Sunday, May 23, 2010

สุเทพชงครม. ต่อเคอร์ฟิว โตัรบ.จัดฉากอาวุธ

สุเทพชงครม. ต่อเคอร์ฟิว โตัรบ.จัดฉากอาวุธ

นายสุเทพ เทือกสุบรรณสุเทพ ชงครม.ชี้ขาดต่อเคอร์ฟิว อ้างยังมีเคลื่อนไหวใต้ดิน จัดส่งชุดติดตามแกนนำนปช.ที่หลบหนีอยู่ในไทย โต้รัฐบาลจัดฉากโชว์อาวุธพวกเสื้อแดง แนะอย่าเชื่อสื่อนอกเกินไป โบ้ยโจรชุดดำยิงทิ้ง 6 ศพวัดปทุมวนาราม...เมื่อเวลา 08.00 น. 24 พ.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงการยกเลิกประกาศเคอร์ฟิวว่า พรุ่งนี้จะมีการพิจารณาในที่ประชุมครม. แต่โดยหลักคือเราพยายามดูแลให้สามารถควบคุมสถานการณ์ให้เกิดความปลอดภัยกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ ขณะเดียวกันจะให้มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตตามปกติของประชาชนน้อยที่สุด ซึ่งพรุ่งนี้จะมีการประเมินผลดูว่า หลังจากที่เราดำเนินการมาอย่างนี้แล้ว ผลเป็นอย่างไร ถ้าจำเป็นก็อาจจะประกาศเคอร์ฟิวในบางพื้นที่ต่อเนื่อง หรือถ้าไม่จำเป็นก็ยกเลิกได้ ต้องดูสถานการณ์ก่อน  ผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศเคอร์ฟิวค่อนข้างมีผลกระทบกับประชาชนที่ค้าขายในช่วงกลางคืน รองนายกฯ กล่าวว่า ปกติตอนตี 1 ตี 2 ก็ค้าขายยากอยู่แล้ว เอาเป็นว่าหากรัฐบาลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แม้แต่ยกเลิกไปเลยเราก็ยินดีทำ แต่ขณะนี้ในหลายพื้นที่ยังมีความเคลื่อนไหว ยังมีความพยายามที่จะออกมาทำให้เสียหายต่อทรัพย์สินและความปลอดภัยของประชาชน  ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ขณะนี้การติดตามจับกุมกลุ่มพวกที่เคลื่อนไหวใต้ดิน มีการดำเนินการอย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า หลายคนทราบดีว่ากลุ่มที่เคลื่อนไหวใต้ดินครั้งนี้เป็นกลุ่มไหนบ้าง ซึ่งการจับกุมเป็นไปตามพยานหลักฐาน อย่างเมื่อวานก็มียิงปืนใส่ธนาคาร มีคนเห็นเหตุการณ์และมีพยาน เราก็พยายามจับกุม เมื่อถามว่า เป้าหมายของคนกลุ่มนี้คือต้องการก่อวินาศกรรมใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ก็ชัดอยู่แล้วว่าคนเหล่านี้ตั้งใจจะให้เกิดความวุ่นวายต่อบ้านเมือง ความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ของเอกชนและราชการ ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีแกนนำนปช.ที่หลบหนีอยู่ ทางรัฐบาลได้ดำเนินการอย่างไร นายสุเทพ กล่าวว่า เราได้ปล่อยสายไปติดตามอยู่ แต่เรื่องดังกล่าวคงไม่ง่าย ซึ่งเราก็ไม่ลดละความพยามยาม เมื่อถามว่า แกนนำเหล่านี้ยังอยู่ในประเทศไทย หรือหนีไปนอกประเทศแล้ว นายสุเทพ กล่าวว่า ยังอยู่ในประเทศไทย ยังไม่ได้หนีไปต่างประเทศ และเจ้าหน้าที่กำลังติดตามอย่างใกล้ชิด  เมื่อถามว่า กลุ่มก่อการร้ายหรือกลุ่มเสื้อดำที่มีการพูดก่อนหน้านี้มีการจับกุมได้บ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เราจับกุมได้หลายคนแล้ว และขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป ซึ่งการเปิดเผยรายชื่อนั้น ขึ้นอยู่กับกรมสอบสวนคดีพิเศษว่าจะเปิดเผยหรือไม่อย่างไร เมื่อถามถึงการตั้งข้อสังเกตของพรรคเพื่อไทย ที่บอกว่ารัฐบาลแถลงข่าวฝ่ายเดียว และอาวุธที่นำมาแถลงนั้นก็เป็นการจัดฉาก รองนายกฯ กล่าวว่า เขาก็พูดไปเรื่อย แต่อาวุธเหล่านั้น ตอนที่เราไปตรวจพบ จะมีสื่อมวลชนติดตามไปทำข่าว ซึ่งได้เห็นพร้อมกับเจ้าหน้าที่ เมื่อถามว่า ส่วนใหญ่รู้หรือไม่ว่าที่มาของคนพวกนี้มาจากไหน รองนายกฯความมั่นคง กล่าวว่า มีมาจากหลายแห่ง ทั้งภาคกลาง ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคอีสานที่เป็นคนร้าย ขณะนี้เราได้ติดตามจับกุม ส่วนจำนวนคนร้ายมีเท่าไหร่นั้น คงไม่มีใครทราบ แต่อาจจะมีจำนวนมาก ผู้สื่อข่าวถามว่า ไทม์ระบุกองกำลังติดอาวุธเข้าไปแฝงตัวในบริเวณคลองเตย ได้รับรายงานบ้างหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า อย่าไปเชื่อตามข่าวอย่างนั้น แต่ไม่ว่าเขาอยู่ที่ไหน เราจะต้องติดตามอยู่แล้ว เมื่อถามว่าขณะนี้ยังไม่มีเบาะแสใช่หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ก็มีเบาะแสจำนวนมากแต่ต้องให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการ  ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังมีข่าวลอบสังหารหรือการก่อวินาศกรรม การรักษาความปลอดภัยนายกรัฐมนตรีหรือตัวท่านเองต้องเพิ่มขึ้นหรือมีความเข้มงวดขึ้นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า สำหรับตนเองเหมือนเดิม แต่สำหรับนายกฯ ตนสั่งให้ดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเต็มที่อยู่แล้ว  ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งทำต่อไปในอนาคต ที่ให้เห็นเป็นรูปธรรมได้คืออะไร นายสุเทพ กล่าวว่า นายกฯได้ประกาศแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาที่เรียกว่ามาตรการในการปรองดองไปชัดเจนแล้ว ซึ่งแต่ละมาตรการจะต้องมีรายละเอียดที่รัฐบาลต้องเข้าไปดำเนินการ และเชื่อว่าการปฏิบัติเหล่านี้จะเป็นรูปธรรมชัดเจนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เมื่อถามต่อว่า จะมีหลักประกันอะไรหรือไม่ว่า ประชาชนเหล่านั้นจะได้รับการช่วยเหลือจริง รองนายกฯ กล่าวว่า ต้องไม่มองอะไรในแง่ร้าย ต้องช่วยกันประคับประคองบ้านเมือง เพราะเป็นของเราทุกคน ถ้ามัวแต่ตั้งข้อสงสัย เอาแต่วิพากษ์วิจารณ์ ไม่เชื่อถือกันก็จะทำให้เรื่องที่น่าจะง่ายก็ยากไปอีก  เมื่อถามว่าในส่วนของนักการเมือง โดยเฉพาะในสภา ควรมีความร่วมมือกันอย่างไรในการแก้ไขปัญหา และแสดงความรับผิดชอบต่อบ้านเมืองกันอย่างไรบ้าง นายสุเทพ กล่าวว่า ความจริงคนที่อาสามาเป็นนักการเมือง ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า ภารกิจหน้าที่ก็คือการแก้ไขให้ชาติบ้านเมืองและประชาชน ถ้าทุกคนตระหนักในหน้าที่ของตัวเองก็จะสมบูรณ์ ผู้สื่อถามด้วยว่า มีหลายคนเมื่อเกิดเหตุการณ์ก็หายเงียบไปเลย รองนายกฯกล่าวว่า เรียกว่าหายเงียบไปก็ยังดีกว่าการมาสร้างปัญหา ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัว เมื่อถามว่าในส่วนของรัฐบาล ประชาชนถามหาความรับผิดชอบเหมือนกัน รองนายกฯ กล่าวว่า ที่รัฐบาลทำอยู่นี้ก็ถือว่ารับผิดชอบอยู่แล้วในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งประชาชนทั่วไปและประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่ต้องมีการเยียวยากัน  ผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมีบทเรียนมา 2 ปีซ้อนแล้วกับเหตุการณ์เช่นนี้ จะทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นเป็นครั้งที่ 3 อีก นายสุเทพ กล่าวว่า ต้องหาลู่ทาง เราเห็นแล้วว่าเมื่อสงกรานต์ปีที่แล้ว กลุ่มนปช.ได้สร้างปัญหาให้บ้านเมือง รัฐบาลคิดว่าเมื่อแก้ไขปัญหาครั้งนั้นไปแล้วก็ควรจะจบ แต่กลุ่มนปช.ก็ฟักตัวขึ้นมาใหม่ คนลืมเรื่องเก่าไป นปช.ก็สร้างเรื่องใหม่ขึ้นมาอีก จะเห็นได้ชัดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในปีนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายกว่าที่เขาเคยทำมาปีที่แล้วมาก ใช้กองกำลังติดอาวุธออกมาเข่นฆ่าเจ้าหน้าที่ ประชาชน และสื่อมวลชน แม้แต่คนที่เป็นอาสาสมัครหน่วยกู้ภัย ได้รับบาดเจ็บจนถึงเสียชีวิต เป็นเรื่องที่จะยอมให้เกิดขึ้นอีกไม่ได้ เมื่อถามว่า ตอนนี้ดูแล้วมีกองกำลัง มีพรรค มีแนวร่วมครบถ้วน ถ้ามีการต่อสู้ในอนาคตจะมีการป้องกันอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า เราต้องดำเนินการตามกฎหมายทุกอย่าง ทุกคนจะเห็นว่ารัฐบาลใช้ความอดทนและยึดมั่นในหลักการของกฎหมาย ในระบอบประชาธิปไตยมีกฎหมายเป็นหลักของบ้านเมือง เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะพยามยามแก้ปัญหาโดยใช้กฎหมาย ผู้สื่อข่าวถามว่า ยังคงเน้นเรื่องการเจรจาอยู่หรือไม่ เพราะในอดีต กว่าจะเลิกคอมมิวนิสต์ได้ต้องใช้เวลาเกือบ 20 ปี นายสุเทพ กล่าวว่า วิธีดังกล่าวคงใช้ได้กับพี่น้องประชาชนเท่านั้น แต่สำหรับคนเป็นผู้ก่อการร้ายที่ออกมาถืออาวุธไล่ล่าสังหารประชาชน คงกล่อมเกลายาก ต้องดำเนินการตามกฎหมาย เมื่อถามว่า กลุ่มอาเซียนเรียกร้องว่าไทยเป็นประเทศผู้นำ ควรจะสร้างสันติสุขกันโดยเร็วเพื่อนำพาประเทศต่อไป รองนายกฯมั่นคง กล่าวว่า เราพยามยามทำให้เกิดสันติสุข แต่สันติสุขก็ไม่ได้หมายความว่า คนที่ทำผิดแล้วไม่เอามาลงโทษไม่ได้ ไม่ใช่สันติสุขอย่างนั้น ผู้สื่อข่าวยังถามถึงความชัดเจนในเรื่อง 6 ศพในวัดปทุมวนารามราชวรวิหาร จากการสอบสวนชัดเจนหรือไม่ว่าใครเป็นคนยิง นายสุเทพ กล่าวว่า เดี๋ยวก็ชัดเจนครับ ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมหลักฐานข้อมูล ซึ่งรัฐบาลจะพูดต่อเมื่อมีหลักฐานครบถ้วนเรียบร้อย ตนขอให้สบายใจได้ว่าในการตรวจสอบเบื้องต้น เท่าที่ตนดู ไม่ใช่เรื่องของเจ้าหน้าที่ เมื่อถามว่า ใครที่จะสามารถเดินขึ้นไปบนรางรถไฟฟ้าบีทีเอสได้ นอกจากเจ้าหน้าที่ เพราะมีการปิดให้บริการ นายสุเทพ กล่าวว่า โจรไงครับ ผู้ร้ายไงครับ เขาอยู่ที่นั่นมาตลอด การขึ้นไปบนรางรถไฟฟ้านั้น เจ้าหน้าที่เข้ามา 2 ทาง จากศาลาแดงหนึ่งทาง และจากเพลินจิตอีกหนึ่งทาง ตอนที่สยามสแควร์ปิด เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถขึ้นไปบนนั้นได้ และขณะที่แกนนำนปช.มอบตัว ยุติการชุมนุม เราให้เจ้าหน้าที่หยุด ไม่เคลื่อนที่ต่อไป เพราะว่าจะทำให้บรรยากาศของเขาที่จะประกาศยุติการชุมนุม จะกระทบกระเทือน ในขณะเดียวกันช่วงเย็นเราก็ไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่อีก เพราะไปสำรวจแล้วยังมีประชาชนอีกจำนวน 2-3 พันคน ที่ยังคงมีอารมณ์ค้าง ซึงเรื่องอย่างนี้เราจะเอาข้อเท็จจริงมาแถลงกับพี่น้องประชาชน กราบเรียนให้ประชาชนทราบทุกขั้นทุกตอน ผู้สื่อข่าวถามว่า นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์  โฆษกพรรคเพื่อไทย นำภาพเจ้าหน้าที่อยู่บนรางรถไฟฟ้าบีทีเอส มาแถลงให้สื่อมวลชนดูว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่บนรางรถไฟฟ้า รองนายกฯมั่นคง กล่าวว่า นายพร้อมพงษ์ก็โกหกทุกวัน ถ้าจะเชื่อนายพร้อมพงษ์ ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ แต่นั่นคือภาพที่ศาลาแดง ซึ่งสังเกตที่มีแนวบังเกอร์อยู่ แต่ที่สยามสแควร์จะไม่มีแนวบังเกอร์ของเจ้าหน้าที่ “ใครที่ลงข่าวก็จะต้องมีสติในการดูด้วย ถ้าเห็นอะไรนิดนึงแล้วเชื่อเขาไปหมด ตกใจไปหมด อีกหน่อยเราก็คงจะต้องกลุ้มใจ” นายสุเทพ กล่าว ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อวันก่อนเห็นเจ้าหน้าที่ไปตรวจวิถีกระสุนยิงที่ยิงพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก แล้ว จะทราบผลหรือไม่ว่าเป็นหน่วยงานไหน นายสุเทพ กล่าวว่า ตนก็อยากทราบเช่นกันว่าเป็นหน่วยงานใด ฝ่ายไหน ใครเป็นคนทำ เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบ และจะดำเนินคดีต่อไป เมื่อถามว่า คดีคงไม่เงียบหายใช่หรือไม่ รองนายกฯมั่นคง กล่าวว่า คงจะต้องดำเนินการต่อไป เพราะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่จะต้องดำเนินการ ทุกคนทุกรายที่เกิดเหตุ จะต้องพยามยามหาหลักฐานมาตรวจสอบข้อเท็จจริง

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive