Tuesday, March 26, 2013

มาร์คอ้างรัฐหวังเลี่ยงตรวจสอบใช้เงินกู้ 2.2 ล้านล้าน

มาร์คอ้างรัฐหวังเลี่ยงตรวจสอบใช้เงินกู้ 2.2 ล้านล้าน
มาร์ค อ้างเจตนารัฐบาลต้องการ เลี่ยงการตรวจสอบ การใช้เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ยัน ฝ่ายค้าน ไม่ได้ต้องการขวางการพัฒนา ชี้ ยังพอมีเวลาถึง ก.ย.ขอดูสาระสำคัญ การยื่นศาลรธน.ก่อน วันที่ 26 มี.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง กรณีพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน ของรัฐบาลว่า ยืนยันว่า ถ้าจะทำภายใน 7 ปี ใช้เงิน 2 ล้านล้าน แต่ต้องใช้หนี้ระยะยาวไปอีก 50 ปี ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องออกกฎหมายเงินกู้ฉบับนี้ เพราะสามารถทำได้ โดยไม่ต้องออกกฎหมายเงินกู้ เนื่องจากรัฐบาล มีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงกระบวนการงบประมาณ เลี่ยงการใช้ระเบียบจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ ในการอภิปรายวันที่ 28-29 มี.ค.เราจะ ชี้ ให้เห็นถึงทางเลือก ที่มันมีอยู่และปัญหาอันตรายที่จะเกิดขึ้น ถ้าเดินไปในเส้นทางนี้ โดยประเด็น คือ 1.เป็นการวิเคราะห์ ให้เห็นถึงผลกระทบทางด้านการเงินการคลัง 2. ก็อาจจะมีการอภิปราย ที่เกี่ยวข้องกับตัวโครงการบ้าง และ 3. ก็จะเป็นการอภิปราย ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความโปร่งใส ที่จะเป็นปัญหา เพราะที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทย เคยประกาศชัดว่า จะไม่กู้เงิน แต่วันนี้ กลายเป็นแชมป์เงินกู้ไปแล้ว และจะเป็นการกู้ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ จึงน่าห่วง เรื่องการบริหารหนี้ เพราะเราไม่รู้ว่าในอนาคตอะไรจะเกิดขึ้น ก่อนเกิดวิกฤติใหญ่ๆ แต่ละครั้งในประเทศไทย หรือ ในโลก  ฉะนั้น สิ่งหนึ่งที่เป็นหลักของการบริหารจัดการที่ดีกว่า คือ ต้องมีการเผื่อ เพื่อป้องกันความเสี่ยงไว้ก่อน เมื่อถามถึงกรณีที่ ส.ว.เตรียมยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความว่า การออก พ.ร.บ. ฉบับนี้ อาจขัด ม.169 นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขั้นตอนการตรวจสอบถึงความชอบรัฐธรรมนูญนั้น พอเป็นพ.ร.บ.จะยื่นก็ต่อเมื่อ กฎหมายมันเสร็จจากสภาแล้ว เพราะว่า การที่จะดูว่า ขัดไม่ขัด ต้องไปดูร่างที่ออกจากสภาฯ ฉะนั้น จึงต้องฟังจากรัฐบาลก่อน เหมือนกับว่า คาดการณ์ว่า จะผ่านสภาในเดือน ก.ย. แต่ตนสันนิษฐานว่า จะผลักดันวาระที่ 1 สมัยนี้ แต่ว่า ถ้าไม่มีพูดถึงวิสามัญ หรือยืดสมัยประชุมหรืออะไร กว่าจะกลับเข้ามาที่สภาอีกครั้ง ก็จะเป็นเดือน ส.ค. แล้วก็ไปวุฒิสภาอีก ก็คงเดือน ก.ย.ต้องไปว่ากัน ตอนนั้น ซึ่งยืนวันว่า เราสนับสนุน แต่เราท้วงติงว่า คุณทำรถไฟความเร็วสูง เชื่อมโลกอย่างไร ถึงไปไม่ถึงหนองคาย ถึงไปไม่ถึงมาเลเซีย ทำไมถึงอยู่ดีๆ ทิ้งชาวอยุธยา ไม่ต่อรถไฟฟ้าไป ในเรื่องของ World Expo ตรงนี้ ชัดเจนว่า ฝ่ายค้านต้องการให้พัฒนาหรือไม่

ปชป.ไม่เสนอร่าง พรบ.เงินกู้ประกบ ปูดยัดไส้โยกงบเพียบ

ปชป.ไม่เสนอร่าง พรบ.เงินกู้ประกบ ปูดยัดไส้โยกงบเพียบ
มติ ปชป. ไม่ยื่นร่างกฎหมายประกบ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล ชี้บางโครงการใช้งบฯ สูงเกินจริง ปูดยัดไส้โยกงบเพียบ ...วันที่ 26 มีนาคม นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ส.ส.กทม. และทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์มีมติไม่ยื่นร่างกฎหมายประกบ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล เพราะพรรคไม่เห็นด้วยกับการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท และจากการพิจารณาโครงการบางโครงการใช้งบฯ สูงเกินจริง เช่น โครงการท่าเรือน้ำลึกปากบาราที่ใช้งบประมาณสูงกว่าหมื่นล้านบาท ทั้งที่ยังไม่ผ่านการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการก่อสร้างหลายเส้นทางที่ยังมีความซ้ำซ้อนกันในส่วนของถนนและระบบราง นอกจากนี้ยังไม่เห็นด้วยกับการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เพราะไม่ได้เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่กลับมีการใช้อ้างโครงการเพื่อสร้างเป็นระยะทางสั้นๆ ซึ่งไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนและการขนส่ง ไม่ตรงกับหลักการเหตุผลที่ระบุ เช่น สายอีสานจาก กทม.หยุดที่ จ.นครราชสีมา โดยไม่เชื่อมต่อไปหนองคายเข้าลาว หรือสายใต้จาก กทม.หยุดอยู่ที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบฯ ไม่เชื่อมต่อไปมาเลเซีย หรือสายเหนือที่สร้างจาก กทม.ไปเชียงใหม่ ก็ไม่เชื่อมต่อไปจีนตามแผนงานหลักเดิม อย่างไรก็ตาม พรรคเห็นด้วยกับระบบรถไฟรางคู่ และยังเห็นว่ามีการใช้เงินสูญเปล่าถึงกว่า 9 พันล้านบาท เนื่องจากต้องมีการวางระบบในการติดตามการเบิกจ่ายเงินใหม่ จากเดิมที่ในระบบงบประมาณปกติสามารถติดตามผ่านระบบของกรมบัญชีกลางได้ จึงเท่ากับว่าเป็นการสูญเสียเงินโดยใช่เหตุและจะทำให้ตรวจสอบยาก นอกจากนี้พรรคยังเป็นห่วงการโยกงบประมาณในแต่ละโครงการที่รัฐบาลระบุเป็น เอกสารประกอบ 200 หน้า แต่ไม่ได้ระบุอยู่ในบัญชีแนบท้ายร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ ทำให้ไม่มีผลผูกมัดตามกฎหมาย.

พท.จัดเต็ม ตั้งวอร์รูมรับมือ อภิปรายฯ เงินกู้ 2.2 ล้านล้าน

พท.จัดเต็ม ตั้งวอร์รูมรับมือ อภิปรายฯ เงินกู้ 2.2 ล้านล้าน
เพื่อไทย ตั้งวอร์รูม กลางสภาฯรับมือ อภิปรายเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ตั้ง “โภคิน พลกุล” คุมทีมสู้ฝ่ายค้าน เตรียมแจกเอกสาร สรุปร่างพ.ร.บ. แจก ส.ส. ให้ทำความเข้าใจ เพื่อช่วยอภิปรายในสภาฯ วันที่ 26 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 ในหัวข้อ “เพื่อไทย...เพื่ออนาคตประเทศไทย” โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง บรรยายหัวข้อการพัฒนาทิศทางของประเทศไทย แทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ติดภารกิจ ที่ทำเนียบรัฐบาลว่า ระหว่างการประชุมสภาฯวันที่ 28-29 มี.ค. ขอให้ส.ส.ช่วยชี้แจง ถึงการออก พ.ร.บ.ดังกล่าว ให้สาธารณชนรับทราบ เพราะคาดว่า จะมีประชาชนติดตามฟังจำนวนมาก โครงการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจะช่วยลดช่องว่าง คนรวยกับคนจน คนใกล้กับคนไกลให้ใกล้กันมากขึ้น เชื่อว่า ประชาชนจำนวนมาก ให้กำลังใจรัฐบาลเดินหน้าทำเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นการกู้เงินพัฒนาประเทศครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีใครทำ ขอให้ดูว่า ถ้าเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ผลักดันสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ป่านนี้ ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร แม้การออกกฎหมายนี้ จะใช้เวลานานในการชำระหนี้คืน แต่ทรัพย์สินที่ลงทุน ยังอยู่กับประเทศไปอีกยาวนาน ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในการประชุมสภาฯวันที่ 28-29 มี.ค. พรรคจะเปิดห้องประชุม 3301 ที่รัฐสภา ช่วยรัฐบาลชี้แจง ร่างพ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ต่อที่ประชุมสภาฯ ขณะนี้ได้เตรียมเอกสารสรุป ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ แจกให้ส.ส.เพื่อไทย ไปศึกษา และอภิปรายในการประชุมสภาฯ และจะขอให้ นายโภคิน พลกุล อดีตประธานรัฐสภา ช่วยนั่งที่ห้องดังกล่าวตลอด 2 วันนี้ เรื่องเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท บอกได้เลยว่า มีความสง่างามกว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ ที่กู้เงินมาทำโครงการไทยเข้มแข็ง เพราะรายละเอียดที่รัฐบาลประชาธิปัตย์ กู้เงินไปทำโครงการ ไทยเข้มแข็ง ไม่มีรายละเอียดชัดเจน เท่ากับรัฐบาลชุดนี้ ตั้งงบสร้างโรงพักก็ทำไม่ได้ โครงการต้นกล้าอาชีพ ก็ไม่ประสบความสำเร็จ รัฐบาลเราสง่างามกว่ามาก

Blog Archive