Wednesday, May 5, 2010

ในหลวงทรงโบกพระหัตถ์ให้พสกนิกร

ในหลวงทรงโบกพระหัตถ์ให้พสกนิกร



คมชัดลึก :"ในหลวง"พระพักตร์แจ่มใส ทรงแย้มพระสรวล โบกพระหัตถ์ให้พสก นิกร ตลอดเส้นทางเสด็จฯ ไปทรงประกอบพระราชพิธีฉัตรมงคล ส่วนประชาชนยึด 2 ข้างทาง เฝ้ารับเสด็จเนืองแน่นตั้งแต่เช้าตรู่ ปลื้มปีติที่ได้เห็นในหลวงของปวงไทย






(5พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 10.50 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณสยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ จากอาคารเฉลิมพระเกียรติโรงพยาบาลศิริราช ในฉลองพระองค์เครื่องแบบขาวเต็มพระยศด้วยพระพักตร์แจ่มใส ประทับรถยนต์พระที่นั่งไปในการพระราชพิธีฉัตรมงคล ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง ทรงแย้มพระสรวล และโบกพระหัตถ์ให้แก่พสกนิกตลอดสองข้างทางเสด็จฯ 
 ระหว่างทางเสด็จฯ มีพสกนิกรรอเฝ้ารับเสด็จเป็นจำนวนมาก พร้อมเปล่งเสียงถวายพระพรทรงพระเจริญอย่างกึกก้อง และพร้อมใจกันร้องเพลงสดุดีมหาราชา หลายคนนำพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ธงชาติ และธงพระปรมาภิไธย ภปร ขึ้นมาโบกสะบัดด้วยความปลื้มปีติ  
 เวลา 11.05 น. เสด็จฯ เข้าสู่พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ทางพระทวารเทเวศรรักษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการ สมเด็จพระราชาคณะถวายศีล พระสงฆ์ 20 รูป ถวายพระพร จบแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา (พระสงฆ์ไปรับพระราชทานฉันที่หอนิเพทพิทยา)
 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยบูชาเทพยดารักษานพปฎลมหาเศวตฉัตรสิริราชกกุธภัณฑ์ พราหมณ์เบิกแว่นเวียนเทียนสมโภชนพปฎลมหาเศวตฉัตรสิริราชกกุธภัณฑ์ พนักงานประโคมฆ้องชัย สังข์ แตร บัณเฑาะว์ และดุริยางค์แล้ว พราหมณ์เจิมนพปฎลมหาเศวตฉัตร โหรผูกผ้าสีชมพู ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระสุหร่ายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ และพระราชลัญจกร พระครุฑพ่าห์ทองคำประจำรัชกาล แล้วเสด็จฯ กลับ
 เวลา 12.00 น. ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ยิงปืนใหญ่เฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด 
 ทั้งนี้ ตลอดสองข้างทางเสด็จพระราชดำเนินกลับ พสกรนิกรทุกหมู่เหล่าที่มาเฝ้ารอรับเสด็จ ต่างโบกสะบัดธงชาติ ธงตราสัญลักษณ์ พร้อมเปล่งเสียง ทรงพระเจริญดังกึกก้อง สร้างความปลื้มปีติให้แก่ประชาชนที่มาเฝ้ารับเสด็จเป็นอย่างยิ่ง บางรายถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความตื้นตันใจ
  วันที่ 5 พฤษภาคม เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ โดยประกอบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกตามโบราณขัตติยราชประเพณี จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เปิดปราสาทพระเทพบิดร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง เพื่อให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชการและประชาชน ได้ถวายบังคมสมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราช ตั้งแต่เวลา 08.00 น.ไปจนถึงเวลา 17.00 น.
ทรงโบกพระหัตถ์เสด็จกลับศิริราช
 เมื่อเวลา 12.35 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ถึงยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช ทรงโบกพระหัตถ์และทรงแย้มพระสรวล ท่ามกลางเสียงถวายพระพรทรงพระเจริญอย่างกึกก้องจากพสกนิกรที่มารอเฝ้ารับเสด็จอย่างเนืองแน่น
  นพ.โรจน์รุ่ง สุวรรณสุทธิ รองคณบดีฝ่ายคุณธรรมฯ หน่วยคุณภาพและจริยธรรม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งมาเฝ้ารอรับเสด็จทุกครั้งที่ทราบข่าวว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จฯ ลงจากอาคารเฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า รู้สึกปลาบปลื้มปีติที่ทุกครั้งได้มาเฝ้ารับเสด็จ โอกาสนี้เป็นโอกาสมหามงคลที่ทรงบรมราชาภิเษกครบ 60 ปี
 "ซึ่งสิ่งสำคัญยิ่ง ณ เวลานี้คือ สุขภาพของพระองค์ท่านที่ได้ฟื้นฟูกลับมาเป็นสภาพปกติโดยลำดับ ก็รู้สึกดีใจในฐานะแพทย์คนหนึ่ง คิดว่าประชาชนคนไทยมีความรู้สึกเดียวกัน ในการที่ปรารถนาให้พระองค์ท่านทรงเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย อายุ วรรณะ สุขะ พละ และสิ่งที่ปรารถนามากที่สุดคือ อยากให้พระองค์มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนไทยทั่วกาลนาน" นพ.โรจน์รุ่ง เผยความรู้สึก 
ดาราสุดปลื้มเฝ้ารับเสด็จ
 ด้าน นางดวงตา ตุงคะมณี นักแสดงชื่อดัง ซึ่งวันนี้มาอยู่ในกลุ่มพสกนิกรหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติตั้งแต่เวลา 06.00 น. พร้อมเพื่อนนักแสดงกว่า 10 คน อาทิ น.ส.จินตหรา สุขพัฒน์ นางทัศวรรณ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา นางกาญจนาพร ปลอดภัย นางเพ็ญพักตร์  ศิริกุล นางไปรมา รัชตะ เป็นต้น กล่าวพร้อมน้ำตาคลอเบ้าที่ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ว่า เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นพระองค์ท่านในระยะใกล้ขนาดนี้ เป็นบุญตาเพราะส่วนตัวรู้สึกว่าเมื่อพ่อของเราไม่สบาย ไม่ได้เห็นพระองค์ท่านออกตามสื่อต่างๆ มานานหลายเดือน วันนี้ได้เห็นพระพักตร์ที่สดชื่น จึงเป็นปลื้มจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ อยากให้พระองค์ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
 นายโสภา สุรพินิจ อายุ 46 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งมาเฝ้าญาติที่มานอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช จึงถือโอกาสมารอเฝ้ารับเสด็จด้วย บอกว่า ตื่นตั้งแต่ตีห้าและมารอด้านหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ วันนี้ได้เห็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นครั้งแรกในชีวิต จากที่ปกติเคยเห็นจากสื่อต่างๆ รู้สึกมีความสุขมาก อยากให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีความสุขกาย สบายใจ เพราะคิดว่าพระองค์ท่านไม่สบายพระราชหฤทัยกับสถานการณ์การเมืองที่วุ่นวาย จึงอยากให้คนไทยรักกันเพื่อถวายเป็นของขวัญแด่ในหลวงของเราทุกคน
 นางสมพร สุขเลิศ อายุ 53 ปี ชาวมุสลิม กรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เมื่อทราบข่าวว่าในหลวงจะเสด็จฯ เพื่อไปประกอบพระราชพิธีฉัตรมงคล จึงมาเฝ้ารอรับเสด็จตั้งแต่ 6 โมงเช้า วันนี้มาพร้อมลูกชายและลูกสาว และเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสเห็นในหลวงในระยะใกล้ ที่ตั้งใจมาเพราะต้องการถวายพระพรให้มีพระพลานามัยแข็งแรง เพราะทรงเหน็ดเหนื่อยจากการทรงงานหนักมาตลอด อยากให้คนไทย ไม่ว่าเชื้อชาติศาสนาใดทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสบายพระราชหฤทัย จะได้ทรงอยู่เป็นมิ่งขวัญของคนไทยไปนานๆ
 ส่วนที่บริเวณประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง ก็มีพสกนิกรจำนวนมากมาเฝ้ารอรับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ตั้งแต่เช้ามืดเช่นกัน  โดยทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าต้องการมารอเฝ้ารับเสด็จและอยากให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ตจว.ร่วมเฉลิมพระเกียรติแน่น
 ตั้งแต่เวลา 08.30 น. วันเดียวกัน ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนในทุกจังหวัดภาคอีสาน รวมตัวกันประกอบพิธีเนื่องในวันฉัตรมงคลตามสถานที่ที่ทางจังหวัดกำหนดกันอย่างเนืองแน่น เช่น จ.นครราชสีมา นายประจักษ์ สุวรรณภักดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำเหล่าหัวหน้าส่วนราชการ ตัวแทนองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงพ่อค้าคหบดีใน จ.นครราชสีมา ถวายราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล ประจำปี 2553 ซึ่งเป็นวันที่ระลึกในการครบรอบปีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับพระบรมราชาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยโดยสมบูรณ์ เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้นำหัวหน้าส่วนราชการและผู้เข้าร่วมพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณที่จะปฏิบัติหน้าที่ในการเป็นข้าราชการ และประชาชนของแผ่นดิน ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ประพฤติตนเป็นคนดี เสียสละเพื่อประเทศชาติ และจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
 ส่วนที่ จ.กาฬสินธุ์  ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา หน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นำข้าราชการตำรวจ ทหาร พ่อค้าคหบดี ร่วมกันถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันฉัตรมงคล โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้นำถวายพานพุ่มดอกไม้สด ต่อพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทั้งนำข้าราชการร่วมกันปฏิญาณตน ที่จะเป็นข้าราชการที่ดีที่จะถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
 ที่ศูนย์อเนกประสงค์ ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี นายอำนาจ ผการัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เป็นประธานพิธีถวายราชสดุดี เนื่องในวันฉัตรมงคล โดยมีข้าราชการพลเรือน ตุลาการ อัยการ ตำรวจ ทหาร ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำองค์กรเอกชน สมาคม และสโมสร ในจังหวัด เข้าร่วมพิธีวางพานพุ่มทอง-พุ่มเงิน เพื่อถวายราชสักการะแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกล่าวนำถวายราชสดุดี ร่วมร้องเพลงสดุดีมหาราชา และเพลงสรรเสริญพระบารมี
  นายอำนาจ กล่าวถวายราชสดุดีและปฏิญาณจะเป็นข้าราชการและประชาชนที่ดี ใช้สติปัญญาทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจ พากเพียรดำเนินงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างสุดความสามารถ และจะรักสามัคคี เพื่อถวายเป็นปฏิบัติบูชาแด่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท และขอยึดมั่นตามแนวทางแห่งพระบรมราชปณิธานและพระบารมี ตราบชั่วกาลนาน
  ต่อมาเวลา 10.30 น. ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังลานหน้าวัดเกษรศีลคุณ หรือ วัดป่าบ้านตาด อ.เมืองอุดรธานี เป็นประธานพิธีปลูกหญ้าแฝกเฉลิมพระเกียรติ 4 หมื่นต้น บนพื้นที่ 200 ไร่ เพื่อแสดงถึงการรวมพลังใจ ถวายความภักดี เนื่องในโอกาสแห่งการบรมราชาภิเษก ปีที่ 60 และอภิลักขิตสมัยมหามงคลวันฉัตรมงคล
  เช่นเดียวกับพื้นที่ภาคเหนือ นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วยข้าราชการตุลาการ ทหาร ตำรวจ อัยการ ข้าราชการพลเรือน และประชาชนทุกหมู่เหล่า ร่วมงานเนื่องในพระราชพิธีฉัตรมงคล ประจำปี 2553 ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นประธานเปิดกรวยดอกไม้ และวางพานพุ่มเงิน-ทอง ถวายราชสักการะ และนำข้าราชการทุกหมู่เหล่ากล่าวคำถวายอาเศียรวาทราชสดุดีแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  
  ที่ จ.ตาก พ.อ.ประสาน แสงศิริลักษณ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 อ.แม่สอด จ.ตาก ร่วมกับนายมานพ ยะเขียว นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ปะ พร้อมด้วยประชาชน และทหารร่วมกันปลูกต้นไม้ ที่บริเวณข้างวัดเวฬุวัน ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก เนื่องในวันฉัตรมงคล กิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยประชาชนชาวตำบลแม่ปะ และทหาร รวมทั้งพระสงฆ์ ได้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก
 ส่วนที่ จ.พิจิตร นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้ทำพิธีจุดธุปเทียนบูชาพระรัตนตรัย เนื่องในวันบรมราชาภิเษก ปีที่ 60 ที่บริเวณศาลากลางจังหวัดพิจิตร หลังเดิม โดยมีข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา จำนวนมาก เข้าร่วมพิธี โดยได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์และถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายเครื่องราชสักการะ และร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี








ข่าวที่เกี่ยวข้องในหลวง-ราชินีเสด็จฯพิธีฉัตรมงคลพสกนิกรเฝ้ารับเปิด60อุทยานฉลอง60ปีบรมราชาภิเษกในหลวง เวทีไทฉลองบรมราชาภิเษกมหกรรมลูกทุ่ง5วันคมเลนส์ส่องพระประจำวันอาทิตย์ที่2พ.ค.53คอลัมน์-คลื่นคนวรรณกรรม-นนักเขียน...และแถลงการณ์แนวร่วมศิลปินประชาธิปไตย

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive