Sunday, January 6, 2013

ทักษิณ ฟันธงปี56 ศึกการเมือง2ขั้วรู้ผลเด็ดขาด

ทักษิณ ฟันธงปี56 ศึกการเมือง2ขั้วรู้ผลเด็ดขาด
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ทำนายอนาคตการเมืองปี 2556 เชื่อศึก 2 ขั้วรู้ผลชัยชนะเด็ดขาด เชื่อหากคนชักใยในอดีตหยุดผลักไสทหารเข้ามายุ่งเกี่ยวการเมือง บ้านเมืองก็จะไม่เกิดความรุนแรงแน่นอน...“ทีมข่าวการเมือง” ได้ถือโอกาสการเปลี่ยนผ่านสู่ศักราชใหม่ เปิดหน้าสัมภาษณ์พิเศษบุคคลสำคัญทางการเมือง โดยจะคัดสรรบุคคลที่เป็นจิ๊กซอว์ “ชิ้นสำคัญ” ในสถานการณ์ทางการเมืองช่วงต่างๆ มาแง้มมิติทางความคิด มุมมองและตัวตน จากถ้อยคำการให้สัมภาษณ์ของบุคคลสำคัญชนิดเกาะติดกระแสบุคคลทางการเมืองคนแรกที่ “ทีมข่าวการเมือง” เลือกก็คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นบุคคลหนึ่งที่เรียกได้ว่าเป็น “ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง” 9 ปีที่อยู่แดนไกล จากวันนั้นถึงวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ขยับมุมคิดการมองประเทศไทย การเมืองไทยไปถึงไหน และอย่างไรในปี 2556 “ทักษิณ” ได้เปิดแนวคิดไว้กับทีมการเมืองว่า“เชื่อว่าการเมืองปีนี้จะเป็นปีแห่งการเมืองตกผลึก ขอพูดคำว่าตกผลึกทางการเมือง วันนี้ผมเชื่อว่าการชนะเด็ดขาดจะเกิดขึ้นระหว่างพรรคการเมืองที่ใช้ปัญญากับขั้วที่ใช้โวหาร ในเมื่อประชาชนแยกแยะได้แล้วสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและกับตัวเขาเอง อะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง ตรงนั้นจะเป็นการตกผลึก”ที่ผมเชื่อว่าปีนี้จะเป็นปีตกผลึกเพราะการเมืองหลังจากปี 2554 ประชาชนเริ่มเห็นความแตกต่างของพรรคการเมืองว่า การเมืองที่ใช้ปัญญากับการเมืองที่ใช้แต่โวหาร และการเมืองที่ใช้แต่สตางค์ ไม่มีทั้งปัญญาและไม่มีทั้งโวหาร แน่นอนจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างสองพรรคเหมือนเดิม เป็นการเมืองสองขั้ว ขั้วหนึ่งใช้ปัญญา อีกขั้วหนึ่งใช้แต่โวหาร ทำให้การต่อสู้ทางการเมืองทุกครั้งก็จะมีความรุนแรง เพราะฝ่ายหนึ่งใช้ความคิด อีกฝ่ายหนึ่งใช้โวหารก็จะสู้กันอย่างนี้ตลอดไป ประชาชนก็เริ่มคิดได้เรื่อยๆ ว่าอะไรเป็นอะไร ประชาชนที่หลงคำใส่ร้ายป้ายสีก็อาจจะหลงเชื่อไปบ้างไม่ว่าจะมีการกล่าวหาว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือผลักดันออก พ.ร.บ.ปรองดองเพื่อผม จะเกี่ยวข้องกับผมได้อย่างไร ทุกวันนี้ทุกอย่างที่คิดผมคิดให้บ้านเมืองหมด ผมอยู่เมืองนอกจนชินแล้ว เมื่อก่อนนี้คิดว่าอย่างไรเราต้องอยู่เมืองไทยเท่านั้นแต่วันนี้ถ้าเมืองไทยเป็นอย่างนี้ผมอยู่เมืองนอกได้ คิดว่าถ้ากลับไปแล้วทำให้บ้านเมืองดีขึ้นผมก็กลับ แต่ถ้ากลับไปแล้วจะมีความวุ่นวายเกิดขึ้นอีกผมก็ไม่กลับ ไม่รู้จะกลับไปทำไม เพราะวันนี้ชีวิตมีสตางค์ มีบ้านอยู่หลายประเทศ มีเครื่องบินนั่ง จะไปวิตกอะไร ถือว่าทำให้ดีที่สุดแล้ว เราเกิดมาวันนี้พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะมีอะไร ดังนั้น เราต้องทำสิ่งที่ดีๆ ไว้ คิดแค่นั้นเองวันนี้ก็ปรับตัวที่จะอยู่เมืองนอกได้แล้ว ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไร ผมถือว่าผมรักบ้านเมือง รักพระเจ้าอยู่หัว มีอะไรที่คิดว่าเป็นประโยชน์ก็ทำไป แต่ก็ไม่ต้องร้อนใจว่าจะต้องกลับบ้าน “ฉะนั้น สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ก้าวไม่ข้ามผม เหมือนคิดจะฆ่าทศกัณฐ์ เพราะทศกัณฐ์ถอดหัวใจไว้ อย่างไรก็ไม่ตาย เล่นงานแต่ผมแล้วเป็นอะไร ก็ผมไม่ใช่นักการเมืองแล้ว ผมไม่ได้เป็น ส.ส. ไม่ได้เป็นอะไรเลย คุณเล่นงานผมแล้วมันได้อะไรขึ้นมา ก็ได้แค่สะใจ”ขณะที่โหวตวาระ 3 ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ถ้าที่ประชุมรัฐสภาโหวตชนะก็ไม่เป็นที่พอใจของอีกฝ่าย ถ้าโหวตแพ้ก็ไม่เป็นที่พอใจของอีกหลายฝ่าย เพราะสังคมมีความขัดแย้ง จะเดินซ้ายก็มีปัญหา จะเดินขวาก็มีปัญหา ทางออกจากความขัดแย้งของรัฐบาลก็ต้องทำประชามติ ให้ประชาชนเป็นฝ่ายตัดสิน ซึ่งเป็นแนวคิดของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางปรองดองของประเทศ และไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ดังนั้น ปีนี้จะเป็นเรื่องของกระแสการทำประชามติ และปลดล็อกคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญส่วนการปฏิวัติรัฐประหาร ไม่เชื่อว่าจะทำได้ง่ายเหมือนในอดีต ไม่ได้บอกว่าไม่มี ถึงมีก็ไม่ราบรื่นเหมือนเมื่อก่อน วันนี้ผมได้พบผู้นำหลายประเทศ ทุกคนไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหาร โดยเฉพาะประเทศที่เป็นประชาธิปไตยทั้งหลาย เพราะโอกาสที่หลายประเทศจะไม่รับรอง ไม่คบค้ารัฐบาลที่มาจากการปฏิวัติมีมากขึ้นทุกวัน ดังนั้น ในปี 2556 จะเป็นปีตกผลึก แม้ประเทศไทยยังปกคลุมไปด้วยม็อบสารพันสี ก็ที่ผมบอกไว้ถ้าฝ่ายคุมความยุติธรรมวางตัวยุติธรรม จะต้องเดินอย่างตรงไปตรงมา ทหารไม่ให้ยุ่งกับการเมือง มันจะจบด้วยตัวมันเอง เพราะในที่สุดประชาชนจะเป็นคนคิดได้ ตัดสินใจได้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่ถ้าหากไม่ตรงไปตรงมา แล้วทหารมายุ่งกับการเมืองปีนี้จะเป็นปีที่รุนแรงถ้าทหารไม่เข้ามายุ่งด้วยผมว่าอุบัติเหตุการเมืองเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะการเดินขบวน การแสดงความไม่พอใจต่างๆ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามกระบวนการประชาธิปไตย แต่ทุกครั้งที่มีปัญหาเพราะว่ามีคนไปผลักดันทหารเข้าไปอยู่ด้วย ก็เลยเกิดความรุนแรง“เชื่อว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาสอนให้รู้ว่า การเข่นฆ่าประชาชนคนไทยด้วยกันเองเป็นสิ่งที่น่าละอาย เป็นสิ่งที่เลวร้าย เป็นสิ่งที่ชาวโลกสนใจ และศาลโลกก็สนใจ ฉะนั้น ไม่เป็นประโยชน์กับประเทศไทย ผมคิดว่ายังไม่มีอะไร บางคนว่าเดือน เม.ย.ปีนี้น่ากลัวมาก ดาวมฤตยูเล็งดวงเมือง ลัคนาเมืองต้องดาวอังคารอยู่ด้วย ผมก็ยังไม่เชื่อ ถ้าดูจากพัฒนาการทางการเมือง น่าจะเป็นปีที่การเมืองตกผลึก”การต่อสู้กันก็ยังมีแน่นอน เพราะว่าฝ่ายหนึ่งถูกดำเนินคดี อีกฝ่ายก็ถูกจองจำอยู่ จึงเป็นเรื่องที่แสวงหาความถูกต้อง ฉะนั้น ปีนี้ถ้าต้องการความรุนแรง ก็จะถูกกำหนดโดยฝ่ายที่ควบคุมความยุติธรรมทำให้เกิดความไม่ยุติธรรม แล้วใช้ทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง อันนี้รุนแรงแน่ แต่ถ้าฝ่ายที่คุมความยุติธรรมให้รักษาความยุติธรรมและเป็นกลางไว้ และฝ่ายทหารไม่มายุ่งกับการเมือง ผมเชื่อว่าการเมืองจะตกผลึกและจบในปีนี้ขณะที่ข้อหาใหญ่เรื่องความไม่จงรักภักดี เป็นการกล่าวหาทางการเมือง เป็นการหาเรื่อง คนที่กล่าวหาผมเชื่อว่าไม่ได้รักในหลวงมากกว่าผม เพราะผมเป็นผู้ที่ได้รับพระเมตตา ถือเป็นหนี้บุญคุณต่อเจ้านายทุกพระองค์มาก ได้รับพระราชทานพระเมตตามาหลายครั้งในชีวิต เป็นไปไม่ได้เลย สันดานผมเป็นคนมีความกตัญญู แม้กระทั่งคนทั่วไปชาวบ้านเคยทำอะไรให้ยังนึกถึงบุญคุณเขา นี่พระเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีพระเมตตากับผม แล้วผมจะไม่กตัญญูได้อย่างไรถึงอย่างไรก็เชื่อว่าสิ่งที่เป็นของขวัญปีใหม่ที่ดีที่สุดของคนไทย คือ รัฐบาลจะแบ่งสรรอำนาจของประเทศโดยประชาชนมาตัดสินให้หน่อยว่าจะเอาอย่างไร จะเอาอย่างแช่แข็งประเทศหรือจะเอาความก้าวหน้าของประเทศ คนที่ชักใยทั้งหลายจะต้องเลิกชักใย ให้กลไกทุกอย่างทำงานด้วยตัวเอง ทุกอย่างก็จบผมเป็นคนใจกว้าง พร้อมที่จะคุยกับทุกฝ่าย ไม่ค่อยถือโทษโกรธแค้นกับใคร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราเป็นคนไทยด้วยกัน ผมถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมของใครก็รับไป คนเคยทำงานด้วยกันรู้จักกันจะมาคุยก็ไม่เป็นไร ไม่ขัดอยู่แล้วอยากบอกคนไทยว่าการเมืองยังมองในแง่ดีว่า น่าจะเป็นปีแห่งการตกผลึก ไม่น่าจะเกิดนองเลือด ไม่น่าจะเกิดความรุนแรง เพียงแต่ขอร้องว่าคนที่ชักใยในอดีตไม่ให้มีความยุติธรรมเกิดขึ้น ต้องหยุดคนที่ผลักไสไล่ส่งให้ทหารเข้ามายุ่งการเมืองก็ต้องหยุดเพราะรัฐบาลกำลังส่งเม็ดเงินสู่ระบบเศรษฐกิจ โครงการต่างๆ จะเริ่มดำเนินการเยอะมากในปีนี้ การลงทุนภาครัฐ การลงทุนต่างประเทศดี การท่องเที่ยวดี รัฐบาลเน้นเศรษฐกิจรากหญ้า เพื่อให้ขึ้นถึงข้างบน ปัญหาสังคมจะลดไปเยอะ เพราะวันนี้คนรู้ความจริงและเข้าใจอะไรมากขึ้นเสื้อแดงและเสื้อเหลืองก็จะเริ่มยุติลงแล้ว.ทีมข่าวการเมือง

No comments:

Post a Comment

Blog Archive