'เสธ.อ้าย-ประสงค์ สุ่น'ลั่น เปลี่ยนนางเลิ้งเป็นสนามกู้ชาติ

'เสธ.อ้าย-ประสงค์ สุ่น'ลั่น เปลี่ยนนางเลิ้งเป็นสนามกู้ชาติ

"บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์" เสธ.อ้าย "ควง"ประสงค์" เตรียมจัดชุมนุม หยุดวิกฤติหายนะชาติ 28 ต.ค.นี้ เป้าหมายให้ประชาชนได้มารับฟังข้อเท็จจริง แล้วกลับไปบอกพี่น้องที่ไม่ได้เดินทางมา...

วันนี้ (26 ต.ค.) ที่ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือสนามม้านางเลิ้ง  พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย แถลง จัดการชุมนุมในหัวข้อ “รวมพลคนทนไม่ไหว นัดชุมนุมใหญ่หยุดวิกฤติและหายนะชาติ 28 ต.ค.55” ว่า ที่รัฐบาลทำงานล้มเหลว โกงกินทุจริต คอรัปชัน  ครอบงำแทรกแซงระบบราชการ สร้างรัฐตำรวจ ข่มขู่คุกคามบริหารงาน ไร้ฝีมือ โกง จนเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครอยู่เบื้องหลัง แต่เกิดจากการทนไม่ได้ สร้างความสั่นสะเทือนต่อรัฐบาล และยังมีการออกมาโกหกว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีกระบวนการหวยบ่อนยาเสพติด สนับสนุน ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นการร้อนรนของรัฐบาล การเคลื่อนไหวของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยามไม่มีพรรคการเมืองใดหนุนหลัง และไม่ได้หวังเปลี่ยนขั้วทางการเมือง” การต่อสู้กับระบอบทักษิณ ต้องมีเครือข่ายที่มีกำลังมากขึ้นการแสดงพลังของประชาชน จึงจะสามารถหยุดหายนะของรัฐบาลชุดนี้ได้


พลเอกบุญเลิศ กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันว่าจะดำเนินการหยุดยั้งรัฐบาลในความบกพร่องของรัฐบาล คือ รัฐบาลชุดนี้เป็นหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บริหารราชการแผ่นดินไร้ประสิทธิภาพ ขาดคุณธรรม  มีการทุจริตคอรัปชันกันอย่างกว้างขวาง ทำให้วันที่ 28 ต.ค.นี้จะต้องนำผู้ที่มีความรู้มาอธิบายให้ประชาชนทราบถึงความฉ้อฉลของ รัฐบาล ตนทำด้วยความบริสุทธิ์ใจและรักชาติเพื่อให้ประเทศไทยกลับไปสู่สันติสุข นอกจากนี้ คนไทยในสหรัฐอเมริกาจำนวนมากจะตั้งเวทีคู่ขนานกับองค์กรพิทักษ์ สยามในวันที่ 28 ต.ค.นี้ พร้อมจะมีการโฟนอินเข้ามาด้วย

ด้าน น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ กล่าวว่า ตนได้รับเชิญจาก พล.อ.บุญเลิศ ให้เข้าร่วมกิจกรรม ตามที่ พล.อ.บุญเลิศ พูดไป 3 ประการ ซึ่งเป็นหน้าที่ของคนไทย ตนร่างรัฐธรรมนูญมา คนไทยมีหน้าที่สำคัญตามมาตราที่ 70 และ 71 คือ การพิทักษ์รักสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และคนไทยมีหน้าที่ในการป้องกันประเทศรักษาผลประโยชน์ของชาติ ซึ่งหน้าที่นี้จะไม่มีวันเกษียณเหมือนอายุราชการ ตนไม่ได้มาส่งเดช แต่ตนได้ติดตามกิจกรรม อุดมการณ์และเป้าหมาย ว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่ใช่เลย

สำหรับ บ้านเมืองว่า ตอนนี้บ้านเมืองสมควรที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงไม่ให้ล่มสลายจากการเมือง เลวๆ ที่มาบริหารประเทศ ทั้งโกงและดื้อด้าน ไม่มีความละอายต่อคุณธรรมและศีลธรรม ซึ่งในวันที่ 28 ต.ค.นี้ สุภาษิตที่ว่า “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า” จะใช้ไม่ได้แล้วต้องเปลี่ยนเป็น “เปลี่ยนสนามม้าเป็นสนามกู้ชาติบ้านเมือง” ทั้งนี้ยังมีบางคนชอบกล่าวหาว่า ตนเป็นอีแอบอยู่เบื้องหลัง ซึ่งตนไม่เคยเป็นอีแอบ ตนอยู่ข้างหน้าเสมอถ้าประชาชนต้องการ อีแอบคือคนที่หนีคดีออกนอกประเทศ แล้วสร้างความปั่นป่วนต่างหาก

เมื่อถามว่า ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเคลื่อนไปสู่บันใดขั้นที่ 2 ไว้อย่างไร พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า หากการชุมนุมในวันที่ 28 ต.ค. มาร่วมและรับฟังข้อเท็จจริง จะกลับไปบอกประชาชนที่ไม่ได้มา หลังจากนั้นจะมีการประเมินอีกครั้งว่ามีการบอกข้อมูลต่อกับบุคคลอื่น 1 คนต่อ 100 คน สมมติว่า ในวันที่ 28 ต.ค. คนมาร่วม 2 หมื่นคน เมื่อฟังแล้วกลับไปบอกให้คนมาอีก 2 หมื่นคน ก็จะมีวันที่ 2 ซึ่งไม่นานหลังจากวันที่ 28 ต.ค. อาจจะเป็น 1 เดือนหรือ 3 สัปดาห์สุดแล้วแต่คณะทำงาน แล้วพวกตนจะตัดสินใจ โดยบันไดขั้นที่ 2 จะนำไปสู่การขับไล่รัฐบาล โดยประชาชน ม้วนเดียวจบ ต้องจบภายในวันเดียว ความเสียหายมันมากกว่าจะรับได้

เมื่อถามว่า ประเมินการต่อต้านของกลุ่มคนเสื้อแดงอย่างไรบ้าง พล.อ.บุญเลิศ กล่าวว่า มองเป็นเรื่องธรรมดา หากกลุ่มคนเสื้อแดงเห็นด้วยก็ถือเป็นเรื่องที่แปลก แต่ถ้าเขาจะมาเรายินดี เพราะอยากให้เขาทราบว่าสิ่งที่เขาเข้าใจนั้นไม่ถูกต้องทั้งหมด และตนเชื่อว่าเขาไม่กล้ามาสร้างความรุนแรงเพราะที่นี่เป็นสถานที่ปิด อย่างไรก็ตาม ถ้าเกิดเรื่องพวกผู้ร้าย หรือคนเสื้อแดงที่ทำไม่ดี จะถูกบันทึกภาพโดยสื่อมวลชน ทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหว และสามารถตรวจสอบเอาความผิดได้ภายหลัง ตนเชื่อว่าเขาไม่กล้า

อีก ด้านหนึ่ง น.ต.ประสงค์ ยังกล่าวถึงการปรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 3 ว่า ตนมองว่าเป็นการปรับเพื่อประโยชน์ของรัฐบาลเอง และไม่เห็นประโยชน์ของส่วนรวม เพราะนโยบายต่างๆ ยังคงเป็นของเดิมทั้งนั้น คนที่เข้ามา คนที่อยู่หรือออกไป หรือกำลังเข้ามาดูแล้วแต่ละตำแหน่ง ล้วนแต่เป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาของตัวเอง ส่วนการทำงานเชื่อว่าไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เลย การปรับ ครม. จึงไม่มีความหมายสำหรับประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มอง ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 ว่ามีโอกาสจะแก้ไขปัญหาการทุจริตในหลายโครงการหรือไม่ น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า จะดูอะไรดีหรือไม่ดี ต้องดูที่ตั้งแต่หัวแถว ถ้าหากหัวแถวเป็นเช่นนี้ ตนไม่เชื่อว่าอะไรมันจะดีขึ้น เมื่อถามว่าในฐานที่เป็นคนไทย มองว่ามีมุมไหนของรัฐบาลที่ทำให้ประชาชนเหลือทนแล้ว น.ต.ประสงค์ กล่าวว่า ระบบราชการของไทย ถูกยึดและเปลี่ยนแปลง แปรสภาพทำให้เสียหาย เอาคนของตัวเองเข้ามาเพื่อประโยชน์ของตนเอง ซึ่งทำให้ระบบข้าราชการเสียหาย นอกจากนั้นแล้วความมั่นคงของชาติ อ่อนแอ จนกลายเป็นความวิตกว่า ในบางสิ่งบางอย่างความมั่นคงจะทำให้เกิดการสูญเสีย โดยเฉพาะปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ละวันไม่เห็นมีรูปธรรมอะไรออกมา เจ้าหน้าที่ถูกฆ่าตายทุกวัน

“ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถแก้ไขได้ง่ายนิดเดียว คือ ขจัดความไม่เป็นธรรมที่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับตลอดเวลา 10 ปี ตั้งแต่ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นมามีอำนาจถึงปัจจุบัน แต่ถ้ายังทำงานแบบนี้ ฐานะที่ผมเคยเป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พอจะมองออกว่า ความมั่นคงของชาติขณะนี้กำลังถูกบ่อนทำลาย ไม่เฉพาะพวกก่อความไม่สงบ แต่เกิดจากการทำงานไม่ได้เรื่องของรัฐบาล พวกที่ทำงานไม่เป็น ดูไปที่ตัวบุคคลต่างๆ ระดับนโยบาย ผมมองไม่มีความหวังอะไรเลย” น.ต.ประสงค์ กล่าว

สำหรับการจัดการชุมนุมภายใต้ชื่อ “รวมพลคนทนไม่ไหว หยุดวิกฤติและหายนะชาติ” ที่ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือสนามม้านางเลิ้ง ในวันที่ 28 ต.ค.นี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยมีการปราศรัยของกลุ่มเยาวชนพิทักษ์สยาม กองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รศ.ดร.ต่อตระกูล ยมนาค นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ นายสมเกียรติ หอมละออ ร.ต.แซมดิน เลิศบุษย์ นายชัยวัฒน์ สุรวิชัย ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ สลับกับการแสดงดนตรี อาทิ หงา คาราวาน วสันต์ สิทธิเขต

ต่อจากนั้นเวลา 13.00 น. พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย กล่าววัตถุประสงค์การชุมนุม ต่อด้วยการปราศรัยของ พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคเนย์ นายพิเชฎฐ พัฒนโชติ นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน นายประสิทธิ์ ไชยทองพันธ์ นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตนักการทูต พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ ดร.เสรี วงษ์มณฑา และปิดท้ายด้วย น.ต.ประสงค์ สุ่นสิริ