Friday, January 4, 2013

กิตติรัตน์ดับฝันเอกชน ลั่นไม่ช่วยจ่ายชดเชยค่าแรง 300

กิตติรัตน์ดับฝันเอกชน ลั่นไม่ช่วยจ่ายชดเชยค่าแรง 300
โต้ง ชี้ปรับค่าแรง 300 กลไกสำคัญปรับสมดุลเศรษฐกิจประเทศ ลดพึ่งส่งออก ปรับลงทุนภาครัฐ คู่ปลุกใช้จ่ายภายใน ชี้กลุ่มเสี่ยง คือ อุตสาหกรรมใช้แรงงานจำนวนมาก แต่ผลิตสินค้ามูลค่าต่ำ...เมื่อวันที่ 5 ม.ค. มีรายงานว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน  และนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) จัดรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน แทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยนายกิตติรัตน์ กล่าวว่า เป้าหมายของรัฐบาลพยายามปรับสมดุลทางเศรษฐกิจ จากในอดีตประเทศไทยพึ่งพาการส่งออกมากเกินไป ในขณะที่วงล้อทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ยังทำงานไม่มีประสิทธิภาพทั้งในด้านกำลังซื้อภายในประเทศ การใช้จ่ายภาครัฐ และการลงทุนภาคเอกชน ดังนั้น รัฐบาลพยายามปรับกำลังซื้อภายในประเทศให้สูงขึ้น ด้วยการให้ผู้ใช้แรงงานทั้งกลุ่มที่มีรายได้น้อย และรายได้ปานกลาง มีกำลังซื้อที่สูงขึ้น ควบคู่วางแผนการใช้จ่ายภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งการเตรียมตัวให้พร้อมจัดซื้อจัดจ้างได้ทันที ไม่ต้องไปกระจุยตัวเฉพาะช่วงไตรมาสสุดท้ายเหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา ในส่วนการลงทุนภาคเอกชน หากอัตราดอกเบี้ยมีเสถียรภาพ อััตราแลกเปลี่ยนมีความเหมาะสม รวมถึง กำลังซื้อในประเทศเพิ่มขึ้น ซึ่งผู้ใช้แรงงานจะเป็นตลาดสำคัญของภาคธุรกิจ ซึ่งจะทำให้เกิดการลงทุน  ทั้งการลงทุนใหม่และการขยายกิจการ  ทั้งนี้ การเพิ่มค่าแรงขั้นต้น 300 บาท ถือเป็นส่วนสำคัญด้านหนึ่ง แม้การปรับเพิ่มดังกล่าว ภาคเอกชนจะกังวลเรื่องต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น  ทว่า ต้นทุนที่ควรจะเพิ่มมากที่สุด คือ  ค่าแรงของคนงาน เพราะหากคนงานมีกำลังซื้อมากยิ่งขึ้น จะมีกำลังกลับมาซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ อีกครั้ง ในที่สุดผลประโยชน์จะกลับมาสู่ภาคธุรกิจ ปี 2556 จะเป็นปีแห่งการปรับสมดุลกำลังซื้อภายในประเทศจะเกิดขึ้นอีกรอบหนึ่ง เพราะการปรับค่าแรงขั้นต่ำเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา รวมถึง การปรับประสิทธิภาพในการลงทุนภาครัฐ งบปี 2557 ที่จะเริ่มขึ้นในเดือนตุลาคม 2556 ขณะนี้ ท่านนายกฯ ให้ทำงานอย่างเข้มข้น ให้เตรียมความพร้อม เมื่อเข้าสภาฯแล้ว สามารถเบิกจ่ายได้ทันที ดังนั้น ผมจึงมั่นใจว่าเศรษฐกิจปี 56 จะดีเท่าๆ กับปี 55 หรือดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะการปรับสมดุลจะเห็นชัดเจนมากขึ้น  รองนายกฯ กล่าวนายกิตติรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับภาคอุตสาหกรรมที่อาจมีความเสี่ยง คือ ในกลุ่มที่ใช้แรงงานจำนวนมาก แต่ผลิตสินค้าที่มูลค่าต่ำ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่อดีตประเทศไทยเคยรับช่วงผลิตต่อจากต่างประเทศ  ขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่อุตสาหกรรมไทยจะต้องส่งต่อไปยังประเทศที่มีค่าแรงต่ำกว่า และหันมาผลิตสินค้าที่มีคุณภาพดีขึ้น  ทั้งนี้ รัฐบาลมั่นใจว่า ภาคเอกชนสามารถปรับตัวรองการปรับค่าแรงได้แล้ว เพราะรัฐบาลได้ประกาศนโยบายล่วงหน้านับปี ในขณะที่ บางโรงงานที่ยังไม่สามารถปรับตัว ทางรัฐบาลได้ขยายเวลามาตรการช่วยเหลือ 11 ข้อออกไป รวมถึง กำลังหารือร่วมกับภาคเอกชน เพื่อเตรียมมาตรการเสริมใหม่เสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.)ในเร็วๆ นี้  อย่างไรก็ตาม  มาตรการที่ภาคเอกชนเสนอยากให้ภาครัฐจ่ายชดเชยส่วนต่างค่าแรงค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น คงไม่สามารถทำให้ได้ รัฐบาลจะช่วยเหลือผู้ประกอบการ โดยเฉพาะระดับเอสเอ็มอี ในด้านลดผลกระทบค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ เพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการ และเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการ ส่วนการปิดกิจการของโรงงานที่เป็นข่าวขณะนี้ ในความเป็นจริงแล้ว การทำธุรกิจทั่วไป ต้องมีทั้งกำไรขาดทุน ปิดกิจการและขยายกิจการเป็นปกติอยู่แล้ว การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ คงไม่ใช่เหตุหลักจนทำให้ภาคธุรกิจต้องหยุดกิจการ ด้านนายเผดิมชัย กล่าวว่า เวลานี้ ยังเร็วเกินไปที่จะรู้ถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาท อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญอยากให้คิดว่า เมื่อค่าแรงปรับขึ้นทั่วประเทศ จะทำให้แรงงานมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ต้องเข้ามาทำงานในเมือง และกำลังซื้อภายในประเทศเพิ่มขึ้นด้วยอย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงแรงงานได้จับตาดูตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบว่า ภาคเอกชนได้รับผลกระทบจากนโยบายดังกล่าวมากน้อยเพียงใด ซึ่งภาครัฐเตรียมจะมาแนวทางเยียวยาช่วยเหลืออยู่แล้ว  ควบคู่กับทางตัวผู้ประกอบการเองต้องเร่งปรับตัว เพิ่มผลิตภาพ และมูลค่าสินค้าหรือบริการ ส่วนนายอาคม ระบุว่า ภาครวมเศรษฐกิจไทยในปีนี้ (2556) จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากที่ปีผ่านมา (2555) ชะลอจากผลกระทบอุทกภัยใหญ่ รวมถึงวิกฤติเศรษฐกิจโลก แต่จากแนวโน้มการส่งออกเมื่อปลายปีที่แล้ว รวมถึง การเร่งลงทุนภายในประเทศ เชื่อว่า อัตราการเติบโตของไทยปีนี้อยู่ที่ 5.5% และการส่งออกขยายตัว 9% .

No comments:

Post a Comment

Blog Archive