Friday, April 23, 2010

ศาลแพ่งชี้ถ้าจำเป็นก็สลายได้

ศาลแพ่งชี้ถ้าจำเป็นก็สลายได้



คมชัดลึก : "ศาลแพ่งเห็นว่า หากจำเลยทั้ง 2 จะสลาย หรือขอคืนพื้นที่ให้ทำได้เท่าที่จำเป็น แต่การจะสลาย ให้คำนึงถึงความเหมาะสม วิธีการให้ทำตามหลักสากล"






 อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง ชี้คำสั่งศาลแพ่งไม่เคยห้าม ศอฉ.สลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. แต่เพื่อเป็นการป้องกันการเสียชีวิตเหมือนวันที่ 10 เมษายน ให้สลายตามหลักสากล ถ้ารัฐบาลจำเป็นก็ขอคืนพื้นที่จาก นปช.ได้
 นายชาติชาย อัครวิบูลย์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เปิดเผยถึงกรณีที่มีผู้นำคำสั่งศาลแพ่งไปสรุปว่า ศาลแพ่งห้ามรัฐบาล โดยศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) สลายการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ราชประสงค์ว่า ไม่ทราบว่ามีเจตนาให้ข่าวผิดพลาดโดยเจตนาหรือไม่ ไม่ทราบได้
 คดีนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. เป็นโจทก์ฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยที่ 1 กรณีที่ประกาศตั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง เป็น ผอ.ศอฉ. เป็นจำเลยที่ 2 ต่อมามีการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 10 เมษายน จนมีผู้บาดเจ็บล้มตาย นายจตุพรระบุว่า นปช.ใช้สิทธิเรียกร้องโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่มีการสลายด้วยการใช้กำลังและอาวุธ จึงเกรงว่าจะถูกสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ ด้วยวิธีการรุนแรงเช่นเดียวกัน
 ดังนั้น จึงขอศาลแพ่งมีคำสั่งใน 2 ประเด็น คือ 1.ขอศาลแพ่งมีคำสั่งว่าการสลายการชุมนุมวันที่ 10 เมษายน เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบ และ 2.ห้ามสลายการชุมนุมที่เวทีราชประสงค์โดยเด็ดขาด
 เมื่อนายจตุพรยื่นขอไต่สวนฉุกเฉินเพราะอ้างว่าจะมีการใช้กำลัง ขอให้ศาลแพ่งห้ามสลายการชุมนุมโดยเด็ดขาด หรือถ้าจะสลายให้ใช้ทหารที่ผ่านการฝึกสลายการชุมนุมเป็นผู้สลายตามขั้นตอนตามหลักสากล
 ศาลแพ่งมีคำสั่งดังนี้ ส่วนแรก การชุมนุมของกลุ่ม นปช. เป็นการชุมนุมที่ไม่ชอบเหมือนกัน เพียงแต่ไม่ได้เขียนในคำสั่งให้ชัดเจน เมื่อเป็นเช่นนี้ ศาลก็จะมาดูว่า มีเหตุที่จะสั่งตามคำขอหรือไม่ เพราะการชุมนุมได้ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อเสรีภาพของประชาชนคนอื่น ย่อมมีความจำเป็นที่จำเลย ต้องขอคืนพื้นที่ ประเด็นนี้ ศาลแพ่งจึงเห็นว่าไม่มีเหตุผลที่จะห้ามสลายการชุมนุมโดยเด็ดขาด
 คำร้องที่ 2 การขอคุ้มครองชั่วคราวโดยขอให้ใช้ทหารที่ผ่านการฝึกเข้าสลายการชุมนุม ควรสั่งตามหรือไม่ ประเด็นมีว่า เรื่องมีเหตุหรือไม่ ศาลแพ่งเห็นว่า เนื่องจากการชุมนุมพื้นที่ราชประสงค์ และเคยเกิดเหตุที่มีการล้มตายเมื่อวันที่ 10 เมษายน เกรงว่าจำเลยทั้งสองอาจจะสลายการชุมนุมก่อให้เกิดการตาย และบาดเจ็บอย่างวันที่ 10 เมษายน
 ศาลแพ่งเขียนว่าเหตุเมื่อวันที่ 10 เมษายน ยังไม่ทราบแน่ชัดว่า ใครเป็นคนลงมือทำ แต่มีคนเจ็บและคนตาย เมื่อเป็นเช่นนี้ ศาลจึงให้การคุ้มครองข้อนี้ หมายความว่า ศาลแพ่งเห็นว่า หากจำเลยทั้ง สองจะสลาย หรือขอคืนพื้นที่ให้ทำได้เท่าที่จำเป็น แต่การจะสลายให้คำนึงถึงความเหมาะสม วิธีการให้ทำตามหลักสากล ไม่ได้หมายความว่าสากลที่ใช้วิธีปราบปรามขั้นสูงสุด หรือต่ำสุด แต่หมายถึงหลักกลางๆ ที่ทุกประเทศใช้แบบเดียวกัน
 โดยสรุป ถ้า ศอฉ.จะสลายการชุมนุมของกลุ่ม นปช. ให้คำนึงถึงขั้นตอน หากมีเหตุจำเป็นก็สลายการชุมนุมได้ แต่ต้องคำนึงถึงหลักสากล ไม่ใช่เรื่องห้ามสลายการชุมนุม สลายได้ต้องมีเหตุจำเป็นจริงๆ
สุทธิรักษ์ อุฒมนตรี








ข่าวที่เกี่ยวข้องศาลแพ่งสั่งห้ามอภิสิทธิ์-สุเทพใช้กำลังสลายม็อบ "ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์"ปฏิเสธกดดัน"อนุพงษ์" คนขลาดใช้ความรุนแรงคนกล้าต้องเจรจาไม้ตาย"อัยการศึก"ทหารเล็งใช้ลุยแดงปฏิบัติการ..ตำรวจแดงกักตัวทหารกันสลายม็อบ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

แม่น้ำ5สายไหลรวมเสื้อหลากสีบึ้มถล่ม!จุดไฟสงครามกลางเมือง

แม่น้ำ5สายไหลรวมเสื้อหลากสีบึ้มถล่ม!จุดไฟสงครามกลางเมือง



คมชัดลึก : ระเบิดเอ็ม 79 ที่ถล่มกลางวงคนเสื้อหลากสีตรงแยกศาลาแดง ซึ่งเป็นเขตชายแดนกั้นระหว่างคนเสื้อหลากสีกับคนเสื้อแดง ทำให้วิกฤติของประเทศยกระดับไปอีกขั้น






 สถานการณ์วันนี้กำลังจะพัฒนาไปเป็น "สงครามประชาชน" ที่มีคนเขียนบทเอาไว้ล่วงหน้า!!
 การวางเฉยของตำรวจและท่าทีที่ฝากความหวังไม่ได้ของทหาร โดยเฉพาะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ทำให้คนเริ่มสิ้นศรัทธาในกองทัพมากขึ้นเรื่อยๆ
 ถ้าสภาวการณ์ยังคงอึมครึม โดยที่ทหารไม่ตัดสินใจทำอะไรเลย ประเทศไทยอาจจะไม่ใช่สยามเมืองยิ้มอย่างที่เรารู้จักคุ้นเคยอีกต่อไป แต่จะกลายเป็น "รวันดา" แห่งที่สองที่คนในชาติเดียวกันลุกขึ้นมาฆ่ากันเอง
 ถ้าปล่อยให้สถานการณ์ไปไกลถึงขั้นนั้น การดึงสหประชาชาติส่งกำลังเข้ามารักษาสันติภาพ และนำไปสู่รัฐบาลแห่งชาติ หรือถึงขั้น "นิรโทษกรรม" ให้ใครบางคน ก็จะเดินไปตามสเตปของกุนซือฝ่ายตรงข้ามเป๊ะๆ
 นายทหารระดับสูงรายหนึ่ง กล่าวพลางถอนใจว่า การออกมาของคนเสื้อหลากสีทำให้สถานการณ์ซับซ้อนยุ่งยากขึ้น โดยเฉพาะคนที่เคลื่อนไหวตรงแยกศาลาแดงในช่วงกลางคืน
 "ฝ่ายตรงข้ามเขารอจังหวะ และต้องการให้สถานการณ์รุนแรงอยู่แล้ว การก่อเหตุเช่นนี้เป็นไปได้ทั้งมือที่ 1 ที่ต้องการความรุนแรงถึงขีดสุด และมือที่ 3 ที่กดดันให้ทหารเร่งปราบปราม"
 ภาวะเช่นนี้ทหารจึงทำอะไรไม่ได้มาก เพราะถ้าลุยเข้าไป ฝ่ายตรงข้ามก็พร้อมที่จะให้เกิดความสูญเสียร้ายแรงอยู่แล้ว
 ขณะที่บิ๊กทหารอีกราย มองกลับกันว่า ที่ทหารยังไม่ลุยเข้าไปสักที เพราะกลัวจะต้องรับผิดชอบ โดยนายทหารบางคนต้องการเกษียณอย่างมีความสุข ไม่มีคดีติดตัวเหมือนนายทหารรุ่นพี่
 เขาให้ข้อมูลด้วยว่า จุดที่ยิงเอ็ม 79 ไปยังคนเสื้อหลากสีมี 2 จุด คือ อาคารโรงพยาบาลจุฬาฯ ซึ่งยิงไปตกบนหลังคารถไฟฟ้าบีทีเอส อีกจุด คือ ในสวนลุมพินี ซึ่งเป็นไปได้ทั้งลานพระบรมรูป ร.6 และในสวนลุมพินี
 "ก่อนเกิดเหตุช่วงกลางวัน มีคนเห็นนายทหารในราชการคนหนึ่งไปป้วนเปี้ยนแถวตึกผู้ป่วย รพ.จุฬาฯ ก่อนที่ช่วงค่ำจะเกิดเหตุระเบิดขึ้น"
 เมื่อพิจารณาจากมุมมองของนายทหารระดับสูงทั้งสองท่าน แม้จะมองต่างกันในบางมุม แต่ก็ตรงกันในประเด็นความต้องการยกระดับสถานการณ์ความรุนแรงของคนบางกลุ่ม
 หลังจากแผนแรก คือ การใช้ศพของคนเสื้อแดงที่แยกคอกวัว และถนนดินสอ "จุดไม่ติด" อย่างที่คิด เนื่องจากมีคลิปวิดีโอที่ชัดเจนว่า วิถีกระสุนมาจากหลังแนวของคนเสื้อแดงเอง
 นั่นจึงนำมาสู่ "แผนสอง" ที่เหี้ยมเกรียมไม่ต่างจากแผนแรก แต่เปลี่ยนเป้ามาเป็นคนเสื้อหลากสีเพื่อเร่งเชื้อไฟแทน เพราะพลังของเสื้อหลากสีที่ใช้ยุทธวิธี "แยกกันเดิน-รวมกันตี" กับคนเสื้อเหลือง มีพลังอำนาจเข้มแข็งขึ้นทุกวัน
 หากจะเอกซเรย์เนื้อในความเป็นเสื้อหลากสีในวันนี้จะพบว่า มีจุดกำเนิดมาจาก "พลังเงียบ" ในสังคม โดยอินเทอร์เน็ต ในเว็บไซต์ "เฟซบุ๊ก" ที่ชักชวนออกมารวมตัวกันครั้งแรกที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไม่กี่ร้อยคน
 ก่อนจะ "จุดติด" เป็นพัน เป็นหมื่น และตั้งเป้าให้ได้เกิน 1 แสนคนที่ลานพระบรมรูปทรงม้าในวันที่ 23 เมษายนนี้
 ส่วนผู้ที่รวบรวมพลังที่กระจัดกระจายให้เป็นกลุ่มก้อนอย่างเป็นระบบ คือ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แกนนำเสื้อชมพูที่ต่อต้านการยุบสภา และพิทักษ์สถาบันที่จุฬาฯ และสวนลุมพินี มาก่อน
 แม้จะปฏิเสธว่า การเคลื่อนไหวของเสื้อชมพูไม่เกี่ยวข้องกับเสื้อเหลือง หรือพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แต่ นพ.ตุลย์ ก็เคยขึ้นเวทีเสื้อเหลืองมาก่อน
 การเคลื่อนไหวของนพ.ตุลย์ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกมองว่ามีเงาสีเหลืองทาบทออยู่เบื้องหลัง!
 ชัดเจนยิ่งขึ้นในวันที่เสื้อหลากสีเดินทางไปให้กำลังใจทหาร และนายกรัฐมนตรี ที่ราบ 11 ซึ่งมีแกนนำ และทนายเสื้อเหลืองอย่าง พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ อดีตประธานคณะที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย และ นายนิติธร ล้ำเหลือ ทนายพันธมิตรไปแจมด้วย
 ฉะนั้น ถ้าจะจำแนกไพร่พลของเสื้อหลากสีจริงๆ ก็จะพบว่า มี 2 กลุ่มหลัก คือ 1.พลังเงียบจริงๆ ซึ่งไม่ (เคย) มีสี แต่ไม่ชอบเสื้อแดง 2.เสื้อเหลืองที่เข้ามาสวมเสื้อชมพู และเสื้อหลากสีด้วย
 เมื่อแกนของเสื้อหลากสีถูกก่อร่างขึ้นอย่างแน่นหนา จึงมีแนวร่วมส่วนอื่นเข้ามาร่วมอย่างรวดเร็วทั้ง 1.ชุมชนต่างๆ รอบกรุงเทพฯ และ 2.คนทำมาหากินที่เดือดร้อนจากการชุมนุมของเสื้อแดง
 มวลชนส่วนใหญ่ของเสื้อหลากสีจึงมารวมตัวกันโดยธรรมชาติ แต่ก็มีแนวร่วมบางส่วนที่ยังคลุมเครือถึงที่มา คือ กลุ่มที่เข้ามาป่วนในตอนกลางคืน ซึ่งมีข่าวว่าเป็น "ม็อบจัดตั้ง" ของนักการเมือง และบางส่วนก็เป็น "คนมีสี" แฝงเข้ามา
 แต่ไม่ว่าจะมีที่มาจากไหน กลุ่มเสื้อหลากสีที่มาจากแม่น้ำหลายสายก็ได้สร้างแรงกดดันอย่างใหญ่หลวงต่อการดำรงอยู่คนเสื้อแดง และมีพลังมากพอที่จะยิงระเบิดเข้าไปสร้าง "จุดเปลี่ยน" เพื่อเร่งเชื้อไปสงครามกลางเมือง ซึ่งเป็นที่ถวิลหายิ่งใครคนนั้น 
ทีมข่าวความมั่นคง








ข่าวที่เกี่ยวข้องใกล้แล้ว...สงครามกลางเมือง"เอ็ม" ศิรประภา จีระพันธุ์
ถักนิตติ้งเติมเต็มหญิงรุ่นใหม่
หลากสีแปดริ้วโผล่บอกสุดทนเห็นไทยฆ่าไทยไม่ไหว"ปทีป"หนักใจคุมม็อบ2ฝ่ายปัดตอบตร.เกียร์ว่าง หลากสีนัดชุมนุมเสาร์-อาทิตย์นี้ร้องแดง-แม้วยุติ

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

คราบเลือด ความสูญเสีย...คนสีลม

คราบเลือด ความสูญเสีย...คนสีลม



คมชัดลึก : ถนนสีลมที่เคยคลาคล่ำไปด้วยรถราเช้านี้กลับมีหัวนอต ลูกแก้ว และเศษกระจกแตกเกลื่อนกลาดมาแทนที่ กองเลือดเป็นหย่อมๆ บ่งบอกให้รู้ว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง กระนั้นพนักงานทำความสะอาดของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ก็กุลีกุจอทำความสะอาดเก็บกวาดประจักษ์พยาน ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์การเมืองอีกหน้าที่ต้องบันทึกไว้ว่า คนไทยวันนี้เข่นฆ่ากันเอง ?!!






 ผู้คนและยวดยานที่สัญจรผ่านแยกศาลาแดงรับรู้ข่าวเศร้าแวะดูร่องรอยความเสียหายและสูญเสียจากเหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 22 เมษา 53 รอยสะเก็ดระเบิดเป็นรูฝังอยู่กับผนังตึกดูโดดเด่นไม่เข้ากันกับสถาปัตยกรรมบนถนนเศรษฐกิจ "ณัฐกานต์ ทองวัน" สาวออฟฟิศบนถนนสีลม วัย 28 ปี หยุดวางดอกกุหลาบแดง 1 ช่อลงกับพื้นที่ปรากฏรอยเลือดจางๆ ยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแด่ผู้จากไป
 ช่วงกลางวันกับเย็นหลังเลิกงานเธอกับเพื่อนๆ ในออฟฟิศร่วม 20 คนก็ออกมาร่วมรณรงค์ต่อต้านม็อบแดงที่แยกศาลาแดง พอสลายตัวก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ไม่คิดว่าหลังจากนั้นจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นถึงขนาดใช้อาวุธสงครามยิงใส่กัน
 "เมื่อคืนรู้ข่าวตกใจมาก คนไทยด้วยกันคุยกันด้วยเหตุด้วยผลก็น่าจะเข้าใจได้ ไม่น่าใช้กำลังฆ่ากันเองเลย"
 ณัฐกานต์ ยอมรับว่า รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นพี่น้องคนไทยบาดเจ็บล้มตาย จึงอยากให้รัฐบาลออกมาจัดการปัญหาอย่างเด็ดขาด อย่าปล่อยให้มีคนบาดเจ็บล้มตายไปมากกว่านี้เลย
 "เจริญ คล้ายแก้ว" เจ้าของแผงขายซีดีบนถนนสีลม วัย 32 ปี อยู่ในเหตุการณ์คืนสยองนั้นด้วย รับรู้และได้เห็นการยั่วยุของคนทั้ง 2 ฝ่าย เข้าใจว่าต่างฝ่ายต่างมีจุดประสงค์ตรงข้ามกัน เมื่อสถานการณ์ตึงเครียดประกอบกับอากาศร้อนและแรงยั่วยุ สุดท้ายก็มีการลงไม้ลงมือกัน แต่การใช้อาวุธสงครามยิงใส่นี่มันมากเกินไป
 "เสียใจที่คนไทยมาทำร้ายกันเอง เราคนไทยด้วยกัน คุยภาษาเดียวกันตกลงกันได้ อย่าให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดทำให้ใครเดือดร้อน คนสีลมไม่เคยทำให้คนเสื้อแดงเดือดร้อน แล้ววันนี้ทำไมคนเสื้อแดงจึงจะมาทำให้พวกเราเดือดร้อนด้วย"
 ขณะที่ "สมบูรณ์" ผู้ประกอบการร้านค้าย่านสีลมเฝ้ามองสถานการณ์ความขัดแย้งที่แยกศาลาแดงด้วยความไม่สบายใจ ยิ่งมีคนบาดเจ็บล้มตายลงเรื่อยๆ แม้แต่ชาวต่างชาติก็ยังถูกลูกหลงบาดเจ็บ ทำให้ภาพลักษณ์เมืองไทยเสียหายไปหมดในสายตาชาวต่างชาติ
 "เชื่อว่านักท่องเที่ยวคงหวาดกลัวสีลมไปอีกนาน ไม่รู้จะมีคนตกงานอีกกี่คน ถ้ายังปล่อยให้สถานการณ์เป็นแบบนี้ต่อไป" สมบูรณ์ พ้อพลางส่ายหัว
 ด้านหนุ่มพนักงานโอบองแปงรายหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์และประตูกระจกของร้านแตกเสียหาย เล่าว่า ตอนเกิดเหตุเขากำลังให้บริการลูกค้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าขาจรและกลุ่มผู้ชุมนุมที่แวะมาซื้อน้ำและกินขนม กระทั่งเวลา 2 ทุ่มได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 3 ครั้งบริเวณสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ศาลาแดง จึงรีบไปปิดหน้าร้านและบอกให้ลูกค้าออกจากร้านให้หมด
 ระหว่างที่ลูกค้าเริ่มทยอยออกจากร้าน และไปยืนออกันริมทางเท้าหน้าร้าน บางคนส่งเสียงเชียร์ไปกับกลุ่มผู้ชุมนุมสีลม โดยผู้หญิงยืนอยู่บนฟุตบาท ส่วนผู้ชายยืนอยู่บนผิวถนน พนักงานหนุ่มหันหลังให้ผู้ชุมนุมก้มหน้าเก็บข้าวของในร้านเท่านั้น ก็เกิดระเบิดดังกึกก้องหน้าร้านเสียงดังสนั่นหวั่นไหว พอหันไปก็เห็นผู้หญิงและผู้ชายที่เคยยืนอยู่บริเวณนั้นกระเด็นกระดอนไปคนละทิศละทาง เขารีบก้มหมอบลงกับพื้น แต่สายตาก็ยังมองเห็นเหตุการณ์ต่อไปเป็นลำดับ
 "ผมเห็นคนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บมาช่วยคนเจ็บ ลากตัวขึ้นไปบนฟุตบาท ผมเห็นคนหนึ่งบาดเจ็บที่ศีรษะกะโหลกฉีก ตอนนั้นมันโกลาหลวุ่นวายมาก แล้วก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้านายให้รีบออกจากร้านให้เร็วที่สุด ผมเลยรีบออกทางด้านหลังร้าน มารู้ข่าวอีกทีไม่นานว่าคนร้ายยิงระเบิดตกเข้ามาในร้าน แต่โชคดีระเบิดไม่ทำงาน"
 แม้จะเกิดเหตุร้ายขึ้น แต่วันนี้กลุ่มคนสีลมก็ยังรวมตัวชุมนุมเหมือนเคย มีการแจกผ้าพันคอระบุข้อความ "ไทยนี้รักสงบ" อีกทั้งประสาน กทม.ให้ดับไฟถนนสีลมบางส่วน ป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีใช้อาวุธยิงเข้าไปในถนนสีลม ส่วนบริษัทห้างร้านตลอดถนนสีลมวันนี้ได้ปล่อยพนักงานกลับบ้านเร็วกว่าปกติ








ข่าวที่เกี่ยวข้องใกล้แล้ว...สงครามกลางเมืองพิสูจน์ใครยิงเอ็ม79ด้วยหลักฐานไม่มาร์คกั๊กเจรจาแดงไม่เลิกแรงไม่คุย
ในหลวง-ราชินีทรงห่วงเหยื่อบึ้มสีลมรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์"ปทีป"หนักใจคุมม็อบ2ฝ่ายปัดตอบตร.เกียร์ว่าง

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

แดงยอมเจรจารบ.เงื่อนไข30วันยุบสภา

แดงยอมเจรจารบ.เงื่อนไข30วันยุบสภา



คมชัดลึก : "ไข่มุกดำ"วีระ มุสิกพงษ์แจง 3 ข้อแดงทั้งแผ่นดิน ยอมเปิดเจรจารัฐบาลตั้งเงือนไขยุบสภา 30 วันดีเดย์วันนี้ "สมชาย"ชี้6เดือนยุบสภาน่าจะคุยกันได้ กรมสุขภาพจิตชี้การเมืองทำคนมีอารมณ์โกรธแค้น






เมื่อเวลา 18.00 น.ที่เวทีราชประสงค์นายวีระ มุสิกพงษ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ( นปช.) ได้ขึ้นเวทีอ่านประกาศข้อเสนอของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.แดงทั้งแผ่นดิน)เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียแก่ประชาชนเพิ่มเติม
1 .หลังจากเหตุการณ์ 10 เม.ย. 2553 นปช.ซึ่งต่อสู้ทางการเมืองดด้วยสันติวิธีต้องผิดหวังยิ่งขึ้นเมื่อมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอาวุธของบุคคลไม่ทราบฝ่ายขึ้นอีกในวันที่ 22 เม.ย. อีกทั้งยังไม่มีหลักประกันอีกว่า จะไม่มีเหตุการณ์สลดใจขึ้นอีกในอนาคต
2 .ด้วยความตระหนักในวิธีการสันติ อหิงสา และเพื่อป้องกันมิให้มีความสูญเสียขึ้นอีกไม่ว่าฝ่ายใด นปช.จึงยินดีเปิดการเจรจากับรัฐบาลภายใต้เงื่อนไขใหม่
3 .เงื่อนไข 1 .รัฐฐาลยุติการคุกคามทุกรูปแบบ
2 .มีกรรมการอิสระเป็นกลางสอบสวนเหตุการณ์ 10 เมษายน และ 22 เมษายนโดยรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบ
3 .นปช.ยินดียืดเวลาสำหรับการยุบสภาจากเดิมไปเป็นยุบสภาภายใน 30 วันเพื่อรัฐบาลจะได้ตระเตรียมการเท่าที่จำเป็น
 ขณะที่บรรยากาศบริเวณแยกศาลาแดง กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงปราศัยสลับกับการเปิดเพลงเพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมคลายเครียด ขณะที่ฝั่งสีลมบริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี ยังคงมีกลุ่มคนสีลมออกมายืนโบกธงชาติ พร้อมทั้งตะโกนด่าทอและโห่ไล่คนปราศัยบนเวทีคนเสื้อแดง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลอย่างเข้มงวด
 ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถควบคุมผู้ต้องขังจำนวน 5 คัน มาจอดปิดกั้นบริเวณแยกศาลาแดง เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันเหมือนเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งการทำเช่นนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะสามารถลดการเผชิญหน้าได้ไม่มากก็น้อย ส่วนการจราจรยังคงดำเนินไปอย่างปกติ รถยนต์สามารถเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ซึ่งสภาพโดยรวมยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงหรือมีวี่แววว่าจะมีการปะทะกันเกิดขึ้น
"สมชาย"ชี้6เดือนยุบสภาน่าจะคุยกันได้ 
 เมื่อเวลา 16.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่พรรคเพื่อไทย ถึงเหตุระเบิดที่สีลม ช่วงคืนวันที่ 21 เมษายนว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งถ้าใครไม่โดนไม่รู้และใครที่เป็นผู้ทำก็ถือว่าใจดำมาก ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลต้องหาตัวคนทำให้ได้ เพราะเบื้องต้นทราบว่ามีหลักฐานบ้างแล้ว แต่ทางตำรวจคาดว่าเป็นการยิงมาจากตึกของโรงพยาบาลจุฬาฯ  ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีระบุว่าเป็นการยิงมาจากบริเวณลานพระรูป ร.6 ซึ่งเมื่อเหตุการณ์มาถึงขั้นนี้ ก็ยังไม่ถือว่าเลยที่ทุกฝ่ายจะหันมาเจรจากัน หากมีความจริงใจ ซึ่งการเจรจายังถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ส่วนเรื่องระยะเวลาการยุบสภานั้น ก็สามารถคุยกันได้จะเหลือเท่าไรทั้งรัฐบาลและแกนนำคนเสื้อแดง ก็ต้องไปคุยกันว่าเหลือสัก 6 เดือน จะพอดีสำหรับทั้งสองฝ่ายหรือไม่ หากทั้งสองฝ่ายยังตั้งกำแพงอยู่ที่จุดเดิม คือ รัฐบาลบอกว่า 9 เดือน ส่วนคนเสื้อแดงยังอยู่ที่ 15 วัน ก็คงต้องไปหาคนที่สามารถทำลายกำแพงได้มาเป็นคนกลางในการเจรจา
กรมสุขภาพจิตชี้การเมืองทำคนมีอารมณ์โกรธแค้น
 นพ.ชาตรี บานชื่น  อธิบดีกรมสุขภาพจิต  เปิดเผยว่า จากการสำรวจอารมณ์ทางการเมืองของประชาชนไทย รอบที่ 3 ระหว่างวันที่ 20-22 เม.ย. ในทุกภาคของประเทศไทย พบว่า ส่วนใหญ่มีอารมณ์ทางการเมืองอยู่ในระดับปกติ ร้อยละ 39.44 ส่วนอารมณ์ทางการเมืองระดับรุนแรงพบร้อยละ 27.84 ซึ่งใกล้เคียงกับการสำรวจรอบแรกร้อยละ 29.89 แบ่งเป็นเพศชายร้อยละ 31.33 และเพศหญิงร้อยละ 25.73  อย่างไรก็ตามเมื่อแยกเป็นภูมิภาคพบตัวเลขที่น่าสนใจ  ว่าประชาชนในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอารมณ์ทางการเมืองอยู่ในระดับรุนแรงมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 39.40 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการสำรวจรอบก่อนหน้านั้นพบเพียงร้อยละ 19.87 เช่นเดียวกับประชาชนในเขตกรุงเทพฯ ที่มีการเพิ่มขึ้นของอารมณ์รุนแรงจากเดิมร้อยละ 24.24 เป็นร้อยละ 34  และในภาคเหนือพบเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 22.49 เพิ่มเป็นร้อยละ 24.44 นอกจากนี้ยังพบว่าเพศชายที่ติดตามข่าวการเมืองทุกวันมีอารมณ์ทางการเมืองอยู่ในระดับรุนแรงเพิ่มจากเดิมร้อยละ 33.45 เป็นร้อยละ 42.21 ส่วนเพศหญิงเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30.43 เป็นร้อยละ 37.41   ขณะที่คำถามถึงสถานการณ์การเมืองพบว่า ประชาชนภาคใต้ ตอบคำถามว่า เบื่อหน่ายไม่อยากรับรู้ สูงสุดกว่าประชาชนภาคอื่น คิดเป็นร้อยละ68  เฉยๆไม่รู้สึกอะไรร้อยละ 47 และข่าวการเมืองไม่มีผลกระทบต่อครอบครัวร้อยละ 88   
 “เราเป็นห่วงมาก เพราะแนวโน้มอารมณ์ทางการเมืองที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในบางเขต เช่น คนกทม.จะไปเร้าสมองส่วนอารมณ์มากกว่าเหตุผล ทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว ถ้ามีแนวโน้มสูงขึ้นในขณะที่การเมืองยังมีฝักฝ่ายแบบนี้เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง  ซึ่งเรากำลังมองข้ามไปถึงความขัดแย้งในสังคมที่จะเพิ่มมากขึ้น  อย่างไรก็ตามจากตัวเลขที่พบคนภาคอีสานและกทม.มีอารมณ์ทางการเมืองสูงขึ้น อาจเกี่ยวข้องกับสถานที่ชุมนุมและมีบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมชุมนุม เช่น มีญาติมาชุมนุม  ซึ่งกรมสุขภาพจะเฝ้าติดตามและซับน้ำตาคนไทยต่อไป โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะที่ถนนสีลมเมื่อคืนที่ผ่านมา” อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว  
 พญ.อัมพร  เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสุขภาพจิต  กล่าวถึงการเข้าเยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การเมืองว่า   ผู้ที่มีความรุนแรงของอารมณ์ จะง่ายต่อการถูกเร้าซึ่งขึ้นอยู่ความรุนแรง และความสูญเสียที่ได้รับ อย่างไรก็ตามการจากที่ทีมงานของกรมสุขาพจิตเข้าไปเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 มี.ค.เป็นต้นมา พบสิ่งที่น่าสังเกตว่า จากประสบการณ์ของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติภัยจะพบว่า มีความกลัว ความเศร้า และวิตกกังวล แต่ครั้งนี้กลับพบว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบมีอุณหภูมิใจจากเดิมไปสู่ความโกรธรุนแรงพุ่งพล่าน ผู้ได้รับบาดเจ็บบางคนต้องการกลับไปร่วมชุมนุมอีก ซึ่งสังคมทุกฝ่ายต้องช่วยกันลดการถูกเร้าหรือไปร่วมชุมนุม  นอกจากนี้ผู้บาดเจ็บบางรายมีความกังวลต่ออนาคตของตนเองซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ มีความรู้สึกท้อแท้เสียใจ  มี 1 รายที่มีอาการซึมเศร้า และไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 จะมีบาดแผลทางจิตใจรุนแรง หากไม่ดูแล 1 เดือนต่อจากนี้อาจมีภาวะฝันร้ายนอนไม่หลับ บางรายมีอาการหวาดระแวงรู้สึกไม่ปลอดภัย จนเกิดภาวะสร้างสังคมสมมติจนเกิดความเหนี่ยวแน่นกับผู้ที่เกิดเหตุการณ์ แต่เป็นภาวะหนึ่งไม่ใช่โรค เมื่อปัญหาคลี่คลายภาวะนี้จะหายไปเอง
 นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวว่า อารมณ์รุนแรงอย่างต่อเนื่องจะมีผลทำให้เกิดอารมณ์โกรธ ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของตนเองและบุคคลอื่นเทียบเท่ากับความเครียดรุนแรง  ซึ่งอารมณ์ทางการเมืองที่รุนแรงจะกระทบต่อบุคคลได้ง่าย ยิ่งเข้าไปในที่ชุมนุมจะแสดงออกอย่างรุนแรง ดังนั้นผู้ที่รู้สึกว่าเกิดอารมณ์ทางการเมืองรุนแรงเทียบเท่ากับการมีความเครียดระดับสูง ต้องลดการรับรู้ข่าวสารด้านเดียวอย่างต่อเนื่องยาวนาน ควรรับรู้ข่าวสารสองด้านและไม่ต่อเนื่องยาวนาน  รู้จักสงบอารมณ์ของตัวเองกลับมาใช้ชีวิตปกติ   ซึ่งบุคคลรอบข้างที่ยังไม่มีอารมณ์รุนแรงต้องช่วยกันรับฟัง หรือสามารถโทรเข้ามาปรึกษาสายด่วนกรมสุขภาพจิต หมายเลข 1323 
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องหลากสีนัดชุมนุมเสาร์-อาทิตย์นี้ร้องแดง-แม้วยุติ"ปฐมพงษ์"เชื่อมือยิงเอ็ม79ถล่มสีลมมีมากกว่าหนึ่ง ปลัดกห.แนะอภิสิทธิ์อย่ายุบสภาเชื่อไม่ใช่ทางออกหมอพรทิพย์บุกนครบาลพบสารระเบิดรถเมธีสุเมธยกย่อง"ในหลวง"เป็นต้นแบบความอดทน

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เพื่อไทยเชิญทูต แจงเหตุสลายม็อบ 10เม.ย.

เพื่อไทยเชิญทูต แจงเหตุสลายม็อบ 10เม.ย.

พรรคเพื่อไทย เชิญทูต 29 ประเทศ​ ชี้แจงเหตุการณ์  10 เม.ย. ด้าน สมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ยืนยัน ยังไม่เลยจุดที่เสื้อแดง - รัฐบาล จะเปิดการเจรจา พร้อมเฟ้นหาคนกลางรับหน้าเสื่อ ... เมื่อวันที่ 23 เม.ย.เวลา 15.30 น.ที่พรรคเพื่อไทย ได้มีเอกอัครราชทูต และตัวแทนทูต 29 ประเทศประจำประเทศไทย เข้าพบคณะผู้บริหารพรรค เพื่อเข้าฟังการชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทย ประกอบด้วย อาร์เจนตินา ชิลี ออสเตรเลีย ออสเตรีย เบลเยี่ยม บรูไน กัมพูชา สิงคโปร์ จีน สาธาณรัฐเชค เดนมาร์ค เยอรมนี กรีซ ฮังการี อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น ลักเซมเบอร์ก เนเธอแลนด์ นอร์เวย์ ไนจีเรีย โปแลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ อังกฤษ อเมริกา European Commission และแอฟริกาใต้ ทั้งนี้ สำหรับเอกอัครราชทูตที่เดินทางมาด้วยตนเองมี 2 ประเทศคือ อาร์เจนตินาและเดนมาร์ค นอกนั้นส่วนใหญ่เป็นผู้ช่วยทูตฝ่ายการเมือง โดยบริเวณหน้าห้องประชุมชั้น 12 ทางพรรคเพื่อไทย ได้จัดนิทรรศการรูปภาพผู้เสียชีวิตมาติดบนบอร์ดความสูงประมาณ 2 เมตร จำนวน 3 บอร์ด โดยมีข้อความระบุว่า “troops using war weapons to kill protesters” “protesters shot at with war weapons” พร้อมได้แจกเอกสารประกอบการอธิบายโดยสรุปเหตุการณ์ลำดับตั้งแต่การรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 จนถึงวันที่ 10 เม.ย.2553 และแจก VCD จำนวน 3 แผ่น ประกอบด้วย “Truth 10th who is the real killer” “red victims 10/4/10” “10 April 2010 Bangkok incident” ให้แก่ผู้แทนจากสถานทูตต่างด้วย ในส่วนคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ประกอบ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรค นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรค นายคณวัฒน์ วศินสังวรณ์ รองหัวหน้าพรรค และนายพิทยา พุกกะมาน คณะทำงานฝ่ายต่างประเทศพรรคเพื่อไทยได้นั่งบนเวทีด้านหน้าห้องประชุมทำหน้าที่บรรยาย โดยเริ่มต้นให้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.กทม. เปิด VCD “Truth 10th who is the real killer” ที่มีเสียงบรรยายเป็นภาษาไทยและมีคำบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ เนื้อหาเป็นการอธิบายเหตุการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดงโดยเฉพาะการสลายชุมนุมเมื่อวันที่ 10 เม.ย. โดยชี้ให้เห็นว่าผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงถูกสลายการชุมนุมโดยทหารทำให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บ และชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลใช้สื่อของรัฐเสนอข่าวเพียงด้านเดียวว่าคนเสื้อแดงเป็นผู้กระทำและกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้าย หลังจากพรรคเพื่อไทยชี้แจงเสร็จ ได้เชิญผู้แทนสถานทูตร่วมเดินทางไปยังสถานที่ชุมนุมยังแยกราชประสงค์และแยกศาลาแดง ที่เกิดเหตุปะทะระหว่างกลุ่มคนเสื้อหลากสีและคนเสื้อแดงด้วย ด้าน นายคณวัฒน์ วศินสังวรณ์ รองหัวหน้าพรรค กล่าวภายหลังชี้แจงคณะทูตประเทศต่างๆว่า หลังจากได้มีการชี้แจงทั้งหมดแล้ว ก่อนเข้าสู่การซักถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ปรากฎว่านายพุทธา จันทรสมบูรณ์ อายุ 21 ปี ลูกชายของนายพินิจ จันทรสมบูรณ์ อดีตส.ส.กาญจนบุรี ที่เป็นเหยื่อได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์10 เม.ย. ได้เดินทางเข้ารับฟังพร้อมกับขอแสดงความเห็นว่าได้ถูกทหารทำร้ายร่างกาย ถูกกระทืบและยิงกระสุนยางจำนวนรวม 11 นัด โดยระบุว่ามีทหารเป็นผู้สั่งการให้ยิงสลายประชาชน โดยเอกอัครราชทูตอาเจนตินา ได้แสดงความเสียใจและเห็นใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะประเทศ เคยเกิดความวุ่นวาย มีรัฐบาลทหาร ใช้ความรุนแรง จึงไม่อยากเห็นรัฐบาลใช้กำลัง นอกจากนี้ยังตัวแทนบางประเทศถามว่า ถ้าต้องการกำหนดระยะเวลายุบสภา พรรคเพื่อไทยมีท่าทีอย่างไร ซึ่งก็ได้ชี้แจงไปว่าสถานการณ์การเมือง เกรงว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้นอีก หรืออาจสลายการชุมนุม ดังนั้นหนทางเดียวหยุดปัญหาได้ ต้องยุบสภาหรือลาออก แล้วตั้งรัฐบาลใหม่ต้องอยู่ชั่วคราว เพื่อยุบสภาและเลือกตั้งใหม่เท่านั้น ด้าน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุระเบิดที่สีลม ช่วงคืนวันที่ 21เมษายน ว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้า เสียใจที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งถ้าใครไม่โดนไม่รู้และใครที่เป็นผู้ทำก็ถือว่าใจดำมาก เป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ เป็นเรื่องที่เลวร้ายมากซึ่งเบื้องต้นทราบว่ามีหลักฐานบ้างแล้ว แต่ทางตำรวจ คาดว่าเป็นการยิงมาจากตึกของโรงพยาบาลจุฬาฯ ส่วน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีระบุว่าเป็นการยิงมาจากบริเวณลานพระรูป ร. 6 ดังนั้นเรื่องนี้รัฐบาล ตำรวจจะต้องเร่งหาตัวคนทำให้ได้         ส่วนสถานการณ์ปัจจุบัน ถือว่าเลยแนวทางการเจรจาหาทางออกแล้วหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า เหตุการณ์มาถึงขั้นนี้ ก็ยังไม่ถือว่าเลย ที่ทุกฝ่ายจะหันมาเจรจากัน หากมีความจริงใจ ซึ่งการเจรจายังถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ส่วนเรื่องระยะเวลาการยุบสภานั้น ก็สามารถคุยกันได้จะเหลือเท่าไรทั้งรัฐบาลและแกนนำคนเสื้อแดง ก็ต้องไปคุยกันว่าเหลือสัก 6 เดือน จะพอดีสำหรับทั้งสองฝ่ายหรือไม่หากทั้งสองฝ่ายยังตั้งกำแพงอยู่ที่จุดเดิม คือ รัฐบาลบอกว่า 9 เดือน ส่วนคนเสื้อแดงยังอยู่ที่ 15 วัน ก็คงต้องไปหาคนที่สามารถทำลายกำแพงได้มาเป็นคนกลางในการเจรจา


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ชุมนุมหลากสี ต้านแดง จี้แม้วหยุดป่วน

ชุมนุมหลากสี ต้านแดง จี้แม้วหยุดป่วน

กลุ่มคนเสื้อหลากสีจำนวนมาก รวมตัวกันที่ลานพระราชวังดุสิต รณรงค์ให้หยุดใช้ความรุนแรง เรียกร้องทักษิณหยุดปลุกปั่นให้คนไทยเกิดความแตกแยก พร้อมเรียกร้องให้แกนนำ นปช.ทุกคนยุติการชุมนุม....เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มคนเสื้อหลากสีจำนวนมากโดยมีทั้ง เด็ก เยาวชน และนักศึกษา คนทำงาน และผู้สูงอายุ พร้อมธงชาติไทย ธงตราสัญลักษณ์ และพระบรมฉายาลักษณ์ ได้เดินทางไปรวมตัวกันที่ลานพระราชวังดุสิตกันเป็นจำนวนมากจนเต็มพื้นที่ ไปจนถึงแยกกระทรวงศึกษาธิการ จนต้องปิดการจราจร 4 แยกใหญ่ เพื่อร่วมกันรณรงค์ให้หยุดใช้ความรุนแรง และการใช้อาวุธ นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หยุดการกระทำทุกอย่างที่เป็นการปลุกปั่นให้คนไทยเกิดความแตกแยก พร้อมเรียกร้องให้แกนนำ นปช.ทุกคนยุติการชุมนุมของคนเสื้อแดงที่บริเวณแยกราชประสงค์ หลังจากนั้นกลุ่มคนเสื้อหลากสีได้ร่วมกันร้องเพลงชาติในเวลา 18.00 น. ด้าน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานกลุ่มประชาชนพิทักษ์ชาติ หรือกลุ่มคนเสื้อหลากสี ประกาศจุดยืนว่า เจตนารมณ์ของกลุ่มคนเสื้อหลากสี คือ ขอให้รัฐบาลและทหารใช้อำนาจทางกฎหมายอย่างเต็มที่ และใช้มาตรการปิดล้อมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงทั้ง 4 ด้านที่บริเวณแยกราชประสงค์ เพื่อไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงเข้าไปชุมนุมเพิ่มเติม โดยกลุ่มคนเสื้อหลากสีจะมีการรวมตัวกันทุกวัน จนกว่ากลุ่มคนเสื้อแดงจะยุติการชุมนุม นอกจากนี้กลุ่มคนเสื้อหลากสียังประกาศบอยคอตไม่ซื้อสินค้าที่เป็นของ กลุ่ม นปช. ซึ่งถือเป็นมาตรการการลงโทษทางสังคม โดยจะไม่ซื้อสินค้าทุกชนิดที่มีการสนับสนุนของกลุ่มคนเสื้อแดง รวมทั้งจะไม่ใช้บริการรถแท็กซี่ และรถจักรยานยนต์รับจ้างที่มีการติดธงแดง พร้อมทั้งจะไม่เลือกนักการเมืองที่ไม่สนับสนุนระบอบประชาธิปไตย ให้เข้ามาบริหารประเทศอีก อย่างไรก็ตามกลุ่มคนเสื้อหลากสีได้ยุติการชุมนุมในเวลา 19.30 น. จากนั้นได้เก็บกวาดสถานที่ และรื้อเวทีการชุมนุมจนเรียบร้อย.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

หลากสีแปดริ้วโผล่บอกสุดทนเห็นไทยฆ่าไทยไม่ไหว

หลากสีแปดริ้วโผล่บอกสุดทนเห็นไทยฆ่าไทยไม่ไหว



คมชัดลึก : เสื้อหลากสีแปดริ้วเริ่มขยับ โผล่ชุมนุมเรียกร้องหาความสงบให้เกิดขึ้นในชาติ ริมฝั่งลำน้ำบางปะกง หลังทนดู คนไทยฆ่าไทย ต่อไปไม่ไหวอีกแล้ว เผยเตรียมออกมาจับกลุ่มชุมนุมเคลื่อนไหวทุกวัน หลังเลิกงาน หากเหตุการณ์ยังมีรุนแรงไม่หยุด กลุ่มคนเสื้อหลากสีเมืองหัวหิน รวมตัวต่อต้านการยุบสภาและการใช้ความรุนแรง พร้อมเดินขบวนไปรอบเมือง ขณะที่แกนนำระบุพร้อมเดินทางเข้ากรุงเทพฯ






 วันที่ 23 เม.ย.53 เวลา 16.30 น. ที่บริเวณสวนมรุพงษ์ ริมฝั่งลำน้ำบางปะกง ด้านหน้าโรงพยาบาลเมืองฉะเชิงเทรา ได้มีกลุ่มมวลชน คนเสื้อหลากสี จำนวนกว่า 150 คน ซึ่งประกอบไปด้วย แพทย์ พยาบาล ครูอาจารย์ และนักเรียน ได้พากันออกมารวมตัวชุมนุมโบกสะบัดธงชาติ พร้อมชูภาพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  โดยได้ร่วมกันร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงปลุกใจที่มีเนื้อหาในการสร้างความสามัคคี ให้แก่คนไทยรักชาติ เพื่อต้องการเรียกร้องให้เกิดความสามัคคีกลับคืนมา
 ท.พ.ญ. ชลธิชา อารมย์เสรี ทันตแพทย์ ผู้ชำนาญการพิเศษ รพ.เมืองฉะเชิงเทรา กล่าวว่า การออกมารวมตัวชุมนุมเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ไม่ได้ออกมารวมตัวต่อต้าน หรือสนับสนุนใคร แต่ออกมาเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และต้องการเรียกร้องความสามัคคีให้เกิดขึ้นภายในชาติโดยเร็ว หลังจากที่รู้สึกเศร้าใจ ที่เห็นคนไทยออกมาทำร้าย เข่นฆ่ากันเอง จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อย่างต่อเนื่อง และไม่สามารถที่จะทนดูได้ อีกต่อไป
 จึงต้องการออกมาแสดงออก ในฐานะที่เป็นบุคลากร ทางด้านการแพทย์ และสาธารณสุข ซึ่งมีส่วนต้องดูแลเกี่ยวกับผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตโดยตรง จึงต้องการให้ เหตุการณ์ความวุ่นวายต่างๆ ที่เกิดขึ้นสงบลงโดยเร็ว ซึ่งหากสถานการณ์ยังเกิดเหตุความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางกลุ่มก็จะออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมอย่างนี้ทุกวัน หลังเวลาเลิกงาน ประมาณ 16.30-18.00 น. และหากมีมวลชนที่ไม่เห็นด้วยกับกลุ่มที่ก่อเหตุการณ์ร้ายแรงในกรุงเทพฯ ออกมาเคลื่อนไหวเพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น ต่อไปก็อาจจะจัดตั้งเป็นเวทีชุมนุมขึ้นมาอย่างถาวร จนกว่าเหตุการณ์จะสงบลงในที่สุด
 ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บรรยากาศการชุมนุมนั้นเป็นไปอย่างสงบ โดยที่ผู้ชุมนุมได้ชูป้ายกระดาษ มีข้อความ หยุดทำลายสถาบัน ยุติความรุนแรง และเรียกร้องความสามัคคีให้เกิดขึ้นในชาติ รวมถึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีอดทน อย่ายุบสภา
กลุ่มคนเสื้อหลากสีเมืองหัวหิน รวมตัวต่อต้านการยุบสภา
 เมื่อเวลา 17.00 น. กลุ่มคนเสื้อหลากสีในตัวเมืองหัวหิน จำนวนกว่า 200 คน ได้นัดรวมตัวกันที่ สวนสาธารณะโผนกิ่งเพชร อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อแสดงพลังต่อต้านการยุบสภา ให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และต่อต้านการใช้ความรุนแรง โดยได้มีการชูธงชาติ พร้อมร้องเพลงปลุกใจ เชิญชวนชาวหัวหินให้ออกมาแสดงพลัง ปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
 จากนั้นเมื่อถึงเวลา 18.00 น. กลุ่มคนเสื้อหลากสีได้ ร่วมกันร้องเพลงชาติ และเพลงสดุดีมหาราชา ก่อนจะจัดเดินขบวนไปรอบเมืองหัวหิน ท่ามกลางการคุมเข้มของทั้งฝ่ายตำรวจ และทหาร  โดยนายราชศักดิ์ ประสิทธิ์พันธ์ แกนนำคนเสื้อหลากสีเมืองหัวหิน กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อหลากสีเมืองหัวหินรู้สึกเสียใจที่มีผู้ชุมนุมที่ถนนสีลมเสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก และได้นัดรวมตัวกันเพื่อแสดงพลัง เพื่อ ประณาม ผู้ก่อเหตุ ตั้งแต่ วันนี้ไปจนถึงวันที่ 25 เมษายน
 โดยจะทำกิจกรรมหลักคือ ร้องเพลงชาติร่วมกัน ทั้งนี้ยอมรับว่ากลุ่มคนเสื้อหลากสีเมืองหัวหินเตรียมพร้อมที่จะเดินทางเข้าไปสมทบกับกลุ่มคนเสื้อหลากสีที่ลานพระบรมรูปทรงม้า กรุงเทพมหานครแล้ว








ข่าวที่เกี่ยวข้อง"ปทีป"หนักใจคุมม็อบ2ฝ่ายปัดตอบตร.เกียร์ว่าง หลากสีนัดชุมนุมเสาร์-อาทิตย์นี้ร้องแดง-แม้วยุติลูกสาวเหยื่อยิงเอ็ม79ถล่มสีลมร่ำไห้รับศพแม่"ปฐมพงษ์"เชื่อมือยิงเอ็ม79ถล่มสีลมมีมากกว่าหนึ่ง ปลัดกห.แนะอภิสิทธิ์อย่ายุบสภาเชื่อไม่ใช่ทางออก

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ปลุกแดงสู้เผยหมาก30วันยุบสภาแค่เกมส์ปิดฉาก

ปลุกแดงสู้เผยหมาก30วันยุบสภาแค่เกมส์ปิดฉาก



คมชัดลึก :"เต้นปลุกคนเสื้อแดงสู้เผยหมากยุบสภา 30 วัน เกมส์ล้ม อภิสิทธิ์ - อำมาตย์" ยุติข้ออ้างไม่เจรจา ก่อนเปิดเกมส์สู้ใหม่ โวสัปดาห์หน้ารู้ผลแพ้ชนะล้มกระดาน







เมื่อเวลา 19.45 น.วันที่ 23 เม.ย.  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.ขึ้นเวทีปราศรัยว่า การต่อสู้วันนี้จึงไม่ใช่ต่อสู้กับนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี แต่มีคนที่ไม่ยอมให้นายอภิสิทธิ์ออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือเหล่าอำมาตย์ เมื่อเป็นแบบนี้จึงต้องมาทำความเข้าใจกันใหม่ ก่อนจะมีมติออกมาให้ยุบสภา 30 วันเรียนทุกคนว่า ได้มีการคิดร่วมกันอย่างรอบคอบไม่เคยเสียเปรียบตั้งแต่มีการชุมนุมมา
 “อำมาตย์ที่อยู่ข้างหลังเป็นสิ่งที่เราจะต้องสู้ต่อ สิ่งที่จะคิดคืออำมาตย์ที่อยู่ข้างหลังนายอภิสิทธิ์ที่คอยจะปราบพวกเรา คนพวกนี้ไม่เคยคิดว่าคนจะต้องตายอีกเท่าไหร่ ข้อเรียกร้องที่ให้ยุบสภาภายใน 30 วันไม่ใช่เรียกร้องจากนายอภิสิทธิ์ หรือถามนายอภิสิทธิ์ แต่เป็นการถามอำมาตย์ ถ้าเขาไม่ยอมรับแสดงว่า เขาไม่ยอมประชาชน แม้บางคนจะมองว่า เป็นการถอย แต่ความจริงไม่ใช่ เราต้องรอคำตอบในวันพรุ่งนี้จากนายอภิสิทธิ์ว่าจะคืนอำนาจให้ประชาชน  และหนทางเดียวที่เหลือคือการยุบสภา โดยมีเวลาเหลืออีกแค่ 30 วันเท่านั้น” นายณัฐวุฒิ กล่าวและว่า
 ถ้าหากนายอภิสิทธิ์ตอบไม่ยุบสภาในวันพรุ่งนี้ ก็ขอให้ดูว่า เขาจะวางแผนต่อไปอย่างไร หากตอบว่า จะยุบแล้ว แต่ต้องมาเจรจากัน โดยหากเขายื่นว่า จะยุบภายใน 60 วัน เราก็ต้องตอบว่า เราไม่เอาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากไม่มีการยุบสภา แล้วหลายฝ่ายที่เคยต้องการให้มีการเปิดเจรจากันก็คงไม่ต้องมีอีก ขณะเดียวกันนายอภิสิทธิ์ก็จะได้ไม่ต้องมีข้ออ้างอีก ทั้งนี้เราก็จะได้กำหนดการต่อสู้ต่อไป โดยเราก็จะระดมพวกเรามาสู้กันใหม่ตั้งแต่อาทิตย์หน้า เริ่มตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไปเช่นกัน
  การต่อสู้ครั้งนี้หากนปช.แพ้ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ทางแกนนำก็คงจะต้องติดคุก หากชนะก็เป็นการล้มกระดานทั้งหมดไม่ว่า รัฐบาลหรืออำมาตย์ถือเป็นการล้มทั้งพ่วงเลย ทั้งหมดจึงเป็นเกมส์ใหม่ที่รับรองว่า ภายในไม่เกินสัปดาห์หน้าก็จะรู้ผลกัน








ข่าวที่เกี่ยวข้องในหลวง-ราชินีทรงห่วงเหยื่อบึ้มสีลมรับไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์"ปทีป"หนักใจคุมม็อบ2ฝ่ายปัดตอบตร.เกียร์ว่าง แดงยอมเจรจารบ.เงื่อนไข30วันยุบสภาหลากสีนัดชุมนุมเสาร์-อาทิตย์นี้ร้องแดง-แม้วยุติลูกสาวเหยื่อยิงเอ็ม79ถล่มสีลมร่ำไห้รับศพแม่

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Blog Archive