Friday, March 8, 2013

มาร์ค งง รัฐลงนามคุ้มครองผู้ก่อความไม่สงบ

มาร์ค งง รัฐลงนามคุ้มครองผู้ก่อความไม่สงบ
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สวน “เฉลิม” ให้อยู่เฉยๆ งงลงนามผูกมัดรัฐไทยคุ้มครองผู้ก่อการฯ จับตา 28 มี.ค.นัดถกอีกรอบเกิดอะไรขึ้น ชี้ปมยกระดับแล้ว เจรจาชั้นจนท.คงยาก ยันไม่เคยเอาเรื่องไฟใต้โยงปมการเมือง...เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ศาลอาญา รัชดาฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวถึงคำชี้แจงของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ตอบกระทู้สดเกี่ยวกับการลงนามสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นว่า ส่วนตัวไม่ได้คาดหวังกับคำชี้แจงของร.ต.อ.เฉลิม เพราะไม่มีส่วนร่วมต่อการพูดคุยหรือลงนาม แต่คนที่มีบทบาทคือ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯศอ.บต.และ สมช.ซึ่งต้องรับเข้ามาเพื่อประสานงานกับ สมช.ของมาเลเซีย แต่ตนเป็นห่วงคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิมที่พูดง่ายๆ ว่า ดีกว่าอยู่เฉยๆ ซึ่งมันไม่ใช่ เพราะต้องทำให้ถูกต้องซึ่งหากทำไม่ถูกทิศทาง ไม่รัดกุม มันไม่ดีกว่าอยู่เฉยแน่นอน เช่น ปีที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไปมาเลเซียก็เกิดเหตุระเบิดที่ รร.ลีการ์เดนท์ หาดใหญ่ และจ.ยะลา ซึ่งตนมั่นใจว่าหากไม่มีการเดินทางไปมาเลเซียสองเหตุการณ์นี้จะไม่เกิดขึ้น ดังนั้นหากเป็นเช่นนี้ก็ควรอยู่เฉยๆ ดีกว่านายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า รัฐบาลไม่ควรทำเรื่องความมั่นคงเป็นวาทกรรมหรือการเมืองเพราะเป็นเรื่องใหญ่ มาก และสิ่งที่ ร.ต.อ.เฉลิม พูดในสภา ก็ไม่มีอะไรที่เป็นข้อมูลเพิ่มเติม อาจเข้าใจว่าฝ่ายค้านไม่มีเอกสาร จึงอ่านให้ฟัง ทั้งที่่ฝ่ายค้านมีหมดแล้ว แต่ข้องใจเพราะเอกสารที่ลงนามนั้น กลับเป็นการแสดงเจตนาฝ่ายเดียวของรัฐบาลไทยว่า จะให้เขามาพูดคุยด้วย แต่ไม่มีอะไรเป็นข้อผูกมัดคนที่มาพูดคุยกับเรา เรากลับมีแต่หน้าที่ต้องคุ้มครองความปลอดภัยให้เขา และ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่สามารถตอบได้ว่า กรอบของการพูดคุยครั้งต่อไปจะเป็นอย่างไร มีอะไรที่ต้องตกลงกันก่อนล่วงหน้าหรือไม่ รวมถึงเหตุการณ์นับแต่ลงนามมาก็ยังมีเหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้น มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร ก็ตอบไม่ได้นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า หัวใจของเรื่องนี้คือ คนที่มีอำนาจสั่งการในพื้นที่ เข้ามาร่วมในการพูดคุยจริงหรือไม่และเข้ามาร่วมบนความเข้าใจที่จะนำไปสู่การมีคำตอบร่วมกันหรือไม่ เพราะคนที่ลงนาม ไม่มีอำนาจในการสั่งการ หากคนในพื้นที่หากเห็นว่าสิ่งที่ทำอยู่เวลานี้เขาไม่ได้รับความสนใจ หรือไม่มีส่วนร่วม หรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่พูดคุยนี้ ก็จะมีปฏิกิริยาในพื้นที่ ทำให้เกิดความรุนแรงหรือเหตุการณ์เชิงสัญลักษณ์ที่เกิดขึ้น จากนี้ไปต้องจับตาดูวันที่ 28 มี.ค.ที่จะมีการพูดคุยอีกรอบว่าปฏิกิริยาในพื้นที่จะเป็นอย่างไรเมื่อถามว่า มีการรายงานว่าผู้ก่อความไม่สงบเตรียมคาร์บอมบ์ และรถจักรยานยนต์บอมบ์เพื่อก่อเหตุ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ต้องระมัดระวังเพราะเมื่อเขาไม่มีส่วนร่วมก็ต้องแสดงบางสิ่ง บางอย่าง แต่ไม่ทราบว่าจะทำในเชิงสัญลักษณ์หรือก่อความรุนแรง แต่ในปีที่แล้วลีการ์เดนท์และยะลารุนแรงมากจึงต้องระวังผู้สื่อข่าวถามว่า แนวคิดลักษณะนี้จะทำให้เกิดสันติภาพหรือความรุนแรงจนควบคุมไม่ได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า แนวคิดไม่ผิดเพราะการพูดคุยถือเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหา แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นเพราะคิดแต่เรื่องการเมืองหรือการสร้างกระแสที่ถือ ว่าเป็นเรื่องอันตรายเมื่อถามอีกว่า หากแนวทางนี้เดินต่อไม่ได้จะทบทวนเพื่อกลับไปสู่การพูดคุยในระดับเจ้าหน้าที่แทนการลงนามเหมือนที่ผ่านมาได้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คงจะยาก เพราะฝ่ายที่มาเซ็นเขาถือว่าระดับรัฐบาลได้รับรองการพูดคุยไปแล้ว จะไปพูดคุยในระดับต่ำกว่านี้คงยาก และเชื่อว่าในพื้นที่มีความเสี่ยงแน่นอน หากรัฐบาลยังเดินต่อแบบไม่รัดกุม ดังนั้นคำพูดที่ว่าดีกว่าอยู่เฉยๆ หรือลองทำไปก่อน ไม่ดีแล้วค่อยเลิกนั้นเป็นคำพูดที่ไม่รับผิดชอบต่อประชาชนในพื้นที่ที่ต้อง เผชิญความเสี่ยงตรงนี้ และหากไฟใต้ที่ลุกลามขึ้นมาอีกรอบ ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องรับผิดชอบนายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ยืนยันว่า ตนไม่เคยคิดนำเรื่องนี้มาเป็นการเมือง แต่เสียดายว่าที่ผ่านมาฝ่ายค้านเคยเตือนไว้หมดแล้วตั้งแต่ตอนที่รัฐบาลเชิญ ไปทำเนียบ โดยเตือนทั้งเรื่องแนวคิดของ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นการเฉพาะว่าไม่รัดกุม แต่รัฐบาลก็ไม่ฟังคำท้วงติงเหล่านี้ เมื่อถามย้ำว่า หากรัฐบาลยังมีแนวคิดเช่นนี้ แต่ ร.ต.อ.เฉลิม จะเชิญนายอภิสิทธิ์และนายถาวร เสนเนียม ไปหารือจะเป็นประโยชน์หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขอส่งข้อมูลไปให้ดีกว่า เพราะท่าทีของ ร.ต.อ.เฉลิมไม่ได้ทำงานไปในทิศทางเดียวกับรัฐบาล เรื่องใหญ่อย่างนี้นายกฯและรัฐบาลควรขอสิทธิมาแถลงในสภาและฟังความเห็น เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อนก็พร้อมที่จะให้ประชุมลับ.

No comments:

Post a Comment

Blog Archive