Wednesday, May 12, 2010

ศอฉ.ลั่นตัดน้ำไฟม็อบแดงเที่ยงคืนนี้

ศอฉ.ลั่นตัดน้ำไฟม็อบแดงเที่ยงคืนนี้



คมชัดลึก :ศอฉ.ประกาศใช้มาตรการกดดันเต็มรูปแบบเที่ยงคืนนี้ ตัดน้ำ-ไฟ-การสื่อสาร-เดินทาง-น้ำดื่ม บ่ายนี้ หลังนายกฯทอดสะพานปรองดองเต็มที่แล้ว สุเทพเรียกประชุมผู้ว่า 39 จังหวัด รับมือแดงผุด






(12พ.ค.) เวลา 11.00 น. พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)แถลงข่าวภายหลังการประ ชุม ศอฉ. โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ในฐานะ ผอ.ศอฉ. เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ที่ประชุมได้มีการติดตามการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงพบว่ามียอดผู้ชุมนุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ประมาณ 5,000 คน ทั้งนี้อยากเรียนให้ทราบที่เป็นเรื่องสำคัญ คือ ตลอดระยะเวลาที่กลุ่มคนเสื้อแดงได้ร่วมชุมนุมในพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งศอฉ. ได้ปฏิบัติงานควบคู่กับรัฐบาลมาโดยตลอด พยายามทำทุกวิถีที่จะนำความสงบกลับมาสู่บ้านเมืองด้วยวิธีการในลักษณะของการไม่ใช้กำลังเกินความจำเป็น มีการขอคืนพื้นที่บางส่วน มีการบังคับใช้กฎหมายจากขั้นเบาไปหาหนัก และได้เรียนชี้แจงกับผู้ชุมนุม และประชาชน ทราบตลอดเวลาว่าการชุมนุมของท่านเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย รธน.ไม่คุ้มครอง
 เนื่องจากเป็นการชุมนุมทำให้เดือดร้อนกับประชาชนโดยทั่วไป ทำให้เจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่าง ๆ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความยากลำบาก มีการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่อยู่ตลอด และที่สำคัญคือมีกลุ่มก่อการร้าย มีกองกำลังติดอาวุธแฝงตัวปะปนอยู่ในพื้นที่การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง พื้นที่ที่ราชประสงค์ ในขณะนี้เป็นพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัย ศอฉ.ได้เรียนให้ประชาชนทราบมาโดยตลอด และนายกรัฐมนตรีก็ได้ประกาศแผนปรองดอง 5 ประการ ซึ่งขั้นต้นได้รับการตอบรับจากแกนนำของกลุ่มผู้ชุมนุม ถือเป็นสัญญาณที่ดีในระยะแรกทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งเกิดความสบายใจ แต่ในที่สุดวันนี้สังคมได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามตั้งเงื่อนไขรายวัน บิดพลิ้วเรื่องต่าง ๆ เพียงเพื่อประวิงเวลาออกไป แม้ว่าส่วนต่าง ๆ ของ ศอฉ. แม้กระทั่งรองนายกรัฐมนตรีได้ไปรับทราบข้อกล่าวหาแล้วก็ตาม
 พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า แกนนำนปช. ประกาศชัดเจนว่าจะไม่ยอมรับการดำเนินการใด ฉะนั้นขั้นตอนต่อไปเมื่อเช้าได้ประชุมสรุปว่าเราจำเป็นจะต้องใช้มาตรการกดดันพื้นที่การชุมนุมอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่วิธีการไม่ใช่กำลังก่อน ด้วยการกำหนดที่จะมีการตัดน้ำ ตัดไฟ สาธารณูปโภค โทรศัพท์ การเดินทางในลักษณะของการใช้การบริการสาธารณะ รถเมล์ รถไฟฟ้า เส้นทางทางน้ำคลองแสนแสบในบริเวณพื้นที่ชุมนุมทั้งหมด มีการปิดเส้นทางการเข้าออก เส้นทางการส่งกำลังบำรุงให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุม ซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีการชุมนุม หรือพื้นที่ใกล้เคียงอาจจะได้รับผลกระทบ
 อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจที่ตั้งด่านอยู่ในพื้นที่การชุมนุมจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการผ่านเข้าออกอาจจะต้องมีการทำเอกสารเป็นรายบุคคล แต่มาตรการต่างๆที่ได้เรียนไปให้ทราบคงจะเริ่มให้เร็วที่สุด คือ ตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้เป็นต้นไป โดยจะเชิญหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับมาตรการที่กำหนดมาหารือในรายละเอียดว่า มีประเด็นในรายละเอียดข้ออะไรบ้าง คงจะมีการหารือกันในวันนี้ ทั้งนี้ต้องเรียนถึงประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมในบริเวณพื้นที่ที่พักอาศัยอยู่ แม้กระทั่งทูตานุทูตต่าง ๆ ที่มีสถานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชุมนุม หรือบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ก็อาจจะต้องประสบปัญหาเรื่องความไม่สะดวกไม่สบายในการใช้ชีวิตประจำวันทาง ศอฉ.ต้องขออภัยมาที่นี้ ทันทีที่คลี่คลายสถานการณ์ได้ทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่ปกติ การชี้แจงข้อมูลในรายละเอียดที่ชี้แจงไปแล้วจะประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบอีกครั้ง โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมนุม หรือพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งใบปลิว หรือ เอสเอ็มเอส ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ หรือผ่านทางเครื่องกระจายเสียง ทางวิทยุ โทรทัศน์
 พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่าอีกว่า ในเวลา 13.00 น. วันนี้จะมีการเชิญผู้ว่าราชการจังหวัด ประมาณ 38-39 จังหวัด มาชี้แจงทำความเข้าใจถึงแนวทางในการปฏิบัติเมื่อมีการกดดันพื้นที่การชุมนุมในพื้นที่บริเวณราชประสงค์ อาจจะมีผลกระทบในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ โดยมีนายสุเทพ เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ประเด็นต่าง ๆ อาจจะประกอบไปด้วยการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อไม่ต้องการให้มีการเดินทางมาชุมนุม มาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยภายในพื้นที่จังหวัดต่าง ๆ หากมีการกดดันพื้นที่ราชประสงค์ อย่างไรก็ตาม มาตรการที่ได้เริ่มต้นบังคับใช้กฎหมาย และกดดันพื้นที่การชุมนุมอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่เที่ยงคืนวันนี้เป็นความพยายามอย่างที่สุดแล้วที่จะหลีกเลี่ยงการใช้กำลังเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสีย ฉะนั้นมาตรการในขั้นตอนเรื่องของการตัดการส่งกำลังปิดเส้นทางการเข้าแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ หรือจำกัดสาธารณูปโภคเป็นขั้นเริ่มต้นของการบังคับใช้กฎหมายแบบเต็มรูปแบบ ทั้งนี้มั่นใจว่า ศอฉ.จะสามารถควบคุมสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ส่วนมาตรการที่จะมีต่อไปหลังจากนี้ยังไม่อยากเรียนให้ทราบ
 เมื่อถามว่า ศอฉ.ใช้มาตรการเต็มรูปแบบ แต่อาวุธที่กองทัพยังไม่ได้คืนมา ทาง ศอฉ.มีทางออกเรื่องนี้อย่างไร พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ได้ติดต่อประสานกับ นปช.แล้วแต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ซึ่งเป็นหน้าที่ของตำรวจต้องติดตามนำอาวุธเหล่านั้นมาคืนตามกระบวนการที่กองทัพได้แจ้งความเอาไว้ ส่วนการปฏิบัติภารกิจในลักษณะของการกดดันพื้นที่การชุมนุมขั้นต่อไป ซึ่งจะต้องมีการใช้กำลังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่าง ๆ ทีเกี่ยวข้องได้ประเมินสถานการณ์ และกำหนดมติฐานต่าง ๆ ต่อการที่กลุ่มก่อการร้ายที่จะนำอาวุธเหล่านั้นมาใช้เรียบร้อยแล้ว ส่วนรายละเอียดอาณาบริเวณในการดูแลรักษาความปลอดภัยจะต้องมีการประชุมหารืออีกครั้ง ในแต่ละแบบ เช่นในพื้นที่เส้นทางทางน้ำในคลองแสนแสบ จะต้องปิดตั้งแต่ท่าสุขุมวิท 15 เป็นต้นไป จนถึงท่าบ้านครัวเหนือ หรือแม้กระทั่งรถไฟฟ้า จะต้องปิดตั้งแต่สถานีสยามไปจนถึงสถานีเพลินจิต ราชดำริ ชิดลม แต่ทางรถไฟฟ้าบอกว่าเป็นไปไม่ได้ จะต้องปิดทั้งเส้นก็คงจะต้องเป็นลักษณะแบบนั้น
 เมื่อถามว่า มาตรการตัดน้ำ ตัดไฟ บรรดาธุรกิจรอบ ๆ บริเวณราชประสงค์จะได้รับผลกระทบ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า แน่นอนครับ ต้องได้รับผลกระทบ แต่ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่สุด และเชื่อมั่นว่าประชาชนในพื้นที่ได้เข้าใจถึงความจำเป็นจะต้องทำแบบนั้น ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการเดียวที่จะหลีกเลี่ยงการเสียเลือดเสียเนื้อของกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเป็นจุดสุดท้าย ถ้ามาตรการที่ได้ดำเนินการพยายามป้องกันไม่ให้เกิดความสูญเสียชีวิต และทรัพย์สินอย่างที่สุดแล้ว ไม่เป็นผลก็คงจะต้องมีมาตรการที่เข้มข้นไปมากกว่านี้ ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ได้ติดต่อกับบรรดาภาคธุรกิจในบริเวณดังกล่าว และวันนี้ก็จะชี้แจงทำความเข้าใจเพิ่มเติม ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวคงตอบไม่ได้ แต่ขณะนี้สิ่งที่นายกรัฐมนตรีได้กำหนดเวลาไว้คือ กลุ่มผู้ชุมนุมจะต้องยุติการชุมนุมแบบไม่มีเงื่อนไขภายในวันนี้ ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวจะใช้นานถึงแค่ไหนก็จะดูผลที่เกิดขึ้นแต่คงไม่เนิ่นนานเพราะมีขีดจำกัดในเรื่องการเปิดเทอมของเด็กนักเรียนซึ่งมีผลต่อความปลอดภัยของเยาวชนของชาติอีกจำนวนมาก ทั้งนี้ประชาชนที่พักอาศัยในพื้นที่ไม่มีที่พักสำรองที่อื่น แต่การดำเนินการคงไม่ถึงขั้นอพยพ
 พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ในส่วนกระทรวงต่างประเทศได้ชี้แจงสถานทูต สำนักข่าวต่างประเทศเรียบร้อย ในบริเวณชุมนุมส่วนของกองทัพได้ชี้แจงผ่าน ผช.ทูตทหาร ทั้งนี้ กองทัพพร้อมที่จะใช้กำลังทหารในการขอพื้นที่คืน มาตรการในการกดดันหลังเที่ยงคืนของคืนนี้ นายกฯได้ขีดเส้นใต้เอาไว้ว่าต้องยุติการชุมนุมภายในวันนี้ ในช่วงที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ทอดสะพาน เพื่อความปรองดองอย่างที่สุด แต่สิ่งต่างๆที่แกนนำได้เปิดออกมาเป็นเงื่อนไขรายวันการมอบตัวดีเอสไอ การรับทราบข้อกล่าวหากับดีเอสไอ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมออกมาระบุต้องไปมอบตัวกองปราบ สาเหตุ ดีเอสไอเป็นกรรมการในศอฉ. จึงอยากถามว่า ผบ.ตร.ไม่ได้เป็นกรรรมการ ศอฉ.หรือ เป็นสิ่งที่คนรับทราบอยู่แล้ว เป็นเพียงเงื่อนไข ส่วนเรื่องการขอเปิดพีทีวี นายกรัฐมนตรีได้กำหนดในรายละเอียดความปรองดองว่า หากแผนปรองดองดำเนินไปทุกสิ่งต้องลงในรายละเอียดว่า สถานีโทรทัศน์ทั้งหลายต้องอยู่ในกรอบ ไม่ปลุกระดม ปลุกปั่นให้ประเทศเกิดความแตกแยก ไม่จาบจวบสถาบัน ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง ถ้าเป็นแบบนี้ไม่มีปัญหา แต่หากให้คืนพีทีวี ในตอนนี้ทุกคนรับทราบว่ามีการโจมตี กล่าวร้ายบิดเบือนข้อเท็จจริง คงเป็นไปไม่ได้ เป็นเงื่อนไขรายวัน เรารอไม่ได้อีกแล้ว
 เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ทุกอย่างจะสงบภายในสัปดาห์นี้ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า ต้องสงบ แต่เวลากำหนดไม่ได้ เวลาเปิดเทอมของนักเรียนใกล้เข้ามา นายกรัฐมนตรีขีดเวลาที่ชัดเจนวันนี้สุดท้ายที่ต้องยุติการชุมนุม โดยไม่มีเงื่อนไข ในส่วนที่มีการเชิญผู้ว่าราชการ 39 จังหวัดมาหารือ เป็นรายงานข้อมูลข่าวสารว่ามีการเคลื่อนไหวเวทีคู่ขนาน ถึงแม้ผู้เคลื่อนไหวจะไม่มากต้องป้องกันไหวก่อน ถึงจะต้องคุยกับผู้ว่าน่าเป็นสิ่งที่ดี โดยผู้ว่าที่เชิญมาเป็น ภาคอีสานตอนเหนือ ภาคกลางบางส่วน
 เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ การตัดน้ำตัดไฟ จะทำให้หันมาทำลายตึกแถวนั้น พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณา โดยเฉพาะแกนนำ ว่ายิ่งทำความเสียหายมากหลังจากจบการชุมนุมคดีต่างๆก็จะเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การยุติการชุมนุมแบบผู้ชุมนุมยุติเองจะมีภาพอีกอย่าง แต่หากเจ้าหน้าที่รัฐยุติโดยใช้วิธีการบังคับจะเป็นอีกแบบ ทั้งนี้ ที่ประชุม ศอฉ.พูดถึงเงื่อนไขที่ผู้ชุมนุมกำหนดเป็นแค่การต่อรอง เช่น เรื่องประกันตัว คดีความ โดยรัฐบาลยืนยันมาตลอดไม่มีการต่อรองในเรื่องพวกนี้ เพราะเป็นเรื่องของศาล โดยกลุ่มเสื้อแดงเคยบอกว่าไม่ต้องการให้เข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม วันนี้เป็นสิ่งที่ชี้ชัดว่าเข้าพยายามบีบให้รัฐเข้าไปแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมโดยเจ้าหน้าที่รัฐก็บอกว่าไม่ได้
 เมื่อถามว่า  จะทำให้เสร็จก่อนวันที่ 17 พ.ค.นี้ ก่อนเปิดเทอมใช่หรือไม่ พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า มีความชัดเจนในระดับหนึ่งเพราะนายกฯเป็นผู้กำหนด การเปิดเทอมของนักเรียน ไม่เช่นนั้นปัญหาจะขยายลุกลามไปเรื่อย
 เมื่อถามว่า ศอฉ.มีการคาดการณ์ไว้หากปล่อยให้ชุมนุมจนถึงเปิดเรียน อาจมีการจับนักเรียนเป็นตัวประกัน พ.อ.สรรเสริญ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถคิดได้ ศอฉ.ก็คิดถึงเรื่องนี้ เพราะความปลอดภัยนักเรียนเป็นเรื่องใหญ่
ด้านนายสมชาย ศรีนิเวศน์ ประธานสหภาพรัฐวิสาหกิจการประปานครหลวง หรือ สร.กปน.ปฏิเสธที่จะตอบว่า ได้รับมอบจากภาครัฐให้ดำเนินการตัดน้ำหรือไม่ ขณะที่นายเพียร ยงหนู ประธานสหภาพการไฟฟ้านครหลวง หรือ สร.กฟน. อยู่ระหว่างการประชุมซึ่งรายงานข่าวระบุว่า มีการหารือเรื่องมาตรการตัดไฟฟ้าในที่ประชุมด้วย
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการศอฉ. กล่าวถึงการประชุมศอฉ. เมื่อช่วงเช้าวันนี้ ว่า ในส่วนของการเจรจาในช่วงเย็นของวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา มีข้อยุติที่ชัดเจนและมีการพูดคุยครบทุกประเด็นแล้วว่าจะมีการปฏิบัติอย่างไร แต่ในส่วนของแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น ดูเหมือนจะมีความเห็นไม่ตรงกัน จึงทำให้เกิดกรณียืดเยื้อ สำหรับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้ส่งสัญญาณชัดเจนว่าฝ่ายรัฐบาลได้เปิดโอกาสให้มีการเจรจา และพูดคุยในเงื่อนไขต่างๆจนครบถ้วนแล้ว ถ้าล่าช้าจะเกิดความเสียหาย ดังนั้น สิ่งที่เหลือเป็นเรื่องของความมั่นคงที่ต้องไปดำเนินการ และมีมาตรการในการกดดันกลุ่มผู้ชุมนุม
 “ ยังคิดว่าภายในไม่เกินครึ่งวันนี้ ควรที่จะข่าวดีให้กับคนไทย วันนี้ในส่วนของฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายแกนนำได้พูดคุยกันตรงทุกประเด็นแล้ว จึงไม่ควรเกินเที่ยงนี้ ควรจะมีข่าวที่เป็นสัญญาณดีของการเลิกการชุมนุม ซึ่งถ้ากลุ่มผู้ชนุมนุมเห็นแก่ประเทศชาติ เห็นแก่ชาวบ้านที่มาชุมนุม และมีความเป็นเอกภาพในแกนนำ โดยไม่ประสงค์ที่จะให้เกิดความรุนแรง ทุกอย่างก็น่าจะเรียบร้อย โดยเป็นการเดินตามแผนปรองดองที่จะมีการประกาศในเรื่องของการยุติการชุมนุม ซึ่งรัฐก็รอสัญญาณอยู่ ” นายสาทิตย์ กล่าว
 เมื่อถามว่าแผนโรดแม็ปจะถูกยกเลิกโดยปริยายใช่หรือไม่ นายสาทิตย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยกแยะออกจากกัน โดยเรื่องการปฏิรูปสื่อ การปฏิรูปประเทศไทย และการปกป้องสถาบันนั้น ยังคงดำเนินการต่อ ส่วนกระบวนการเริ่มการยุบสภาเป็นเรื่องที่ต้องดูเงื่อนไขว่าถ้าไม่มีการสลายการชุมนุมโดยฝ่ายผู้ชุมนุมเอง ก็คงเป็นเรื่องที่ต้องทบทวนเมหือนกัน ถือว่าอยู่นอกเงื่อนไขแล้ว ขณะนี้สิ่งที่เราดูคือภายในเที่ยงวันนี้ จะมีปฏิกิริยาที่เป็นข่าวดีให้กับคนไทยโดยกลุ่มผู้ชุมนุมหรือไม่ เพระดูเหมือนว่าทุกอย่างได้พูดคุยจบสิ้นหมดแล้ว ถ้าแกนนำมีความเป็นเอกภาพและเห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมือง ทุกอย่างก็จบได้ ในส่วนของรัฐบาล ก็ไม่อยากจะสร้างความขัดแย้งต่อไป และขอปฏิเสธว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้อยากเห็นความรุนแรง หรือกระหายเลือด เพียงแต่นายกฯต้องการให้เด็กได้ไปโรงเรียน ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ แต่มีบางส่วนในกลุ่มแกนนำผู้ชุมนุมที่กระหายเลือด อยากเห็นความรุนแรงเพื่อสร้างเป็นเงื่อนไขทางการเมือง รัฐบาลจึงเห็นว่ากระบวนการเจรจาได้ทำมาอย่างครบถ้วนแล้ว เพราะฉะนั้น วันนี้ซึ่งไม่ควรเกินเที่ยง ก็ควรมีคำตอบที่ชัดเจน มาตรการการกดดันก็ต้องเดินหน้าต่อไป
 ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าหลังเที่ยงแล้วไม่มีคำตอบ จะมีมาตรการอย่างไร นายสาทิตย์ กล่าวว่า มาตรการด้านความมั่นคงต้องเดินต่อ ซึ่งมีหลายขั้นตอน รวมทั้งมีมาตรการในการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนจะทำอะไรแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับฝ่ายความมั่นคงที่จะดำเนินการ
 ต่อข้อถามว่าถ้ามีการเข้าไปดำเนินการในพื้นที่ รัฐมีมาตรการในการดูแลประชาชนที่อยู่ในพื้นที่การชุมนุมอย่างไร กรรมการ ศอฉ กล่าวว่า ทาง ศอฉ.มีหน้าที่ในการดำเนินการเพื่อให้สถานการ์การชุมนุมยุติ ขณะนี้มีแผนที่เป็นขั้นตอนอยู่แล้ว โดยทุกขั้นตอนจะคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชน แต่ถ้าจำเป็นจริงๆที่ต้องดำเนินการ ก็อาจส่งผลกระทบต่อประชาชน ทำให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนบ้าง แต่ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำ มิฉะนั้นความเดือดร้อนที่ใหญ่กว่าอาจส่งผลกระทบระยะยาว แต่ ศอฉ.เตรียมแผนการไว้อย่างดีแล้ว โดยประสานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง








ข่าวที่เกี่ยวข้อง"มาร์ค"แนะรอศอฉ.แถลงม็อบแดงวันนี้ "ปฐมพงษ์"จี้"มาร์ค"ตัดสินใจถ้าแดงไม่สลาย "จตุพร"ยันชุมนุมต่อถ้า"เทือก"ไม่มอบตัว บาดแผลประเทศไทยอินไซต์ตำรวจประจำวันที่11พ.ค.

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive