Wednesday, January 30, 2013

บีร็อดจ์รับพอใจฟอร์มหงส์แอบเสียดายได้แค่เจ๊า

บีร็อดจ์รับพอใจฟอร์มหงส์แอบเสียดายได้แค่เจ๊า
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือหงส์แดงลิเวอร์พูลรับพอใจในผลงานของลูกทีม ถึงแม้จะทำได้แค่บุกไปเสมอทีมปืนใหญ่อาร์เซนอล 2-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ด้าน อาร์แซน เวนเกอร์ ก็ออกปากชมลูกทีมใจสู้แต่ก็ยังรู้สึกกังวลในเกมรับ...สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 30 ม.ค. เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือหงส์แดงลิเวอร์พูล ยืนยันพอใจในผลงานของลูกทีม ถึงแม้จะลงท้ายด้วยการบุกไปเสมอทีมปืนใหญ่อาร์เซนอล 2-2 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพุธที่ผ่านมาในการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำไปก่อนถึงสองลูกจาก หลุยส์ ซัวเรซ และ จอร์แดน เฮ็นเดอร์สัน แต่ก็มาแผ่วปลายถูกเจ้าถิ่นไล่ยิงเอาคืนจาก โอลิเวียร์ ชิรูด์ และ ธีโอ วัลคอตต์ ส่งผลให้ทั้งสองทีมทำได้แค่แบ่งแต้มกันไปคนละหนึ่งแต้ม ขณะที่ ลิเวอร์พูล ก็อยู่ที่ 7 ของตารางหลังจบการแข่งขัน ร็อดเจอร์ส กล่าวว่าเรารู้สึกผิดหวังที่ไม่ชนะเพราะในชั่วโมงแรกเราเป็นฝ่ายครองเกมและสร้างโอกาสได้หลายต่อหลายครั้งเกมของเรามีความยืดหยุ่นและก็เหนี่ยวแน่นไปพร้อมกัน ผมไม่สามารถตำหนิลูกทีมได้ พวกเขาทำได้ดีในคืนนี้ เรายิงได้ถึงสองประตูและมีโอกาสที่จะได้มากกว่านี้ขณะที่ฝั่งของ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซืออาร์เซนอล เองก็ได้กล่าวว่าผมเชื่อว่านี้เป็นการแข่งขันฟุตบอลที่ดีที่สุดของทั้งสองทีม เราอาจจะแพ้หรือชนะเลยก็ได้ถ้ามันมีความต่างถึง 3 หรือ 4 ประตูเราแสดงให้เห็นถึงคุณภาพและจิตวิญญานของนักเตะ แต่เราก็ต้องกังวลกับเกมรับ เรารู้ว่าตรงไหนที่สามารถปรับปรุงได้และเราก็ต้องการที่จะมองในแง่บวกสำหรับเกมในคืนนี้ผมรู้สึกได้ว่าเราเล่นกันได้อย่างโดดเด่น. 

เฟอร์กี้รับผีมีดวงที่ชนะ ซูฮกนักบุญมาเยือนแจ่มสุด

เฟอร์กี้รับผีมีดวงที่ชนะ ซูฮกนักบุญมาเยือนแจ่มสุด
เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอมรับทีม ปิศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชคดีไม่น้อยที่คว้าสามแต้มเหนือ นักบุญ เซาแธมป์ตัน ได้ 2-1 พร้อมยกย่องคู่แข่งเป็นทีมที่มาเยือนโอลด์แทรฟเฟิร์ดแล้วทำผลงานได้ดีที่สุดในฤดูกาลนี้...สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ควันหลงหลังเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ทีมจ่าฝูง ปิศาจแดง แมนฯยู เปิดบ้านแซงชนะ นักบุญ เซาแฮมป์ตัน ไปได้ 2-1 โดยเกมนี้ เซาแธมป์ตัน เป็นฝ่ายบุกมาออกนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 3 ของเกม จากการยิงของ เจย์ โรดริเกซ ก่อนที่ เวย์น รูนีย์ จะเหมายิงคนเดียวสองประตูในนาที 8, 27 ให้ทีมคว้าสามคะแนนสำคัญ ช่วยให้โกยแต้มหนีห่าง แมนฯซิตี้ ออกไปเป็น 7 แต้มแล้วขณะที่หลังเกม เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอมรับว่าทีมของเขาโชคดีไม่น้อยที่เป็นฝ่ายชนะไปในเกมนี้ ทั้งที่ฟอร์มครึ่งหลังเป็นรองคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 30 นาทีแรก ผมคิดว่าเราเล่นได้ยอดเยี่ยมทีเดียว แต่พอครึ่งหลัง เซาแธมป์ตัน กลับกลายเป็นทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุดเมื่อมาเล่นที่นี่ในฤดูกาลนี้ และเราโชคดีไม่น้อยที่ยังเป็นฝ่ายชนะไปในที่สุด เซอร์อเล็กซ์ กล่าว

เหนือกว่าทุกอย่าง เบนิเตซ มึนตึ้บ สิงห์บลู เจ๊า เรดดิ้ง ได้ไง!!

เหนือกว่าทุกอย่าง เบนิเตซ มึนตึ้บ สิงห์บลู เจ๊า เรดดิ้ง ได้ไง!!
ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือทีมเชลซี ไม่รู้จะหาคำไหนมาอธิบาย หลังแข้ง สิงห์บลู เสีย 2 ลูกรวด จนโดน เรดดิ้ง ไล่ตีเสมอ 2-2 ช่วงทดเจ็บ ทั้งๆ ท่ี่นำห่าง 2-0 และคุมเกมไว้ได้หมด...สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 31 ม.ค.ว่า เอล ราฟา ราฟาเอล เบนิเตซ รักษาการผู้จัดการทีม เชลซี ยอมรับว่า ไม่รู้จะสรรหาคำใดๆ มาอธิบาย หลังจากลูกทีมโดน เรดดิ้ง เจ้าถิ่นทำช็อก ตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ พลาดสามแต้มไปอย่างเหลือเชื่อ ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาเชลซี มีโอกาสซิวสามแต้มใสๆ จากสนาม มาเดจสกี สเตเดียม หลังจากนำห่าง 2-0 จาก ฮวน มาตา และ แฟรงค์ แลมพาร์ด แต่ เรดดิ้ง ก็ฮึดจนมาตีไข่แตกได้ก่อนหมดเวลา 3 นาที จาก อดัม เล ฟอนเดร ก่อนท่ี่จะเป็นเขาคนเดิม สวมบทฮีโร่ ซัดลูกตีเสมอให้เรดดิ้่ง 2-2 ได้สำเร็จ ในนาทีที่ 95หลังเกม เบนิเตซ ซึ่งกำลังโดนกดดันอย่างหนักจากแฟนบอล สิงห์บลู​ ของตนเอง กล่าวว่า ทุกคนน่าจะเห็นว่า เกมนี้ เราคุมเกมไว้ได้หมดตั้งแต่ตั้งจนจบ มันยากที่จะอธิบายกับสิ่งที่เกิดขึ้น ฟรีคิกสุดท้าย เราเล่นกันผิดพลาดหลายอย่าง เรามีโอกาสมากมายที่จะปิดเกมนี้ แต่ก็ทำไม่ได้ เกมมันเปลี่ยนไป เพราะพวกเขาเล่นบอลยาว มันทำให้เราต้องระมัดระวังมากขึ้นกับข้อผิดพลาดต่างๆ จากการรับลูกเซตพีซ พวกเขามีโอกาสยิงครั้งแรก หลังจากนาทีที่ 78 มันยากที่จะอธิบายว่า เราเสมอได้เช่นไรในเกมนี้ เราทุกคนต้องรับผิดชอบ เราต้องกลับมาคิดกันว่า ทำไมเราถึงไม่ชนะเกมนี้ และจะต้องหยุดข้อผิดพลาดเหล่านั้น กุนซือชาวสเปน เสริมทางด้าน ไบรอัน แม็คเดม็อตต์ นายใหญ่ของ เดอะรอยัลส์ กล่าวอย่างหน้าชื่นตาบาน หลังจากขโมย 1 แต้มมาจากเชลซี ได้อย่างไม่น่าเชื่อว่า ผมแทบไม่เห็นข้อผิดพลาดใดๆ ของเชลซีเลย พวกเขาเล่นได้เยี่ยม และทำให้เราลำบาก แต่เราสามารถเสมอกับทีมแชมป์ของยุโรปได้ ตอนที่เราโดนนำ 2-0 กับอีก 3 นาทีสุดท้ายของเกม 90 นาที.

สนธยา เล็งเข้าเยี่ยม กำนันเป๊าะ วันนี้

สนธยา เล็งเข้าเยี่ยม กำนันเป๊าะ วันนี้
สนธยา ยันไร้นัยทางการเมือง จับ กำนันเป๊าะ เผยอาจไปเยี่ยมพ่อวันนี้...จากกรณีหน่วยคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม บุกจับเจ้าพ่อภาคตะวันออก กำนันเป๊าะ คาด่านเก็บเงินมอเตอร์เวย์ตามหมายจับศาลฎีกาคดีทุจริตขายที่ดินเขาไม้แก้ว ปี 2549 และคดีจ้างวานฆ่า กำนันยูร คนดังเกาะเสม็ดปี 2555 จำคุกรวมกัน 2 คดีร่วม 30 ปี และได้ถูกควบคุมตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และในเวลาต่อมา ก็ถูกส่งตัวไปยัง ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เนื่องจากกำนันเป๊าะ เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ จึงต้องเรียกแพทย์มาวินิจฉัยอาการนั้น เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 31 ม.ค. นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ยังคงเดินทางมาทำงาน ที่กระทรวงวัฒนธรรมตามปกติ ขณะลงจากรถตู้ สังเกตเห็นนายสนธยา มีใบหน้าแจ่มใสมากกว่าวานนี้ จากนั้นได้ขึ้นไปทำงานชั้น 23 โดยมีกำหนดการให้นายต่อ เกรฟ นักแข่งรถรองแชมป์ LMP 2 ปี 2012 ชาวไทย และคณะผู้บริหารจากบริษัท ORECA ซึ่งเป็นธุรกิจด้านมอร์เตอร์สปอร์ต จากประเทศฝรั่งเศส และหลังจากนั้นนายศุภชีพ ดิษเทศ นายกสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทยเข้าพบต่อมาเวลา 10.50 น. นายสนธยา ลงลิฟต์จากชั้น 23 เพื่อมาประชุมจัดทำนโยบายและแผนงบประมาณกระทรวงวัฒนธรรมในปี 2557 ที่ห้องประชุมชั้น 19 โดยมีผู้สื่อข่าวดักรอสัมภาษณ์หน้าลิฟต์เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก นายสนธยา ได้กล่าวทักทายผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงถามว่า ทราบหรือไม่ว่า กำนันเป๊าะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์แล้ว นายสนธยา กล่าวว่า ทราบตามข่าวตามที่สื่อมวลชนเสนอ เมื่อถามว่า อาการกำนันเป๊าะ ขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายสนธยา ตอบว่า ก็อาการปกติอย่างที่เขาเป็นอยู่ คนอายุ 76 ปีแล้ว ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การจับกุมกำนันเป๊าะ ครั้งนี้มีนัยทางการเมืองหรือไม่ นายสนธยา กล่าวว่า คิดว่าไม่มีใครจะไปโยงทางการเมืองไม่มีหรอก ไม่มีการพูดคุยประเด็นทางการเมืองทั้งนั้นเมื่อถามต่อว่าได้คุยกับนายกฯ หรือยัง นายสนธยา กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับใคร การเมืองไม่เกี่ยวเพราะเราเองไม่มีอะไร โดยในช่วงคำถามนี้นายสนธยา เริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียดมากขึ้น โดยผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะเดินทางไปเยี่ยมกำนันเป๊าะ หรือไม่ นายสนธยา กลับหันมาตอบด้วยรอยยิ้มว่าไปวันนี้เลยดีกว่า แต่ขอเข้าประชุมก่อน จากนั้นนายสนธยา ก็เดินเข้าห้องประชุมไปทันที ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากจากคนใกล้ชิดนายสนธยาว่า ตั้งแต่กำนันเป๊าะถูกจับกุมตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายสนธยา ก็ยังไม่ได้เดินทางไปเยี่ยมแต่อย่างใด เนื่องจากอยากให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายและนายสนธยา ก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งมากเกินไป เพราะเกรงว่า อาจจะถูกนำไปโยงกับการเมือง แต่อย่างไรก็ตาม นายสนธยา ก็มีความเป็นห่วงพ่ออยู่แล้วและมีคนรายงานอาการและสภาพความเป็นอยู่มาให้ทราบเป็นระยะๆ. 

สนธยา เล็งเข้าเยี่ยม กำนันเป๊าะ วันนี้

สนธยา เล็งเข้าเยี่ยม กำนันเป๊าะ วันนี้
สนธยา ยันไร้นัยทางการเมือง จับ กำนันเป๊าะ เผยอาจไปเยี่ยมพ่อวันนี้...จากกรณีหน่วยคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม บุกจับเจ้าพ่อภาคตะวันออก กำนันเป๊าะ คาด่านเก็บเงินมอเตอร์เวย์ตามหมายจับศาลฎีกาคดีทุจริตขายที่ดินเขาไม้แก้ว ปี 2549 และคดีจ้างวานฆ่า กำนันยูร คนดังเกาะเสม็ดปี 2555 จำคุกรวมกัน 2 คดีร่วม 30 ปี และได้ถูกควบคุมตัวไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และในเวลาต่อมา ก็ถูกส่งตัวไปยัง ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์เนื่องจากกำนันเป๊าะ เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ จึงต้องเรียกแพทย์มาวินิจฉัยอาการนั้น เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 31 ม.ค. นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ยังคงเดินทางมาทำงาน ที่กระทรวงวัฒนธรรมตามปกติ ขณะลงจากรถตู้ สังเกตเห็นนายสนธยา มีใบหน้าแจ่มใสมากกว่าวานนี้ จากนั้นได้ขึ้นไปทำงานชั้น 23 โดยมีกำหนดการให้นายต่อ เกรฟ นักแข่งรถรองแชมป์ LMP 2 ปี 2012 ชาวไทย และคณะผู้บริหารจากบริษัท ORECA ซึ่งเป็นธุรกิจด้านมอร์เตอร์สปอร์ต จากประเทศฝรั่งเศส และหลังจากนั้นนายศุภชีพ ดิษเทศ นายกสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทยเข้าพบต่อมาเวลา 10.50 น. นายสนธยา ลงลิฟต์จากชั้น 23 เพื่อมาประชุมจัดทำนโยบายและแผนงบประมาณกระทรวงวัฒนธรรมในปี 2557 ที่ห้องประชุมชั้น 19 โดยมีผู้สื่อข่าวดักรอสัมภาษณ์หน้าลิฟต์เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก นายสนธยา ได้กล่าวทักทายผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงถามว่า ทราบหรือไม่ว่า กำนันเป๊าะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลของกรมราชทัณฑ์แล้ว นายสนธยา กล่าวว่า ทราบตามข่าวตามที่สื่อมวลชนเสนอ เมื่อถามว่า อาการกำนันเป๊าะ ขณะนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายสนธยา ตอบว่า ก็อาการปกติอย่างที่เขาเป็นอยู่ คนอายุ 76 ปีแล้ว ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การจับกุมกำนันเป๊าะ ครั้งนี้มีนัยทางการเมืองหรือไม่ นายสนธยา กล่าวว่า คิดว่าไม่มีใครจะไปโยงทางการเมืองไม่มีหรอก ไม่มีการพูดคุยประเด็นทางการเมืองทั้งนั้นเมื่อถามต่อว่าได้คุยกับนายกฯ หรือยัง นายสนธยา กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกับใคร การเมืองไม่เกี่ยวเพราะเราเองไม่มีอะไร โดยในช่วงคำถามนี้นายสนธยา เริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียดมากขึ้น โดยผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จะเดินทางไปเยี่ยมกำนันเป๊าะ หรือไม่ นายสนธยา กลับหันมาตอบด้วยรอยยิ้มว่าไปวันนี้เลยดีกว่า แต่ขอเข้าประชุมก่อน จากนั้นนายสนธยา ก็เดินเข้าห้องประชุมไปทันที ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากจากคนใกล้ชิดนายสนธยาว่า ตั้งแต่กำนันเป๊าะถูกจับกุมตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายสนธยา ก็ยังไม่ได้เดินทางไปเยี่ยมแต่อย่างใด เนื่องจากอยากให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมายและนายสนธยา ก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งมากเกินไป เพราะเกรงว่า อาจจะถูกนำไปโยงกับการเมือง แต่อย่างไรก็ตาม นายสนธยา ก็มีความเป็นห่วงพ่ออยู่แล้วและมีคนรายงานอาการและสภาพความเป็นอยู่มาให้ทราบเป็นระยะๆ. 

มาร์คยันสุเทพพร้อมแจงปมประมูลโรงพัก

มาร์คยันสุเทพพร้อมแจงปมประมูลโรงพัก
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยืนยัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมชี้แจงปมประมูงสร้างโรงพักฉาว ให้เจ้าตัวตัดสินใจจะฟ้องกลับดีเอส อีกหรือไม่ ชี้รวบ กำนันเป๊าะ ตัวอย่างการบังคับใช้กฎหมาย... นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจกองปราบปราม สามารถจับกุมตัว นายสมชาย คุณปลื้ม หรือ กำนันเป๊าะ ที่ถูกศาลฎีกาพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ว่า เป็นตัวอย่างที่ดีในการบังคับใช้กฎหมาย และเป็นตัวอย่างสำหรับการดำเนินคดีกับบุคคลอื่น ที่ถูกตัดสินแล้ว รวมถึงกรณีของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ด้วย ถือเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายที่จะทำให้สังคมยอมรับว่าประเทศไทย พยายามบังคับใช้กฎหมายจริงจัง เจ้าหน้าที่จึงมีหน้าที่ ต้องดำเนินการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ มาดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย ส่วนกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เคยระบุว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางกลับมาจะไปรับด้วยตัวเอง จะเป็นสัญญาณว่ากฎหมาย จะไม่ถูกบังคับใช้หรือไม่นั้น ว่า ส่วนตัวเห็นว่า หากไปรับเพื่อนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ไปส่งคุก ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะสิ่งแรกที่ต้องทำหลัง พ.ต.ท.ทักษิณ กลับไทยคือ การไปรับโทษตามคำพิพากษาของศาลฎีกาก่อน และจะเป็นจุดเริ่มต้นว่าทุกฝ่ายยอมรับกฎหมาย ส่วนหลังจากนั้นจะมีกระบวนการอะไรตามกฎหมายก็ว่ากันไป“มาร์ค” ยัน “เทือก” พร้อมแจงกรณีโรงพักตอม่อผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวถึงกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะดำเนินคดีกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ เกี่ยวกับการก่อสร้างโรงพักทั่วประเทศ ว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งได้สอบถามนายสุเทพ ก็ยืนยันว่าพร้อมที่จะชี้แจงทุกอย่าง และในวันนี้ก็มีการถามกระทู้ของรัฐบาลในสภาฯ ด้วย ส่วนนายสุเทพ จะมีการฟ้องกลับดีเอสไอเหมือนกับที่ได้ฟ้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ อธิบดีดีเอสไอและพวกไปก่อนหน้านี้ ในคดีที่ตั้งข้อหาตนและนายสุเทพว่าร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลหรือไม่นั้น คงต้องถามนายสุเทพว่าจะตัดสินใจอย่างไร เพราะอยู่ในระหว่างการรวบรวมข้อเท็จจริง สำหรับความล่าช้าในการก่อสร้างโรงพัก ที่หยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นนั้น ตนเห็นว่า ก่อนหน้านี้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้เคยอภิปรายในสภาฯ และปัญหาก็อยู่ในมือของรัฐบาลชุดนี้ มานานถึงเกือบหนึ่งปีครึ่งแล้ว จึงไม่ทราบว่า เรื่องที่ร้องเรียนมามีปัญหาตรงไหน อย่างไร แต่นายสุเทพยืนยันว่า พร้อมพิสูจน์ความจริงทุกอย่าง และได้สอบถามผู้ปฏิบัติเกี่ยวการกล่าวหาว่ามีการรวมศูนย์อำนาจมาไว้ที่รองนายกรัฐมนตรีนั้นก็ยืนยันว่าเป็นเรื่องปกติห่วงทุนนอกไหลเข้า ทำเกิดฟองสบู่ เตือนรัฐอย่าแทรกแซง ธปท. พร้อมกันนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงปัญหาค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องว่า ทางการต้องดูไม่ให้เกิดความผันผวนมากจนเกินไป พร้อมดูแลเงินต่างประเทศที่ไหลเข้ามา ต้องดูแลไม่ให้เกิดฟองสบู่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมีมาตรการในการดูแล ส่วนความเห็นที่ขัดแย้งกันระหว่าง นายวีรพงษ์ รามางกูร ประธาน ธปท. กับนายประสาน ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธปท. เกี่ยวกับการกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่นายวีรพงษ์เห็นว่า ควรกดดอกเบี้ยลงต่ำเพื่อป้องกันเงินทุนไหลเข้า แต่นายประสาน มองว่า ไม่ใช่แนวทางในการแก้ปัญหานั้น ส่วนตัวเห็นว่าเป็นเรื่องของคณะกรรมการนโยบายการเงินที่จะต้องพิจารณา ที่มีหลักเกณฑ์โดยยึดเป้าหมายเงินเฟ้อเป็นหลักอยู่แล้ว ทั้งนี้ ยังเห็นว่าการจะใช้เรื่องดอกเบี้ย มาแก้ปัญหาต้องมองอย่างสมดุลด้วย คือ ถ้าเห็นว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะต้องลดแรงกดดันเงินเฟ้อ ก็ต้องขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้น แต่การขยับขึ้นจะมีผลต่อเรื่องเงินทุนไหลเข้า เพราะฉะนั้น ก็ต้องดูให้เกิดความพอดี โดยอย่าให้เป็นเรื่องการเมือง ขอให้เป็นเรื่องทางเทคนิคว่าจะควบคุมเงินเฟ้อ กับการไหลเข้าของเงินต่างประเทศอย่างไร แต่ต้องไม่ใช่ทำเพื่อหวังประโยชน์ทางเศรษฐกิจไปใช้ในทางการเมือง ส่วนความกังวลเกี่ยวกับการเก็งกำไรค่าเงินบาทนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลไทยไม่ได้กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนที่ตายตัว ดังนั้น รัฐบาลจึงไม่ควรเอาตัวเองไปอยู่ในสถานะที่เหมือนกับต้องไปต่อสู้กับใคร โดยเห็นว่าหากรัฐบาลดูแลเงินทุน ที่เข้ามาไม่ให้เป็นฟองสบู่ได้ก็จะไม่เกิดปัญหากับเศรษฐกิจไทย และมีความเชื่อมั่นในบุคลากรของธนาคารแห่งประเทศไทย ในการดูแลโดยการเมืองอย่าเข้าไปแทรกแซง และธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีกฎหมายคุ้มครองอยู่.

มาร์คยันนิรโทษกรรมต้องไม่เกี่ยวคดีอาญาและการทุจริต

มาร์คยันนิรโทษกรรมต้องไม่เกี่ยวคดีอาญาและการทุจริต
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ วอนนายกรัฐมนตรีสานต่อเป็นเจ้าภาพจัดเวิลด์ เอ็กซ์โปร 2020 ยืนยันประเทศได้ประโยชน์ ฝ่ายค้านหนุนเต็มที่ พร้อมแจงที่มาข่าว ซูเอี๋ย ล้มคดีฟ้องหมิ่น จตุพร ขณะกรณีนิรโทษกรรม พรรคประชาธิปัตย์ยันต้องไม่เกี่ยวคดีอาญาและการทุจริต...วันที่ 31 ม.ค. ที่รัฐสภา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวหลังจากที่คณะทำงานคัดเลือกประเทศเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โปร เข้าพบว่า อยากให้รัฐบาลนี้สานต่อสิ่งที่รัฐบาลชุดที่แล้วได้เสนอตัวให้ไทยเป็นเจ้าภาพงานนี้ ซึ่งจะมีขึ้นในปี 2563 เพราะเป็นโอกาสของประเทศ ซึ่งฝ่ายค้านยืนยันสนับสนุนเต็มที่ โดยได้ย้ำจุดแข็งของประเทศเราเรื่องการท่องเที่ยว และพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก็มีความหมายทางประวัติศาสตร์ อีกทั้งยังสอดคล้องกับแนวคิดในการกระจายเมืองออกไปด้วย และยังมีเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่เหมาะสมกับชาวโลกและชาวไทย ให้ยึดแนวทางปรัชญาพอเพียง จึงอยากให้รัฐบาลมีทีมทำงานเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ ไม่ควรปล่อยให้หน่วยงานเดียวทำ จากนี้ไปผู้นำหรือรัฐมนตรี ไปประเทศไหนก็ต้องหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาขอความสนับสนุน หรือเดินสายขอคะแนน แต่ถ้ารัฐบาลไม่เดินหน้า ประเทศก็จะเสียโอกาส เพราะเป็นงานใหญ่ระดับต้นๆ ของโลกเมื่อถามว่า มีข่าวทำนองว่ารัฐบาลไทยอาจจะตัดสินใจไม่แข่งขันเต็มที่เพื่อเปิดทางให้ดูไบ ได้รับการคัดเลือกเป็นเจ้าภาพจัดแทน เพราะมีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับผู้นำดูไบ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ก็เป็นห่วงเช่นกัน นายกฯ ต้องรีบยืนยันที่จะเดินหน้าและเป็นผู้นำในการมอบหมายให้รองนายกฯ หรือรัฐมนตรี ระดมหน่วยงานหารือกันเพื่อหาเสียงทั่วโลก อย่าไปคิดว่างานนี้เป็นของรัฐบาลประชาธิปัตย์เริ่มต้นไว้ เพราะหากจะได้จัดจริงก็ต้องรอเวลาอีก 7 ปีข้างหน้า ซึ่งในวันนั้นก็ยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีนอกจากนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวว่า จะไกลเกลี่ยกับ นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. หลังจากที่ดำเนินการฟ้องร้องนายจตุพรฐานหมิ่นประมาท โดยระบุว่า กรณีนี้ตนได้ฟ้องนายจตุพรในข้อหาหมิ่นประมาทเป็นคดีที่ 4 และตัดสินไปแล้ว 3 คดีโดยมีการสืบพยานโจทก์ไปแล้ว ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วศาลได้นัดสืบพยานฝ่ายของนายจตุพรในฐานะจำเลย และตนก็จะไม่ได้ไป โดยศาลได้ยกประเด็นการไกล่เกลี่ยขึ้นมาว่าเป็นนโยบายของศาล ตนก็บอกทนายความไปว่า จำเลยต้องยอมรับว่าสิ่งที่พูดกล่าวหาหมิ่นประมาทตนทั้งหมดเป็นเท็จ และต้องประกาศข้อเท็จจริงในหน้าหนังสือพิมพ์ พร้อมเงื่อนไขว่าจะไม่มีการทำเช่นอีก เพราะจะไปบอกว่าไม่ร่วมมือกับศาลไม่ได้ ในส่วนของนายจตุพรก็เข้าใจว่า มาเสนอว่าจะขอถอนคำพูดในทำนองนั้น ปรากฏว่าศาลได้สั่งว่า ขอให้ตนไปด้วยตัวเองในการนัดสืบพยานครั้งต่อไปในเดือน มี.ค .ฉะนั้น เมื่อตนเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก็ต้องปฏิบัติ แต่ยังไม่มีการตกลง เพราะเป็นสิทธิ์ของตน สุดท้ายว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่ยืนยันว่าจะให้เปลี่ยนจุดยืนนั้น ไม่มีแน่ จะให้ไปซูเอี๋ยทำไม ยืนยันว่าขณะนี้มันยังไม่มีการตกลงส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยยื่นเรื่องให้ประธานสภาส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์นั้น นายอภิสิทธ์ กล่าวว่า ขอยืนยันว่า คำสั่งที่อ้างว่าตนขาดคุณสมบัตินั้น เป็นคำสั่งที่ไม่ชอบโดยกฎหมาย และตนได้ฟ้องศาลปกครองไปแล้ว ฉะนั้น เรื่องนี้อย่างไรก็ต้องไปจบที่ศาลอยู่แล้ว ทั้งศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ และตนก็ไม่ได้กังวลใดๆ ในเรื่องนี้ ให้เป็นไปตามกระบวนการพร้อมกันนี้ นายอภิสิทธิ์ ยังกล่าวถึงกรณีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ว่า ได้เสนอเป็นรูปธรรมไปนานแล้วว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมสนับสนุนให้มีการนิรโทษกรรมเฉพาะผู้ที่กระทำความผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่รวมกับผู้ที่ทำผิดคดีอาญาและคดีทุจริต ที่สำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่าใครจะเข้าเป็นแม่งานในเรื่องนี้ แต่อยู่ที่ความจริงใจว่า จะเอาจุดร่วมที่เป็นจุดเริ่มต้นของความปรองดองมาใช้หรือไม่ ถ้ายึดผลประโยชน์ของแต่ละกลุ่มก็ไม่จบ เพราะหากรัฐบาลยังมีแนวคิดว่าการปรองดองจะเริ่มต้นได้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ต้องพ้นผิดด้วย ก็จะทำให้เริ่มต้นไม่ได้ จึงเห็นว่าควรจะช่วยกันหาทางออกให้กับจุดที่ทุกฝ่ายยอมรับกันได้ คือ รัฐบาลถอนกฎหมายปรองดอง 4 ฉบับ ที่ค้างอยู่ในสภาฯ ออกไป จากนั้นมาหารือกันจะให้สภาฯ หรือใครเป็นเจ้าภาพ และกำหนดให้ชัดว่า จะนิรโทษกรรมเฉพาะผู้ที่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินเท่านั้น แต่รัฐบาลก็ยังไม่มีสัญญาณตอบรับในเรื่องนี้ จึงขึ้นอยู่กับว่านายกรัฐมนตรีจะเห็นแก่ชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดีในเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน หรือยังเห็นแก่พี่ชาย เพราะถ้าเห็นแก่ชาวบ้านที่ถูกดำเนินคดี หรือผู้ชุมนุมในกรณีฝ่าฝืนการห้าม ชุมนุมก็มาแก้ตรงนี้ทุกอย่างก็จบ.

Blog Archive