Saturday, May 22, 2010

มาร์คกั๊กเจรจาแดงไม่เลิกแรงไม่คุย

มาร์คกั๊กเจรจาแดงไม่เลิกแรงไม่คุย




คมชัดลึก :"อภิสิทธิ์"พูดไม่ชัดรับหรือไม่รับเจรจา นปช. หลังตั้งเงือนไข 30 วันยุบสภาดีเดย์วันนี้ ยันต้องเคารพกฎหมาย ลั่นหากแก้ปัญหาไม่ได้ก็ไม่อยู่






เมื่อเวลา 18.00 น.ที่เวทีราชประสงค์นายวีระ มุสิกพงษ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ( นปช.) ได้ขึ้นเวทีอ่านประกาศข้อเสนอของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.แดงทั้งแผ่นดิน)เพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียแก่ประชาชนเพิ่มเติม
1 .หลังจากเหตุการณ์ 10 เม.ย. 2553 นปช.ซึ่งต่อสู้ทางการเมืองดด้วยสันติวิธีต้องผิดหวังยิ่งขึ้นเมื่อมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากอาวุธของบุคคลไม่ทราบฝ่ายขึ้นอีกในวันที่ 22 เม.ย. อีกทั้งยังไม่มีหลักประกันอีกว่า จะไม่มีเหตุการณ์สลดใจขึ้นอีกในอนาคต
2 .ด้วยความตระหนักในวิธีการสันติ อหิงสา และเพื่อป้องกันมิให้มีความสูญเสียขึ้นอีกไม่ว่าฝ่ายใด นปช.จึงยินดีเปิดการเจรจากับรัฐบาลภายใต้เงื่อนไขใหม่
3 .เงื่อนไข 1 .รัฐฐาลยุติการคุกคามทุกรูปแบบ
2 .มีกรรมการอิสระเป็นกลางสอบสวนเหตุการณ์ 10 เมษายน และ 22 เมษายนโดยรัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบ
3 .นปช.ยินดียืดเวลาสำหรับการยุบสภาจากเดิมไปเป็นยุบสภาภายใน 30 วันเพื่อรัฐบาลจะได้ตระเตรียมการเท่าที่จำเป็น
 ขณะที่บรรยากาศบริเวณแยกศาลาแดง กลุ่มคนเสื้อแดงยังคงปราศัยสลับกับการเปิดเพลงเพื่อให้กลุ่มผู้ชุมนุมคลายเครียด ขณะที่ฝั่งสีลมบริเวณหน้าโรงแรมดุสิตธานี ยังคงมีกลุ่มคนสีลมออกมายืนโบกธงชาติ พร้อมทั้งตะโกนด่าทอและโห่ไล่คนปราศัยบนเวทีคนเสื้อแดง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจราจลอย่างเข้มงวด
 ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำรถควบคุมผู้ต้องขังจำนวน 5 คัน มาจอดปิดกั้นบริเวณแยกศาลาแดง เพื่อป้องกันไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันเหมือนเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ซึ่งการทำเช่นนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าจะสามารถลดการเผชิญหน้าได้ไม่มากก็น้อย ส่วนการจราจรยังคงดำเนินไปอย่างปกติ รถยนต์สามารถเคลื่อนตัวไปได้เรื่อยๆ ซึ่งสภาพโดยรวมยังไม่มีเหตุการณ์รุนแรงหรือมีวี่แววว่าจะมีการปะทะกันเกิดขึ้น
"สมชาย"ชี้6เดือนยุบสภาน่าจะคุยกันได้ 
 เมื่อเวลา 16.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่พรรคเพื่อไทย ถึงเหตุระเบิดที่สีลม ช่วงคืนวันที่ 21 เมษายนว่า เป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจที่เกิดเหตุรุนแรงขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งถ้าใครไม่โดนไม่รู้และใครที่เป็นผู้ทำก็ถือว่าใจดำมาก ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลต้องหาตัวคนทำให้ได้ เพราะเบื้องต้นทราบว่ามีหลักฐานบ้างแล้ว แต่ทางตำรวจคาดว่าเป็นการยิงมาจากตึกของโรงพยาบาลจุฬาฯ  ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีระบุว่าเป็นการยิงมาจากบริเวณลานพระรูป ร.6 ซึ่งเมื่อเหตุการณ์มาถึงขั้นนี้ ก็ยังไม่ถือว่าเลยที่ทุกฝ่ายจะหันมาเจรจากัน หากมีความจริงใจ ซึ่งการเจรจายังถือว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุด ส่วนเรื่องระยะเวลาการยุบสภานั้น ก็สามารถคุยกันได้จะเหลือเท่าไรทั้งรัฐบาลและแกนนำคนเสื้อแดง ก็ต้องไปคุยกันว่าเหลือสัก 6 เดือน จะพอดีสำหรับทั้งสองฝ่ายหรือไม่ หากทั้งสองฝ่ายยังตั้งกำแพงอยู่ที่จุดเดิม คือ รัฐบาลบอกว่า 9 เดือน ส่วนคนเสื้อแดงยังอยู่ที่ 15 วัน ก็คงต้องไปหาคนที่สามารถทำลายกำแพงได้มาเป็นคนกลางในการเจรจา
 ทูต5ประเทศเยี่ยมแดงราชประสงค์อยากเห็นไทยสงบ
 เมื่อเวลา 17.35 น. นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้เชิญและนำเอกอัครราชทูต เข้าฟังการชี้แจงสถานการณ์ในประเทศไทย โดยเฉพาะเหตุการณ์สลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.)หรือกลุ่มคนเสื้อแดง เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่บริเวณถนนราชดำเนิน โดยมีทูต 5 ประเทศ คือ เดนมาร์ค เบลเยียม ออสเตรีย เปรู และอาเจนตินา ร่วมเดินทางเข้าเยี่ยมการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่บริเวณหลังเวทีราชประสงค์ มีนายวีระ มุสิกพงษ์ ประธาน นปช. นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช.ให้การต้อนรับหารือร่วมพูดคุยเล่าถึงสถานการณ์การชุมนุมของคนเสื้อแดง โดยทูตได้แสดงความเป็นห่วงต้องการให้แต่ละฝ่ายได้เปิดเจรจาเพื่อหาข้อยุติให้เกิดความสงบเรียบร้อยเกิดขึ้น
 โดยนายวีระ กล่าวว่า การเดินทางมาเยี่ยมของทูตในที่ชุมนมุของคนเสื้อแดงวันนี้นับว่าเป็นเกียรติอย่างมาก แต่ทางทูตเองก็ต้องมีความระมัดระวังยึดหลักการธรรมเนียมทางการทูต เพราะตามความเป็นจริงเขาต้องเกรงใจทางรัฐบาลอยู่เช่นกัน ทั้งนี้เมื่อมวลมิตรอารยะประเทศเขาต้องการเห็นการเจรจาไม่อยากให้มีการสูญเสีย อยากให้มีความเป็นเอกภาพสงบในประเทศเรา ตรงนี้ล้วนเป็นความเห็นของทูตทั้งหมด
"จตุพร”ขึ้นเวทีปลุกเสื้อแดงร่วมม็อบสู้เป้าหมายปชต.
 นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.ขึ้นเวทีปราศรัยระบุว่า นปช.ยินดีพร้อมที่จะถอยทุกอย่างเพื่อไม่ให้มีคนตายเกิดอีกแล้ว แต่ไม่ใช่ว่าเราจะกลัวตาย ซึ่งสิ่งที่ยอมไม่ได้ก็คือการต้องเอาผิดนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีในข้อหาฆ่าคนตาย
 “ผมเรียนพี่น้อง วันนี้บ้านเมืองไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ปกติ แต่มีคนแอบสั่งการอยู่ข้างหลังมีการเข้าล้อมจับปราบ ดังนั้นอยากบอกว่า ภารกิจยังไม่จบเราต้องเป็นมิตรร่วมตายเป้าหมายเรายังเหมือนเดิม นั่นคือประชาธิปไตยที่ไม่มีเหลืออยู่อีก ดังนั้นคงมีเราที่ต้องคอยเดินเคียงข้างกันต่อไป” แกนนำ นปช. ระบุ
"อภิสิทธิ์"เสียใจเหตุยิงเอ็ม79บึ้มสีลม 
เมื่อเวลา 20.30 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่แหล่งสมาคมนายทหาร กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ถึงกรณีที่มีคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79เข้าใส่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสศาลาแดง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บจำนวนมากว่า ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่เกี่ยวข้อง ยืนยันได้ว่าพวกเราทุกคนที่ทำงานที่นี่ได้ติดตามเหตุการณ์และรู้สึกเป็นทุกข์ พยายามตลอดเวลาในการที่จะแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้น สิ่งที่เราพยายามมากที่สุดวันนี้คือป้องกันไม่ให้มีเหตุในลักษณะดังกล่าว แต่เมื่อมีข้อจำกัดก็ต้องเร่งขจัดกันต่อไป อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าการดำเนินการของภาครัฐไม่สามารถดำเนินการได้ตามใจชอบ
 "เป็นเรื่องยากครับ ในการต่อสู้กับคนที่ใช้นอกรูปแบบ คนที่ใช้วิธีผิดกฎหมาย แต่รัฐบาลไม่มีสิทธิ์ที่จะไปทำอะไรที่ผิดกฎหมายแบบเดียวกัน แต่ยืนยันว่าจะต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องที่จะแก้ไขปัญหาให้ได้” นายกฯ กล่าว รับถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ก็พร้อมจะไป
 เมื่อถามต่อว่า เวลานี้อารมณ์ของคนไปไกลแล้ว นายกฯ กล่าวว่า ทราบดี เป็นเรื่องที่เข้าใจ และคงไม่อาจที่จะไปบอกได้ว่า เขาไม่มีเหตุผล หรือไม่มีสิทธิที่จะคิดหรือรู้สึกอย่างนั้น ตนเพียงแต่บอกว่า การแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะถ้าจะแก้ไขปัญหาให้สามารถที่จะทำให้สังคมมีความสงบสุขได้อย่างยั่งยืน บางครั้งไม่สามารถที่จะใช้วิธีการอย่างที่เรานึกหรือชอบได้อย่างเดียว ต้องคำนึงถึงปัจจัย ผลกระทบที่จะตามมาด้วย แต่ยืนยันว่า เราจะบริหารไม่ให้ความรู้สึกของประชาชนจำนวนมาก นำไปสู่การปะทะกัน หรือการใช้ความรุนแรงเข้าใส่กันและกัน
ลั่นต้องเคารพกม.แก้ปัญหาไม่ได้ไม่อยู่
 ผู้สื่อข่าวถามว่า วันหนึ่งถ้าเขารู้สึกว่าพึ่งพาอำนาจรัฐไม่ได้ แล้วต้องลุกขึ้นจัดการเองจะเกิดอะไรขึ้น นายกฯ กล่าวว่า “คงไม่ให้ถึงจุดนั้น และผมต้องยืนยันว่า ผมคงปล่อยไปถึงจุดนั้นไม่ได้ และถ้าผมทำไม่ได้ ผมก็ไม่ควรอยู่” 
 ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่นายกฯ ระบุว่า ถ้าทำไม่ได้ก็อยู่ไม่ได้ หมายความว่าอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ตนมีหน้าที่แก้ปัญหา ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ก็ไม่ควรอยู่ แต่ขณะนี้มีการติดตามและมีแนวทางอยู่ ซึ่งมันอาจจะไม่ตรงกับความคิดของหลายๆ คน และจะต้องพยายามไม่ให้เกิดความเสียหายมากกว่านี้
 เมื่อถามว่า นายวีระ มุสิกพงศ์ แกนนำ นปช. เสนอให้มีการเจรจารอบสาม นายกฯ กล่าวว่า ที่อ้างว่าจะมีการเจรจาในคืนนี้ เข้าใจว่าเป็นความพยายามนัดหมายโดยกลุ่มสันติวิธี แต่เข้าใจว่าไม่ได้มีการพบกัน ส่วนที่ยื่นเงื่อนไขให้ยุบสภาภายใน 30 วันนั้น เบื้องต้นขณะนี้สิ่งสำคัญคือ การที่ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย และทุกคนต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่เกิดขึ้น ส่วนปัญหาทางการเมืองเป็นหน้าที่ฝ่ายการเมืองที่จะต้องแก้ไขกันต่อไป
 เมื่อถามว่า ทำไมที่ทุกครั้งเขายื่นเงื่อนไขเจรจาจะมาด้วยความรุนแรงและความสูญเสีย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อันนี้ต้องสอบถามทางฝ่ายโน้น ยืนยันว่า การจะหาคำตอบทางการเมือง ต้องไม่ใช่ลักษณะที่เป็นผลมาจากใช้วิธีการข่มขู่ อันนี้เป็นไปไม่ได้ กรมสุขภาพจิตชี้การเมืองทำคนมีอารมณ์โกรธแค้น
 นพ.ชาตรี บานชื่น  อธิบดีกรมสุขภาพจิต  เปิดเผยว่า จากการสำรวจอารมณ์ทางการเมืองของประชาชนไทย รอบที่ 3 ระหว่างวันที่ 20-22 เม.ย. ในทุกภาคของประเทศไทย พบว่า ส่วนใหญ่มีอารมณ์ทางการเมืองอยู่ในระดับปกติ ร้อยละ 39.44 ส่วนอารมณ์ทางการเมืองระดับรุนแรงพบร้อยละ 27.84 ซึ่งใกล้เคียงกับการสำรวจรอบแรกร้อยละ 29.89 แบ่งเป็นเพศชายร้อยละ 31.33 และเพศหญิงร้อยละ 25.73  อย่างไรก็ตามเมื่อแยกเป็นภูมิภาคพบตัวเลขที่น่าสนใจ  ว่าประชาชนในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอารมณ์ทางการเมืองอยู่ในระดับรุนแรงมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 39.40 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากการสำรวจรอบก่อนหน้านั้นพบเพียงร้อยละ 19.87 เช่นเดียวกับประชาชนในเขตกรุงเทพฯ ที่มีการเพิ่มขึ้นของอารมณ์รุนแรงจากเดิมร้อยละ 24.24 เป็นร้อยละ 34  และในภาคเหนือพบเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 22.49 เพิ่มเป็นร้อยละ 24.44 นอกจากนี้ยังพบว่าเพศชายที่ติดตามข่าวการเมืองทุกวันมีอารมณ์ทางการเมืองอยู่ในระดับรุนแรงเพิ่มจากเดิมร้อยละ 33.45 เป็นร้อยละ 42.21 ส่วนเพศหญิงเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30.43 เป็นร้อยละ 37.41   ขณะที่คำถามถึงสถานการณ์การเมืองพบว่า ประชาชนภาคใต้ ตอบคำถามว่า เบื่อหน่ายไม่อยากรับรู้ สูงสุดกว่าประชาชนภาคอื่น คิดเป็นร้อยละ68  เฉยๆไม่รู้สึกอะไรร้อยละ 47 และข่าวการเมืองไม่มีผลกระทบต่อครอบครัวร้อยละ 88   
 “เราเป็นห่วงมาก เพราะแนวโน้มอารมณ์ทางการเมืองที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในบางเขต เช่น คนกทม.จะไปเร้าสมองส่วนอารมณ์มากกว่าเหตุผล ทำให้เกิดพฤติกรรมก้าวร้าว ถ้ามีแนวโน้มสูงขึ้นในขณะที่การเมืองยังมีฝักฝ่ายแบบนี้เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง  ซึ่งเรากำลังมองข้ามไปถึงความขัดแย้งในสังคมที่จะเพิ่มมากขึ้น  อย่างไรก็ตามจากตัวเลขที่พบคนภาคอีสานและกทม.มีอารมณ์ทางการเมืองสูงขึ้น อาจเกี่ยวข้องกับสถานที่ชุมนุมและมีบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมชุมนุม เช่น มีญาติมาชุมนุม  ซึ่งกรมสุขภาพจะเฝ้าติดตามและซับน้ำตาคนไทยต่อไป โดยเฉพาะหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะที่ถนนสีลมเมื่อคืนที่ผ่านมา” อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าว  
 พญ.อัมพร  เบญจพลพิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสุขภาพจิต  กล่าวถึงการเข้าเยียวยาจิตใจผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การเมืองว่า   ผู้ที่มีความรุนแรงของอารมณ์ จะง่ายต่อการถูกเร้าซึ่งขึ้นอยู่ความรุนแรง และความสูญเสียที่ได้รับ อย่างไรก็ตามการจากที่ทีมงานของกรมสุขาพจิตเข้าไปเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 12 มี.ค.เป็นต้นมา พบสิ่งที่น่าสังเกตว่า จากประสบการณ์ของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติภัยจะพบว่า มีความกลัว ความเศร้า และวิตกกังวล แต่ครั้งนี้กลับพบว่า ผู้ที่ได้รับผลกระทบมีอุณหภูมิใจจากเดิมไปสู่ความโกรธรุนแรงพุ่งพล่าน ผู้ได้รับบาดเจ็บบางคนต้องการกลับไปร่วมชุมนุมอีก ซึ่งสังคมทุกฝ่ายต้องช่วยกันลดการถูกเร้าหรือไปร่วมชุมนุม  นอกจากนี้ผู้บาดเจ็บบางรายมีความกังวลต่ออนาคตของตนเองซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ มีความรู้สึกท้อแท้เสียใจ  มี 1 รายที่มีอาการซึมเศร้า และไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 จะมีบาดแผลทางจิตใจรุนแรง หากไม่ดูแล 1 เดือนต่อจากนี้อาจมีภาวะฝันร้ายนอนไม่หลับ บางรายมีอาการหวาดระแวงรู้สึกไม่ปลอดภัย จนเกิดภาวะสร้างสังคมสมมติจนเกิดความเหนี่ยวแน่นกับผู้ที่เกิดเหตุการณ์ แต่เป็นภาวะหนึ่งไม่ใช่โรค เมื่อปัญหาคลี่คลายภาวะนี้จะหายไปเอง
 นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ หัวหน้ากลุ่มที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต กล่าวว่า อารมณ์รุนแรงอย่างต่อเนื่องจะมีผลทำให้เกิดอารมณ์โกรธ ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพจิตของตนเองและบุคคลอื่นเทียบเท่ากับความเครียดรุนแรง  ซึ่งอารมณ์ทางการเมืองที่รุนแรงจะกระทบต่อบุคคลได้ง่าย ยิ่งเข้าไปในที่ชุมนุมจะแสดงออกอย่างรุนแรง ดังนั้นผู้ที่รู้สึกว่าเกิดอารมณ์ทางการเมืองรุนแรงเทียบเท่ากับการมีความเครียดระดับสูง ต้องลดการรับรู้ข่าวสารด้านเดียวอย่างต่อเนื่องยาวนาน ควรรับรู้ข่าวสารสองด้านและไม่ต่อเนื่องยาวนาน  รู้จักสงบอารมณ์ของตัวเองกลับมาใช้ชีวิตปกติ   ซึ่งบุคคลรอบข้างที่ยังไม่มีอารมณ์รุนแรงต้องช่วยกันรับฟัง หรือสามารถโทรเข้ามาปรึกษาสายด่วนกรมสุขภาพจิต หมายเลข 1323 
 








ข่าวที่เกี่ยวข้องปลุกแดงสู้เผยหมาก30วันยุบสภาแค่เกมส์ปิดฉากหลากสีแปดริ้วโผล่บอกสุดทนเห็นไทยฆ่าไทยไม่ไหวหลากสีนัดชุมนุมเสาร์-อาทิตย์นี้ร้องแดง-แม้วยุติ"ปฐมพงษ์"เชื่อมือยิงเอ็ม79ถล่มสีลมมีมากกว่าหนึ่ง ปลัดกห.แนะอภิสิทธิ์อย่ายุบสภาเชื่อไม่ใช่ทางออก

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เสื้อแดง-หลากสี เผชิญหน้า คุมเข้มศาลาแดง

เสื้อแดง-หลากสี เผชิญหน้า คุมเข้มศาลาแดง

แยกศาลาแดงวุ่นอีกเสื้อแดง-เสื้อหลากสีตะโกนด่าตอบโต้กันไม่หยุด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องวางแนวกั้นให้กลุ่มเสื้อหลากสีถอยกลับ ภายหลังพยายามขยับเข้าปะชิดกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างต่อเนื่อง.....เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงบริเวณแยกสีลม ยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่ก่อนหน้านี้ นายขวัญชัย ไพรพนา ประกาศบนรถขยายเสียง เรียกร้องให้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ นำตัว นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสีออกมา หลังจากนำคนพร้อมอาวุธขึ้นไปอยู่บนตึกใกล้เคียงแยกศาลาแดงในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มเสื้อหลากสี ที่ชุมนุมฝั่งถนนสีลมอย่างมาก จึงตะโกนด่าทอและขับไล่กลุ่มคนเสื้อแดงออกไป ขณะที่นายขวัญชัย ขอให้กลุ่มผุ้ชุมนุมอยู่ในแนวกั้น ไม่ให้ออกจากฝั่งถนนราชดำริ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด หากมีเหตุเกิดขึ้น นอกจากนี้ได้แจกจ่ายหมวกนิรภัย และโล่ให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกลุ่มคนเสื้อแดงที่อยู่ในบริเวณ แนวกั้น ขณะที่กลุ่มเสื้อหลากสียังชุมนุมและโห่ร้องเป็นระยะ รวมถึงเริ่มขยับใกล้กลุ่มคนเสื้อแดง จนเจ้าหน้าที่ต้องนำรั้วมากั้น เพื่อให้ถอยร่นกลับที่เดิม ป้องกันไม่ให้ประชิดกันมากกว่านี้.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

อภิสิทธิ์!คุณไม่เคยถูกเสี้ยนตำเท้ามาก่อนใช่ไหม ?

อภิสิทธิ์!คุณไม่เคยถูกเสี้ยนตำเท้ามาก่อนใช่ไหม ?



คมชัดลึก :ประสบการณ์ในวัยเด็กของแต่ละคน ย่อมต่างกันตามฐานะ เด็กอย่างผมเกิดมายังไม่ทันจะเดินเป็น ก็คลานไปตามพื้นดินที่เต็มไปด้วยฝุ่นในลานบ้าน ไม่มีใครวิตกกังวลว่าจะติดเชื้อโรคใดๆ จากละอองฝุ่นที่ปลิวเข้าปากเข้าจมูก






ขณะที่เด็กบางคนอาจไม่เคยสัมผัสธุลีดินตั้งแต่เกิดจนเป็นหนุ่ม ด้วยร่างถูกห่อหุ้มด้วยอาภรณ์ที่สะอาดปราศจากเชื้อโรค แน่นอนละว่า ผมกับเด็กคนนั้นย่อมมีประสบการณ์ชีวิตที่ต่างกัน ในวัยเด็กผมเคยวิ่งเล่นด้วยเท้าเปล่าเข้าไปในพงหญ้าจนถูกเสี้ยนไม้ไผ่ตำเข้าที่กลางฝ่าเท้า เจ็บปวดจนต้องปล่อยโฮ พยายามกัดฟันทน เขย่งเท้าที่มีปลายเสี้ยนโผล่ให้เห็นเดินกลับบ้าน แต่ระยะทางช่างไกลเหลือเกิน ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผมกลั้นหายใจหักปลายเสี้ยนที่โผล่อยู่ออกทิ้ง หวังแต่เพียงว่าจะเดินกลับบ้านได้สะดวกขึ้น หารู้ไม่ว่า นั่นเป็นความคิดโง่ๆ ของเด็ก ที่ขาดประสบการณ์ หรือไม่มีความรู้ ผมเดินกลับบ้านได้เร็วขึ้นจริง แต่เมื่อถึงบ้านญาติๆ พยายามดึงเสี้ยนที่คาเท้าอย่างไรก็ดึงไม่ได้ แม้จะพยายามใช้ปลายเข็มลนไฟบ่งอย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่กี่วัน เสี้ยนที่หักคาเท้าก็เริ่มออกฤทธิ์กลายเกิดอาการกลัดหนองบวมเป่ง จนญาติผู้ใหญ่ต้องพาไปผ่าที่โรงพยาบาล หมอที่รักษาบอกว่า ผมยังโชคดีที่ไม่เป็นบาดทะยักตายเสียก่อน
 ค่ำคืนที่ 20 พฤษภาคม 2553 ผมนั่งดูรายงานข่าวทางโทรทัศน์ อยากรู้ว่าการปฏิบัติการทางทหารที่เข้าขอพื้นที่สี่แยกราชประสงค์จะมีหลักการและขั้นตอนอย่างไร...เมื่อได้เห็นก็อดที่จะหวนไปหาประสบการณ์เสี้ยนไม้ไผ่ตำเท้าไม่ได้ ในห้วง 2 เดือนที่ผ่านมาสังคมไทยถูกเสี้ยนนปช.ตำคาเท้าอยู่ ตลอดเวลานั้นรัฐบาล-ศอฉ.จะค่อยๆ ดึงปลายไม้ไผ่ให้เสี้ยนหลุด แต่ดึงเท่าไหร่ก็ดึงไม่ออก ในที่สุดจึงตัดสินใจหักปลายเสี้ยนนั้น...
 บ่ายถึงค่ำวันนั้น สรรพสิ่งในเขตอิทธิพลของกลุ่มคนเสื้อแดงก็ถูกเผาทำลายตามมาทันทีแม้ว่ารัฐบาลจะประกาศเคอร์ฟิวทำให้กลุ่มคนเสื้อแดงหายวับไปก่อนราตรีมาเยือน แต่ผมไม่เชื่อว่าทุกอย่างจบลงอย่างง่ายๆ เหมือนใครต่อใครวาดหวัง... นับจากวันนี้ไป เศษเสี้ยนที่หักคาเท้าก็คงจะทำให้เท้าบอบช้ำและค่อยๆ ระบมจนกลัดหนองขึ้นมาอย่างเลี่ยงไม่พ้น ก็อยากจะฝากให้รัฐบาล-ศอฉ.หาวิธีการที่รัดกุมที่สุด ค่อยๆ ถอนเสี้ยนที่ฝังอยู่ขึ้นมาให้ได้
 แม้ผู้นำรัฐบาล อย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจะไม่เคยถูกเสี้ยนตำเท้ามาก่อน แต่ก็น่าจะมีคนในรัฐบาลนี้ที่เคยมีประสบการณ์ถูกเสี้ยนตำเท้ามาแล้วรวมอยู่ด้วย อยากขอร้อง นายกรัฐมนตรี ได้รับฟังวิธีการบ่งหนามจากผู้มีประสบการณ์บ้างนะครับ ผมไม่ทราบว่า เสี้ยนที่ตำคาเท้ารัฐบาลในขณะนี้ จะมีเชื้อบาดทะยักอยู่หรือไม่ ที่สำคัญ ความโชคดีในวัยเด็กของผม อาจไม่ใช่ความโชคดีของรัฐบาลในวันนี้ก็ได้
คลี่ข่าวคลายปม
ภาณุมาศ ทักษณา








ข่าวที่เกี่ยวข้องภาพน่าเหลือเชื่อรัฐ-เอกชนระดมมาตรการเยียวยาบาดแผลเหยื่อ"การเมือง""หยอดมุกฮา"ดับอารมณ์ม็อบกับนักเจรจา "วิชัย สังข์ประไพ" ตร.แจ้งเปลี่ยนแปลงวิธีคุมตัวแกนนำนปช.ต่อศอฉ.ตูมสนั่นขณะจนท.กวาดกองขยะแยกราชประสงค์

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ทำเนียบราษฎร...ตามยถากรรม...

ทำเนียบราษฎร...ตามยถากรรม...



คมชัดลึก :๏ วันนี้ ! ประเทศไทย...
เพียงภาพสั่นไหวและเลือนพร่า
คลุมด้วยเลือดเนื้อและน้ำตา
ของชาวประชาในแผ่นดิน






๏ มีเพียงธูปเทียนดอกไม้จันทน์หลังการฆ่าฟันไม่รู้สิ้นดอกผลอธิปไตยที่เก็บกินคือความดับดิ้นทั่วถิ่นไท
๏ คือเลือดและเนื้อกับน้ำตาสังเวยคุณค่าทั้งหมดให้ไม่มีที่มาและที่ไปเพื่อประชาธิปไตยที่ไม่มี
๏ เพียงแค่บันทึกประวัติศาสตร์บทเรียนของชาติที่เปื้อนสีอีกครั้งอีกครั้งทุกทุกทีเพื่อผ่านวันนี้แล้วลืมเลือน
๏ เพียงแค่บันทึกแห่งอำนาจของประชาราษฎร์แผ่นดินเถื่อนตราบาปเบนเบี่ยงและบิดเบือนงำด้วยปมเงื่อนฆาตกรรม
๏ วันนี้ ! ประเทศไทย...เพียงภาพสั่นไหวในรอยย่ำประวัติศาสตร์บาดแผลถูกกระทำพันธนาการมืดดำอนาคต !.
นายทิวา








ข่าวที่เกี่ยวข้องกว่าจะถึงวันนี้ท่องแดนมนุษย์กินคนเมดาน-ทะเลสาบโตบา-บาสตากีร์ เลาะรั้วมหาวิทยาลัยประจำวันที่23พ.ค.รัฐ-เอกชนระดมมาตรการเยียวยาบาดแผลเหยื่อ"การเมือง"เจาะลึกกลางใจเซีย จุนซูในผลงานเดี่ยวXiah

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

ภาพมันฟ้องตร.ลิ้นพันวางยา ศอฉ.

ภาพมันฟ้องตร.ลิ้นพันวางยา ศอฉ.



คมชัดลึก : กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาชั่วข้ามคืน กับภาพถ่ายของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ - ขวัญชัย ไพรพนา - วิภูแถลง พัฒนาภูมิไทย และนายยศวริศ ชูกล่อม หรือเจ๋ง ดอกจิก แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ถูกคุมขังอยู่ในค่ายนเรศวร จ.เพชรบุรี








หลังเข้ามอบตัวในข้อหาก่อการร้าย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ถูกนำมาเผยแพร่ในเว็บไซต์ เฟซบุ๊กดอทคอม และ ทวิตเตอร์ดอทคอม ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า มีความเป็นอยู่อย่างสุขสบายในบ้านพักรับรองริมทะเล
 นอกจากนี้ยังปล่อยให้บุคคลภายนอกมาพบได้ด้วยในลักษณะอากัปกริยาที่ไม่เหมือนกับ “นักโทษ” คดีร้ายแรง
 จนทำให้มองว่า “รัฐบาล-ศอฉ.” ถูกตบหน้าฉาดใหญ่อย่างจัง โดยเฉพาะ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - สุเทพ เทือกสุบรรณ” เมื่อได้เห็นภาพที่ถูกส่งต่อมา ถึงกับเกิดอาการ “อึ้งกิมกี่” เพราะไม่เชื่อว่าการดูแลผู้ต้องหาคดี “ก่อการร้าย” จะมีลักษณะกินดีอยู่ดีดังที่ปรากฏในภาพ
 ร้อนไปถึง พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ต้องไขข้อข้องใจให้เกิดความกระจ่างโดยเร็ว เพราะขณะนี้สังคมเกิดความสับสนอลหม่านยิ่งนัก
 ก่อนหน้านี้ก็มองกันอยู่ว่า มะเขือเทศใส่เกียร์ว่าง
 เลิกตั้งแถว ก็ไปโพกผ้าแดงถือตีนตบ
 โดยเฉพาะมือถือของ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ที่ถูกกระหน่ำโทรเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงเป็นจำนวนมาก
 เรื่องนี้จะให้เข้าใจกันอย่างไร ก็ภาพมันฟ้องอยู่โทนโท่ นอกจากจะเข้าใจได้อย่างสนิทว่า “รัฐบาล-ศอฉ.” ถูกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ “วางยา” หรือไม่ก็เครือข่ายผู้มีอำนาจเก่าในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เล่นงานเข้าให้แล้ว
 ก็เข้าใจ... เพราะขึ้นชื่อว่ากระบวนการสีกากีนั้น ชีวิตพลิกผันได้ชั่วข้ามคืนที่แทงหวย "การเมือง" ได้ถูกต้อง
 แต่เรื่องราวที่เห็นอยู่ เมืองหลวง ยับเยินเป็นเถ้าธุลีอย่างนี้ เสียหายไม่รู้ว่ากี่แสนกี่ล้านล้านบาทอย่างนี้ ยังมีกะจิตกะใจ "แทงหวย" อีกกระนั้นหรือ
 เพียงเพราะความนิยมชมชอบเป็นการส่วนตัว หรืออาจเพราะ "แทงหวยการเมือง" อย่างที่ว่า ถึงได้ลืมเลือนที่จะรักษาเยียวยาจิตใจของประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ที่สูญเสียไปกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ
 เหตุการณ์ที่มีคนถามไถ่ตำรวจมาตลอดว่า "เกียร์ว่าง" ใช่ไหม?
 เอาเถอะ!..ภาพที่ถูกส่งต่อมาก็หลุดออกมาจากเจ้าหน้าที่ที่ดูแลในพื้นที่ เพราะทนดูพฤติกรรมของกลุ่มก่อการร้ายที่ได้รับการอนุเคราะห์อย่างระดับ "วีไอพี" ไม่ได้
 อาหารมื้อเย็นถูกเสิร์ฟถึงโต๊ะ เป็นอาหารทะเล "กุ้งเผา ปูเผา ปลาเผา" เรียกได้ว่าถูกปากทุกคน และเชื่อว่า ประทับใจที่ได้มาเยือน
 แขกวีไอพีบางคนก็นั่งเล่นอินเทอร์เน็ตเช็กข่าวการเมือง ว่าที่นอกค่ายนั้นเขาไปถึงไหนแล้ว หรือไอ้ที่มันเกิดหายนะนั้น มันเหลือซากอะไรบ้าง บางคนก็ร้องคาราโอเกะคลายเครียด นั่งจิบของเย็นๆ มึนๆ รับลมทะเล
 หากไม่เข้ามอบตัวก็ไม่รู้ว่า จะมีช่วงชีวิตแบบนี้หรือไม่
 ที่สำคัญ อิ่มจังตังค์อยู่ครบ !
 แม้ว่ากฎระเบียบของผู้ต้องหาเหล่านี้ เมื่อถูกควบคุมตัวจะไม่สามารถติดต่อพูดคุยได้อย่างอิสระ เรื่องอินเทอร์เน็ต หรือเฟซบุ๊กนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะมันมีผลต่อรูปคดี ต่อการสอบสวนของเจ้าหน้าที่
 ขนาด "อภิสิทธิ์ -สุเทพ" ออกปากสั่งให้ตำรวจดำเนินการทุกอย่างด้วยความรอบคอบ แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ (มะเขือเทศ) ก็ปล่อยให้เป็นเสียอย่างนี้
 ถ้าภาพเหล่านี้ไม่ถูกส่งออกมา ก็ไม่มีใครรู้ว่า แกนนำนปช.จะได้เป็นแขก"วีไอพี"ของตำรวจมะเขือเทศไปนานแค่ไหน
 แม้ว่า พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พยายามที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ฟังแบบใจเป็นธรรมหรือให้คะแนนพิศวาสเพิ่ม ก็ยัง "ไม่ผ่าน" อยู่ดี
 “ภาพถ่ายดังกล่าวเป็นอาคารกองร้อยควบคุม ดัดแปลงเป็นที่ควบคุม มีรั้วลวดหนามล้อมรอบตัวอาคาร ภายในดัดแปลงเป็นห้องควบคุมได้ 10 ห้อง ลักษณะคล้าย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในการควบคุมจะมีเจ้าหน้าที่ยามยืนควบคุมอยู่หน้าห้อง และทางเดินในกรณีที่แกนนำจะไปห้องน้ำ ส่วนเครื่องมือสื่อสารจะไม่อนุญาตให้ใช้ แต่อาจมีข้อสงสัยจากประชาชนว่า ทำไมแกนนำไม่ถูกส่งตัวไปยังเรือนจำ หรือทัณฑสถาน ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง”
 เหตุใดทำไมไม่ควบคุมในห้องขังเหมือนผู้ต้องหาอื่น เพราะขณะนี้เราควบคุมตามอำนาจกฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งการควบคุม จับกุมตามหมายจับ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นการจับกุมบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยที่จะก่อเหตุร้าย ไม่ใช่ควบคุมผู้ต้องหาในคดีอาญา ซึ่งในมาตรา 12 ของพระราชบัญญัตินี้บัญญัติไว้ชัดเจนว่า เมื่อจับกุมได้แล้ว จะมีอำนาจควบคุมตัวไว้ได้คราวละ 7 วัน
 ซึ่งไม่ใช่สถานีตำรวจ ไม่ใช่ที่คุมขัง และไม่ใช่ทัณฑสถาน หรือเรือนจำ ซึ่งแปลว่า "จะต้องควบคุมไว้ต่างหาก"
 นอกจากนั้น ยังกำหนดต่อไปว่า จะต้องปฏิบัติต่อบุคคลนั้นในลักษณะเป็นผู้กระทำผิด หรือควบคุมแบบผู้ต้องหาไม่ได้ การควบคุมจึงต้องเบากว่าการควบคุมผู้ต้องหา
 เป็นผู้ก่อการร้ายทำไมจึงอยู่สุขสบาย ความจริงเขาไม่ได้อยู่สุขสบาย
 นี่คือคำชี้แจงจากตำรวจ แต่ภาพมันมีคำตอบอยู่ในตัวอย่างสมบูรณ์อยู่แล้ว
ทีมข่าวความมั่นคง








ข่าวที่เกี่ยวข้องภาพน่าเหลือเชื่อรัฐ-เอกชนระดมมาตรการเยียวยาบาดแผลเหยื่อ"การเมือง"อภิสิทธิ์!คุณไม่เคยถูก"เสี้ยนตำเท้า"มาก่อนใช่ไหม ?"หยอดมุกฮา"ดับอารมณ์ม็อบกับนักเจรจา "วิชัย สังข์ประไพ" ตร.แจ้งเปลี่ยนแปลงวิธีคุมตัวแกนนำนปช.ต่อศอฉ.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

จาตุรนต์ชี้นปช.พลาดเจรจายุติชุมนุมไม่สำเร็จ

จาตุรนต์ชี้นปช.พลาดเจรจายุติชุมนุมไม่สำเร็จ



คมชัดลึก :"จาตุรนต์"ชี้ เสื้อแดงพลาด เพราะเจรจายุติการชุมนุมไม่สำเร็จ






(22พ.ค.) ที่ร.ร.เรดิสัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย แถลงว่า หลังจากกลุ่มนปช.ชุมนุมร่วม 2 เดือน และมีการยุติการชุมนุม ดูเหมือนว่าวิกฤตจะยุติแล้ว แต่ความจริงอาจมีการเพิ่มวิกฤตอยู่มาก โดยเฉพาะการที่รัฐบาลใช้กำลังทหารมาใช้ความรุนแรงอย่างไร้ทิศทางเกิดการสูญเสีย จากผู้เสียชีวิต 80 กว่าคน และบาดเจ็บร่วม 2,000 คน ทั้งนี้เห็นว่า วิกฤตจะยิ่งซ้ำเติมยิ่งขึ้นมีการตอบโต้ล้างแค้นเข้าสู่ความขัดแย้งที่มาก ขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลล้มเหลวในการเจรจาสู่ความปรองดอง การกล่าวอ้างของนายกฯ ที่ระบุถึงการปรองดองเป็นเพียงคำพูดที่สวยหรู ซึ่งการปฏิบัติตรงข้ามกับคำพูดที่ใช้มาตรการปราบปรามกับกลุ่มผู้ชุมนุม
 นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลตัดสินใจใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมซึ่งทั่วโลกรับไม่ได้ แต่เหตุการณ์หลังการยุติที่มีการเผาสถานที่ต่างๆในลักษณะของความโกรธแค้นไร้ทิศทางนั้นก็อาจมีฝ่ายที่ 3-4 เข้ามาแทรกแซงก็เป็นได้  แต่หากมองย้อนหลังยืนยันว่าทางออกที่ดีที่สุด คือ การเจรจาและต้องใช้แนวทางการการเมืองแก้ไข ส่วนแผนการปรองดองของนายกฯนั้นนายกฯก็ต้องทำความเข้าใจกับเรื่องนี้เสียใหม่ อย่าเอาความเห็นที่แตกต่างทางการเมืองของผู้ที่อยู่ตรงข้ามมาเป็นศัตรู รวมทั้งรัฐบาลเอง และควรใช้กฎหมายตามที่จำเป็น ไม่เกินเลยเพื่อเป็นเครื่องมือทำลายล้างฝ่ายตรงข้าม ทั้งนี้กระบวนการยุติธรรมจากนี้ต้องน่าเชื่อถือและทุกฝ่ายยอมรับ แต่มีปัญหาคือว่า ฝ่ายรัฐบาลจะเป็นผู้ควบคุมกลไกการักษากฎหมายจากนี้ ภายใต้การกำกับสั่งการของนายกฯและรองนายกฯ
 นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เมื่อรัฐบาลควบคุมกลไกทางกฎหมายอยู่ ฉะนั้นการดำเนินการตามกฎหมายจึงไม่เกิดความน่าเชื่อถือได้เลย ทั้งเรื่องการตั้งข้อหาและการพิสูจน์ต่างๆ หรือแม้จะยกเลิกพรก.ฉุกเฉิน ตนคาดว่าการต่อสู้ของคนที่เห็นต่างที่ไม่ได้รับความยุติธรรมอาจจะใช้วิธีการต่างๆ ต่อต้านรัฐบาลซึ่งมีโอกาสสูง แต่ตนไม่สนับสนุนขบวนการใต้ดิน เพียงแต่เป็นห่วงว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าบ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตยและไม่สามารถหาคนผู้ฆ่าประชาชนมาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมหรือการหาผู้รับผิดชอบต่อผู้ที่เสียชีวิตจำนวน 80 กว่าศพ  จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบในการตั้งข้อหา ดำเนินคดี ไม่ใช่เหมารวมว่าใครเป็นผู้ก่อการร้ายหมด มิฉะนั้น หากไม่มีความเป็นธรรม ประเทศก็อาจจะถลำลึกกว่านี้
 ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเพื่อไทยจากนี้ควรมีบทบาทหรือร่วมแสดงความรับผิดชอบอย่างไร นายจาตุรนต์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องช่วยเหลือดูแล ผู้ที่ได้รับความเสียหายและผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งเรื่องอาคาร ทรัพย์สิน และอาชีพต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนเรื่องคดีความต้องนำผู้เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือ หากพบว่า มีสส.พรรคเพื่อไทยทำผิดก้ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และพรรคก็ต้องมีความรับผิดชอบทางการเมือง ทั้งนี้อยากเสนอแนะให้พรรคเพื่อไทยสรุปบทเรียนการชุมนุมที่ผ่านมาและเสนอต่อสังคม โดยให้ยึดการต่อสู้ตามกระบวนการรัฐสภารวมทั้งต้องไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงและหากจะชุมนุมก็ต้องเป็นไปภายใต้กรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญ
 เมื่อถามว่า ขบวนการเสื้อแดงจะมีทิศทางอย่างไรต่อจากนี้ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการชุมนุมครั้งนี้ เสื้อแดงเสียหายอย่างมาก เพราะพลาดโอกาสที่จะประสบความสำเร็จต่อการเจรจาเพื่อยุติการชุมนุม ซึ่งเรื่องนี้ตนอยู่ในเหตุการณ์การเจรจาและได้พูดคุยกับแกนนำมาตลอด เช่น วันที่ 28 เม.ย. ตนได้พูดคุยกับนายวีระ มุสิกพงษ์ ประธานนปช.และได้สนับสนุนมติที่จะให้ยุติการชุมนุมเกิดขึ้น แต่ระหว่างที่แกนนำกำลังมีมติสลายการชุมนุมก็จะมีเรื่องแทรกซ้อนมาตลอด เช่น การสลายการชุมนุมที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่อนุสรณ์สถาน รวมทั้งการยิงพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง จนเสียชีวิตซึ่งกรณีที่ผ่านมาล้วนแต่ทำให้เกิดบรรยากาศที่เคียดแค้น การสลายการชุมนุมจึงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะการที่สว.ได้มาเจรจากับแกนนำเสื้อแดงและได้ข้อสรุปว่าพร้อมที่จะพูดคุยกับรัฐบาล แต่รัฐบาลกลับกระชับวงล้อมจนนำไปสู่การปราบปรามประชาชน  การที่จะต่อสู้ประชาธิปไตยต่อไปสามารถดำเนินการได้ แต่ต้องมาดูบทเรียนและพลังที่มีอยู่ ที่สำคัญต้องยึดแนวทางสันติ อหิงสา ค่อยๆฟื้นและก้าวขึ้นมา
 เมื่อถามว่าเห็นอย่างไรที่แกนนำเสื้อแดงบางส่วน เช่น กลุ่ม 24 มิถุนา ของนายสมยศ พฤษภาเกษมสุข แกนนำกลุ่มแดงสยาม ได้ออกมาประกาศจะชุมนุมสิ้นเดือนนี้ที่จ.ราชบุรี นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะชุมนุมด้วยเนื้อหาอะไร แต่คิดว่าในระยะยาวการชุมนุมอาจเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะถ้ารัฐบาลกลั่นแกล้ง พยายามกวาดล้างฝ่ายที่เห็นต่างทางการเมือง ถ้าเป็นเช่นนี้การชุมนุมก็อาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคิด  นอกจากนี้อยากเรียกร้องให้สังคมไทยพูดเรื่องผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และคนบาดเจ็บด้วย เพราะคนที่บาดเจ็บบางส่วนก็พิการตลอดชีวิต
 เมื่อถามว่าเหตุการณ์พฤษภาทมิฬมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลถูกขับไล่จนอยู่ไม่ได้ ตรงกันข้ามกับเหตุครั้งนี้เป็นเพราะอะไร นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ที่รัฐบาลยังอยู่ได้เพราะได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอำนาจหลายฝ่าย ทั้งที่รัฐบาลนี้ทำผิด สังคมไทยต้องไม่ควรยอมรับเพราะประจักษ์ชัดว่า รัฐบาลนี้ทำผิด ส่งกำลังทหารปราบปรามประชาชน








ข่าวที่เกี่ยวข้อง"ปณิธาน"ชี้เสื้อแดงชุมนุม24พ.ค.เป็นสิทธิ์ "มาร์ค"งงตร.คุมแกนนำนปช.สุขสบาย สื่อนอกตีข่าวเสื้อแดงสู้ต่อแต่ยังขาดแกนนำศอฉ.เตรียมยกเลิกคุมเส้นทางราชประสงค์ ผู้ว่าฯกทม.เสนอศอฉ.ทำบุญปท.ที่ราชประสงค์

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เผยปัจจัยเสี่ยงล้มปรองดอง ชี้แม้วเอี่ยวป่วนกรุง

เผยปัจจัยเสี่ยงล้มปรองดอง ชี้แม้วเอี่ยวป่วนกรุง

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ปชป.เผยปัจจัยเสี่ยงล้มปรองดองในชาติ เตือน แดงสยาม เคลื่อนหวังล้มเจ้า ระบุทักษิณ ยังเป็นตัวหลักล้มรัฐเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง ยัน รอยเตอร์ แฉทีมทนายแม้วแทรกแซงปรองดอง...เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงสถานการณ์การเมืองขณะนี้ว่า พรรคเห็นว่าการเดินหน้าฟื้นฟูของรัฐบาลด้วยการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบควบคู่กับกระบวนการเดินหน้าปรองดองเป็นแนวทางที่จะนำพาชาติไปสู่การสร้างความสมานฉันท์และการอยู่ร่วมกันบนความคิดเห็นที่แตกต่าง ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีที่สุด และการยุติวงจรความขัดแย้ง และความรุนแรงปัญหาทางการเมือง และนำไปสู่สังคมเสรีภาพและประชาธิปไตยที่แท้จริงโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า หลังจากการชุมนุมได้ยุติลงไปแล้ว แต่มีอุปสรรคสำคัญต่อการปรองดอง ที่ถือเป็นยุทธศาสตร์หลักในการเดินหน้าฝ่าวิกฤติ คือการเตรียมการเคลื่อนไหวโดยกลุ่มแดงสยาม ที่มีการประกาศโดยแกนนำอดีตผู้นำคอมมิวนิสต์ อย่างนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ซึ่งพรรคอยากเรียกร้องให้การเคลื่อนไหวทางการเมืองไม่ว่าจะในลักษณะใด หรือคนกลุ่มใด ควรจะทำในลักษณะการมีส่วนร่วม ในกระบวนการประชาธิปไตยบนพื้นฐานความสันติและไม่ใช้วิธีการก่อความวุ่นวาย หรือกล่าวโจมตีบิดเบือนใส่ร้ายทั้งทางการเมืองและสถาบันที่อยู่เหนือการเมืองนพ.บุรณัชย์ กล่าวอีกว่า ข้อเรียกร้อง 5 ข้อของกลุ่มแดงสยาม หากประสงค์ให้สังคมก้าวพ้นความขัดแย้งจริง ทำไมไม่มีข้อเรียกร้องข้อใดที่เกี่ยวข้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมแม้แต่ข้อเดียว ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์อยากเรียกร้องว่าหากจะออกมาต่อสู้ทางการเมือง ก็อยากให้ใช้วิถีทางประชาธิปไตยและขณะนี้สังคมมีความเปิดกว้างมาก หากกลุ่มแดงสยามหรือกลุ่ม 24 มิถุนาจะจัดตั้งพรรคการเมืองในแนวพรรคสังคมนิยมหรือพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ขณะนี้กฎหมายที่ห้ามในการดำเนินการดังกล่าวได้ลดน้อยถอยลงไปมากแล้วตราบเท่าที่การเคลื่อนไหวยังอยู่ในแนวระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ฉะนั้นการเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้จะต้องตัดความสัมพันธ์ในต่างประเทศและในประเทศ ที่มีความโยงใยกับกลุ่มใต้ดิน ที่พาดพิงและล้มเจ้าโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ความเสี่ยงต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มกองกำลังก่อการร้าย ที่ลงไปในใต้ดิน ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่กลุ่มนี้ไม่สามารถเคลื่อนไหวโดยใช้มวลชนอำพรางตัว เองได้ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องปรับยุทธศาสตร์ไปสู่การใช้การข่าวนำการใช้กำลัง โดยขยายผลจากการจับกุมผู้ที่ติดอาวุธที่จับกุมได้ในบริเวณสวนลุมมาแล้วและเชื่อมโยงกับงานข่าวระหว่างประเทศ ที่มีรายงานว่า มีการลำเลียงอาวุธ ที่ใช้ในการก่อการร้ายจากประเทศเพื่อนบ้าน บริเวณชายแดนในหลายจุด ขณะเดียวกันเส้นทางการโอนถ่ายทรัพยากรสนับสนุนการก่อการร้าย เช่น เส้นทางการเงิน ซึ่งรัฐบาลต้องใช้การข่าวและความร่วมมือระหว่างมิตรประเทศเป็นตัวนำในการ เสาะแสวงหาบุคคลที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะนำไปสู่กระบวนการยุติธรรมทางกฎหมายนพ.บุรณัชย์ กล่าวว่า และความเสี่ยงต่อการเคลื่อนไหวของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่ใช้ต่างประเทศในการเคลื่อนไหวอย่างชัดแจ้ง แม้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าการเคลื่อนไหวไม่ได้รับการตอบรับจาก มวลชนภายในประเทศ ซึ่งเห็นชัดว่ามีความพยายามใช้มวลชนในการล้มรัฐบาล เพื่อหวังประโยชน์ของตัวเองและใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือในการดำเนินการ โดยใช้ความรุนแรงในหลายลักษณะนำไปสู่ความวุ่นวายในบ้านเมือง และการเคลื่อนไหวในต่างประเทศนั้น เริ่มแนวโน้มสื่อมวลชนต่างประเทศเริ่มเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและมีการ ให้ข่าว ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ตามที่หนังสือวอร์ล สตรีท เจอร์นัล ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ระดับโลกได้วิเคราะห์บทบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ โดยระบุชัดว่า มีการสัมภาษณ์บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเจรจา ในส่วนของคนเสื้อแดงเองยืนยันว่าเหตุผลการเจรจาทั้ง 3 รอบเมื่อถึงเวลา สุดท้ายต้องหยุดลงทำให้แกนนำฝ่าย นปช.ต้องถอนตัวนั้น เป็นเพราะบทบาทของพ.ต.ท.ทักษิณที่เข้ามาแทรกแซงการเจรจาจนทำให้ไม่ได้ข้อ ยุติและไม่สามารถหาทางออก บนพื้นฐานของการเผชิญหน้านพ.บุรณัชย์ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีบทรายงานข่าวจากสื่อต่างชาติ โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่เขียนโดยนายเจมส์ ฮุกเวย์ ระบุในรายงานสถานการณ์การก่อจลาจลและก่อการร้ายที่เกิดขึ้นในประเทศไทยว่า ระหว่างที่มีการชุมนุมยึดพื้นที่แยกราชประสงค์ได้มีทีมทนายความของพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร เข้าพบปะหารือกับแกนนำ นปช.อย่างใกล้ชิด โดย พบปะกันที่โรงแรมหรูใกล้พื้นที่การชุมนุมเพื่อขอให้ยับยั้งการเจรจาปรองดอง กับรัฐบาลไทย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการแทรกแซงของทีมทนายความของพ.ต.ท.ทักษิณที่บงการตามคำ สั่งในการเจรจาสมานฉันท์ระหว่างแกนนำ นปช. กับรัฐบาลโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยตอร์ ยังรายงานอ้างแหล่งข่าวตอนหนึ่งยืนยันว่า ได้ข้อมูลมาจากสมาชิกพรรคฝ่ายค้านที่ระบุว่า ก่อนหน้านี้ไม่กี่สัปดาห์นี้ พ.ต.ท.ทักษิณได้มีการติดต่อประสานงานอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มนายทหารนอกรีต ที่มีการฝึกกองกำลังประชาชนติดอาวุธในลักษณะจรยุทธ์ โดยใช้ชื่อว่า กองทัพของประชาชน เพื่อให้มีการโจมตีกำลังทหารและทำให้กรุงเทพฯ เป็นเขตสงครามกลางเมือง ทั้งหมดมีรายงานในสื่อต่างประเทศแต่กลับไม่มีการพูดถึงในสื่อของไทยเลย ซึ่งพรรคเห็นว่าสังคมไทยและสังคมโลกควรจะได้รับทราบว่า รายงานข่าวนี้มีความเป็นจริงหรือไม่ อย่างไร เกี่ยวกับในบทบาทของพ.ต.ท.ทักษิณต่อการติดต่อกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ฉะนั้นถือเป็นภาวะความเสี่ยงที่รัฐบาลจะต้องแสวงหาความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งในประเทศ และมิตรประเทศต่าง ๆ ที่จะป้องกันไมให้ความเสี่ยงทั้งสามเป็นอุปสรรค ทำให้ไม่สามารถก้าวพ้นความขัดแย้งทางการเมือง.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

จาตุรนต์ปลุกสังคมต้องไม่ยอมรับรัฐบาลมือเปื้อนเลือด

จาตุรนต์ปลุกสังคมต้องไม่ยอมรับรัฐบาลมือเปื้อนเลือด

จาตุรนต์ ปลุกแดงสู้อีกเอาประชาธิปไตยกลับคืน ชี้รัฐล้มเหลวเจรจาสู่ปรองดอง กลับใช้ความรุนแรงปราบม็อบ สั่ง ส.ส.เพื่อไทยรวบรวมหลักฐานผู้เสียชีวิต-เจ็บแจงสู่สายตาสังคม...เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 พ.ค. ที่โรงแรมเรดิสัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่ม นปช.ยุติการชุมนุมดูเหมือนว่า จะเป็นการเพิ่มวิกฤติอยู่มาก โดยเฉพาะการที่รัฐบาลใช้ความรุนแรงอย่างไร้ทิศทาง จนเกิดการสูญเสีย มีผู้เสียชีวิตกว่า 80 คน และบาดเจ็บร่วม 2,000 คน จึงเห็นว่าวิกฤติจะยิ่งซ้ำเติมยิ่งขึ้นมีการตอบโต้ล้างแค้นเข้าสู่ความขัดแย้งที่มากขึ้น เป็นผลจากการที่รัฐบาลล้มเหลวในการเจรจาสู่ความปรองดอง การกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีที่ระบุถึงการปรองดองเป็นเพียงคำพูดที่สวยหรู การปฏิบัติตรงข้ามกับคำพูดที่ใช้มาตรการปราบปรามกับกลุ่มผู้ชุมนุมนายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า เมื่อรัฐบาลตัดสินใจใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมซึ่งทั่วโลกรับไม่ได้ แต่เหตุการณ์หลังการยุติที่มีการเผาสถานที่ต่างๆ ในลักษณะของความโกรธแค้นไร้ทิศทางนั้นก็อาจมีฝ่ายที่ 3-4 เข้ามาแทรกแซงก็เป็นได้ หากมองย้อนหลังยืนยันว่า ทางออกที่ดีที่สุด คือ การเจรจาและต้องใช้แนวทางการการเมืองแก้ไข ส่วนแผนการปรองดองของนายกฯนั้น ต้องทำความเข้าใจกับเรื่องนี้เสียใหม่ อย่าเอาความเห็นที่แตกต่างทางการเมืองของผู้ที่อยู่ตรงข้ามมาเป็นศัตรู รวมทั้งรัฐบาลเอง และควรใช้กฎหมายตามที่จำเป็น ไม่เกินเลยเพื่อเป็นเครื่องมือทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามทั้งนี้ กระบวนการยุติธรรมจากนี้ต้องน่าเชื่อถือและทุกฝ่ายยอมรับ แต่มีปัญหาคือ ฝ่ายรัฐบาลจะเป็นผู้ควบคุมกลไกการรักษากฎหมายจากนี้ ภายใต้การกำกับสั่งการของนายกฯและรองนายกฯ เมื่อรัฐบาลควบคุมกลไกทางกฎหมายอยู่ ฉะนั้นการดำเนินการตามกฎหมายจึงไม่เกิดความน่าเชื่อถือได้ ทั้งเรื่องการตั้งข้อหาและการพิสูจน์ต่างๆ หรือแม้จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนคาดว่าการต่อสู้ของคนที่เห็นต่างที่ไม่ได้รับความยุติธรรมอาจจะใช้วิธีการต่างๆ ต่อต้านรัฐบาลซึ่งมีโอกาสสูง แต่ตนไม่สนับสนุนขบวนการใต้ดิน เพียงแต่เป็นห่วงว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าบ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตยและไม่สามารถหาคนผู้ฆ่าประชาชนมาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมหรือการหาผู้รับผิดชอบต่อผู้ที่เสียชีวิตจำนวนกว่า 80 ศพ จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบในการตั้งข้อหาดำเนินคดี ไม่ใช่เหมารวมว่าใครเป็นผู้ก่อการร้ายหมด มิฉะนั้น หากไม่มีความเป็นธรรม ประเทศก็อาจจะถลำลึกกว่านี้เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจากนี้ควรมีบทบาทหรือร่วมแสดงความรับผิดชอบอย่างไร นายจาตุรนต์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องช่วยเหลือดูแลผู้ที่ได้รับความเสียหายและผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งเรื่องอาคาร ทรัพย์สิน และอาชีพต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนเรื่องคดีความต้องนำผู้เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือ หากพบว่ามี ส.ส.พรรคเพื่อไทยทำผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและพรรคก็ต้องมีความรับผิดชอบทางการเมือง ส่วนตัวอยากเสนอแนะให้พรรคเพื่อไทยสรุปบทเรียนการชุมนุมที่ผ่านมาและเสนอต่อสังคม โดยให้ยึดการต่อสู้ตามกระบวนการรัฐสภา รวมทั้งต้องไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง หากจะชุมนุมก็ต้องเป็นไปภายใต้กรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญผู้สื่อข่าวถามว่า ขบวนการเสื้อแดงจะมีทิศทางอย่างไรต่อจากนี้ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการชุมนุมครั้งนี้ เสื้อแดงเสียหายอย่างมาก เพราะพลาดโอกาสที่จะประสบความสำเร็จต่อการเจรจาเพื่อยุติการชุมนุม ตนอยู่ในเหตุการณ์การเจรจาและได้พูดคุยกับแกนนำมาตลอด เช่น วันที่ 28 เม.ย. ตนได้พูดคุยกับนายวีระ มุสิกพงษ์ ประธาน นปช.และได้สนับสนุนมติที่จะให้ยุติการชุมนุมเกิดขึ้น แต่ระหว่างที่แกนนำกำลังมีมติสลายการชุมนุมก็จะมีเรื่องแทรกซ้อนมาตลอด เช่น การสลายการชุมนุมที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่อนุสรณ์สถาน รวมทั้งการยิง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง จนเสียชีวิต ซึ่งล้วนแต่ทำให้เกิดบรรยากาศที่โกรธแค้น การสลายการชุมนุมจึงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะการที่ ส.ว.ได้มาเจรจากับแกนนำเสื้อแดงและได้ข้อสรุปว่าพร้อมที่จะพูดคุยกับรัฐบาล แต่รัฐบาลกลับกระชับวงล้อมจนนำไปสู่การปราบปรามประชาชน การที่จะต่อสู้ประชาธิปไตยต่อไปสามารถดำเนินการได้ แต่ต้องมาดูบทเรียนและพลังที่มีอยู่ที่สำคัญต้องยึดแนวทางสันติ อหิงสา ค่อยๆ ฟื้นและก้าวขึ้นมานายจาตุรนต์ ยังเห็นว่า เหตุการณ์พฤษภาทมิฬมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลถูกขับไล่จนอยู่ไม่ได้ ตรงกันข้ามกับเหตุครั้งนี้ เป็นเพราะรัฐบาลได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอำนาจหลายฝ่าย ทั้งที่รัฐบาลนี้ทำผิด สังคมไทยต้องไม่ควรยอมรับเพราะประจักษ์ชัดว่า รัฐบาลนี้ทำผิด ส่งกำลังทหารปราบปรามประชาชน.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เหลิมเสนอเพื่อไทยยื่นญัตติซักฟอก24พ.ค.

เหลิมเสนอเพื่อไทยยื่นญัตติซักฟอก24พ.ค.



คมชัดลึก :"เฉลิม" ชี้ เผาเมืองพฤษภาวิปโยคคล้าย 6 ตุลา 19 ตั้งข้อหา 4 ข้อใส่ร้าย เผยเสนอเพื่อไทยยื่นญัตติซักฟอก 24 พค.นี้






(22พ.ค.) เวลา 13.30 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ส.ส.สัดส่วน ในฐานะประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีสถานการณ์การสลายการชุมนุม ว่า ตนติดตามสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มนปช.มาตลอด ซึ่งในฐานะที่ตนเคยรับราชการเป็นนายตำรวจกองปราบปรามสามยอด เหตุการณ์เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 มีความละม้ายคล้ายคลึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ 4 ประเด็น ดังนี้ 1.มีการกล่าวหาว่าล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์เช่นเดียวกัน โดยเหตุการณ์ 16 ตุลา 19 กล่าวหาว่ามีการเปลี่ยนแปลงการปกครองสู่ระบอบคอมมิวนิสต์ มีการสร้างภาพตัดต่อหมิ่นสถาบัน และกล่าวหาว่ามีชาวเวียดนามร่วมมือนักศึกษาต้องการล้มล้างอำนาจรัฐใน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์(มธ.) ในขณะที่เหตุการณ์ในปี 53 มีการกล่าวหาว่าต้องการสถาปนารัฐใหม่           ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า 2.ในปี 19 มีการปลุกระดมผ่านสถานีวิทยุยานเกราะและเครือข่ายวิทยุของทหารว่ามี คอมมิวนิสต์ในมธ. ซึ่งคราวนี้ก็มีการปลุกระดมเช่นเดียวกัน แต่ผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐ โดยเชิญคนที่เป็นปฏิปักษ์กับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีไปออกรายการเพื่อทำการใส่ร้ายอย่างต่อเนื่อง 3.เมื่อปี 19 หลังเหตุการณ์สงบตนเป็นคนหนึ่งที่เข้าไปตรวจค้นอาวุธในมธ.และพบอาวุธจำนวนมาก ซึ่งไม่ทราบว่าอาวุธที่ซุกซ่อนอยู่เป็นของใคร แต่ฝ่ายรัฐในขณะนั้นได้กล่าวหาว่าเป็นของนักศึกษาและเวียดนาม ที่เอามาซุกซ่อนระหว่างการชุมนุม รวมไปถึงการกล่าวหาว่ามีอุโมงค์ในมธ. ทำให้ประชาชนในขณะนั้นเชื่อว่านักศึกษาเป็นคอมมิวนิสต์ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ในปัจจุบันที่หลังจากสลายการชุมนุมมีการไปพบอาวุธ และเจอกระสุนปืนและอาวุธสงคราม แต่รัฐจับกุมผู้ครอบครองไม่ได้ และกล่าวหาว่าเป็นของกลุ่มผู้ชุมุนุม และ 4.การเรียกขานกลุ่มผู้ชุมนุมในปี 19 ว่า คอมมิวนิสต์ แต่คราวนี้รัฐเรียกว่าผู้ก่อการร้าย
 ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นนักกฎหมายสนับสนุนให้รัฐดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความถูกต้องชอบธรรม บนหลักนิติรัฐ และนิติธรรม อย่างไรก็ตามเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าแม้ว่าเวลาจะผ่านมา 34 ปี แต่แนวคิดรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ตนรำคาญเหลือเกินโดยเฉพาะจอมพล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่อยู่กับทหารพักเดียวก็เคลิ้มตาม
 “ตอน จอมพลอภิสิทธิ์เป็นฝ่ายค้าน จอมพลได้สร้างมาตรฐานตัวเองไปสูงเหลือเกิน เหตุผลทั้งหมดนี้ผมจะเสนอที่ประชุมส.ส.ของพรรคขอยื่นญัตติไม่ไว้วางใจจอมพล อภิสิทธิ และรัฐมนตรีอีก 4 คนประกอบไปด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ รัฐมนตรีนักเลง นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทยซึ่งถือเป็นพระเอกงิ้ว และนายโสภณ ซารัมย์ รมว.คมนาคม หรือที่มีฉายาว่าไอ้ซาเล้ง ซึ่งตนมั่นใจว่าที่ประชุมพรรคจะเห็นด้วยกับแนวคิดนี้” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
          ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนหวังว่าจอมพลคนสุดท้องอย่างจอมพลอภิสิทธิ์ จะคำนึงถึงเมื่อตอนที่ตัวเองเป็นฝ่ายค้าน และรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช ได้เปิดโอกาสให้มีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจในสมัยวิสามัญ ซึ่งในครั้งนี้หวังว่านายกฯจะเปิดให้มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนพอ เสร็จสิ้นแล้วค่อยพิจารณาพ.ร.บ.งบประมาณต่อ ซึ่งรัฐบาลอย่าอ้างว่าจะปิดสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ เนื่องจากการนำความกราบบังคมทูลขอปิดสภาสมัยวิสามัญเป็นหน้าที่ของรัฐบาล
 ผู้สื่อข่าวถามว่าหมายความว่าหากรัฐบาลไม่เปิดทางให้มีการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคเพื่อไทยจะไม่ร่วมพิจารณางบประมาณปี 2554 ใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยังไม่ถึงขั้นนั้น เพราะต้องหารือกันก่อน แต่หากที่ประชุมมีมติเห็นตามตนวันที่ 25 พฤษภาคมก็สามารถที่จะยื่นญัตติได้ทันที ส่วนประเด็นการอภิปรายนั้นมีหลายประเด็นอาทิ คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งพรรคนายอภิสิทธิ์ ที่ในขณะนั้นที่เป็นอยู่ในตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเป็นผู้ลงชื่อรับรองงบดุล ซึ่งมีความผิดประมวลกฎหมายอาญา ขณะที่นายโสภณนั้น เป็นประเด็นการเปิดประมูลงบประมาณโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ที่พบว่ามีการนำงบส่วนอื่นไปใส่ในงบก่อสร้าง โดยเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทซิโนทัยของนายชวรัตน์ สำหรับประเด็นของนายกรณ์เป็นที่น่าสังเกตว่าช่วงที่มีการประท้วงและระเบิดกันนั้น ปรากฏว่ามีรัฐมนตรีบางคนรวยจากการเล่นหุ้น
 เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ระบุว่ามีนักการเมืองนัดล็อบบี้อัยการสูงสุด และมีการใช้เงิน 10 ล้านบาทเพื่อจัดหาพยานหลักฐานเท็จ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนไม่รู้จักอัยการสูงสุด และไม่จำเป็นต้องล็อบบี้หรือจัดการพยานหลักฐานเท็จ ซึ่งเรื่องอย่างนี้ใครจะไปล็อบบี้ไม่ได้








ข่าวที่เกี่ยวข้องDSIชี้เหตุไม่จับ"ตู่"มีถกงบสัปดาห์หน้า ศอฉ.ตั้งคกก.หลายชุดเยียวยาเหยื่อม็อบแดง"จาตุรนต์"ชี้นปช.พลาดเจรจายุติชุมนุมไม่สำเร็จ ศอฉ.พิจารณายกเลิกเคอร์ฟิวส์หลายพื้นที่เย็นนี้ "มาร์ค"งงตร.คุมแกนนำนปช.สุขสบาย

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

เทือกลั่นตามล่ามือยิงสื่ออิตาเลียนให้ได้

เทือกลั่นตามล่ามือยิงสื่ออิตาเลียนให้ได้



คมชัดลึก :ทูตอิตาลีชมรัฐบาลไทยตั้งใจรักษาความสงบบ้านเมือง "สุเทพ" ลั่นตามล่ามือยิงสื่ออิตาเลียนให้ได้






(22พ.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ในฐานะประธาน ศอฉ. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแกนนำกลุ่มเสื้อแดงได้เดินทางกลับกันไปหมดแล้วจะดำเนินคดีตามกฎหมายก็ว่ากันไปแต่ตอนนี้ประชาชนชาวกทม.เขาหวาดระแวงกองกำลัง ติดอาวุธหรือกลุ่มก่อการร้ายซึ่งพวกนี้ก็มีเครือข่ายอยู่
 เมื่อถามว่า กระบวนการใต้ดินเกิดขึ้นที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อกทม.เหมือนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ด้วยความเคารพต่อความรู้สึกของพี่น้องประชาชนขอเรียนว่าศอฉ.ได้ควบคุมสถานการณ์ได้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งในตอนนี้ด้วยความร่วมมือจากประชาชนชาวกทม. แม้ว่าเรามีความจำเป็นที่จะจำกัดเวลาออกนอกเคหะสถาน แต่ประชาชนก็ให้ความร่วมมือทำให้ตำรวจ-ทหารสามารถปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวัง เหตุและติดตามควบคุมสถานการณ์ได้ เราคิดว่าเราจะสามารถคลี่คลายปัญหานี้ได้
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตอนหนึ่งของการแถลงข่าวนายมิเกลันเจโล ปิปัน (Michelanglo Pipan) เอกอัครราชทูตอิตาลี ได้ลุกขึ้นยืนแสดงความคิดเห็นว่า ขอชมเชยความตั้งใจที่แน่วแน่ของรัฐบาลไทยในการที่รักษาความสงบเรียบร้อยให้แก่บ้านเมือง ท่านก็ได้แสดงถึงความมั่นใจอย่างเต็มที่ของรัฐบาลไทยที่จะแก้ไขสถานการณ์และนำผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้
 นายสุเทพ กล่าวตอบว่า อย่างกรณีของท่านเอกอัคราชทูตอิตาลีนั้น ขอขอบพระคุณที่ท่านได้ให้กำลังใจมีความเชื่อมั่นในรัฐบาล ในขณะเดียวกันก็แสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ผู้สื่อข่าวอิตาเลียนได้มาเสียชีวิตในครั้งนี้ ตนเชื่อว่าท่านคงได้ติดตามข่าวกับสื่อมวลชนแล้วจะเป็นภาพที่ชัดเจน ด้วยกระสุนM79 นัดเดียวกันนั้นได้ทำให้ทหารไทยและผู้สื่อข่าวอิตาเลียนเสียชีวิตอยู่เคียงข้าง กัน ซึ่งมีปรากฏภาพในสื่อฯ เรามีความหวังว่าจากการที่ได้จับกุมผู้ก่อการร้ายได้บางส่วนและจากพยานหลักฐานน่าจะมีโอกาสที่เราจะสืบหาผู้ที่ยิงกระสุนนัดนั้นได้ในอนาคต








ข่าวที่เกี่ยวข้องรถไฟฟ้าบีทีเอสเปิดให้บริการพรุ่งนี้เป็นต้นไป ศอฉ.แถลงโชว์อาวุธ'นปช.'ต่อคณะทูต"หมอพรทิพย์"ยัพบคาร์บอมสี่จุดในม็อบแดง"เหลิม"เสนอเพื่อไทยยื่นญัตติซักฟอก24พ.ค. DSIชี้เหตุไม่จับ"ตู่"มีถกงบสัปดาห์หน้า

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

Blog Archive