Tuesday, April 20, 2010

แต้มหารือเสื้อแดงร่นพื้นที่เลี่ยงวังสระปทุม

แต้มหารือเสื้อแดงร่นพื้นที่เลี่ยงวังสระปทุม



คมชัดลึก :"ผู้การฯแต้ม"เข้าหารือแกนนำกลุ่มเสื้อแดง เพื่อให้ร่นพื้นที่ชุมนุม หลีกเลี่ยงวังสระปทุม หลังผู้ว่าฯกทม.เข้าพบนปช. ล่ามแปลภาษาโดนการ์ดแดงรุมทำร้าย






(20เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ที่บริเวณหลังเวทีราชประสงค์ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เดินทางเข้าหารือกับนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขานปช. และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำนปช. โดยพล.ต.ต.วิชัย ได้ขอให้กลุ่มนปช. ร่นพื้นที่ชุมนุมจากแยกปทุมวันมาทางแยกเฉลิมเผ่าให้มากที่สุด เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ใกล้กับวังสระปทุม ซึ่งเป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระเทพฯ ทั้งนี้นายณัฐวุฒิ และนายสุภรณ์รับปากที่จะดำเนินการให้ตามที่ร้องขอ
 ก่อนหน้านั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เข้าหารือกลุ่มแกนนำ อาทิ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ น.พ.เหวง โตจิราการ นายสุภรณ์ อัตถาวร นพ.เหวง โตจิราการ เป็นต้น ที่ด้านหลังเวที หลังจากใช้เวลานานกว่า 30 นาที ทั้งหมดร่วมแถลงข่าว โดย ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ครั้งนี้เข้าเยี่ยมผู้ชุมุนมด้วยความห่วงใย เนื่องจากเป็นผู้ดูแลพื้นที่ กทม. มีการหารือหลายเรื่อง เรื่องแรกเกี่ยวกับพื้นที่ ถ.ราชดำเนิน ตั้งแต่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยแกนนำ นปช. ยืนยันว่าจะไม่กลับไปในพื้นที่ดังกล่าวอีก แต่จะชุมนุมที่แยกราชประสงค์เป็นหลัก สำหรับสิ่งของที่หลงเหลือ เช่น เต็นท์และห้องน้ำ กทม. จะประสานเจ้าของให้เก็บออกให้หมด ถ.ราชดำเนิน จะคืนสู่สภาพเดิม โดย กทม. เข้าซ่อมแซมพื้นที่แล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 1-2 วัน
 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวว่า ในการหารือฝากแกนนำหลายเรื่อง คือ 1.เรื่องพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 เนื่องจากเป็นสถานที่สำ คัญของชาติ เป็นที่เคารพเทิดทูนของประชาชน 2. เรื่องการกระจายเสียงของการชุมนุม เนื่องจากเสียงบนเวทีเข้าไปถึงวังสระปทุม สถานที่ประทับของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3. เรื่องการจัดระเบียบในสวนลุมพินี เนื่องจากเป็นสถานที่ประชาชนเข้าใช้เป็นจำนวนมากในวันเสาร์ อาทิตย์ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ที่มีความผูกพันมาเป็นเวลานาน โดยแกนนำรับปากประสานจะดูแลและรีบแก้ไขข้อกังวลทั้งหมดให้เร็วที่สุด จึงขอขอบคุณแกนนำและผู้ชุมนุมในนามของ กทม.
 ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า นอกจากนั้นยังรับฟังความเห็นและความรู้สึกเรื่องต่างๆของแกนนำและมีความเห็นตรงกันว่า หลังจากเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา สิ่งที่สำคัญเวลานี้ คือ การหลีกเลี่ยงการสูญเสีย เนื่องจากไม่ว่าใครเสียชีวิต จะเป็นฝ่าย นปช. หรือทหาร ล้วนเป็นคนไทยทั้งสิ้น จึงต้องหลีกเลี่ยงการสูญเสียจากทุกฝ่าย และสัญญาว่าจะนำความไปกราบเรียนนายกฯ คาดว่าเป็นช่วงบ่ายในวันนี้ แต่การมาในวันนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนใครมาเป็นผู้เจรจา จึงขออนุญาตเรียนต่อนายกฯ เพียงคนเดียว
 “สำหรับเรื่องการขอพื้นที่คืน คงไม่ต้องผูกกันแล้ว เพราะไม่มีผู้ว่าฯ คนไหนที่ไม่ต้องการพื้นที่คืน หากผ้ชุมนุมกลับบ้านในวันพรุ่งนี้ ผมจะดีใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ต้องพูดถึงเรื่องที่เป็นไปได้ก่อน เวลานี้สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ หลีกเลี่ยงการสูญเสีย เพราะอาคารสถานที่เสียแล้วยังซ่อมได้ แต่ชีวิตเสียแล้วเอาคืนไม่ได้ ความรู้สึกของ พี่ น้อง พ่อ แม่ ญาติมิตร ของผู้สูญเสียยังคงอยู่ ส่วนจะมีเรื่องขอร้องผู้ชุมนุมอีกหรือไม่นั้น คงต้องมีเรื่อยๆ เพราะไม่มีใครอยากที่จะยืดเยื้อ เนื่องจากยิ่งยืดเยื้อ ยิ่งอันตราย อาจมีการสูญเสีย จึงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะทำเรื่องให้ยุติโดยเร็ว เพื่อหลีกเลี่ยงเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดความสูญเสีย” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าว
 ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวถึงเรื่องระบบสาธารณประโภคภายในพื้นที่ชุมนุม ว่า การให้บริการดูแลทุกข์สุข และเรื่องความปลอดภัยไม่ใช่เรื่องของการเมือง ดังนั้นตั้งแต่วันแรกที่เริ่มชุมนุม ได้มอบนโยบายให้ ปลัด กทม. เป็นผู้ดูแล เพราะ กทม. ใหน้าที่ดูแลประชาชน ทั้งชาว กทม. และต่างจังหวัดที่เข้าชุมนุม ไม่มีสิทธิ์เลือกสี เลือกพรรค หรือเลือกข้าง ต้องบริการทั้งหมด แต่ห้องน้ำมีมากน้อยเพียงไรไม่อาจรับทราบได้ เนืองจากเป็นหน้าที่ของฝ่ายประจำต้องดูแล อาจเกิดความขลุกขลักบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นเรื่องการเมืองอย่างเด็ดขาด
 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเจรจาเป็นไปด้วยความเคร่งเครียดโดยนายณัฐวุฒิ ออกตัวว่าถึงแม้ว่าม.ร.ว.สุขุมพันธ์ จะเป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ที่ผ่านมาเราไม่เคยมีปัญหากับทางกทม. เพียงแต่เราไม่ไว้ใจนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เท่านั้น พร้อมทั้งชี้แจงกับม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ว่านปช.จำเป็นต้องเดินหน้าปิดถนนรอบแยกราชประสงค์เพื่อป้องกันทหารเข้ามาสลายการชุมนุม เพราะที่ผ่านมามีการปราบปรามประชาชนด้วยอาวุธสงครามจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ส่วนจะขยายพื้นที่หรือไม่จะต้องพิจารณาตามสถานการณ์ โดยยืนยันว่าจะไม่คืนพื้นที่อย่างเด็ดขาดจนกว่านายกรัฐมนตรีจะแสดงความรับผิดชอบจากการสั่งสลายการชุมนุมในวันที่ 10 เม.ย.หากนายกฯยอมยุบสภาปัญหาทุกอย่างจะยุติ ด้านม.ร.ว.สุขุมพันธ์ แย้งว่าสถานการณ์จะบานปลายเพราะมีกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาลออกมาเป็นจำนวนมาก นายณัฐวุฒิ โต้ว่าทางออกที่ดีที่สุดคือนำพลังของประชาชนทุกสีกลับคืนสู่ระบบการเมือง คืนอำนาจให้ประชาชนไปเลือกตั้งถ้าฝ่ายใดขึ้นมาก็ต้องยอมรับ
ล่ามแปลภาษาโดนการ์ดแดงรุมทำร้าย
