Saturday, May 22, 2010

จาตุรนต์ปลุกสังคมต้องไม่ยอมรับรัฐบาลมือเปื้อนเลือด

จาตุรนต์ปลุกสังคมต้องไม่ยอมรับรัฐบาลมือเปื้อนเลือด

จาตุรนต์ ปลุกแดงสู้อีกเอาประชาธิปไตยกลับคืน ชี้รัฐล้มเหลวเจรจาสู่ปรองดอง กลับใช้ความรุนแรงปราบม็อบ สั่ง ส.ส.เพื่อไทยรวบรวมหลักฐานผู้เสียชีวิต-เจ็บแจงสู่สายตาสังคม...เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 22 พ.ค. ที่โรงแรมเรดิสัน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวว่า หลังจากที่กลุ่ม นปช.ยุติการชุมนุมดูเหมือนว่า จะเป็นการเพิ่มวิกฤติอยู่มาก โดยเฉพาะการที่รัฐบาลใช้ความรุนแรงอย่างไร้ทิศทาง จนเกิดการสูญเสีย มีผู้เสียชีวิตกว่า 80 คน และบาดเจ็บร่วม 2,000 คน จึงเห็นว่าวิกฤติจะยิ่งซ้ำเติมยิ่งขึ้นมีการตอบโต้ล้างแค้นเข้าสู่ความขัดแย้งที่มากขึ้น เป็นผลจากการที่รัฐบาลล้มเหลวในการเจรจาสู่ความปรองดอง การกล่าวอ้างของนายกรัฐมนตรีที่ระบุถึงการปรองดองเป็นเพียงคำพูดที่สวยหรู การปฏิบัติตรงข้ามกับคำพูดที่ใช้มาตรการปราบปรามกับกลุ่มผู้ชุมนุมนายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า เมื่อรัฐบาลตัดสินใจใช้กำลังทหารสลายการชุมนุมซึ่งทั่วโลกรับไม่ได้ แต่เหตุการณ์หลังการยุติที่มีการเผาสถานที่ต่างๆ ในลักษณะของความโกรธแค้นไร้ทิศทางนั้นก็อาจมีฝ่ายที่ 3-4 เข้ามาแทรกแซงก็เป็นได้ หากมองย้อนหลังยืนยันว่า ทางออกที่ดีที่สุด คือ การเจรจาและต้องใช้แนวทางการการเมืองแก้ไข ส่วนแผนการปรองดองของนายกฯนั้น ต้องทำความเข้าใจกับเรื่องนี้เสียใหม่ อย่าเอาความเห็นที่แตกต่างทางการเมืองของผู้ที่อยู่ตรงข้ามมาเป็นศัตรู รวมทั้งรัฐบาลเอง และควรใช้กฎหมายตามที่จำเป็น ไม่เกินเลยเพื่อเป็นเครื่องมือทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามทั้งนี้ กระบวนการยุติธรรมจากนี้ต้องน่าเชื่อถือและทุกฝ่ายยอมรับ แต่มีปัญหาคือ ฝ่ายรัฐบาลจะเป็นผู้ควบคุมกลไกการรักษากฎหมายจากนี้ ภายใต้การกำกับสั่งการของนายกฯและรองนายกฯ เมื่อรัฐบาลควบคุมกลไกทางกฎหมายอยู่ ฉะนั้นการดำเนินการตามกฎหมายจึงไม่เกิดความน่าเชื่อถือได้ ทั้งเรื่องการตั้งข้อหาและการพิสูจน์ต่างๆ หรือแม้จะยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตนคาดว่าการต่อสู้ของคนที่เห็นต่างที่ไม่ได้รับความยุติธรรมอาจจะใช้วิธีการต่างๆ ต่อต้านรัฐบาลซึ่งมีโอกาสสูง แต่ตนไม่สนับสนุนขบวนการใต้ดิน เพียงแต่เป็นห่วงว่าอาจจะเกิดขึ้นได้ ถ้าบ้านเมืองยังไม่เป็นประชาธิปไตยและไม่สามารถหาคนผู้ฆ่าประชาชนมาดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมหรือการหาผู้รับผิดชอบต่อผู้ที่เสียชีวิตจำนวนกว่า 80 ศพ จึงอยากให้รัฐบาลพิจารณาให้รอบคอบในการตั้งข้อหาดำเนินคดี ไม่ใช่เหมารวมว่าใครเป็นผู้ก่อการร้ายหมด มิฉะนั้น หากไม่มีความเป็นธรรม ประเทศก็อาจจะถลำลึกกว่านี้เมื่อถามว่า พรรคเพื่อไทยจากนี้ควรมีบทบาทหรือร่วมแสดงความรับผิดชอบอย่างไร นายจาตุรนต์ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยต้องช่วยเหลือดูแลผู้ที่ได้รับความเสียหายและผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งเรื่องอาคาร ทรัพย์สิน และอาชีพต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนเรื่องคดีความต้องนำผู้เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหรือ หากพบว่ามี ส.ส.พรรคเพื่อไทยทำผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและพรรคก็ต้องมีความรับผิดชอบทางการเมือง ส่วนตัวอยากเสนอแนะให้พรรคเพื่อไทยสรุปบทเรียนการชุมนุมที่ผ่านมาและเสนอต่อสังคม โดยให้ยึดการต่อสู้ตามกระบวนการรัฐสภา รวมทั้งต้องไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรง หากจะชุมนุมก็ต้องเป็นไปภายใต้กรอบกฎหมายรัฐธรรมนูญผู้สื่อข่าวถามว่า ขบวนการเสื้อแดงจะมีทิศทางอย่างไรต่อจากนี้ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการชุมนุมครั้งนี้ เสื้อแดงเสียหายอย่างมาก เพราะพลาดโอกาสที่จะประสบความสำเร็จต่อการเจรจาเพื่อยุติการชุมนุม ตนอยู่ในเหตุการณ์การเจรจาและได้พูดคุยกับแกนนำมาตลอด เช่น วันที่ 28 เม.ย. ตนได้พูดคุยกับนายวีระ มุสิกพงษ์ ประธาน นปช.และได้สนับสนุนมติที่จะให้ยุติการชุมนุมเกิดขึ้น แต่ระหว่างที่แกนนำกำลังมีมติสลายการชุมนุมก็จะมีเรื่องแทรกซ้อนมาตลอด เช่น การสลายการชุมนุมที่มีผู้ได้รับบาดเจ็บที่อนุสรณ์สถาน รวมทั้งการยิง พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง จนเสียชีวิต ซึ่งล้วนแต่ทำให้เกิดบรรยากาศที่โกรธแค้น การสลายการชุมนุมจึงเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะการที่ ส.ว.ได้มาเจรจากับแกนนำเสื้อแดงและได้ข้อสรุปว่าพร้อมที่จะพูดคุยกับรัฐบาล แต่รัฐบาลกลับกระชับวงล้อมจนนำไปสู่การปราบปรามประชาชน การที่จะต่อสู้ประชาธิปไตยต่อไปสามารถดำเนินการได้ แต่ต้องมาดูบทเรียนและพลังที่มีอยู่ที่สำคัญต้องยึดแนวทางสันติ อหิงสา ค่อยๆ ฟื้นและก้าวขึ้นมานายจาตุรนต์ ยังเห็นว่า เหตุการณ์พฤษภาทมิฬมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลถูกขับไล่จนอยู่ไม่ได้ ตรงกันข้ามกับเหตุครั้งนี้ เป็นเพราะรัฐบาลได้รับการสนับสนุนจากผู้มีอำนาจหลายฝ่าย ทั้งที่รัฐบาลนี้ทำผิด สังคมไทยต้องไม่ควรยอมรับเพราะประจักษ์ชัดว่า รัฐบาลนี้ทำผิด ส่งกำลังทหารปราบปรามประชาชน.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive