Wednesday, March 31, 2010

ปชป.ตอกแม้วเพ้อ ทวงคืน ปชต. จี้เลิกหนีคดี

ปชป.ตอกแม้วเพ้อ ทวงคืน ปชต. จี้เลิกหนีคดี

นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ บุรณัชย์ ตอก แม้ว เพ้อเจ้อทวงคืนประชาธิปไตย แต่หนีคดี ชักใยป่วน  ชี้ทัศนคติ เสธ.แดง เป็นภัยต่อสังคม งง ทักษิณ ฟ้องศาลโลกทั้งที่คดียังไม่สิ้นสุด ... เมื่อวันที่ 31 ม.ค. นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีการส่งสัญญาณในหลายส่วนที่จะบ่งบอกถึงความรุนแรง วุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในสังคม ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตกับการที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้ทวิสเตอร์มา ด้วยข้อความที่ตรงกันข้ามกับการเคลื่อนไหวของเครือข่าย  โดยอ้างว่าจะนำพาประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตย และยึดแนวทางการไม่ใช้ความรุนแรงของมหาตมะคานธีนั้น ตนเห็นว่าพฤติกรรมที่หนีคดีไปต่างประเทศ  และชักใยให้บ้านเมืองวุ่นวาย เพื่อให้ตนเองพ้นผิด และขณะเดียวกันยังสนับสนุนให้ประชาชนทำผิดกฎหมายก่อการจราจล เผาบ้านเผาเมืองนั้น ตนอยากถามว่าพฤติกรรมดังกล่าวนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับการทวงคืนประชาธิปไตย และการสร้างความวุ่นวาย รุนแรงให้กับประเทศนั้น เป็นพฤติกรรมของผู้มีอหิงสาจริงหรือไม่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมควรจะใช้วิจารณญาณในการพิจารณา การที่เครือข่ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ออกมาพูดส่งสัญญาณแห่งความรุนแรงอย่างชัดเจนในหลายส่วน ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวในรูปแบบของผู้ก่อการร้ายมากว่าจะอ้างว่าเป็นนัก ประชาธิปไตยนพ.บุรณัชย์ กล่าวต่อว่า ในขณะเดียวกันกรณีที่ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกมาพูดจาในลักษณะที่สร้างความหวาดกลัวให้กลับสังคมแล้ว ยังส่อให้เห็นว่าจิตในผู้นั้นไม่สมประกอบเพราะพฤติกรรมนี้แสดงให้เห็นชัดว่า บุคคลนี้ขาดความยับยั้งสติ และมีพฤติกรรมนิยมความรุนแรง และเป็นภัยต่อสังคมอย่างชัดแจ้ง ภาครัฐไม่ควรจะให้บุคคลที่อาจจะทำอันตรายต่อผู้อื่นนั้น อยู่ร่วมกับสังคมตามปกติ แต่ควรจะดำเนินการตามกฎหมายโดยด่วน ขณะเดียวกันมาตรการสร้างความมั่นใจให้ประชาชนควรจะมีการขยายผลไปสู่กลุ่ม บุคคลอื่น ที่มีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ที่จังหวัดอุดรธานี ที่นายขวัญชัย ได้มีการพูดจาชัดจูงระหว่างการประชุมของอดีตนายทหารพรานค่ายปักธงชัยว่า ให้เตรียมเอาน้ำมันใส่ขวดเพื่อเผาศาลกลางจังหวัด โดยอ้างเหตุการปฏิวัตินั้น สิ่งนี้ถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวให้เกิดความรุนแรงเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันก็อยากให้ภาครัฐเร่งรัดดำเนินการต่อการปลุกระดมโดยใช้วิทยุชุมชน ซึ่งถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวโดยใช้คลื่นความถี่ของรัฐเพื่อสร้างความแตกแยก ในสังคมไทย นพ.บูรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมตัวไปนำคดีเข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก ตนเห็นว่าเร็วเกินไปที่จะดำเนินการดังกล่าว เพราะคดีก็ยังไม่ถึงที่สิ้นสุด หากอยู่ในเขตอำนาจก็สามารถทำได้ ซึ่งดีกว่าการใช้เครือข่ายส่วนตัวชักจูงให้คนสร้างความวุ่นวายคุกคามการ ทำงานต่อศาล แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม ติดสินบนตุลาการ หรือให้ข่าวกับสื่อต่างประเทศเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของกระบวนการ ยุติธรรม และสถาบันตุลาการของไทย พรรคฯเห็นว่าเนื่องจากกระบวนการยังไม่สิ้นสุดพรรคจึงอยากเรียร้องของให้ทุก ฝ่ายให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปตามปกติ ไม่ว่าผลตัดสินจะเป็นเช่นไร หากพิสูจน์ทราบว่ามีความบริสุทธิ์สังคมก็จะให้การยอมรับ แต่หากเป็นอย่างอื่นก็ยังสามรถดำเนินการสู่ขั้นตอนต่อไปได้ ขณะเดียวกันการที่กลุ่ม นปช. และพรรคเพื่อไทย พยายามจะหยับยกกระบวนการพิจารณาเรื่องเงินบริจาค 258 ล้านบาท ของพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาเทียบเคียงนั้น พรรคอยากให้ทุกฝ่ายยอมรับการทำงานของกระบวนการยุติธรรมไม่ว่าส่วนขององค์ อิสระ และสถาบันตุลาการ ให้เดินหน้าไปโดยปราศจากการแทรกแซงใดทั้งสิ้น ในเรื่องนี้พรรคถือว่าทุกเรื่องต้องตัดสินบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงในแต่ละ กรณี และขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันประคับประคองบ้านเมืองให้เดินไปสู่ความปกติ และสามารถบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนอย่างเท่าเทียม และมาตรฐานเดียวกัน.


NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive