Tuesday, May 4, 2010

แกนนำเสื้อแดงยึกยักขอชัดเจนโรดแม็พ

แกนนำเสื้อแดงยึกยักขอชัดเจนโรดแม็พ



คมชัดลึก : นายกฯอ้างครม.รับทราบโรดแม็พ 5 ข้อแล้ว วอนทุกฝ่ายร่วมมือปฏิรูปประเทศ ยืนยันสิ่งที่ประกาศไปนั้นคิดและรับฟังรอบด้านแล้ว มอบ กอร์ปศักดิ์และอนุพงษ์เจรจากับม็อบแดง ย้ำชัดไม่เว้นความผิดอาญากับแกนนำที่กระทำผิด ระบุหกเดือนยุบสภาดีสุด-เดินหน้าต่อแม้นปช.ไม่เอาด้วยแต่อาจมีสิ่งขลุกขลักบ้าง ยอมรับ ชวนและพรรคสะตอไม่รู้เรื่องนี้แต่ 6 พ.ค.จะไปชี้แจงที่ประชุมพรรค ตอกอีกดอก แม้ว เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด






เมื่อเวลา 14.40 น.วันที่ 4 พ.ค.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม.หลังจากที่นายอภิสิทธิ์แถลงข่าวเมื่อคืนวันที่ 3 พ.ค.ประกาศโรดแมป 5 ข้อในการสร้างความปรองดองและปฏิรูปประเทศ และนำเสนอโรดแมปต่อสังคมและนปช.เพื่อยุติเหตุวุ่นวายในบ้านเมือง จากนั้นนายกฯจะยุบสภาในวันที่ 14 พ.ย. โดยผู้สื่อข่าวถามถึงขั้นตอนและรายละเอียดการดำเนินการ นายกฯ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าแกนนำนปช.มีท่าทีที่ชัดเจนแล้วหรือไม่ และมีท่าทีอย่างไร เมื่อคืนวันที่ 3 พ.ค.ตนพูดชัดว่ากระบวนการปรองดองที่ตนนำเสนอเป็นสิ่งที่ตั้งใจทำตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป และแจ้งให้ครม.ทราบแล้วว่า แม้ว่าการดำเนินการกระบวนการนี้เป็นเรื่องที่เชิญชวนทุกภาคส่วนในสังคมเข้ามา แต่รัฐบาล ฝ่ายการเมือง หน่วยราชการต้องถือเป็นวาระสำคัญที่ต้องทำโดยเร่งด่วน
 “ผมถือว่าการเร่งเเก้ปัญหาความแตกแยกเป็นเรื่องสำคัญที่สุด แต่ในส่วนนี้กลุ่มผู้ชุมนุมต้องยุติการชุมนุม บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ทุกคนทำหน้าที่ได้ตามปกติ ขอให้มาช่วยกันกำกับดูแลในเรื่องต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยก รัฐบาลจะจัดให้มีการเลือกตั้งได้ในวันที่ 14 พ.ย. หากไม่มาร่วมก็เดินหน้าตามแผน 5 ข้อ แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะขลุกขลักและไม่ชัดเจนว่าบรรยากาศหรือสถานการณ์ที่เหมาะสมจะเลือกตั้งจะเป็นเมื่อใด ฉะนั้นแนวทางของรัฐบาลจะเดินตามแนวทางนี้และเป็นเรื่องที่นปช.ต้องตัดสินใจ” นายกฯ กล่าว
 เมื่อถามว่า คล้ายว่ารัฐบาลยอมจำนนคำข่มขู่คุกคามทั้งที่ก่อนหน้านี้รัฐบาลระบุว่าจะไม่ยอมให้เป็นบรรทัดฐานทางการเมืองในประเทศ นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้คิดแบบนั้น หากหลายคนจำได้ตนพูดเสมอตั้งแต่ปีที่แล้วว่าการยุบสภามีเวลาที่เหมาะสม ตนเคยพูดไว้ 3 เงื่อนไข คือเศรษฐกิจ กรอบเวลา วันนี้ที่ตนพูดคืองบประมาณเดินได้ตามปกติและตนมั่นใจว่า หากงบประมาณเดินได้ตามปกติ บ้านเมืองสงบ เศรษฐกิจปีนี้แม้จะได้รับผลกระทบแต่เป็นเพียงช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค. ประกอบกับ 3 เดือนแรกของปีนี้เศรษฐกิจดีเกินคาด ฉะนั้นเงื่อนไขการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจก็เป็นไปตามที่ตนเคยพูดไว้
 นายกฯ กล่าวต่อว่า ส่วนกติกานั้น ขอเรียนว่ามีความเห็นที่แตกต่างหลากหลายมาตลอดและกระบวนการเรื่องนี้หาจุดลงตัวไม่ได้ ฉะนั้นเมื่อถึงจุดหนึ่งก็อยู่ที่แผนข้อ 5 ที่ต้องไปทำกระบวนการและมีความชัดเจนออกมาว่าจะเอาอย่างไรแต่สามารถหาข้อยุติได้ใน 6 เดือนข้างหน้า ส่วนความสงบนั้นหาก 6 เดือนไม่มีการชุมนุมเคลื่อนไหวต่อต้านและขัดขวางการทำหน้าที่ของฝ่ายต่างๆจะเป็น 6 เดือนที่แตกต่างกับตลอดปีกว่าๆ ที่ผ่านมาและเป็นบรรยากาศที่เอื้อต่อการเลือกตั้งได้ ตรงนี้เป็นจุดยืนที่ตนพูดมาตั้งแต่ต้น แม้แต่ในช่วงที่มีการเจรจากับแกนนำนปช.ตนมีเงื่อนไขไว้ในช่วงปลายปี ฉะนั้นถือว่าเป็นการตัดสินใจในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบ้านเมือง หากตนจะไปจำนนคือต้องยุบสภาทันที หรือ 15-30 วันที่ต้องว่ากันไป
 เมื่อถามว่าแม้จะไม่มีการชุมนุมแต่ไม่มีหลักประกันเรื่องวินาศกรรมที่เกิดควบคู่กันมาตลอดจะยุติและการลงพื้นที่หาเสียงจะปลอดภัยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า วินาศกรรมเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อย่างน้อยที่สุดคดีอาญาไม่มีเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างเดินหน้าโดยเฉพาะคดีหลักๆในสองเรื่องที่กรมสอบสวนคดีพิเศษรับไปดำเนินการแล้วและเดินหน้าต่อเต็มที่โดยไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ในกระบวนการปรองดองนั้นไม่ได้พูดถึงการนิรโทษกรรมให้ใครในทางอาญาทั้งสิ้น จะยกเว้นประชาชนธรรมดาเข้าไปในพื้นที่ชุมนุมตามพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีหลักและมีหมายจับ ทุกอย่างจะดำเนินการตามปกติต่อไป
 “ส่วนเหตุการณ์ 6 เดือนข้างหน้านั้นต้องดูว่ากระบวนการก่อการร้ายและวินาศกรรมยังมีอยู่หรือไม่ แต่เชื่อว่าคดีที่เริ่มต้นแล้วและมีการจับกุมตรวจค้นพบอาวุธนั้นทำให้ทราบชัดเจนขึ้นว่า เครือข่ายการก่อการร้ายเกี่ยวกับใครบ้าง ก็น่าจะทำให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานในเรื่องนี้ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น” นายกฯ กล่าว
 เมื่อถามว่าหลักประกันกับผู้ชุมนุมหากมีการรับเงื่อนไขนี้จะเป็นเช่นใด นายกฯ กล่าวว่า หากรับเงื่อนไขจะมีวิธีบริหารยุติการชุมนุมคือดูแลความปลอดภัยของประชาชนที่เดินทางกลับ และเจ้าหน้าที่รัฐต้องตรวจสอบอาวุธเพื่อให้เกิดความปลอดภัยและมั่นใจของทุกฝ่าย เมื่อถามว่าเวลาที่จำกัดคือ 6 เดือน ข้อใดใน 5 ข้อจะสำเร็จก่อน นายกฯ กล่าวว่า แต่ละเรื่องไม่เหมือนกัน เช่น หากไล่จากเรื่องเฉพาะเช่นการสอบสวนหรือตรวจสอบข้อเท็จจริงในเหตุการณ์นั้น ตนคิดว่า 6 เดือนเพียงพอ ส่วนกติกาการเมืองเรื่องใดเร่งด่วนก็ทำก่อน ส่วนเรื่องไม่เร่งด่วนหากตกลงกันได้ ก็รอไว้หลังการเลือกตั้งได้ ส่วนกระบวนการสื่อและสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นต้องทำงานต่อเนื่อง ส่วนการแก้ปัญหาโครงสร้างนั้นแน่นอนว่าไม่มีใครสามารถทำเสร็จได้ภายใน 6 เดือนแต่สิ่งที่จะสร้างขึ้นมาคือกลไกและกระบวนการที่จะทำเรื่องนี้ได้ต่อเนื่อง ซึ่งในวันที่12-13 พ.ค.จะมีการประชุมคณะกรรมการเสริมสร้างความเข้มแข็งในชุมชนและได้ประสานภาคประชาสังคมมาทำข้อเสนอการปฏิรูปประเทศและสังคม ที่จะนำไปสู่การจัดสมัชชาในวันที่ 20 พ.ค. และข้อเสนอนี้จะเดินหน้าเป็นรูปธรรมในข้อเสนอย่อยๆเช่น ที่ดินทำกิน หนี้สิน โอกาสและความยากจน
 เมื่อถามว่า จะยกเลิกพ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไปเร็วมากเพราะยังไม่ทราบว่าการชุมนุมจะยุติหรือไม่ ขอเรียนว่าพ.ร.ก.ฉบับนี้ต้องมีอีกระยะหนึ่ง เช่น การบริหารยุติการชุมนุมต้องมีการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่เพื่อดูแลความปลอดภัยทั้งบุคคลและสถานที่ ตรงนี้มีความจำเป็น รวมทั้งเรื่องกลไกของสื่อที่ต้องทำขึ้นมาเพื่อไม่ให้เกิดการปลุกระดมและปลุกปั่นได้ เมื่อถามว่าแสดงว่านายกฯจะใช้พ.ร.ก.ฉบับนี้ไปจนกว่าจะแน่ใจ นายกฯกล่าวว่า ต้องใช้ไป ขอเทียบเคียงให้เห็นเมื่อปีที่แล้วว่าเมื่อเหตุการณ์ยุติลง มีเวลาสองสัปดาห์ก่อนยกเลิกพ.ร.ก.ฉบับนี้ ขั้นตอนตรงนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
 เมื่อถามว่า ข้อเสนอ 5 ข้อของนายกฯ ที่เสนอไปนั้น จะมั่นใจว่าท่าทีของนปช.จะเป็นเอกภาพหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เรากำลังพูดถึงคนจำนวนมากและหลากหลาย ตนคิดว่ามันคงจะไม่ยากเกินไปที่จะรู้ว่าอะไรที่เป็นขบวนการและระบบหรืออะไรเป็นสิ่งที่อาจมีปัญหาควบคุมไม่ได้ แต่สิ่งหนึ่งในกระบวนการปรองดองที่ตนยืนยันว่าทุกข้อนั้น เช่น สื่อที่สร้างความแตกแยกหรือปัญหาการล่วงละเมิดสถาบัน มันไม่พอที่แต่ละฝ่ายจะบอกว่าตัวเองไม่เกี่ยว ทุกคนต้องมาช่วยกันทำว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจะแก้ไขอย่างไร เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ชัดเจน มีชื่อของบุคคลว่าใครรับผิดชอบบ้าง ทุกฝ่ายและนปช.ต้องช่วยกันว่าสื่อนี้เกี่ยวข้องกับนปช.หรือไม่ เช่น เว็บไซต์นปช.ยูเอสเอ ตกลงแล้วเกี่ยวข้องกับนปช.หรือไม่ หากเกี่ยวข้องก็แสดงว่าไม่เข้าสู่กระบวนการปรองดองเพราะมีพฤติกรรมชัดเจน หากไม่เกี่ยวข้องก็ต้องร่วมมือกับเราในการจัดการ
 “ตรงนี้เป็นตัวอย่างที่ยกให้เห็นว่าต้องเข้าเงื่อนไขแบบนี้และคงไม่ใช่เรื่องที่บอกว่ามีปัญหาแล้วไม่เดินตามกระบวนการปรองดองแต่ไปบอกว่าไม่เกี่ยวและไม่รู้คงไม่ได้” นายกฯ กล่าว
 เมื่อถามว่า นายกฯมั่นใจหรือไม่ว่าการตัดสินใจของแกนนำนปช.จะเป็นอำนาจเด็ดขาด นายกฯ กล่าวว่า “เป็นระบบของฝ่ายนั้น ผมก้าวล่วงไม่ได้ ที่ผ่านมาการบริหารการชุมนุม แกนนำนปช.ต้องบริหารจัดการไป ผมขอเรียนว่า สังคมดูออกว่าอะไรเป็นอะไร”
 เมื่อถามว่า พรรคร่วมรัฐบาลเห็นด้วยกับข้อเสนอ 5 ข้อนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีปัญหา แผนที่เสนอก็เสนอในนามของรัฐบาล เมื่อถามว่า สิ่งใดที่ทำให้นายกฯยอมร่นเวลาการยุบสภาจาก 9 เดือนเหลือ 6 เดือน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ประเมินจากสถานการณ์และประเมินจากสิ่งที่จะต้องดำเนินการ คิดว่าเรื่องเศรษฐกิจได้อธิบายแล้ว เรื่องกติกาบางทีก็อยู่ที่ว่าถ้าไม่มีกรอบเวลาที่ชัดเจนก็จะไม่หาข้อยุติกัน ส่วนเรื่องความสงบถ้ามันสงบ 6 เดือนต่อเนื่องกันตนว่ามันก็นานกว่าทุกช่วงระยะเวลาในหลานปีที่ผ่านมา เมื่อถามว่า แกนนำนปช.เรียกร้องให้พรคร่วมรัฐบาลแถลงยืนยันร่วมกัน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีความจำเป็นเพราะอำนาจการยุบสภาไม่ได้เป็นของครม.แต่เป็นของนายกฯ ที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ
 เมื่อถามว่า นปช.ยื่นข้อเสนอว่าควรจะต้องเปิดสัญญาณพีทีวี สัญญาณอินเตอร์เน็ตและวิทยุชุมชนในเครือข่ายนปช.ทั้งหมด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เมื่อกลไกที่มีดูแลเรื่องสื่อเรียบร้อยก็จะสามารถดำเนินการได้ตามข้อเสนอข้อที่ 3 เมื่อถามว่า แกนนำนปช.ที่ถูกหมายจับเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมซึ่งหน้าได้ ถ้าแกนนำนปช.รับข้อเสนอตามแผนปรองดอง เมื่อกลับบ้านจะโดนล็อกตัวหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “เขาก็ควรจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ที่เขาสามารถจะได้รับจากกระบวนการยุติธรรมได้” เมื่อถามว่า เท่ากับว่าหากเจ้าหน้าที่เจอซึ่งหน้าก็จับกุมได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าคงบริหารไม่ให้เกิดความวุ่นวาย แต่ทุกคนความรับผิดทางกฎหมายเป็นอย่างไรก็ยังเป็นเช่นนั้นสิทธิตามกกฎหมายมีเช่นไรก็ยังมีเช่นนั้น
 ผู้สื่อข่าวถามว่า การประกาศยุบสภาของนายกฯจะเกิดปัญหาข้าราชการเกียร์ว่างหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ หัวเราะก่อนกล่าวว่า ไม่มีใครรู้แน่นอน มันต้องบริหารทั้งสถานการณ์จากวันนี้ถึงเดือนพ.ย.และเลือกตั้ง ไม่มีปัญหา เพราะไม่มีรัฐบาลชุดไหนที่ไม่มีอายุไม่สิ้นสุดอยู่แล้ว เมื่อถามต่อว่า ทำไมนายกฯไม่อยู่จนครบวาระและจะตอบคำถามคนไม่อยากให้ยุบสภาได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กระบวนการปรองดองคงไม่มีใครที่จะได้ทุกสิ่งทุกอย่างตามใจชอบ และจริงๆก่อนที่จะมีการชุมนุมตนก็ส่งสัญญาณมาโดยตลอดว่า ตนเห็นว่าการยุบสภาอาจจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้แต่ต้องเป็นเวลาที่เหมาะสม ดังนั้นสิ่งนี้เป็นจุดยืนของตนมาโดยตลอด และเข้าใจเห็นใจคนที่อยากจะเห็นการที่รัฐบาลอยู่ครบวาระและตนได้ให้การยืนยันว่าการตัดสินใจของตนอยู่บนหลักการที่เคยพูดมาโดยตลอด ไม่ใช่เป็นเรื่องการไม่เสียหลักในเรื่องของนิติรัฐ และไม่มีการนิรโทษกรรมทางอาญาใครมีความผิดทางกฎหมายอย่างไรต้องดำเนินการ
 เมื่อถามว่า นายกฯมั่นใจหรือไม่ว่าแผนปรองดองจะเป็นคำตอบสุดท้ายในเรื่องอายุรัฐบาลจะอยู่อีก 6 เดือน นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีอะไรแล้วในเรื่องการที่ต่อรอง ตนคิดว่าเป็นการนำเสนอที่ครบถ้วนในตัวของมันเอง ถ้าตอบรับก็รับถ้าไม่ตอบรับก็ไม่ตอบรับ ตนนึกไม่ออกว่าสังคมจะปล่อยให้เป็นเรื่องของการมาเจรจาต่อรองอะไรกันอีก เพราะคิดว่าสิ่งที่ตนพูดไปสดับรับฟังจากทุกฝ่ายแล้ว แม้กระทั่งคนซึ่งเกี่ยวข้องอยู่กับผู้ชุมนุมเองก็ยอมรับว่ามันเป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับการแก้ปัญหาในภาพรวม ถ้าไม่ตอบรับก็ต้องดำเนินการบังคับใช้กฎหมาย
 เมื่อถามว่า ต้องมีการลงสัตยาบันกันหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ต้องลงสัตยาบันเพราะการแถลงต่อสาธารณะมันผูกมัดทุกอย่างอยู่แล้วในตัว และตนได้อธิบายเงื่อนไขต่างๆอย่างชัดเจน ตอนนี้มันก็มีเรื่องรายละเอียดเท่านั้น เพราะแต่ละข้อต้องมีบุคคลและกลไกที่ต้องมารับผิดชอบ ต้องฟังและช่วยกันคิดเร่งจัดตั้งกันขึ้นมา
 เมื่อถามว่า นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วย และยืนยันว่าไม่เป็นมติพรรค นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยอมรับว่าไม่ใช่มติพรรค แต่คิดว่าในหลักของการตัดสินและการบริหารสถานการณ์ตนได้ทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคในระดับหนึ่ง ส่วนความเห็นของนายชวนนั้น ตนยังไม่เห็นรายละเอียดการให้สัมภาษณ์ แต่เห็นที่สรุปออกมา 2 เรื่อง คือไม่เห็นด้วยว่ายุบสภาในลักษณะที่เป็น การจำนนต่อการกดดันซึ่งตนได้อธิบาย แล้วหลักยุบสภาที่ตนคิดว่าเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับที่ตนพูดมาก่อนหน้านี้ และไม่เห็นด้วยกับการนริโทษกรรมคดีอาญาซึ่งไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการ ปรองดองอยู่แล้ว ดังนั้นตนไม่แน่ใจว่าในรายละเอียดนายชวนพูดว่าอย่างไร แต่นายชวนได้พูด 2 เรื่องนี้และตนเห็นว่าไม่ขัดอะไรกับสิ่งที่ตนตัดสินใจไป
 เมื่อถามว่า นายกฯมั่นใจหรือไม่ว่าการตัดสินใจบริหารตามแผนนี้พรรคประชาธิปัตย์จะยอมรับ การตัดสินใจของนายกฯ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจ แต่ในพรรคมีสิทธิ์แสดงความเห็นแต่เป็นเรื่องที่ตนมั่นใจ เพราะการพูดคุยรายงานสถานการณ์กับสมาชิกในพรรคทำอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นเรื่องปกติว่าความคิดเห็นต่อสถานการณ์มีหลากหลาย ส.ส.ของพรรคก็รับความคิดเห็นจากกลุ่มคนที่หลากหลาย บางคนจะยังสับสนบ้าง บางคนอาจะเห็นด้วยไม่เห็นด้วยเป็นเรื่องปกติ และการประชุมพรรคประชาธิปัตย์ในวันที่ 6 พ.ค.นี้ตนจะไปประชุมและอธิบาย
 เมื่อถามย้ำว่า จะไม่นิรโทษกรรมให้เฉพาะคดีอาญา หมายความว่าแกนนำนปช.ก็จะไม่มีความผิดหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า "ทำไม ขณะนี้เขามีหมายจับอยู่ก็เดินต่อ กระบวนการเดินต่อ เพราะหมายจับที่ออกไปเป็นคดีอาญาทั้งสิ้น" เมื่อถามว่า ไม่ว่าเหตุการณ์จะจบลงอย่างไรแกนนำนปช.ทั้งหมดที่มีหมายจับหมายเรียกจะต้องถูกดำเนินคดี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ต้องมีการดำเนินคดีตามปกติ สิทธิและหน้าที่ของเขาเป็นอย่างไรก็ยังเป็นอย่างนั้น และในกระบวนการเข้าไปแล้วจะต้องเข้าสู่ขั้นตอนที่จะต้องเป็นดุลยพินิจของศาล เราต้องเคารพการตัดสินของศาล ความหนักเบาจะมีการประกันศาลจะใช้ดุลยพินิจในการตัดสิน”
 ผู้สื่อข่าวถามว่า คณะกรรมการเลือกตั้ง(กกต.)อยากให้นายกฯสรุปให้ชัดเจนว่าจะยุบสภาวันใด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ไม่เป็นไร เราอย่าไปทำให้เรื่องซับซ้อนไปอีก เอาว่าจริงๆแล้วเลือกตั้ง 14 พ.ย.”
 เมื่อถามว่า ในที่ประชุมครม.ได้มีการติดต่อกับแกนนำผู้ชุมนุมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี พอดีประชุมครม.มีการตัดสัญญาณโทรศัทพ์ทุกคนอยู่แล้ว แต่หากมีการยุติการชุมนุมต้องมีการบริหารขั้นตอนพื่อประโยชน์เรื่องความปลอดภัยของผู้ชุมนุม ในครม.ตนได้มอบหมายให้ฝ่ายการเมืองโดยนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่วนฝ่ายข้าราชการประจำได้มอบให้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบ กรณีที่จะมีการยุติการชุมนุม 2 คนนี้ต้องเป็นผู้ประสานงานจัดการยุติการชุมนุม การออกจากที่ชุมนุมให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม ตนก็หวังไม่ต่างจากประชาชนคนไทยทั่วไปว่า จะเป็นโอกาสที่จะออกจากวิกฤติอีกครั้งหนึ่ง วันนี้อาจมีโอกาสแล้วอาจจะผ่อนคลายลงบ้างแต่ไม่ทราบว่าท่าทีสุดท้ายของนปช .จะเป็นอย่างไร แต่คิดว่าสิ่งที่ตั้งเอาไว้ 6 เดือนทุกอย่างสงบเรียบร้อยจริงก็ได้กำชับไปแล้วว่าเป็นภารกิจสำคัญที่สุดของรัฐบาลในการแก้ปัญหาความแตกแยกทั้งหมดซึ่งต้องขอความร่วมมือจากประชาชนด้วย
 เมื่อถามว่า จะกลายเป็นความสุขชั่วคราวแล้วจะเป็นทุกข์หนักของประเทศในอนาคตหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยู่ที่พวกเราทุกคนว่าในที่สุดจะเป็นเรื่องชั่วคราวหรือไม่ ตนมีหน้าที่จะไม่ให้เป็นอย่างนั้นและตนต้องรับผิดชอบการตัดสินของตน เมื่อถามอีกว่า ข้อเสนอที่ 5 เหมือนจะเป็นประโยชน์เฉพาะนักการเมืองไม่กี่คน จะตอบคำถามประชาชนที่ไม่ได้ทำผิดกฎหมายได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนอธิบายแล้วว่าจริงๆตนจบแค่ 4 ข้อ มันก็เป็นคำตอบกับโจทย์ที่เกี่ยวข้องกับประชาชนในวงกว้างแต่คิดว่าวันนี้ เราไม่ยอมรับความจริงว่าความขัดแย้งอีกส่วนหนึ่งเป็นปัญหาของนักการเมืองกันเอง ถ้าเราไม่เผชิญตรงนั้นคำตอบมันก็ไม่ครบ ส่วนการดำเนินการตามข้อ 5 จะใช้วิธีการอย่างไร ตนกำลังเปิดทางเลือกอยู่ประมาณ 2 ทาง และกำลังตัดสินใจว่ากลไกดำเนินการเรื่องนี้เป็นอย่างไร แต่การหาข้อยุติแม้จะเกี่ยวข้องกับนักการเมืองโดยตรงก็ต้องมีคำตอบให้กับสังคม  เมื่อถามถึงกรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณอีกครั้งในช่วงนี้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อยากจะพิสูจน์ว่าไม่ได้เป็นไปตามข่าวลือ และคิดว่าเป็นการยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณก็เกี่ยวข้องกับกระบวนการต่างๆที่ เกิดขึ้นทั้งหมดอยู่ ยังมีการเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิด
ม็อบแดงเก็บข้าวของรอลุ้นระทึกแกนนำรับโรดแม็พ
 เมื่อเวลา 17.00 น. บรรยากาศการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เข้าสู่วันที่ 53 ตลอดช่วงบ่ายที่ผ่านมาภายหลังฝนตกหนักกระทั่งหยุดตก บนเวทีปราศรัยยังคงมีการขึ้นร้องเพลงจากแกนนำและผู้ร่วมชุมนุมตลอดเวลา ทั้งนี้ในช่วงเวลา 16.00 น. แกนนำหลัก อาทิ นายวีระ มุสิกพงษ์ นายจตุพร พรหมพันธ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ได้ร่วมประชุมหารือกัน โดยบนเวทีปราศรัยได้ระบุว่า ภายในเวลาประมาณ 18.00 น. ทางแกนนำจะชี้แจงแนวทางข้อเสนอปรองดองโรดแมป 5 ข้อของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนายกรัฐมนตรี รวมถึงการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 14 พ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ตามเต๊นท์ของผู้ชุมนุมปรากฏว่า บางส่วนได้ทยอยเก็บของทำความสะอาดแล้วแม้ว่า ทางแกนนำจะยังไม่ได้ประกาศความชัดเจนก็ตาม
เมื่อเวลา 18.00น.แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงได้ประกาศมติโดยข้อความชัดเจนเกี่ยวกับโรดแม็พและจะไม่ขอนิรโทษกรรมโดยให้ดำเนินการตามกฎหมาย








ข่าวที่เกี่ยวข้องหุ้นปิดบวก33.35จุดซื้อขาย4หมื่นล้านรับโรดแม็พสมศักดิ์ชมอภิสิทธิ์ฉลาดคลอดโรดแม็พมาต่อรอง "ทักษิณ"ลั่นไม่เกี่ยวกับโรดแม็พแดงตัดสินใจเองทุกฝ่ายขานรับโรดแม็พเลือกตั้ง14พ.ย. แดงอุดร1พันเข้ากรุงเทพฯไม่สนโรดแม็พอภิสิทธิ์

NEWSblank ข่าวออนไลน์
เรียนภาษาอังกฤษ | หอพัก | ดาวน์โหลด | vol6

No comments:

Post a Comment

Blog Archive