Saturday, March 20, 2010

ใครเป็นต่อใครเป็นรอง

ใครเป็นต่อใครเป็นรอง



คมชัดลึก : ถึงแม้กระแสเรียกร้องให้เปิดการเจรจากันระหว่างฝ่าย นปช. และ ทักษิณ ชินวัตร กับฝ่ายรัฐบาล เพื่อให้สถานการณ์บ้านเมืองที่เหมือนกำลังไต่อยู่ปากเหว ได้ชักเท้ากลับไปหาที่ปลอดภัย






 จับหางเสียงในเรื่องนี้ รัฐบาลเปิดทางพร้อมพูดคุยภายใต้กฎกติกา และความเป็นไปได้ที่นำพาสังคมไปสู่ความสงบ
 ส่วน นปช.ก็ไม่ได้ปิดหนทางนี้อย่างสิ้นเชิง เพียงแต่ตั้งเงื่อนไขไว้สูงลิบว่า ต้องยุบสภาก่อน ไม่อย่างนั้นไม่คุย
 จะมีก็เพียงแค่ ทักษิณ เท่านั้น ที่โฟนอินมายังเวทีปราศรัยสะพานผ่านฟ้าฯ ปฏิเสธการใช้กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่พยายามเล่นบท "ตัวกลาง" ระหว่างรัฐบาลและฝ่ายทักษิณ
 ทักษิณ อ้างว่า เพราะคนในคณะกรรมการสิทธิฯ มีคนหนึ่งที่เป็นญาติกับ ผบ.ทอ.
 ไม่เอาตัวเชื่อม แต่ไม่ได้ปฏิเสธว่า จะไม่เอาการเจรจา
 แต่การเจรจาจะยังไม่เกิดขึ้น ตราบใดที่ทักษิณ ยังเชื่อมั่นว่า การเจรจานั้นยังไม่ทำให้ได้เปรียบ
 แล้วในวันที่แดงยังกระท่อนกระแท่น แทบจะรูดม่านลาโรง ยิ่งไม่ใช่วันที่คนอย่างทักษิณ จะมาตั้งโต๊ะเจรจา กับฝ่ายรัฐบาลที่ถืออำนาจรัฐอยู่เต็มสองมือ
 หากจะมีการเจรจากันจริงๆ ภารกิจ หรือยุทธศาสตร์ที่ทักษิณ วางเอาไว้รวม 5 ข้อ นั้นจะต้องลุล่วง ไปเสียก่อน
 1.กระชับมวลชนให้อยู่ในมือ 3 เกลอ ซึ่งก็หมายถึงว่า แนวทางการชุมนุมยืดเยื้อ ที่ 3 เกลอกำลังดำเนินอยู่นี้ เป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้ว
 2.ให้ทำลาย "แดงอื่น" ที่จะมาช่วงชิงการนำของ 3 เกลอให้หมด
 ดังจะเห็นได้จากการจากไปของ "แดงสยาม" อย่าง สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ ที่ยืนยันหลักการปฏิวัติโครงสร้าง ไม่ใช่การต่อสู้ในรูปแบบของ 3 เกลอ ที่มุ่งแต่เพียงให้รัฐบาลยุบสภา แล้วกลับเข้าไปสู่โครงสร้างเดิม
 3.สั่งการให้ ส.ส.เพื่อไทยมาร่วมเวทีเสื้อแดง และรับผิดชอบการระดมคนมาร่วมชุมนุมที่เวทีสะพานผ่านฟ้าฯ
 เบื้องต้นขอกำลังคนจังหวัดละ 1 หมื่นคน !
 พร้อมกันนี้ก็ให้ ส.ส.เพื่อไทยขึ้นเวทีเสื้อแดง เพื่อสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับผู้ชุมนุม
 4.จากนั้นล่อให้ อภิสิทธิ์ ติดกับเกมซักฟอกในสภา ซึ่งคาดว่า ญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจจะยื่นราวปลายเดือนนี้
 เกมจะอยู่ตรงที่ว่า เมื่อยื่นญัตติแล้ว นายกฯ ต้องเปิดให้ซักฟอก เมื่อนั้นคนเสื้อแดงจะยกกำลังไปปิดล้อมรัฐสภา
 ภาพคงจะไม่งามนัก หากว่า นายกรัฐมนตรีต้องปีนรั้วหนีม็อบเหมือนเมื่อครั้งที่ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีขณะนั้น ชัย ชิดชอบ ประธานรัฐสภา ที่ออกมาอย่างทุลักทุเล 
 5.ยุทธศาสตร์สุดท้ายก็คือ การสร้างความหวาดระแวงให้เกิดขึ้นระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ ซึ่งเป็นเสาหลักค้ำยันรัฐบาลนี้
 ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทุจริต เรื่องการจัดวางสายสัมพันธ์อำนาจ ที่เชื่อมั่นว่า ยังมีช่องโหว่
 น่าเชื่อว่า เมื่อใดที่สายสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพย่ำแย่ เหตุไม่คาดฝันอันเนื่องมาจากความไม่พอใจกันแต่แรกจะเกิดขึ้น
 จะแรงจนถึงขั้นก่อวินาศกรรมหรือไม่ เป็นเรื่องที่ไม่อาจคาดเดาได้
 ทั้ง 5 ยุทธศาสตร์นั้น จำเป็นจะต้องมีเวทีให้แก่ทักษิณ เพื่อสื่อสารกับประชาชน ทั้งทั่วไปและคนเสื้อแดง
 จะต้องมีพื้นที่ถ่ายทอดแนวความคิด และการเตรียมโครงการ "ให้" แก่ประชาชน เพื่อสร้างความหวัง เมื่อถึงวันที่ทักษิณ ได้กลับมาอีกครั้ง
 ดูเหมือนว่า ยุทธศาสตร์ของ ทักษิณ จะกินเวลายาวนาน
 แต่ท่าทีของ นปช.นั้นเชื่อมั่นว่า เสื้อแดงได้รับชัยชนะแล้ว เห็นได้จากการตอบรับ จากคนในเมืองหลวง โดยจะทดสอบกันครั้งใหญ่ในวันเสาร์ที่ 20 มีนาคมนี้ ว่าคนเมืองหลวงเอากับ เสื้อแดงหรือไม่
 แต่ของพรรค์นี้มัน 50 : 50 หากว่าคนเมืองหลวงเกิดแสดงความชิงชังรังเกียจ จนเกิดกระทบกระทั่งกัน กระแสที่กำลังพุ่งขึ้นก็อาจจะร่วงลงไม่เป็นท่า
 เสียงเรียกร้อง (ในใจ) จึงดังเอ็ดอึง ว่าถึงเวลาที่ต้องเจรจาเพื่อหาทางลงสวยๆ
 แต่ใครจะพูดอะไรได้ ในเมื่อเจตนาของ ทักษิณ ชัดเจนว่าต้องยืดเยื้อเพื่อกดดันรัฐบาลให้มากกว่านี้ เพื่อเพิ่มกำลังต่อรองให้ถึงจุดสูงสุด
 เริ่มเคลื่อน 10.00 น. กลับเวทีสะพานผ่านฟ้าฯ 17.00 น.คงได้รู้กันละว่า กำลังต่อรองจะเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุด หรือร่วงลงในระดับต่ำสุดขีด
 ชัดเจน! ไม่ว่าจะพุ่งขึ้นขีดสุดหรือลงต่ำสุด การเจรจาเกิดขึ้นแน่ เพียงแต่ใครจะอยู่ในฐานะใด !








ข่าวที่เกี่ยวข้อง "แดงอีสาน"ถอดใจ...ขอขึ้นรถไฟฟรีทักษิณอัดกรรมการสิทธิฯโอกาสสงบศึกหดหาย วิพากษ์ศิลปินคนเสื้อแดง...สังคมจะมองอย่างไร?ทักษิณจวกสื่อไทยเพี้ยนสื่อเทศตาสว่างเข้าใจแดงวรพล-บ้าน111นำนักวิชาการขึ้นเวทีแดงจวกรัฐห่วย

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive