วุฒิฯผ่านร่างพรบ.ปชช.เข้าชื่อลดเหลือ 1หมื่น เสนอกม.ได้
วันที่ 5 พ.ย. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มีนางพรทิพย์ โล่วีระ จันทร์รัตน์ปรีดา รองประธานวุฒิสภา เป็นประธาน เพื่อพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอกฎหมายโดยมีสาระสำคัญคือ การแก้ไขเนื้อหาที่กำหนดให้มีผู้ริเริ่มในการรวบรวมการเข้าชื่อของผู้มี สิทธิเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยกว่า 10,000 รายชื่อ จากเดิมต้องใช้ 5 หมื่นชื่อ ในการเสนอร่าง พ.ร.บ.ที่มีหลักการเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพของชนชาวไทย หรือแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและใช้หลักฐาน รับรองเพียงสำเนาบัตรประชาชน
รวมทั้งกำหนดให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูป กฎหมายหรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ช่วยประชาชนจัดทำร่างกฎหมายด้วย
ทั้ง นี้ ในการประชุมมีการถกเถียงกันถึงบทลงโทษตามมาตรา 13 และ 14 ซึ่งกำหนดให้บุคคลที่ปลอมแปลงเอกสารและลายมือชื่อและใช้ทรัพย์สินจูงใจ หรือ ใช้อิทธิพลขู่เข็ญให้ผู้ใดร่วมลงชื่อ ต้องโทษจำคุก 5-10 ปี หรือปรับ 1-2 แสนบาท
โดยกรรมาธิการวิสามัญฯเสียงข้างมาก ต้องการให้ตัดออกเพราะเห็นว่าอาจเป็นอุปสรรคต่อการใช้สิทธิของประชาชน
โดย พล.ต.เฉลิมชัย เครืองาม ส.ว.สรรหากล่าวว่า การตัดบทกำหนดโทษดังกล่าว จะเป็นอันตรายต่อระบอบ ประชาธิปไตย เพราะจะเปิดช่องให้มีการคอรัปชันอำนาจ โดยการจ้างวานหรือปลอมแปลง รายชื่อเพื่อเสนอร่างกฎหมายที่อาจเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง โดยเฉพาะในภาวะที่บ้านเมืองมีการแบ่งสีแบ่งขั้วอยู่ในขณะนี้จึงไม่เห็นด้วย ที่ตัดบทบัญญัตินี้ออก แต่เห็นด้วยหากจะลดอัตราโทษได้
ที่สุดที่ ประชุมวุฒิสภาเสียงข้างมาก ไม่ให้ตัดบทกำหนดโทษออกจากนั้น มีมติรับ ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว ในวาระ 3 ด้วยคะแนน 99 ต่อ 2 เสียง โดยขั้นตอนต่อจากนี้ จะส่งร่างพ.ร.บ.คืนให้สภาผู้แทนราษฎร พิจารณาว่า จะเห็นด้วย กับการแก้ไขของวุฒิสภาหรือไม่ หากสภาฯไม่เห็นด้วย ต้องตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญร่วมกันของสองสภาฯพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ร่วมกันต่อไป
No comments:
Post a Comment