Wednesday, February 6, 2013

เสรีพิศุทธ์ ลุยยื่น กกต.ยุติผลโพล วันนี้

เสรีพิศุทธ์ ลุยยื่น กกต.ยุติผลโพล วันนี้
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส จ่อยื่น กกต.กทม. ยุติผลสำรวจโพล วันนี้ พร้อมยินดีกับมือ โฆสิต-สุหฤท ขอคะแนนกลุ่มพลังเงียบ...  พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 11 วิ่งออกกำลังกายในสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ บางขุนนนท์ พร้อมกับชูนโยบายเพิ่มพื้นที่สาธารณะในคนกรุงเทพฯ โดยนำพื้นที่รกร้างทั้งของราชพัสดุ โรงงานยาสูบ และเอกชนจัดเป็นสวนสาธารณะใกล้บ้านให้คนกรุงเทพฯ ได้พักผ่อน พร้อมจัดเครื่องเล่น และเครื่องออกกำลังกายให้กับผู้ใช้บริการ และยังแบ่งพื้นที่สวนสาธารณะ ให้กับสุนัขขนาดเล็ก ได้ออกกำลัง เพื่อเอาใจคนรักสุนัขด้วย นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่ กกต. กทม. ระบุ ไม่มีอำนาจในการยุติผลสำรวจโพล เนื่องจากยังไม่มีผู้ร้อง นั้น พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า หากไม่มีผู้ร้อง ตนเองยินดีที่จะเป็นผู้ร้องเรียนแทน เนื่องจากเรื่องนี้มีความผิดชัดเจน โดยจะได้มอบหมายให้ตัวแทน เข้ายื่นหนังสือต่อ กกต. ในเวลา 11.00 น. วันนี้ ส่วนกรณีที่จะมีการจับมือกับผู้สมัครอิสระ อีก 2 คน เพื่อขอคะแนนกลุ่มพลังเงียบ ที่มีอยู่ถึงร้อยละ 41 นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล และหากข้อมูลพร้อมแล้ว จะได้มีการแถลงร่วมกับผู้สมัครอิสระ อีก 2 คน คือนายโฆสิต สุวินิจจิต และ นายสุหฤท สยามวาลา ต่อไป

จูดี้ ลุยหาเสียงบางกอกใหญ่

จูดี้ ลุยหาเสียงบางกอกใหญ่
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ลุยหาเสียงย่านบางกอกใหญ่ พร้อมใส่บาตรก๋วยเตี๋ยวลุยสวน เอาฤกษ์...  พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคเพื่อไทย หมายเลข 9 เช้าวันนี้ ลงพื้นที่หาเสียงเขตบางกอกใหญ่ บริเวณชุมชนวัดสังข์กระจาย ชุมชนปิ่นมณี โดยผู้สมัครได้เดินทักทายกับพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า ซึ่งได้รับความสนใจ ขอถ่ายรูปและมอบดอกไม้จำนวนมาก นอกจากนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ ได้ใส่บาตรก๋วยเตี๋ยวลุยสวน ทั้งนี้ ในระหว่างการหาเสียง ได้มีการเดินไปดูปัญหาน้ำเน่าเสีย ในคลองข้างวัดสังข์กระจาย และหน่วยปฏิบัติการ อปพร.กู้ภัยวัดสังข์กระจาย ซึ่งพบว่า อุปกรณ์การปฏิบัติงานยังไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตามในช่วงบ่าย พล.ต.อ.พงศพัศ จะเดินทางไปหาเสียง ที่บริเวณเขตบางกอกใหญ่ ที่วิทยาลัยพณิชยการธนบุรี และในช่วงเย็น จะไปหาเสียงที่ชุมชนคลองตาย บ้านอุ่นใจ

พงศพัศ เมิน โดนตัดต่อรูปโจมตีว่อนเน็ต

พงศพัศ เมิน โดนตัดต่อรูปโจมตีว่อนเน็ต
พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ลงพื้นที่หาเสียงย่านบางกอกใหญ่ ย้ำดูแลเรื่องนโยบายความปลอดภัยด้านอัคคีภัยแก่ชุมชน ส่วนกรณีโดนโจมตีภาพตัดต่อในเน็ตไม่กังวล เชื่อ กกต.จับตาไว้แล้ว...เมื่อวันที่ 7 ก.พ. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่หาเสียง ย่านบางกอกใหญ่ ในซอยเพชรเกษม 4 ซึ่งเป็นที่อยู่ของหลายชุมชน อาทิ ชุมชนซอยวัดสังข์กระจาย โดยก่อนหาเสียงได้ทำบุญตักบาตรเพื่อความเป็นสิริมงคล แล้วจึงตระเวนหาเสียงทักทายกับประชาชนในพื้นที่ ตรวจเยี่ยมสภาพคลองข้างวัดสังข์กระจาย จากนั้นเข้านมัสการ ขอพรจากพระพิศาลพิพัฒนพิธาน เจ้าอาวาสวัดสังข์กระจายวรวิหาร และพบปะกับอาจารย์ นักเรียน โรงเรียนวัดราชสิทธาราม ก่อนจะไปวัดหงส์รัตนารามภายหลังการลงพื้นที่ พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า หลังจากประกาศนโยบายความปลอดภัย จึงมาดูพื้นที่ชุมชน โดยเฉพาะในเรื่องการป้องกันอัคคีภัย ที่ยังพบว่าอุปกรณ์ล้าสมัย และใช้งานไม่ค่อยได้ โดยมีแนวคิดจะให้มีสถานีดับเพลิงส่วนหน้าในชุมชน และติดตั้งหัวจ่ายน้ำสีแดงในทุกพื้นที่ และปรับปรุงรถขนาดเล็ก เช่น รถสามล้อ รถจักรยานยนต์ เป็นรถดับเพลิงขนาดเล็ก ควบคู่กับการตรวจสอบเรื่องสายไฟเก่า ที่จะต้องขอรับการสนับสนุนจากการไฟฟ้าเข้าไปตรวจสอบ หรือให้บริการเปลี่ยนสายไฟฟ้าในราคาถูกอย่างไรก็ตามสำหรับการลงพื้นที่ย่านบางกอกใหญ่ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ พล.ต.อ.พงศพัศกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ฐานเสียงใคร ก็ต้องลงพื้นที่พบปะประชาชนอยู่แล้ว ขณะเดียวกันไม่ติดใจกับกรณีมีการตัดต่อภาพของตนเองเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ในทางให้เกิดความเสียหาย เพราะเชื่อว่า กกต.ติดตามอยู่ ทั้งนี้แม้จะถูกใส่ร้าย แต่ยืนยันจะไม่ฟ้องร้องใครอย่างแน่นอน เพราะยึดหลักการหาเสียงด้วยความสมานฉันท์ ไม่ใส่ร้ายป้ายสี. 

มท.1ปัดรบ.พท.แทรกแซงสวนดุสิตโพล

มท.1ปัดรบ.พท.แทรกแซงสวนดุสิตโพล
                    6 ก.พ.56 นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์ว่าการทำโพลของส่วนดุสิตโพล มีคนของรัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยเข้าไปแทรกแซง ชี้นำการสำรวจของสวนดุสิตโพลว่า ในฐานะรัฐมนตรีและดูแลกรุงเทพฯด้วย ก็พยายามระมัดระวังไม่ให้เข้าไปก้าวก่ายหรือทำผิดกฎหมาย ยืนยันว่าเราไม่รู้เรื่องการแทรกแซงโพลแต่อย่างใด และไม่ได้มองว่าผลโพลที่ออกมาเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย เพราะพรรคเน้นเรื่องการเสนอนโยบายต่อประชาชนมากกว่า เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้สวนดุสิตโพลรับงานในการดำเนินงานเรื่องอบรมวิทยากรให้กับการจัดเวทีประชาเสวนา ของรัฐบาล ทำให้ถูกมองว่ารัฐบาลเข้าไปแทรกแซงการทำงาน นายจารุพงศ์ กล่าวว่า ต้องให้สวนดุสิตโพลออกมายืนยันว่ารัฐบาลเข้าไปแทรกแซงหรือไม่                     "ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้แทรกแซง และให้เกียรติกับทุกคนเพราะเห็นว่าสวนดุสิตมีความเป็นกลาง ไม่เช่นนั้นจะขอร้องให้เขามาช่วยงานทำไม"                     ผู้สื่อข่าวถามว่าพรรคเพื่อไทยมั่นใจหรือไม่กับผลโพลสำนักต่าง ๆ ที่ระบุพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครฯผู้ว่าพรรคเพื่อไทย มีคะแนนนำคู่ต่อสู้ นายจารุพงศ์ กล่าวว่า โพลก็เป็นเรื่องของโพล เราไม่ได้นำมารวมกับนโยบายของพรรค และเข้าใจว่ามีการชี้นำได้ เพราะไม่ใช่มีการทำโพลเพียงสำนักเดียว แต่มีหลายสำนัก ดังนั้นผลที่ออกมาจึงมีความสมดุลกันอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับประชาชนคิดอย่างไร ซึ่งพล.ต.อ.พงศพัศ เน้นเสนอนโยบาย ส่วนพรรคก็ดูว่าในแต่ละพื้นที่แต่ละเขตประชาชนประสบปัญหาอะไร จากนั้นก็นำวิเคราะห์และนำแปลงมาดำเนินการเป็นนโยบาย และวันนี้ประชาชนรู้แล้วว่าการเลือกตั้งหาตัวแทนของเขาต้องเน้นว่านโยบายของใครดี นอกจากนั้นต้องปฏิบัติได้จริงหรือไม่   'มท.1' โต้กลับ 'ฝ่ายค้าน' ใส่ร้ายดูถูกคนไทยปมประชาเสวนา                       นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีผู้อาวุโสท่านหนึ่งที่ระบุว่าการเดินหน้าจัดเวทีประชาเสวนา 108 เวที ตนได้สั่งให้มีการเกณฑ์คนมา ซึ่งการไปเกณฑ์คนมานั้น อย่าเอาคนโง่มาว่า การจัดประชาเสวนา 108 จุด คือเอาเขตเลือกตั้งเป็นตัวตั้ง 1 เขตเลือกตั้งมีประมาณ 200 คน ไม่เกิน 300 คน ต่อ 1 เขตเลือกตั้ง แต่ต้องเข้าใจว่าในเขตเลือกตั้ง 1 เขต เลือกตั้งมีคนที่มีสิทธิ์ 150,000-200,000 คน ต่อ 1 เขตเลือกตั้ง เพราะฉะนั้นตนได้ย้ำว่าการคัดคนเข้ามาร่วมเสวนาต้องเป็นคนที่รู้เรื่อง นอกเหนือจากทางเกณฑ์สถิติจะต้องกำหนดว่าเอากลุ่มอายุเท่าไรมาจำนวนสัดส่วนเท่าไร กลุ่มอาชีพใดเข้ามาเป็นสัดส่วนเท่าไร และกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย จะเป็นสัดส่วนเท่าไร นี่คือการประชุมกัน                     “ผมย้ำไปว่าขอให้พิจารณาในแต่ละกลุ่มว่า ให้แต่ละกลุ่มคัดเลือกคนที่มีความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องเกี่ยวกับการทำรัฐธรรมนูญ การทำประชาพิจารณ์และหัวข้อนั้นๆ ด้วย ถ้าคนไม่รู้เรื่องอย่าเอาเข้ามา มันเสียของ แต่พรรคฝ่ายค้านก็ไปเอาคำพูดที่ผมพูดไปต่อยอดว่าผมสั่งนายอำเภอและผู้ว่าราชการจังหวัดว่าอย่าเอาคนโง่มานะ แสดงว่าผมดูถูกคนไทยทั้งประเทศ ผมจึงรับไม่ได้ ผมขอปฎิเสธว่าผมไม่ได้สั่งอย่างนั้น” นายจารุพงศ์ กล่าว                     นายจารุพงศ์ กล่าวต่อว่า เหตุผลที่สั่งอย่างนั้นเพราะกังวัลว่าคน 200 คน จาก 150000 คน จะต้องคัดให้ดี ต้องเป็นคนที่มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ จะได้ทำให้การทำประชาเสวนามาน้ำหนัก และให้ระมัดระวังเรื่องที่เกี่ยวกับกลุ่มสีต้องเป็นไปตามสัดส่วนและตัวแทนของกลุ่มสีที่จะเข้ามาต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ นอกจากนี้ผู้อาวุโสยังกล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญปี 50 ดีอยู่แล้ว ซึ่งตนรู้สึกเสียใจที่คนระดับนั้น ทำไมถึงคิดว่ารัฐธรรมนูญที่มาจากการทำรัฐประหารเป็นของที่ดี และรัฐธรรมนูญปี 40 เลวกว่ารัฐธรรมนูญปี 50 อย่างนั้นหรือ                     “เพราะฉะนั้นการคิดว่าจะต้องปรับปรุงแก้ไขเรื่องใดจะดำเนินการทันทีไม่ได้ แต่จะต้องทำประชาเสวนาก่อน และให้ประชาชนแสดงความเห็นว่าเห็นอย่างไร ซึ่งการทำประชาเสวนาก็ควรทำไม่ใช่หรือ ทั้งนี้รัฐธรรมนูญปี 40 และปี 50 ล้วนมีปัญหาทั้งนั้น ดังนั้นจึงต้องมีการแก้ไข                     เมื่อถามว่าเวทีประชาเสวนาจะเริ่มได้เมื่อไร นายจารุพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้ประชุมอยู่เป็นระยะๆตลอด แต่ไม่สามารถกำหนดระยะเวลาได้ เพราะว่าการจัดเวทีสานเสวนาใช่ว่าใครจะคิดก็คิด แต่เป็นข้อเสนอที่มาจากคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) และทุกหน่วยงานที่ศึกษาเรื่องความขัดแย้งเห็นว่าควรจะต้องทำประชาเสวนาในเบื้องต้นเป็นอันดับแรก คือต้องถามประชาชน และทำความเข้าใจว่าประชาชนคิดอย่างไร จึงเป็นที่มาของการสานเสวนา ส่วนจะถามประชาชนอย่างไรก็ต้องถามตามหลักสถิติให้ครอบคลุมทั่วประเทศ                     เมื่อถามว่ายืนยันจะเดินหน้าต่อใช่หรือไม่ นายจารุพงศ์กล่าวว่า ยืนยันต้องเดินหน้าต่อ เพราะความขัดแย้งทุกอย่างทั้งแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการออกกฎหมายนิรโทษกรรมจะคลี่คลายได้นั้น เกิดจากการจัดเวทีประชาเสวนา เพื่อให้เกิดความปรองดอง ซึ่งการจะเกิดความปรองดองได้ กติกาต้องดีด้วย กติกาก็คือร่างรัฐธรรมนูญถูกต้องและเป็นที่ยอมรับกันทั้งหมด ซึ่งจะทำให้ความขัดแย้งลดลง                     “การทำเสวนาคือการถามประชาชนก่อนว่าจะทำอะไร แต่อย่าไปกำหนดประเด็นต่างๆ ก่อนการประชาเสวนาเพราะเมื่อเกิดการประชาเสวนาแล้วจะมีคำตอบเองว่าจะต้องทำอะไร ถ้าตอบก่อนก็จะเป็นการชี้นำ ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง” นายจารุพงศ์ กล่าว        

ปลอดประสพเดินหน้าสร้าง16เขื่อน

ปลอดประสพเดินหน้าสร้าง16เขื่อน
               6 ก.พ.56 นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกกรอบแนวคิดเพื่อออกแบบก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขอุทกภัยของประเทศ เปิดเผยภายหลังประกาศผลการพิจารณาผู้ผ่านการคัดเลือก 6 กลุ่มบริษัทว่า จากนี้ กบอ. จะตั้งคณะกรรมการคัดเลือกกลุ่มบริษัทที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 10 โมดูล ให้เหลือเพียง 1กลุ่ม ต่อ 1 โมดูล โดยมีนายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ส่วนที่เหลือเป็นหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัด และผู้ทรงคุณวุฒิ จากนั้นไม่เกิน 1 เดือน จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการกำกับ และทำหน้าที่บริหารโครงการ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดตัวบุคคล แต่จะต้องมีความอาวุโสและเป็นคนเก่ง สามารถสั่งงานข้ามกระทรวงได้ โดยกรรมการชุดนี้จะปฏิบัติหน้าที่ยาวไปจนถึงตั้งกระทรวงน้ำ และมอบโอนการบริหารทั้งหมดไปอยู่ภายใต้กระทรวง ต่างจากคณะกรรมการคัดเลือกที่หน้าที่จะเสร็จสิ้นทันทีหลังประกาศผลการคัดเลือกราวปลายเดือน เม.ย. นี้                นายปลอดประสพ กล่าวต่อว่า ตอนนี้คณะทำงานของ กบอ. อยู่ระหว่างเขียนทีโออาร์ จากความคิดเห็นทั้งหมดที่แต่ละกลุ่มบริษัทได้เสนอเข้ามา และข้อเสนอเพิ่มเติม โดยคณะกรรมที่จัดทำทีโออาร์ แบ่งเป็นคณะกรรมด้านเทคนิค เป็นกรรมการชุดเดียวกับที่อ่านข้อเสนอโครงการ ซึ่งทำเสร็จไปแล้ว 1 ขั้นตอน เพื่อคัดเอากะทิของที่อ่านมาตั้งรอไว้ จากนั้นคณะกรรมการอีกชุดหนึ่ง หรือ สบอช. จะทำการแก้ไข หลังจากทำทีโออาร์รอบที่ 1 แล้วเสร็จ กบอ. จะเปิดให้มีการวิจารณ์ภายใน และการวิจารณ์ภายนอก โดยหน่วยราชการ เช่น กรมชลประทาน กรมน้ำ กรมทรัพยากรธรณี และจังหวัด มาวิจารณ์อีกครั้งหนึ่ง โดยทีโออาร์บางเรื่องจะถือเป็นไฟนอลเลย ขณะที่บางเรื่องจะมีการถามความเห็นประชาชนบ้าง จากนั้นจึงจะประกาศผล โดยทีโออาร์ฉบับดังกล่าวจะเปิดเผยต่อสาธารณะในช่วง 2 สัปดาห์นับจากนี้ เพื่อให้ใช้เอกสารฉบับเดียวในการแข่งขัน                "อีก 2 อาทิตย์ หลังจากที่ได้ทีโออาร์จะได้รู้ว่า มีโครงการอะไรบ้าง กำหนดจุดก่อสร้างที่ชัดเจน เขื่อนสร้างแน่ 16 เขื่อน ทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ ฟลัดเวย์ ประตูน้ำ และแก้มลิง อีกทั้ง กระบวนการทำทีโออาร์เดินหน้าพร้อมกับที่กระทรวงการคลังดำเนินการกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท โดยตนได้ส่งบัญชีค่าใช้จ่ายเงินไปแล้วว่าในแต่ละปีมีโครงการไหนบ้าง ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ จะจ่ายก็ต่อเมื่อใช้ จ่ายเป็นงวด เสร็จเบิกจ่าย ไม่มีการเอาเงินมาเก็บไว้ก่อน" นายปลอดประสพ กล่าว                สำหรับ 2 กลุ่มบริษัทที่ไม่ได้รับการคัดเลือก นายปลอดประสพ ยืนยันว่า ยังมีโอกาสกลับเข้ามาได้ หลังจากมีการเซ็นสัญญาไปแล้ว โดยอาจขอเข้ามาใหม่ หรือแปลงเป็นบริษัทที่ปรึกษา แต่ต้องภายหลังการเซ็นสัญญาเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม ทีโออาร์ทั้ง 10 โมดูล จะประกาศพร้อมกัน ในช่วงปลายเดือน เม.ย.                "ในขั้นตอนอีไอเอต้องทำ เพราะอยู่ในกฏหมาย โดยจะทำหลังจากเซ็นสัญญาไปแล้ว ซึ่งหากมีคนคัดค้าน แล้วโครงการเดินหน้าต่อไม่ได้ ถ้าวันหน้าน้ำท่วมก็ไม่ต้องไปโทษใคร สำหรับกลุ่มที่ผ่านการคัดเลือกในการก่อสร้างเขื่อนทั้ง 16 เขื่อน ประกอบด้วย มี 3 กลุ่มคือ 1. เค-วอเตอร์ จากเกาหลีใต้ 2. กิจการร่วมค้าไอทีดี-พาวเวอร์ไชน่า ประกอบด้วย บมจ.อิตาเลียนไทย, พาวเวอร์ คอนสตรัคชั่น, ไชน่า เก๋อโจวบ๋า, ไชน่า อินเตอร์เนชั่นแนล วอเตอร์ฯ และปัญญา คอนซัลแตนท์ และ 3.กิจการร่วมค้าญี่ปุ่น-ไทย ประกอบด้วย บริษัทซีทีไอ, โอบายาชิ, ไทเซอิ, คาจิมา, ชิมิซึ, ซีทีไอ เอ็นจิเนียริ่ง, ซันยู, แปซิฟิ, ยาชิโย, องค์กรบริหารน้ำประเทศญี่ปุ่น และ บมจ.ยูนิคฯ" นายปลอดประสพ กล่าว                 

กกต.จับตาหาเสียงทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค

กกต.จับตาหาเสียงทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค
               5ก.พ.2556 นายวีระศาสตร์ นริศ บุญสนอง ผู้เชี่ยวชาญ สำนักงานกกต. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฝ้าติดตามการเลือกตั้งทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (นักรบไซเบอร์) เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะทำงานของศูนย์ฯได้รวบรวมประเด็นเนื้อหาและความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ทั้งในฝ่ายกลุ่มที่สนับสนุนพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย กลุ่มผู้สนับสนุนม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่มผู้สนับสนุนผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ในนามอิสระ ที่โพสต์ข้อความต่างๆ ผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค ที่มีแนวโน้มว่าจะเข้าข่ายการกระทำความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง                อาทิ ประเด็นที่ นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์รูปภาพรถเมล์ที่ถูกไฟไหม้และคนใส่เสื้อแดงยืนโบกธงชาติอยู่ ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว รวมถึงกระแสข่าวที่มีการเปิดพนันทายผลการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย โดยเท่าที่ติดตามพบว่าเป็นเพียงการเสนอข่าวผ่านทางสื่อมวลชนเท่านั้น ยังไม่พบว่ามีผู้ใดเปิดการพนันทายผลการเลือกตั้งผ่านทางโซเชียลเน็ตเวิร์คจริง                นายวีระศาสตร์ กล่าวต่อว่า จากการติดตามเห็นว่าช่วงนี้ผู้สมัครผู้ว่ากทม.มีการใช้สื่อทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค หาเสียงกันอย่างเข้มข้น รวมถึงมีการเสนอผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนหรือผลโพลล์ออกมาเป็นรายวัน จึงทำให้ช่องทางสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์ค ถูกหยิบยกขึ้นมาใช้เป็นช่องทางในการหาเสียงมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นเท่าที่ติดตามยังไม่มีกรณีใดที่มีแนวโน้มว่าจะขัดต่อกฎหมาย “ศิริโชค”ปัดใส่ร้าย“พงศพัศ”ผ่านเฟซบุ๊ก                ด้านนายศิริโชค กล่าวถึงกรณีที่ถูกนพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวหาโพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊กใส่ร้ายพล.ต.อ.พงศพัศว่า ตนได้ปรึกษากับนักกฎหมายหลายคนแล้วได้รับคำยืนยันว่าภาพดังกล่าวไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง ไม่ได้เข้าข่ายใส่ร้ายแต่อย่างใด และจะไม่ถอดภาพดังกล่าวออกจากเฟซบุ๊ก  อีกทั้งจะโพสต์ภาพในลักษณะเดียวกันเพิ่มเติมเข้าไปอีก เพราะภาพดังกล่าวเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง และไม่มีข้อความว่าใครเป็นคนเผาบ้านเผาเมือง แต่ละคนดูภาพแล้วมีมุมมองต่างกัน บางคนดูแล้วอาจรำลึกถึงเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมือง แต่ตนดูแล้วกลับคิดว่าคนที่อยู่ในภาพเป็นฮีโร่ไปช่วยคนออกจากกองเพลิง จึงเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบต่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ เพราะเชื่อว่าหาก กกต.ดูแล้วก็จะเห็นชัดว่าไม่มีข้อความใดที่ใส่ร้ายผู้สมัครจากพรรคอื่นเลย                ขณะเดียวกันเฟซบุ๊กนาม Oak Panthongtae Shinawatra ได้โพสต์รูปภาพที่เกี่ยวกับการโพสต์ในเฟซบุ๊กของนายศิริโชคพร้อมกับระบุว่าเป็นการใส่ร้ายทั้งสิ้นและตำนิการทำงานที่ผ่านมา   กกต.ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียน"ศิริโชค"                นายวีระ ยี่แพร ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีดังกล่าวเข้ามา ซึ่งการร้องเรียนก็สามารถกระทำได้ โดยผ่านกกต.กทม. เพื่อพิจารณาว่าจะรับร้องเรียนหรือไม่ หากรับก็จะทำการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนสรุปเป็นความคิดเห็นไปยัง กกต.กลางเพื่อทำการพิจารณาวินิจฉัยต่อไป                นายวีระ กล่าวต่อว่า หากพบข้อเท็จจริงว่าการโพสต์รูปภาพ หรือข้อความดังกล่าวนั้น เป็นการกลั่นแกล้งผู้สมัครใด และมิชอบด้วยอำนาจหน้าที่กกต.ก็มีอำนาจ หรือมอบหมายให้ กกต.ส่วนท้องถิ่น สั่งให้ยุติหรือระงับการกระทำนั้นได้ ตามมาตรา 29 ประกอบ มาตรา 57 ของพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นฯ เนื่องจากบุคคลทั้ง 2 อยู่ในฐานะสมาชิกพรรค และส.ส. ขบวนการทำลายป้ายหาเสียงออกอาละวาด                เมื่อเวลาประมาณ 15.30 นายประพัน คูณมี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เลือกตั้ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวช ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หมายเลข 11 (กลุ่มพลังกรุงเทพ) เข้าแจ้งความร้องเรียนต่อ ร.ต.ต.ทิวากร โปร่งเส็ง ร้อยเวรสอบสวน สน.บางซื่อ หลังเกิดเหตุทำลายป้ายหาเสียงบริเวณถนนพหลโยธิในช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. ของคืนที่ผ่านมา (6 กุมภาพันธ์)  โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้หนึ่งราย เป็นชายวัยรุ่นอายุ 23 ปี กกต.กทม. เตรียมถกปมผลสำรวจโพลล์ส่อชี้นำศุกร์นี้                พล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร เปิดเผย ภายหลังการประชุมกกต.กทม. ว่า ที่ประชุมยังได้หารือเกี่ยวกับการทำผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนของสำนักโพลล์ต่างๆ แต่ยังไม่ได้มีการหารือถึงรายละเอียด ข้อเท็จจริงต่างๆ แต่จะนำประเด็นดังกล่าวเข้าหารืออีกครั้งในวันที่ 8 ก.พ. เวลา 09.00 น. อีกครั้ง  ทั้งนี้กกต.กทม.ยังไม่มีแนวคิดที่จะเชิญสำนักโพลล์มาชี้แจงแต่ยังใด เพราะยังไม่ได้เป็นการเจาะโดยเฉพาะว่าเป็นสำนักโพลล์ใด กกต.ชี้ไม่มีอำนาจเรียกเตือนสำนักโพลล์                นายวีระ กล่าวว่า การทำและเผยแพร่ผลโพลล์ สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 50 แต่อยากให้ผู้ที่ดำเนินการระมัดระวังในการทำและเผยแพร่ด้วย ด้านนายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. กล่าวว่า ในส่วนของกกต.นั้นก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหากกกต.หยิบเรื่องดังกล่าวขึ้นพิจารณาเอง ก็ต้องหยิบในทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งและเชิญทุกสำนักโพลล์ เพราะหากเชิญมาไม่ครบ กกต.ก็อาจถูกกล่าวหาว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งทุกวันนี้โพลล์ออกมารายวัน  

Blog Archive