Monday, April 15, 2013

สุรพงษ์มั่นใจ ไทยพร้อมหักล้างคำแถลงกัมพูชา

สุรพงษ์มั่นใจ ไทยพร้อมหักล้างคำแถลงกัมพูชา
รมว.ต่างประเทศ  มั่นใจไทยมีข้อมูลหักล้างคำแถลงของกัมพูชา อยากให้ประชาชนรอฟัง 17 เม.ย.นี้ เดินหน้าต่อสู้สิ่งที่ตีความหมายของไทยถูกต้องเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 15 เม.ย. นายสุรพงษ์​ โตวิจักษ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ พร้อมด้วย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลัง ทางการกัมพูชาแถลงทางวาจา กรณียื่นคดีปราสาทพระวิหาร ให้ศาลโลกตีความ โดยนายสุรพงษ์ กล่าวว่า วันนี้คณะดำเนินดคีฝ่ายไทยเข้าฟังการชี้แจงของทางการกัมพูชา โดยมีนายฮอร์นัมฮง รมว.ต่างประเทศ กัมพูชา เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนของกำพูชาเป็นผู้กล่าวนำก่อน โดยมีผู้แทนอีก 3 ท่าน โดยท่านฮอร์นัมฮง ได้ชี้แจงว่าทำไมกัมพูชาถึงได้ขอให้ศาลตีความคำพิพากษา 2505 หลังเวลาผ่านไปแล้ว 50 ปี โดย อ้างถึงการการกระทบกระทั่งกันในช่วงรัฐบาลอภิสิทธิ์ โดยเอ่ยถึงชื่อท่านอภิสิทธิ์ 2 ครั้ง โดยเกิดเหตุปะทะกันของกำลังทั้งสองฝ่าย ในช่วงขอขึ้นทะเบียนมรดกโลก โดยทางการกัมพูชา เห็นว่าเหตุดังกล่าวเกี่ยวกับคำพิพากษาที่ไม่ชัดเจน และเกี่ยวกับไม่ทำตามคำพิพากษาของฝ่ายไทย จึงทำให้ยื่นเรื่องดังกล่าว จากนั้นที่ปรึกษา กฎหมายต่างประเทศ 3 คนของกัมพูชา ได้อธิบายว่าทำไมถึงต้องยื่นตีความ โดยทั้งสามพยายามหักล้างเหตุผลของไทยที่เคยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรของไทย ที่เคยแจ้งเมื่อช่วงพ.ย.2554 และ มิ.ย.2555โดยในภาพรวมที่ได้รับฟังตลอดทั้งวัน ไม่รู้สึกหนักใจใดๆ ทั้งสิ้น เพราะข้อมูลที่กัมพูชาเสนอ เป็นไปตามที่ทีมงานของเราคาดหมาย ทางไทยมีความพร้อมในการเสนอหักล้างเช่นกัน อันนี้ก็ต้องรอฟังวันที่ 17 เม.ย. เวลา ประมาณ 15.00 น. ทีมของประเทศไทยจะขึ้นชี้แจง โดยมีท่านทูต วีรชัย (นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงเฮก เนเธอร์แลนด์)จะเป็นคนพูดก่อน จากนั้น ทีมกฎหมายทั้งสามท่าน ซึ่งเราได้เตรียมการไว้แล้วนายสุรพงษ์ กล่าว ด้านนายพงษ์เทพ กล่าวเสริมว่า หลายคนที่ฟังถ่ายทอดสดในวันนี้ อาจจะไม่เข้าใจ ดังนั้น จึงต้องรู้ที่มาที่ไปของคดีนี้ก่อน โดยคดีนี้เป็นการตีความที่ศาลโลกเคยตัดสินไปแล้วเมื่อปี 2505 แต่ทางกัมพูชายื่นขอให้ตีความ ขอให้ไทยถอนทหาร ตำรวจ ออกจากปราสาทพระวิหาร ความหมายของบริเวณโดยรอบคืออะไร ก็เลยมีประเด็นต่อสู้กันหลายประเด็น  เราต่อสู้ว่าเขาไม่สามารถนำเรื่องนี้มาขอตีความได้ เพราะการขอตีความต้องมีเงื่อนไขหลายประการ เราก็ต้องต่อสู้ไป แต่วันนี้กัมพูชาบอกว่า ขอตีความตรงตามเงื่อนไข เช่น ไทยและกัมพูชามีความเห็นแตกต่างกันในคำวินิจฉัย โดยกัมพูชา เขาก็อ้างว่าเคยเห็นแตกต่างเคยทำอะไรบ้าง โต้แย้งอะไรบ้าง เพื่อให้ศาลรับวินิจฉัย แต่ที่พูดมากคือเรื่องแผนที่ 1 ต่อ 2 แสน ซึ่งเรียกว่าแผนที่แนบท้ายฉบับที่1 โดยทางการกัมพูชาพยายามอ้างว่าไทยต้องถอยออกไปจากเขตแดน ซึ่งตามแผนที่แนบท้าย 1 มีพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ไม่ใช่พื้นที่ที่ทาง ครม. ไทยไปตีกรอบไว้ เมื่อปี 2505 ไว้ แต่เขาจะให้เราถอยออกไป เขาอ้างว่าแผนที่เป็นส่วนสำคัญของคำพิพากษา โดยยกตัวอย่างแบบนี้ทั้งวันนายพงษ์เทพ กล่าวต่อว่า ทางเรามีข้อต่อสู้เยอะแยะไปหมด สิ่งที่เขายื่นมาคือพยายามหักล้างเหตุผลของเราที่เคยยื่นเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งที่ฝ่ายกัมพูชาพูดทั้งหมดเป็นประมาณนี้  ส่วนในวันพุธ ฝ่ายไทยก็จะนำเสนอสิ่งที่กัมพูชาร้องขอ ศาลควรจะรับตีความหรือไม่ แผนที่ 1 ต่อ 2 แสน เป็นอย่างไร วันนี้ขอให้สบายใจได้ เพราะทางท่านทูตวีรชัย ได้เตรียมเสนอข้อมูลหักล้างแล้ว จากนั้น นายสุรพงษ์ กล่าวสรุปว่า ฝ่ายกัมพูชา พยายามบอกว่า ฝ่ายไทยกับกัมพูชา ได้ตีความหมายคำพิพากษา ปี2505 แตกต่างกัน จึงขอให้ศาลชี้ให้ชัดเจนว่าคำพิพากษาที่ถูกต้องเป็นไปตามแบบของกัมพูชา ฉะนั้น ในวันพุธเราก็ต้องต่อสู้ว่าสิ่งที่เราตีความเป็นไปในทางที่ถูกต้องแล้ว โดยใช้เหตุผลหลายเรื่อง อย่างกรณี ลวดหนาม ที่จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ขึ้นไปขึงไว้รอบบริเวณปราสาทพระวิหาร ตาม ครม. โดยกัมพูชาบอกว่าเราคิดเองฝ่ายเดียว แม้เราจะบอกว่าท่านสีหนุ เคยเห็นแล้วก็ไม่คัดค้าน โดยเขาก็อ้างว่าไม่จริง ซึ่งเราก็ต้องชี้แจงว่าเขาเห็นแล้วไม่คัดค้านเป็นอย่างไร ในส่วนกระทรวงต่างประเทศ จะนำคำแปลสรุปประเด็นวันนี้ให้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้เข้าใจครบถ้วนอีกครั้งหนึ่ง ด้านพล.อ.สุกำพล กล่าวว่า เขาพยายามจะหยิบในส่วนที่มีการโต้แย้ง ในส่วนของทางเรา ก็จะหยิบเรื่องที่เขาไม่ได้โต้แย้งมาต่อสู้ อย่างประเด็นเจ้าสีหนุ ขึ้นบนปราสาทพระวิหารแล้วเห็นเราตีเส้นลวดหนาม แต่ท่านสีหนุ ไม่ได้รับสั่งอะไร แค่บอกว่าตีเส้นกินแดนเข้ากัมพูชาไม่กี่เมตรเอง แล้วเขาก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรที่เป็นทางการอย่างจริงจัง ในส่วนของไทยเราก็เชื่อว่าเรามีน้ำหนัก  ทางการทหารเขาก็พูดขึ้นมานิดหน่อย แต่ไม่ได้มีอะไรมาก เขาอ้างว่ามาสร้างวัด เจดีย์ ตลาดแล้ว เขาอ้างว่าเราประท้วงเขาช้า แต่เราก็ประท้วงไป ซึ่งทีมกฎหมายก็จะว่ากันต่อไป ส่วนเรื่องปะทะ เขาไม่ได้พูดเรื่องนี้มาก แต่แค่เกริ่นเพื่อนำเข้าสู่ศาลโลกเท่านั้นเอง

No comments:

Post a Comment

Blog Archive