 เมื่อเวลา 11.50 น.วันที่ 20 เม.ย.53 ที่สน.ลุมพินี นายปิยวิช พุทธเกษร อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/19 ถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 80 แขวงออเงิน เขตสายไหม เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.เทอดศักดิ์ มนัสชน พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ลุมพินี เพื่อแจ้งความว่าถูกกลุ่มการ์ดเสื้อแดงรุมทำร้ายร่ายกายขณะเดินผ่านที่ชุมนุมบริเวณถนนราชดำริ ด้านหน้าโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เมื่อเวลา 23.30 น.วานนี้ (19 เม.ย.)
 นายปิยวิช ให้การว่า ตนทำงานเป็นล่ามแปลภาษาอิสระ ตอนนี้รับแปลภาษาให้กับผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์เช็กเทเลวิชั่นของประเทศสาธารณรัฐเช็ก และผู้สื่อข่าวจากนิตยสารสตาร์ ของประเทศมาเลเซีย ที่เข้ามาทำข่าวสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดงในประเทศไทย โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 23.30 น.วานนี้ (19 เม.ย.) ตนเดินออกจากที่ชุมนุมเพื่อไปส่งผู้สื่อข่าวเข้าพักที่โรงแรมดุสิตธานี จากนั้นจึงเดินย้อนกลับมาทางเดิมเพื่อจะเดินตัดผ่านที่ชุมนุมไปยังแยกประตูน้ำแล้วเรียกรถแท็กซี่กลับบ้านพักในซอยรามคำแหง 53 แต่เมื่อเดินมาถึงบริเวณด้านหน้าโรงพยาบาลจุฬาฯ ได้มีการ์ดกลุ่มเสื้อแดงคนหนึ่งขอตรวจค้นกระเป๋าของตนก่อนจะเดินเข้าไป
 นายปิยวิช ให้การต่อว่า ตนพยายามต่อรองขอให้การ์ดคนดังกล่าวแค่จับกระเป๋าเป้ด้านนอกดูเท่านั้น เนื่องจากตนใส่กระเป๋าสตางค์ซึ่งภายในมีเงินอยู่จำนวนหลายพันบาทอยู่ในเป้ จึงเกรงว่าจะทำให้ทรัพย์สินจะสูญหาย อีกทั้งตลอดเวลาที่ทำงานกับผู้สื่อข่าวจากต่างประเทศ ก็ไม่เคยถูกตรวจค้นแต่อย่างใด แต่การ์ดคนดังกล่าวไม่ยอมฟัง พยายามยื้อแย่งกระเป๋ากับตนอยู่นาน จนมีการ์ดคนอื่นเข้ามารุมแย่งกระป๋าของตนด้วย
 "จังหวะนั้นพวกเข้าก็แย่งกระเป๋าผมไปจนได้ แล้วก็ตะคอกใส่หน้าผมว่า มึงเรื่องมากนักใช่ไหม แล้วก็ต่อยผมเข้าที่โหนกแก้มไปเต็มๆ ครั้งหนึ่ง แต่ผมก็ไม่ยอมและพยายามเข้าไปแย่งกระเป๋าคืนมา ก็เลยถูกพวกเขาต่อยหน้าไปอีก 4-5 ครั้ง อีกทั้งยังมีการ์ดคนอื่นเข้ามารุมทั้งต่อยและใช้ของแข็งฟาดตามตัวอีกหลายครั้ง ซึ่งผมก็หันไปมองไม่ทันว่าเป็นไม้หรือเหล็ก เพราะโดนรุมทั้งด้านหน้าและด้านหลัง พอเขาฟาดผมจนหนำใจแล้ว ก็ไล่ผมให้ออกจากบริเวณนั้นทันที แต่ก่อนที่ผมจะเดินออกจากแถวนั้น ยังมีพระรูปหนึ่งเข้ามาต่อว่าผมอีกว่า เรื่องมากตั้งแต่ต้น สมควรแล้ว" นายปิยวิช กล่าว
 นายปิยวิช กล่าวด้วยว่า หลังจากนั้นตนก็เดินไปเรียกรถแท็กซี่แถวหลังสวนกลับบ้านไปทำงานต่อโดยที่ยังไม่ได้แจ้งความทันที แต่พอไปถึงคนที่บ้านก็เห็นร่องรอยตามตัวหลายแห่ง เลยบอกให้ตนมาแจ้งความ ในช่วงเช้าวันนี้ตนจึงออกจากบ้านมาตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ก่อนจะเดินทางมาแจ้งความทันที อย่างไรก็ตาม ตนจำรูปร่างหน้าตาการ์ดเสื้อแดงที่รุมทำร้ายตนได้แม่นยำเพียง 2 คน เพราะเห็นหน้าชัดเจน โดยคนแรกเป็นชายวัยรุ่น อายุประมาณ 20 ปี สูงประมาณ 160 ซม. ตัดผมสั้นหยักโศก ผิวขาว ซึ่งเป็นคนที่เข้ามาแย่งกระเป๋าตนเป็นคนแรก ส่วนอีกคนอายุประมาณ 30 ปี รูปร่างสูงใหญ่ประมาณ 180 ซม.ไว้ผมยาวและไว้หนวดเครารุงรัง 








ข่าวที่เกี่ยวข้องDSIพบ"สัณฐาน"รับสำนวนคดี10เม.ย. "ชวน"ติง"จิ๋ว-สมชาย"อย่าทำระคายเคือง แดงงดเคลื่อนพลอ้างทหารยึดสีลมแล้ว "แม้ว"ประณามมือทำป้าย"ปธน.ทักษิณ" ชาวลีลมแห่มอบ"อาหาร-น้ำดื่ม"แก่ทหาร

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive