ถาวร ชี้รัฐเร่งดันนิรโทษหวั่นทำสังคมแตกแยกเพิ่ม
นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ชี้รัฐเร่งนิรโทษกรรมหวั่นเพิ่มแตกแยกในสังคม ซัดรัฐบาลย่ามใจลืมแก้ไขปัญหาประชาชน...เมื่อวันที่ 14 เม.ย. นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย จะขอใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.เสนอเลื่อนระเบียบวาระร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขึ้นมาเป็นวาระด่วนในการประชุมสภาฯ วันที่ 18 เม.ย.ว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วย เพราะเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว ไม่ใช่มุ่งเน้นการปรองดอง แต่เนื้อหาจะนำไปสู่ความขัดแย้ง และที่สำคัญที่สุดการปรองดองไม่ได้เกิดจากการออกกฎหมาย แต่ต้องเกิดจากการทำความเข้าใจ ซึ่งขณะนี้การค้นหาความจริงและความยุติธรรมยังไม่เกิด เอาแค่ว่าสิ่งที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำคนเสื้อแดง ได้ประกาศ สอดคล้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ที่มีพรรคการเมืองอยู่เบื้องหลัง หรือแม้แต่การโฟนอิน ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ในหลายครั้ง ก็ต้องทำความจริงให้ปรากฏ ดังนั้น ถ้ามานิรโทษกรรมล้างผิดก็จะเกิดความขัดแย้งขึ้นมาอีก นอกจากนี้ ขั้นตอนของกฎหมายที่จะนิรโทษกรรมต้องมีกระบวนการรับโทษต้องเกิดขึ้นก่อน จึงจะสามารถนิรโทรษกรรมได้ ที่สำคัญต้องเขียนให้ชัดเจนว่า จะนิรโทษกรรมให้ใคร กลุ่มใดบ้าง คดีอะไร เพราะคดีความผิดทางอาญาแผ่นดิน เผาศาลากลาง ปล้นทรัพย์ ยิงอาวุธสงคราม คดีทุจริตคอรัปชัน พรรคประกาศเจตนารมณ์มาตลอดว่า ไม่เอา แต่ถ้าเป็นมวลชนที่ฝ่าฝืนร่วมชุมนุมนั้นทำได้ เมื่อถามว่ามองว่า การดำเนินการครั้งนี้ของพรรคเพื่อไทยจะสำเร็จหรือไม่ นายถาวร กล่าวว่า เขาชนะมา 2 เรื่องแล้ว ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ดังนั้น ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและรัฐบาลจึงย่ามใจ โดยลืมเรื่องอื่นหมด ทั้งความสงบสุขของสังคม และปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพสูงสวนทางที่ประกาศหาเสียงไว้ ยังมีเรื่องของประชาชนที่ต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาอีกคือ ระบบทักษินกำลังฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง แบบประเภทสร้างความหายนะให้กับประเทศไทยมากกว่าเดิม เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณ ได้รับบทเรียนและรู้นิสัยคนไทยว่า ลืมง่าย ซึ่งก็ต้องคอยดูว่า เขาจะทำสำเร็จหรือไม่ อย่างไร เพราะฝ่ายค้านเรามีเสียงข้างน้อยในสภาฯ เราสู้เขาไม่ได้การโหวตในสภาฯ เราก็แพ้ ดังนั้น สิ่งที่สำคัญ คือการติดอาวุธทางความคิดคือการให้ความรู้เท่าทันกับประชาชน ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชาติบ้านเมือง หากเป็นเช่นนี้.
No comments:
Post a Comment