ปชป.จี้นายกฯเอาจริงปราบคอรัปชันในประเทศ
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยกข้อมูลไทยฟอกเงินผิดก.ม. ลำดับ 13 ของโลก เร่งนายกฯ เอาจริงปราบทุจริตเริ่มที่ ครม.ก่อน ....เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาการทุจริตคอรัปชันว่า จากกรณีที่นายเรย์มอนด์ เบเกอร์ ประธานองค์การเพื่อความซื่อสัตย์ มั่นคงทางการเงินแห่งโลก (จีเอฟไอ) ยืนยันว่าได้มีเงินสกปรกไหลออกจากประเทศต่างๆ ไปสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วรวมถึง เกาะต่างๆ ที่เป็นสวรรค์แห่งการฟอกเงิน ซึ่ง 1 ในเกาะที่อยู่ในรายงานของจีเอฟไอคือ หมู่เกาะที่เคยมีชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าไปเกี่ยวข้อง พร้อมระบุว่า ประเทศไทยติดอันดับที่ 13 โดยเงินที่ไหลออกมาจากการก่ออาชญากรรม การเลี่ยงภาษี และการทุจริตคอรัปชัน โดยรายงานตั้งแต่ปี 2543-2553 เงินสกปรกเหล่านี้ ไหลออกปีละ 199,206 ล้านบาท รวม 10 ปี เป็นจำนวน 1,992 ล้านล้านบาทนายองอาจ กล่าวว่า ทั้งนี้ เงินสกปรกจะดำเนินการโดยใครก็ตาม แต่เงินที่ทุจริตของนักการเมืองต้องยอมรับว่า เกิดจากนักการเมืองที่เลวร่วมมือกับข้าราชการที่มีโอกาสโกงกินกอบโกยไปแล้ว ก็จะนำกลับประเทศเพื่อยึดอำนาจกลับมาสู่มือตัวเองได้ภายหลัง จึงขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีให้เอาจริงเอาจังกับการปราบปรามการทุจริตใน 3 เรื่อง คือ 1.นายกฯและรัฐมนตรี และรัฐมนตรีในครม. ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในความซื่อสัตย์สุจริต 2.หากพบว่ามีการทุจริตหรือส่อทุจริตก็ต้องจัดการกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่าง หากเป็นคนในรัฐบาล แม้ทางกฎหมายจะเอาผิดในทางกฎหมายไม่ได้ นายกฯก็ต้องจัดการในเชิงบริหาร 3.ขจัดเงื่อนไขและอุปสรรคในการป้องกันและปราบปราบการทุจริตคอรัปชัน โดยนายกฯ จะต้องมองว่าเป็นปัญหาที่ประเทศจะต้องแก้ไข.
No comments:
Post a Comment