Friday, October 26, 2012

'มาร์ค'จวกรัฐดีแต่กู้ ระวังหนี้สาธารณะพุ่งตามกรีซ หนักกว่าปี40

'มาร์ค'จวกรัฐดีแต่กู้ ระวังหนี้สาธารณะพุ่งตามกรีซ หนักกว่าปี40
Pic_301560 "มาร์ค" เตือนรัฐอย่าประมาทกู้เงินเพิ่ม 2 ล้านล้านบาท โดยไม่ก่อประโยชน์-รั่วไหล ระวังหนี้สาธารณะพุ่งเกิน 50% เดินตามรอยกรีซ หนำซ้ำสร้างหนี้จำนำข้าวจนขาดทุน จวก "โต้ง" โลว์โปรไฟล์ กระทุ้งให้จับตาเงินนอกไหลเข้า หวั่นฟองสบู่แตกรุนแรงหนักกว่าวิกฤติต้มยำกุ้งปี 40...

เมื่อวันที่ 26 ต.ค. 2555 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวถึงกรณีธนาคารโลกออกมาเตือน เงินต่างประเทศจะไหลเข้าเอเชียมากขึ้น รวมทั้งไทยซึ่งจะเกิดปัญหาเช่นเดียวกับฮ่องกง ว่า สิ่งนี้อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงินตัดสินใจลด ดอกเบี้ย เป็นการเตรียมความพร้อมด้านการเงินในการแก้ปัญหาแล้ว ซึ่งรัฐบาลต้องติดตามใกล้ชิดว่า เงินที่ไหลเข้ามาในไทยไปที่ไหนอย่างไร จะทำให้เกิดฟองสบู่หรือไม่ ถ้าเกิดต้องแก้ปัญหา และในขณะนี้มีหลายปัจจัยในโลก ที่มีความผันผวนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งพยายามเรียกร้องรัฐบาลว่าต้องใส่ใจภาพรวมเศรษฐกิจมหภาคให้มากกว่านี้ เพราะกระทบต่อการส่งออกอย่างชัดเจน และยังมีผลกระทบจากนโยบายภายในประเทศอีกหลายอย่าง ที่จะกระทบต่อหนี้สาธารณะ และต้นทุนในระบบเศรษฐกิจก่อให้เกิดความผันผวน แม้ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้มีความแตกต่างจากวิกฤติต้มยำกุ้งในปี 2540 แต่ไม่ควรประมาท และคิดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยได้เรียนรู้จากปัญหาที่เกิดขึ้นในปี 2540 เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาซ้ำ

ทั้งนี้ มีความกังวลจากหนี้ที่เกิดจากภาครัฐที่ตั้งใจขาดดุล มีการกู้หนี้ยืมสินจำนวนมาก และยังประกาศแผนกู้เงินเพิ่มเติมทำให้ขาดดุลเพิ่มอีก หากเกิดปัญหาจริงจะหนักและรุนแรงกว่าในปี 2540 เพราะปัญหาคนละแบบ ถ้าไม่ระมัดระวังจะรุนแรง จึงเรียกร้องให้รัฐบาลมีวินัยในเรื่องการเงินการคลัง แม้รัฐบาลยืนยันการกู้ยังไม่ถึงเพดาน 60% แต่ต้องกู้ให้ถึงที่สุด โดยไม่สนใจว่าเงินที่ได้มาจะใช้จ่ายแล้ว สามารถก่อให้เกิดรายได้หรือไม่ มีการรั่วไหลหรือไม่ซึ่งเป็นอันตราย โดยเฉพาะการที่รัฐบาลตั้งเป้าจะกู้เพิ่มอีก 2 ล้านล้านบาท จะกระทบหนี้สินสาธารณะ อาจเกิน 50% จากที่มีหนี้สาธารณะแล้วที่ 44.89% ทำให้มีความสุ่มเสี่ยงมากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีหนี้ที่ไม่อยู่ในบัญชีจากนโยบายของรัฐบาล เช่น การให้ธนาคารของรัฐออกเงินไปก่อน รวมทั้งการขาดทุนจากการจำนำข้าว ในขณะที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ แทบจะไม่มีบทบาทชี้ภาพเศรษฐกิจโดยรวมเลยว่าทิศทางจะเป็นอย่างไร ดังนั้นหากไม่ระมัดระวังประเทศไทย กำลังเดินตามรอยประเทศกรีซ แม้ว่าในขณะนี้จะยังไม่ถึงจุดนั้นแต่รัฐบาลไม่ควรประมาท ต้องอธิบายให้ชัดถึงแนวความคิดในการกู้เงินสร้างหนี้เพิ่ม

No comments:

Post a Comment

Blog Archive