์เรื่อง อวตาร โดยเปรียบเทียบว่า สะท้อนการต่อสู้ของคนเสื้อแดงกับทหาร ระหว่างการใช้อาวุธพื้นบ้านกับอาวุธทันสมัยทั้งนี้ มีรายงานว่า วานนี้ (23 พ.ค.) มีการเผยแพร่ภาพพ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งอ้างว่ามีผู้ถ่ายไว้ขณะเข้าร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติที่เมืองคานส์ประจำปีนี้ แล้วนำมาเผยแพร่ตามเว็บไซต์เครือข่ายสังคม และเว็บบอร์ดต่างๆ จนได้รับความสนใจจากสังคมอย่างกว้างขวาง


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

สุเทพชงครม. ต่อเคอร์ฟิว โตัรบ.จัดฉากอาวุธ

สุเทพชงครม. ต่อเคอร์ฟิว โตัรบ.จัดฉากอาวุธ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณสุเทพ ชงครม.ชี้ขาดต่อเคอร์ฟิว อ้างยังมีเคลื่อนไหวใต้ดิน จัดส่งชุดติดตามแกนนำนปช.ที่หลบหนีอยู่ในไทย โต้รัฐบาลจัดฉากโชว์อาวุธพวกเสื้อแดง แนะอย่าเชื่อสื่อนอกเกินไป โบ้ยโจรชุดดำยิงทิ้ง 6 ศพวัดปทุมวนาราม...เมื่อเวลา 08.00 น. 24 พ.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงการยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวว่า พรุ่งนี้จะมีการพิจารณาในที่ประชุมครม. แต่โดยหลักคือเราพยายามดูแลให้สามารถควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความปลอดภัยกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ ขณะเดียวกันจะให้มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตตามปกติของประชาชนน้อยที่สุด ซึ่งพรุ่งนี้จะมีการประเมินผลดูว่า หลังจากที่เราดำเนินการมาอย่างนี้แล้ว ผลเป็นอย่างไร ถ้าจำเป็นก็อาจจะประกาศเคอร์ฟิวในบางพื้นที่ต่อเนื่อง หรือถ้าไม่จำเป็นก็ยกเลิกได้ ต้องดูสถานการณ์ก่อน  ผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศเคอร์ฟิวค่อนข้างมีผลกระทบกับประชาชนที่ค้าขายในช่วงกลางคืน รองนายกฯ กล่าวว่า ปกติตอนตี 1 ตี 2 ก็ค้าขายยากอยู่แล้ว เอาเป็นว่าหากรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แม้แต่ยกเลิกไปเลยเราก็ยินดีทำ แต่ขณะนี้ในหลายพื้นที่ยังมีความเคลื่อนไหว ยังมีความพยายามที่จะออกมาทำให้เสียหายต่อทรัพย์สินและความปลอดภัยของประชาชน  ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ขณะนี้การติดตามจับกุมกลุ่มพวกที่เคลื่อนไหวใต้ดิน มีการดำเนินการอย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า หลายคนทราบดีว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวใต้ดินครั้งนี้เป็นกลุ่มไหนบ้าง ซึ่งการจับกุมเป็นไปตามพยานหลักฐาน อย่างเมื่อวานก็มียิงปืนใส่ธนาคาร มีคนเห็นเหตุการณ์และมีพยาน เราก็พยายามจับกุม เมื่อถามว่า เป้าหมายของคนกลุ่มนี้คือต้องการก่อวินาศกรรมใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ก็ชัดอยู่แล้วว่าคนเหล่านี้ตั้งใจจะให้เกิดความวุ่นวายต่อบ้านเมือง ความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ของเอกชนและราชการ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแกนนำนปช.ที่หลบหนีอยู่ ทางรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เราได้ปล่อยสายไปติดตามอยู่ แต่เรื่องดังกล่าวคงไม่ง่าย ซึ่งเราก็ไม่ลดละความพยามยาม เมื่อถามว่า แกนนำเหล่านี้ยังอยู่ในประเทศไทย หรือหนีไปนอกประเทศแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า ยังอยู่ในประเทศไทย ยังไม่ได้หนีไปต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่กำลังติดตามอย่างใกล้ชิด  เมื่อถามว่า กลุ่มก่อการร้ายหรือกลุ่มเสื้อดำที่มีการพูดก่อนหน้านี้มีการจับกุมได้บ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เราจับกุมได้หลายคนแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป ซึ่งการเปิดเผยรายชื่อนั้น ขึ้นอยู่กับกรมสอบสวนคดีพิเศษว่าจะเปิดเผยหรือไม่อย่างไร เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตของพรรคเพื่อไทย ที่บอกว่ารัฐบาลแถลงข่าวฝ่ายเดียว และอาวุธที่นำมาแถลงนั้นก็เป็นการจัดฉาก รองนายกฯ กล่าวว่า เขาก็พูดไปเรื่อย แต่อาวุธเหล่านั้น ตอนที่เราไปตรวจพบ จะมีสื่อมวลชนติดตามไปทำข่าว ซึ่งได้เห็นพร้อมกับเจ้าหน้าที่ เมื่อถามว่า ส่วนใหญ่รู้หรือไม่ว่าที่มาของคนพวกนี้มาจากไหน รองนายกฯความมั่นคง กล่าวว่า มีมาจากหลายแห่ง ทั้งภาคกลาง ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคอีสานที่เป็นคนร้าย ขณะนี้เราได้ติดตามจับกุม ส่วนจำนวนคนร้ายมีเท่าไหร่นั้น คงไม่มีใครทราบ แต่อาจจะมีจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทม์ระบุกองกำลังติดอาวุธเข้าไปแฝงตัวในบริเวณคลองเตย ได้รับรายงานบ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปเชื่อตามข่าวอย่างนั้น แต่ไม่ว่าเขาอยู่ที่ไหน เราจะต้องติดตามอยู่แล้ว เมื่อถามว่าขณะนี้ยังไม่มีเบาะแสใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็มีเบาะแสจำนวนมากแต่ต้องให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ  ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังมีข่าวลอบสังหารหรือการก่อวินาศกรรม การรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีหรือตัวท่านเองต้องเพิ่มขึ้นหรือมีความเข้มงวดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า สำหรับตนเองเหมือนเดิม แต่สำหรับนายกฯ ตนสั่งให้ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่อยู่แล้ว  ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งทำต่อไปในอนาคต ที่ให้เห็นเป็นรูปธรรมได้คืออะไร นายสุเทพ กล่าวว่า นายกฯได้ประกาศแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาที่เรียกว่ามาตรการในการปรองดองไปชัดเจนแล้ว ซึ่งแต่ละมาตรการจะต้องมีรายละเอียดที่รัฐบาลต้องเข้าไปดำเนินการ และเชื่อว่าการปฏิบัติเหล่านี้จะเป็นรูปธรรมชัดเจนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เมื่อถามต่อว่า จะมีหลักประกันอะไรหรือไม่ว่า ประชาชนเหล่านั้นจะได้รับการช่วยเหลือจริง รองนายกฯ กล่าวว่า ต้องไม่มองอะไรในแง่ร้าย ต้องช่วยกันประคับประคองบ้านเมือง เพราะเป็นของเราทุกคน ถ้ามัวแต่ตั้งข้อสงสัย เอาแต่วิพากษ์วิจารณ์ ไม่เชื่อถือกันก็จะทำให้เรื่องที่น่าจะง่ายก็ยากไปอีก  เมื่อถามว่าในส่วนของนักการเมือง โดยเฉพาะในสภา ควรมีความร่วมมือกันอย่างไรในการแก้ไขปัญหา และแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองกันอย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า ความจริงคนที่อาสามาเป็นนักการเมือง ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า ภารกิจหน้าที่ก็คือการแก้ไขให้ชาติบ้านเมืองและประชาชน ถ้าทุกคนตระหนักในหน้าที่ของตัวเองก็จะสมบูรณ์ ผู้สื่อถามด้วยว่า มีหลายคนเมื่อเกิดเหตุการณ์ก็หายเงียบไปเลย รองนายกฯกล่าวว่า เรียกว่าหายเงียบไปก็ยังดีกว่าการมาสร้างปัญหา ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัว เมื่อถามว่าในส่วนของรัฐบาล ประชาชนถามหาความรับผิดชอบเหมือนกัน รองนายกฯ กล่าวว่า ที่รัฐบาลทำอยู่นี้ก็ถือว่ารับผิดชอบอยู่แล้วในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งประชาชนทั่วไปและประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่ต้องมีการเยียวยากัน  ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมีบทเรียนมา 2 ปีซ้อนแล้วกับเหตุการณ์เช่นนี้ จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นเป็นครั้งที่ 3 อีก นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องหาลู่ทาง เราเห็นแล้วว่าเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว กลุ่มนปช.ได้สร้างปัญหาให้บ้านเมือง รัฐบาลคิดว่าเมื่อแก้ไขปัญหาครั้งนั้นไปแล้วก็ควรจะจบ แต่กลุ่มนปช.ก็ฟักตัวขึ้นมาใหม่ คนลืมเรื่องเก่าไป นปช.ก็สร้างเรื่องใหม่ขึ้นมาอีก จะเห็นได้ชัดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปีนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่าที่เขาเคยทำมาปีที่แล้วมาก ใช้กองกำลังติดอาวุธออกมาเข่นฆ่าเจ้าหน้าที่ ประชาชน และสื่อมวลชน แม้แต่คนที่เป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ได้รับบาดเจ็บจนถึงเสียชีวิต เป็นเรื่องที่จะยอมให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้ เมื่อถามว่า ตอนนี้ดูแล้วมีกองกำลัง มีพรรค มีแนวร่วมครบถ้วน ถ้ามีการต่อสู้ในอนาคตจะมีการป้องกันอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า เราต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่าง ทุกคนจะเห็นว่ารัฐบาลใช้ความอดทนและยึดมั่นในหลักการของกฎหมาย ในระบอบประชาธิปไตยมีกฎหมายเป็นหลักของบ้านเมือง เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะพยามยามแก้ปัญหาโดยใช้กฎหมาย ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังคงเน้นเรื่องการเจรจาอยู่หรือไม่ เพราะในอดีต กว่าจะเลิกคอมมิวนิสต์ได้ต้องใช้เวลาเกือบ 20 ปี นายสุเทพ กล่าวว่า วิธีดังกล่าวคงใช้ได้กับพี่น้องประชาชนเท่านั้น แต่สำหรับคนเป็นผู้ก่อการร้ายที่ออกมาถืออาวุธไล่ล่าสังหารประชาชน คงกล่อมเกลายาก ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อถามว่า กลุ่มอาเซียนเรียกร้องว่าไทยเป็นประเทศผู้นำ ควรจะสร้างสันติสุขกันโดยเร็วเพื่อนำพาประเทศต่อไป รองนายกฯมั่นคง กล่าวว่า เราพยามยามทำให้เกิดสันติสุข แต่สันติสุขก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่ทำผิดแล้วไม่เอามาลงโทษไม่ได้ ไม่ใช่สันติสุขอย่างนั้น ผู้สื่อข่าวยังถามถึงความชัดเจนในเรื่อง 6 ศพในวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร จากการสอบสวนชัดเจนหรือไม่ว่าใครเป็นคนยิง นายสุเทพ กล่าวว่า เดี๋ยวก็ชัดเจนครับ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานข้อมูล ซึ่งรัฐบาลจะพูดต่อเมื่อมีหลักฐานครบถ้วนเรียบร้อย ตนขอให้สบายใจได้ว่าในการตรวจสอบเบื้องต้น เท่าที่ตนดู ไม่ใช่เรื่องของเจ้าหน้าที่ เมื่อถามว่า ใครที่จะสามารถเดินขึ้นไปบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ นอกจากเจ้าหน้าที่ เพราะมีการปิดให้บริการ นายสุเทพ กล่าวว่า โจรไงครับ ผู้ร้ายไงครับ เขาอยู่ที่นั่นมาตลอด การขึ้นไปบนรางรถไฟฟ้านั้น เจ้าหน้าที่เข้ามา 2 ทาง จากศาลาแดงหนึ่งทาง และจากเพลินจิตอีกหนึ่งทาง ตอนที่สยามสแควร์ปิด เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถขึ้นไปบนนั้นได้ และขณะที่แกนนำนปช.มอบตัว ยุติการชุมนุม เราให้เจ้าหน้าที่หยุด ไม่เคลื่อนที่ต่อไป เพราะว่าจะทำให้บรรยากาศของเขาที่จะประกาศยุติการชุมนุม จะกระทบกระเทือน ในขณะเดียวกันช่วงเย็นเราก็ไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่อีก เพราะไปสำรวจแล้วยังมีประชาชนอีกจำนวน 2-3 พันคน ที่ยังคงมีอารมณ์ค้าง ซึงเรื่องอย่างนี้เราจะเอาข้อเท็จจริงมาแถลงกับพี่น้องประชาชน กราบเรียนให้ประชาชนทราบทุกขั้นทุกตอน ผู้สื่อข่าวถามว่า นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์  โฆษกพรรคเพื่อไทย นำภาพเจ้าหน้าที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส มาแถลงให้สื่อมวลชนดูว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่บนรางรถไฟฟ้า รองนายกฯมั่นคง กล่าวว่า นายพร้อมพงษ์ก็โกหกทุกวัน ถ้าจะเชื่อนายพร้อมพงษ์ ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ แต่นั่นคือภาพที่ศาลาแดง ซึ่งสังเกตที่มีแนวบังเกอร์อยู่ แต่ที่สยามสแควร์จะไม่มีแนวบังเกอร์ของเจ้าหน้าที่ “ใครที่ลงข่าวก็จะต้องมีสติในการดูด้วย ถ้าเห็นอะไรนิดนึงแล้วเชื่อเขาไปหมด ตกใจไปหมด อีกหน่อยเราก็คงจะต้องกลุ้มใจ” นายสุเทพ กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวันก่อนเห็นเจ้าหน้าที่ไปตรวจวิถีกระสุนยิงที่ยิงพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก แล้ว จะทราบผลหรือไม่ว่าเป็นหน่วยงานไหน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็อยากทราบเช่นกันว่าเป็นหน่วยงานใด ฝ่ายไหน ใครเป็นคนทำ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ และจะดำเนินคดีต่อไป เมื่อถามว่า คดีคงไม่เงียบหายใช่หรือไม่ รองนายกฯมั่นคง กล่าวว่า คงจะต้องดำเนินการต่อไป เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่จะต้องดำเนินการ ทุกคนทุกรายที่เกิดเหตุ จะต้องพยามยามหาหลักฐานมาตรวจสอบข้อเท็จจริง

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ไต่สวนขอหมายจับแม้วก่อการร้าย

ไต่สวนขอหมายจับแม้วก่อการร้าย



คมชัดลึก :ศาลไต่สวนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยื่นคำร้องขอออกหมายจับ"ทักษิณ"ข้อหาก่อการร้าย






(24พ.ค.) ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.35 น. ศาลเริ่มการไต่สวนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยื่นคำร้องขอออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยวันนี้ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ รองอธิบดีดีเอสไอ ได้ขึ้นเบิกความพร้อมนำเอกสารหลักฐานรวมทั้งคลิปวีดีโอมายื่นประกอบการไต่สวนด้วย 
 ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เดินทางมายังศาลอาญาโดย นายธาริต เปิดเผยว่า ศาลได้มีคำสั่งเรียกมาสอบถามในการไต่สวนการออกหมายจับ พ.ต.ท.ทักษิณ ข้อหาก่อการร้ายและอื่นๆ








ข่าวที่เกี่ยวข้องร้อง'ซีเอ็นเอ็น'เสนอข่าวบิดเบือน'สุกี้'วอนคนไทยรักกัน เซ็นทรัลแจ้งเปิดห้างทุกสาขาปกติวันนี้ ศูนย์ฟื้นฟูฯถกมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการตร.เต้น!พาสื่อพิสูจน์ห้องคุมข้งนปช.
บุกค่าย พิสูจน์ขังเดี่ยว!

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เทือกยันไม่ปิดกั้นฝ่ายค้านยื่นซักฟอก

เทือกยันไม่ปิดกั้นฝ่ายค้านยื่นซักฟอก



คมชัดลึก :สุเทพ" ยันไม่ปิดกั้น ฝ่ายค้าน ขู่ ยื่น ซักฟอก ไม่สนว่าเป็นเรื่องอะไร แต่พร้อมเปิด สภาสมัยวิสามัญ แต่ต้องรอถกงบประมาณฯก่อน







(24พ.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณีที่ฝ่ายค้านจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่า เมื่อเขายื่นญัตติต่อประธานสภาฯเสร็จ รัฐบาลก็จะได้กำหนดวันที่จะไปตอบ ทั้งนี้ในการเปิดประชุมสภาสมันวิสามัญวันที่ 26-27 พ.ค. จะต้องมีการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2554 ก่อน
 ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ขณะนี้เหตุการณ์บ้านเมืองกำลังเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ น่าจะมีการหยิบยกขึ้นมาพูดคุยกันก่อน รองนายกฯความมั่นคง กล่าวว่า เรื่องนี้คงต้องแยกกัน คือ 1.เรื่องงบประมาณแผ่นดิน ซึ่งเป็นความสำคัญของบ้านเมือง ที่จะต้องเดินหน้าต่อไปซึ่งจะต้องทำให้แล้วเสร็จ มีตารางเวลาที่ชัดเจนอยู่ 2.เรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อฝ่ายค้านยื่นญัตติ รัฐบาลก็พร้อมที่จะขอให้เปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่ออภิปรายในทันทีโดยไม่ปิดกั้น ส่วนฝ่ายค้านจะอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องอะไรนั้น ก็เป็นเรื่องของฝ่ายค้าน ส่วนที่ฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตนด้วยนั้น ไม่มีปัญหา








ข่าวที่เกี่ยวข้องไต่สวนขอหมายจับ"แม้วก่อการร้าย ร้อง'ซีเอ็นเอ็น'เสนอข่าวบิดเบือน'สุกี้'วอนคนไทยรักกัน เซ็นทรัลแจ้งเปิดห้างทุกสาขาปกติวันนี้ ศูนย์ฟื้นฟูฯถกมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการตร.เต้น!พาสื่อพิสูจน์ห้องคุมข้งนปช.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เทพเทือกจ่อชงครม.ยกเลิกเคอร์ฟิว

เทพเทือกจ่อชงครม.ยกเลิกเคอร์ฟิว



คมชัดลึก :เทพเทือก รอชงครม.ยกเลิกเคอร์ฟิว สั่งจับตากลุ่มเคลื่อนไหวใต้ดินใกล้ชิด เผย โจรชุดดำยิง 6 ศพ วัดปทุมฯ ยันตามจับ แกนนำนปช. ที่ หลบหนี รับไม่ง่าย แต่ไม่ละความพยามยาม ลั่น ยอมให้มี หน 3 ไม่ได้






(24พ.ค.) ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงการยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวว่า พรุ่งนี้ (25มี.ค.) จะมีการพิจารณาในที่ประชุมครม. แต่โดยหลักคือเราพยายามดูแลให้สามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ให้ความปลอดภัยกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ ขณะเดียวกันก็ให้มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตตามปกติของประชาชนให้น้อยที่สุด ซึ่งพรุ่งนี้จะมีการประเมินผลดูว่าหลังจากที่เราดำเนินการมาอย่างนี้แล้วผลเป็นอย่างไร ถ้าจำเป็นก็อาจประกาศเคอร์ฟิวในบางพื้นที่ต่อ หรือถ้าไม่เป็นก็ยกเลิกได้ ก็ต้องดูสถานการณ์ก่อน
 ผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศเคอร์ฟิวค่อนข้างมีผลกระทบกับประชาชนที่ค้าขายในช่วงกลางคืน รองนายกฯมั่นคง กล่าวว่า ปกติตอนตี 1 ตี 2 ก็ค้าขายยากอยู่อยู่แล้ว เอาเป็นว่าหากรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แม้แต่ยกเลิกไปเลยเราก็ยินดีทำ แต่ขณะนี้ในหลายพื้นที่ยังมีความเคลื่อนไหวยังมีความพยายามที่ออกมาทำให้เสียหายต่อทรัพย์สินและความปลอดภัยของประชาชน
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้การติดตามจับกุมกลุ่มที่เคลื่อนไหวใต้ดินมีการดำเนินการอย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า คิดว่าหลายคนทราบดีว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวใต้ดินครั้งนี้เป็นกลุ่มไหนบ้าง ซึ่งการจับกุมก็จะเป็นไปตามพยานหลักฐาน อย่างเมื่อวานก็มีไปยิงปืนใส่ธนาคาร ซึ่งมีคนเห็นเหตุการณ์และมีพยาน เราก็พยายามจับกุม ผู้สื่อข่าวถามว่า เป้าหมายของคนกลุ่มนี้คือต้องการก่อวินาศกรรมใช่หรือไม่ รองนายกฯมั่นคง กล่าวว่า ก็ชัดอยู่แล้วว่าคนเหล่านี้ตั้งใจจะให้เกิดความวุ่นวายต่อบ้านเมือง ความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ของเอกชนและราชการ
 ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแกนนำนปช.ที่หลบหนี ทางรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เราได้ปล่อยสายไปติดตามอยู่ แต่เรื่องดังกล่าวคงไม่ง่าย ซึ่งทางเราก็ไม่ลดละความพยามยาม ผู้สื่อข่าวถามว่า แกนนำเหล่านี้ยังอยู่ในประเทศไทย หรือหนีไปนอกประเทศแล้ว รองนายกฯมั่นคง กล่าวว่า ยังอยู่ในประเทศไทย ยังไม่ได้หนีไปต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่กำลังติดตามอย่างใกล้ชิด
 ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มก่อการร้ายหรือกลุ่มเสื้อดำที่มีการพูดก่อนหน้านี้ มีการจับกุมได้บ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เราจับกุมได้หลายคนแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป ซึ่งการเปิดเผยรายชื่อนั้นอยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษว่าจะเปิดเผยหรือไม่ อย่างไร
 ผู้สื่อข่าวถามถึงการตั้งข้อสังเกตของพรรคเพื่อไทยที่บอกว่ารัฐบาลแถลงข่าวฝ่ายเดียวและอาวุธที่นำมาแถลงนั้นก็เป็นการจัดฉาก รองนายกฯ กล่าวว่า เขาก็พูดไปเรื่อย แต่อาวุธเหล่านั้น ตอนที่เราไปตรวจพบจะมีสื่อมวลชนติดตามไปทำข่าว ซึ่งก็จะได้เห็นพร้อมกับเจ้าหน้าที่
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนใหญ่รู้หรือไม่ว่า ที่มาของคนพวกนี้มาจากไหน รองนายกฯความมั่นคง กล่าวว่า มีมาจากหลายแห่งทั้งภาคกลาง ภาคใต้ ภาคเหนือ ภาคอีสานที่เป็นคนร้าย ขณะนี้เราได้ติดตามจับกุม ส่วนจำนวนคนร้ายมีเท่าไหร่นั้น คงไม่มีใครทราบแต่อาจจะมีจำนวนมาก
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทม์ระบุว่า กองกำลังติดอาวุธเข้าไปแฝงตัวในบริเวณคลองเตย ได้รับรายงานบ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปเชื่อตามข่าวอย่างนั้น แต่ว่าเขาอยู่ที่ไหนเราจะต้องติดตามอยู่แล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ยังไม่มีเบาะแสใช่หรือไม่ รองนายกฯความมั่นคง กล่าวว่า ก็มีเบาะแสจำนวนมากแต่ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ
 ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังมีข่าวลอบสังหารหรือการก่อวินาศกรรม การรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีหรือตัวท่านเองต้องเพิ่มขึ้นหรือมีความเข้มงวดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า สำหรับตนเองเหมือนเดิม แต่สำหรับนายกฯ ตนได้สั่งให้ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่อยู่แล้ว
 ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งทำต่อไปในอนาคต ที่ให้เห็นเป็นรูปธรรมได้คืออะไร นายสุเทพ กล่าวว่า นายกฯได้ประกาศแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาที่เรียกว่า มาตรการในการปรองดองไปชัดเจนแล้ว ซึ่งแต่ละมาตรการก็จะต้องมีรายละเอียดที่รัฐบาลต้องเข้าไปดำเนินการและเชื่อว่าการปฏิบัติเหล่านี้จะเป็นรูปธรรมชัดเจนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
 ผู้สื่อข่าวว่า จะมีหลักประกันอะไรหรือไม่ว่าประชาชนเหล่านั้นจะได้รับการช่วยเหลือจริง รองนายกฯมั่นคง กล่าวว่า ต้องไม่มองอะไรในแง่ร้าย ต้องช่วยกันประคับประคองบ้านเมืองเพราะเป็นของเราทุกคน ถ้ามัวแต่ตั้งข้อสงสัย เอาแต่วิพากษ์วิจารณ์ ไม่เชื่อถือกันก็จะทำให้เรื่องที่น่าจะง่ายก็ยากไปอีก
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของนักการเมือง โดยเฉพาะในสภาควรมีความร่วมมือกันอย่างไรในการแก้ไขปัญหาและแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองกันอย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่าที่จริงคนที่อาสามาเป็นนักการเมือง ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า ภารกิจหน้าที่ก็คือการแก้ไขให้ชาติบ้านเมืองและประชาชน ถ้าทุกคนตระหนักในหน้าที่ของตัวเองก็จะสมบูรณ์
 ผู้สื่อข่าวถามว่า หลายคนเมื่อเกิดเหตุการณ์ก็หายเงียบไปเลย รองนายกฯมั่นคง กล่าวว่า เรียกว่า หายเงียบไปก็ยังดีกว่าการมาสร้างปัญหาถือเป็นเรื่องที่น่ากลัว
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของรัฐบาล ประชาชนก็ถามหาความรับผิดชอบเหมือนกัน นายสุเทพ กล่าวว่า ที่รัฐบาลทำอยู่นี้ก็ถือว่ารับผิดชอบอยู่แล้วในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งประชาชนทั่วไปและประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่ต้องมีการเยียวยากัน
 ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมีบทเรียนมา 2 ปีซ้อนแล้วกับเหตุการณ์เช่นนี้ จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นเป็นครั้งที่ 3 อีก นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องหาลู่ทาง เราเห็นแล้วว่าเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว กลุ่มนปช.ได้สร้างปัญหาให้บ้านเมือง รัฐบาลก็คิดว่าเมื่อแก้ไขปัญหาครั้งนั้นไปแล้วก็ควรจะจบ แต่กลุ่มนปช.ก็ฟักตัวขึ้นมาใหม่ คนก็ลืมเรื่องเก่าไป นปช.ก็สร้างเรื่องใหม่ขึ้นมาอีก จะเห็นได้ชัดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปีนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่าที่เขาเคยทำมาปีที่แล้วมาก ใช้กองกำลังติดอาวุธออกมาเข่นฆ่าเจ้าหน้าที่ ประชาชน สื่อมวลชน แม้แต่คนที่เป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ได้รับบาดเจ็บจนถึงเสียชีวิต เป็นเรื่องที่จะยอมให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนี้ดูแล้วมีกองกำลัง มีพรรค มีแนวร่วมครบถ้วนถ้ามีการต่อสู้ในอนาคตจะมีการป้องกันอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า เราต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่าง ทุกคนจะเห็นว่ารัฐบาลใช้ความอดทนและยึดมั่นในหลักการของกฎหมาย ในระบอบประชาธิปไตยมีกฎหมายเป็นหลักของบ้านเมือง เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะพยามยามแก้ปัญหาโดยใช้กฎหมาย
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังคงเน้นเรื่องการเจรจาอยู่หรือไม่ เพราะแม้แต่ในอดีตกว่าจะเลิกคอมมิวนิสต์ได้ต้องใช้เวลาเกือบ 20 ปี นายสุเทพ กล่าวว่า วิธีดังกล่าวคงใช้ได้กับพี่น้องประชาชนเท่านั้น แต่สำหรับคนที่เป็นผู้ก่อการร้าย ที่ออกมาถืออาวุธ ไล่ล่าสังหารประชาชนคงกล่อมเกลายาก ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
 ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มอาเซียนเรียกร้องว่าไทย เป็นประเทศผู้นำ ควรจะสร้างสันติสุขกันโดยเร็วเพื่อนำพาประเทศต่อไป รองนายกฯมั่นคง กล่าวว่า เราพยามยามทำให้เกิดสันติสุขแต่ว่าสันติสุขนั้นก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่ทำผิดแล้วไม่เอามาลงโทษไม่ได้ ไม่ใช่สันติสุขอย่างนั้น
 ผู้สื่อข่าวถามถึงความชัดเจน 6 ศพในวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร จากการสอบสวนชัดเจนหรือไม่ว่าใครเป็นคนยิง นายสุเทพ กล่าวว่า เดี๋ยวก็ชัดเจนครับ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานข้อมูล ซึ่งรัฐบาลจะพูดต่อเมื่อมีหลักฐานครบถ้วนเรียบร้อย ตนขอให้สบายใจได้ว่าในการตรวจสอบเบื้องต้น เท่าที่ตนดู ไม่ใช่เรื่องของเจ้าหน้าที่
 ผู้สื่อข่าวถามว่า พวกไหนใครที่จะสามารถเดินไปบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ นอกจากเจ้าหน้าที่เพราะมีการปิดให้บริการ นายสุเทพ กล่าวว่า “โจรไงครับ ผู้ร้ายไงครับ เขาอยู่ที่นั่นมาตลอด การขึ้นไปบนรางรถไฟฟ้านั้นเจ้าหน้าที่เข้ามา 2 ทาง จากศาลาแดงหนึ่งทางและจากเพลินจิตอีกหนึ่งทางและเมื่อตอนที่ทางสยามสแควร์ปิดเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถขึ้นไปบนนั้นได้ และขณะที่แกนนำนปช.มอบตัว ยุติการชุมนุมเราได้ให้เจ้าหน้าที่หยุดไม่เคลื่อนที่ต่อไป เพราะว่าจะทำให้บรรยากาศของเขาที่จะประกาศยุติกานชุมนุม จะกระทบกระเทือน ในขณะเดียวกันช่วงเย็นเราก็ไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่อีก เพราะว่าไปสำรวจแล้วยังมีประชาชนอีกจำนวน 2-3 พันคน ที่ยังคงมีอารมณ์ค้าง ซึ่งเรื่องอย่างนี้เราจะเอาข้อเท็จจริงมาแถลงกับพี่น้องประชาชน กราบเรียนให้ประชาชนทราบทุกขั้นทุกตอน” รองนายกฯ กล่าว
 ผู้สื่อข่าวถามว่า นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย นำภาพเจ้าหน้าที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสมาแถลงให้สื่อมวลชนดูว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่บนรางรถไฟฟ้า รองนายกฯมั่นคง กล่าวว่า นายพร้อมพงษ์ก็โกหกทุกวัน ถ้าจะเชื่อนายพร้อมพงษ์ ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ แต่นั่นคือภาพที่ศาลาแดงซึ่งสังเกตที่มีแนวบังเกอร์อยู่ แต่ที่สยามสแควร์จะไม่มีแนวบังเกอร์ของเจ้าหน้าที่
 “ใครที่ลงข่าวก็จะต้องมีสติในการดูด้วย ถ้าเห็นอะไรนิดนึงแล้วเชื่อเขาไปหมด ตกใจไปหมดอีกหน่อยเราก็คงจะต้องกลุ้มใจ”นายสุเทพ กล่าว
 ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวันก่อนเห็นเจ้าหน้าที่ไปตรวจวิถีกระสุนยิงที่ยิง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก แล้วจะทราบผลหรือไม่ว่าเป็นหน่วยงานไหน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็อยากทราบเช่นกันว่าเป็นหน่วยงานใด ฝ่ายไหน ใครเป็นคนทำและเจ้าหน้าที่ก็กำลังตรวจสอบที่จะดำเนินคดีต่อไป เมื่อถามว่า คดีคงไม่เงียบหายใช่หรือไม่ รองนายกฯมั่นคงกล่าวว่า คงจะต้องดำเนินการต่อไป เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่จะต้องดำเนินการ ทุกคนทุกรายที่เกิดเหตุจะต้องพยามยามหาหลักฐานมาตรวจสอบข้อเท็จจริง








ข่าวที่เกี่ยวข้องเทือก"ยันไม่ปิดกั้นฝ่ายค้านยื่นซักฟอก ไต่สวนขอหมายจับ"แม้วก่อการร้าย ร้อง'ซีเอ็นเอ็น'เสนอข่าวบิดเบือน'สุกี้'วอนคนไทยรักกัน เซ็นทรัลแจ้งเปิดห้างทุกสาขาปกติวันนี้ ศูนย์ฟื้นฟูฯถกมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Saturday, May 22, 2010

มาร์คกั๊กเจรจาแดงไม่เลิกแรงไม่คุย

มาร์คกั๊กเจรจาแดงไม่เลิกแรงไม่คุย




คมชัดลึก :"อภิสิทธิ์"พูดไม่ชัดรับหรือไม่รับเจรจา นปช. หลังตั้งเงือนไข 30 วันยุบสภาดีเดย์วันนี้ ยันต้องเคารพกฎหมาย ลั่นหากแก้ปัญหาไม่ได้ก็ไม่อยู่






เมื่อเวลา 18.00 น.ที่เวทีราชประสงค์นายวีระ มุสิกพงษ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ( นปช.) ได้ขึ้นเวทีอ่านประกาศข้อเสนอของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.แดงทั้งแผ่นดิน)เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียแก่ประชาชนเพิ่มเติม
1 .หลังจากเหตุการณ์ 10 เม.ย. 2553 นปช.ซึ่งต่อสู้ทางการเมืองดด้วยสันติวิธีต้องผิดหวังยิ่งขึ้นเมื่อมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอาวุธของบุคคลไม่ทราบฝ่ายขึ้นอีกในวันที่ 22 เม.ย. อีกทั้งยังไม่มีหลักประกันอีกว่า จะไม่มีเหตุการณ์สลดใจขึ้นอีกในอนาคต
2 .ด้วยความตระหนักในวิธีการสันติ อหิงสา และเพื่อป้องกันมิให้มีความสูญเสียขึ้นอีกไม่ว่าฝ่ายใด นปช.จึงยินดีเปิดการเจรจากับรัฐบาลภายใต้เงื่อนไขใหม่
3 .เงื่อนไข 1 .รัฐฐาลยุติการคุกคามทุกรูปแบบ
2 .มีกรรมการอิสระเป็นกลางสอบสวนเหตุการณ์ 10 เมษายน และ 22 เมษายนโดยรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบ
3 .นปช.ยินดียืดเวลาสำหรับการยุบสภาจากเดิมไปเป็นยุบสภาภายใน 30 วันเพื่อรัฐบาลจะได้ตระเตรียมการเท่าที่จำเป็น
 ขณะที่บรรยากาศบริเวณแยกศาลาแดง กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงปราศัยสลับกับการเปิดเพลงเพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมคลายเครียด ขณะที่ฝั่งสีลมบริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี ยังคงมีกลุ่มคนสีลมออกมายืนโบกธงชาติ พร้อมทั้งตะโกนด่าทอและโห่ไล่คนปราศัยบนเวทีคนเสื้อแดง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลอย่างเข้มงวด
 ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถควบคุมผู้ต้องขังจำนวน 5 คัน มาจอดปิดกั้นบริเวณแยกศาลาแดง เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันเหมือนเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งการทำเช่นนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะสามารถลดการเผชิญหน้าได้ไม่มากก็น้อย ส่วนการจราจรยังคงดำเนินไปอย่างปกติ รถยนต์สามารถเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ซึ่งสภาพโดยรวมยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงหรือมีวี่แววว่าจะมีการปะทะกันเกิดขึ้น
"สมชาย"ชี้6เดือนยุบสภาน่าจะคุยกันได้ 
 เมื่อเวลา 16.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่พรรคเพื่อไทย ถึงเหตุระเบิดที่สีลม ช่วงคืนวันที่ 21 เมษายนว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งถ้าใครไม่โดนไม่รู้และใครที่เป็นผู้ทำก็ถือว่าใจดำมาก ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลต้องหาตัวคนทำให้ได้ เพราะเบื้องต้นทราบว่ามีหลักฐานบ้างแล้ว แต่ทางตำรวจคาดว่าเป็นการยิงมาจากตึกของโรงพยาบาลจุฬาฯ  ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีระบุว่าเป็นการยิงมาจากบริเวณลานพระรูป ร.6 ซึ่งเมื่อเหตุการณ์มาถึงขั้นนี้ ก็ยังไม่ถือว่าเลยที่ทุกฝ่ายจะหันมาเจรจากัน หากมีความจริงใจ ซึ่งการเจรจายังถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ส่วนเรื่องระยะเวลาการยุบสภานั้น ก็สามารถคุยกันได้จะเหลือเท่าไรทั้งรัฐบาลและแกนนำคนเสื้อแดง ก็ต้องไปคุยกันว่าเหลือสัก 6 เดือน จะพอดีสำหรับทั้งสองฝ่ายหรือไม่ หากทั้งสองฝ่ายยังตั้งกำแพงอยู่ที่จุดเดิม คือ รัฐบาลบอกว่า 9 เดือน ส่วนคนเสื้อแดงยังอยู่ที่ 15 วัน ก็คงต้องไปหาคนที่สามารถทำลายกำแพงได้มาเป็นคนกลางในการเจรจา
 ทูต5ประเทศเยี่ยมแดงราชประสงค์อยากเห็นไทยสงบ
 เมื่อเวลา 17.35 น. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้เชิญและนำเอกอัครราชทูต เข้าฟังการชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทย โดยเฉพาะเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่บริเวณถนนราชดำเนิน โดยมีทูต 5 ประเทศ คือ เดนมาร์ค เบลเยียม ออสเตรีย เปรู และอาเจนตินา ร่วมเดินทางเข้าเยี่ยมการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่บริเวณหลังเวทีราชประสงค์ มีนายวีระ มุสิกพงษ์ ประธาน นปช. นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ให้การต้อนรับหารือร่วมพูดคุยเล่าถึงสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดง โดยทูตได้แสดงความเป็นห่วงต้องการให้แต่ละฝ่ายได้เปิดเจรจาเพื่อหาข้อยุติให้เกิดความสงบเรียบร้อยเกิดขึ้น
 โดยนายวีระ กล่าวว่า การเดินทางมาเยี่ยมของทูตในที่ชุมนมุของคนเสื้อแดงวันนี้นับว่าเป็นเกียรติอย่างมาก แต่ทางทูตเองก็ต้องมีความระมัดระวังยึดหลักการธรรมเนียมทางการทูต เพราะตามความเป็นจริงเขาต้องเกรงใจทางรัฐบาลอยู่เช่นกัน ทั้งนี้เมื่อมวลมิตรอารยะประเทศเขาต้องการเห็นการเจรจาไม่อยากให้มีการสูญเสีย อยากให้มีความเป็นเอกภาพสงบในประเทศเรา ตรงนี้ล้วนเป็นความเห็นของทูตทั้งหมด
"จตุพร”ขึ้นเวทีปลุกเสื้อแดงร่วมม็อบสู้เป้าหมายปชต.
 นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ขึ้นเวทีปราศรัยระบุว่า นปช.ยินดีพร้อมที่จะถอยทุกอย่างเพื่อไม่ให้มีคนตายเกิดอีกแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าเราจะกลัวตาย ซึ่งสิ่งที่ยอมไม่ได้ก็คือการต้องเอาผิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในข้อหาฆ่าคนตาย
 “ผมเรียนพี่น้อง วันนี้บ้านเมืองไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ปกติ แต่มีคนแอบสั่งการอยู่ข้างหลังมีการเข้าล้อมจับปราบ ดังนั้นอยากบอกว่า ภารกิจยังไม่จบเราต้องเป็นมิตรร่วมตายเป้าหมายเรายังเหมือนเดิม นั่นคือประชาธิปไตยที่ไม่มีเหลืออยู่อีก ดังนั้นคงมีเราที่ต้องคอยเดินเคียงข้างกันต่อไป” แกนนำ นปช. ระบุ
"อภิสิทธิ์"เสียใจเหตุยิงเอ็ม79บึ้มสีลม 
เมื่อเวลา 20.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่แหล่งสมาคมนายทหาร กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ถึงกรณีที่มีคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79เข้าใส่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บจำนวนมากว่า ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เกี่ยวข้อง ยืนยันได้ว่าพวกเราทุกคนที่ทำงานที่นี่ได้ติดตามเหตุการณ์และรู้สึกเป็นทุกข์ พยายามตลอดเวลาในการที่จะแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่เราพยายามมากที่สุดวันนี้คือป้องกันไม่ให้มีเหตุในลักษณะดังกล่าว แต่เมื่อมีข้อจำกัดก็ต้องเร่งขจัดกันต่อไป อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการดำเนินการของภาครัฐไม่สามารถดำเนินการได้ตามใจชอบ
 "เป็นเรื่องยากครับ ในการต่อสู้กับคนที่ใช้นอกรูปแบบ คนที่ใช้วิธีผิดกฎหมาย แต่รัฐบาลไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำอะไรที่ผิดกฎหมายแบบเดียวกัน แต่ยืนยันว่าจะต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องที่จะแก้ไขปัญหาให้ได้” นายกฯ กล่าว รับถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ก็พร้อมจะไป
 เมื่อถามต่อว่า เวลานี้อารมณ์ของคนไปไกลแล้ว นายกฯ กล่าวว่า ทราบดี เป็นเรื่องที่เข้าใจ และคงไม่อาจที่จะไปบอกได้ว่า เขาไม่มีเหตุผล หรือไม่มีสิทธิที่จะคิดหรือรู้สึกอย่างนั้น ตนเพียงแต่บอกว่า การแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะถ้าจะแก้ไขปัญหาให้สามารถที่จะทำให้สังคมมีความสงบสุขได้อย่างยั่งยืน บางครั้งไม่สามารถที่จะใช้วิธีการอย่างที่เรานึกหรือชอบได้อย่างเดียว ต้องคำนึงถึงปัจจัย ผลกระทบที่จะตามมาด้วย แต่ยืนยันว่า เราจะบริหารไม่ให้ความรู้สึกของประชาชนจำนวนมาก นำไปสู่การปะทะกัน หรือการใช้ความรุนแรงเข้าใส่กันและกัน
ลั่นต้องเคารพกม.แก้ปัญหาไม่ได้ไม่อยู่
 ผู้สื่อข่าวถามว่า วันหนึ่งถ้าเขารู้สึกว่าพึ่งพาอำนาจรัฐไม่ได้ แล้วต้องลุกขึ้นจัดการเองจะเกิดอะไรขึ้น นายกฯ กล่าวว่า “คงไม่ให้ถึงจุดนั้น และผมต้องยืนยันว่า ผมคงปล่อยไปถึงจุดนั้นไม่ได้ และถ้าผมทำไม่ได้ ผมก็ไม่ควรอยู่” 
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่นายกฯ ระบุว่า ถ้าทำไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้ หมายความว่าอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนมีหน้าที่แก้ปัญหา ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ก็ไม่ควรอยู่ แต่ขณะนี้มีการติดตามและมีแนวทางอยู่ ซึ่งมันอาจจะไม่ตรงกับความคิดของหลายๆ คน และจะต้องพยายามไม่ให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้
 เมื่อถามว่า นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. เสนอให้มีการเจรจารอบสาม นายกฯ กล่าวว่า ที่อ้างว่าจะมีการเจรจาในคืนนี้ เข้าใจว่าเป็นความพยายามนัดหมายโดยกลุ่มสันติวิธี แต่เข้าใจว่าไม่ได้มีการพบกัน ส่วนที่ยื่นเงื่อนไขให้ยุบสภาภายใน 30 วันนั้น เบื้องต้นขณะนี้สิ่งสำคัญคือ การที่ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย และทุกคนต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดขึ้น ส่วนปัญหาทางการเมืองเป็นหน้าที่ฝ่ายการเมืองที่จะต้องแก้ไขกันต่อไป
 เมื่อถามว่า ทำไมที่ทุกครั้งเขายื่นเงื่อนไขเจรจาจะมาด้วยความรุนแรงและความสูญเสีย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อันนี้ต้องสอบถามทางฝ่ายโน้น ยืนยันว่า การจะหาคำตอบทางการเมือง ต้องไม่ใช่ลักษณะที่เป็นผลมาจากใช้วิธีการข่มขู่ อันนี้เป็นไปไม่ได้ กรมสุขภาพจิตชี้การเมืองทำคนมีอารมณ์โกรธแค้น
 นพ.ชาตรี บานชื่น  อธิบดีกรมสุขภาพจิต  เปิดเผยว่า จากการสำรวจอารมณ์ทางการเมืองของประชาชนไทย รอบที่ 3 ระหว่างวันที่ 20-22 เม.ย. ในทุกภาคของประเทศไทย พบว่า ส่วนใหญ่มีอารมณ์ทางการเมืองอยู่ในระดับปกติ ร้อยละ 39.44 ส่วนอารมณ์ทางการเมืองระดับรุนแรงพบร้อยละ 27.84 ซึ่งใกล้เคียงกับการสำรวจรอบแรกร้อยละ 29.89 แบ่งเป็นเพศชายร้อยละ 31.33 และเพศหญิงร้อยละ 25.73  อย่างไรก็ตามเมื่อแยกเป็นภูมิภาคพบตัวเลขที่น่าสนใจ  ว่าประชาชนในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอารมณ์ทางการเมืองอยู่ในระดับรุนแรงมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 39.40 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการสำรวจรอบก่อนหน้านั้นพบเพียงร้อยละ 19.87 เช่นเดียวกับประชาชนในเขตกรุงเทพฯ ที่มีการเพิ่มขึ้นของอารมณ์รุนแรงจากเดิมร้อยละ 24.24 เป็นร้อยละ 34  และในภาคเหนือพบเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 22.49 เพิ่มเป็นร้อยละ 24.44 นอกจากนี้ยังพบว่าเพศชายที่ติดตามข่าวการเมืองทุกวันมีอารมณ์ทางการเมืองอยู่ในระดับรุนแรงเพิ่มจากเดิมร้อยละ 33.45 เป็นร้อยละ 42.21 ส่วนเพศหญิงเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30.43 เป็นร้อยละ 37.41   ขณะที่คำถามถึงสถานการณ์การเมืองพบว่า ประชาชนภาคใต้ ตอบคำถามว่า เบื่อหน่ายไม่อยากรับรู้ สูงสุดกว่าประชาชนภาคอื่น คิดเป็นร้อยละ68  เฉยๆไม่รู้สึกอะไรร้อยละ 47 และข่าวการเมืองไม่มีผลกระทบต่อครอบครัวร้อยละ 88   
 “เราเป็นห่วงมาก เพราะแนวโน้มอารมณ์ทางการเมืองที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในบางเขต เช่น คนกทม.จะไปเร้าสมองส่วนอารมณ์มากกว่าเหตุผล ทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว ถ้ามีแนวโน้มสูงขึ้นในขณะที่การเมืองยังมีฝักฝ่ายแบบนี้เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง  ซึ่งเรากำลังมองข้ามไปถึงความขัดแย้งในสังคมที่จะเพิ่มมากขึ้น  อย่างไรก็ตามจากตัวเลขที่พบคนภาคอีสานและกทม.มีอารมณ์ทางการเมืองสูงขึ้น อาจเกี่ยวข้องกับสถานที่ชุมนุมและมีบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมชุมนุม เช่น มีญาติมาชุมนุม  ซึ่งกรมสุขภาพจะเฝ้าติดตามและซับน้ำตาคนไทยต่อไป โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะที่ถนนสีลมเมื่อคืนที่ผ่านมา” อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว  
 พญ.อัมพร  เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสุขภาพจิต  กล่าวถึงการเข้าเยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การเมืองว่า   ผู้ที่มีความรุนแรงของอารมณ์ จะง่ายต่อการถูกเร้าซึ่งขึ้นอยู่ความรุนแรง และความสูญเสียที่ได้รับ อย่างไรก็ตามการจากที่ทีมงานของกรมสุขาพจิตเข้าไปเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 มี.ค.เป็นต้นมา พบสิ่งที่น่าสังเกตว่า จากประสบการณ์ของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติภัยจะพบว่า มีความกลัว ความเศร้า และวิตกกังวล แต่ครั้งนี้กลับพบว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบมีอุณหภูมิใจจากเดิมไปสู่ความโกรธรุนแรงพุ่งพล่าน ผู้ได้รับบาดเจ็บบางคนต้องการกลับไปร่วมชุมนุมอีก ซึ่งสังคมทุกฝ่ายต้องช่วยกันลดการถูกเร้าหรือไปร่วมชุมนุม  นอกจากนี้ผู้บาดเจ็บบางรายมีความกังวลต่ออนาคตของตนเองซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ มีความรู้สึกท้อแท้เสียใจ  มี 1 รายที่มีอาการซึมเศร้า และไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 จะมีบาดแผลทางจิตใจรุนแรง หากไม่ดูแล 1 เดือนต่อจากนี้อาจมีภาวะฝันร้ายนอนไม่หลับ บางรายมีอาการหวาดระแวงรู้สึกไม่ปลอดภัย จนเกิดภาวะสร้างสังคมสมมติจนเกิดความเหนี่ยวแน่นกับผู้ที่เกิดเหตุการณ์ แต่เป็นภาวะหนึ่งไม่ใช่โรค เมื่อปัญหาคลี่คลายภาวะนี้จะหายไปเอง
 นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวว่า อารมณ์รุนแรงอย่างต่อเนื่องจะมีผลทำให้เกิดอารมณ์โกรธ ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของตนเองและบุคคลอื่นเทียบเท่ากับความเครียดรุนแรง  ซึ่งอารมณ์ทางการเมืองที่รุนแรงจะกระทบต่อบุคคลได้ง่าย ยิ่งเข้าไปในที่ชุมนุมจะแสดงออกอย่างรุนแรง ดังนั้นผู้ที่รู้สึกว่าเกิดอารมณ์ทางการเมืองรุนแรงเทียบเท่ากับการมีความเครียดระดับสูง ต้องลดการรับรู้ข่าวสารด้านเดียวอย่างต่อเนื่องยาวนาน ควรรับรู้ข่าวสารสองด้านและไม่ต่อเนื่องยาวนาน  รู้จักสงบอารมณ์ของตัวเองกลับมาใช้ชีวิตปกติ   ซึ่งบุคคลรอบข้างที่ยังไม่มีอารมณ์รุนแรงต้องช่วยกันรับฟัง หรือสามารถโทรเข้ามาปรึกษาสายด่วนกรมสุขภาพจิต หมายเลข 1323 
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องปลุกแดงสู้เผยหมาก30วันยุบสภาแค่เกมส์ปิดฉากหลากสีแปดริ้วโผล่บอกสุดทนเห็นไทยฆ่าไทยไม่ไหวหลากสีนัดชุมนุมเสาร์-อาทิตย์นี้ร้องแดง-แม้วยุติ"ปฐมพงษ์"เชื่อมือยิงเอ็ม79ถล่มสีลมมีมากกว่าหนึ่ง ปลัดกห.แนะอภิสิทธิ์อย่ายุบสภาเชื่อไม่ใช่ทางออก

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เสื้อแดง-หลากสี เผชิญหน้า คุมเข้มศาลาแดง

เสื้อแดง-หลากสี เผชิญหน้า คุมเข้มศาลาแดง

แยกศาลาแดงวุ่นอีกเสื้อแดง-เสื้อหลากสีตะโกนด่าตอบโต้กันไม่หยุด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวางแนวกั้นให้กลุ่มเสื้อหลากสีถอยกลับ ภายหลังพยายามขยับเข้าปะชิดกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่อง.....เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณแยกสีลม ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ก่อนหน้านี้ นายขวัญชัย ไพรพนา ประกาศบนรถขยายเสียง เรียกร้องให้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นำตัว นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสีออกมา หลังจากนำคนพร้อมอาวุธขึ้นไปอยู่บนตึกใกล้เคียงแยกศาลาแดงในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มเสื้อหลากสี ที่ชุมนุมฝั่งถนนสีลมอย่างมาก จึงตะโกนด่าทอและขับไล่กลุ่มคนเสื้อแดงออกไป ขณะที่นายขวัญชัย ขอให้กลุ่มผุ้ชุมนุมอยู่ในแนวกั้น ไม่ให้ออกจากฝั่งถนนราชดำริ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด หากมีเหตุเกิดขึ้น นอกจากนี้ได้แจกจ่ายหมวกนิรภัย และโล่ให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกลุ่มคนเสื้อแดงที่อยู่ในบริเวณ แนวกั้น ขณะที่กลุ่มเสื้อหลากสียังชุมนุมและโห่ร้องเป็นระยะ รวมถึงเริ่มขยับใกล้กลุ่มคนเสื้อแดง จนเจ้าหน้าที่ต้องนำรั้วมากั้น เพื่อให้ถอยร่นกลับที่เดิม ป้องกันไม่ให้ประชิดกันมากกว่านี้.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

อภิสิทธิ์!คุณไม่เคยถูกเสี้ยนตำเท้ามาก่อนใช่ไหม ?

อภิสิทธิ์!คุณไม่เคยถูกเสี้ยนตำเท้ามาก่อนใช่ไหม ?



คมชัดลึก :ประสบการณ์ในวัยเด็กของแต่ละคน ย่อมต่างกันตามฐานะ เด็กอย่างผมเกิดมายังไม่ทันจะเดินเป็น ก็คลานไปตามพื้นดินที่เต็มไปด้วยฝุ่นในลานบ้าน ไม่มีใครวิตกกังวลว่าจะติดเชื้อโรคใดๆ จากละอองฝุ่นที่ปลิวเข้าปากเข้าจมูก






ขณะที่เด็กบางคนอาจไม่เคยสัมผัสธุลีดินตั้งแต่เกิดจนเป็นหนุ่ม ด้วยร่างถูกห่อหุ้มด้วยอาภรณ์ที่สะอาดปราศจากเชื้อโรค แน่นอนละว่า ผมกับเด็กคนนั้นย่อมมีประสบการณ์ชีวิตที่ต่างกัน ในวัยเด็กผมเคยวิ่งเล่นด้วยเท้าเปล่าเข้าไปในพงหญ้าจนถูกเสี้ยนไม้ไผ่ตำเข้าที่กลางฝ่าเท้า เจ็บปวดจนต้องปล่อยโฮ พยายามกัดฟันทน เขย่งเท้าที่มีปลายเสี้ยนโผล่ให้เห็นเดินกลับบ้าน แต่ระยะทางช่างไกลเหลือเกิน ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผมกลั้นหายใจหักปลายเสี้ยนที่โผล่อยู่ออกทิ้ง หวังแต่เพียงว่าจะเดินกลับบ้านได้สะดวกขึ้น หารู้ไม่ว่า นั่นเป็นความคิดโง่ๆ ของเด็ก ที่ขาดประสบการณ์ หรือไม่มีความรู้ ผมเดินกลับบ้านได้เร็วขึ้นจริง แต่เมื่อถึงบ้านญาติๆ พยายามดึงเสี้ยนที่คาเท้าอย่างไรก็ดึงไม่ได้ แม้จะพยายามใช้ปลายเข็มลนไฟบ่งอย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่กี่วัน เสี้ยนที่หักคาเท้าก็เริ่มออกฤทธิ์กลายเกิดอาการกลัดหนองบวมเป่ง จนญาติผู้ใหญ่ต้องพาไปผ่าที่โรงพยาบาล หมอที่รักษาบอกว่า ผมยังโชคดีที่ไม่เป็นบาดทะยักตายเสียก่อน
 ค่ำคืนที่ 20 พฤษภาคม 2553 ผมนั่งดูรายงานข่าวทางโทรทัศน์ อยากรู้ว่าการปฏิบัติการทางทหารที่เข้าขอพื้นที่สี่แยกราชประสงค์จะมีหลักการและขั้นตอนอย่างไร...เมื่อได้เห็นก็อดที่จะหวนไปหาประสบการณ์เสี้ยนไม้ไผ่ตำเท้าไม่ได้ ในห้วง 2 เดือนที่ผ่านมาสังคมไทยถูกเสี้ยนนปช.ตำคาเท้าอยู่ ตลอดเวลานั้นรัฐบาล-ศอฉ.จะค่อยๆ ดึงปลายไม้ไผ่ให้เสี้ยนหลุด แต่ดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่ออก ในที่สุดจึงตัดสินใจหักปลายเสี้ยนนั้น...
 บ่ายถึงค่ำวันนั้น สรรพสิ่งในเขตอิทธิพลของกลุ่มคนเสื้อแดงก็ถูกเผาทำลายตามมาทันทีแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศเคอร์ฟิวทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงหายวับไปก่อนราตรีมาเยือน แต่ผมไม่เชื่อว่าทุกอย่างจบลงอย่างง่ายๆ เหมือนใครต่อใครวาดหวัง... นับจากวันนี้ไป เศษเสี้ยนที่หักคาเท้าก็คงจะทำให้เท้าบอบช้ำและค่อยๆ ระบมจนกลัดหนองขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่พ้น ก็อยากจะฝากให้รัฐบาล-ศอฉ.หาวิธีการที่รัดกุมที่สุด ค่อยๆ ถอนเสี้ยนที่ฝังอยู่ขึ้นมาให้ได้
 แม้ผู้นำรัฐบาล อย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะไม่เคยถูกเสี้ยนตำเท้ามาก่อน แต่ก็น่าจะมีคนในรัฐบาลนี้ที่เคยมีประสบการณ์ถูกเสี้ยนตำเท้ามาแล้วรวมอยู่ด้วย อยากขอร้อง นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังวิธีการบ่งหนามจากผู้มีประสบการณ์บ้างนะครับ ผมไม่ทราบว่า เสี้ยนที่ตำคาเท้ารัฐบาลในขณะนี้ จะมีเชื้อบาดทะยักอยู่หรือไม่ ที่สำคัญ ความโชคดีในวัยเด็กของผม อาจไม่ใช่ความโชคดีของรัฐบาลในวันนี้ก็ได้
คลี่ข่าวคลายปม
ภาณุมาศ ทักษณา








ข่าวที่เกี่ยวข้องภาพน่าเหลือเชื่อรัฐ-เอกชนระดมมาตรการเยียวยาบาดแผลเหยื่อ"การเมือง""หยอดมุกฮา"ดับอารมณ์ม็อบกับนักเจรจา "วิชัย สังข์ประไพ" ตร.แจ้งเปลี่ยนแปลงวิธีคุมตัวแกนนำนปช.ต่อศอฉ.ตูมสนั่นขณะจนท.กวาดกองขยะแยกราชประสงค์

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ทำเนียบราษฎร...ตามยถากรรม...

ทำเนียบราษฎร...ตามยถากรรม...



คมชัดลึก :๏ วันนี้ ! ประเทศไทย...
เพียงภาพสั่นไหวและเลือนพร่า
คลุมด้วยเลือดเนื้อและน้ำตา
ของชาวประชาในแผ่นดิน






๏ มีเพียงธูปเทียนดอกไม้จันทน์หลังการฆ่าฟันไม่รู้สิ้นดอกผลอธิปไตยที่เก็บกินคือความดับดิ้นทั่วถิ่นไท
๏ คือเลือดและเนื้อกับน้ำตาสังเวยคุณค่าทั้งหมดให้ไม่มีที่มาและที่ไปเพื่อประชาธิปไตยที่ไม่มี
๏ เพียงแค่บันทึกประวัติศาสตร์บทเรียนของชาติที่เปื้อนสีอีกครั้งอีกครั้งทุกทุกทีเพื่อผ่านวันนี้แล้วลืมเลือน
๏ เพียงแค่บันทึกแห่งอำนาจของประชาราษฎร์แผ่นดินเถื่อนตราบาปเบนเบี่ยงและบิดเบือนงำด้วยปมเงื่อนฆาตกรรม
๏ วันนี้ ! ประเทศไทย...เพียงภาพสั่นไหวในรอยย่ำประวัติศาสตร์บาดแผลถูกกระทำพันธนาการมืดดำอนาคต !.
นายทิวา








ข่าวที่เกี่ยวข้องกว่าจะถึงวันนี้ท่องแดนมนุษย์กินคนเมดาน-ทะเลสาบโตบา-บาสตากีร์ เลาะรั้วมหาวิทยาลัยประจำวันที่23พ.ค.รัฐ-เอกชนระดมมาตรการเยียวยาบาดแผลเหยื่อ"การเมือง"เจาะลึกกลางใจเซีย จุนซูในผลงานเดี่ยวXiah

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ภาพมันฟ้องตร.ลิ้นพันวางยา ศอฉ.

ภาพมันฟ้องตร.ลิ้นพันวางยา ศอฉ.



คมชัดลึก : กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาชั่วข้ามคืน กับภาพถ่ายของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ - ขวัญชัย ไพรพนา - วิภูแถลง พัฒนาภูมิไทย และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ถูกคุมขังอยู่ในค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี








หลังเข้ามอบตัวในข้อหาก่อการร้าย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ถูกนำมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ เฟซบุ๊กดอทคอม และ ทวิตเตอร์ดอทคอม ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบายในบ้านพักรับรองริมทะเล
 นอกจากนี้ยังปล่อยให้บุคคลภายนอกมาพบได้ด้วยในลักษณะอากัปกริยาที่ไม่เหมือนกับ “นักโทษ” คดีร้ายแรง
 จนทำให้มองว่า “รัฐบาล-ศอฉ.” ถูกตบหน้าฉาดใหญ่อย่างจัง โดยเฉพาะ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - สุเทพ เทือกสุบรรณ” เมื่อได้เห็นภาพที่ถูกส่งต่อมา ถึงกับเกิดอาการ “อึ้งกิมกี่” เพราะไม่เชื่อว่าการดูแลผู้ต้องหาคดี “ก่อการร้าย” จะมีลักษณะกินดีอยู่ดีดังที่ปรากฏในภาพ
 ร้อนไปถึง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องไขข้อข้องใจให้เกิดความกระจ่างโดยเร็ว เพราะขณะนี้สังคมเกิดความสับสนอลหม่านยิ่งนัก
 ก่อนหน้านี้ก็มองกันอยู่ว่า มะเขือเทศใส่เกียร์ว่าง
 เลิกตั้งแถว ก็ไปโพกผ้าแดงถือตีนตบ
 โดยเฉพาะมือถือของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่ถูกกระหน่ำโทรเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงเป็นจำนวนมาก
 เรื่องนี้จะให้เข้าใจกันอย่างไร ก็ภาพมันฟ้องอยู่โทนโท่ นอกจากจะเข้าใจได้อย่างสนิทว่า “รัฐบาล-ศอฉ.” ถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “วางยา” หรือไม่ก็เครือข่ายผู้มีอำนาจเก่าในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เล่นงานเข้าให้แล้ว
 ก็เข้าใจ... เพราะขึ้นชื่อว่ากระบวนการสีกากีนั้น ชีวิตพลิกผันได้ชั่วข้ามคืนที่แทงหวย "การเมือง" ได้ถูกต้อง
 แต่เรื่องราวที่เห็นอยู่ เมืองหลวง ยับเยินเป็นเถ้าธุลีอย่างนี้ เสียหายไม่รู้ว่ากี่แสนกี่ล้านล้านบาทอย่างนี้ ยังมีกะจิตกะใจ "แทงหวย" อีกกระนั้นหรือ
 เพียงเพราะความนิยมชมชอบเป็นการส่วนตัว หรืออาจเพราะ "แทงหวยการเมือง" อย่างที่ว่า ถึงได้ลืมเลือนที่จะรักษาเยียวยาจิตใจของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ที่สูญเสียไปกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ
 เหตุการณ์ที่มีคนถามไถ่ตำรวจมาตลอดว่า "เกียร์ว่าง" ใช่ไหม?
 เอาเถอะ!..ภาพที่ถูกส่งต่อมาก็หลุดออกมาจากเจ้าหน้าที่ที่ดูแลในพื้นที่ เพราะทนดูพฤติกรรมของกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการอนุเคราะห์อย่างระดับ "วีไอพี" ไม่ได้
 อาหารมื้อเย็นถูกเสิร์ฟถึงโต๊ะ เป็นอาหารทะเล "กุ้งเผา ปูเผา ปลาเผา" เรียกได้ว่าถูกปากทุกคน และเชื่อว่า ประทับใจที่ได้มาเยือน
 แขกวีไอพีบางคนก็นั่งเล่นอินเทอร์เน็ตเช็กข่าวการเมือง ว่าที่นอกค่ายนั้นเขาไปถึงไหนแล้ว หรือไอ้ที่มันเกิดหายนะนั้น มันเหลือซากอะไรบ้าง บางคนก็ร้องคาราโอเกะคลายเครียด นั่งจิบของเย็นๆ มึนๆ รับลมทะเล
 หากไม่เข้ามอบตัวก็ไม่รู้ว่า จะมีช่วงชีวิตแบบนี้หรือไม่
 ที่สำคัญ อิ่มจังตังค์อยู่ครบ !
 แม้ว่ากฎระเบียบของผู้ต้องหาเหล่านี้ เมื่อถูกควบคุมตัวจะไม่สามารถติดต่อพูดคุยได้อย่างอิสระ เรื่องอินเทอร์เน็ต หรือเฟซบุ๊กนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะมันมีผลต่อรูปคดี ต่อการสอบสวนของเจ้าหน้าที่
 ขนาด "อภิสิทธิ์ -สุเทพ" ออกปากสั่งให้ตำรวจดำเนินการทุกอย่างด้วยความรอบคอบ แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ (มะเขือเทศ) ก็ปล่อยให้เป็นเสียอย่างนี้
 ถ้าภาพเหล่านี้ไม่ถูกส่งออกมา ก็ไม่มีใครรู้ว่า แกนนำนปช.จะได้เป็นแขก"วีไอพี"ของตำรวจมะเขือเทศไปนานแค่ไหน
 แม้ว่า พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พยายามที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ฟังแบบใจเป็นธรรมหรือให้คะแนนพิศวาสเพิ่ม ก็ยัง "ไม่ผ่าน" อยู่ดี
 “ภาพถ่ายดังกล่าวเป็นอาคารกองร้อยควบคุม ดัดแปลงเป็นที่ควบคุม มีรั้วลวดหนามล้อมรอบตัวอาคาร ภายในดัดแปลงเป็นห้องควบคุมได้ 10 ห้อง ลักษณะคล้าย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในการควบคุมจะมีเจ้าหน้าที่ยามยืนควบคุมอยู่หน้าห้อง และทางเดินในกรณีที่แกนนำจะไปห้องน้ำ ส่วนเครื่องมือสื่อสารจะไม่อนุญาตให้ใช้ แต่อาจมีข้อสงสัยจากประชาชนว่า ทำไมแกนนำไม่ถูกส่งตัวไปยังเรือนจำ หรือทัณฑสถาน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง”
 เหตุใดทำไมไม่ควบคุมในห้องขังเหมือนผู้ต้องหาอื่น เพราะขณะนี้เราควบคุมตามอำนาจกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งการควบคุม จับกุมตามหมายจับ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นการจับกุมบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยที่จะก่อเหตุร้าย ไม่ใช่ควบคุมผู้ต้องหาในคดีอาญา ซึ่งในมาตรา 12 ของพระราชบัญญัตินี้บัญญัติไว้ชัดเจนว่า เมื่อจับกุมได้แล้ว จะมีอำนาจควบคุมตัวไว้ได้คราวละ 7 วัน
 ซึ่งไม่ใช่สถานีตำรวจ ไม่ใช่ที่คุมขัง และไม่ใช่ทัณฑสถาน หรือเรือนจำ ซึ่งแปลว่า "จะต้องควบคุมไว้ต่างหาก"
 นอกจากนั้น ยังกำหนดต่อไปว่า จะต้องปฏิบัติต่อบุคคลนั้นในลักษณะเป็นผู้กระทำผิด หรือควบคุมแบบผู้ต้องหาไม่ได้ การควบคุมจึงต้องเบากว่าการควบคุมผู้ต้องหา
 เป็นผู้ก่อการร้ายทำไมจึงอยู่สุขสบาย ความจริงเขาไม่ได้อยู่สุขสบาย
 นี่คือคำชี้แจงจากตำรวจ แต่ภาพมันมีคำตอบอยู่ในตัวอย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว
ทีมข่าวความมั่นคง








ข่าวที่เกี่ยวข้องภาพน่าเหลือเชื่อรัฐ-เอกชนระดมมาตรการเยียวยาบาดแผลเหยื่อ"การเมือง"อภิสิทธิ์!คุณไม่เคยถูก"เสี้ยนตำเท้า"มาก่อนใช่ไหม ?"หยอดมุกฮา"ดับอารมณ์ม็อบกับนักเจรจา "วิชัย สังข์ประไพ" ตร.แจ้งเปลี่ยนแปลงวิธีคุมตัวแกนนำนปช.ต่อศอฉ.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

จาตุรนต์ชี้นปช.พลาดเจรจายุติชุมนุมไม่สำเร็จ

จาตุรนต์ชี้นปช.พลาดเจรจายุติชุมนุมไม่สำเร็จ



คมชัดลึก :"จาตุรนต์"ชี้ เสื้อแดงพลาด เพราะเจรจายุติการชุมนุมไม่สำเร็จ






(22พ.ค.) ที่ร.ร.เรดิสัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถลงว่า หลังจากกลุ่มนปช.ชุมนุมร่วม 2 เดือน และมีการยุติการชุมนุม ดูเหมือนว่าวิกฤตจะยุติแล้ว แต่ความจริงอาจมีการเพิ่มวิกฤตอยู่มาก โดยเฉพาะการที่รัฐบาลใช้กำลังทหารมาใช้ความรุนแรงอย่างไร้ทิศทางเกิดการสูญเสีย จากผู้เสียชีวิต 80 กว่าคน และบาดเจ็บร่วม 2,000 คน ทั้งนี้เห็นว่า วิกฤตจะยิ่งซ้ำเติมยิ่งขึ้นมีการตอบโต้ล้างแค้นเข้าสู่ความขัดแย้งที่มาก ขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลล้มเหลวในการเจรจาสู่ความปรองดอง การกล่าวอ้างของนายกฯ ที่ระบุถึงการปรองดองเป็นเพียงคำพูดที่สวยหรู ซึ่งการปฏิบัติตรงข้ามกับคำพูดที่ใช้มาตรการปราบปรามกับกลุ่มผู้ชุมนุม
 นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลตัดสินใจใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมซึ่งทั่วโลกรับไม่ได้ แต่เหตุการณ์หลังการยุติที่มีการเผาสถานที่ต่างๆในลักษณะของความโกรธแค้นไร้ทิศทางนั้นก็อาจมีฝ่ายที่ 3-4 เข้ามาแทรกแซงก็เป็นได้  แต่หากมองย้อนหลังยืนยันว่าทางออกที่ดีที่สุด คือ การเจรจาและต้องใช้แนวทางการการเมืองแก้ไข ส่วนแผนการปรองดองของนายกฯนั้นนายกฯก็ต้องทำความเข้าใจกับเรื่องนี้เสียใหม่ อย่าเอาความเห็นที่แตกต่างทางการเมืองของผู้ที่อยู่ตรงข้ามมาเป็นศัตรู รวมทั้งรัฐบาลเอง และควรใช้กฎหมายตามที่จำเป็น ไม่เกินเลยเพื่อเป็นเครื่องมือทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม ทั้งนี้กระบวนการยุติธรรมจากนี้ต้องน่าเชื่อถือและทุกฝ่ายยอมรับ แต่มีปัญหาคือว่า ฝ่ายรัฐบาลจะเป็นผู้ควบคุมกลไกการักษากฎหมายจากนี้ ภายใต้การกำกับสั่งการของนายกฯและรองนายกฯ
 นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลควบคุมกลไกทางกฎหมายอยู่ ฉะนั้นการดำเนินการตามกฎหมายจึงไม่เกิดความน่าเชื่อถือได้เลย ทั้งเรื่องการตั้งข้อหาและการพิสูจน์ต่างๆ หรือแม้จะยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน ตนคาดว่าการต่อสู้ของคนที่เห็นต่างที่ไม่ได้รับความยุติธรรมอาจจะใช้วิธีการต่างๆ ต่อต้านรัฐบาลซึ่งมีโอกาสสูง แต่ตนไม่สนับสนุนขบวนการใต้ดิน เพียงแต่เป็นห่วงว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าบ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตยและไม่สามารถหาคนผู้ฆ่าประชาชนมาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมหรือการหาผู้รับผิดชอบต่อผู้ที่เสียชีวิตจำนวน 80 กว่าศพ  จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบในการตั้งข้อหา ดำเนินคดี ไม่ใช่เหมารวมว่าใครเป็นผู้ก่อการร้ายหมด มิฉะนั้น หากไม่มีความเป็นธรรม ประเทศก็อาจจะถลำลึกกว่านี้
 ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยจากนี้ควรมีบทบาทหรือร่วมแสดงความรับผิดชอบอย่างไร นายจาตุรนต์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องช่วยเหลือดูแล ผู้ที่ได้รับความเสียหายและผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งเรื่องอาคาร ทรัพย์สิน และอาชีพต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนเรื่องคดีความต้องนำผู้เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือ หากพบว่า มีสส.พรรคเพื่อไทยทำผิดก้ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และพรรคก็ต้องมีความรับผิดชอบทางการเมือง ทั้งนี้อยากเสนอแนะให้พรรคเพื่อไทยสรุปบทเรียนการชุมนุมที่ผ่านมาและเสนอต่อสังคม โดยให้ยึดการต่อสู้ตามกระบวนการรัฐสภารวมทั้งต้องไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงและหากจะชุมนุมก็ต้องเป็นไปภายใต้กรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ
 เมื่อถามว่า ขบวนการเสื้อแดงจะมีทิศทางอย่างไรต่อจากนี้ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการชุมนุมครั้งนี้ เสื้อแดงเสียหายอย่างมาก เพราะพลาดโอกาสที่จะประสบความสำเร็จต่อการเจรจาเพื่อยุติการชุมนุม ซึ่งเรื่องนี้ตนอยู่ในเหตุการณ์การเจรจาและได้พูดคุยกับแกนนำมาตลอด เช่น วันที่ 28 เม.ย. ตนได้พูดคุยกับนายวีระ มุสิกพงษ์ ประธานนปช.และได้สนับสนุนมติที่จะให้ยุติการชุมนุมเกิดขึ้น แต่ระหว่างที่แกนนำกำลังมีมติสลายการชุมนุมก็จะมีเรื่องแทรกซ้อนมาตลอด เช่น การสลายการชุมนุมที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่อนุสรณ์สถาน รวมทั้งการยิงพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง จนเสียชีวิตซึ่งกรณีที่ผ่านมาล้วนแต่ทำให้เกิดบรรยากาศที่เคียดแค้น การสลายการชุมนุมจึงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะการที่สว.ได้มาเจรจากับแกนนำเสื้อแดงและได้ข้อสรุปว่าพร้อมที่จะพูดคุยกับรัฐบาล แต่รัฐบาลกลับกระชับวงล้อมจนนำไปสู่การปราบปรามประชาชน  การที่จะต่อสู้ประชาธิปไตยต่อไปสามารถดำเนินการได้ แต่ต้องมาดูบทเรียนและพลังที่มีอยู่ ที่สำคัญต้องยึดแนวทางสันติ อหิงสา ค่อยๆฟื้นและก้าวขึ้นมา
 เมื่อถามว่าเห็นอย่างไรที่แกนนำเสื้อแดงบางส่วน เช่น กลุ่ม 24 มิถุนา ของนายสมยศ พฤษภาเกษมสุข แกนนำกลุ่มแดงสยาม ได้ออกมาประกาศจะชุมนุมสิ้นเดือนนี้ที่จ.ราชบุรี นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะชุมนุมด้วยเนื้อหาอะไร แต่คิดว่าในระยะยาวการชุมนุมอาจเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะถ้ารัฐบาลกลั่นแกล้ง พยายามกวาดล้างฝ่ายที่เห็นต่างทางการเมือง ถ้าเป็นเช่นนี้การชุมนุมก็อาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคิด  นอกจากนี้อยากเรียกร้องให้สังคมไทยพูดเรื่องผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และคนบาดเจ็บด้วย เพราะคนที่บาดเจ็บบางส่วนก็พิการตลอดชีวิต
 เมื่อถามว่าเหตุการณ์พฤษภาทมิฬมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลถูกขับไล่จนอยู่ไม่ได้ ตรงกันข้ามกับเหตุครั้งนี้เป็นเพราะอะไร นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ที่รัฐบาลยังอยู่ได้เพราะได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอำนาจหลายฝ่าย ทั้งที่รัฐบาลนี้ทำผิด สังคมไทยต้องไม่ควรยอมรับเพราะประจักษ์ชัดว่า รัฐบาลนี้ทำผิด ส่งกำลังทหารปราบปรามประชาชน








ข่าวที่เกี่ยวข้อง"ปณิธาน"ชี้เสื้อแดงชุมนุม24พ.ค.เป็นสิทธิ์ "มาร์ค"งงตร.คุมแกนนำนปช.สุขสบาย สื่อนอกตีข่าวเสื้อแดงสู้ต่อแต่ยังขาดแกนนำศอฉ.เตรียมยกเลิกคุมเส้นทางราชประสงค์ ผู้ว่าฯกทม.เสนอศอฉ.ทำบุญปท.ที่ราชประสงค์

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เผยปัจจัยเสี่ยงล้มปรองดอง ชี้แม้วเอี่ยวป่วนกรุง

เผยปัจจัยเสี่ยงล้มปรองดอง ชี้แม้วเอี่ยวป่วนกรุง

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ปชป.เผยปัจจัยเสี่ยงล้มปรองดองในชาติ เตือน แดงสยาม เคลื่อนหวังล้มเจ้า ระบุทักษิณ ยังเป็นตัวหลักล้มรัฐเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ยัน รอยเตอร์ แฉทีมทนายแม้วแทรกแซงปรองดอง...เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงสถานการณ์การเมืองขณะนี้ว่า พรรคเห็นว่าการเดินหน้าฟื้นฟูของรัฐบาลด้วยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบควบคู่กับกระบวนการเดินหน้าปรองดองเป็นแนวทางที่จะนำพาชาติไปสู่การสร้างความสมานฉันท์และการอยู่ร่วมกันบนความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีที่สุด และการยุติวงจรความขัดแย้ง และความรุนแรงปัญหาทางการเมือง และนำไปสู่สังคมเสรีภาพและประชาธิปไตยที่แท้จริงโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า หลังจากการชุมนุมได้ยุติลงไปแล้ว แต่มีอุปสรรคสำคัญต่อการปรองดอง ที่ถือเป็นยุทธศาสตร์หลักในการเดินหน้าฝ่าวิกฤติ คือการเตรียมการเคลื่อนไหวโดยกลุ่มแดงสยาม ที่มีการประกาศโดยแกนนำอดีตผู้นำคอมมิวนิสต์ อย่างนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ซึ่งพรรคอยากเรียกร้องให้การเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ว่าจะในลักษณะใด หรือคนกลุ่มใด ควรจะทำในลักษณะการมีส่วนร่วม ในกระบวนการประชาธิปไตยบนพื้นฐานความสันติและไม่ใช้วิธีการก่อความวุ่นวาย หรือกล่าวโจมตีบิดเบือนใส่ร้ายทั้งทางการเมืองและสถาบันที่อยู่เหนือการเมืองนพ.บุรณัชย์ กล่าวอีกว่า ข้อเรียกร้อง 5 ข้อของกลุ่มแดงสยาม หากประสงค์ให้สังคมก้าวพ้นความขัดแย้งจริง ทำไมไม่มีข้อเรียกร้องข้อใดที่เกี่ยวข้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมแม้แต่ข้อเดียว ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์อยากเรียกร้องว่าหากจะออกมาต่อสู้ทางการเมือง ก็อยากให้ใช้วิถีทางประชาธิปไตยและขณะนี้สังคมมีความเปิดกว้างมาก หากกลุ่มแดงสยามหรือกลุ่ม 24 มิถุนาจะจัดตั้งพรรคการเมืองในแนวพรรคสังคมนิยมหรือพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ขณะนี้กฎหมายที่ห้ามในการดำเนินการดังกล่าวได้ลดน้อยถอยลงไปมากแล้วตราบเท่าที่การเคลื่อนไหวยังอยู่ในแนวระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉะนั้นการเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้จะต้องตัดความสัมพันธ์ในต่างประเทศและในประเทศ ที่มีความโยงใยกับกลุ่มใต้ดิน ที่พาดพิงและล้มเจ้าโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ความเสี่ยงต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มกองกำลังก่อการร้าย ที่ลงไปในใต้ดิน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่กลุ่มนี้ไม่สามารถเคลื่อนไหวโดยใช้มวลชนอำพรางตัว เองได้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องปรับยุทธศาสตร์ไปสู่การใช้การข่าวนำการใช้กำลัง โดยขยายผลจากการจับกุมผู้ที่ติดอาวุธที่จับกุมได้ในบริเวณสวนลุมมาแล้วและเชื่อมโยงกับงานข่าวระหว่างประเทศ ที่มีรายงานว่า มีการลำเลียงอาวุธ ที่ใช้ในการก่อการร้ายจากประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณชายแดนในหลายจุด ขณะเดียวกันเส้นทางการโอนถ่ายทรัพยากรสนับสนุนการก่อการร้าย เช่น เส้นทางการเงิน ซึ่งรัฐบาลต้องใช้การข่าวและความร่วมมือระหว่างมิตรประเทศเป็นตัวนำในการ เสาะแสวงหาบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะนำไปสู่กระบวนการยุติธรรมทางกฎหมายนพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า และความเสี่ยงต่อการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ใช้ต่างประเทศในการเคลื่อนไหวอย่างชัดแจ้ง แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวไม่ได้รับการตอบรับจาก มวลชนภายในประเทศ ซึ่งเห็นชัดว่ามีความพยายามใช้มวลชนในการล้มรัฐบาล เพื่อหวังประโยชน์ของตัวเองและใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือในการดำเนินการ โดยใช้ความรุนแรงในหลายลักษณะนำไปสู่ความวุ่นวายในบ้านเมือง และการเคลื่อนไหวในต่างประเทศนั้น เริ่มแนวโน้มสื่อมวลชนต่างประเทศเริ่มเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีการ ให้ข่าว ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ตามที่หนังสือวอร์ล สตรีท เจอร์นัล ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ระดับโลกได้วิเคราะห์บทบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยระบุชัดว่า มีการสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเจรจา ในส่วนของคนเสื้อแดงเองยืนยันว่าเหตุผลการเจรจาทั้ง 3 รอบเมื่อถึงเวลา สุดท้ายต้องหยุดลงทำให้แกนนำฝ่าย นปช.ต้องถอนตัวนั้น เป็นเพราะบทบาทของพ.ต.ท.ทักษิณที่เข้ามาแทรกแซงการเจรจาจนทำให้ไม่ได้ข้อ ยุติและไม่สามารถหาทางออก บนพื้นฐานของการเผชิญหน้านพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีบทรายงานข่าวจากสื่อต่างชาติ โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่เขียนโดยนายเจมส์ ฮุกเวย์ ระบุในรายงานสถานการณ์การก่อจลาจลและก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในประเทศไทยว่า ระหว่างที่มีการชุมนุมยึดพื้นที่แยกราชประสงค์ได้มีทีมทนายความของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เข้าพบปะหารือกับแกนนำ นปช.อย่างใกล้ชิด โดย พบปะกันที่โรงแรมหรูใกล้พื้นที่การชุมนุมเพื่อขอให้ยับยั้งการเจรจาปรองดอง กับรัฐบาลไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการแทรกแซงของทีมทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณที่บงการตามคำ สั่งในการเจรจาสมานฉันท์ระหว่างแกนนำ นปช. กับรัฐบาลโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยตอร์ ยังรายงานอ้างแหล่งข่าวตอนหนึ่งยืนยันว่า ได้ข้อมูลมาจากสมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่ระบุว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์นี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้มีการติดต่อประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มนายทหารนอกรีต ที่มีการฝึกกองกำลังประชาชนติดอาวุธในลักษณะจรยุทธ์ โดยใช้ชื่อว่า กองทัพของประชาชน เพื่อให้มีการโจมตีกำลังทหารและทำให้กรุงเทพฯ เป็นเขตสงครามกลางเมือง ทั้งหมดมีรายงานในสื่อต่างประเทศแต่กลับไม่มีการพูดถึงในสื่อของไทยเลย ซึ่งพรรคเห็นว่าสังคมไทยและสังคมโลกควรจะได้รับทราบว่า รายงานข่าวนี้มีความเป็นจริงหรือไม่ อย่างไร เกี่ยวกับในบทบาทของพ.ต.ท.ทักษิณต่อการติดต่อกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ฉะนั้นถือเป็นภาวะความเสี่ยงที่รัฐบาลจะต้องแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งในประเทศ และมิตรประเทศต่าง ๆ ที่จะป้องกันไมให้ความเสี่ยงทั้งสามเป็นอุปสรรค ทำให้ไม่สามารถก้าวพ้นความขัดแย้งทางการเมือง.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Blog Archive