Friday, February 8, 2013

จารุพงศ์หนุนเคอร์ฟิวแก้ไฟใต้

จารุพงศ์หนุนเคอร์ฟิวแก้ไฟใต้
                     9 ก.พ.56 นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานในพิธีการมอบเครื่องหมายรักษาดินแดนยิ่งชีพหรือมอบเข็มอาสารักษาแดนสดุดีให้กับกองร้อยอาสารักษาดินแดนดีเด่น และรางวัลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนผู้ปฏิบัติงานดีเด่นประจำปี 2555 เนื่องในโอกาสคล้ายวันครบรอบการสถาปนากองอาสารักษาดินแดน(อส.) 59 ปี ในวันที่ 10 ก.พ.นี้                      โดยนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงบทบาทของ อส. ในการปฏิบัติงานพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ขณะนี้มี อส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในภาคใต้กว่า 7,000 นาย ดูแลรักษาความปลอดภัย สถานที่ และบุคคลที่มีความเสี่ยง อาทิ มัสยิด โรงเรียน ครู พร้อมทั้งสนับสนุนการทำงานกับฝ่ายทหารและตำรวจในการลาดตระเวน ตั้งจุดตรวจค้น รักษาความปลอดภัยขบวนรถไฟ นอกจากนี้ยังสนับสนุนชุดคุ้มครองตำบลในการสร้างความเข้มแข็งในพื้นที่ อย่างไรก็ตามจะมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่อีก 2,700 นาย ลงไปช่วยทดแทนกำลังของทหารและตำรวจ โดยจะปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีความเคลื่อนไหวก่อเหตุ แต่ไม่ใช่พื้นที่สีแดง                      ส่วนแนวคิดการประกาศใช้เคอร์ฟิวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายจารุพงศ์ กล่าวว่า เห็นว่าจะประกาศใช้ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์และใช้เฉพาะพื้นที่ที่มีการก่อเหตุรุนแรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากสามารถใช้กฎหมายได้อย่างเคร่งครัด                      "การประกาศใช้เคอร์ฟิวไม่ใช่เรื่องใหม่ สมัยผมเป็นนายอำเภออยู่ภาคอีสาน ก็อยู่ในพื้นที่ที่ประกาศเคอร์ฟิวมาแล้ว ซึ่งการประกาศก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และแม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและการไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาของคนในพื้นที่ ก็ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา เพราะการแก้ไขปัญหาก็เหมือนกับการรักษาโรคที่จะกินยาอย่างเดียวไม่ได้ ต้องฉีดยาด้วย และอยากให้ประชาชนเข้าใจว่า รัฐบาลไม่อยากประกาศใช้เคอร์ฟิว หากสถานการณ์ในพื้นที่เป็นปกติ แต่ที่ต้องประกาศใช้เนื่องจากว่าต้องการรักษาชีวิตของประชาชน ดังนั้นขออย่าไปคิดว่าการประกาศเป็นเรื่องร้ายแรง แต่เป็นเพียงมาตรการเยียวยาให้กับพื้นที่" รมว.มหาดไทย กล่าว   'จารุพงศ์' เผย 'พท.' ยังไม่มีข้อสรุป กม.นิรโทษฯ                        นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่ได้มีการหารือระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทยถึงเรื่องความเหมาะสมและเนื้อหาเกี่ยวกับกฎหมายนิรโทษกรรมว่า ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากจะต้องมีการศึกษาอย่างละเอียด โดยตนได้มอบหมายให้หลายหน่วยงานไปศึกษารูปแบบและความเหมาะสมว่าจะออกเป็นพระราชกำหนด หรือพระราชบัญญัติ ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการชั่งน้ำหนักเหตุผลของแต่ละฝ่ายที่เสนอมาก่อน                      ทั้งนี้นายจารุพงศ์ กล่าวต่ออีกว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี สัปดาห์หน้า ยังจะไม่มีการกำหนดวาระหารือเกี่ยวกับกฎหมายนิรโทษกรรม เนื่องจากยังมีร่างกฎหมายสำคัญเร่งด่วน ที่คณะรัฐมนตรีต้องพิจารณาให้ทันสมัยประชุมนิติบัญญัตินี้        

No comments:

Post a Comment

Blog Archive