Sunday, December 23, 2012

ปชป.ดักคอทักษิณ ทำประชามติ อาจมีเล่นตุกติก

ปชป.ดักคอทักษิณ ทำประชามติ อาจมีเล่นตุกติก
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ดักคอ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อาจมีเล่นตุกติก หลังมีการประกาศ หนุนทำประชามติ ก่อนลุยโหวตแก้รัฐธรรมนูญวาระ 3... วันนี้ (23 ธ.ค.55) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โฟนอินมายังเวทีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง โดยมีการระบุว่าการลงคะแนนเสียงผ่านการทำประชามติ จำนวน 24.3 ล้านเสียง ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนทำได้ไม่ยาก เป็นเรื่องหมูๆ ว่า หาก พ.ต.ท.ทักษิณ จะสนับสนุนให้ทำประชามติ ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ต้องจับตาดูคำพูดของ พ.ต.ท.ทักษิณว่า การที่ออกมาแสดงความมั่นใจเช่นนี้มีจุดประสงค์ใดหรือไม่เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ มักใช้เล่ห์เพทุบายทุกรูปแบบ เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการโดยไม่สนใจความชอบธรรม และถ้าทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง ก็เชื่อว่าจะเกิดปัญหาอีกอย่างแน่นอน และ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องแสดงความรับผิดชอบที่เป็นต้นตอของปัญหาทั้งหมด  รู้ทันรัฐ อ้างเผด็จการมั่วแก้ ม.309 ช่วยนายใหญ่ นายองอาจกล่าวต่อว่า ขอให้ประชาชนจับตาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในส่วน ม.309 ว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังใช้กลยุทธ์ โดยอ้างว่าหากใครไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขมาตรานี้ เท่ากับว่าเป็นพวกเดียวกับเผด็จการ ซึ่งถือเป็นการหลอกลวงประชาชนด้วยการใช้ประชาธิปไตยบังหน้า และพยายามปิดบัง อำพรางความต้องการอย่างแท้จริง และแม้ว่าก่อนหน้านี้บรรดานักวิชาการและทุกภาคส่วนในสังคมก็ออกมาตั้งข้อสังเกตเช่นเดียวกันว่า การแก้ไขมาตรานี้จะเป็นปัญหาและสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดความขัดแย้งมากขึ้น แต่รัฐบาลก็ยังจะคิดแก้มาตราดังกล่าวนี้ จึงมองว่าเป้าหมายการแก้ไขมาตรา 309 ที่แท้จริง ก็เพื่อแก้ไขและล้มล้างทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับรัฐประหาร และเท่ากับว่ากระบวนการตรวจสอบหลังรัฐประหารถูกล้มเลิกไปโดยปริยาย เป็นการทำลายล้างระบบนิติรัฐ นิติธรรม ทั้งนี้ อยากให้รัฐบาลบอกให้ชัดเจนว่าเหตุใดต้องแก้ไขมาตรานี้ และจะเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร เพราะการจะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับมาตรานี้ แต่ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมนักการเมืองที่มีการอ้างประชาธิปไตยเท่านั้น ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะหากแก้ไขมาตรานี้คดีที่ตัดสินไปแล้วจะถูกล้มล้างทั้งหมด อย่างไรก็ดี ขอยืนยันว่าพรรคไม่ได้เกลียดชัง พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่สนใจผู้หลบหนีคดีจะชื่อทักษิณหรือไม่ แต่การมาปกป้องเรื่องนี้เพราะต้องการผดุงไว้ให้เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม และความถูกต้องของบ้านเมือง อัดยับ อ้าง ส.ส.ร.บังหน้า ทั้งที่คุมได้หมดแล้ว เมื่อถามว่าการที่พรรคเพื่อไทยระบุว่า หากมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะเป็นรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างแท้จริง โดยเฉพาะต้องมีการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ นายองอาจกล่าวว่า การอ้าง ส.ส.ร.โดยโยงถึงหลักประชาธิปไตยเป็นการนำประชาธิปไตยมาบังหน้าเพื่ออำพรางความต้องการที่แท้จริง เพราะเมื่อพิจารณาสัดส่วนการได้มาซึ่ง ส.ส.ร.จำนวน 99 คนแล้ว จะพบว่ามีถึง 22 คน ที่ได้รับการแต่งตั้งจากประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหมายความว่ารัฐบาลหาอีกเพียงแค่ 30 คน ก็จะเกินครึ่งหนึ่งของจำนวน ส.ส.ร.ทั้งหมด และอาจทำให้บังคับทิศทางการทำงานของ ส.ส.ร.ได้ อีกทั้งเมื่อมองพื้นฐานการเลือกตั้งปี 2554 แล้ว จะเห็นว่ารัฐบาลสามารถควบคุมจำนวนเสียงส่วนใหญ่ได้หมด ดังนั้น จึงเป็นไปได้ที่รัฐบาลสามารถดลบันดาลให้มีรัฐธรรมนูญตามที่ตัวเองต้องการได้ ดังนั้นที่บอกว่า ส.ส.ร.เป็นตัวแทนจากประชาชนจึงไม่ใช่ความจริงทั้งหมด แต่รัฐธรรมนูญที่จะยกร่างใหม่จะเป็นไปตามความต้องการของคนที่อยู่เบื้องหลัง คือ พ.ต.ท.ทักษิณ นั่นเอง

No comments:

Post a Comment

Blog Archive