มาร์คดักทางโภคินจ่อออกแถลงการณ์ ต้านอำนาจศาล รธน.
อภิสิทธิ์ ดักทาง โภคิน จ่อออกแถลงการณ์ต้านอำนาจ ศาล รธน. ตอกย้ำ “ทักษิณ” ยกปัญหาตัวเองขึ้นเป็นปัญหาชาติ รับ ตอบยาก ใกล้ยุบสภาฯ หากเป็นจริงก็ทำเพื่อ นายใหญ่วันที่ 22 เม.ย. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวถึงกรณีที่ นายโภคิน พลกุล ประธานคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลเพื่อศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมมาตรา 291 จะออกจดหมายเปิดผนึก ค้านอำนาจศาลรัฐธรรมนูญที่รับคำร้อง เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่า ทุกคนมีขอบเขตอำนาจหน้าที่ของตนเอง ศาลรัฐธรรมนูญก็มีหน้าที่เฉพาะในการดูแลพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ซึ่งในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 ที่มีผู้ไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ก็มีการยกคำร้องไปแล้ว ซึ่งในครั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญ เพิ่งจะรับคำร้อง แต่กลับมีการคัดค้าน แล้วก็ดูกระไรอยู่ เพราะหากเริ่มตั้งคำถามซึ่งกันและกันก็จะเป็นปัญหา เนื่องจากเป็นการเพิ่มความขัดแย้งระหว่าง ฝ่ายนิติบัญญัติ และตุลาการมากขึ้น โดยเห็นว่า ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องการที่จะผลักดันไปสู่เป้าหมายที่ไม่ว่า จะฝ่ายนิติบัญญัติ ตุลาการ หรือทุกๆ ฝ่ายจะต้องอยู่ภายใต้ฝ่ายบริหารเกือบหมด ซึ่งไม่สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย จึงคิดว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่เป็นความพยายามที่จะนำไปสู่การล้มอำนาจ ตุลาการ เพราะมีการท้าทายอำนาจตุลาการมาโดยตลอด หากตัดสินถูกใจก็เฉยๆ แต่ถ้าไม่พอใจคำตัดสิน ก็จะสร้างกระแสเข้ามาล้มระบบตรงนี้ ซึ่งอันตราย นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณี ที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สไกป์มาในการประชุม ส.ส.ว่า หากแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ จะมีการยุบสภา จะทำให้ดีกรีทางการเมืองร้อนแรงขึ้นหรือไม่นั้น ก็ชัดเจนว่า เป็นเป้าหมายที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ปักธงไว้ว่า จะกลับบ้านมาโดยไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเหมือนกับคนอื่น โดยรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ก็วนเวียนอยู่ตรงนี้ ผ่านมาเกือบสองปีแล้ว ทั้งที่มีหน้าที่ต้องไปทำในเรื่องอื่นมากกว่า แต่ก็ทำให้ปัญหาเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการนิรโทษกรรมกลับมาเป็นปัญหา ของชาติอีกครั้ง เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ เอาปัญหาของตัวเองมาเป็นปัญหาของประเทศอยู่ตลอด ส่วนพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็พยายามที่จะให้ประชาชนทราบความจริงให้ได้มากที่สุด และเตือนรัฐบาลว่า อย่าสร้างปมความขัดแย้งซ้ำเลย เมื่อได้อำนาจมาแล้ว ควรใช้อำนาจเพื่อแก้ปัญหาของชาติ ที่มีเรื่องใหญ่รอการแก้ไขมากมายที่ต้องทำ ทั้งเรื่องการเตรียมประเทศ ให้มีความพร้อมต่อประชาคมอาเซียน หรือการตั้งเป้าปี 2020 ก็ควรจะมุ่งไปที่จุดนั้น ทำไมถึงจะให้บ้านเมืองยุ่งวุ่นวายอยู่กับปัญหาคดีความ ของคนไม่กี่คนเมื่อถามต่อว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการยุบสภาในระยะเวลาอันใกล้นี้ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตอบยาก แต่ส่วนตัวคิดว่า สิ่งที่สำคัญคือ ถ้าพูดอย่างนี้ พรรคเพื่อไทยก็จะดำรงอยู่เพียงเพื่อเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น ส่วนจะเป็นเพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ มีความมั่นใจว่าจะชนะเลือกตั้ง จึงนำเรื่องการยุบสภามาเป็นเงื่อนไขสุดท้ายหรือไม่นั้น ตนอยากให้มองว่า ในการเลือกตั้งซ่อมที่เชียงใหม่ ก็มีการตั้งเป้าว่า จะได้คะแนนเป็นแสนเพื่อสร้างความชอบธรรมด้วยซ้ำ แต่ผลก็ไม่ได้ออกมาอย่างนั้น.
No comments:
Post a Comment