Monday, April 8, 2013

มาร์คอัดแม้วสร้างความสับสน กู้ 2 ล้านล้าน

มาร์คอัดแม้วสร้างความสับสน กู้ 2 ล้านล้าน
อภิสิทธิ์ อัด ทักษิณ อย่าสร้างความสับสน กรณีกู้เงิน 2 ล้านล้าน ยกระดับรายได้ให้ ปชช.ทั้งประเทศ ย้ำ ปชป.ใช้หนี้ IMF ตามกำหนด ส่วนการใช้หนี้ของ รบ.ทักษิณ ทำชาติเสียค่าปรับจำนวนมาก...วันที่ 8 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ไม่อยากให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สร้างความสับสนให้กับประชาชน กรณีที่ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า การกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ไม่น่ากังวล เพราะจะยกระดับรายได้ของประชาชน เนื่องจากก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นผู้สไกป์ ระบุว่าจะทำโครงการต่างๆ โดยไม่ต้องกู้เงิน แต่มาวันนี้กลับบอกว่า ต้องเป็นหนี้ก่อนจึงจะรวยทั้งนี้ ส่วนตัวยังมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พยายามสร้างความสับสน เรื่องการใช้หนี้ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) โดยอ้างว่า รัฐบาลต้องสามารถใช้หนี้ได้ก่อนกำหนด แต่ความเป็นจริง รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้ามาบริหารประเทศ และเตรียมเงินสำหรับการใช้หนี้ตามกำหนดแล้ว และการใช้หนี้ในรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำให้ต้องเสียค่าปรับเป็นจำนวนมาก.

มาร์คกรีดนิคมเป็นกลางแบบมีอคติ ยังมีแปรญัตติ60วันค้างอยู่

มาร์คกรีดนิคมเป็นกลางแบบมีอคติ ยังมีแปรญัตติ60วันค้างอยู่
มาร์ค กรีด นิคม เป็นกลางแบบมีอคติ ปัด ปชป.ไม่คิดตีรวนแปรญัตติ 60 วัน แต่ข้อเท็จจริง อ้างญัตติยังค้างอยู่ ปธ.สภาฯ จึงต้องมีการเรียกลงมติฯ ตามข้อบังคับ ไม่เช่นนั้นถือว่ามีเจตนาฝ่าฝืน รธน. ต้องยื่นถอดถอน...วันที่ 8 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวถึงกรณีที่ นายนิคม ไวรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ที่กล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องการตีรวนเรื่องกระบวนการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สมบูรณ์ กรณียังมีญัตติเรื่องแปรญัตติ 60 วัน ค้างอยู่ว่า นายนิคมก็ทำตัวเป็นกลางแบบนายนิคม คือมีอคติกับผู้พยายามรักษาความถูกต้อง ความจริงคนเป็นประธานต้องรักษากฎระเบียบ ไม่ใช่ผลประโยชน์ของตนเอง ในฐานะผู้เสนอญัตติ เพราะข้อเท็จจริงปฏิเสธไม่ได้ว่า ญัตติมีการเสนอรับรองถูกต้องแล้ว ประธานกำลังขอมติ แต่องค์ประชุมไม่ครบ ญัตติจึงยังค้างอยู่ ข้อบังคับเขียนไว้อย่างนี้ ดังนั้น หากนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ไม่เรียกประชุมรัฐสภาเพื่อลงมติ ก็จะต้องถือว่ามีเจตนาที่จะฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ซึ่งเข้าข่ายยื่นถอดถอนได้ เพราะการประชุมสภาฯ ต้องมีองค์ประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง แต่ประธานสรุปข้อยุติของญัตติโดยที่องค์ประชุมไม่ครบ ซึ่งหลังสงกรานต์คงจะมีความชัดเจน โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้าน ติดตามเรื่องนี้อยู่นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการทำงานของกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญคิดว่ายังเดินต่อไปได้ เพราะในส่วนการตั้งกรรมาธิการถูกต้องแล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่การแปรญัตติ ตนถือว่ายังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน เพราะมีญัตติ 60 วันค้างอยู่ ดังนั้น หากมีการแปรญัตติ หลังวันที่ 15 ก็คงเกิดการโต้แย้งตามมา.

ศึกชิงรองปธ.วุฒิสภา ไม่คึก นฤมลกลุ่ม40ส.ว.มาแรง

ศึกชิงรองปธ.วุฒิสภา ไม่คึก นฤมลกลุ่ม40ส.ว.มาแรง
ศึกชิงรองปธ.วุฒิสภา ไม่คึก นฤมล กลุ่ม 40 ส.ว.มาแรง ด้านชมรมสภาสตรียื่นหนังสือออกโรงหนุน ส.ว.หญิงทำหน้าที่ พร้อมร้อง ส.ว.ทุกท่าน เลือก ส.ว.หญิง ดำรงตำแหน่ง วอน ส.ว.ชาย สละสิทธิ์... วันที่ 8 เม.ย. นายสุรเดช จิรัฐิติเจริญ ส.ว.ปราจีนบุรี กล่าวถึงการเลือกรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 แทน นางพรทิพย์ โล่ห์วีระ จันทรรัตนปรีดา ส.ว.ชัยภูมิ ที่ลาออกไปว่า ยืนยันว่าจะไม่ลงชิงตำแหน่งตามที่มีชื่อของตนเป็นแคนดิเดตด้วย เพราะเคยลงชิงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 มาแล้ว ควรเปิดโอกาสให้เพื่อนสมาชิกคนอื่น เดี๋ยวจะถูกมองว่าลงชิงทุกตำแหน่ง ขณะนี้มีผู้เปิดตัวลงแข่ง 4 คน คือ นพ.นายอนันต์ อริยะชัยพาณิชย์ ส.ว.สุรินทร์ นายวิทยา อินาลา ส.ว.นครพนม นางนฤมล ศิริวัฒน์ ส.ว.อุตรดิตถ์ และ น.ส.สุมล สุตะวิริยะวัฒน์ ส.ว.เพชรบุรี โดยไม่มี ส.ว.สรรหาลงแข่งด้วย เพราะอยากเปิดโอกาสให้ ส.ว.เลือกตั้งทำหน้าที่ต่อ เพราะเหลือวาระอีกเพียงปีเศษ  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้สมัครทั้ง 4 คน มีการเคลื่อนไหวทั้งเดินสายและโทรขอคะแนนจากเพื่อน ส.ว.ด้วยกัน อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีกฎระเบียบบังคับ แต่ที่ผ่านมาตำแหน่งรองประธานวุฒิสภาคนที่ 2 จะเป็นที่รับทราบกันว่าเป็นโควตาของ ส.ว.หญิง ทั้ง น.ส.ทัศนา บุญทอง ส.ว.สรรหา และนางพรทิพย์ ทำให้กระแสเลือกผู้หญิงยังคงมีอยู่ดังนั้น การชิงชัยครั้งนี้จึงน่าจะเป็นการชิงชัยกันระหว่าง ส.ว.หญิงด้วย กันเอง โดย น.ส.สุมล มีกลุ่มสนับสนุนเป็นกลุ่ม 40 ส.ว. ขณะที่นางนฤมลจะได้เสียงสนับสนุนจาก ส.ว.สายเลือกตั้ง เกือบทั้งหมด รวมทั้ง ส.ว.สรรหาบางส่วน จึงถือว่ามีโอกาสสูงที่จะได้รับเลือก แต่คาดว่าน่าจะต้องลงคะแนนกัน 2 รอบ เพราะรอบแรกเชื่อว่าจะไม่มีใครได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่ง เสียงน่าจะแตกออกไป ด้านนางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานชมรมสมาชิกรัฐสภาสตรี กล่าวว่า ทางชมรมฯ เห็นว่าตำแหน่งดังกล่าวควรเป็นของ ส.ว.สตรี โดยทางชมรมฯ จะยื่นหนังสือเปิดผนึกถึง ส.ว.ทุกคน ก่อนจะลงคะแนนเลือกกันในวันที่ 9 เม.ย.นี้ เพื่อเรียกร้องใน 2 ข้อ คือ 1. ขอให้ ส.ว.ชาย ที่จะลงแข่ง อย่าลงแข่งเลย หลีกทางให้ ส.ว.สตรี เพื่อให้คงไว้ซึ่งแบบอย่างที่ดีงามเหมือนเช่นที่ผ่านมา 2. ขอเรียกร้องให้ ส.ว.ทุกท่าน ลงคะแนนเลือก ส.ว.สตรี มาทำหน้าที่เป็นรองประธานคนที่ 2 ส่วนจะเป็นใครนั้น ทางชมรมฯ ไม่ติดใจ เพราะถือว่าทุกท่านมีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์การทำงาน.

Blog Archive